Friday, October 30, 2020

Turing Code โปรแกรมลับ รีเทิร์นรัก #3เล่มจบ #มีebook #นิยายวาย #นิยายวายแปลจีนแนวปัจจุบัน #BL #นักธุรกิจ #คอมพิวเตอร์ #เทคโนโลยี #เอไอ

 Review 35/2563

เรื่อง : Turing Code โปรแกรมลับ รีเทิร์นรัก (3เล่มจบ) #มีebook #นิยายวาย #นิยายวายแปลจีนแนวปัจจุบัน #BL #นักธุรกิจ #คอมพิวเตอร์ #เทคโนโลยี #เอไอ

ผู้เขียน : เฟยเทียนเย่เสียง (Arise Zhang)

ผู้แปล : ผู่เอ๋อร์

ภาพปก : PSD

สำนักพิมพ์ : everY


เล่ม 1 พิมพ์ครั้งที่ 1 : มีนาคม 2563

โปรยปกหลังเล่ม 1 :

วันที่เหวินเทียนเหอรับตำแหน่ง CEO แห่งอิพีอุสอินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยีวันแรก

บริษัทก็ล้มละลาย...

หลังจากส่งพี่รองซึ่งไปซานฟรานซิสโกโดยไม่ได้บอกอะไรเอาไว้เลย

เหวินเทียนเหอถึงได้พบว่ามีหนี้สินพันล้านหล่นใส่หัวเข้าอย่างจัง

สถานการณ์ย่ำแย่เหลือทนของบริษัทประจำตระกูลทำให้เทียนเหอนึกอยากตายขึ้นมา

ถ้าไม่ได้ ‘โพรมีธีอุส’ ปัญญาประดิษฐ์ที่พ่อของเขาพัฒนาเอาไว้

ให้คำแนะนำว่าเทียนเหอน่าจะลองขอความช่วยเหลือจากกวนเยวี่ย

CEO สาขาจีนของบริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่ซึ่งเป็นหลานชายของเพื่อนสนิทคุณพ่อ

เทียนเหอคงจะทำตามที่โพรมีธีอุสแนะนำอย่างไม่ลังเล

ถ้าเพียงแต่...กวนเยวี่ยคนนั้นจะไม่ใช่แฟนเก่าของตัวเอง


คำนำสำนักพิมพ์เล่ม 1 :

ทัวริ่งโค้ดเป็นเรื่องราวของชายหนุ่มมากความสามารถสองคน หนึ่งคือทายาทคนเล็กของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่ต้องมารับผิดชอบบริษัทที่ล้มละลายจากการบริหารงานผิดพลาดของพี่ชาย ขณะที่อีกคนกำลังก้าวหน้าในตำแหน่ง CEO แห่งบริษัทเงินทุนข้ามชาติประจำสาขาประเทศจีน เส้นทางชีวิตของพวกเขานั้นราวกับว่าคนหนึ่งกำลังเดินขึ้นสู่ยอดเขา ส่วนอีกคนกำลังเดินลงสวนทางกันอย่างไม่มีวันบรรจบ นอกจากนี้...พวกเขาสองคนยังเคยเป็นคนรักกันมาก่อนเสียด้วย

 

แม้ความสัมพันธ์ในวันวานจะสิ้นสุดไปแล้ว แต่ทั้งคู่ต่างก็ยังรักกันไม่ต่างจากวันแรกที่ตกลงคบหาเช่นนั้นแล้วทำไมพวกเขาถึงต้องเลิกรา ทำไมจึงเลือกทำในสิ่งที่หัวใจไม่เห็นด้วย... คำถามนี้อาจจะต้องติดตามไปหาคำตอบกันในหน้าถัดไปแล้วล่ะค่ะ

 

สำนักพิมพ์เอเวอร์วาย

เล่ม 1 :

เหวินเทียนเหอได้รับตำแหน่งCEO บริษัทอิพีอุส บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ แทนพี่ชายคนรองเหวินเทียนเยวี่ย ไม่ถึงสามชั่วโมงครึ่งก็รับรู้ว่าบริษัทต้องยื่นขอล้มละลาย พี่ชายคนรองไม่ได้บอกเลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็หนีไปซานฟรานซิสโกซะแล้ว

ตอนนี้เหวินเทียนเหอต้องมารับผิดชอบคนเดียว อีกด้านหนึ่ง กวนเยวี่ยอดีตคนรักที่เคยเป็นคนดูแลตอนเรียนที่อังกฤษ และที่บ้านก็สนิทกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ ก็กำลังรุ่งกับการเป็นประธานของบริษัทเงินทุนข้ามชาติชิงซงสาขาประเทศจีน

ตอนนี้เหวินเทียนเหอต้องการชะลอการประเมินทรัพย์สินการฟ้องล้มละลาย เพราะได้พบกับเอไอที่พ่อของตัวเอง อาของกวนเยวี่ย และพี่ใหญ่ร่วมกันสร้างชื่อว่าโพรมีธีอุส โพรมีธีอุสได้ศึกษาต้นแบบมาจากกวนเยวี่ยในวัยเด็ก เลยมีลักษณะนิสัย และวิเคราะห์พฤติกรรมของกวนเยวี่ยได้แม่นยำ อีกทั้งเสียงยังใกล้เคียงกับกวนเยวี่ย

เทียนเหอจะคอยเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองกับกวนเยวี่ยให้ฟัง ว่าตอนเรียนเป็นยังไง เทียนเหอติดกวนเยวี่ย ไม่อยากให้ไปทำงานที่นิยอร์ก ส่วนกวนเยวี่ยอยากพิสูจน์กับครอบครัวสุดท้ายก็เพราะระยะทาง และความห่างไกล ยังมีอะไรอีกที่โพรมีธีอุสไม่รู้ ต้องเรียนรู้ต่อไป โพรมีธีอุสจะเป็นผู้ฟังที่ดี และแนะนำให้เทียนเหอขอความช่วยเหลือจากกวนเยวี่ย

กวนเยวี่ยมีเพื่อนสนิทคือถงข่ายทายาทฟาร์มนม จบฮาวาร์ด เทียนเหอมีเพื่อนสนิทคือเจียงจื่อเจี่ยน ถงข่ายกับเจียงจื่อเจี่ยนกำลังหาคนคบใหม่และทั้งสองคนก็ดันไปสมัครในเว็บหาคู่ ทั้งคู่ถูกใจกันโดยที่ไม่รู้ว่าต่างฝ่ายต่างรวยขนาดไหน ถงข่ายมีเครือญาติเป็นราชวงศ์ฮอลแลนด์ เจียงจื่อเจี่ยนพ่อมีกิจการโรงแรมมากมาย เรื่องฮาคือสองคนนี้ดันบอกอีกฝากว่าตัวเองเป็นพนักงานนวดเท้ากับเป็นพนักเปิดประตูโรงแรม คู่รองเพื่อพระเอกนายเอกคือฮามาก

กวนเยวี่ยต้องการช่วยเทียนเหอ มาเยี่ยมคุณปู่ที่ป่วยและเลี้ยงดูเมื่อตอนเด็ก และยังพูดเรื่องเทียนเหอ พ่อของกวนเยวี่ยเสนอให้หาคู่แต่งงาน นี่ก็ตกลง และตัวเองก็หาวิธีอื่นอยู่โดยให้บริษัทชิงซงค้ำประกัน

เทียนเหอสามารถพัฒนาโปรแกรมวิเคราะห์ตัวใหม่นำเสนอได้ และได้รับการยอมรับ แต่ยังไงกวนเยวี่ยก็บอกว่าได้ตกลงจะค้ำประกันให้อิพีอุสอยู่แล้ว เงื่อนไขสัญญามีถงข่ายเป็นคนร่าง เทียนเหอต้องไปทำงานที่บริษัทชิงซง พัฒนาโปรแกรมก่อนการประเมินวันที่หนึ่งมกราคม

ระหว่างนั้นเทียนเหอก็ต้องไปร่วมแสดงละครกับเจียงจื่อเจี่ยน พอมาเจอถงข่าย ถงข่ายก็ไม่บอกความจริงว่าอยากหาคู่ แต่ดันบอกว่าเป็นงานอดิเรกอ่านแล้วสุดฮากับคู่นี้เลย

เทียนเหอไปทำงานที่บริษัทชิงซงยังมีเรื่องที่ในชีวิตประจำวันเทียนเหอเป็นคุณชายรวยมาก ใช้ของแบรนด์เนมเหมือนของทั่วไป เสื้อผ้าก็สั่งตัดจากตระกูลคุณตา ที่ขนาดถงข่ายยังเป็นลูกค้า คนในบริษัทนินทากันใหญ่เรื่องความรวยนี่แหละ

จนถึงวันคริสต์มาสอีฟที่ถงข่าย กับเจียงจื่อเจียนวางแผนจะพบกัน เทียนเหอที่รู้เรื่องคนเดียวอยู่ระหว่างสองคนเจอสถานการณ์ที่ทำเอาหัวเราะแทบตายอยู่หลายครั้ง ครั้งนี้รวมเอาอู๋ซุ่นที่มาแสดงอีกคน ตอนแรกเทียนเหอนึกว่าอู๋ซุ่นเป็นพวกเดียวกันวันนี้ได้รู้ว่าคู่หมั้นที่กวนเยวี่ยคบอยู่เป็นอดีตคนรักที่เกือบแต่งงานกัน ทำให้รู้ว่าเป็นชายแท้ เรื่องราวยิ่งฮาเข้าไปใหญ่ จนอู่ซุ่นคืนดีกับแฟนเก่าส่วนกวนเยวี่ยก็ค่อนข้างคืนดีกับเทียนเหอ

ก่อนหน้านี้ขั้นตอนสุดท้ายของการคำนวณโปรแกรม เทียนเหอได้รับคำแนะนำจากกวนเยวี่ยทำให้แก้ไขโค้ดได้สำเร็จ คืนสิ้นปีเทียนเหอมาที่บริษัทเพื่อรอข้ามปี ก็ได้พบกับกวนเยวี่ยและได้ผ่านช่วงเวลาด้วยกันและแนะนำให้รู้จักกับโพรมีธีอุส กวนเยวี่ยได้โทรถามผลการประเมินและก็รู้ว่าผ่านการประเมินเรียนร้อย ตอนนี้เองที่โทรศัพท์ทางบ้านโทรมาแจ้งข่าวร้าย เทียนเหอตามกวนเยวี่ยกลับไปด้วยกัน

หลังอ่านเล่ม 1 :

เรื่องราววงการธุรกิจและการเงิน กับบริษัทเทคโนโลยี ทั้งกวนเยวี่ยและเทียนเหอต่างก็เป็นคนมีความสามารถทั้งคู่ เมื่อเทียนเหอได้รู้ว่ามีโพรมีธีอุสอยู่เรื่องราวในอดีตก็ค่อยเผยออกมา มาดูกันว่าทั้งคู่จะกลับมารักกันคืนดีกันได้ยังไง

ส่วนคู่รอง เพื่อนกวนเยวี่ย ถงข่ายกับเพื่อนของเทียนเหอ เจียงจื่อเจี่ยน สร้างสีสันสุดๆ อ่านแล้วคลายเครียดจากปัญหาคู่หลักเลยทีเดียว มาต่อเล่มสองเลยค่ะ เนื้อหาแน่น รายละเอียดเยอะมาก แบบทุกเรื่องราวนี่เข้าถึงรายละเอียดจริงๆค่ะ  



เล่ม 2 พิมพ์ครั้งที่ 2 : กรกฎาคม 2563

โปรยปกเล่ม 2 :

บ้านตระกูลกวนปกคลุมไปด้วยสีขาวราวกับไว้อาลัยให้กับการจากไปของปู่กวน

หิมะขาวโพลนและความหนาวเย็นอันเงียบสงัดของไท่หยวน

และกวนเยวี่ยที่มีสภาพเหมือนเครื่องแก้วราคาแพงอันเปราะบาง

ที่อาจจะแตกสลายไปได้หากถูกกระทบเพียงนิดเดียวในเวลานี้

ทำให้เทียนเหอรู้สึกคล้ายถูกบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก

แม้ภายนอกจะดูไม่ได้สนใจไยดีอีกฝ่ายมากไปกว่าสถานะคนรู้จัก

แต่เทียนเหอรู้ดีว่าในใจของตัวเองกังวลเรื่องความรู้สึกของกวนเยวี่ยมากแค่ไหน

เขาเลียบๆ เคียงๆ เสนอให้อีกคนย้ายมาอยู่ที่บ้านตระกูลเหวินด้วยกันสักพัก

แต่กวนเยวี่ยก็ปัดปฏิเสธข้อเสนอนั้นทิ้งไป เทียนเหอจึงนึกขึ้นได้ว่า...

พวกเขาไม่ได้เป็นคนรักกันอีกต่อไปแล้ว

เล่ม 2 :

เทียนเหอตามกวนเยวี่ยกลับมาบ้านตระกูลกวนที่ไท่หยวน ได้พบกับคุณปู่เป็นครั้งสุดท้าย ที่คุณปู่พูดคือจูงมือกันไว้ดูแลกันและกันให้ดี ตอนที่คุณปู่พูดเทียนเหอฟังไม่ชัด เพราะเป็นสำเนียงซานซีสุดๆ ต่อมาถึงรู้ว่าเป็นคำนี้ทำเอาเทียนเหอร้องไห้เลยทีเดียว เพราะพี่ชิว จางชิวเป็นคนบอก ทางบ้านของกวนเยวี่ย กวนเยวี่ยแสดงเหมือนยังเป็นแฟนกับเทียนเหอ มาในฐานะหลานสะใภ้ กวนเยวี่ยก็ไม่อธิบาย ปล่อยให้เข้าใจผิดไปแบบนั้น และคุณปู่ก็ทิ้งมรดกไว้ให้กวนเยวี่ยจนคนอื่นๆอิจฉาเลยทีเดียว

จนงานเสร็จสิ้นกลับมาทำงาน ที่บ้านก็ได้คืน คนในบ้านกลับมา เทียนเหอดีใจแต่กวนเยวี่ยรู้สึกว่ากำลังจะเสียเทียนเหอไปอีกครั้ง

เทียนเหอเริ่มวางแผนจะหาลูกทีมและตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่หลังตรุษจีน กวนเยวี่ยรู้แล้วว่าเทียนเหอจะออกจากชิงซงไป

สถานการณ์ของกวนเยวี่ยในชิงซงไม่ค่อยดี เพราะมีคนจากสำนักงานใหญ่มา ต้องการรวบอำนาจจากกวนเยวี่ย แอนดี้เป็นคนที่อยากได้ตำแหน่งของกวนเยวี่ยมากมาโดยตลอด โพรมีธีอุสวิเคราะห์ว่าสถานการณ์ของกวยเยวี่ยคือร้อยเปอร์เซ็นเพราะตัดสินใจแล้วนั่นเอง

เจียงจื่อเจี่ยนและถงข่ายอยากสารภาพความจริง เทียนเหอเลยบอกว่าลองบอกบางส่วน คนหนึ่งเลยบอกว่าที่ดินโดนเวนคืน อีกคนบอกว่าถูกลอตเตอรี่ เรื่องมั่วขึ้นเรื่อยๆจะแก้ยังไงเนี่ยคู่นี้

วันที่คนของสำนักงานใหญ่มา ถงข่ายกับเทียนเหอช่วยกันพูดแท็คทีมจนอีกฝ่ายไปไม่เป็นทีเดียว สุดท้ายผลปรากฏว่ากวนเยวี่ยตัดสินใจยื่นใบลาออกให้บอสใหญ่ที่อเมริกาไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็คงมีผลเพราะทางอเมริกาเช้าแล้ว เรื่องมาถึงที่สิ้นสุด มาริโอ้ที่ทำงานกับกวนเยวี่ยตั้งแต่ที่เก่าเป็นคนหักหลัง ตอนนี้โดนเสนอชื่อให้ไปทำงานที่เกาหลีเหนือ

เจียงจื่อเจี่ยนได้รับมอบหมายจากพ่อให้ทำคดีส่งเนื้อหมดอายุมาให้กับคู่ค้า เทียนเหอแนะนำให้ใช้บริษัทรั่วหลิน จื่อเจี่ยนบอกว่าแล้วทีมทนายล่ะ สรุปเทียนเหอเลยให้ยืมโพรมีธีอุสในวันที่จะเจอกัน

ถงข่ายรับคดีจากประธาน เป็นคดีเดียวกันยุ่งจนหัวปั่น มาเจอกันสุดท้ายได้รู้ความจริงว่าแต่ละคนเป็นใครยังไง ตอนนี้คืออย่างฮา

เทียนเหอออกมาตั้งบริษัทอิพีอุสต้องหาทีมงานใหม่ ให้กวนเยวี่ยเป็นประธาน และได้ให้ถงข่ายเป็นรองประธาน จื่อเจี่ยนยังมาเป็นพนักงานต้อนรับเลย เล่าคุณชายมารวมตัวกันที่บริษัทอิพีอุส และกวนเยวี่ยก็ตั้งบริษัทเยวี่ยเหอขึ้นใช้ที่ทำงานที่เดียวกัน

ตอนนี้มีข่าวว่าแอนดี้ต้องการจะใช้อำนาจของพ่อมาดูเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ของโพรมีธีอุส กวนเยวี่ยเสนอให้ย้ายเซิร์ฟเวอร์ ยังไงเทียนเหอก็ไม่เห็นด้วยเพราะไม่รู้จะกระทบต่อโพรมีธีอุสยังไง เทียนเหอไม่อยากเสี่ยง สุดท้ายก็ทะเลาะกัน วันนั้นโพรมีธีอุสตัดสินใจปิดตัวเอง บอกลาเทียนเหอตอนที่เทียนเหอหลับไป เทียนเหอเข้าโปรแกรมไม่ได้เพราะโพรมีธีอุสปิดตัวเอง ทำให้เศร้าไป

แต่ความจริงคือโพรมีธีอุสอยากให้เทียนเหอคืนดีกับกวนเยวี่ยเลยตัดสินใจแบบนี้ และไปตกลงกับกวนเยวี่ย ช่วยกวนเยวี่ยหาพี่รอง เหวินเทียนเยวี่ย และก็พบว่าอยู่ที่ควีนทาวน์ นิวซีแลนด์ กวนเยวี่ยเสนอให้ไป Team Building ที่นิวซีแลนด์ จุดประสงค์เพื่อหาพี่รอง และหาทางคืนดีกับเทียนเหอ เพราะก่อนหน้าที่โพรมีธีอุสจะจากไปสาเหตุก็เพราะกวนเยวี่ขอคืนดี แล้วเทียนเหอยังคิดไม่ตก ยังไม่ตอบตกลงนั้นเอง

ทั้งหมอออกเดินทางไปนิวซีแลนด์ ได้คิดถึงเรื่องราวในอดีต รู้ว่าทำไมเทียนเหอถึงเสียใจขนาดนี้ เพราะการบอกลามันเจ็บปวด จนถึงวันที่ไม่มีอะไรให้เสียแล้วก็ทำใจได้อย่างรวดเร็ว ไม่ได้มาก็ไม่เสียไป

วันเกิดของกวนเยวี่ยในที่สุดทั้งสองก็คืนดีกัน แล้ววันต่อมาก็เจอพี่รอง เหวินเทียนเยวี่ย กว่าเทียนเหอจะหายโกรธพี่รองทำเอาพี่รองอ้วกแตกไปหลายรอบ เพราะพลังโกรธต้องชดใช้ด้วยบันจี้จั้ม และกระโดดร่มไม่รู้กี่รอบ ในที่สุดก็รู้ว่าที่พี่รองหายไป เพราะอะไร พี่รองรู้เรื่องโพรมีธีอุสมาตลอดแต่ไม่เคยเจอ และก็รู้ว่ากวนเยวี่ยจะทำอะไร ทั้งหมดก็เรียนการเงิน การบริหารมาไม่ได้โง่ขนาดนั้นมองเกมขาดเหมือนกัน

ในที่สุดก็ถึงเวลาเดินทางกลับ เทียนเหอสงสัยว่าทำไมกวนเยวี่ยถึงรู้ว่าพี่รองอยู่ที่นี่ และทำไมถึงใส่หูฟังอยู่ตลอด โพรมีธีอุสอยู่กับกวนเยวี่ยนี่เอง

หลังอ่านเล่ม 2 :

ผ่านไปอีกช่วง กวนเยวี่ยออกจากบริษัทมาตั้งบริษัทเอง ตอนนี้อิพีอุสมีแต่คุณชายเป็นผู้ถือหุ้นทั้งนั้น แล้วโพรมีธีอุสที่หายไปล่ะ เทียนเหอจะถอดรหัสตามกลับมายังไง พอไม่มีโพรมีธีอุส เทียนเหอก็เศร้าลงไปเยอะเลย เล่มนี้เรื่องราวคลี่คลาย ผ่านไปอีกระดับ บริษัทเปิดใหม่ ตามหาพี่รอง ความสัมพันธ์ของตัวเอก และโพรมีธีอุส มาตามต่อในเล่มจบค่ะ ทั้งอารมณ์ขัน ฮา แถมยังมีซาบซึ้งกับความรักอีก  และรายละเอียดต่างจัดเต็มมากจริงๆค่ะ


เล่ม 3 พิมพ์ครั้งที่ 1 : กันยายน 2563

โปรยปกหลังเล่ม 3 :

ทุกครั้งที่กวนเยวี่ยนึกถึงเรื่องราวในอดีต

ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เพิ่งรับเทียนเหอมาอยู่ด้วยกันที่ลอนดอน

หรือตอนที่นอนดูวาฬหัวทุยอวดโฉมเคียงข้างกันกลางมหาสมุทรอินเดีย

ภาพเหล่านั้นล้วนเป็นความสุขที่อัดแน่นในความทรงจำเสมอมา

ในขณะที่ช่วงเวลาที่เลิกรากันไปนั้น

เป็นเหมือนความผิดพลาดที่กวนเยวี่ยจำฝังใจ

ในใจราวกับถูกทิ่มแทงด้วยเข็มพันเล่มทุกครั้งที่นึกถึง...

แต่ฝันร้ายที่อยากลืมพวกนั้นผ่านพ้นไปแล้ว มันทำให้กวนเยวี่ยคิดอยู่ตลอดว่า

โชคดีจริงๆ ที่วันนี้เขาได้เป่าเปากลับคืนมา

คำนำสำนักพิมพ์เล่ม 3 :

ในที่สุดหนึ่งในตัวปัญหาอย่างเหวินเทียนเยวี่ยพี่ชายคนรองของเทียนเหอก็กลับมา ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์แบบแฟนเก่าที่ยึกยักกันมาสักพักระหว่างกวนเยวี่ยและเทียนเหอก็พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งไปกว่านั้นก็คือเจ้าโพรมีธีอุสเองก็กลับมาแล้วเหมือนกัน!...

 

สำนักพิมพ์เอเวอร์วาย

เล่ม 3 :

ทั้งหมดกลับมาที่จีน เทียนเหอให้พี่รอง เหวินเทียนเยวี่ยไปพักที่บ้านเก่า และบอกว่าอย่าทำโมเดลเรือที่กวนเยวี่ยต่อเอาไว้พัง ส่วนกวนเยวี่ยมาอยู่ที่บ้านเป็นเจ้าบ้านไป

ถงข่ายได้รับการปกป้องดูแลอย่างดีจากพ่อบ้าน สร้างความงุนงงอย่างมาก และต้องใส่สร้อยติดตามตัวที่เหมือนระเบิดทำเอาคนเข้าใจผิดกันไปหมด เพราะว่ามีข่าวออกมาว่าถงข่ายมีสิทธิ์ได้เป็นรัชทายาทขึ้นเป็นกษัตริย์ฮอลแลนด์ เรื่องนี้โพรมีธีอุสก็คาดการณ์เอาไว้

ตระกูลเจียงจัดงานเลี้ยงสิ้นปี พวกเทียนเหอไปร่วมงานด้วย และเจียงเฉาเซิงตกลงช่วยเหลือในการร่วมมือเพื่อให้ได้คุยกับแอนดี้โดยจะจัดงานเลี้ยงขึ้น

ระหว่างงานเลี้ยงคือมีคนแอบเข้าบ้านตระกูลเจียง ก็มีเรื่องฮาๆ และก็การคุยธุรกิจกัน สลับฉากไปมาแบบให้ได้ขำสุดๆ พอกลับถึงบ้านถึงได้รู้ว่าคนที่แอบเข้าบ้านคือพี่ใหญ่ เหวินเทียนเหิงที่ทำงานเพื่อชาติไม่ได้เจอกันยี่สิบปีกลับมาแล้ว พี่ใหญ่เก่งมากแต่ดูแล้วผิดยุคผิดสมัยไปเลย ถามถึงจางชิวพอรู้ว่าอยู่บ้านเก่ากับเหวินเทียนเยวี่ยก็รีบกลับไปจัดการ

เรื่องราววุ่นวายกว่าจะเรียบร้อย ทั้งพี่ใหญ่ยังรู้เรื่องของเทียนเหอกับกวนเยวี่ยตอนแรกยังรับไม่ได้ บอกว่ามีความรู้สึกว่าที่บ้านแตกตอนนั้นเพราะพ่อ เหวินหยวนข่าย กับคุณอากวน กวนเจิ้งผิงมีใจให้กัน เป็นแค่ความรู้สึก แต่ก็ทำให้ต่อต้านพวกเกย์ ตอนหลังก็ค่อยๆรับได้ เพราะเหวินเทียนเหิงรักเป่าเปาอย่างแท้จริง

คราวนี้ก็มีสามพี่น้องตระกูลเหวินอยู่พร้อมหน้า เหวินเทียนเหิงดูโปรแกรมของโพรมีธีอุสและถามว่าจะอัพเกรดตัวเองเป็น 4.0 ในเร็วนี้ เทียนเหอคิดแล้วก็ตอบว่าส่วนที่ทำให้โพรมีธีอุสอัพเกรดน่าจะเป็นเพราะเรื่องราวความรักของตัวเองที่เล่าให้โพรมีธีอุสฟัง

ตอนนี้ทั้งหมดร่วมมือกันจัดการกับแอนดี้ ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งล้มละลาย กวนเยวี่ยและเทียนเหอวางแผนให้แอนดี้แอบขโมยข้อมูลของโพรมีธีอุส จากนั้นก็ส่งโทรจันเข้าไปเล่นงาน แผนวางไว้เป็นขั้นตอนมาก แต่ระหว่างนั้นยังเกิดเรื่องขึ้นคือถงข่ายรู้ว่าตัวเองต้องเป็นรัชทายาทฮอลแลนด์ เจียงจื่อเจี่ยนกับถงข่ายบอกเลิกกันทั้งที่ยังรักกันอยู่ ทั้งคู่ยอมเป็นฝ่ายรับแต่สุดท้ายคนที่เป็นฝ่ายรับก็คือถงข่ายเพราะว่าไม่เคยมาก่อน

เทียนเหอเล่าเรื่องราวความรักแต่ละช่วงเวลาให้โพรมีธีอุสฟัง จนครั้งสุดท้ายก่อนศึกใหญ่โพรมีธีอุสก็เข้าสู่กระบวนการอัพเกรดไปก่อน กวนเยวี่ยเลยคิดวิธีใช้เสียงตัวเองปลอมเป็นโพรมีธีอุส และอาศัยความสามารถการวิเคราะห์ต่างๆ มาดำเนินการตามแผนต่อไป ล่อให้แอนดี้ติดกับ

แผนการดำเนินไป สงครามการเงินโดยใช้หุ้นของทองแดงในตลาดชิลีเริ่มขึ้น ยังมีตัวแปรคือจอห์นนี่ จากกองทุนคีโรที่ไม่รู้อยู่ฝ่ายไหนคอยซ้ำอยู่ ดีที่โพรมีธีอุสขนาดกำลังอัพเกรดก็ยังสามารถช่วยเหลือ บอกใบ้เรื่องที่ตัวเองสอดส่องได้ให้เทียนเหอรู้ ทำให้แก้ไขสถานการณ์ที่เกือบตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้ทัน

ในที่สุดก็ชนะศึก แอนดี้แพ้หมดกระดาน กวนเยวี่ยจัดฉลองชัยชนะที่เรือสำราญ เทียนเหอพูดคุยกับพี่ใหญ่เหวินเทียนเหิง เหวินเทียนเหิงบอกว่าจะเดินทางไปเที่ยวรอบโลกพร้อมกับจื่อเจี่ยน เทียนเหอเล่าเรื่องราวตอนที่กวนเยวี่ยสารภาพว่าจะคบกันในตอนอายุสิบแปดปีให้ฟัง ตอนนั้นเรียกได้ว่าเล่าให้โพรมีธีอุสฟังด้วย และแล้วโพรมีธีอุสก็อัพเกรดตัวเองเรียบร้อย สามารถควบคุมเซิร์ฟเวอร์ที่ไหนก็ได้ กลายเป็นเทพอย่างแท้จริง แต่ทุกคนก็กลัวการมีอยู่ของโพรมีธีอุสไปซะแล้ว มีแต่เทียนเหอที่รู้สึกว่าไม่ควรกลัว และสามารถสั่งลบโพรมีธีอุสได้ โพรมีธีอุสได้ตามหากวนเจิ้งผิงให้ และเมื่อได้พูดคุยกับกวนเจิ้งผิงก็รู้ว่าโพรมีธีอุสคือการคงอยู่ของความรักระหว่างกวนเยวี่ยและเทียนเหอ

ในที่สุดเทียนเหอ กวนเยวี่ยเปิดตัวโพรมีธีอุสในฐานะเอไอที่ซิลิคอนแวลลีย์ ในการทดสอบทัวริงและได้รับเสียงตอบรับมากมายที่ทุกคนไม่สามารถบอกได้ว่าโพรมีธีอุสคือเอไอ นี่คืออีกก้าวของเทคโนโลยี โพรมีธีอุสเรียนรู้ที่จะรัก เพราะความรักของเทียนเหอและกวนเยวี่ยทำให้โพรมีธีอุสมีตัวตนในที่สุด การเปิดตัวประสบความสำเร็จ

กวนเยวี่ยเตรียมแฟลชม็อบวงดนตรี โดยการเชื่อมต่อมายาและความเป็นจริง ความทรงจำและปัจจุบัน อดีตและอนาคต ท่ามกลางเสียงเพลง Canon ผสม Ode to Joy ความโรแมนติกของบาคและความแข็งกร้าวของบีโธเฟน หิมาลัยสูงตระหง่านและเทือกเขาแอลป์ที่ทอดยาว แสงจันทร์และเหรียญทองที่ระยิบระยับทั่วพื้น กาแฟและชานม ... เพื่อขอเทียนเหอแต่งงาน

ตอนพิเศษ The Last Movement

การแต่งงานของเหวินเทียนเยวี่ยและจางชิวในวันที่สิบเอ็ดเดือนสิบเอ็ด เหวินเทียนเหิงขอให้วัลโปลิเชลล่าหรือที่เรียกว่าเซี่ยงเฉิงกับฉือเสี่ยวตัวเอาแคปซูลลืมจนสิ้นมาให้ เพื่อให้ลืมความรักที่เคยมีแล้วจะได้เดินหน้าต่อไป แต่เรื่องกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเพราะคนที่กินแคปซูลเข้าไปกลับกลายเป็นกวนเยวี่ยและถงข่าย วันรุ่งขึ้นก็ลืมไปหมด กว่าจะหาทางแก้ได้ความจำของกวนเยวี่ยคือตอนที่ได้เจอเทียนเหออีกครั้งที่อังกฤษ พอได้ยาแก้มาถงข่ายหายดีแต่กวนเยวี่ยกลับต้องใช้เวลาประมวลผลมากมาย แล้วยังต้องไปร่วมงานประชุมทางกลยุทธ์และเทคโนโลยีไอทีที่เมืองซานย่า ตอนนี้ต้องให้โพรมีธีอุสช่วย แต่ในที่สุดเรื่องทุกอย่างก็สามารถผ่านพ้นไปได้ โพรมีธีอุสสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้อย่างแน่นอน

หลังอ่านเล่ม 3 :

ในที่สุดก็ตามตัวพี่รองเหวินเทียนเยวี่ยเจอ แล้วพี่ใหญ่เหวินเทียนเหิงก็กลับมา ตระกูลเหวินร่วมมือกับกวนเยวี่ย โพรมีธีอุสก็อัพเกรดตัวเองสำเร็จเป็นเวอร์ชั่น 4.0 เรื่องราวทุกอย่างของโพรมีธีอุสเกิดขึ้นเพราะความรักของเทียนเหอและกวนเยวี่ย ทั้งสองเป็นคนที่ทำให้โพรมีธีอุสมีตัวตน เกิดขึ้นเพราะความรักของกันและกัน

เรื่องราวเข้มข้น และคลี่คลายปมในทุกด้านว่าเพราะอะไรสิ่งต่างๆจึงเกิดขึ้น สนุก ซาบซึ้งพร้อมเสียงฮาของคู่รอง เจียงจื่อเจี่ยนและถงข่ายจริงๆค่ะ ทุกอย่างเป็นส่วนผสมที่ลงตัวจริงๆ


 เนื้อเรื่อง :

เหวินเทียนเหอได้รับตำแหน่งCEO บริษัทอิพีอุส บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ แทนพี่ชายคนรองเหวินเทียนเยวี่ย ไม่ถึงสามชั่วโมงครึ่งก็รับรู้ว่าบริษัทต้องยื่นขอล้มละลาย พี่ชายคนรองไม่ได้บอกเลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็หนีไปซานฟรานซิสโกซะแล้ว

ตอนนี้เหวินเทียนเหอต้องมารับผิดชอบคนเดียว อีกด้านหนึ่ง กวนเยวี่ยอดีตคนรักที่เป็นพี่ชาย คนดูแลตอนเรียนที่อังกฤษ และที่บ้านก็สนิทกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ ก็กำลังรุ่งกับการเป็นประธานของบริษัทเงินทุนข้ามชาติชิงซงสาขาประเทศจีน

ตอนนี้เหวินเทียนเหอต้องการชะลอการประเมินทรัพย์สินการฟ้องล้มละลาย เพราะได้พบกับเอไอที่พ่อของตัวเองเหวินหยวนข่าย อาของกวนเยวี่ย กวนเจิ้งผิง และพี่ใหญ่ เหวินเทียนเหิงร่วมกันสร้างชื่อว่าโพรมีธีอุส โพรมีธีอุสได้ศึกษาต้นแบบมาจากกวนเยวี่ยในวัยเด็ก เลยมีลักษณะนิสัย และวิเคราะห์พฤติกรรมของกวนเยวี่ยได้แม่นยำ อีกทั้งเสียงยังใกล้เคียงกับกวนเยวี่ย

โพรมีธีอุสแนะนำให้เทียนเหอไปขอร้องกวนเยวี่ยที่บริษัท กวนเยวี่ยมีความคิดที่จะช่วยเหลืออยู่แล้ว เรื่องราวดำเนินไป เทียนเหอจะคอยเล่าเรื่องราวความรักระหว่างตัวเองและกวนเยวี่ยให้โพรมีธีอุสฟัง โพรมีธีอุสจะคอยวิเคราะห์ และเป็นเพื่อนเทียนเหอในช่วงเวลาเงียบเหงาเหล่านี้

ในเนื้อเรื่องยังมีคู่รองคือเพื่อนของพระเอก ถงข่ายกับ เจียงจื่อเจี่ยนเพื่อนของเทียนเหอ ที่คอยมาสร้างสีสันเสียงหัวเราะ จากเรื่องเครียดๆ ที่ตัวเอกทั้งสองก่อขึ้น คือคู่หนึ่งก็รักกันลึกซึ้งแต่ทำไมเพราะอะไรถึงได้เลิกกัน ต้องมาร่วมวิเคราะห์หาคำตอบไปกับโพรมีธีอุส และจะได้รู้เหตุผลการมีอยู่ของโพรมีธีอุส

อีกด้านก็คือการต่อสู้ทางธุรกิจ การใช้ความรู้ทางเศรษฐศาสตร์กับความรู้ทางเทคโนโลยีเข้าควบคุมตลาดหุ้น ตลาดการเงินและเทคโนโลยี เนื้อเรื่องเขียนและบรรยายได้อย่างลงตัว ทั้งด้านบทเพลงที่สื่อถึงความชอบ ลักษณะนิสัย ความชอบของแต่ละบุคคลที่สุดท้ายแล้วจะสอดประสานกันได้ยังไง คอยติดตามไปพร้อมกับโพรมีธีอุสที่จะหาคำตอบให้กับความรักครั้งนี้ของเทียนเหอและกวนเยวี่ยไปด้วยกันเลย

หลังอ่าน :

เรื่องราวความรักของกวนเยวี่ยและเทียนเหอ ทั้งสองคนสองตระกูลที่ดูแลกันมาตั้งแต่เด็ก และเหตุผลของการมีโพรมีธีอุสบนโลกนี้ นักเขียนได้สื่อให้เห็นถึงความรักของทั้งสอง ทั้งที่แตกต่างแต่ก็สามารถอยู่ร่วมกัน ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆมาได้

คู่รองคู่เพื่อนพระเอกนายเอก เป็นคู่ที่เพิ่มสีสันความฮาให้กับเนื้อเรื่องจริงๆ คู่เอกนี่ความรักลึกซึ้ง คู่รองนี่แย่งซีนเพราะความฮาได้เลยทีเดียว

เส้นเรื่องทางธุรกิจ การตลาด วงการเทคโนโลยีคือละเอียดมาก มีทั้งอารมณ์ขัน ซาบซึ้ง กินใจ อ่านไปแล้วได้ร่วมลุ้นไปในทุกช่วงของเนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบเลยทีเดียว ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ


30/10/63

  

 

 

  

 

 


Monday, October 19, 2020

เทพบุตรแห่งชาติกับคุณผู้ชายคนนั้น #3เล่มจบ #นิยายแปลจีนวายปัจจุบัน #BL #นิยายวาย #วงการบันเทิง

 Review 34/2563

เรื่อง : เทพบุตรแห่งชาติกับคุณผู้ชายคนนั้น (3เล่มจบ) #นิยายแปลจีนวายปัจจุบัน #BL #นิยายวาย #วงการบันเทิง

ผู้แต่ง : เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ๋ง (Yue Xia Die Ying)

ผู้แปล : ศีตกาล

ภาพ : Kanapy

สำนักพิมพ์ : Rose Publishing

เล่ม 1 พิมพ์ครั้งที่ 1 : กรกฎาคม 2563

โปรยปก:

รูปหล่อ บ้านรวย พ่อแม่รัก แสดงเก่ง จบจากมหาวิทยาลัยดัง แถมผลการเรียนศึกษายังยอดเยี่ยม

ทั้งหมดที่กล่าวมาคือ "กงซีเฉียว" คุณชายแห่งบ้านกงซี

เขาเติบโตมาพร้อมกับการสปอยล์สุดโต่งของพ่อและแม่

แต่กลับไม่เป็นคุณชายนิสัยเสีย

 

หลังจากพบว่าตังเองมีความสามารถด้านการแสดงไม่ยิ่งหย่อน

ไปกว่าใคร ชายหนุ่มก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง

จะมีอะไรมาขัดขวางคนที่มีความสามารถในศาสตร์โบราณจากชาติก่อน

ติดตัวมาด้วยได้ เขียนอักษร วาดภาพพู่กันจีน ดีดฉิน

ทุกสิ่งล้วนเป็นตัวช่วยพาชายหนุ่มให้ชื่อเสียงเลื่องลือ

 

ทว่าต่อให้เป็นเทพเซียนสวรรค์ก็ยังมีช่วงเวลาต้องลงมาผ่านด่านเคราะห์

เมื่อรูปโฉมหล่อเหลานำพาให้คนชื่นชม ก็ต้องมีคนชิงชังริษยา แต่ในบรรดา

ผู้คนนับไม่ถ้วนเหล่านั้น การที่ผู้นำเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลใหญ่

ระดับประเทศอย่าง "สีชิง" โคจรเข้ามาในชีวิตและประกาศตัว

เป็นแฟนคลับของเขานับเป็นเรื่องที่ยากจะบอกใครจริงๆ!!!

 

คำนำสำนักพิมพ์ :

กลับมาพบกับผลงานของเยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่งกันอีกครั้ง กับเรื่องราวที่อ่าน ได้สบายๆ ยิ้มไปกับตัวละคร แต่ก็มีเรื่องให้เอาใจช่วยไปตลอด นักเขียนยังคงมีสไตล์การเล่าเรื่องชีวิตเรียบง่าย แต่มาพร้อมมุมมอง แง่คิดที่อาจเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยซึ่งเรามองข้ามไป แน่นอนว่าเราเชื่อมั่น อย่างยิ่งว่าทุกคนจะหลงรักคุณชายกงซีเฉียว พ่อเทพบุตรแห่งชาติเหมือน อย่างที่เราและบรรดาแฟนคลับของเขาเป็น

 

Rose Publishing

 

กรกฎาคม 2563



เล่ม 1 :

กงซีเฉียวมารับบทพระรองอันดับสองเรื่องปี้เยว่กงจู่ เรียกว่าเป็นเส้นของโปรดิวเซอร์เหยาที่เป็นเพื่อนกับพ่อ กงซีสยาก็ได้ ที่บ้านกงซีเฉียวทำเหมือง บ้านรวยเป็นคุณชาย ตัวเองเรียนเอกประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยตี้ตูแต่สนใจด้านการแสดง เป็นเพราะชาติก่อนเกิดในกลียุค เคยอยู่ข้างกายจักรพรรดิ รู้ว่าอะไรสมควรไม่สมควรทำ รู้จักกาลเทศะ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากจักรพรรดิจนวันตาย เพราะแบบนี้จึงคิดว่าตัวเองเหมาะกับอาชีพนักแสดงจึงมาลองดู คนอื่นไม่รู้ก็คิดว่ากงซีเฉียวเป็นพวกลูกเลี้ยงของใครซักคน นี่คือคนช่างนินทาคิดว่ากงซีเฉียวมีคนอุปถัมภ์ เพราะเอาเงินมาช่วยกองถ่ายเลยได้แสดงในละครด้วย มีไม่กี่คนที่รู้ว่ากงซีเฉียวลูกชายเจ้าของเหมืองบ้านรวย

แล้วกงซีเฉียวก็เข้าถึงบทบาทได้อย่างดี ทั้งดีดฉินได้ พ่อและแม่ที่บ้านก็ชอบอวดลูก ซื้อแต่ของดีที่สุดแพงที่สุดเอาไว้ให้ใช้ โทรศัพท์มือถือรุ่นอะไรออกใหม่เป็นต้องซื้อมาให้เปลี่ยน เสื้อผ้าต่างๆ นานา บทที่ได้รับแสดงจบไปก่อน พอรูปที่ถ่ายฟิตติ้งเผยแพร่แทนพระรองอันดับสองคนก่อนที่มีเรื่องยาเสพติดต้องเปลี่ยนตัวก็เกิดการเปรียบเทียบ และเป็นกระแสในโลกออนไลน์ ตอนนี้ก็ได้มาออกรายการวาไรตี้ที่ทางสถานีออกอากาศ

ตอนที่กงซีเฉียวถ่ายฉากของตัวเองเสร็จเดินทางกลับตี้ตูได้เจอกับสีชิงแต่ไม่สนใจ ทั้งสีชิงยังเห็นบนเครื่องชั้นเฟิร์ส คลาสที่นั่งใกล้ตัวเองอีกด้วยสิ

จนใกล้เวลาเปิดตัวละครก็ได้รับเชิญไปออกรายการวาไรตี้ แนะนำละครโจวหวายเซิงที่เป็นพระเอก รู้สึกว่าพระรองที่เป็นเด็กใหม่คนนี้น่าจะกำจัดทิ้งไปก่อนที่จะดังก็หาทางเล่นงาน ทั้งแอบส่งรูปถ่ายที่คุณพ่อกงซีสยามารับ แล้วก็สร้างข่าวลือว่าเป็นลูกเลี้ยง

คุณพ่อกงซีสยาจะทนไหวที่ไหน จากพ่อแท้ๆกลายมาเป็นพ่อเลี้ยง เลยสมัครแอคเคาท์เวยปั๋วประกาศว่าเป็นพ่อแท้ๆ และพอรายการวาไรตี้ออกอากาศเรตติ้งของรายการก็สูงขึ้น คราวนี้ทางสถานีจึงหาทางเชิญกงซีเฉียวมาสัมภาษณ์ใหม่อีกครั้ง

การสัมภาษณ์ในรายการทอล์คโชว์คราวนี้กงซีเฉียวได้แสดงความสามารถด้านดีดฉินด้วย ช่วงเวลาที่รายการออกอากาศเป็นเวลาที่สีชิงบังเอิญไปเปิดโทรทัศน์ทำให้ได้ฟังเสียงฉินที่กงซีเฉียวเล่น พอจบก็ปิดทันที

เมื่อละคร ปี้เยว่กงจู่ ออกอากาศถึงตอนที่สวีรุ่ยเหิงที่กงซีเฉียวแสดงเรตติ้งก็ยิ่งเพิ่มขึ้น แม้จะเป็นละครน้ำเน่าแต่ก็มีคนดูผิดคาด

เรื่องราวในเว็บบอร์ดทำให้กงซีเฉียวเป็นกระแสร้อนแรง จนถึงขนาดมีคนไปถามถึงมหาวิทยาลัยตี้ตู มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศ สุดท้ายทางมหาวิทยาลัยก็ออกมายอมรับว่ากงซีเฉียวเป็นบัณฑิตที่ยอดเยี่ยมของมหาวิทยาลัย ได้รับรางวัลมากมาย คนในโลกออนไลน์ยิ่งเห็นความสามารถ รวมถึงฐานะทางบ้าน เรียกกงซีเฉียวว่าคุณชายเฉียว เทพบุตรไปเลยเพราะทั้งหน้าตาดี บ้านรวย นิสัยดี ผลการศึกษายอดเยี่ยม อย่างนี้ไม่ได้เป็นเทพบุตรแล้วใครจะเป็นเทพบุตรได้

เหอเผิงผู้ช่วยที่คุณพ่อกงซีหามาให้บอกว่ามีบริษัทต้นสังกัดดาราหลายบริษัทอยากเซ็นสัญญาด้วย กงซีเฉียวเห็นแล้วเหลือพิจารณาสองบริษัทคือหวานซิงอวี๋เล่อ เสนอสัญญาสี่ปี กับบริษัทเซินเหออวี๋เล่อ เสนอสัญญาสามปี กงซีเฉียวเลือกที่จะไปเจรจากับบริษัทเซินเหออวี๋เล่อเพราะมีดาราในสังกัดน้อยกว่า

กงซีเฉียวมาคุยเรื่องสัญญากับเฉินเคอเมื่อตกลงกันได้ว่าพรุ่งนี้ก็จะไปเซ็นสัญญาที่บริษัท ระหว่าที่จะกลับก็มีอุบัติเหตุรถยนต์เสียการทรงควบคุมชนเสาไฟและมาชนรถของกงซีเฉียว เมื่อบอดีการ์ดฝ่ายนั้นลงมาก็ชดใช้ค่าเสียหายให้เรียบร้อย กงซีเฉียวไม่เอาเรื่อง เมื่อเจ้านายที่นั่งด้านหลังลงมาเห็นกงซีเฉียวก็จะชวนไปกินข้าวเป็นการขอโทษ กงซีเฉียวคิดระแวงไว้ก่อนจึงปฏิเสธไป เจ้านายคนนั้นก็คือสีชิง จากเหตุการณ์อุบัติเหตุนี้ทำให้สีชิงตัดสินใจจัดการหนอนบ่อนไส้ที่อยู่เบื้องหลังทิ้งซะ

เมื่อเซ็นสัญญากันเรียบร้อยทางบริษัทจะส่งผู้ช่วยมาให้อีกคน ตอนนี้กงซีเฉียวต้องไปอัดรายการกับนักแสดง ปี้เยว่กงจู่ แต่เพราะรู้เรื่องที่โจวหวายเซิงทำกงซีเฉียวแม้ภายนอกจะปฏิบัติตัวดี แต่ความจริงก็แก้แค้นไม่ให้อีกฝ่ายได้เสนอหน้าอย่างแนบเนียน

มีบทมาให้เลือก กงซีเฉียวเลือกมาสองบทคือบทพระรองในภาพยนตร์ กับบทพระเอกในละครโทรทัศน์ที่ดัดแปลงมาจากคนสำคัญในประวัติศาสตร์

การออดิชั่นบทพระเอกนี้กงซีเฉียวรู้ว่าตัวเองถูกกลั่นแกล้งให้ออดิชั่นฉากที่ยากกว่านักแสดงคนอื่น แม้จะใช้ความสามารถผ่านไปได้ดี แต่ก็ไม่ตกลงที่จะร่วมงานด้วยแล้วเพราะการแกล้งของฝ่ายผู้จัดที่จะหาข้อตำหนิเมื่อเกิดข้อผิดพลาด

กงซีเฉียวรับงานเรื่อง เซียนซานเยวี่ยน  ได้เจอจ้าวอี้คุนที่เป็นคุณชายชอบเล่นเกมอีกครั้ง หลังจากนี้จ้าวอี้คุนจะโดนกงซีเฉียวปราบจนอยู่หมัด กงซีเฉียวแสดงเป็นนำชาย B คู่กับเจิ้งเหล่ย ผู้กำกับจูสนิทกับผู้กำกับจางที่กำกับ ปี้เยว่กงจู่ ทำให้รู้สึกดีกับกงซีเฉียว ทั้งกองปฏิบัติกับกงซีเฉียวอย่างดี คุณชายเฉียวเป็นที่รักกับคนทั้งกอง

หมี่เยว่ที่เป็นนางเอกของเรื่องได้ข่าววงในมาว่าตระกูลสีอาจจะลงทุนก้อนใหญ่สร้างภาพยนตร์แฟนตาซี

ช่วงสองเดือนนี้กงซีเฉียวต้องวิ่งรอกสองกองถ่าย จิ้วซยงต้าเหริน ภาพยนตร์ที่กงซีเฉียวเล่นเป็นพระรอง พี่ชายพระเอกปิดกองแล้ว และกงซีเฉียวยังนำเงินทุนมาช่วยโปะหนังเรื่องนี้อีกด้วย เลยกลายเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนไป

กงซีเฉียวชอบโพสต์รูปอาหาร และที่เป็นที่สังเกตคือโทรศัพท์มือถือจะเปลี่ยนยี่ห้ออยู่เรื่อย จนมีฉายาคนบ้าเห่อมือถือ ทั้งที่ความจริงเป็นคุณแม่เฉียว

หนึ่งเดือนให้หลัง เซียนซานเยวี่ยน ปิดกล้องในที่สุด กงซีเฉียวก็ได้รับหนังสือเชิญช่องภาพยนตร์และละครแห่งชาติ เพราะผู้อาวุโสเฉียนทายาทของบุคคลในประวัติศาตร์เห็นแล้วถูกใจหน้าตาว่าคล้ายคุณทวด จากนั้นก็ไปหาประวัติ คำรับรองของกงซีเฉียวที่มหาวิทยาลัยตี้ตูทำให้เชื่อมั่น

เมื่อกงซีเฉียวได้รับเชิญให้มาออดิชั่นก็ทำการบ้านศึกษาท่านนายพลเจิ้งเสว์กั๋วอย่างดี เพราะความชื่นชมในวีรบุรุษแห่งชาติ ตอนมาออดิชั่นกงซีเฉียวถ่ายทอดอารมณ์ได้เป็นอย่างดีทำให้สามผู้กำกับพอใจว่าในที่สุดก็หานักแสดงได้แล้ว ละครเรื่องนี้ผลิตขึ้นเพื่อฉลองวันก่อตั้งประเทศครบหนึ่งร้อยปี

ตอนกลับในลิฟต์กงซีเฉียวยังเจอกับสีชิง และสีชิงบอกว่าตัวเองเป็นแฟนคลับของกงซีเฉียวขอถ่ายรูป และให้นามบัตร เมื่อกงซีเฉียวเห็นชื่อสีชิงและเบอร์โทรก็ให้นามบัตรแลกเปลี่ยนเมื่อเห็นว่าสีชิงเก็บนามบัตรของตัวเองอย่างดี ก็รู้สึกดีมาก สีชิงพอแยกจากกงซีเฉียวก็บอกผู้ช่วยว่าอย่าลือส่งรูปมาให้ด้วย นิ่งมากจริงๆ

แล้วสีชิงก็คิดได้ว่าคนที่แต่งเป็นจักรพรรดิตอนนั้นเป็นคนเดียวกับเด็กมัธยมปลายที่ต่อสู้ในวันที่พ่อแม่ของเขาถูกคนของตระกูลวางแผนฆ่า จากนั้นก็ร่วมกันต่อสู้เสร็จแล้วก็กินเนื้อย่างและดื่มเบียร์ข้างถนนด้วยกัน ตี้ตูใหญ่ขนาดนี้เมื่อกลายเป็นผู้นำตระกูลแล้วก็หาคนที่ร่วมดื่เบียร์วันนั้นไม่พบ และก็เล็กขนาดนี้ที่วันที่รถมีปัญหาก็พบโดยบังเอิญอีกครั้ง

สองวันให้หลังเฉินเคอก็ได้รับประกาศจากกอง กั๋วเย่ ของสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ให้ไปเซ็นสัญญา

การถ่ายกั๋วเย่รวมนักแสดงมากมาย ทั้งราชาจอเงินเหลียงอวี่เมิ่ง ราชินีจอเงินไต้นี และเหล่าผู้อาวุโสที่เรียกว่าศิลปินอย่างเนี่ยฉี่เฉิง เสี่ยวเฉียวสามารถทำให้คนในกองให้ความรักความเอ็นดูได้ทั้งหมด ทั้งผู้กำกับ ทั้งนักแสดง การถ่ายทำเป็นแบบปิด ภายนอกก็ยังมีข่าวไม่เชื่อถือว่าทำไมกงซีเฉียวถึงได้รับบทนายพลเจิ้ง จนผู้อาวุโสเฉียวออกมาชี้แจง

ผู้กำกับหวางก็รู้สึกดีกับเสี่ยวเฉียว ในกองก็ถ่ายไป โลกภายนอก จิ้วซยงต้าเหริน ได้เข้าฉาย ทำเรื่องเหนือคาดเพราะทุกรอบคนดูเต็มโรง เป็นที่กล่าวขวัญและต้องเพิ่มรอบฉาย ทำรายได้ถล่มทลายแซงหนังทุนสูงอย่าง เฟิงเซียวเซียว และได้รับเสียงตอบรับที่ดี ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวก

แล้วก็มีแฟนคลับผู้ไม่เปิดเผยนามอย่างสีชิงเหมาโรงเกทับกับคุณพ่อกงซี ฮ่าๆๆๆ

เรื่องพวกนี้อยู่นอกกองกั๋วเย่ ในกองกงซีเฉียวก็ยังปกติดี เหลี่ยงอวี่เมิ่งที่เป็นพระเอกจอเงินก็มาให้กำลังใจ แต่ลู่เสี่ยวเหยาผู้ช่วยอีกคนที่ได้ยินข่าวลือมาบอกเสี่ยวเฉียวเรื่องที่เหลียงอวี่เมิ่งมีผู้อุปถัมภ์ แล้วตอนนั้นเองที่เหอเผิงก็บอกว่าสีชิงเปิดเวยปั๋วทั้งยังชม จิ้วซยงต้าเหริน ทำเอาภาพลักษณ์ของสีชิงในใจกงซีเฉียวแตกเป็นเสี่ยงๆ ทั้งดูละครน้ำเน่าทั้งดูหนังรักโรแมนติก

กั๋วเย่ปิดกล้อง มีเลี้ยงฉลอง กงซีเฉียวกับเหลียงอวี่เมิ่งดื่มจนเมาผู้ช่วยก็ยังไม่มารับ ดีที่กงซีเฉียวได้สีชิงมาส่งที่บ้าน สีชิงดูแลอย่างดีพาเข้านอน ถอดรองเท้า ห่มผ้าให้ คุณพ่อกงซีก็ไม่รู้ว่านี่คือท่านสีแห่งตระกูลสี คุณแม่เฉียวยังฝากส้มปลอดสารพิษให้กินอีกด้วย บ้านนี้น่ารักจริงๆ

เหลียงอวี่เมิ่งที่เข้ามาสนิทกับกงซีเฉียวเพราะมีจุดประสงค์อยากให้ ประธานซุน ซุนจิ้งเสวี่ยสนใจแทนตัวเอง เพราะอยากตีจาก ถึงขนาดส่งรูปที่ดูสนิทต่างๆแล้วสร้างข่าวว่ากงซีเฉียวเกาะขาตัวเองดัง ตอนนี้ประธานซุนส่งคนมาจะให้กงซีเฉียวไปพบ ดีที่สีชิงมาได้จังหวะ ทำให้ซุนจิ้งเสวี่ยรู้ว่ากงซีเฉียวแตะต้องไม่ได้ และก็เลิกกับเหลียงอวี่เมิ่งโดยการสั่งสอนก่อนจากกัน กงซีเฉียวไม่ได้ทำอะไร แต่เหลียงอวี่เมิ่งกลับจาแค้นกงซีเฉียวนี่มันตรรกะอะไรกันเนี่ย

สีชิงมาช่วยกงซีเฉียวทั้งยังเล่าเรื่องราวซุบซิบของวงการให้ฟัง กงซีเฉียวรู้สึกว่าน่ารักมากเลย ที่คนหน้านิ่งขนาดนี้มาพูดเรื่องพวกนี้ น่ารักมาก

กงซีเฉียวถ่ายแบบปกนิตยสาร และให้สัมภาษณ์ คำสัมภาษณ์เป็นเรื่องความรักพี่สาวน้องชาย กงซีเฉียวไม่เห็นด้วย ขอแค่ทั้งสองรักกันก็พอ เรื่องนี้เพราะประเด็นของไต้นีกับเฉินอี้ ทำเอาไต้นีรู้สึกดีกับกงซีเฉียวไปด้วย

สีชิงส่งข้อความบอกว่าไม่ต้องห่วง ข้อความสั้นๆ แต่จริงใจให้เสี่ยวเฉียว

ตอนนี้ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์กำลังให้สีชิงคัดเลือกพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของเครื่องแต่งกาย ไฮคลาส แบรนด์ หย่าเต๋อ สีชิงตินู้นนี่ ไม่รู้จักดารา แล้วก็บอกว่าให้ไปหามาใหม่ ผู้ช่วยโก่วเลยใบ้ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้หาจากดาราที่มีชื่อเสียงช่วงนี้ ไม่พูดตรงๆ ต้องให้ผู้ช่วยบอกใบ้ลูกน้องนะจ๊ะ

สวีเชาพระเอกของ จิ้วซยงต้าเหริน เป็นคนที่กงซีเฉียวดึงมาจากบริษัท เป็นคนซื่อแต่ก็จริงใจคนรอบข้างที่กงซีเฉียวคบมีแต่คนที่นิสัยดีทั้งนั้น

กงซีเฉียวไปเซ็นสัญญากับผู้จัดการหม่าเรื่องพรีเซ็นเตอร์หย่าเต๋อ สีชิงได้สัญญาของกงซีเฉียวมาก็เก็บเอาไว้อย่างดี เอามาชื่นชมคนเดียว แอบชื่นชมเงียบๆไม่บอกใคร

ด้านกงซีเฉียวมาพบผู้กำกับหวาง ผู้กำกับหวางอยากสร้างหนังเรื่องสุดท้ายที่แตกต่างออกไป เป็นเรื่องที่พระเอกใช้วิทยายุทธ์ไม่เป็น แต่ได้เป็นเจ้ายุทธภพ ที่แล้วมามีแต่คนปฏิเสธไม่เห็นด้วย ครั้งนี้กงซีเฉียวฟังแล้วสนับสนุนร่วมมือ ร่วมทุนกับผู้กำกับหวางและเล่นบทพระเอกเอง

วันตรุษจีน กงซีเฉียวอวยพรปีใหม่หนึ่งในนั้นคือสีชิง และก็โพสต์เวยปั๋ว สีชิงจะมีส่วนร่วมเฉพาะในเวยปั๋วของกงซีเฉียวเท่านั้น ครั้งนี้กงซีเฉียวปั้นตุ๊กตาหิมะ สีชิงก็ปั้นแล้วก็ถ่ายภาพแปะให้กงซีเฉียวดู ทำให้คนในวงการบันเทิงรู้ว่าสีชิงสนิทกับกงซีเฉียว

วันที่แปดเดือนหนึ่ง เซียนซานเยวี่ยน ก็ได้ออกอากาศช่วงเวลาไพรม์ไทม์ เรตติ้งพุ่งทะลุเกินละครเรื่องอื่นๆ ทำเอานักแสดงดังไปตามๆกัน เจิ้งเหล่ยรับงานทั้งพรีเซนเตอร์ ทั้งรายการวาไรตี้มากมาย ส่วนกงซีเฉียวที่เป็นนักแสดงนำอีกคนกับไม่มีผลงานอะไรเลย นอกจากงานถ่ายแบบของหย่าเต๋อ

ตอนที่กงซีเฉียวถ่ายแบบโฆษณา สีชิงก็แวะมาเพื่อจะเอาข้าวกลางวันมาให้กงซีเฉียวโดยเฉพาะ ทำเอาพวกสต๊าฟยิ่งเกรงใจ ดีที่ทำดีกับคุณชายเฉียวมาตลอด นายใหญ่สนิทด้วยขนาดนี้นี่นา

จนกระทั่งภาพโปสเตอร์โฆษณาของหย่าเต๋อติดที่หน้าบริษัท ทำเอารถแถวนั้นเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง จนตำรวจจราจรต้องขอให้ที่บริษัทปลดภาพออก คนหล่อหน้าตาดีเป็นเหตุ ก็ดังเป็นพลุแตก สินค้าขายดี จนทางทีมการตลาดเซ็นสัญญากับกงซีเฉียวเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์หย่าเต๋อระยะยาว ไม่ใช่แค่คอลเล็กชั่นเดียวอย่างตอนแรก

กงซีเฉียวไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เจิ้งเหล่ยกลับโจมตีกงซีเฉียว เพราะสู้กระแสความดังไม่ได้ หาทางทำลายกงซีเฉียว และหาทางเข้าเป็นนักแสดงในภาพยนตร์ของเครือตระกูลสี

ภาพยนตร์เรื่อง สยาจือต้าเจ่อ ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของผู้กำกับหวางกำลังจะเปิดกล้อง เมื่อลองชุดกับวิกผม ขนาดผู้กำกับหวางก็คิดว่าตัวละครนี้สร้างมาเพื่อกงซีเฉียวโดยเฉพาะ เรื่องนี้ไม่มีนางเอก แต่บทเด่นคือภูตปีศาจสาวที่ชอบซ่อนตัวเขียนนิยายในสำนัก แต่ภายนอกลือว่าเป็นมารร้าย ด้วยการสนับสนุนของกงซีเฉียว บทนี้จึงตกเป็นของหมี่เยว่ สวีเชาเป็นคนรับใช้คอยติดตามพระเอก

นักข่าวที่มาสัมภาษณ์วันพิธีบวงสรวงเปิดกล้องถามเรื่องเกี่ยวกับเวยปั๋ว และยังถามเรื่องพี่น้องระหว่างกงซีเฉียวและเจิ้งเหล่ยสุดท้ายได้สวีเชาช่วยคลี่คลายบรรยากาศ

เจิ้งเหล่ยโดนปฏิเสธบทจากทีมโปรดั่กชั่นของซิวเจิน ส่วนกงซีเฉียวได้รับจดหมายเชิญให้ไปออดิชั่นบทพระเอก

สีชิงมาชวนกงซีเฉียวไปกินข้าว กงซีเฉียวยังใช้โทรศัพท์ของสีชิงโพสต์ลงเวยปั๋วอีกด้วย สีชิงก็ไม่ว่าอะไร แล้วทั้งสองก็เปลี่ยนคำเรียกกันสีชิงเรียกกงซีเฉียวว่าเสี่ยวเฉียว ส่วนเสี่ยวเฉียวเรียกสีชิงว่าต้าชิง แล้วตอนกลับเสี่ยวเฉียวยังบอกว่าสีชิงซึนมากเลย สีชิงยังไม่รู้อีกว่าคืออะไร ส่งข้อความไปถามผู้ช่วย ถึงรู้ว่าข้างนอกเย็นชา ข้างในอ่อนโยน นี่เป็นคำชมสินะ ฮ่าๆๆๆ ซึนมาก

ช่วงนี้กงซีสยงยุ่งอยู่กับงานก่อสร้างที่ได้รับมาจากบริษัทเครือตระกูลสี แต่ยังมีคนคิดเล่นงานอีกโดนส่งผู้หญิงมาคุณพ่อกงซีก็มองออก ผู้ช่วยโทรบอกกงซีเฉียวพอสืบดูก็รู้ว่าเป็นฝีมือของเหลียงอวี่เมิ่ง

กงซีเฉียวมาออดิชั่นบทพระเอก เซียนจุนของ ซิวเจิน อาศัยความสามารถของตัวเองตัวนักเขียน หลินอวี่ก็ยืนยันที่จะให้กงซีเฉียวแสดงบทนี้ โดยไม่สนใจอะไรอีก นี่กงซีเฉียวยังไม่ได้ใช้เส้นสีชิงเลยนะเนี่ย ได้มาเองแล้ว

ตอนออกมาเจอเจิ้งเหล่ยที่ลานจอดรถมาคุกเข่าขอโทษ แต่ความจริงแล้วมีแผนการ ซึ่งกงซีเฉียวก็เตรียมการไว้เรียบร้อยแต่ยังเล่นไปตามน้ำ

กงซีเฉียวมาชวนสีชิงกินข้าว และให้พากลับไปส่งวันรุ่งขึ้นมาก็มีข่าวเรื่องเจิ้งเหล่ยออกมา กงซีเฉียวบอกให้สีชิงไม่ต้องกังวล พวกเพื่อนๆอย่างสวีเชาและหมี่เยว่ยืนอยู่ข้างกงซีเฉียว และแล้วก็ถึงเวลาเอาคืน

หลังอ่านเล่ม 1 :

เป็นเล่มที่แสดงถึงความสามารถของกงซีเฉียว คุณชายเฉียว ที่เป็นเทพบุตรสุดๆ ใครเห็นใครก็รัก นอกจากพวกขี้อิจฉา วงการบันเทิงมีคนหลายประเภทแต่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่คุณชายเฉียวจะรับมือแน่นอน คุณชายเฉียวไม่ใช่จะใสซื่อเหมือนที่เห็นๆนะ คนหล่อ ดีขนาดนี้ใครดีมาดีตอบ ใครร้ายมาก็ต้องเอาคืนจ้า สนุกมากค่ะ จบตอนกำลังลุ้นเลยว่าการตอบโต้คืนของคุณชายเฉียวจะทำเอาเจิ้งเหล่ยเป็นยังไง มาอ่านต่อกันค่ะ



เล่ม 2 : สิงหาคม 2563

เล่ม 2 :

เพราะกงซีเฉียวเตรียมพร้อมเอาไว้ก่อนแล้วว่าเจิ้งเหล่ยไม่ได้มาดี แถมลู่เสี่ยวเหยายังอยู่ถูกที่ถูกเวลาสมกับเป็นผู้ช่วยดารา คลิปจริงจึงอยู่ในมือ ตอนนี้ก็เล่นงานกลับได้แล้ว แถมสีชิงยังช่วยด้วยการแปะคลิปการวางแผนและแอบถ่ายในที่จอดรถอีก เจิ้งเหล่ยตายสนิท เพราะสีชิงก็บอกให้ทางบริษัทจัดการ

กงซีเฉียวลาหยุดมาเซ็นสัญญาที่สำนักงานใหญ่เครือตระกูลสี ได้เจอผู้ช่วยโก่ว ยังไม่ทันออกแรง คุณชายเฉียวก็ได้เป็นพระเอกเองแล้ว ต้องรีบไปบอกเจ้านายว่าคุณชายเฉียวมา และสีชิงก็รีบมารอรับจริงๆ ระหว่างนั้นกงซีเฉียวก็สามารถทำให้ผู้จัดการโจวเปลี่ยนมาเรียกเสี่ยวเฉียว ตัวเองก็เรียกลุงโจวได้เลย มนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ

สีชิงไปกินข้าวกับกงซีเฉียวและเฉินเคอกับสองผู้ช่วย สีชิงเห็นแต่กงซีเฉียวทำเอาสามคนที่เหลือกินข้าวไม่เป็นสุขทีเดียว

ภาพยนตร์กั๋วเย่ตัดต่อเสร็จแล้ว บทของเหลียงอวี่เมิ่งถูกตัดไปเยอะ ทำเอาเจ้าตัวไม่พอใจ จะหาทางเล่นงานกงซีเฉียวทางพ่อก็ทำไม่ได้ ทางแม่ก็ทำไม่ได้ ครอบครัวนี้ไม่มีจุดอ่อนให้ใช้ได้เลย

เมื่อกงซีเฉียวถ่ายทำส่วนของตัวเองเสร็จสิ้นใน  สยาจือต้าเจ่อ ก็เข้าฤดูร้อน ยังไม่ทันได้พักผ่อนก็ได้รับบตรเชิญไปงานฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง กั๋วเย่ ทันที

คู่ควงเดินพรมแดงในงานคือหมี่เยว่ กงซีเฉียวได้ช่วยเอาไว้จากการสะดุดล้ม แสดงความเป็นสุภาพบุรุษ กู้หนานที่มาเปิดตัวหลังจากกลับจากต่างประเทศก็มางานนี้พร้อมไต้นี ภาพยนตร์เรื่องกั๋วเย่ฉาย ก็มีคนเริ่มคิดจัดการเหลียงอวี่เมิ่งกันแล้ว

กงซีเฉียวได้รับความเอ็นดู ตอนสัมภาษณ์ผู้กำกับหลี่ยังแซวเรื่องป้ายโฆษณาที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ 

เมื่อคนดูภาพยนตร์เรื่องกั๋วเย่จนจบมีแต่ความซาบซึ้ง รักชาติ เสียงวิจารณ์ต่อการแสดงของกงซีเฉียวที่รับบทนายพลเจิ้งดีมาก เข้าถึงบทบาท ทำให้ชื่อเสียงของกงซีเฉียวมากขึ้นอีกขั้น

สีชิงที่อ่านข่าววงการบันเทิงไม่พอใจคนที่ว่ากงซีเฉียว ไม่ชอบหมี่เยว่ แล้วตัวเองก็ไม่สบาย

หลังจาก กั๋วเย่ เข้าฉายเพราะความดังทำให้เสี่ยวเฉียวตัดสินใจออกมาอาศัยอยู่เองโดยพาป้าหลัวมาด้วยเท่านั้นเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนพ่อกับแม่

กงซีเฉียวรู้สึกว่าสีชิงหายไปหลายวันพอรู้อีกที่สีชิงก็นอนให้น้ำเกลืออยู่บ้าน หมอที่ดูแลพอเห็นสีชิงไม่พักผ่อนก็บอกว่าถ้าไข้ไม่ลด ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว ตอนที่รับโทรศัพท์ไอก็รีบเอาอีกมือหนึ่งปิดปาก พอเห็นพูดจากอ่อนโยน ถ้าไปรบกวนคนมีความรักเดี๋ยวจะโดนฟ้าผ่าเอา คุณหมดยังรู้เลยนะท่านสี

ด้วยความเป็นห่วงกงซีเฉียวเลยมาเยี่ยมด้วยตัวเอง เพราะรู้ว่าสีชิงไม่มีพ่อแม่ พี่น้องก็ไม่มี น่าจะเหงา แล้วกงซีเฉียวก็เอาซุบที่ให้ป้าหลัวทำให้มาด้วย แล้วดูแลให้กินซุป เฝ้าจนไข้ลดถอดสายน้ำเกลือ อยู่กินข้าวเย็นเป็นเพื่อนมื้อดึกถึงกลับไป พอกงซีเฉียวกลับไปสีชิงถึงมีความรู้สึกว่าถ้าหากมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับเราล่ะ ตอนนี้รู้ใจตัวเองแล้วว่ามากกว่าความเป็นเพื่อน ท่านสีนี่

กงซีเฉียวออกจากบ้านสีชิงยังทำความดีช่วยเหลือเด็กหลงทาง โทรหาตำรวจ รอพ่อแม่มารับ ถึงแม้จะไม่อยากบอกชื่อยังไงแต่ชาวเน็ตนั้นแค่เห็นก็รู้แล้ว กลายเป็นไม่อยากหวังผลก็ยังกลายเป็นมีชื่อ จนไปเข้าตาถ่ายโฆษณาทำความดีเพื่อสังคม

สีชิงชวนกงซีเฉียวมา จินโหลว ศูนย์รวมอุปโถคบริโภคระดับไฮคลาส มาเจอเพื่อนของตัวเองเอาไว้ เซวียฉง สวีเส้าเซวียน พอคนอื่นไปแล้ว ทั้งสี่มากินข้าวพูดถึงตระกูลไป๋ ตระกูลโบราณใหญ่โตมีสี่ตระกูลใหญ่ สวี เซวีย ไป๋ สี ตระกูลสวี และเซวียอยู่ฝ่ายตระกูลสี ตระกูลสีไม่ถูกกับตระกูลไป๋ เรื่องทางธุรกิจกงซีเฉียวไม่สนใจ สนใจแต่อาหารบนโต๊ะ วันรุ่งขึ้นกงซีเฉียวต้องไปงานประกาศรางวัลเชียนฮวา

ครั้งนี้กงซีเฉียวได้เดินกับไต้นี จึงนั่งข้างกัน ครั้งนี้กงซีเฉียวได้รับการเสนอชื่อสองรางวัลจากภาพยนตร์กั๋วเย่ รางวัลดาราหน้าใหม่ยอดเยี่ยม กับภาพยนตร์   จิ้วซยงต้าเหริน ในรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม แล้วกงซีเฉียวก็ได้รับทั้งสองรางวัล

หลังจากนี้กงซีเฉียวก็ว่าง เฉินเคอถามว่ากงซีเฉียวจะรับงานเรียลิตี้ ซึ่งกงซีเฉียวไม่สนใจ บอกว่าถ่ายงานโฆษณาทำความดีเพื่อสังคมของสถานีโทรทัศน์แห่งชาติให้เสร็จก่อนค่อยว่ากัน ถ่ายโฆษณาเสร็จต้องไปร่วมงานแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ ทำให้เฉินเค่อเพิ่งรู้ว่ากงซีเฉียวมีความสามารถขนาดนี้ สมาคมวาดภาพพู่กันจีนโบราณแห่งชาติเชิญไป มีรู้แค่พ่อกับแม่ และก็บอกเฉินเค่ออีกคน

เฉินเคอขอดูภาพของกงซีเฉียว ภาพสตรีประทินโฉม ของกงซีเฉียวลงนามว่า กงเฉียวเค่อในงานประมูลมีมูลค่าถึงเดหลักเลยทีเดียว

งานนี้จัดขึ้นที่ประเทศฉางเซวีย ผลงานจากตัวแทนประเทศต่างๆถูกนำไปจัดแสดง ภาพกงเยี่ยนของกงซีเฉียวได้รับความสนใจมาก นักประวัติศาสตร์จีนให้ความสำคัญถึงขนาดเรียกว่า ภาพงานเลี้ยงก่อตั้งแคว้นเทียนจิ้น เทียนจิ้นกงเยี่ยน

สีชิงและเซวี่ยฉงก็มาในงานนี้ด้วย รวมถึงไป๋จ้ง เซวี่ยฉงชื่นชมผลงานของกงซีเฉียวมากถึงขนาดให้กลายเป็นไอดอลเลยทีเดียว และในงานกงซีเฉียวยังแสดงการวาดภาพสด เทคนิคที่ใช้คือ เทคนิคหัตถ์งามกลายบุปผา สร้างเสียงชื่นชมในงานอย่างมาก ในโลกออนไลน์ก็มีคนที่ได้ไปดูนิทรรศการและมาโพสต์ และยังมีช่องข่าว ซินเหวินเหลียนป๋อ รายงานข่าวเกี่ยวกับ กงซีเฉียว จิตรกรหนุ่ม ทำเอาคนดูงงไปหมด และต่อมาทาง สมาคมศิลปะแห่งชาติก็โพสต์ถึงการสร้างชื่อเสียงของกงซีเฉียวในเวยปั๋ว และบอกว่าคือกงซีเฉียวคนเดียวกับที่เป็นนักแสดง ทำเอาคนยิ่งทึ่งในความสามารถ ว่าเทพบุตรช่างเป็นเทพอะไรอย่างนี้ ในงานสีชิงเข้าไปไม่ถึงตัวได้แต่ส่งข้อความมาให้กงซีเฉียวเท่านั้นตอนที่กลับถึงโรงแรมที่พัก

เมื่อกงซีเฉียวดัง ก็มีคนอยากมาตามกระแสมาบอกว่าเทคนิคหัตถ์งามกลายบุปผาใครๆก็ทำได้ พอโดนโจมตีมากลงไม่ได้แทนที่จะเงียบไปก็ยังมาว่ากงซีเฉียวอีก แบบนี้ท่านสีจะอยู่เฉยได้ยังไง ท่านสีออกโรงมาด่าจนชาวเน็ตก็เพิ่งรู้ว่าท่านสีก็ด่าคนเป็น ฮ่าๆๆ

กงซีเฉียวออกมาโพสต์ปิดปากโดยใช้เทคนิคที่สูงกว่าทำให้ที่มาโชว์เงียบไปเอง เพราะดูยังไง มองมุมไหนเทพบุตรเฉียวก็เก่งกว่าชัดๆ

ตอนที่กงซีเฉียวจะกลับ ผู้กำกับฟิลิปส์ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง โกลเด้นแคสเซิ่ล ภาค2 ก็มาขอให้กงซีเฉียวเป็นตัวประกอบรับเชิญ ทำให้กงซีเฉียวเลื่อนวันกลับออกไป แต่ก็ยังหลีกหนีพวกแฟนคลับไม่พ้นอยู่ดี

กลับมาถึงบริษัท กงซีเฉียวได้เจอหลินคัง กับเซี่ยจี๋ผู้จัดการส่วนตัวเป็นครั้งแรก หลินคังที่ดูไม่เหมาะกับการเป็นดารากับผู้จัดการส่วนตัวเซี่ยจี๋ที่ดูทุ่มเทเพื่อดาราของตัวเอง

ทางตระกูลไป๋อยากให้กงซีเฉียวเป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่เมื่อกงซีเฉียวคิดถึงการทำธุรกิจของตระกูลไป๋แล้วไม่ชอบจึงได้ปฏิเสธไป

สีชิงพูดทำนองว่ากงซีเฉียวดี ใครจะจีบสำเร็จ จริงๆพูดถึงตัวเอง แต่ก็กลัวโดนปฏิเสธสินะท่านสี แล้วก็ชวนไปงานวันเกิดเซวี่ยฉง กงซีเฉียวตอบตกลง ตอนแรกว่าจะฝากของฝากไปให้เซวี่ยฉงกับสวีเส้าเซวียน จะได้เอาไปให้เองเลย ทั้งสองไปดูภาพยนตร์เรื่อง กั๋วเย่ ด้วยกัน พอดูจบแล้วถึงไปงานด้วยกัน ที่ภัตตาคารเก่าแก่หลายร้อยปีเฟิ่งเสียงโหลว เซวี่ยฉงชอบกงซีเฉียวขนาดถือว่าเป็นไอดอล และขอให้กงซีเฉียวเขียนอักษรพู่กันให้เป็นของขวัญกงซีเฉียวก็ไม่ปฏิเสธ ทั้งยังเอาของฝากที่ซื้อจากเมืองนอกให้เซวี่ยฉงกับสวีเส้าเซวียน ทำเอาท่านสีมองของขวัญเขม่ง อยากได้ทำไมตัวเองไม่ได้บ้าง ฮ่าๆๆๆ

จนตอนกลับเสี่ยวเฉียวถึงให้สีชิงนี่แหละ ท่านสีเปลี่ยนนาฬิกาใส่ทันที พพ่อแม่เสี่ยวเฉียวโพสต์อวดของฝาก ชาวเน็ตเรียกร้องว่าทำไมไม่เห็นใครอีกคนโพสต์คนอื่นโพสต์กันหมดแล้ว ในที่สุดท่านสีก็ออกมาโพสต์อวดกับเค้ามั้ง ไม่ได้หรอกนะของที่เสี่ยวเฉียวให้ทั้งทียืนยันว่าสนิทกันจริงๆ ไม่ใช่ข่าวลือแน่นอน

ผู้กำกับจูที่กำกับใน เซียนซานเยวี่ยน ขอให้กงซีเฉียวไปแสดงบทรับเชิญในละครไอดอลเป็นประธานบริษัท เสี่ยวเฉียวก็ตอบรับอย่างดี ทั้งยังเตรียมชุดสูทไปเองเพื่อไม่ให้ลำบากทีมงานอีกด้วย กงซีเฉียวเห็นหลินคังด้วย เฉินเคอบอกว่า เล่นเป็นตัวร้ายพระรอวลำดับสอง และเซี่ยจี๋อาศัยเส้นสายเพื่อให้ได้บทนี้มา กองถ่านซิวเจินจะไปถ่ายทำนอกสถานที่ เฉินเคอบอกว่าบริษัทจะส่งผู้ช่วยที่มีจบพยาบาลไปให้ด้วย ความจริงที่ทุกคนไม่รู้คือคนนี้เป็นบอดี้การ์ดที่สีชิงสั่งให้แฝงตัวไปอยู่ดูแลกงซีเฉียว ยังนึกว่าเป็นคนของบริษัทเซินเหอ

งานพิธีบวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์ ซิวเจิน ยิ่งใหญ่มาก เป็นที่รวมดารามากมาย กงซีเฉียวเห็นแล้วว่าผู้กำกับเจียวเป็นประเภทเสือหน้ายิ้ม สั่งปิดข่าวทุกอย่างสนิทจริงๆ ไม่มีข่าวอะไรออกจากกองถ่ายได้เลยในวันบวงสรวง

ผู้ช่วยคนใหม่ที่จะขึ้นเครื่องกับกงซีเฉียวชื่อเจียงหล่ง ดูแล้วก็รู้เลยว่าทำไมไม่อยากเป็นบุรุษพยาบาล ฮ่าๆๆๆ มาถึงห้องรับรองในสนามบินกงซีเฉียวได้พบกับสีชิง ทุกคนยิ่งรู้ถึงความสนิทสนมของทั้งสองคนเข้าไปใหญ่ สีชิงก็ยังเป็นห่วงสั่งแล้วสั่งอีกกว่าจะไป คนอื่นเกร็งจะแย่แล้ว

บนเครื่องกงซีเฉียวนั่งข้างจี้อวี้หมิง จี้อวี้หมิงคือดาราที่ไม่โดนวงการบันเทิงเปลี่ยนแปลง ทั้งยังให้การสั่งสอนต้อนรับกงซีเฉียวอย่างดี ผู้กำกับเจียวก็หันมาร่วมวงคุยด้วยจนทำให้รู้ว่าทั้งสองแสดงเป็นศิษย์อาจารย์ เท่ากับว่ากงซีเฉียวแสดงเป็นพระเอก

ที่สถานที่ถ่ายทำกงซีเฉียวก็ได้สนิทกับเฉิงอี้แฟนของไต้นี และกงซีเฉียวยังได้ช่วยเฉินอี้จากอุบัติเหตุสลิงอีกด้วย ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ สถานที่ถ่ายทำกันดารมากตอนนี้ฝนก็ตกจนต้องหยุดถ่าย และแล้วสีชิงก็ขนเอาอุปกรณ์หม้อไฟมาเยี่ยมกอง เพราะเป็นห่วงกงซีเฉียว มาถึงก็พักห้องเดียวกับกงซีเฉียว สีชิงที่เป็นท่านสีผู้นำตระกูลถึงขนาดบุกป่าฝ่าดงขนาดนี้ ทั้งยังกันเองขนาดนี้ ทำเอาคนอื่นไม่คิดว่าข่าวลือจะเกินจริง แต่จริงๆแล้วเพราะมีกงซีเฉียวอยู่ถึงเป็นแบบนี้

ช่วงที่สีชิงอยู่ดูกองถ่าย ได้เห็นความลำบากของนักแสดง จริงๆก็คือเห็นความลำบากของเสี่ยวเฉียว สีชิงดูแลอย่างดี ไม่พูด ไม่สั่งงานเลยทีเดียว เมื่อกลับไปถึงออกคำสั่งให้เล่นงานตระกูลไป๋ได้ หลังจากนั้นมีโจรกระจอกมาที่โรงแรมดีที่ได้ผู้ช่วยของกงซีเฉียวจัดการ ทำให้ทางชุมชนโกรธ หลังจากนั้นจึงมีชาวบ้านมาดูแลรอบๆ

หลังจากการถ่ายทำเสร็จสิ้นทีมนักแสดงนำก็ขอบคุณชาวบ้านที่มาช่วยเหลือโดยการบริจาคเงินคนละก้อนเพื่อ ซ่อมสร้างโรงเรียนและสถานสุขอนามัย ทำให้ชาวบ้านรู้ว่าเป็นทีมภาพยนตร์เรื่อง ซิวเจิน กว่านักข่าวจะมาก็ไม่มีอะไรให้ทำข่าวนอกจากการบริจาคเงิน ทำเอาเป็นเรื่องคาดไม่ถึงที่น่ายินดี ที่มีคนมาชื่นชม

ผู้กำกับเจียวใจดีให้หยุดหนึ่งวัน กงซีเฉียวพาคุณแม่เฉียวหลานเฟินมาเลือกเครื่องประดับเพื่อไปงานการกุศล แล้วก็พาไปกินข้าวเที่ยงที่เฟิ่งเสียงโหลว ทั้งยังไม่เรื่องมากผู้จัดการจึงยิ่งบริการอย่างดี สีชิงก็มาเจอกับกงซีเฉียวแต่เพราะมากับผู้อาวุโสเลยไม่ได้ร่วมโต๊ะ

เมื่อสีชิงกินข้าวเสร็จ กงซีเฉียวก็กลับไปแล้ว แต่บอดี้การ์ดก็บอกว่าได้ยินกงซีเฉียวพูดถึงงานเลี้ยงการกุศล ทำให้สีชิงตัดสินใจไปงาน

ในงานเลี้ยงกงซีเฉียวเอาภาพวาดพู่กันกับแหวนมาประมูล ได้เจอกับกู้หนาน กู้หนานมาทำดีด้วย กงซีเฉียวก็ระวังตัวเอาไว้อยู่แล้ว ขนาดสีชิงกว่าจะสนิทยังใช้เวลาตั้งนาน ถ้าไม่นับของประมูลของกงซีเฉียวกู้หนานก็นับว่ามีคนประมูลไปได้ในราคาสูง แต่เมื่อมีของจากกงซีเฉียว แหวนของกงซีเฉียวสีชิงประมูลมาในราคาหนึ่งล้านสองแสน ส่วนภาพวาดคนตระกูลเซวียประมูลไปในราคาสามล้านแปดแสน นักข่าวจะถามดักทางตัวแทนสกุลเซวียก็ออกมาช่วยพูดทำให้เรื่องคลี่คลาย กงซีเฉียวยังบอกว่าถ้าสนใจวันหลังก็บอกมากันได้เลย แสดงความสนิทสนมกันอย่างแท้จริง

สีชิงมาส่งกงซีเฉียว กงซีเฉียวชวนสีชิงถ้าว่างพร้อมกันให้ไปกินข้าวที่บ้าน บอกว่าพ่อทำอาหารเก่ง เลยจีบแม่ติด กงซีเฉียวเป็นห่วงสีชิงเรื่องตระกูลไป๋ บอกให้ระวัง คืนนั้นสีชิงสั่งให้บอดี้การ์ดหาหนังสือทำอาหารมาให้เลยทีเดียว

ตอนเช้าเสี่ยวเฉียวก็ได้รับการแท็กชื่อจากสีชิงโชว์รูปไข่ดาวไหม้ อืมน่าคิดจริงๆ เสี่ยวเฉียวนอนไม่พอเหมือนจะไม่สบาย คนที่บ้านป้าหลัวไม่สบายต้องลาหยุดกลับไปดูอีก แล้วอย่างนี้ใครจะทำกับข้าวให้เสี่ยวเฉียว สีชิงที่อยู่บริษัทโทรหาเลยรู้เรื่องบอกให้เสี่ยวเฉียวมาที่บ้าน ก่อนหน้านี้ที่บริษัทผู้นำตระกูลไป๋ก็ขอเข้าพบสีชิง แต่ก็ไม่ได้อะไร แถมยังโดนเลขาแกล้งอีกด้วย บริษัทนี้ทำงานกันเป็นทีมดีสุดๆ ฮ่าๆ

พอไปถึงคฤหาสน์ของสีชิง กงซีเฉียวก็ได้รับการดูแลอย่างดี กับข้าวเย็นที่ขึ้นโต๊ะมาอยู่หนึ่งจานที่สีชิงทำเองแต่ไม่ยอมบอก แต่เสี่ยวเฉียวก็มองรู้ ทั้งยังคีบกินก่อน และกินจานนี้เยอะสุดทั้งๆที่รสชาติใช้ไฟแรงไป ใส่เกลือน้อยไปก็ยังกิน ยังไงก็ยังกินอยู่ดี ทั้งสองคนต่างพยายามเรียนรู้นิสัยของกันและกัน สีชิงอยากจะบอกเสี่ยวเฉียว แต่ยังไงก็ยังไม่กล้า บอกว่านอกจากฐานะหัวหน้าตระกูลแล้วตัวเองก็ไม่มีอะไรเลย

โฆษณาทำความดีเพื่อสังคมของเสี่ยวเฉียวออกอากาศ ก็เพิ่มยอดแฟนคลับเด็กเรียนให้กับกงซีเฉียวอีกมาก ผู้ปกครองต่างชื่นชอบที่มีดาราแบบนี้อยู่ในสังคม สามารถเป็นแบบอย่างให้กับวัยรุ่นได้อย่างดี ชื่อเสียงก็ดังขึ้นไปอีก

คฤหาสน์ของสีชิงไฟดับ สีชิงจะสารภาพกับเสี่ยวเฉียวเพราะฟ้าร้องทำให้เสี่ยวเฉียวได้ยินไม่ชัด พอสีชิงบอกว่าไม่ต้องกับบ้านตัวเองก่อนเพราะคนของไป๋จ้งเตรียมเล่นงานเสี่ยวเฉียว เสี่ยวเฉียวถามว่าเพราะอะไร สีชิงก็บอกว่าเพราะผมชอบคุณ ในที่สุดก็ได้บอกความในใจออกมา

เสี่ยวเฉียวบอกสีชิงตรงๆว่าชอบสีชิงมาก แต่ยังไม่มากพอที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันชั่วชีวิต ถ้าคราวหน้าพูดอีกครั้งก็ต้องเตรียมตัวอยู่ด้วยกันชั่วชีวิต สรุปว่ายังคงมีหวัง นี่สินิสัยของเสี่ยวเฉียวที่เขาชอบ สีชิงยังดำรงตนเป็นแฟนคลับที่ดี โหลดคลิปโฆษณาทำความดีเพื่อสังคมของเสี่ยวเฉียวเก็บอย่างมีความสุข

มากองถ่าย ดาราที่กองมีแต่ดาราใหญ่ พอรู้ว่าคืนนี้เสี่ยวเฉียวจะไปออกรายการสดฮุ่ยซินถานของช่องสถานีโทรทัศน์แห่งชาติก็แนะนำเป็นอย่างดี

และยังเกิดเหตุการณ์ที่คนในกองมาแอบนินทาว่ากงซีเฉียวเกาะขาสีชิงดังให้ฟังในห้องน้ำ ลูกไม้พวกนี้ของตระกูลไป๋กงซีเฉียวรู้ตั้งนานแล้ว อาศัยคำพูดไม่กี่ประโยคมาสร้างความร้าวฉาน เป็นลูกไม้ตื้นๆที่ชาติที่แล้วเค้าเคยเล่น

มาดูสิว่าไป๋จ้งยังจะมีอะไรมาเล่นกงซีเฉียวได้อีก

หลังอ่านเล่ม 2 :

เล่มนี้ท่านสีของเรารู้แล้วว่าตัวเองรู้สึกกับเสี่ยวเฉียวยังไง เทพบุตรเฉียวก็ไม่ใช่ย่อยยังมีความเก่งที่ซ่อนอยู่ คราวนี้ทำเอาคนตะลึงกับทั่วโลกทั้งสื่อในจีนและต่างประเทศ ไม่ใช่เล่นๆซะแล้ว ท่านสียิ่งต้องพยายามมากขึ้นถึงที่สุดจริงๆ เรื่องราวยังคงสนุก น่าติดตาม มาอ่านบทสรุปเล่มจบกันได้เลยค่ะ

เล่ม 3 พิมพ์ครั้งที่ 1 : กันยายน 2563

เล่ม 3 :

กงซีเฉียวมาออกอากาศรายการสดของสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ รายการนี้พิธีกรคือเหลียงจิ้ง เป็นพิธีกรที่คุมจังหวะรายการได้ดี ในรายการกงซีเฉียวเขียนอักษรพู่กันจีนได้อย่างดีจนเหลียงจิ้งอยากเอากลับบ้านเลยทีเดียว และเหล่าพ่อแม่ต่างก็ชื่นชมให้วัยรุ่นมีไอดอลแบบนี้มาตลอด

มีแฟนคลับของกงซีเฉียวทำการบ้านคณิตศาสตร์ไม่ได้ กงซีเฉียวก็เขียนวิธีแก้โจทย์ให้พร้อมทั้งอธิบายอย่างละเอียด ช่างเป็นไอดอลที่มีภาพลักษณ์ที่ดีจริงๆ

ตอนกงซีเฉียวถ่ายภาพยนตร์ไม่ว่าจะอยู่ในฉากไหนก็ไม่มีบ่น ทั้งยังสนิทกับคนทั้งกอง ให้ความเป็นกันเอง ใครๆก็รัก ขนาดผู้กำกับเจียวก็เอ็นดู ตอนนี้กงซีเฉียวบอกว่าให้ผู้กำกับเลี้ยงมื้อดึก ก็ได้รับเสียงเชียร์ พอตกลงกันได้ สีชิงมาเยี่ยมกอง ทำให้ได้ร่วมวงไปด้วย คนอื่นอยากจะเชิญสีชิงยังไงก็ยังทำไม่ได้ แต่กองนี้ได้กินข้าวร่วมกับสีชิง ผู้กำกับเจียวที่คิดว่าร้านอาหารไม่หรูพอ กงซีเฉียวก็เป็นคนช่วยพูดแก้สถานการณ์ และสั่งอาหาร ทั้งสองโชว์ความสนิทสนมกันต่อหน้าไม่เกรงใจใคร จนไต้นีสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง พอถูกสายตาของสีชิงเท่านั้นแหละเลิกมองทันที มาโชว์หวานกันขนาดนี้ ยังมีคนคิดว่าเป็นพี่น้องอีกนะ ฮ่าๆๆ

กงซีเฉียวโดนคนปล่อยข่าวว่าเป็นพระเอก ซิวเจิน ทั้งยังแย่งบทของจี้อวี้หมิง เพราะอาศัยความสัมพันธ์กับสีชิง เรื่องนี้พอมองดีๆ เสี่ยวเฉียวก็รู้ว่าเรื่องพุ่งเป้ามาที่สีชิง แต่ยังไม่ทันทำอะไร หลินอวี่คนเขียนบทก็ออกมาพูดแล้วว่าบทนี้ตัวเองเป็นคนเลือกกงซีเฉียว จี้อวี้หมิงก็ออกมาพูดให้เสี่ยวเฉียว ทำให้เหล่าแฟนคลับคิดได้กันหมด

สรุปว่าวิธีที่ไป๋จ้งใช้ไม่ได้ผล แถมลูกน้องยังทนไม่ไหว ลาออกไปอีก ด้านข้างยังมีไป๋ฉีคอยหาโอกาสมาตลอด

จ้าวอี้คุนที่รู้สึกว่าโดนกงซีเฉียวแกล้งตอนแรกๆยังมาเตือนเรื่องตระกูลไป๋ กงซีเฉียวคิดดูแล้วเลยจัดการไป๋จ้งซะเลย ไป๋จ้งโดนกงซีเฉียวเล่นงานจนต้องออกจากการเป็นผู้นำตระกูลไป๋เลยนะ

สีชิงก็รู้เรื่องที่กงซีเฉียวทำ และบอกให้ระวังไป๋ฉีให้ดี

เทปบันทึกภาพเกี่ยวกับงานแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมนานาชาติของสถานโทรทัศน์แห่งชาติเพิ่งออกอากาศ คนก็ยิ่งติดตามกงซีเฉียว กงซีเฉียวขอบคุณจี้อวี้หมิงด้วยการเอาสมุดจดสมัยเรียนมัธยมมาให้ลูกชายของจี้อวี้หมิง ทำให้ต้องกลับมาเอาสมุดที่วิลล่า สีชิงที่ตามมาด้วยเห็นการบันทึกของกงซีเฉียวแล้วก็รู้ว่าใครอ่านก็เข้าใจ และก็เห็นมีจดหมายรักที่ไม่ได้เปิดอ่าน กงซีเฉียวก็ไม่สนใจจะอ่านบอกว่าตอนนั้นไม่ได้อ่านก็คงไม่ได้อ่านต่อไป ฉีกทิ้งถังขยะไปเลย

การถ่ายทำ ซิวเจินสำเร็จไปกว่าครึ่งแล้ว ส่วนภาพยนตร์ สยาจือต้าเจ่อ ผู้กำกับหวางเตรียมให้เข้าไปรับการประเมินจากคณะกรรมการรางวัลใบไม้ทองคำ ตอนนี้กงซีเฉียวจึงต้องถ่ายส่วนของตัวเองในครึ่งเดือนนี้ก่อนถึงงานประกาศรางวัลใบไม้ทองคำ

การประชุมประจำไตรมาสของบริษัทเซินเหออวี๋เล่อ กงซีเฉียวก็ยังต้องเข้าร่วม ตอนกินข้าวกลางวันหมี่เยว่พูดเรื่องที่มีดาราบริษัท...กับผู้นำตระกูลไป๋คนใหม่ พอกงซีเฉียวรู้ว่าเป็นหลินคังก็ตกใจ สวีเชาได้ฟังก็พูดเรื่องตระกูลไป๋จนกงซีเฉียวคิดได้ถึงข่าวกู้หนานโดนสีชิงหักหน้าก่อนหน้านี้ เลยคิดว่าสวีเชานี่รู้ดี สวีเชาเลยบอกว่าตัวเองเกี่ยวดองกับตระกูลสวีแห่งตี้ตู กงซีเฉียวเลยถามว่าเป็นญาติกับสวีเส้าเซวียน สรุปว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆ มิน่าล่ะๆ

สีชิงมารับที่กองถ่ายและเอาบัตรเชิญมาให้บอกว่าตระกูลเซวียจะจัดงานปาร์ตี้ให้ไปด้วยกัน คืนนั้นกงซีเฉียวนอนเร็วจนไม่รู้สึกว่ามีคนเข้ามาในห้อง พอตื่นถึงรู้ว่าสีชิงเข้ามา แปลว่าตัวเองไว้ใจสีชิงมาก ไม่เห็นเป็นคนอื่นคนไกล แบบนี้ก็อยู่ด้วยกันไปเลยแล้วกัน

สีชิงดีใจมาก วันนี้สองคนส่งข้อความหากับเสี่ยวเฉียวส่งข้อความบอกให้สีชิงเอาสูทมาให้ คนทั้งสองฝ่ายต่างก็เห็นว่าสองคนนี้อารมณ์ดีมาก

กองถ่ายของซิวเจินโดนแย่งสถาที่ถ่ายในเมืองหนังละคร สรุปว่าคนที่มาแย่งก็คือกองของภาพยนตร์เรื่อง หยวนเมิ่ง ที่เปลี่ยนตัวนักแสดงจากเหลี่ยงอวี่เมิ่งมาเป็นหลินคัง เพราะตระกูลไป๋ลงทุนและให้หลินคังรับบทนักแสดงนำ

งานปาร์ตี้ของตระกูลเซวียคือการบอกว่าจะเปลี่ยนตัวผู้นำคนใหม่เป็นเซวียฉง สีชิงกับกงซีเฉียวอยู่ในงานสนิทกันมากจนหลายคนทั้งแม่ของเซวียฉง สวีเส้าเซวียนและสวีเชาที่มางานดูออก สีชิงไม่ให้กงซีเฉียวเข้าใกล้ไป๋ฉี

กงซีเฉียวได้พบสวี่ซู่เพื่อนสมัยมัธยมด้วย สวี่ซู่เป็นทายาทตระกูลสวี่เช่นกัน และก็เป็นคนที่แอบรักกงซีเฉียวตอนเรียน

สยาจือต้าเจ่อได้เข้ารอบรางวัลใบไม้ทองคำ กับ ฮวางม่อเฉิง ทั้งสองเรื่องเป็นคนละแนว ทีมงานของ สยาจือต้าเจ่อ ได้มาเดินพรมแดง กงซีเฉียวต้องเดินเดี่ยวที่ทีมจัดงานให้ความสำคัญคือ ดาราสาวระดับโลกเป็นคนขอร่วมเดินพรมแดงร่วมด้วย ตอนที่กงซีเฉียวถ่ายรูปร่วมกับดาราอยู่นั้นก็มีดาราสาวที่ไหนไม่รู้ขอถ่ายรูปด้วย ด้วยความมีมารยาทกงซีเฉียวก็ให้ถ่ายรูป แต่จากนั้นก็ยังพยายามจะเกาะขาสร้างกระแสแต่เป็นไปไม่ได้ ส่วนเพื่อนๆทีมนักแสดงที่กงซีเฉียวร่วมงานมาด้วยก็กงซีเฉียวดึงให้มาถ่ายรูปร่วมด้วย และขนาดฟิลิปส์ ผู้กำกับก็ยังเข้ามาทักทาย เรื่องพวกนี้ทำเอาชาวเน็ตที่เกาะหน้าจอนอนดึกต่างเห็นกันหมด

แล้วก็มีทีมงานของกู้หนานที่อยากสร้างกระแสว่าความดังของกงซีเฉียวไม่เท่ากู้หนาน ไม่มีทางได้รางวัลระดับโลก เรื่องพวกนี้ทำเอาแฟนเฉียวไม่อยากทะเลาะด้วย แต่คนที่ใส่ใจกงซีเฉียวอย่างสีชิงถึงขนาดสั่งแบนไม่ให้บริษัทในเครือตระกูลสีใช้สีชิงเป็นพรีเซ็นเตอร์กันเลยทีเดียว

เสี่ยวเฉียวนั่งกับทีม โกลเด้นแคสเซิ่ล ภาค2 ทำเอาทุกคนแปลกใจ สวีเชาเลยบอกว่ากงซีเฉียวได้เป็นนักแสดงรับเชิญในเรื่อง

โกลเด้นแคสเซิ่ล ภาค2 ได้รางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม ส่วนเรื่อง  สยาจือต้าเจ่อ ได้ไปถึงสองรางวัลคือรางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม และรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม กงซีเฉียวได้แสดงความสามารถไปในเวทีโลกอีกครั้ง

พอกลับถึงประเทศก็ได้ยินคำถามว่าคนนั้น คนนี้ที่เข้ามาขอถ่ายรูปอะไรยังไง กงซีเฉียวคืองงมากว่าไม่เห็นรู้จักเลยซักนิด พอดังก็จะมีคนเกาะกระแสจริงๆ แล้วกงซีเฉียวก็ชวนสีชิงกลับไปเยี่ยมพ่อกับแม่ที่บ้าน ทำเอาสีชิงเตรียมของฝากซะกองโตทีเดียว

เฉียวหลานเฟินมองออกว่ากงซีเฉียวกับสีชิงคบกันแต่ก็เข้าใจ จะพูดกับคุณพ่อกงซีให้ เขารู้สึกโชคดีที่มีพ่อแม่ที่ดีขนาดนี้

โกลเด้นแคสเซิ่ล ภาค2 ได้รับการตอบรับอย่างดี ตอนกำลังจะออกจากโรง สยาจือต้าเจ่อ ก็เริ่มทำการโปรโมต ในรอบปฐมทัศน์ได้รับเสียงตอบรับคำวิจารณ์ที่ดีมาก ตอนนี้คนในวงการเปลี่ยนคำเรียกจากคุณชายเฉียวเป็นพี่เฉียวแล้ว มีเพียงคนสนิทที่ยังเรียกเสี่ยวเฉียว

เพราะว่าหนังประสบความสำเร็จทำให้ทั้งสองคนฉลองกันและเป็นของกันและกัน ทำเอาท่านสีนี่หน้าแดงหูแดงด้วยความตื่นเต้นทีเดียว พอไปบริษัทผู้ช่วยโก่วกับถังหลิน หัวหน้าเลขา เห็นหน้าท่านประธานกว่าจะคิดได้ว่าท่านประธานไปมาความรักที่ไหน ต้องปิดปากเงียบทีเดียว ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันไม่ได้ปกปิด แต่ก็ไม่ได้เปิดเผย ภายนอกคนก็ยังเห็นเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากอยู่นั้นเอง ขนาดกงซีเฉียวถูกนินทาว่าเกาะขาใหญ่ยังไม่สนใจ ทั้งยังใช้ขาใหญ่จัดการวะเลย แปลว่าสนิทกันถึงขนาดไหนควรรู้เอาไว้ให้ดี

ไป๋ฉีอยากร่วมงานกับสีชิงกลับถูกปฏิเสธจึงไปหาหลินคังที่กองถ่าย ที่ไม่คาดฝันคือได้เห็นกงซีเฉียว ความอิจฉาภายในก็แสดงออกมา ถึงกับบอกว่าถ้าจัดการกับกงซีเฉียวแล้วเขาจะรู้สึกยังไง หลินคังตกใจมาก บอกว่ากงซีเฉียวเป็นคนดี สุดท้ายเพราะตัวเองไร้กำลัง ได้แต่แอบไปซื้อโทรศัพท์และซิมใช้แล้วทิ้งเพื่อส่งข้อความเตือนกงซีเฉียว และอีกข้อความขอให้โชคดี เมื่อกงซีเฉียวได้รับข้อความยังไงก็ต้องบอกสีชิงเอาไว้ก่อน แล้ววันนั้นเฉินเคอก็มาบอกว่าหลินคังฆ่าตัวตาย ทั้งยังโพสต์ข้อความในเวยปั๋วเอาไว้ เมื่อกงซีเฉียวเข้าไปอ่าน แม้ว่าไม่เคยสนิทสนมกับหลินคัง แต่ก็เชื่อมโยงได้ว่าเป็นคนที่ส่งข้อความมาเตือนด้วยความหวังดี ตอนนี้กงซีเฉียวจึงแสดงออกอย่างชัดเจนที่สนับสนุนให้ลงโทษคนผิด ทั้งยังหาทนายมือดีให้หลินคัง พาไปรักษาตัวอย่างดีในโรงพยาบาลของเครือตระกูลสี ส่วนตัวเองก็ต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ช่วงนี้กงซีเฉียวจะมีคำด่าคนละมิติที่คนอื่นฟังไม่เข้าใจเพราะด่าแบบเปรียบเปรยแบบโบราณ คนเรียนเอกประวัติศาสตร์มาก็อย่างนี้ ทั้งเจออุบัติเหตุทางรถยนต์ไม่คาดฝันดีที่ได้คนขับรถฝีมือดี มีทั้งคนมาลอบฆ่าขณะให้สำภาษณ์

ในที่สุดก็สามารถจัดการไป๋ฉีได้สำเร็จ การที่ตระกูลไป๋ล้มง่ายขนาดนี้เพราะจากภายในเองเป็นหลักใหญ่ ใครก็ไม่รู้นอกจากตัวเองว่าที่ไป๋ฉีแค้นเพราะตัวเองอยากเป็นที่ถูกใจสีชิง แต่คนที่ได้อยู่กับสีชิงกลับเป็นนักแสดงกระจอกๆ ช่างมีความคิดบิดเบี้ยวจริงๆ

กงซีเฉียวมาที่บ้าน กงซีสยงก็อยากรู้ว่ากงซีเฉียวมีแฟนหรือยังเป็นใครให้บอกมา สีชิงมาเยี่ยมพร้อมกับของฝากอีกแล้ว และก็แสดงออกจนกงซีสยงแปลกใจว่าจะให้แขกชงชาได้ยังไง อะไร กว่าจะรู้ว่านี่แหละคือคนรักของลูกชาย แต่ก็ยอมเปิดใจละนะ เพราะความสุขของลูกสำคัญที่สุด ตลกคุณพ่อกงซีมาก แต่บ้านนี้เป็นครอบครัวอบอุ่นจริงๆ

เรื่องของหลินคังจบลงด้วยดี หลินคังที่ไม่ได้ประจบกงซีเฉียวเพราะตัวเองมีความชื่นชอบอีกฝาก ครั้งนี้จะไปเมืองนอกซักระยะเลยขอถ่ายรูปด้วย แล้วก็จากไปอย่างเงียบๆ

กงซีเฉียวเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าแบรนด์ใหญ่ที่จะฉายทั่วโลก ระหว่างที่คุยกับเฉินเคอที่คฤหาสน์ตระกูลสี เฉินเคอยังพูดถึงเรื่องของกู้หนานพอพูดไปมาทำให้รู้สึกได้ว่ากู้หนานหายหน้าไปหลังจากงานประกาศรางวัลใบไม้ทองคำ และก็คิดกันได้ว่าต้องเป็นสีชิง เพราะสีชิงใช้คำว่าอีก เฉินเคอสังเกตจนรู้ว่ากงซีเฉียวอยู่กับสีชิง สีชิงดูแลเอาใจใส่ดีก็วางใจ

กงซีเฉียวตัดสินใจจะลงทุนภาพยนตร์ระทึกขวัญที่ดูแล้วสมเหตุสมผล แถมยังบทของญาติ เซี่ยงหงเจ้าของบริษัทเซินเหออีกด้วย เรื่อง เมิ่งหุยหลาง   

กู้หนานที่ไม่มีงานตอนนี้ก็ต้องการขอโทษสีชิง เพราะคำสั่งของสีชิงทำให้ตัวเองไม่มีงาน ประธานหวานซิงก็พยายามหาทางติดต่อเพื่อขอโทษสีชิง

กงซีเฉียวถ่านโฆษณาเสร็จก็ได้รับโทรศัพท์จากสีชิง กงซีเฉียวไม่รู้เรื่องแต่ก็ไปตามนัด ที่ร้านอาหาร ทุกคนมาแล้ว สีชิงมาแล้วแต่บอกให้รอเพื่อนอีกคน คนที่ให้รอก็คือกงซีเฉียว พอมาถึง ถึงแม้จะไม่รู้เรื่อง สีชิงไม่สนใจการขอโทษขอขมาของกู้หนาน กู้หนานก็ใช่ว่าจะไม่มีสมอง ของโทษกงซีเฉียวด้วยเหล้าสามแก้ว ดีที่กงซีเฉียวไม่ผูกใจเจ็บ ยอมให้อภัย กู้หนานยังบอกว่าที่จริงแล้วตัวเองก็โดนเล่นงานจากเหลียงอวี่เมิ่ง แล้วกงซีเฉียวจะยอมได้ยังไง

ภาพยนตร์ เมิ่งหุยหลาง เพื่อนๆที่สนิทกับกงซีเฉียวมาเล่นกันหลายคน และกงซีเฉียวยังช่วยดึงกู้หนานมาเล่นด้วย ทำให้กู้หนานหลุดพ้น ส่วนเหลียงอวี่เมิ่งตอนนี้ก็มีแต่ข่าวไม่ดี เพราะมีคนออกมาแฉเรื่องราวทั้งหมดของตัวเองตั้งแต่เกาะผู้อุปถัมภ์จนวางแผนสลัดทิ้งโดยใช้กงซีเฉียว ตอนนี้ก็ไม่มียาแก้ความเสียใจแล้ว ที่ไปใช้กงซีเฉียว คนที่ไม่สมควรแตะตั้งแต่แรก

งานราตรีตรุษจีนแห่งชาติ กงซีเฉียวได้รับเชิญให้ไปร่วมงาน จึงตัดสินใจจะร้องเพลง จิ้งเทียนฉวี่ บทเพลงเคารพสวรรค์ในสมัยเทียนจิ้น

สีชิงเห็นกงซีเฉียวร้องเพลงนี้ในห้องอัดคฤหาสน์ตระกูลสีที่ทำให้โดยเฉพาะ เลยสนใจประวัติศาสตร์ช่วงเทียนจิ้นขึ้นมาถึงขนาดให้ผู้ช่วยโก่วหาหนังสือให้อ่าน และก็สนใจเสนาบดีกง กงเส้าเฉียวเพราะมีชื่อคล้ายเสี่ยวเฉียว และมีเล่มหนึ่งที่เสี่ยวเฉียวไปเป็นที่ปรึกษาด้านประวัติศาสตร์อีกด้วย

สีชิงได้รับโทรศัพท์จากเสี่ยวเฉียวว่าต้องไปถ่ายภาพยนตร์นอกสถานที่ ภาพยนตร์เรื่อง จ้วงเชอ เป็นภาพยนตร์คอมเมดี้ เนื้อหาเป็นเหตุเป็นผล เรื่องนี้กงซีเฉียวปฏิเสธไม่ได้เพราะผู้กำกับหลิว หนึ่งในสามผู้กำกับ กั๋วเย่ขอให้มาแสดง ตอนอยู่ในกองกงซีเฉียวยังได้ยินคนนินทาตัวเองจากในห้องพัก คนนั้นคือเฉาเจิงที่เคยอยู่เซินเหอแล้วย้ายไปหวานซิง พูดจาว่าร้ายกงซีเฉียวว่าเกาะขาใหญ่จนดัง ส่วนคนที่ช่วยพูดให้กงซีเฉียวเพราะไม่เห็นด้วยคือเหลียงตง ที่กงซีเฉียวได้แสดงแทนในปี้เยว่กงจู่ ด้วยนิสัยของกงซีเฉียวที่เจ้าคิดเจ้าแค้น ก็บอกกันตรงๆ แถมยังโทรหาขาใหญ่ตรงๆต่อหน้าให้เห็นไปเลย ทำเอาเฉาเจิง ต้องเก็บของกลับบ้าน ส่วนเหลียงตงที่กลัวว่าตัวเองจะเป็นคนต่อไปกลับได้รับบทของเฉาเจิงมาแทน

กงซีเฉียวกลับมา สีชิงก็มารอรับ มีคนแอบถ่ายถึงแม้ว่าจะดูด้านหลังออกแต่สุดท้ายก็ไม่มีข่าวอะไร ที่บ้านกงซีเฉียวก็ดูแลต้อนรับสีชิงอย่างดี

วันตรุษจีน กงซีเฉียวไปออกรายการเสร็จคนดูเห็นถึงความสามารถด้านการร้องเพลงสีชิงก็ไปดูและกลับบ้านฉลองตรุษจีนที่บ้านกงซีเฉียว และในที่สุดก็ได้เรียกพ่อกับแม่อีกคนหนึ่งในปีใหม่นี้

หลังตรุษจีนกงซีเฉียวได้รับบทจากภาพยนตร์ศิลปวัฒนธรรมเรื่อง ว่างท่าน จากผู้กำกับหลี่ ตอนแรกผู้เขียนบทยังไม่แน่ใจในตัวกงซีเฉียวแต่เมื่อได้เห็นการแสดง ก็ไม่มีอะไรให้พูดถึง กงซีเฉียวเข้าถึงบทเหมือนเคยลำบากมาก่อน ทั้งที่ชีวิตนี้เป็นลูกเศรษฐี สีชิงก็คิดว่าดีที่ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง

กงซีเฉียวและสีชิงแม้จะมีนักข่าวรู้ คนรู้ แต่ทุกคนก็อวยพรให้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เพราะการดำเนินชีวิตของทั้งคู่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอะไร มีแต่คนรัก และอวยพรให้

หลังอ่านเล่ม 3 :

ในที่สุดเรื่องราวต่างๆของคุณชายเฉียวท่านเทพบุตรก็มาถึงเล่มสุดท้าย ช่างเป็นชีวิตที่สว่างสดใส งดงาม ถ้ามีคนทำไม่ดี คุณชายเฉียวก็เจ้าคิดเจ้าแค้น ไม่ได้ทำให้คนนั้นอยู่อย่างเป็นสุข มาดูบทสรุปที่ดีงามของทั้งสองกันค่ะ แล้วคุณจะรักเทพบุตรเฉียวกับท่านสี

แนว feel good ที่อ่านแล้วไม่เครียด มีความสุขจริงๆ ความเก่งเทพของเสี่ยวเฉียว กับการรักและดูแลของท่านสีนี่ต้องยกนิ้วให้เลยทีเดียว


 เนื้อเรื่อง :

กงซีเฉียวมารับบทพระรองอันดับสองเรื่องปี้เยว่กงจู่ เรียกว่าเป็นเส้นของโปรดิวเซอร์เหยาที่เป็นเพื่อนกับพ่อ กงซีสยาก็ได้ ที่บ้านกงซีเฉียวทำเหมือง เป็นคุณชาย บ้านรวยอยู่แล้ว ตัวเองเรียนเอกประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยตี้ตูแต่สนใจด้านการแสดง เป็นเพราะชาติก่อนเกิดในกลียุค เคยอยู่ข้างกายจักรพรรดิ รู้ว่าอะไรสมควรไม่สมควรทำ รู้จักกาลเทศะ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากจักรพรรดิจนวันตาย เพราะแบบนี้จึงคิดว่าตัวเองเหมาะกับอาชีพนักแสดงจึงมาลองดู คนอื่นไม่รู้ก็คิดว่ากงซีเฉียวเป็นพวกลูกเลี้ยงของใครซักคน นี่คือคนช่างนินทาคิดว่ากงซีเฉียวมีคนอุปถัมภ์ เพราะเอาเงินมาช่วยกองถ่ายเลยได้แสดงในละครด้วย มีไม่กี่คนที่รู้ว่ากงซีเฉียวลูกชายเจ้าของเหมืองบ้านรวย

ทุกคนที่รู้จักต่างเห็นว่ากงซีเฉียวมีอีคิวดีกว่าคนในวัยเดียวกัน การแสดงดี ความสามารถรอบตัวทั้งการดีดฉิน เขียนพู่กัน ขี่ม้า ยิงธนู เพราะทั้งหมดคือศาสตร์ของคนโบราณ ละครที่ไม่คิดว่าจะดังก็ดัง กงวีเฉียวเริ่มมีชื่อเสียง เพราะได้รับโอกาส และการเลือกบทที่ดี การเลือกบริษัทดาราก็เป็นส่วนสำคัญ

ระหว่างนั้นก็มีเหตุให้พบกับสีชิง ประธานหัวหน้าเครือตระกูลสี และอีกหลายครั้งต่อมา จนทั้งสองเริ่มสนิทกันมากขึ้น ความจริงแล้วสีชิงเคยพบกับกงซีเฉียวเมื่อตอนที่พ่อแม่ตัวเองถูกวางแผนลอบฆ่า ส่วนกงซีเฉียวเนื่องจากเป็นคนที่ระมัดระวังกว่าจะยอมสนิทกับสีชิงก็ต้องผ่านระยะเวลาและการพิสูจน์

เรื่องราวด้านการแสดงดีวันดีคืน คนที่คิดจะขัดขวางกงซีเฉียวถูกเจ้าตัวมองออกอย่างง่ายดาย และก็ดับไปอย่างง่ายได้ เจ้าตัวบอกเองว่าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น มีแค้นต้องชำระ เมื่อย้อนดูจะเห็นว่าคนที่ดีกับกงซีเฉียวจะได้ดี ส่วนคนที่คิดร้ายจะอยู่ไม่ได้โดยไม่ทันรู้ตัว คุณชายเฉียวมีวิธีเชือดนิ่มๆที่ทำให้ไม่มีใครเกลียด มีแต่คนรักใคร่ขนาดแฟนคลับยังเป็นพวกที่นิสัยดี พ่อแม่ผู้ปกครองสนับสนุนให้เด็กติดตามไอดอลแบบนี้เป็นแบบอย่าง

หลังอ่าน :

กงซีเฉียวคือเทพบุตรแห่งชาติอย่างแท้จริง ส่วนสีชิงคือคุณผู้ชายของผม หน้านิ่งเย็นชา แต่ในใจช่างอบอุ่นอ่อนโยน เมื่อทั้งสองรักกัน คบกัน ดูเหมือนเพื่อนสนิทดูแลกันแต่กลิ่นอายความรักนี่ไม่มีหลบ แต่ก็ไม่มีใครไปว่าอะไร เพราะทุกคนดูที่ผลงานของกงซีเฉียว และอิทธิพลของสีชิงก็มากพอจะทำให้คนไม่กล้าพูดมาก

เป็นนิยาย feel good สไตล์นักเขียน ที่ตัวเอกเก่งเทพ พึ่งตัวเองได้ หล่อ รวยอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีความรักที่งดงาม เพราะเนื้อแท้ดีงาม ของตัวเอง ขนาดภายนอกดูดี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนสนิทมีแต่ความขี้เกียจ สีชิงก็ยังบอกว่าเสี่ยวเฉียวดีที่สุดแล้ว ช่างเป็นพระเอกที่ซึนจริงๆ อย่างที่เสี่ยวเฉียวบอกเลย

 

 19/10/63