Sunday, March 22, 2020

#ฟ้าส่งข้ามาลุย #ภาคปีศาจผีผา #2เล่มจบ #สนพ.ห้องสมุดดอตคอม


เรื่อง : ฟ้าส่งข้ามาลุย – ภาคปีศาจผีผา (2เล่มจบ)
ผู้แต่ง : Wen Nai Cha
ผู้แปล : ทีมแปลห้องสมุด
พิมพ์ครั้งที่ 1 : พฤษภาคม 2562

โปรยปกหลัง :
ผีผาน้อย นางมารสะคราญโฉม
เจ้าโอ้โลมชายหนุ่มจนหลงใหล
ทำแว่นแคว้นเกิดทุกข์เข็ญจนเป็นภัย
ขอสาปแช่งให้ตายไป... พร้อมแผ่นดิน
นางมารผีผา น้องเล็กสุดในบรรดาสามปีศาจงามล่มเมือง 
รับบัญชาเทพธิดาหนี่ฮวาให้มาล่อลวงโจ้วอ๋องแห่งราชวงศ์อินซาง 
นางถูกบัณฑิตเจียงจื่อหยาและบรรดานักพรตไล่ล่า ตามทำลายล้าง 
แต่ด้วยความช่วยเหลือของสองพี่สาว 
ผีผาหยกขาวจึงถูกนำไปซุกซ่อนอยู่ในที่ที่ไม่มีใครรู้ 
ท่ามกลางกลียุค และการผลัดเปลี่ยนรัชสมัย 
ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านวันผ่านคืน 
ผีผาหยกขาวค่อยๆเลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คน 
ใครจะรู้ว่าพันปีให้หลัง.. 
ในยุคที่เทพและมารเป็นเพียงความเชื่อ 
นางจะถูกค้นพบ!

คำนำสำนักพิมพ์ :
นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นโดนอ้างอิงวรรณกรรมจีนโบราณที่ชื่อว่า เฟิงเฉินหยั่นอี้หรือ Romance of the Investiture of the Gods โดยเนื้อเรื่องกล่าวถึงโจ้วอ๋องแห่งราชวงศ์อินซางที่เสด็จไปทำพิธีกราบไหว้เทพธิดา หนี่ฮวาที่วัด ครั้นเห็นว่ารูปแกะสลักของนางงดงามเกินห้ามใจ พระองค์จึงแต่งโคลงระบายความกำหนัดที่มีต่อนางขึ้นบนฝาวัด
เมื่อถูกหยามเกียรติเทพธิดาหนี่ฮวาก็โกรธจัด นางเลยส่งปีศาจจิ้งจอก ปีศาจไก่ฟ้าเก้าหัว และปีศาจผีผา มาล่อลวงโจ้วอ๋องเสียจนแว่นแคว้นเกิดความวิบัติ
ปีศาจทั้งสามทำให้พระองค์ลุ่มหลงจนละเลยภารกิจอันพึงมีต่อบ้านเมือง เป็นเหตุให้ไพร่ฟ้าสาปแช่งทั่งทั้งแผ่นดิน ขุนนางคนใดอาจหาญทัดทานพระองค์ ก็จะสั่งลงทัณฑ์จนถึงแก่ความตาย ด้วยเหตุนี้ บรรดานักพรตจากหลายแคว้น นำโดยบัณฑิต "เจียงจื่อหยา" และอาจารย์ของเขา จึงตั้งกลุ่มขับไล่ปีศาจที่มีชื่อว่า "บรรพเทวกษัตริย์" ซึ่งสามารถติดต่อกับเทพบนชั้นฟ้าได้ จึงเป็นที่มาของศึกระหว่างมนุษย์และปีศาจที่มีเหล่าทวยเทพทั้งฝ่ายร้ายและฝ่ายดีคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง
นิยายเรื่องนี้อ้างอิงถึงเหตุการณ์บางช่วงของวรรณกรรมเฟิงเฉินหยั่นอี้ โดยเลือกที่จะเล่าในส่วนของปีศาจผีผาน้องเล็กสุดในบรรดาสามปีศาจงามล่มเมือง แล้วส่งนางให้ไปโลดแล่นใหม่อีกครั้งในยุคปัจจุบัน ... ยุคที่เครื่องดนตรีจีนโบราณกำลังจะสูญหายไปจากสังคม

เล่ม 1 :


ปีศาจผีผาถูกเจียงจื่อหยาเผาจนกลายร่างเดิมเป็นผีผาหยก นางจำได้แม่นยำว่านักพรตแซ่เจียง หลังจากที่ซูต๋าจี่ ปีศาจจิ้งจอก กับหูสี่เม่ย ปีศาจไก่ฟ้าเก้าหัว ทำภารกิจเสร็จไม่ได้ขึ้นสวรรค์เทพธิดาหนี่ฮวาผิดสัญญาที่ให้ไว้ทำให้พวกนางไม่ไว้ใจพวกเทพอีกต่อไป กลับโดนเจียงจื่อหยาไล่ล่าพวกนางฐานเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ทำให้ต้องหนีการตามล่าและลืมเอาผีผาหยกไปด้วย
พันปีต่อมา ในที่สุด ซูฉางเล่อก็หาผีผาหยกเจอ ตอนนี้นางเป็นนักแสดงชื่อดัง และได้มาเปิดพิพิธภัณฑ์ ได้แอบใช้อาคมขโมยผีผาหยกกลับมา ซูฉางเล่ออยู่ร่วมกับหูเฉียวสี่ นักเขียนชื่อดัง ตอนนี้ก็มาทำให้น้องสามฟื้นขึ้นมาโดยยืมร่างที่เข้ากันได้โดยที่เจ้าของร่างเป็นเจ้าหญิงนิทราเพราะประสบอุบัติเหตุ เมื่อฟื้นขึ้นมาหลังจากอยู่ในร่างเดิมมาเป็นพันปี ตอนนี้ผีผาหยกมีชื่อว่าอวี้เหยา อายุสิบห้าปีแต่หูเฉียวสี่เปลี่ยนชื่อเป็นอวี้จื่อฉยง เรื่องแรกที่อยากได้คือผีผาจึงไปหาซื้อกับหูเฉียวสี่ตอนเล่นก็ใส่พลังปีศาจสะกดลงไปทำให้คุณปู่เจ้าของร้านโดนสะกด ในเมื่อไม่รู้เรื่องมาตั้งแต่ต้นทำให้ต้องอธิบายว่าอาณาจักรอินซางล่มสลายไปแล้วและอีกมากมาย และให้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ตอนนี้
มาเข้าเรียนก็ได้เรียนห้องหนึ่ง ห้องที่เก่งที่สุด แถมหัวหน้าห้อง อันอวี๋เหนียน ที่ไม่เคยพูดกับใครมากก็พูดกับนางเพราะอวี้จื่อฉยงแปลกเกินไป ส่วนอวี้จื่อฉยงที่ไม่สนใจและปล่อยพลังปีศาจไปเพราะอยากจะควักลูกตาของอันอวี๋เหนียน ก็นางเป็นปีศาจนี่นะ อันอวี๋เหนียนไม่เป็นอะไรเลยเมื่อโดนพลังปีศาจเรื่องนี้แปลกเกินไปแล้ว เรื่องนี้ทำให้คนสนใจกันทีเดียวเพราะ อันอวี๋เหนียนไม่ชอบพูดมาก และตอนนี้ก็มีหลี่ปี้ฉินสาวผู้ปากอย่างใจอย่างสนใจอวี้จื่อเหยาเพราะนางบอกว่าเล่นผีผาได้เลยชวนมาเข้าชมรมดนตรีจีนโบราณ สรุปว่าคุณปู่ของอันอวี๋เหนียนเข้าโรงพยาบาล และพ่อแม่ที่เสียไปของอันอวี๋เหนียนนั้นแม่ก็แซ่เจียง ที่สองพี่น้องปีศาจสาวหนีการตามล่ามาตลอดแน่นอน
อวี้จื่อฉยงไปเรียนก็ตามหาปีศาจอายุสามร้อยปีที่อยู่ในโรงเรียนที่เคยรู้จักกับซูฉางเล่อ ตอนที่อยู่โรงเรียนนางได้เรียนวิชาต่างๆก็จะจดลงแผ่นหยกแล้วค่อยเอาออกมาใช้ ส่วนวิชาที่สนใจจริงๆคือวิชาประวัติศาตร์ ช่วงนี้อาจารย์พูดถึงราชวงศ์อินซางและให้ไปอ่านเฟิงเฉินหยั่นอี้ แล้วเอามาเขียนบทความส่ง ทำให้ต้องไปขอความช่วยเหลือจากอันอวี๋เหนียน
ในชมรมดนตรีอวี้จื่อฉยงเล่นผีผาแต่ก็ระวังไม่ปล่อยพลังปีศาจออกไปสังหาร ทำให้นางอยากได้กลิ่นควันธูปเป็นของตัวเอง ตอนนี้จึงหางานทำโดยการจะให้ความคุ้มครองบุตรสาวบุญธรรมของเทพ ศาลเจ้าที่แทน เด็กคนนั้นโชคร้ายตั้งแต่เกิดต้องเอามาฝากวัด ม่อโฉวเอินที่อยู่ห้องสิบสามห้องบ๊วยสุด โดนคนแกล้งเป็นประจำ อวี้จื่อฉยงก็มาคุ้มครอง แต่แล้วม่อโฉวเอินกลับจำอวี้จื่อฉยงในร่างอวี้เหยาได้ทั้งที่นางบอกว่านางไม่ใช่ และได้เล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับอวี้เหยาและรู้สึกผิดมาตลอด แปลว่าเรื่องราวต่างๆไม่อาจคาดเดาได้จริงๆทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน และยังบอกว่าในห้องที่สิบสามมีค่ายกลที่รวมเอาความโชคร้ายเข้าไว้ด้วยกัน ค่ายกลนี้จริงๆเป็นค่ายกลค่ายกลกลุ่มดาวเทียนกังกลับการเป็นค่ายกลปีศาจไปซะได้เรื่องนี้เจียงจื่อเมิ่งที่เข้ามาเป็นอาจารย์สอนแทนวิชาประวัติศาสตร์ในห้องสิบสามก็ตรวจสอบพบ
ที่โรงเรียนมีการทดสอบภาษาอังกฤษอวี้จื่อฉยงทำคะแนนได้หนึ่งร้อยเต็มและเห็นว่าแต่ละคนมีจิตใจไม่บริสุทธิ์ก็พยายามปกป้องกระดาษคำตอบสุดชีวิต จนอันอวี๋เหนียนต้องเสนอว่าเอาของตัวเองไป อวี้จื่อฉยงเข้าชมรมดนตรีและครูฟางอยากให้ไปหาอาจารย์ปู่อัน นางจึงตกลง พอไปถึงก็คือร้านเครื่องดนตรีที่ตัวเองเคยมาซื้อผีผานั่นเอง ที่นั่นมีสองพี่น้องตระกูลเจียง เจียงซือเสวียน เจียงซืออิ๋งคอยดักเล่นงานอวี้จื่อฉยงอยู่และโดนค่ายกลเชือกทองแดงของเจียงจื่อหยากักไว้ แต่เพราะอันอวี๋เหนียนเป็นหลายชายของคุณปู่อันถงเซียว และคิดอยากเล่นเครื่องดนตรีให้คุณปู่ฟังเลยมาที่ร้านเครื่องดนตรีและเห็นสองพี่น้องเข้ามาที่ร้าน ทั้งยังท่าทางประหลาดกับได้ยินเสียงของอวี้จื่อฉยง เลยช่วยเหลือให้อวี้จื่อฉยงหนีไป ตัวเองถูกสองพี่น้องเล่นงานจนมนต์สะกดหายไป ดวงตาแดง และมีหางสีขาว สุดท้ายเมื่อเจียงจื่อเมิ่งพ่อของทั้งสองที่เอากระบี่ปราบมารมาโดยพละการมาถึงหลังจากโดนม่อโฉวเอินขัดขวางที่โรงเรียน หลังจากพบว่าอันอวี๋เหนียนหายไปเหลือเพียงเสื้อผ้าก็ไม่สนใจลูกทั้งสองของตัวเองที่ได้รับบาดเจ็บเป็นห่วงแต่อันอวี๋เหนียน ละรีบไปตามหาพลังปีศาจที่ปรากฏขึ้นทั้งยังใช้กระบี่ปราบมารอีกด้วย ม่อโฉวเอินรู้ว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับอวี้จื่อฉยงก็รีบตามมาทั้งยังใช้เศษยันต์หยกที่อวี้จื่อฉยงมองให้เป็นตัวล่อทำให้กระบี่ปราบมารฆ่าคนบริสุทธิ์หมดสิ้นฤทธิ์เดชทันที อวี้จื่อฉยงเสียใจที่ไม่อาจรักษาสัญญาปกป้องม่อโฉวเอินได้ หูเสียวฉีตามออกมาทำร้ายเจียงจื่อเมิ่งก่อนจะไปหาอวี้จื่อฉยง และจัดการให้เรื่องม่อโฉวเอินเป็นอุบัติเหตุ และอวี้จื่อฉยงก็พบกับเจ้าก้อนสีขาว ที่ต่อมาถึงรู้ว่าเป็นจิ้งจอกขาวสามหางพากลับไปเลี้ยงที่บ้าน
ซูฉางเล่อกลับมาพบว่าไม่ถูกกับจิ้งจอกตัวนี้แต่ก็ตั้งชื่อให้ว่าชิงเหอ หูเฉียวสี่เป็นนักเขียนชื่อดัง ตอนนี้อยากจะพาอวี้จื่อฉยงออกไปเปิดหูเปิดตาด้วย อวี้จื่อฉยงพบว่าพี่รองมีคนชื่นชมมากมาย และชิงเหอที่อยู่ในกระเป๋าก็ร้องจึงออกมาเดินไปฝั่งเทศกาลการ์ตูนได้เห็นการแต่งกายแปลกๆก็นึกว่าคนอยากเลียนแบบเผ่าปีศาจ ช่างเข้าใจไปได้ และก็ได้เจอต่งฉินเพื่อนร่วมชั้นที่ไม่ชอบหน้าอวี้จื่อฉยงที่กำลังแจกใบปลิวละครวิทยุ เรื่องนี้ทำให้ประธานชมรมวิทยุกวงเหนียน สวีม่านอี ที่ได้เสียงของอวี้จื่อฉยงขอร้องให้เข้าร่วมทันที นางคิดถึงการขึ้นเวทีของพี่รอง การแสดงของพี่ใหญ่ เพื่อความชื่นชมบูชาของพวกมนุษย์ เลยรับปากไป
บทที่จะเล่นดัดแปลงมาจาก เหลียวไจจื้ออี้ อวี้จื่อฉยงถึงกับพูดไม่ออกและยังคิดในใจว่าพวกมนุษย์โง่เง่า ปีศาจอย่างเราไม่ใช่แบบนี้เสียหน่อย

หลังอ่านเล่ม 1 :
แนวเรื่องแตกต่างจากฟ้าส่งข้ามาลุย ภาคท่านหญิงหลีหยาง ให้ลบภาพจำเอาไปให้หมด เพราะนักเขียนคนละคน เรื่องนี้อ้างอิงวรรณกรรมจีนโบราณที่ชื่อว่า ‘เฟิงเฉินหยั่นอี้’ ปีศาจผีผาที่โดนเจียงจื่อหยาเผาเมื่อตอนสมัยราชวงศ์อินซางกลายร่างเดิมเป็นผีผาหยกกว่าจะได้ร่างมนุษย์เวลาก็ผ่านไปเป็นพันปี หลังจากหลับมานานตื่นขึ้นมาอีกครั้งทุกอย่างไม่เหมือนเดิม หินหยกเขียว ปีศาจผีผาตบะพันปีกลายเป็นปีศาจพลังแก่กล้า แต่นางช่างเฉยชา นิ่งเงียบต่างจากที่ทุกคนคิดจริงๆ แล้วต้องไปเรียนรู้สิ่งต่างๆใหม่เพราะอยู่ในร่างเด็กสาวอายุสิบห้าปี อวี้จื่อฉยงจะทำตัวยังไงจะหาควันธูปเพื่อฝึกตบะยังไง อ่านไปก็ขำไปกับความเฉยชาและความไม่รู้เรื่องในโลกปัจจุบันของนางจริงๆ และความสัมพันธ์ต่างๆของตัวละครจะค่อยๆเปิดเผย เฉลยออกมาทีละส่วนอย่างช้า 

เล่ม 2 :
บทละครที่ได้มีเรื่องของปีศาจจิ้งจอก แต่มันไม่สมจริงเอาเสียเลย อวี้จื่อฉยงเลยเอากลับมาให้พี่รองดู นักเขียนชื่อดังเลยปรับแก้เขียนให้ใหม่เป็น ทำเอาคนตกตะลึงว่าอวี้จื่อฉยงรู้จักคนดัง พอผลของละครวิทยุออกมาก็มีพลังวิญญาณมาให้อวี้จื่อฉยงแม้จะไม่มากแต่ก็มีจริงๆ ตอนนี้ชิงเหอมีหางหกหางแล้ว
วันสารทจีนเจ้าที่ได้มาเข้าฝันให้อวี้จื่อฉยงไปรับม่อโฉวเอินกลับมา เพื่อจะได้อยู่ที่ศาลเจ้าจนสามารถไปเกิดใหม่ได้ เมื่อรับกลับมาม่อโฉวเอินก็ขอร้องเรื่องที่ให้อวี้จื่อฉยงแก้ไขค่ายกลในห้องสิบสาม
พี่รองให้ชมรมชมรมวิทยุกวงเหนียนพาทย์เสียงละคร และให้อวี้จื่อฉยงได้เป็นตัวเอก ตอนที่กลับบ้านชิงเหอมารับกลับบ้านโดยมาในร่างมนุษย์ที่มีรูปลักษณ์คล้ายอันอวี๋เหนียน  อวี้จื่อฉยงยังไม่สงสัยอะไรนึกว่าปีศาจจิ้งจอกชอบเลียนแบบ ใกล้เวลาเปิดเรียนชิงเหอขอกลับบ้านอวี้จื่อฉยงคิดว่ากลับไปบนเขา ส่วนซูฉางเล่อ และหูเสียวฉีได้รู้ความจริงเกี่ยวกับความเป็นมาของชิงเหอแล้ว เหลือแต่น้องสามที่ใสซื่อบริสุทธิ์เท่านั้น
เปิดเทอมอวี้จื่อฉยงต้องย้ายมาเรียนที่ห้องสิบสามเพราะว่าขาดสอบปลายภาค มาถึงอวี้จื่อฉยงก็หาภาพที่แอบซ้อน ซึ่งเป็นยันต์สะกดทันที ตอนแรกนางไม่รู้ว่าค่ายกลสะกดอะไร และใช้กระดูกอะไรเลยไม่กล้าทำอะไรมาก ความคิดของทั้งม่อโฉวเอินและเพื่อนๆห้องสิบสามเหมือนกันคือสืบความเป็นมาของห้อง ก็ได้ความว่าห้องนี้เคยเป็นที่พักของครูมาก่อน ซึ่งก็คือคู่สามีภรรยาแซ่อันที่เป็นพี่ชายผู้อำนวยการ กับภรรยาแซ่เจียง ในที่สุดอวี้จื่อฉยงที่เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับแซ่และความผูกพันของมนุษย์เริ่มมองเห็นความเกี่ยวโยงกัน ว่าแซ่เจียงคือตระกูลเจียง และแซ่อัน เด็กคนนั้นคืออันอวี๋เหนียน ก็พอดีกับที่อันอวี๋เหนียนกลับมาเรียนแล้ว พออวี้จื่อฉยงไปดู ก็ไม่เห็นไอปีศาจในตัวก็คิดว่าไม่ใช่ แต่ที่จริงแล้ว ก่อนหน้านี้อันอวี๋เหนียนกลับบ้านและโดนกักตัว ทั้งยังถูกสะกด และยังโดนบอกให้รู้เรื่องการตายของแม่ที่มีความเกี่ยวข้องกับซูต๋าจี่ ตัวเองก็สองจิตสองใจ อยากแก้แค้น แต่ไม่อยากทำร้ายอวี้จื่อฉยง
อวี้จื่อฉยงเป็นห่วงชิงเหอมากเพราะว่าไม่กลับมานานเกินกว่าที่บอกเอาใว้ นางก็ออกไปหาทุกคืน จนในที่สุดก็คิดว่าไปหาเจ้าที่น่าจะรู้ว่าตามหาคนได้ที่ไหน เจ้าที่ในป่าเขาที่มีพลังมากเมื่ออวี้จื่อฉยงพบก็รู้ว่าสู้ไม่ได้ แต่นางเป็นหินหยกบริสุทธิ์ไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่กินเนื้อสัตว์ กินแต่ผักผลไม้ ทำให้ท่านเจ้าที่เอ็นดู และบอกความจริงเกี่ยวกับเรื่องเมื่อสิบห้าปีก่อนและชิงเหอ สุดท้ายอวี้จื่อฉยงคิดว่าจะกำจัดซะเพราะสายเลือดตระกูลเจียงแต่เมื่อรู้ว่า แม่ของอันอวี๋เหนียนตายเพราะอัคคีสามตะวัน เมื่อคิดได้จึงเป็นห่วงพี่ใหญ่ซูฉางเล่อ และตัดสินใจลักพาตัวอันอวี๋เหนียนเพื่อพูดจา
อันอวี๋เหนียนถูกอวี้จื่อฉยงพามาที่ห้องสิบสาม และบอกว่าจะสอนวิธีบำเพ็ญตบะ และให้หลอมอัคคีสามตะวันเป็นอัคคีจิ้งจอกไม่งั้นจะทำให้แผดเผาจนตาย และคำสำคัญคืออยู่ด้วยกัน อันอวี๋เหนียนที่หลงรักอวี้จื่อฉยงเลยยอมบอกว่าจะไม่ฆ่าซูต๋าจี่และบอกเรื่องที่รู้ว่าอวี้จื่อฉยงเป็นปีศาจผีผาหยก ตอนแรกว่าจะลวนลามตามประสาจิ้งจอก ดันโดนทักเรื่องหางที่เจ็ด อันอวี๋เหนียนเลยรีบออกจากห้องไปทันที และอวี้จื่อฉยงก็รู้ว่าที่แท้ตระกูลเจียงสะกดอัอวี๋เหนียนเอาไว้เพราะอยากได้อัคคีสามตะวัน ทั้งยังดึงกระดูกปีศาจของอันอวี๋เหนียนออกซะอีก ทีนี้นางเลยถ่ายพลังปราณปีศาจให้อีกซะเลย และตอนนี้ก็ต้องหาพลังมาเพิ่มก็คิดถึงละครเสียงขึ้นมาได้
อวี้จื่อฉยงมาแสดงละครด้วย และอันอวี๋เหนียนก็แอบตามมา แต่จริงๆแล้วเป็นกับดักของพวกตระกูลเจียงและตระกูลอื่นแอบร่วมมือกันคิดว่าจะกำจัดปีศาจไปในคราวเดียว ไม่คิดว่าอันอวี๋เหนียนจะเชื่อฟังหรือไม่ อวี้จื่อฉยงโดนยันต์สะกดตอนนั้นอันอวี๋เหนียนไม่ได้คิดอะไร ตกใจมากที่เห็นอวี้จื่อฉยงไม่หายใจ เลยเสียใจมากจนระเบิดพลังปีศาจออกมาจนกลับคืนร่างเดิม เรื่องราวลุกลามใหญ่โต แต่เพราะความบริสุทธิ์ใสสะอาดของอวี้จื่อฉยง และความรักที่มีให้ของอันอวี๋เหนียนทำให้อัคคีสามตะวันสลายไปกลายเป็นส่วนหนึ่งของอันอวี๋เหนียน และทั้งสองก็ออกท่องเที่ยวไปด้วยกัน แต่อวี้จื่อฉยงก็ยังไร้เดียงสาอยู่ดี

หลังอ่านเล่ม 2 :

เรื่องราวคลี่คลาย เพราะอวี้จื่อฉยง ปีศาจผีผาหยกที่จิตใจใสบริสุทธิ์ ความคิดไม่ซับซ้อน ทำให้ทุกเรื่องจากการหลั่งเลือดกลับกลายเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว มาดูความสามารถของอวี้จื่อฉยงที่ถึงแม้จะเป็นปีศาจ แต่เกิดจากหินหยก ใครเห็นใครก็รัก และไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต นักเขียนผูกเรื่องได้น่าอ่าน น่าสนใจ เสียนิดเดียวที่เรื่องนี้พิมพ์ผิด พิมพ์ตกเยอะมาก ทำให้อ่านแล้วสะดุดเป็นช่วงๆค่ะ แต่เนื้อเรื่องขำขัน สนุกทีเดียว

เนื้อเรื่อง :
ปีศาจผีผาถูกเจียงจื่อหยาเผาจนกลายร่างเดิมเป็นผีผาหยก นางจำได้แม่นยำว่านักพรตแซ่เจียง หลังจากที่ซูต๋าจี่ ปีศาจจิ้งจอก กับหูสี่เม่ย ปีศาจไก่ฟ้าเก้าหัว ทำภารกิจเสร็จไม่ได้ขึ้นสวรรค์เทพธิดาหนี่ฮวาผิดสัญญาที่ให้ไว้ทำให้พวกนางไม่ไว้ใจพวกเทพอีกต่อไป กลับโดนเจียงจื่อหยาไล่ล่าพวกนางฐานเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ทำให้ต้องหนีการตามล่าและลืมเอาผีผาหยกไปด้วย
พันปีต่อมา ในที่สุด ซูฉางเล่อก็หาผีผาหยกเจอ ตอนนี้นางเป็นนักแสดงชื่อดัง และได้มาเปิดพิพิธภัณฑ์ ได้แอบใช้อาคมขโมยผีผาหยกกลับมา ซูฉางเล่ออยู่ร่วมกับหูเฉียวสี่ นักเขียนชื่อดัง ตอนนี้ก็มาทำให้น้องสามฟื้นขึ้นมาโดยยืมร่างที่เข้ากันได้โดยที่เจ้าของร่างเป็นเจ้าหญิงนิทราเพราะประสบอุบัติเหตุ เมื่อฟื้นขึ้นมาหลังจากอยู่ในร่างเดิมมาเป็นพันปี ตอนนี้ผีผาหยกมีชื่อว่าอวี้เหยา อายุสิบห้าปีแต่หูเฉียวสี่เปลี่ยนชื่อเป็นอวี้จื่อฉยง ก็ต้องหาผีผา ทำให้ได้พบกับคุณปู่เจ้าของร้านเครื่องดนตรี และดันเล่นเพลงสะกด ต่อมาก็ต้องไปเรียนเพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อยู่ห้องหนึ่งและรู้จักกับอันอวี๋เหนียนที่อวี้จื่อฉยงรู้สึกว่าแปลกประหลาดเพราะไม่รู้สึกถึงพลังปีศาจที่ปล่อยออกไป อวี้จื่อฉยงที่เป็นผีผาหยกท่าทางนิ่งเฉย ไม่สนใจสิ่งใดเพราะเกิดมาจากหินหยก จะว่าเย็นชาก็ได้ แต่อันอวี๋เหนียนก็ใสใจ
อวี้จื่อฉยงยังยึดธรรมเนียมเก่าต้องบำเพ็ญโดยการหาควันธูป ไม่เหมือนพี่ทั้งสองที่ใช้ความศรัทธาจากมนุษย์ในรูปแบบอื่นคือเป็นดาราดัง และนักเขียนชื่อดัง โดยไปทำข้อตกลงกับศาลเจ้าที่ขอเป็นผู้อารักขา ม่อโฉวเอินที่เป็นบุตรสาวบุญธรรมของเจ้าที่ที่มีดวงเรียกแต่ปีศาจเล็ก ปีศาจน้อยดูดพลังชีวิตตลอดเวลา จนทำให้อวี้จื่อฉยงเห็นห้องเรียนที่ม่อโฉวเอินอยู่คือห้องที่สิบสามห้องบ๊วยที่ดูแล้วเหมือนผังค่ายกล จนบอกว่าให้ม่อโฉวเอินหาทางย้ายออกมาให้เร็วที่สุด แต่ม่อโฉวเอินยังอยากช่วยเพื่อนนักเรียนคนอื่นอีก
อวี้จื่อฉยงเกือบโดนคนตระกูลเจียงจับได้ดีที่ได้อันอวี๋เหนียนช่วยเอาไว้ แล้วอันอวี๋เหนียนหาไปไหนเหลือเพียงจิ้งจอกขาวชิงเหอ เรื่องราวที่ผูกกันเริ่มคลี่คลายเพราะอวี้จื่อฉยงที่มีนิสัยเรียบง่ายซื่อตรง ชิงเหอก็ชอบอยู่กับอวี้จื่อฉยงแต่ไม่ถูกกับซูฉางเล่อ เรื่องราวความรัก ความแค้นที่ตามกันมาพันปีที่ซูฉางเล่อก่อขึ้น ในที่สุดอวี้จื่อฉยงก็รู้ความจริง และเพราะเรื่องทั้งหมดสุดท้ายคนที่จะได้รับผลจากอัคคีสามตะวันคือซูฉางเล่อ อวี้จื่อฉยงจึงต้องไปหาอันอวี๋เหนียนเพื่อบอกว่าจะทำยังไง เราจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็ตรงใจพอดีสิ แล้วดูสิว่าอวี้จื่อฉยง ปีศาจผีผาจะสลายความแค้น อยู่ในโลกใบนี้ได้ยังไงต่อไป

หลังอ่าน :
แนวเรื่องแตกต่างจากฟ้าส่งข้ามาลุย ภาคท่านหญิงหลีหยาง ให้ลบภาพจำเอาไปให้หมด เพราะนักเขียนคนละคน เรื่องนี้อ้างอิงวรรณกรรมจีนโบราณที่ชื่อว่า ‘เฟิงเฉินหยั่นอี้’ ปีศาจผีผาที่โดนเจียงจื่อหยาเผาเมื่อตอนสมัยราชวงศ์อินซางกลายร่างเดิมเป็นผีผาหยกกว่าจะได้ร่างมนุษย์เวลาก็ผ่านไปเป็นพันปี หลังจากหลับมานานตื่นขึ้นมาอีกครั้งทุกอย่างไม่เหมือนเดิม หินหยกเขียว ปีศาจผีผาตบะพันปีกลายเป็นปีศาจพลังแก่กล้า แต่นางช่างเฉยชา นิ่งเงียบต่างจากที่ทุกคนคิดจริงๆ แล้วต้องไปเรียนรู้สิ่งต่างๆใหม่เพราะอยู่ในร่างเด็กสาวอายุสิบห้าปี อวี้จื่อฉยงจะทำตัวยังไงจะหาควันธูปเพื่อฝึกตบะยังไง อ่านไปก็ขำไปกับความเฉยชาและความไม่รู้เรื่องในโลกปัจจุบันของนางจริงๆ และความสัมพันธ์ต่างๆของตัวละครจะค่อยๆเปิดเผย เฉลยออกมาทีละส่วนอย่างช้า การเล่าเรื่องเป็นการเล่าแบบเหตุการณ์เดียวกันในแต่ละที่
และแล้วเรื่องราวก็คลี่คลาย เพราะอวี้จื่อฉยง ปีศาจผีผาหยกที่จิตใจใสบริสุทธิ์ ความคิดไม่ซับซ้อน ทำให้ทุกเรื่องจากการหลั่งเลือดกลับกลายเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว มาดูความสามารถของอวี้จื่อฉยงที่ถึงแม้จะเป็นปีศาจ แต่เกิดจากหินหยก ใครเห็นใครก็รัก และไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต นักเขียนผูกเรื่องได้น่าอ่าน น่าสนใจ เสียนิดเดียวที่เรื่องนี้พิมพ์ผิด พิมพ์ตกเยอะมาก ทำให้อ่านแล้วสะดุดเป็นช่วงๆค่ะ แต่เนื้อเรื่องขำขัน สนุกทีเดียว