Wednesday, October 14, 2020

ราชันใต้อาณัติ #4 เล่มจบ #นิยายจีนแปลโบราณ #แฟนตาซี #สัตว์วิเศษ #ผู้ฝึกยุทธ์ #นักกลไก #ท่านอ๋อง

 Review 33/2563

เรื่อง : ราชันใต้อาณัติ (4 เล่มจบ) #นิยายจีนแปลโบราณ #แฟนตาซี #สัตว์วิเศษ #ผู้ฝึกยุทธ์ #นักกลไก #ท่านอ๋อง

ผู้แต่ง : เอ๋อเหมย

ผู้แปล : อวี้

สำนักพิมพ์ : แจ่มใส (มากกว่ารัก)


เล่ม 1 พิมพ์ครั้งที่ 1 : มิถุนายน 2563

โปรยปกหลังเล่ม 1 :

ฉินโยวโยว’ เป็นศิษย์รักของ ‘ฉีเทียนเล่อ’ ปรมาจารย์ด้านกลไก

เมื่ออาจารย์หายตัวไป ชีวิตที่เคยสะดวกสบาย เอาแต่ใจอย่างไรก็ได้ของนางถึงคราวสะดุด

สำนักเฟิ่งเสินส่งคนออกตามล่านางเพื่อหวังใช้ประโยชน์จากความรู้ด้านกลไกของนาง!

 

ยังดีที่นางได้ ‘เหยียนหย่งเล่อ’ ช่วยชีวิตเอาไว้

แม้บุรุษใบหน้าไร้ความรู้สึกผู้นี้จะแผ่กลิ่นอายสังหารออกมา

ยามยิ้มก็ทำให้คนขนหัวลุกชันแผ่นหลังหนาวเยือก

ทั้งยังมีแซ่เดียวกับ ‘เทพสังหาร’ ที่นางเคยไปหมิ่นเกียรติเอาไว้เมื่อหนึ่งปีก่อน

ทว่าก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเขามีน้ำใจกับนางจริงๆ

อยากกินสิ่งใดก็ได้กิน อยากพบสัตว์วิเศษก็พร้อมช่วยตามหาให้

ถึงบางครั้งเขาจะดูแตะต้องเนื้อกายนางเกินจำเป็นไปบ้าง

แต่พอมองใบหน้าเฉยชาของเขาแล้วก็คงไม่คิดอะไร

แต่คนเราจะดีกับใครโดยไร้สาเหตุจริงหรือ...

ในบางครั้งนางยังรู้สึกเหมือนว่าตนเองได้หลงลืมอะไรบางอย่างไป!

คำนำสำนักพิมพ์เล่ม 1 :

ฉินโยวโยว" หญิงสาวผู้ไม่เคยจดจำใบหน้าของใครได้ เป็นศิษย์เพียงคนเดียวของยอดปรมาจารย์ด้านกลไกที่เคยเอาแต่พึ่งพาอาจารย์ไปทุกสิ่งอย่าง วันหนึ่งเมื่ออาจารย์มาหายตัวไป ฉินโยวโยวจึงต้องออกมาผจญโลกกว้างเพียงคนเดียว ทว่าไม่ทันไรก็ถูกคนวางยาจนตบะที่ฝึกมาอย่างลำบากสูญสิ้นไป ต้องแยกกันหนีกับสัตว์วิเศษทั้งสอง แต่ดีที่นางเอาชีวิตรอดมาได้ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจาก "เหยียนหย่งเล่อ" บุรุษผู้มีสีหน้าเดียว

 

สำนักพิมพ์แจ่มใส

 

เล่ม 1 :

ฉินโยวโยวหนีจากการตามล่าของเฟิงกุยอวิ๋น โดนยาสลายพลังทำให้ตบะหายไป จนตกหน้าผา ได้รับการช่วยเหลือจากเหยียนตี้ที่ออกมาตามหา จากเรื่องเมื่อหนึ่งปีก่อน หายากหาเย็น พอคิดว่าไม่พบก็ได้พบ แถมไม่คิดว่าฉินโยวโยวจะเป็นสตรีที่งามขนาดนี้อีกด้วย เหยียนตี้ ชื่อรองหย่งเล่อ เป็นคนหน้านิ่ง คนเห็นก็ไม่กล้าเข้าใกล้ ไม่เคยทำสีหน้าแบบอื่นเลย แต่มาเจอฉินโยวโยวกลับยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่น่ากลัวมากๆๆๆ ในสายตาของคนอื่น แถมยังชอบหาเศษหาเลยกับฉินโยวโยว ทั้งเอามือทาบหน้าอก โยวโยวก็คิดว่าเอ๊ะนี่มันกรงเล็บหมาป่าชัดๆ แต่พอเห็นหน้าแล้ว อืมสงสัยข้าจะคิดมากไป เอาความคิดคนถ่อยมาใช้กับวิญญูชน เพราะหน้าพี่แกนิ่งสนิท นี่เป็นการรักษาอาการบาดเจ็บให้ชัดๆ แต่จริงๆนางไม่ได้คิดมากนะ เพราะเหยียนตี้ทำจริงๆเลยจ้า

ผู้มีพระคุณปีศาจจะทำแบบนี้ได้ยังไง แต่ยังไงก็ต้องออกตามหาสัตว์วิเศษสองตัวที่ให้หนีล่วงหน้าไปก่อนแล้วนัดเจอกันที่เมืองปาไซ่ คือไม่มีเจ้านายที่ไหนที่เอาตัวเข้าล่อ แล้วให้สัวต์วิเศษหนีไปเหมือนฉินโยวโยว ตอนแรกฉินโยวโยวยังไม่ยอมบอกว่าสัตว์วิเศษทั้งสองของตัวเองลักษณะเด่นเป็นยังไง ชื่ออะไร แต่ในที่สุด เหยียนตี้ก็ยอมปล่อยให้โยวโยวไปเผชิญความลำบากด้วยตัวเอง จากนั้นจะได้กลับมาอยู่ในอุ้งมือตัวเองอย่างง่ายดาย

ฉินโยวโยวแยกจากเหยียนตี้ พอแยกกันก็ใช้วิชาปลอมแปลงโฉม แต่เพราะโยวโยวกลัวว่าคนอื่นจะได้รับความเดือดร้อนทำให้ถูกศัตรูที่ตามมาก็คือ เฟิงกุยอวิ๋นคนของสำนักเฟิ่งเสินตามมาตลอดทางเจอจนได้ นางก็หนีรอดด้วยอาวุธกลไกของตัวเอง และเพราะความเจ้าเล่ห์ ทำให้หนีรอดได้อีกครั้งแต่ตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเหยียนตี้ก็ปรากฏตัวมาช่วย จริงๆคือตามดูตลอด และพอเห็นเหตุการณ์คับขันก็เปิดเผยพลังของตัวเองเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ตัว  

ฉินโยวโยวได้รับการช่วยเหลือจากเหยียนตี้อีกครั้ง ฉินโยวโยวกลัวม้ามากเพราะตอนเด็กเคยตกจากหลังม้า สัตว์วิเศษของเหยียนตี้ก็เป็นม้าแดง สัตว์วิเศษขั้นห้า ครั้งก่อนเพราะฉินโยวโยวต้องขี่จู้อวิ๋นเฟยก็กลัวมากจนสลบไป เหยียนตี้เลยบอกว่าที่ช้าเพราะหารถม้ามาแต่ฉินโยวโยวไม่ยอมรอ ก็เลยเป็นแบบนี้ บอกแบบหน้าตายมากจริงๆ ในที่สุดฉินโยวโยวก็ยอมบอกว่าสัตว์วิเศษสองตัวของตัวเองและอาจารย์คืออะไร นั่นคือกระต่ายหิมะหลงทางชื่ออี้เสี่ยวฮุย กับนกเอี้ยงเสียงศักดิ์สิทธิ์ชื่อกวาต้าจุ่ย

ฉินโยวโยวเป็นคนที่จำหน้าตาคนไม่ได้ จำได้แต่หน้าตาคนมีเอกลักษณ์พิเศษ กับพวกแปลกประหลาดนอกนั้นจะจำไม่ได้เลย เช่นเฟิงกุยอวิ๋นชอบแต่งชุดขาว มีลูกน้องหน้าบาก เหลียงลิ่งผมขาว ส่วนเหยียนตี้ที่หน้าตายจริงๆก็จำได้ แต่เพราะลูกน้องรอบข้างก็สีหน้าเดียวกันทำเอานางไม่แน่ใจกว่าจะทักตอบก็ชั่วอึดใจหนึ่ง ทำเอาเหยียนตี้ไม่พอใจทีเดียว แต่พอนานเข้าจะรู้ว่านางจำหน้าคนไม่ได้เลยจริงๆ

แล้วก็กลายเป็นจู้อวิ๋นเฟยที่เจอเสี่ยวฮุย จะจับมาให้สือเอ้อร์หลางกินเป็นอาหารป่าดีที่ฉินโยวโยวมาช่วยเสี่ยวฮุยเอาไว้ทัน พอเสี่ยวฮุยฟื้นก็ร้องไห้งอแงแล้วก็บอกว่าต้าจุ่ยถูกพวกสกุลเหวินจับตัวไป ตอนนี้โยวโยวเลยต้องขอร้องให้เหยียนตี้ไปช่วยต้าจุ่ย

เสี่ยวฮุยที่กินเก่งยังมีความสามารถอยู่บ้างเพราะฟังเสียงได้ดี ทำให้รู้ว่าต้าจุ่ยถูกพาหนีไปใต้ดินแล้ว เหยียนตี้ไปช่วยต้าจุ่ยกลับมาได้ พอเป็นเรื่องเกี่ยวกับกลไกโยวโยวจะสนใจทันทีแต่บ้านสกุลเหวินไม่เหลือกลไกอะไรแล้ว ที่นี่จึงไม่มีอะไรให้ดูอีก

ตอนนี้ฉินโยวโยวต้องการหาจอมแพทย์เพื่อรักษาอาการจากยาสลายพลัง จึงบอกเหยียนตี้ เหยียนตี้ที่ก่อนหน้านี้บอกชื่อรองที่มีคนไม่กี่คนรู้ว่าตัวเองชื่อเหยียนหย่งเล่อ ฉินโยวโยวก็รู้ว่าเหยียนตี้เป็นคนของราชวงศ์เซียงเยวี่ย แต่คงไม่เกี่ยวข้องกับเซิ่งผิงชินอ๋อง แถมยังบอกว่าช่วยเก็บความลับเรื่องตัวเองอย่าบอกเซิ่งผิงชินอ๋องเพราะมีเรื่องกันเมื่อหนึ่งปีก่อน โยวโยวนี่ไม่รู้เลยนะว่ากำลังพูดอยู่กับใคร นางซื่อจริงๆ

เหยียนตี้พาฉินโยวโยวกลับเมืองจื่อเยี่ย บอกว่าอีกสองเดือนเมืองจื่อเยี่ยจะจัดเวทีประลองสุดยอดฝีมือ ฉินโยวโยวอยากไปดู แต่ไม่อยากไปเมืองจื่อเยี่ยเพราะรู้ว่าเซิ่งผิงชินอ๋องอยู่ที่นั่น ฮ่าๆๆๆ สุดท้ายก็ต้องไปอยู่ดี เดินทางร่วมกันมาทำให้เหยียนตี้รู้นิสัยฉินโยวโยว และรู้ว่าเสี่ยวฮุยกินเก่งกินได้ทุกอย่างทั้งยังมีกลิ่นอายของอสูรบรรพกาลอีกด้วย แต่เป็นความรู้สึกเพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้น ส่วนต้าจุ่ยเข้ากันได้ดีกับจู้อวิ๋ยเฟย เพราะพูดเก่งหาข่าวเก่ง ความจำดี แต่ดันชอบเอามาใช้ในเรื่องหาเรื่องซุบซิบนินทา

มาถึงเมืองจื่อเยี่ย ฉินโยวโยวถึงเพิ่งรู้ว่าเหยียนตี้คือเซิ่งผิงชิงอ๋องเมื่อมาถึงหน้าประตูจวนแล้ว ตัวเองยังนึกว่าจะถูกขังคุกใต้ดิน นางก็ช่างจินตนาการ ช่างมโน แต่ความจริงเหยียนตี้มีแผนการอย่างอื่น เรื่องก็เพราะว่าหนึ่งปีก่อนฉินโยวโยวแปลงโฉมไปที่ต่ายโจรภูเขาที่รู้จัก และถอดกลไกคลังสมบัติของราชวงศ์ก่อน แต่เข้าไปกลับไม่มีสมบัติในนั้น ตอนนั้นเองที่เซิ่งผิงชินอ๋องนำกำลังทหารมาล้มจับ โยวโยวช่วยโจรทั้งหมดหนีไปได้ ก่อนหลบหนีนางยังชูนิ้วกลางให้เซิ่งผิงชินอ๋องเข้าไปอีก และเหยียนตี้จะไม่จำได้ยังไง แต่โยวโยวงงมากคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าทำไมเหยียนตี้ถึงจำตัวเองได้ เพราะตอนนั้นนางแปลงโฉมอยู่ชัดๆ มีจุดบกพร่องตรงไหนกันแน่  ในเหยียนตี้ตอนนี้ก็ให้ฉินโยวโยวทดสอบโดยการไปที่คลังสมบัติ ให้ปิดกลไกและออกแบบกลไกใหม่หมด ความสามารถของฉินโยวโยวเป็นที่ถูกใจเหยียนตี้มากๆๆๆๆ เพราะนางคือศิษย์เพียงหนึ่งเดียวของมือเทพเนรมิตฉีเทียนเล่อที่หายตัวไปเมื่อหนึ่งปีก่อนนั้นเอง

ในจวนทุกคนรู้กันทั่วว่าฉินโยวโยวคือว่าที่พระชายา มีแต่ตัวเองที่นึกว่าเป็นนักโทษคิดจะหนีตลอดเวลา แต่ก่อนหน้านั้น ต้องรอพบจอมแพทย์เพื่อรักษาให้ตบะฟื้นคืนก่อน ความจริงเหยียนตี้ก็บอกแล้วว่ามีวิธีเดียวคือเข้าไปในเขตหวงห้ามของราชวงศ์เพื่อดื่มน้ำพุศักดิ์สิทธิ์แต่มีเพียงคนของราชวงศ์ที่เข้าไปได้ มีเพียงวิธีนี้แต่โยวโยวไม่เชื่อ จนพบจอมแพทย์ เซี่ยงเทียนจั่น ถึงรู้ว่าคนที่คิดค้นลูกกลอนสลายพลังก็คือเหยียนตี้ มีเรื่องต้องขอร้องให้ท่านลุงเซี่ยงไม่มาเสียเที่ยวอีกแล้ว ตอนนี้ติดหนี้บุญคุณผู้มีพระคุณปีศาจเยอะแล้วนะ

พอเจอจอมแพทย์แล้วโยวโยวก็รู้ว่าไม่มีวิธีอื่น ตอนนี้เหยียนตี้ก็ปิดด่านหลอมยาเปลี่ยนชีพจรให้โยวโยวอย่างสบายใจ โดยบอกให้นางอยู่แต่ในจวน แต่ยังไงก็ยังมีคนจากวังหลวงมีก่อกวนดีที่ได้จู้อวิ๋นเฟยขวางไว้

แผนการของเหยียนตี้เป็นไปทีละขั้น เพื่อให้โยวโยวเข้ามาอยู่กับตัวเองด้วยความเต็มใจ สัตว์วิเศษสองตัวของโยวโยวเอาแต่ขัดขวางตลอดเวลา ตอนนี้ต้องคิดหาทางทำให้สองตัวนี้อย่าห่างๆโยวโยวซะก่อนก็ได้จู้อวิ๋นเฟยที่ระยะนี้สนิทกับต้าจุ่ยและเสี่ยวฮุยบอกว่าสองตัวกำลังจะเลื่อนขั้น เหยียนตี้เลยมีความคิด ใช้สมุนไพรวิเศษทรัพย์ฟ้าสมบัติดินมาเป็นสินสอด ทั้งสองตัวอดใจไม่อยู่กินซะจนเลื่อนขั้นก่อนกำหนด ส่วนฉินโยวโยวที่คิดจะชดใช้ ก็ชดใช้ไม่ไหว ยังไงก็ต้องยอมแต่งงานกับเหยียนตี้แล้ว แผนการลึกล้ำจริงๆ

เวทีประลองสุดยอดฝีมือเริ่มขึ้น เหยียนตี้เปิดตัวฉินโยวโยวว่าเป็นพระชายา และยังบอกว่าเป็นศิษย์ของฉีเทียนเล่อทำเอาคนทั้งงานไม่มีปากเสียงกันอีกต่อไป สามตระกูลใหญ่ก็พลาดโอกาสที่จะเกี่ยวข้องกับแคว้นเซี่ยงเยวี่ยเพราะเหยียนตี้มีฉินโยวโยวแล้ว

หลังอ่านเล่ม 1 :

เรื่องราวเล่ม 1 นางเอกฉินโยวโยวนางใสซื่อกว่าใคร แถมดูหลงตัวเองในด้านความงาม แบบไม่เกรงใจใคร แต่ความจริงโยวโยวก็งามมากจริงๆ ส่วนเรื่องอื่นน่ะเหรอจำหน้าคนก็ไม่ได้ ชอบคิดเอาเองสุดๆอีกต่างหาก สัตว์วิเศษสองตัวของโยวโยวก็ดูจะใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้นอกจากกินเก่งสุดๆ กับติดโยวโยวหนึบไปเลย

ส่วนเหยียนตี้นี่สิ เจ้าแผนการ หน้านิ่งสนิทจนคนเห็น ใครก็กลัวแต่โยวโยวชอบแสดงละครแสร้งอ่อนแอเอยอะไรเอย คนอื่นกลัวเหยียนตี้ แต่ดูเหมือนโยวโยวจะอยู่ด้วยได้แบบไม่กลัว แถมชอบต่อปากต่อคำ เหยียนตี้ก็ชอบใกล้ชิดโยวโยวแบบมีความหมาย โยวโยวมองหน้าก็คิดว่าหน้าตาแบบนี้คงไม่ได้เป็นหมาป่า สงสัยคิดมากไปเอง ที่ไหนได้ไม่ใช่เลย มันคือเรื่องจริง ฮามากๆๆๆ ทุกคนดูออก มีแต่โยวโยวที่ดูไม่ออก มาดูวิธีที่เหยียนตี้ทำให้โยวโยวมาเป็นขอตัวเองอย่างนับวันรอกันค่ะ สนุก น่ารัก และฮามากจริงๆ


เล่ม 2 พิมพ์ครั้งที่ 1 : มิถุนายน 2563

โปรยปกเล่ม 2 :

เพราะสัตว์วิเศษช่างกินทั้งสองตัวกินสินสอดที่ประเมินค่ามิได้จนอิ่มแปล้

‘ฉินโยวโยว’ จึงต้องตอบรับเป็น ‘พระชายา’ ของเหยียนตี้อย่างไม่เต็มใจ

และเปิดตัวร่วมกับเขาในงานเวทีประลองสุดยอดฝีมือ ซึ่งรวมนักกลไกจากทั่วสารทิศเอาไว้

โชคดีที่คนผู้นี้ไม่ได้ทำตัวร้ายกาจกับนางแม้แต่น้อย

แม้เขาจะโกรธเกรี้ยวหรือโมโหนางเพียงใด ขอแค่นางออดอ้อนเขาสักหน่อย

มนุษย์หน้าตายผู้นี้ก็ยอมจำนนต่อนางแล้ว

 

เหยียนตี้ยังบอกกับนางอีกว่า... หลังจากนางกินยาลูกกลอนเปลี่ยนชีพจรจนหมด

เขาจะพานางไปเขตหวงห้ามเพื่อฟื้นฟูตบะให้ตามสัญญา

ฉินโยวโยวเฝ้ารอวันนั้นยิ่งนัก แต่นางก็รู้สึกสังหรณ์ใจพิกล

เหตุใดยามที่ผู้มีพระคุณปีศาจพูดถึงเรื่อง ‘ฟื้นฟูตบะ’ สายตาจึงดูเป็นประกายแปลกๆ

ทั้งผู้คนรอบข้างก็ทำตัวมีลับลมคมในยิ่ง

ถึงกับจัดเตรียมชุดบางเบาหลายชุดใส่หีบให้นาง!

คำนำสำนักพิมพ์เล่ม 2 :

เมื่อฉินโยวโยวถูกมัดมือชกจำต้องยอมรับเป็นพระชาชาของเหยียนตี้อย่างไม่มีทางเลี่ยง นางก็ต้องเดินหน้ารับต่อไปจนถึงที่สุด ได้แต่หวังว่าในวันหน้าจะมีโอกาสหนีไปจากเขา แต่เพราะการดูแลที่เอาใจใส่ ตามใจนางมิต่างจากที่อาจารย์นางเคยทำ ค่อยๆ ทำให้นางนึงถึงเขา พึ่งพาเขาเพียงคนเดียว และยังมีสัญญาที่จะฟื้นฟูตบะให้กับนางด้วย ทุกสิ่งที่เหยียนตี้ทำไปจะเป็นด้วยความบริสุทธิ์ใจไร้สิ่งใดแอบแฝงจริงหรือ เบื้องลึกเบื้องหลังของเขามีสิ่งใดซ่อนอยู่ ทั้งสองคนจะได้แต่งงานกันหรือไม่ แล้วขั้นตอนการฟื้นฟูตบะจะยุ่งยากหรือเปล่า พลิกหน้าต่อไปได้เลยค่ะ

 

สำนักพิมพ์แจ่มใส

เล่ม 2 :

ฉินโยวโยวเป็นตัวแทนตัดสินของแคว้นเซียงเยวี่ย จับคู่กับเหยียนตี้พอดี การได้พบกับนักกลไกทำให้ฉินโยวโยวมีความสุขมาก เพราะคุยกันเรื่องเดียวกันรู้เรื่อง ผู้เข้าแข่งขันอิสระก็เลือกที่จะให้โยวโยวเป็นผู้ตัดสินอีกต่างหาก เพราะแถมได้คุยกับโยวโยวที่หน้าตาดีแล้วยังได้รับความรู้ที่ไขไม่ออกกลับไปอีก เป็นเหตุให้เหยียนตี้ไม่พอใจมาก แต่โยวโยวก็สามารถต่อรองจนได้ไปร่วมงานอีกได้ 

รอบรองชนะ ผู้ที่สร้างความโดดเด่นไม่ได้อยู่ในสามตระกูลใหญ่ พอจบการแข่งขันก็ไปหาสกุลเฟิง แต่หลังงานที่ตระกูลเฟิงกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะว่าเมธาจารย์ซวี่กวงมาที่สกุลเฟิงแล้ว เพื่อมาพูดกับเฟิงกุยอวิ๋น เรื่องฉินโยวโยว ความจริงที่มากกว่าว่าฉินโยวโยวเป็นบุตรสาวของอาหญิงเหยาจีคือฉินโยวโยวเป็นศิษย์เอกของมือเทพเนรมิตฉีเทียนเล่อ การแข่งรอบชิงชนะเลิศ ท่านอาเหวินคะแนนนำเพราะ คนสกุลเฟิงเอากล่องกลที่ฉินโยวโยวเคยเห็นแบบร่างที่ได้จากท่านแม่ แต่ไม่รู้ว่าคือใครและเคยเอาฉบับปรับปรุงให้ท่านอาเหวินดู ทำให้ชนะ การแข่งมีสามรอบ รอบที่สองก็ชนะสกุลเหวินที่เคยทำให้บิดาท่านอาเหวินพ่ายแพ้ รอบสุดท้ายท่านอาเหวินจึงให้ฉินโยวโยวออกโจทย์ เหยียนตี้เลยเสนอให้ใช้คลังสมบัติจวนอ๋อง ที่ฉินโยวโยวออกแบบกลไกเรียบร้อย ผลคือท่านอาเหวินกับสกุลเฟิงชนะ ผลสุดท้ายท่านอาเหวินได้อันดับหนึ่ง

เมื่อนัดเจอกับฉินโยวโยว จึงบอกเรื่องที่ได้รับการติดต่อจากผู้อาวุโสใหญ่ของสกุลเหวินเรียบร้อย และข่าวลือเกี่ยวกับท่านแม่ของฉินโยวโยวว่าน่าจะคือเหยาจีในตอนนั้น

โยวโยวต้องไปร่วมงานล่าสัตว์ฤดูหนาวกับเหยียนตี้ เพราะจู้อวิ๋ยเฟยเร็วมากทำให้ล่าหมาป่าหิมะได้อย่างรวดเร็ว งานนี้เหยียนตี้ให้ระวังสำนักเฟิ่งเสินให้ดี กลัวว่าจะมาจับตัวโยวโยว และก็เกิดเหตุการณ์ที่เหยียนตี้ต้องออกไปดูสถานการณ์ให้โยวโยวอยู่กับฮ่องเต้ เสือหน้ายิ้ม ที่โยวโยวไม่ชอบเลย แต่ก็ต้องอยู่ และเมธาจารย์ซวี่กวงก็ใช้แผนล่อเสือออกจากถ้ำคิดจะกำจัดฮ่องเต้และฉินโยวโยว แต่ดีที่ฮ่องเต้รู้ตัว ไม่สามารถใช้วิชาหุ่นกระบอกมีชีวิตได้

ในที่สุดฉินโยวโยวก็กินยาลูกกลอนเปลี่ยนชีพจรครบ ได้เวลาไปเขตหวงห้ามซะที ก่อนหน้านี้ต้องอดกลั้นขนาดไหน เวลานี้ก็มาถึงจนได้ เข้าเขตหวงห้ามเท่ากับแต่งงานอย่างเป็นทางการ เหยียนตี้ทนรอแทบไม่ไหวแล้ว ในที่สุดก็ได้จับโยวโยวกินซะที พอตื่นขึ้นมาถึงเห็นว่าผู้มีพระคุณปีศาจที่ตอนนี้ต้องเรียกว่าสามีปีศาจหน้าตามีความรู้สึกแล้ว ถึงกับยิ้มเป็นหัวเราะได้ ยังไงก็ต้องให้เล่าเรื่องให้ฟังแล้ว มีความลับอะไรที่ปิดบังไว้

ฉินโยวโยวเลยรู้เรื่องที่เหยียนตี้ฝึกวิชาที่มีไอสังหาร พลังตบะพุ่งพรวด และใช้โยวโยวเป็นที่กระจายพลัง และเรื่องต่างๆที่นางไม่เข้าใจมาตลอดก็ต่อเรื่องราวเข้าด้วยกันได้ ทุกอย่างเป็นนางเองที่หลงเดินตามทางที่วางเล่ห์กลของสามีปีศาจมาเรื่อยๆ ตอนนี้ยังจะใช้งานให้ซ่อมแซมกลไกของเขตหวงห้าม และให้ดูแผนผัง เมื่อเห็นโยวโยวก็บอกว่าตัวเองอ่านเข้าใจขีดเส้นที่บรรพบุรุษสกุลเหยียนทิ้งเอาไว้ บอกว่าอาจารย์เป็นคนสอน อาจารย์บอกว่าเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์กัน เหยียนตี้สงสัยโยวโยวก็เคยบอกว่าตัวเองกับอาจารย์เคยไปตามวังหลวงแคว้นต่างๆมาก่อน แต่ไม่ใช่ในฐานะมือเทพเนรมิตฉีเทียนเล่อ เพราะต้องการรู้ว่ามีใครที่อ่านแบบแปลนนี้ออกบ้าง ซึ่งไม่มีเลย และสิ่งเหล่านี้คิดได้แต่ไม่สามารถทำออกมาได้เพราะจะทำร้ายผู้คนมากเกินไป ศิษย์อาจารย์ทั้งสองยึดหลักการเดียวกันมาโดยตลอด เหยียนตี้ก็ไม่บีบบังคับโยวโยว แต่ตัวเองก็ไม่ถอดใจ เพราะความคิดบุรุษกับสตรีนั้นต่างกัน บุรุษคิดการใหญ่อยากรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง ส่วนสตรีขอใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรีก็เพียงพอแล้ว เหยียนตี้ยังพาโยวโยวไปดูแบบจำลองปืนใหญ่ที่บรรพบุรุษได้ทำไว้ โยวโยวไม่ยอมสร้างให้เด็ดขาด เหยียนตี้ก็ไม่บังคับแต่ไม่ถอดใจ ทั้งสองตัดสินใจออกจากเขตหวงห้าม

ออกมาก็เจอเรื่องราวว่าวังหลวงถูกเจียงหรูเลี่ยนเจ้าสำนักเฟิ่งเสินบุกมาทำลายไปหนึ่งในสาม ทั้งฮ่องเต้ได้รับบาดเจ็บ เหยียนตี้ต้องเข้าไปจัดการควบคุมสถานการณ์ และฉินโยวโยวก็ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับคู่ฮ่องเต้แสงสว่างและความมืดจากไทเฮา โยวโยวยังสงสัยว่าทำไมไทเฮาถึงเป็นห่วงห้องอักษรอยากให้ซ่อมแซมกลไกโดยเร็ว ในที่สุดก็ได้คำบอกจากเหยียนตี้ว่าในวันสิ้นปีจะมีช่วงหนึ่งที่ตัวเองพลังตบะจะหายไปกลายเป็นคนธรรมดา ห้องอักษรที่มีกลไกแข็งแรงที่สุดก็เพื่อเอาไว้ปกป้องตนเอง ทำเอาฉินโยวโยวตกใจที่ไม่บอกล่วงหน้าจะได้เตรียมพร้อมมากกว่านี้ แต่ตอนนี้วันสิ้นปีก็มาถึงแล้ว

หลังอ่านเล่ม 2 :

เล่มนี้ได้รู้เรื่องราวความเป็นมาของโยวโยว และเหยียนตี้มากขึ้น โยวโยวเปลี่ยนคำเรียกจากผู้มีพระคุณปีศาจกลายเป็นสามีปีศาจแล้วนะ ในที่สุดเหยียนตี้ก็ได้กินโยวโยวสมใจ ทั้งยังไม่ทำหน้าตายด้านอีกแล้วด้วย โยวโยวไม่ชินเลย เหยียนตี้ก็หึงที่สุดที่โยวโยวอะไรก็นึกถึงแต่อาจารย์ ดีนะเนี่ยที่ตอนนี้หายตัวไป ขอให้หายไปตลอดกาลทีเถอะ

เรื่องราวเฉลยเยอะทีเดียว แถมมีฉาก NC ด้วยนะเนี่ย ในที่สุดโยวโยวก็โดนจับกิน อ่านต่อเล่มสามเลยค่ะว่าเหยียนตี้จะเป็นยังไงต่อไป พลังตบะลดลงบบนี้โยวโยวเป็นห่วงที่สุด


เล่ม 3 พิมพ์ครั้งที่ 1 : กรกฎาคม 2563

โปรยปกเล่ม 3 :

หนึ่งปีจะมีช่วงหนึ่ง ยามสิ้นฤดูหนาวที่แสงใหม่ยังไม่มาถึง ‘เหยียนตี้’ จะกลายเป็นคนธรรมดา

ฉินโยวโยว’ จึงรีบซ่อมแซมกลไกภายในตำหนักอักษรอย่างเร่งด่วนเพื่อให้เขาได้ไปหลบพัก

แต่พอถึงเวลาจริงก็ยังมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น!

 

ช่วงเวลาที่เกือบสูญเสียเหยียนตี้ไปโดยไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้

ส่วนลึกในก้นบึ้งหัวใจนางคล้ายมีกองเพลิงกำลังแผดเผา

ทั้งที่เคยมีความคิดว่าจะไม่สร้างอาวุธที่คร่าชีวิตใคร

ทว่ายามนี้หลักการของนางกำลังสั่นคลอนรุนแรง

พวกคนที่ต้องการทำร้ายเขาเหล่านั้นจำเป็นต้องถูกกำจัดโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

พวกเขาตายแล้ว สามีของนางถึงจะปลอดภัย

 

จวบจนปืนใหญ่บรรพบุรุษถูกชุบชีวิตอีกครั้ง

ฉินโยวโยวจึงได้รู้ว่ายังมีบางเรื่องที่เจ็บเสียยิ่งกว่าเห็นเหยียนตี้ปางตายรออยู่!

คำนำสำนักพิมพ์เล่ม 3 :

เผลอแป๊บเดียว ราชันใต้อาณัติเล่ม 3 ก็มาอยู่ในมือของท่านนักอ่านแล้วนะคะ บุรุษผู้มีใบหน้าน้ำแข็งอย่างเหยียนตี้ ยามระเบิดกองไฟที่กักเก็บไว้มานานในเขตหวงห้ามเป็นอย่างไรกันบ้างคะ ใครที่บอกว่า ‘ท่านเอ๋อเหมย’ ไม่มีฉาก ‘เร่าร้อน’ในนิยายหรอก ต้องเอาเรื่องนี้ไปให้เขาอ่านเลยค่ะ

 

ในเล่มนี้การฝึกตนของฉินโยวโยวไม่อาจใช้วิธีการฝึกแบบเดิมๆ ได้อีก มีเพียงการ ‘เติมตบะ จากผู้เป็นสามีนางจึงจะเลื่อนขั้นได้เท่านั้น ทว่าสามีผู้รักนางยิ่งจน ชื่อเสียงเรื่อง ‘รักถนอม’ ที่เขามีต่อนางขจรขจายไปทั่วทั้งเมืองกลับไม่ได้รักนางจริงอย่างที่คิดไว้ เขาถึงกับกล้าทำความผิดลับหลังนาง รอบนี้แม้แต่หน้าเขา นางก็ไม่อยากมอง!

 

เล่มนี้ฉินโยวโยวไม่ใช่หญิงสาวแสนซื่อที่หลอกได้ง่ายเหมือนเล่มแรกแล้วนะคะ อยากรู้จริงเขียวว่าเหยียนตี้ไปก่อความผิดอะไรไว้ แล้วเขาจะจัดการ ‘ทวงคืน’ พระชายาของตนเองอย่างไร ไหนจะสงครามระหว่างแคว้นที่กำลังปะทุอีก หากท่านนักอ่านอยากรู้แล้ว เชิญพลิกหน้าต่อไปได้เลยค่ะ

 

ด้วยไมตรีจิต

สำนักพิมพ์แจ่มใส

เล่ม 3 :

ฉินโยวโยวอยู่กับเหยียนตี้ในตำหนักอักษรกันสองคน ส่วนผู้เยี่ยมยุทธ์คนอื่นกระจายตัวอยู่โดยรอบ แล้วก็เกิดเหตุขึ้นที่ด้านนอก โยวโยวออกไปดูเหตุการณ์ปล่อยให้เหยียนตี้อยู่เพียงลำพัง แต่ก็ยังเกิดเรื่องกับเหยียนตี้จนได้ พบว่ามีผู้บุกรุกทำร้ายเหยียนตี้จนบาดเจ็บ โยวโยวเป็นห่วงมากถึงขนาดถ่ายพลังให้จนสลบไป เมื่อฟื้นขึ้นมาก็เป็นสามวันให้หลัง พลังตบะที่เหยียนตี้ให้ไว้ขั้นเก้าลดลงมาเป็นขั้นเจ็ด ตอนนี้สิ่งเดียวที่โยวโยวใส่ใจคือเหยียนตี้ เมื่อได้รับคำบอกเล่าจากฮ่องเต้คือมีหนอนบ่อนไส้ทำลายกลไกในตำหนักอักษร และถือโอกาสหลบหนีไป เหยียนตี้โชคดีที่หัวใจเบี่ยงจากคนทั่วไปจึงไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต

เรื่องนี้ทำให้โยวโยวคิดว่าเป็นเพราะกลไกในตำหนักอักษรมีช่องโหว่ โทษตัวเองที่เอาแบบร่างเก่าของบรรพบุรุษมาใช้ไม่เสริมความแข็งแกร่งเข้าไป ในที่สุดก็ตัดสินใจบอกฮ่องเต้เหยียนซู่ว่าในนำปืนใหญ่บรรพบุรุษในเขตหวงห้ามออกมา

ฉินโยวโยวเป็นคนประกอบปืนใหญ่บรรพบุรุษขึ้นมาใหม่ มีนักกลไกคอยจดบันทึก แบบร่างที่สมบูรณ์ เรื่องนี้โยวโยวทั้งอยากทำเพราะเป็นนักกลไก และอีกใจก็ไม่อยากทำเพราะขัดต่อเจตนารมณ์ดั่งเดิม ที่ไม่ควรเอาอาวุธร้ายแรงเช่นนี้เผยแพร่ออกมาในโลกนี้ หลังจากนี้โยวโยวก็ดูแลเหยียนตี้รอคอยให้ฟื้นขึ้นมา และทำแต่กลไกขอใช้เล็กน้อย

เมื่อเหยียนตี้ฟื้นขึ้นมาก็ไม่เป็นอะไรแล้ว จากนั้นทั้งหมดก็กลับจวนอ๋อง เพื่อดูแลสัตว์วิเศษ ช่วงนี้เหยียนตี้เลยพาจู้อวิ๋นเฟยเข้าไปในคลังสมบัติด้วยเพื่อเลื่อนขั้นตบะ และเหยียนตี้ก็บอกให้โยวโยวเตรียมงานแต่งงาน

ในวันแต่งงานฮ่องเต้วางแผนให้โยวโยวรู้ความจริงว่าทั้งหมดเป็นแผนการของตัวเองพี่น้องเพื่อให้โยวโยวประกอบปืนใหญ่บรรพบุรุษให้ ทั้งยังบอกความลับอีกว่าบิดาของโยวโยวคือคนสกุลจิน ทำให้ก่อนหน้านี้เลยร่วมมือกับสกุลจินเพราะมีบิดาโยวโยว ที่ฮ่องเต้บอกความจริงทุกอย่างเพราะมีแผนการให้เหยียนตี้ใช้วิชาบังคับโยวโยวช่วงชิงจิตใจ และเพราะมีความริษยาที่เหยียนตี้และโยวโยวรักกันจริง อย่างที่โยวโยวเคยบอกเหยียนตี้ตอนแรกที่เจอฮ่องเต้ว่าฮ่องเต้ต้องอิจฉาเหยียนตี้ที่รักเดียว มีคนรักเพียงคนเดียวอย่างโยวโยว หรืออิจฉาโยวโยว เพราะในใจมีความรักมากกว่าระหว่างพี่น้องแน่นอน ซึ่งเป็นเรื่องจริง ในฐานะฮ่องเต้ ไม่เคยมีสตรีที่รักตัวเองจริง มีแต่ทำเพื่อผลประโยชน์ และตอนนี้ก็อยากจะออกไปทำศึกด้วยตัวเอง เพราะเบื่อที่ต้องมานั่งอ่านฎีกาในวังทุกวัน

หลังจากโยวโยวรู้เรื่องก็ไม่เชื่อใจเหยียนตี้อีก ถึงขนาดคิดว่าถ้าสัตว์วิเศษทั้งสองตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ก็จะจากไปทันที เหยียนตี้ตอนนี้ยังไม่เข้าใจว่าตัวเองทำผิดอะไร อีกไม่นานก็จะรู้ได้

เพราะเรื่องนี้ทำให้เหยียนตี้ต้องคอยจับตาดูโยวโยว เลยไม่สนใจฮ่องเต้อยากไปแนวหน้าก็ตามใจ ในที่สุดก็มีข่าวส่งกลับมาว่าฮ่องเต้บาดเจ็บเหยียนตี้ต้องไปดูที่แนวหน้า ขอร้องให้โยวโยวรอตัวเองกลับมา ตอนนี้สัตว์วิเศษของโยวโยวทั้งสองตัวกำลังใกล้จะตื่น เหยียนตี้เตรียมพร้อมพาไปอยู่ที่นอกเมือง ช่วงเวลาที่เสี่ยวฮุยตื่น เมธาจารย์ซวี่กวง หลอกให้เมธาจารย์เฮ่ากวงมาเป็นทัพหน้า เข้ามาจับฉินโยวโยวเป็นช่วงที่เสี่ยวฮุยเผชิญเคราะห์สายฟ้าเพื่อการเลื่อนขั้น ฉินโยวโยวกลัวว่าเสี่ยวฮุยที่มีสายเลือดอสูรบรรพกาลตื่นขึ้นมาจะทำร้ายคนอื่นทำให้ ให้ทุกคนออกห่างเหลือเพียงตัวเองและเสี่ยวฮุย ทำให้เมธาจารย์เฮ่ากวงที่เป็นราชันยุทธ์ขั้นสิบสี่บุกเข้ามาได้ แต่เพราะเสี่ยวฮุยตื่นและเห็นโยวโยวได้รับอันตรายตัวเองจึงแปลงเป็นร่างเดิมเท่าเที่ยกินเมธาจารย์เฮ่ากวงในคำเดียวแล้วหลับไปอีก ต่อมาเมธาจารย์ซวี่กวงก็ออกมาจากทางใต้อุโมงค์ทำให้ไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็จับฉินโยวโยวไปแล้ว

ฉินโยวโยวถูกจับไป และก็โดนย้ายที่ถึงห้าครั้งจนครั้งสุดท้ายเปลี่ยนมาถึงตำหนักเย็นในวังหลวงก็คิดว่าไม่มีใครหาโยวโยวเจอ จึงปล่อยไว้ตามลำพัง ตอนนี้เองที่โยวโยวนึกถึงสัญลักษณ์ขอความช่วยเหลือที่อาจารย์เคยสอนและคิดว่าต้าจุ่ยน่าจะจำได้จึงเขียนขึ้น ก่อนหน้านี้ต้าจุ่ยก็ตื่นจากการเลื่อนขึ้นเช่นกันสายเลือดโหว่ในตัวทำเอาตำหนักไหม้ไปทั้งหมด เพราะทุกครั้งที่ต้าจุ่ยจะเลื่อนขั้นชอบเผา ตอนนี้ต้าจุ่ยสามารถแปลงเป็นคนได้แล้ว ตอนมาช่วยโยวโยวหลบหนีและมาพาเสี่ยวฮุยไปหาโยวโยว เหยียนตี้จับตาที่ตัวเสี่ยวฮุย เมื่อเสี่ยวฮุยเคลื่อนไหวเท่ากับมีความเคลื่อนไหวจากโยวโยว

ฉินโยวโยวไม่ยอมกลับไปหาเหยียนตี้ ตอนนี้ต้าจุ่ยได้ข่าวเรื่องที่สำนักเฟิ่งเสินจับเทียนเล่อได้ทำเอาโยวโยวอยกไปช่วย ดีที่นึกถึงเฟิงกุยอวิ๋นได้ จึงได้เฟิงกุยอวิ๋นเดินทางไปด้วยกัน

ฉินโยวโยวไปถึงโรงกลไกลับของสกุลเฟิง และได้เจอกับเหยียนตี้ หลังจากตรวจดูก็รู้ว่าไม่เป็นความจริง อาจารย์ไม่ได้ถูกจับมา จู้อวิ๋นเฟยได้รับความช่วยเหลือจากเหยียนตี้จากสัตว์วิเศษขั้นห้าตอนนี้กลายเป็นราชันสัตว์วิเศษขั้นสิบเอ็ด สามารถแปลงร่างได้เช่นกันและก็รู้เรื่องที่เจ้านายทำกับนายหญิง แม้จะรู้ว่าผิดแต่ก็ต้องพยายามหาทางเอาใจเสี่ยวฮุยเอาไว้

ตอนนี้เหยียนตี้พาฉินโยวโยวมาที่ค่ายทหาร จนโยวโยวคิดได้ว่าควรช่วยเสี่ยวฮุย ตอนที่ตรวจทหารเหยียนตี้ได้รับไอสังหารจำนวนมาก โยวโยวไม่อาจตัดใจ ต่อหน้าก็พูดว่าได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายตัวเองก็ได้ตบะเพิ่มด้วย ไม่ยอมบอกว่าเป็นห่วงเหยียนตี้

ชายแดนหูโจวเหยียนตี้ต่อรองกับต้าจุ่ยเรื่องฉินโยวโยวว่าห้ามพูดยุโยวโยวอีก ตัวเองจะได้ใช้เวลาให้ภรรยาตัวน้อยยอมกลับมาอยู่ด้วยอีกครั้ง

ต้าจุ่ยไปสืบข่าวมาเป็นประโยชน์ต่อทัพของเหยียนตี้ทั้งยังบอกจู้อวิ๋นเฟยว่าเสี่ยวฮุยชอบให้คนชม จู้อวิ๋นเฟยจะได้สนิทกับเสี่ยวฮุยมากขึ้น

หลังอ่านเล่ม 3 :

เล่มนี้เหยียนตี้ทำไม่ถูก แต่ในที่สุดก็ได้รู้ว่าอะไรคือคำว่าเชื่อใจ เพราะโยวโยวจะไม่เชื่อใจอีกแล้ว ความเชื่อใจสำคัญแค่ไหน ยังไง ตอนนี้สัตว์วิเศษตื่นกันแล้ว เริ่มมีบทบาทสนุกสนานกับเหล่าสัตว์วิเศษทั้งสามตัวที่มีต้าจุ่ยเป็นผู้ใหญ่สุด จู้อวิ๋นเฟยที่ซื่อมากอยากทำดีกับกระต่ายทึ่ม และเสี่ยวฮุยที่ดูเหมือนไม่มีอะไรดีเลยนอกจากกินและนอนนะเนี่ย มาอ่านเล่มจบกันต่อเลยค่ะ


เล่ม 4 พิมพ์ครั้งที่ 1 : กรกฎาคม 2563

โปรยปกหลังเล่ม 4 :

ขณะที่เหยียนตี้กำลังเดินหน้าตามปณิธานรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง

ฉินโยวโยวก็ยิ่งเป็นที่จับตามองของพวกต่างแคว้นมากขึ้น

เพราะปืนใหญ่บรรพบุรุษที่ฉินโยวโยวประกอบขึ้นมา ทำให้ทุกแว่นแคว้นล้วนหวั่นเกรง

แต่เบื้องลึกใครเลยจะรู้ว่าความสัมพันธ์ของสามีภรรยาคู่นี้กำลังมีปัญหา!

 

ทั้งที่เหยียนตี้มองฉินโยวโยวเป็นนักกลไกอันดับหนึ่งในใต้หล้า เป็นสาวงามที่งามเลิศในปฐพี

ทว่าสำหรับฉินโยวโยว กลไกย่อมมาก่อนเขา

สัตว์วิเศษปุกปุยช่างกินกับเจ้านกเอี้ยงพูดมากก็มาก่อนเขา

กระทั่งอาจารย์อ้วนท้วนของนางยังมองว่ามีรูปโฉมที่ดูดีกว่าเขา

 

เมื่อสตรีเดียวที่เหยียนตี้ใส่ใจกำลังสร้างปราการแน่นหนาใส่เขา

ทั้งยังมองเขาเป็นแค่คน ‘เติมตบะ’ ให้นาง

เขาจะทำให้นางรู้ว่าชีวิตนี้นางจะมีสิ่งสำคัญมากเพียงไรก็ได้

แต่นางจะสลัดเขาไปให้พ้นหรือหนีเขาไปในที่ที่หาไม่เจอไม่ได้!

คำนำสำนักพิมพ์เล่ม 4 :

ในที่สุดราชันใต้อาณัติเล่ม 4 ซึ่งเป็นเล่มจบก็มาอยู่ในมือของท่านนักอ่านแล้วนะคะ สำหรับเรื่องนี้นอกจากความรักของพระ-นางที่เป็นหัวใจหลักแล้ว ตัวประกอบขนปุกปุยอย่างกระต่ายจอมหลงทางช่างกิน ม้าซื่อๆ ผู้เป็นพี่เลี้ยงกระต่าย และเจ้านกเอี้ยงที่เหมือนอีกาช่างเจรจาก็มีบทบาทเด่นไม่แพ้ฉินโยวโยวกับเหยียนตี้เลย ความรักจะเดินหน้าหรือถูกขัดขวางต้องเลียบเคียงถามทั้งสามเลยค่ะ แอบกระชิบนิดหนึ่งว่าใครที่อ่าน ‘ตำนานรักอสูรร้าย’ มา อาจคุ้นเคยกับตัวละครหนึ่งในเล่มนี้

 

สำหรับเล่มนี้การศึกระหว่างแคว้นตัวลี่กับแคว้นเซียงเยวี่ยกำลังดุเดือด ฉินโยวโยวที่ติดสอยห้อยตามเหยียนตี้กลายเป็นบุคคลที่หลายแคว้นจ้องตาเป็นมัน มีนางเหมือนได้ครอบครองใต้หล้า ทว่าความคิดของฉินโยวโยวกลับอยู่ที่การเลื่อนขั้น สัตว์วิเศษของตนเองและการตามหาอาจารย์ผู้สาบสูญ

 

นอกจกรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งแล้ว เหยียนตี้ยังต้องช่วงชิงกับทุกสิ่งอย่างเพื่อเป็นที่หนึ่งในสายตาฉินโยวโยว มาร่วมติดตามกันค่ะว่าเหยียนตี้จะชิงพื้นที่ในใจภรรยาตนเองเช่นไร และจะมีอุปสรรคใดบ้างมาทดสอบความรักของพวกเขาทั้งคู่อีก เชิญติดตามบทสรุปของราชันใต้อาณัติได้เลยค่ะ

 

ด้วยไมตรีจิต

สำนักพิมพ์แจ่มใส

เล่ม 4 :

เหยียนตี้เข้าเมืองได้อย่างไร้อุปสรรคเพราะข่าวที่ต้าจุ่ยสืบมาได้ ตอนนี้ต้าจุ่ยก็ได้ข่าวจากเฟิงกุยอวิ๋นที่แยกตัวไปก่อนหน้านี้เพื่อสืบข่าวบิดา ฉินโยวโยวไปพบเฟิงกุยอวิ๋นทำให้รู้ว่าอาจารย์ถูกจับตัวไปข่าวส่งมาจากบิดาเอง เหยียนตี้ที่ติดตามฉินโยวโยวตลอดก็บอกได้ทันทีว่าเป็นข่าวปลอม แต่โยวโยวไม่เชื่อเหยียนตี้ กลับเชื่อเฟิงกุยอวิ๋นทำเอาเหยียนตี้น้อยใจจนกลายเป็นโกรธ กว่าจะคิดได้ว่าให้ปิดประตูเมือง โยวโยวกับเฟิงกุยอวิ๋นก็ออกนอกเมืองไปแล้ว

เฟิงกุยอวิ๋นคิดได้ ตอนนี้บอกโยวโยวว่าให้กลับไปหาเหยียนตี้เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะเมธาจารย์ซวี่กวงมาจับตัวโยวโยวไป โยวโยวให้ต้าจุ่ยกับเสี่ยวฮุยหนีไปก่อน ไม่ให้อยู่ให้เป็นห่วง ต้าจุ่ยสามารถกลับไปบอกเหยียนตี้ได้ แต่เสี่ยวฮุยกลับหลงทางทั้งยังโดนคนจะจับไปกิน ดีที่ได้ต้าจุ่ยกับจู้อวิ๋ยเฟยตามหาจนเจอ

เหยียนตี้ต้องรบตามแผนเดิม แต่คราวนี้ไม่ใจดีเหมือนที่ผ่านมาใครที่ไม่ยอมแพ้ก็กำจัดเพื่อระบายแค้นซะเลย ส่วนโยวโยวก็โดนพามาที่สำนักเฟิ่งเสิน เมธาจารย์ซวีกวงไม่ได้มีความคิดอะไรทั้งนั้นนอกจากอยากให้อาจารย์ดีขึ้น พอเจียงหรูเลี่ยงเจอโยวโยวก็คิดถึงเฟิงเหยาจีทั้งยังเล่าเรื่องสมัยก่อนให้ฟัง โยวโยวก็อยู่ได้อย่างดีเพียงแต่ไม่ชอบอยู่ใกล้เมธาจารย์ซวีกวงที่ดูเลวร้าย เจ้าเล่ห์

สามผู้อาวุโสของสำนักเฟิ่งเสินวางแผนจะกำจัดเจียงหรูเลี่ยงโดยใช้เทพแมลงพิษ ตอนนี้ก็ได้นัดเหยียนตี้ที่เป็นราชันยุทธ์ขั้นสิบแปดเพื่อมาต่อสู้กันที่ยอดเขาชู่สุ่ย ที่ตั้งของสำนักเฟิ่งเสิน ครั้งนี้แม้จะเป็นแผนก็ต้องไปเพราะมีโยวโยวอยู่ด้วย ทั้งหมดวางแผนกันว่าจะให้เสี่ยวฮุยรั้งอยู่ แต่เสี่ยวฮุยขอตามไปด้วยอย่างน้อยก็สื่อใจถึงโยวโยว และต้าจุ่ยก็มีลางสังหรณ์ว่าครั้งนี้ต้องให้เสี่ยวฮุยไปด้วยถึงจะดี

วันท้าประลอง ต้าจุ่ยกับเสี่ยวฮุยตามผู้อาวุโสของสำนักเฟ่งเสินเข้าไปโดยเหยียนตี้ใช้วิชาชิงดวงจิตชักจูงวิญญาณให้พาเข้าไป ต้าจุ่ยเข้าไปจนได้ฟังถึงวังใต้ดินก็แยกกับเสี่ยวฮุยเพราะคิดว่าเงื่อนงำน่าจะอยู่ที่วังใต้ดิน แต่เข้าไปสายเลือดโหว่ในตัวก็ได้กลิ่นหอมน่ากินก็ตามกลิ่นั้นไป กลิ่นนั้นคือกลิ่นของเทพแมลงพิษที่กินผู้อาวุโสสูงทั้งสามคนไปแล้วเปลี่ยนร่างจากแมลงเป็นงูเหลือมยักษ์กำลังจำขึ้นไปกินราชันยุทธ์ขั้นสิบแปดทั้งสองเพื่อให้ตัวเองฝ่าด่านเคราะห์โดยง่าย การจำศีลใต้ดินหลายพันปีเพื่อปลุกสายเลือดมังกรฟ้านี้ไม่คิดเลยว่าช่วงเวลานี้โลกมนุษย์ถึงกับมีสัตว์สายเลือดเทพบรรพกาล และสายเลือดอสูรบรรพกาลอยู่ในโลกนี้

บุรุษหนุ่มชุดดำสัมผัสได้ถึงพลังมังกรฟ้าอ่อนจางก็คิดจะเอาให้เสี่ยวฮุยกินเป็นอาหาร บุรุษหนุ่มชุดดำนี้เป็นคนที่ต้าจุ่ยและฉินโยวโยวรู้จัก เพราะว่าคือท่านพ่อของเสี่ยวฮุย เทาเที่ยอสูรบรรพกาลที่มาจากแดนอสูร เยี่ยนเสวียนนั้นเอง

การสู้กันระหว่างราชันยุทธ์ขั้นสิบแปดเป็นการสู้กันที่ไม่เกิดเสียงแม้แต่น้อย แต่พอเทพแมลงพิษปรากฏตัวทั้งหมดก็คิดได้ว่ายังไงฉินโยวและเมธาจารย์ซวี่กวงไม่อาจสู้ได้ ให้ทั้งสองหนีไป เมธาจารย์ซวี่กวงยังถึงขนาดกลับมาช่วยพาฉินโยวโยวหนีทั้งที่ตัวเองหนีไปได้ไกลแล้ว เทพแมลงไม่เห็นมนุษย์ตัวเล็กๆอยู่ในสายตา คิดจะทำร้ายฉินโยวโยวและเมธาจารย์ซวี่กวง เหยียนตี้และเจียงหรูเลี่ยงช่วยสกัดไว้แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ที่ทำร้ายเทพแมลงพิษได้คือไฟของต้าจุ่ยที่มีสายเลือดโหว่ แต่ต้าจุ่ยก็ควบคุมไฟตัวเองไม่ดี บางทีก็พ้นน้ำลายออกมา จู้อวิ๋นเฟยที่มีสายเลือดกิเลนก็เข้าสู้ด้วยความกล้าหาญเพราะสัตว์เทพไม่ถูกมนต์สะกดควบคุม จู้อวิ๋นเฟยยังมีพลังต่างชั้นเกินไป เหยียนตี้สั่งให้พาฉินโยวโยวหนีไป แต่จู้อวิ๋นเฟยไม่ยอม ขัดคำสั่งครั้งแรก ตอนนี้เลยดูดเลือดงูเหลือมยักษ์ซะเลย และที่ดูดออกมาก็คือสายเลือดมังกรฟ้าที่ไหลตามออกมาด้วย เสี่ยวฮุยที่หาฉินโยวโยวเจอก็อยู่กับฉินโยวโยวก่อนที่โยวโยวจะสลบไปเพราะทนบาดพิษบาดแผลไม่ไหว

บุรุษชุดดำที่ต้องการให้เสี่ยวฮุยกินเทพแมลงพิษที่มีเชื้อสายมังกรฟ้าอ่อนจางเห็นเสี่ยวฮุยอยู่ด้วยจึงคิดว่ากินสดๆได้ผลดีกว่า เลยปลดผนึกเสี่ยวฮุย ต้าจุ่ยก็ไม่กลัวตายเข้าไปแย่งสมองกับเสี่ยวฮุย บุรุษชุดดำเห็นดังนั้นจึงช่วยไว้ ต้าจุ่ยบอกก่อนหลับไปว่าให้จู้อวิ๋นเฟยที่ดูแลเสี่ยวฮุยด้วย เยี่ยนเสวียนจึงสกัดสายเลือดมังกรฟ้าป้อนจู้อวิ๋นเฟย เรื่องราวจบลงที่เสี่ยวฮุยจัดการกินเทพแมลงพิษ เมื่อเทพแมลงพิษตายยันต์สะกดก็หายไป เหยียนตี้และเจียงหรูเลี่ยงมาช่วยโยวโยว เมื่อเรียบร้อยเจียงหรูเลี่ยงก็จากไปพร้อมเมธาจารย์ซวี่กวง สำนักเฟิ่งเสินถูกหินลาวาใต้ภูเขาปะทุเป็นภูเข้าไฟระเบิด สาขาใหญ่ล้มสลาย

ราชวงศ์เฮ่อแคว้นตัวลี่ยอมจำนน บุรุษชุดดำมาหาฉินโยวโยวเพื่อบอกว่ามีวิธีทำให้เส้นชีพจรแข็งแรงขึ้นได้ให้ติดตามไปเขาเหิงอวิ๋น ฉินโยวโยวตอบตกลงเพราะจะได้ตามหาที่อยู่ของบิดา และอาจารย์ที่น่าจะอยู่ที่เขาเหิงอวิ๋นด้วย

ฉินโยวโยวจำท่านพ่อของเสี่ยวฮุยไม่ได้ว่าชื่ออะไร ก็เรียกว่าท่านอาเฮย เยี่ยนเสวียนเลยบอกว่าให้เรียกว่าเยี่ยนเสวียน ที่ไม่สะดวกจะพบใครเพราะว่าจะทำให้โลกมนุษย์เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไม่สามารถเปลี่ยนเคราะห์กรรมต่างๆของคน ตอนนี้ก็ให้ฉินโยวโยวสูดกลิ่นของบุปผาเก้าลำนำฟ้าสันติที่ไม่ควรมีอยู่ในโลกมนุษย์ ทุกสามวันต้องออกไปข้างนอกหนึ่งครั้ง ฉินโยวโยวยังได้เยี่ยนเสวียนหาที่มั่นของสกุลจินแห่งกุ่ยซานไถพบ และได้เจอบิดาจินเซิ่งฉาง ที่ประสบอุบัติเหตุจนมองไม่เห็น หูไม่ได้ยินและจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ โยวโยวจะมาเยี่ยมบิดาเป็นประจำ จนได้ยินเรื่องสกุลเฟิงคิดจะมายึดฐานที่มั่นนี้ ได้ข่าวมาจากเหยียนตี้ที่ให้จู้อวิ๋นเฟยและเฟิงกุยอวิ๋นที่มาส่งข่าว

ฉินโยวโยวไปพบจู้อวิ๋ยเฟยและเฟิงกุยอวิ๋น พอรู้เรื่องก็รอเหยียนตี้มา เมื่อพบกันโยวโยวตัดสินใจกับเหยียนตี้ว่าจะไปที่สกุลจินเพื่อดูเขตดาวเทียนกังที่ไม่มีใครซ่อมแซมได้ ฉินโยวโยวซ่อมได้อย่างง่ายดายและลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นลง

แล้วก็เกิดเรื่องกับจินเซิ่งฉาง บิดาของฉินโยวโยวเพราะจำอะไรขึ้นมาได้ทำให้ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป เหยียนตี้ให้จู้อวิ๋นเฟนไปตามเซี่ยงเทียนจั่น ระหว่างนั้นเยี่ยนเสวียนก็มาดูอาการและบอกว่าเหลือเวลาอีกไม่มาก หลังจากตื่นให้กินยานี้เพื่อเปิดประสาทสัมผัสอีกครั้งจะได้คุยกันเป็นครั้งสุดท้าย

ท่านลุงเซี่ยงมาก็ตรวจได้แบบที่เยี่ยนเสวียนบอก เมื่อจินเซิ่งฉางฟื้นจึงได้พูดคุยกับโยวโยวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากไปอย่างสงบ

โยวโยวนำอัฐิของบิดาไปที่เขาชู่สุ่ยให้อยู่ที่เดียวกับมารดา เหยียนตี้กลับไปจัดการงานที่แคว้นตัวลี่นัดเจอกันอีกสองเดือน หลังจากเตรียมทุกอย่างพร้อมเยี่ยนเสวียนไม่สามารถรอจนเสี่ยวฮุยเลื่อยขั้นได้ต้องกลับแดนอสูรก่อน ได้แต่ฝากให้ฉินโยวโยวดูแล ต้าจุ่ยตื่นก่อนในครั้งนี้และตอนตื่นก็สัมผัมได้ถึงฉีเทียนเล่อ จึงตามไป และพบฉีเทียนเล่อในถ้าแห่งหนึ่ง ก็อุปกรณ์ที่ไม่รู้จัก ฉีเทียนเล่อยังคิดว่าผ่านไปแค่สามสี่เดือนแต่นี่เกือบสามปีที่หายตัวไป

ฉีเทียนเล่อได้บอกว่าหาเครื่องเดินทางกาลเวลานี้พบจากบันทึกที่ได้มีจากเฟิงเหยาจี นั้นคือบันทึกการเดินทางว่าบรรพบุรุษสกุลเหยียนใช้เครื่องเดินทางกาลเวลามาที่นี่และได้พบคนรักจึงไม่คิดกลับไป ฉีเทียนเล่อคำนวณเวลาได้แล้วว่าเป็นช่วงสิ้นปีที่เหยียนตี้จะไม่มีตบะ ให้มาอยู่ที่ถ้านี้

ฉินโยวโยวที่ยังคิดไม่ตกว่าจะอยู่กับเหยียนตี้หรือจากมา ก็ตัดสินใจได้จากการที่ฉีเทียนเล่อจะบังคับเอาตัวไปโลกของตัวเองที่มีคอมพิวเตอร์ ตึกสูง ต่างๆ ที่ฉินโยวโยวอยากเห็นตามที่เคยเล่าให้ฟัง ฉินโยวโยวจึงตัดสินใจว่าจะอยู่กับเหยียนตี้ ฉีเทียนเล่อจากไปเพียงลำพัง

ตอนพิเศษ

-เสี่ยวฮุยตื่นขึ้นมาหลังจากนั้น ไม่อ้วนเหมือนตอนเป็นกระต่ายแล้ว ทั้งยังงดงามมากด้วย

-ได้รู้เรื่องราวในอดีตที่ฉินโยวโยวรู้จักกับเสี่ยวฮุย และเยี่ยนเสวียนฝากฝังเสี่ยวฮุยเอาไว้

-เรื่องราวต่อมาของชินอ๋องซื่อจื่อที่รู้สึกไม่เป็นที่รักของบิดามารดาแม้แต่น้อย สงสารมากจริงๆ ฮ่าๆๆๆ

หลังอ่านเล่ม 4 :

เรื่องราวทั้งหมดคลี่คลาย นักเขียนไม่ได้ทิ้งปมเรื่องเอาไว้ เป็นบทสรุปที่ลงตัวมากเลยค่ะ เล่มนี้สัตว์วิเศษมีบทบาทมาก อ่านแล้วอย่างฮาที่เทพแมลงพิษจะเก็บตัวบำเพ็ญเป็นพันปีในวังใต้ดินทำไมเนี่ย พอตื่นขึ้นมาคือโดนสัตว์วิเศษที่ไม่คิดว่ามีอยู่จัดการซะขนาดนี้ น่าสงสารมาก และฮาสุดๆ อ่านไปขำไป ยังมีบทซาบซึ้งอีกด้วยนะคะ เล่มนี้มีทุกอารมณ์เลยจริงๆ ทั้งยังมีตัวละครจากแดนอสูรด้วยนะคะ กลับไปอ่านตำนานรักอสูรร้ายอีกรอบกันดีกว่า ^__^


เนื้อเรื่อง :

ฉินโยวโยวหนีการตามล่าจากสำนักเฟิ่งเสิน ได้รับความช่วยเหลือจากเหยียนตี้ เหยียนตี้ไม่คิดว่าคนที่ตัวเองช่วยไว้เป็นคนที่ตัวเองตามหามาตลอดหนึ่งปี ทั้งยังคิดไม่ถึงว่าจะเป็นสตรีที่งามขนาดนี้ จากตอนแรกที่หมายตาเรื่องที่ฉินโยวโยวเป็นนักกลไกที่ถูกคัดเลือกจากการทดสอบตลอดหลายปีมานี้ ยิ่งดีเข้าไปใหญ่เพราะจะได้เอาตัวฉินโยวโยวมาแต่งงานไว้ข้างกายไปเลย

ฉินโยวโยวใสซื่อ คิดแต่ชีวิตที่เรียบง่าย ตอนนี้คือออกตามหาอาจารย์ที่หายตัวไปเมื่อหนึ่งปีก่อน นางไม่รู้ว่าความลับของตัวเองเปิดเผยต่อเหยียนตี้ตั้งแต่แรก ว่าตัวเองคือศิษย์ของมือเทพเนรมิตฉีเทียนเล่อ ก็คิดจะจากไป เหยียนตี้ก็ให้ไป แต่เพื่อให้รู้ว่าไม่มีที่ไหนปลอดภัยเท่าข้างกายตัวเอง เพราะตั้งแต่นี้ ฉินโยวโยวจะต้องอยู่ข้างกายตัวเองเท่านั้น

ที่เหยียนตี้หมายตาฉินโยวโยวอีกอย่างเพราะ ฉินโยวโยวสามารถเข้าเขตหวงห้ามของราชวงศ์ได้ เพราะฉะนั้นก็สามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายโดยกินนำพุศักดิ์สิทธิ์ได้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นสวรรค์ส่งมาให้ชัดๆ ยังไงก็ต้องวางแผนหลอกล่อให้เดินตามทางไปจวนถึงจุดหมาย

ทั้งช่วยตามหาสัตว์วิเศษทั้งสองตัวของนางและของอาจารย์ ที่น่าแปลกที่ศิษย์อาจารย์คู่นี้ให้สัตว์วิเศษหนีไป ไม่ให้อยู่ช่วยเหลือ ตัวเองกลับเป็นคนป้องกันสัตว์วิเศษดูแลเหมือนคนในครอบครัวซึ่งแตกต่างจากคนอื่นมากมาย สัวต์วิเศษของฉินโยวโยวคือเสี่ยวฮุยกระต่ายหิมะหลงทาง ที่ดูไม่มีอะไรดีนอกจากกินและนอน กินเก่งเป็นที่สุดและติดฉินโยวโยวอย่างมาก และต้าจุ่ยนกเอี้ยงเสียงศักดิ์สิทธิ์ที่กินอย่างเดียวและเชียวชาญการหาข่าว แต่ที่ชอบมาที่สุดคือเรื่องซุบซิบนินทาต่างๆ เหยียนตี้ก็มีสัตว์วิเศษคือม้าแดงที่มีสายเลือดกิเลน แต่ฉินโยวโยวกลัวม้า ทำให้เสี่ยวฮุยกลัวไปด้วย จู้อวิ๋ยเฟยกว่าจะทำดีเอาใจเสี่ยวฮุยจนกลายเป็นม้าพี่เลี้ยงก็เหนื่อยเอาการเพราะ เสี่ยวฮุยกลัวมาก

เส้นเรื่องคือจากตอนแรกโยวโยวตามหาสัตว์วิเศษ พอเจอ สัตว์วิเศษก็มีช่วงเวลาที่ต้องเลื่อนขั้นเพราะมีเชื้อสายสัตว์เทพบรรพกาล และสัตว์อสูรบรรพกาล เป็นเรื่องเหลือเชื่อต้องเลื่อนขั้น เหยียนตี้ต้องหาวิธีทำให้สัตว์วิเศษทั้งสองไม่มาพูดยุยงข้างหู กว่าจะได้แต่งงานกัน

ทีนี้ถึงรู้ว่าเรื่องทั้งหมด ฉินโยวโยวเดินตามแผนของเหยียนตี้ชัดๆ ภรรยาตัวน้อยช่างแสนน่ารักแสนซื่อ จากตอนแรกเรียกว่าผู้มีพระคุณปีศาจก็เปลี่ยนเป็นสามีปีศาจ พอรู้ว่าวางแผนให้ตัวเองประกอบปืนใหญ่บรรพชรก็เปลี่ยนคำเรียกเป็นคนเลว ฮ่าๆๆๆ

ส่วนเหยียนตี้จากตอนแรกก็ยังภรรยาตัวน้อย พอได้อยู่กับภรรยาตัวน้อยหน้าก็ไม่เป็นน้ำแข็งพันปีอย่างที่แสดงให้ใครๆเห็นอีกแล้ว ขนาดฉินโยวโยวยังบอกใหทำหน้าแบบเก่า เพราะคิดว่าสามีเปลี่ยนคน นางเป็นคนที่จำหน้าใครไม่ได้ เหยียนตี้ครั้งแรกก็คิดว่าทำไมจำข้าไม่ได้ จะให้จำได้ได้ยังไง เพราะไม่เคยจำใครได้เลย ทั้งยังบอกว่าอาจารย์ดีที่สุด หน้าตาดีที่สุด สัตว์วิเศษอีกสองตัวก็เหมือนกัน จนเมื่อได้เจอฉีเทียนเล่อในท้ายที่สุดเหยียนตี้ถึงกับสงสัยสายตาในการมองความงามของทั้งสามไปเลย

เรื่องราวระหว่างนั้นคือการประลองกลไก ที่ไม่มีใครเทียบฉินโยวโยวได้ ก็หาความจริงเรื่องท่านแม่และท่านพ่อ สุดท้ายก็คือการหาอาจารย์

หลังอ่าน :

เรื่องราวของฉินโยวโยว ศิษย์เอกของมือเทพเนรมิตฉีเทียนเล่อที่หายตัวไปออกตามหาอาจารย์ โดนตามล่าและได้รับการช่วยเหลือจากเหยียนตี้

เรื่องราวขำ ฮา และมีฉากกุ๊กกิ๊กระหว่างสามีภรรยา ตลอดทาง บทบาทตัวละครชัดเจน เส้นเรื่องชัดเจน นักเขียนเน้นเรื่องความเชื่อใจ กับความรักของพระเอกนางเอก และความรักระหว่าศิษย์อาจารย์ กับความรักระหว่างสัตว์วิเศษกับเจ้าของ ว่าเป็นอย่างไร ที่แน่ๆคือความรักในหลายรูปแบบ ทั้งรักที่สมหวัง ทั้งแอบรักมานาน รักข้างเดียว ในเรื่องมีให้เห็นทั้งหมด ยังมีฉากซาบซึ้งที่อ่านแล้วต้องอินไปกับตัวละครด้วยค่ะ

นิยายมีหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนนะคะ

 

13/10/63