Tuesday, August 27, 2019

#ใต้เงาอสูร #4เล่มจบ #สนพ.ห้องสมุดดอตคอม


Review 22/2562
เรื่อง : ใต้เงาอสูร (4 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : โหยวซื่อเจี่ย  ( You Si Jie)
ผู้แปล : ทีมห้องสมุด
พิมพ์ครั้งที่ 1 : มีนาคม 2562
สำนักพิมพ์ ห้องสมุดดอตคอม

โปรยปก :
เหยียนตูเป็นเมืองลึกลับที่ตั้งมั่นมากว่าสามพันปี ไม่เคยมีมนุษย์สักคนก้าวเท้าเข้าไปเหยียบ ร่ำลือกันว่าประมุขของที่นี่เป็นมารเฒ่าเจ้าเล่ห์ที่โหดเหี้ยมอำมหิต กินเด็กทารกเป็นอาหาร เขาสวมเสื้อคลุมตัวยาวปกปิดร่างกายและใบหน้าจนไม่มีใครสามารถคาดเดาอายุ
อาจเป็นเพราะเขาอัปลักษณ์ อาจเป็นเพราะแก่ชรา อาจเป็นเพราะพิกลพิการน่าเกลียด ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ทั้งมนุษย์และปีศาจล้วนหวาดกลัวดินแดนใต้เงาหมอกที่ดุจดังขุมนรกแห่งนี้!

เหยี่ยนหวู่ฟาง... เป็นหมอวิเศษจากดินแดนอู่จินซ่าถู นางจำต้องเดินทางไปเหยียนตูเพื่อสืบหาเบาะแสของโรคประหลาดที่รักษาไม่หายโรคหนึ่ง คนไข้ของนางทุกคนอาการสาหัส และไม่ว่าจะรักษาอย่างไร พวกเขาล้วนตายภายในสามเดือนโดยไม่มีข้อแม้! ทุกคนมีความคล้ายคลึงกันสองประการคือเป็นบุรุษรูปงาม และเป็นชาวเมืองเหยียนตู ที่น่าสงสัยคือ... พวกเขาตายเอง หรือว่าต้อง ‘คำสาปขี้อิจฉา’ ของมารเฒ่าอัปลักษณ์ตนนั้นกันแน่?

คำนำสำนักพิมพ์ :
"ใต้เงาอสูร" เป็นเรื่องของมารเฒ่าหมื่นปีที่มีกิตติศัพท์ว่าโหดเหี้ยมน่าเกรงขามกับหมอสาวสะคราญโฉมที่ดั้นด้นเดินทางมาสืบหาสาเหตุการตายอันน่าประหลาดของคนไข้ แต่สุดท้ายกลับตกอยู่ในอุ้งมือมารเสียได้!

จอมมารเจ้าเล่ห์ใช้ทั้งสิ่งของและผู้คนมาคอยหลอกล่อนางเอกเป็นระยะให้ก้าวเดินเข้าไปติดกับดักของตน พอติดแล้วก็หนีออกมาไม่ได้ต้องกระเตงกันไปจนจบเรื่อง! สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในเรื่องก็ลีลาจีบสาวของหนุ่มโสดที่ขึ้นคานมายาวนานอย่างมารเฒ่า และเหล่าปีศาจน้อยใหญ่ที่ขยันออกมาตบมุกเรียกเสียงหัวเราะกันอย่างไม่ขาดสายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรค่าแก่การสะสมค่ะ

ทีมงานห้องสมุด



เล่ม 1 :
เหยี่ยนหวู่ฟาง ท่านหมอที่มีกำเนิดจากไอมารรักษาคนไข้ปีศาจทั้งหลายมาแล้วมากมาย เพิ่งเคยเจอ คนไข้ประหลาดที่มีแค่ร่างกลวงเปล่ามาจากเขาหยินซาน ที่อยู่ในดินแดนฟั่นสิงซ่าถู ทำให้ข้องใจนัก
ท่านหมอเป็นผู้ดูแลเจดีย์มาตลอดห้าสิบปี ตอนนี้วิหคชวี่หรูลูกศิษย์นางขอให้ช่วยเหลือทาสที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้มีจิตใจเป็นหมอจะไม่ช่วยก็ไม่ได้ จึงยื่นมือช่วยเหลือ พอรักษาแล้วถึงรู้ว่าขาดตัวยาสำคัญนั่นคือแมงป่องโลหิตที่หาได้ยาก นางจึงไปหาเจ้าเมืองเซินหลัวที่ยังติดค้างบุญคุณ แล้วก็ได้แมงป่องโลหิตมาหนึ่งคู่จริงๆ แต่นางไม่รู้ว่าที่แท้แล้ว แมงป่องโลหิตนี้เป็นของหมั้นหมายที่เจ้าเมืองเหยียนตูทิ้งเอาไว้ว่าใครจะมารับไป ตอนนี้เหยี่ยนหวู่ฟางนางไม่รู้เลยว่าได้กลายเป็นคู่หมั้นของเจ้าเมืองเหยียนตู จอมมารไป๋จุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทาสที่นางใช้แมงป่องโลหิตเป็นยาในการรักษาชื่อเย่เจิ้นอี บอกว่าเป็นนักพรตที่โดนชิงตบะไประหว่างต่อสู้กับแมวเมาพี ตอนนี้ปีศาจแมวเมาพีหนีไปอยู่แถวเขาหลินซาน และระหว่างนี้เหยี่ยนหวู่ฟางก็ได้รักษาคนไข้ที่มาจากเขาหลินซานอีกหลายราย ทุกรายล้วนเป็นบุรุษและเป็นร่างกลวงเปล่า เรื่องนี้ทำให้เหยี่ยนหวู่ฟางข้องใจสาเหตุของโรคยิ่งนัก จึงคิดเดินทางไปที่เขาหลินซานดูซักครั้ง
ทั้งสามอาจารย์และศิษย์ออกเดินทางไปยังดินแดนฟั่นสิงซ่าถู ไปเขาหลินซานเพื่อหาเบาะแส ระหว่างทางต้องผ่านทะเลทราย ได้ช่วยแมงป่องตัวหนึ่งไว้ต่อมาจึงรู้ว่าแมงป่องตัวนั้นชื่อหลี่ควานฉาเป็นลูกน้องคนสนิทของท่านประมุข เจ้าเมืองเหยียนตูไป๋จุ่น และตลอดทาง ท่านหมอเหยี่ยนหวู่ฟางก็ได้รับการคุ้มครองดูแลจากไป๋จุ่น นางแค่รู้สึกว่ามีคนสะกดรอยตามแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ไม่คิดว่าจะได้รับการคุ้มครองมาตลอด จนถึงเขาหยินซานก็พบกับปีศาจเถาวัลย์ลู่จีที่เคยพาคนรักมารักษา ทำให้รู้ว่าที่แท้เป็นหุ่นปั้นดินเหนียวที่ไป๋จุ่นปั้นเล่นแก้เบื่อเพราะเงียบเหงาเกินไป และถูกปีศาจสาวที่เขาหยินซานล่อลวงออกจากเมืองเหยียนตู และรู้ด้วยว่าตลอดมาไป๋จุ่นปั้นเป็นแต่บุรุษ ปั้นสตรีไม่เป็น
เรื่องนี้ทำให้ปีศาจลู่จีตกใจมากเมื่อรู้ว่าท่านประมุขจะแต่งงานเพราะต้องการจะปั้นสตรีให้เป็น ประมุขปั้นสตรีไม่เป็นทำให้พวกปีศาจล่อลวงหุ่นปั้นออกจากเมืองมาได้ ถ้าเกิดท่านประมุขแต่งงานก็จะรู้สรีระ รูปร่างของสตรี เช่นนี้ปีศาจทั้งเขาหยินซานก็ไม่มีบุรุษให้ล่อลวงแล้ว
หลังจากรู้ว่างานแต่งงานนี้ท่านหมอเหยี่ยนหวู่ฟางนั่นเองที่เป็นเจ้าสาว เย่เจิ้นอีวางแผนให้เหยี่ยนหวู่ฟางสลับตัวตอนแต่งงาน ตนเองจะปลอมตัวเป็นเจ้าสาวแล้วให้อาจารย์กับศิษย์พี่หนีไป ส่วนตนจะหาทางหนีไปสมทบภายหลัง พร้อมทั้งเหล่าปีศาจจะคอยช่วยเหลือ พอถึงเวลาเมื่อไป๋จุ่นรู้ความจริงก็จับตัวเย่เจิ้นอีเอาไว้ แล้วไปตามหาเหยี่ยนหวู่ฟางต่อรองให้กลับมาเพื่อจะได้แลกตัวกับเย่เจิ้นอี พอตกลงกลับเข้าเมืองเหยียนตูถึงรู้ว่าเย่เจิ้นอีหนีไปแล้วคนทั้งคนหนีไปโดยที่ตามตัวไม่ได้ทั้งฟั่นสิงซ่าถู ช่างประหลาดโดยแท้ ตอนนี้เหยี่ยนหวู่ฟางเริ่มเข้าใจแล้วว่ามารเฒ่าที่ผู้คนเล่าลือกัน แท้จริงช่างคิดเองเออเองเก่ง มั่นใจในตัวเอง หน้าหนาเป็นที่สุด และนิสัยยังใสซื่อบริสุทธิ์ผิดกับข่าวลือมากมาย นางก็เริ่มใจอ่อน แต่ตนนี้บอกว่าอยากไปเมืองเฟิงตูเพื่อดูว่าเย่เจิ้นอีอยู่หรือตายไปแล้ว ไป๋จุ่นก็อาสาไปเป็นเพื่อนแต่ต้องไปหากิ่งต้นเหลอมู่มาให้เหยี่ยนหวู่ฟางป้องกันตัว

หลังอ่านเล่ม1 :
เปิดตัวท่านหมอที่สวยที่สุด เก่งที่สุด และก็ค่อยๆเดินเข้าสู่การเป็นฮูหยินของจอมมารไป๋จุ่นที่วางแผนมานาน ครองตัวมาเป็นหมื่นปี จนได้ชื่อเสียงเสียๆว่าจอมมารเฒ่าไป๋จุ่นที่โหดเหี้ยมต่างๆนานา การเดินทางไปดินแดนเหยียนตูเริ่มต้นขึ้น เหยี่ยนหวู่ฟางจะพบเจออะไรบ้าง ไป๋จุ่นจะเป็นจอมมารแบบไหนต้องตามอ่าน เพราะว่าท่านจอมมารมโนเก่งที่หนึ่งแถมยังมีเหล่าปีศาจมาคอยปล่อยมุกอยู่เรื่อยๆ แค่เล่มแรกก็ฮามากแล้วกับท่านจอมมารและว่าที่ฮูหยินสุดสวย จะฮาแค่ไหน ปล่อยมุกกันขนาดไหนตามอ่านได้เลยค่ะสนุกแน่นอน แค่เล่มแรกท่านจอมมารไป๋จุ่นก็ตามจีบฮูหยินแบบสุดๆแล้ว


เล่ม2 :

การเดินทางไปหากิ่งต้นเหลอมู่เริ่มต้นขึ้น ท่านประมุขไป๋จุ่นไม่ลืมที่จะจีบฮูหยินตลอดทาง จนเหยี่ยนหวู่ฟางเริ่มชินกับนิสัยพูดเองเออเอง เข้าข้างตัวเอง บางทีนางก็จะใจอ่อนสงสารไป๋จุ่นนะเพราะไป๋จุ่นนางซื่อสุดๆจริงๆ บางครั้งนางก็จะเป็นเฒ่าลามก แล้วนี่ตอนนี้นางเห็นหน้าของไป๋จุ่นแว็บๆด้วยเห็นแล้วตกใจเลย เพราะหล่อมาก หรือว่าจะตาฝาดนะ แต่ไป๋จุ่นน่ะ เห็นท่าทางนางแล้วคิดว่าต้องเห็นหน้าแล้วเอาไปฝันแน่ๆ ดีใจจริงๆจะได้ไปหลงไปชอบคนอื่น มโนเก่งอีกแล้วท่าน ฮาๆ แต่นางหน้าตาดีจริงๆ ภายใต้ผ้าคลุมดำหมื่นปีไม่มีซักนี่ ฮามากๆ ไป๋จุ่นนี่เก่งมากรู้จักปีศาจ มารมากมาย ปีศาจที่เฝ้าต้นเหลอมู่ไป๋จุ่นก็รู้จัก ทำเป็นเก่งอวดสาวเข้าไปอีก อย่างฮา สุดท้ายได้กิ่งมาอย่างง่ายดาย
ตอนที่รอจะไปเมืองเฟิงตูไป๋จุ่นก็จะคอยมาก่อกวนป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ แล้วก็เกิดเหตธนูฉางเฉินเจี้ยนที่อยู่คู่ตัวเองตลอดหมื่นปีหายไป ทำให้ต้องออกตามหา และก็เลยจะไปเมืองเฟิงตูด้วยซะเลย
การเดินทางนี่ไม่ลำบากเลยซักนิด ไป๋จุ่นจีบสาวตลอดทาง จนท่านหมอเริ่มชินกับนิสัยแล้วล่ะที่คิดเองเออเอง มโนเก่ง ขี้ใจน้อย เดี๋ยวก็คอตก แล้วก็ขี้อวด นางน่ารักไม่ใช่มารร้ายแน่นอน เหยี่ยนหวู่ฟางก็คอยสังเกตนิสัยจนเริ่มชิน เริ่มรับได้ ในที่สุดก็รู้ว่าธนูอยู่กับปีศาจเถาวัลย์ลู่จีไม่รู้ว่ามีความสามารถอะไรถึงเอาออกมาได้ แต่นางก็ไม่บอกความจริง ตอนนั้นเองก็มาสายฟ้าผ่าลงมาเผานางตายไป ทำให้ขาดเบาะแสสำคัญไปทีเดียว
จากนั้นก็เดินทางเข้าเมืองเฟิงตู ท่านประมุขนี่เหมือนไปเที่ยวเล่นกับคู่หมั้นเลย ไปไหนจะทำตัวประจบตลอด พอถึงประตูเมืองตาเจ้าเมืองหมิงจวินมานี่ก็อยากจะดูหน้าท่านหมอเทวดา เหยี่ยนหวู่ฟาง ส่วนท่านประมุขไป๋จุ่นนี่ขี้อวดมาก เสกขบวนมาอย่างอลังการกลัวคนไม่รู้ทีเดียว หน้าข้าต้องรักษาแถมฮูหยินงามที่สุดในสามโลกอีกนะ ข้าอยากอวด
พอเข้าเมืองเจอหมิงฮูหยินที่เมื่อก่อนเคยอยากได้ไป๋จุ่นเป็นสามีนี่แบบ เหยี่ยนหวู่ฟางมองที่ก็รู้ว่าฝ่ายหญิงนี่คิดยังไงๆอยู่ขนาดมองไม่เห็นหน้านี่นะ พอตอนพักต้องนอนห้องเดียวกันครั้งแรกไป๋จุ่นกะว่าคราวนี้จะได้เข้าหอกับฮูหยินซะที ที่ไหนได้เหยี่ยนหวู่ฟางจะยอมที่ไหนพาเข้าไปในวงแหวนจินกังเฉวียน ไปทะเลาะกันในนั้น แล้วยังเสียรู้ไป๋จุ่นกะจะแกล้งปล่อยแมลงเข้าไปไต่ที่ไหนได้เจ้าตัวกลับต้องหน้าแดงทำอะไรไม่ถูกเพราะความหน้าหนาของไป๋จุ่นที่ข้างในไม่ใส่เสื้อผ้า แล้วก็หลุดออกมาเป็นบางครั้งว่าใส่แล้วเดี๋ยวไหม้ ข้าถือกำเนิดจากการย่ำเปลวไฟ แถมมีรอยสักอีกนะ จะชอบให้นางเอกเห็นหน้าตาตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยตลอดๆ นางเอกก็เริ่มหลอกถามว่าร่างจริงเป็นอะไร ใช่มังกรหรือไม่ ที่ไหนได้ไป๋จุ่นกลับดูถูกมังกรนะ แล้วที่มีรองเท้ามากชอบรองเท้าเพราะบอกว่าเท้ามีเกล็ดอีกล่ะ อย่างฮา ค่อยๆรู้จักกันไปเรื่อยๆ ข้างนอกก็แอบฟังกันว่าทั้งสองจะเข้าหอกันได้หรือไม่ สุดท้ายรู้จักกันมากขึ้นสนิทกันมากขึ้น นางเอกชินกับความหน้าด้านของอีกฝ่าย กับนิสัยซื่อๆของอีกฝ่ายแล้ว
พอได้ออกไปแยกกันค้นหาโดยไป๋จุ่นไปค้นที่นรกกับหมิงฮูหยิน ส่วนเหยี่ยนหวู่ฟางไปสอบถามบัญชีเกิดตายกับท่านยม เหยี่ยนหวู่ฟางไม่ได้เรื่องอะไรกลับมาไม่มีคนชื่อเย่เจิ้นอี ที่เป็นศิษย์ของนักพรตก็ไม่มีชื่อนี้มีแต่ชื่อหมิงเสวียนที่ไม่มีประวัติชัดเจน เหยี่ยนหวู่ฟางก็ตัดใจได้ เพราะว่าไป๋จุ่นก็ไม่เจอวิญญาณเย่เจิ้นอีเช่นกัน
กลับออกมาทั้งสองก็ยิ่งสนิทกัน เหยี่ยนหวู่ฟางรู้ใจตัวเองแล้วว่าชอบไป๋จุ่น ถึงแม้ชื่อเสียงภายนอกถูกลือออกไปผิดๆแต่ความจริงไม่ได้เป็นมารเลยซักนิดแถมยังแอบขโมยวงแหวนจินกังเฉวียนไปได้อีกแสดงว่าไม่ใช่มารแน่นอน ทั้งยังรู้เรื่องในสวรรค์มากมาย แต่แค่อยากอยู่อย่างสงบในเมืองที่ตัวเองสร้างเท่านั้น เหยี่ยนหวู่ฟางฝันเห็นพระโพธิสัตว์เหลียนชือ และได้บอกว่านางไม่สามารถบำเพ็ญเป็นศิษย์ได้แล้วพร้อมกับจะคืนวงแหวนจินกังเฉวียน พระโพธิสัตว์ไม่รับคืน ทั้งยังบอกว่าอย่างนั้นก็ได้แต่เล่นปั้นดินไปกับไป๋จุ่น เหยี่ยนหวู่ฟางถามถึงเย่เจิ้นอี พระโพธิสัตว์บอกว่ายังไม่ตาย และอบรมว่าบัญชีเกิดตายไม่สามารถไปดูได้ง่ายๆ
 แล้วยังมีเรื่องอีกเพราะของหมั้นจากสิบห้าเมืองไม่ได้เก็บกลับคืนทำให้มีสองเมืองส่งสองหญิงที่รับของหมั้นไปมาให้ ตอนนั้นเหยี่ยนหวู่ฟางก็รักษาปีศาจจินเหล่ยที่ถูกสาบชายหญิงอยู่ในร่างเดียวกัน วิญญาณสามารถแยกได้ แต่ร่างนั้นช่วยหนึ่งแต่จะทำลายหนึ่งก็ยังไงอยู่เลยรับปากว่าจะลองหาทางดู นางนั้นไม่มีทางคิดว่านี่เป็นแผนการเจ้าเล่ห์ของไป๋จุ่นอย่างแน่นอน เพราะเห็นมาตลอดว่าไป๋จุ่นเรื่องอะไรก็ออกจะซื่อไปหมด พอเข้าเมืองมา ไป๋จุ่นก็รู้สึกเหมือนถูกจับชู้ได้ เหยี่ยนหวู่ฟางก็เกิดอาการหึงจริงๆ เพราะว่านางมีใจให้แล้ว แต่เรื่องสำคัญรออยู่จึงบอกเหตุผลที่มา และไป๋จุ่นก็รีบไล่คนไปให้หมดเพราะกลัวฮูหยินจะเสียใจ และก็เป็นความผิดของตนด้วยที่ลืมเก็บของหมั้นกลับคืนมา พอจัดการเรื่องราวต่างๆเรียบร้อย ก็พูดเรื่องปั้นหุ่นสตรี ไป๋จุ่นก็คิดว่าแผนการสำเร็จอย่างง่ายดาย
รอถึงวันพรุ่งนี้บัวแดงในทะเลจิ้งไห่บานก็มาปั้นหุ่นกันได้เลย ข้าต้องไปเตรียมตัวให้พร้อมก่อนแล้ว

หลังอ่านเล่มสอง :
เล่มสองความสัมพันธ์ของไป๋จุ่นกับเหยี่ยนหวู่ฟางเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ไป๋จุ่นนั้นจีบเหยี่ยนหวู่ฟางทุกที่ทุกเวลา แล้วก็แสดงนิสัยขี้อวด ซื่อๆ แต่ยังเจ้าเล่ห์ที่ไม่เหมือนใครออกมาให้นางเห็นตลอดเวลา ลบล้างคำเล่าลือที่ได้ยินไปไกลในดินแดนอู่จินซ่าถูที่สุด แล้วยังพยายามอวดหน้าตา ร่างกายเป็นระยะให้นางสนใจด้วย เหยี่ยนหวู่ฟางก็เริ่มยอมรับไป๋จุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อนางอยู่กับไป๋จุ่นนางก็ได้แสดงอารมณ์ต่างๆมากมายที่ไม่เคยมีมาก่อน มาคอยลุ้นกันว่าทั้งสองจะได้เข้าหอกันเพื่อศึกษาร่างกายตอนปั้นหุ่นหรือไม่ในเล่มสาม กับมุกคิดเองเออเองของไป๋จุ่นที่เหมือนฉลาด แต่นางซื่อจริงๆหรือแกล้งหลอกกันแน่




เล่ม3 :
เมื่อเดินทางมาทะเลจิ้งไห่ ความสวยงามของทะเลนั้นไม่ต้องพูดถึง แต่ที่ทำให้เหยี่ยนหวู่ฟางตะลึงสุดๆคือ หน้าตาของไป๋จุ่นต่างหาก แหมก็พี่แกยอมเปิดเผยหน้าตาให้คู่หมั้นดูแล้วน่ะสิ ว่าตัวเองหล่อขนาดไหน เหยี่ยนหวู่ฟางเห็นยังตะลึงอึ้งไปเลย แต่แกล้วทำเป็นมองไม่เห็นซะงั้น เลยบอกกับนางว่าข้าไม่เห็นท่านเลย ตานี่ก็ตกใจสิจะเป็นไปได้ยังไง ข้าปลดเวทกำบังออกแล้วนะยังไม่เห็นได้ยังไง ทีนี้เหยี่ยนหวู่ฟางก็รู้สิว่านางโดนหลอกมาตลอด แหมต้องมีความจริงใจถึงมองเห็นอะไรกัน หลอกกันนี่ แต่นางหน้าตาดีจริงๆ ที่นี้ก็ถึงตอนที่ต้องบอกถึงรูปร่างสตรี ก็อุตส่าห์ตัดใจให้คลำไปทีละอย่าง พี่แกก็นะข้ามองไม่เห็นใช้ความรู้สึกเอา นางโดนปิดตาอยู่น่ะ แต่ยิ่งโดนปิดตายิ่งความรู้สึกไว ฮ่าๆๆๆ พอถึงส่วนสำคัญเหยี่ยนหวู่ฟางใช่ดอกบัวเป็นแบบ ตาไป๋จุ่นนางก็ไม่เข้าใจ อยากจะบ้า ฮานางไปอีก อ่านไปขำไปมากกว่าจะผ่านไปได้ สุดท้ายก็สำเร็จปั้นหุ่นดินเหนียวตัวแรกได้ และนางก็ได้รู้ว่าเหยี่ยนหวู่ฟางยอมแต่งงานอยู่กับนางแล้วนางดีใจมากๆๆ อยากจะเข้าหอเลย แต่ท่านหมอบอกรอผ่านงานแต่งไปก่อน อดจ้าแต่นางได้จูบนะ ตอนแรกท่านหมอขัดใจมาก นางบอกจูบเป็นมันไม่ใช่ เลยต้องเริ่มก่อนอีก แต่นางเป็นเร็วพอเป็นนี่ใม่ปล่อยเลยทีเดียว นางน่ารักมากๆๆ ท่านจอมมารไป๋จุ่นนี่ อย่างฮา
กลับมาถึงเหยียนตูหลี่ควานฉากลับมาจากไปเก็บสินสอดกลับคืนมาพอดี และยังมีเรื่องมารายงานว่าดินแดนจงถู่มีฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ทำให้ไม่เจอกับเจ้าเมืองทั้งสิบสามเมือง เรื่องนี้ทำให้ไป๋จุ่นแปลกไป แต่เหยี่ยนหวู่ฟางก็ยังจับไม่ได้ว่าแปลกไปตรงไหน บอกว่าให้รอสองวันเตรียมงานแต่ง ตอนนี้จะไปส่งกลับไปก่อน จริงๆแล้วไป๋จุ่นมีเรื่องในใจ เพราะเรื่องฮ่องเต้องค์ใหม่เป็นร่างอวตารของเทพชั้นสูงและการตอบรับของธนูฉางเฉินเจี้ยน ทำให้รู้ตัวว่าต้องไปทำหน้าที่ จึงต้องกลับบ้านเกิดไปหาเหล่าผู้อาวุโสขอให้ส่งคนอื่นมา ที่แท้ไป๋จุ่นเป็นกิเลนเทพสีดำหนึ่งเดียวเพราะมีสีดำเลยโดนเนรเทศออกจากที่อยู่ของตัวเอง ให้มาใช้ชีวิตคนเดียวในดินแดนฟั่นสิงซ่าถู แต่เพราะกิเลนเทพเป็นสัตว์แห่งความเมตตาถึงจะทำตัวดุร้ายยังไงพื้นนิสัยก็ยังคงดีงาม ทำตัวเป็นมารร้ายแต่ข้างในสุดแสนจะใสซื่อบริสุทธิ์ ไป๋จุ่นมาขอร้องเหล่าผู้อาวุโสให้ส่งคนอื่นไป แต่เมื่อเป็นมติสวรรค์ ธนูฉางเฉินเจี้ยนตอบสนองก็ต้องมีหน้าที่ค้ำจุนบัลลังก์ฮ่องเต้ให้มั่นคง เมื่อกลับมาก็ได้ข่าวว่าเหยี่ยนหวู่ฟางหายไป ที่แท้คืนนั้นเหยี่ยนหวู่ฟางเก็บของเตรียมสินสอดอยู่แล้วเผลอหลับไป จากนั้นก็ถูกขโมยตัวไป ไป๋จุ่นแน่ใจว่าต้องเป็นฝีมือของร่างอวตารแต่ไม่มีหลักฐาน ส่วนเหยี่ยนหวู่ฟางถูกขโมยตัวมาในพิภพเมี่ยวฟ่อโจวของราชาปีศาจหลัวซา เพื่อราชาปีศาจหลัวซาจะได้ใช้เป็นตัวประกันให้ไป๋จุ่นแสดงตัวยอมรับฮ่องเต้ปลอมอย่างตน ไป๋จุ่นมีหรือจะยอม แค่มองก็เห็นความจริง และโดนข่มขู่ จากนั้นก็เห็นเหยี่ยนหวู่ฟางกับเย่เจิ้นอีซึ่งก็คือหมิงเสวียนฮ่องเต้เร่างอวตารตัวจริงอยู่ด้วยกันและใช้เสื้อคลุมดำเหมือนตน คนอื่นกังวลใจว่าไป๋จุ่นจะคิดมาก ที่ไหนได้ สิ่งที่หลุดจากปากคือทำไมต้องมาใส่เสื้อเลียนแบบตัวเองด้วย ความคิดช่างไม่เหมือนชาวบ้านจริงๆ
พอไปช่วยเหยี่ยนหวู่ฟางได้คู่รักเจอกันกอดกัน ดีใจกันไม่สนใจคนรอบข้าง และแปลงร่างจริงให้เหยี่ยนหวู่ฟางดูซ้ำยังโอ้อวดตัวเองมากมาย ขี้อวดสุดๆล่ะไป๋จุ่นนี่ หน้าตาสำคัญสุด สิ่งแรกที่ไป๋จุ่นทักก็คือทำไมต้องใส่เสื้อเหมือนตนด้วย ยังติดใจเรื่องนี้อีก พอกลับมาดินแดนจงถู่หมิงเสวียนก็ขึ้นนั่งบัลลังก์โดยมีเงื่อนไขว่าให้ไป๋จุ่นที่เป็นกิเลนเทพไปแสดงตัว ไป๋จุ่นตกลงแต่มีข้อแม้ว่าจะไม่คุกเข่าและไม่ให้ขึ้นขี่หลังเด็ดขาด
คืนนั้นไป๋จุ่นกับเหยี่ยนหวู่ฟางแต่งงานกัน ในที่สุดก็ได้เข้าหอ ที่ศึกษามาหมื่นปีได้ใช้ซักทีแต่ก็ยังมีเรื่องฮาในห้องหอกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ท่านหมองี้ทั้งเศร้าทั้งขำแต่ก็ต้องทำใจ เอาวะแสดงเองก็ได้ ฮาสุดๆอะ
ตาฮ่องเต้โดนวิหคสามขาชวี่หรูจับกินนะทำให้มาขัดขวางไม่ทัน นี่ก็เลยต้องเลยตามเลย เป็นฮ่องเต้ที่มีแผนการมากมาย ที่แท้ราชาปีศาจหลัวซาที่หายไปก็เป็นการร่วมมือกับหมิงเสวียน ตอนนี้อยู่ในกำไลวงแหวนจินกังเฉวียน ที่แอบขโมยมาจากเหยี่ยนหวู่ฟาง หมิงเสวียนเป็นร่างอวตารที่มีใจคิดอยากกลับไปชิงร่างเทพคืนเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น มีจิตมารในใจอย่างชัดเจน
เวลาที่ทำพิธีไป๋จุ่นก็ไปร่วมด้วย พอได้เวลาต้องแสดงร่างจริง พอโดนหมิงเสวียนเปิดผนึกทำให้ไป๋จุ่นคืนร่างเป็นคนไม่ได้ แย่แล้วติดกับเสียแล้ว คราวนี้ทำยังไงต่ออ่านต่อเล่มจบได้เลย

หลังอ่านเล่มสาม :
ในเล่มนี้ความรู้สึกของเหยี่ยนหวู่ฟางชัดเจนขึ้นว่าจะตัดสินใจละทิ้งทางธรรมมุ่งทางโลกกับไป๋จุ่นล่ะไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม ขนาดตอนแรกยังเห็นหน้าไม่ชัดก็หลงรักนิสัยซื่อๆ บริสุทธิ์ไร้เดียงสา ที่คิดว่าตัวเองต้องร้ายสุดๆ ที่แสดงออกมาภายนอก ที่จริงทั้งขี้แย ทั้งนิสัยออดอ้อนขี้อวดสารพัด ตอนนี้ก็บอกมาว่าข้าตัดสินใจจะแต่งงานกับท่านแล้วนะ ทำให้ไป๋จุ่นดีใจที่สุด ในที่สุดก็สละโสดหมื่นปีจะได้เข้าหอซะที
ที่ไหนได้ยังเกิดเรื่องร่างอวตารอีก ซึ่งในที่สุดก็ได้รู้ว่าที่แท้ไป๋จุ่นเป็นร่างแปลงของอะไรกันแน่ ทำไมถึงเกี่ยวข้องกับร่างอวตารได้ แล้วทั้งสองจะได้เข้าหอกันหรือไม่ ยังมีความฮาที่มาจากการแสดงความรัก และความเจ้าเล่ห์ของไป๋จุ่นและเหล่าลูกน้องให้ร่วมหัวเราะกับความคิดแปลกพิสดารไม่เหมือนใครของท่านประมุขในเล่มนี้กัน เล่มนี้ความฮาและความขี้อวดเกินพิกัดจริงๆ ต้องตามอ่านต่ออย่างแรงเลยค่ะ




เล่ม4 :
ไป๋จุ่นที่ติดกับหมิงเสวียนหายไป เพื่อนวัยเด็กของไป๋จุ่นมาถามหาก็ไม่พบ กลับพบไป๋จุ่นที่ทำตัวแปลกไป เหยี่ยนหวู่ฟางก็สงสัยเหมือนกัน ในที่สุดก็จับได้ว่าเป็นตัวปลอม จากนั้นจึงบุกไปที่วังต้าหมิงกงเพื่อถามหาไป๋จุ่น ก็ได้รับคำตอบที่ไม่น่าพอใจ ที่แน่ๆคือ ร่างปลอมน่ะหมิงเวสวียนปลอมมา เหยี่ยนหวู่ฟางนางจับสังเกตได้จากคำพูดแล้ว
ตอนนี้ต้องตามหาไป๋จุ่นก่อนเป็นอย่างแรกว่าเป็นยังไงบ้าง เลยไปหาพระโพธิสัตว์เหยียนชือ พระโพธิสัตว์เหยียนชือบอกว่าไม่เป็นไร ยังไงกิเลนเทพกับร่างอวตารก็ต้องค้ำจุนกันยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนหมิงเสวียนเป็นร่างอวตารของใครบอกไม่ได้ แต่ทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกัน ถ้าไม่มีเหยี่ยนหวู่ฟางเป็นเหตุก็ต้องช่วยเหลือเกื้อหุนกันไป ทั้งยังบอกกับเหยียนชือว่าทำวงแหวนจินกังเฉวียนหายไป ท่านเหยียนชือตกใจแต่ก็มอบวงใหม่ให้
กลับมาถึงรออยู่ก็พบว่าไป๋จุ่นกลับมามีบาดแผลเต็มตัวและไม่สามารถแปลงร่างมนุษย์ทั้งยังพูดไม่ได้ ท่าทางน่าสงสารของสามีทำเอาท่านหมอปวดใจ แต่พอทำแผลให้เสร็จ ไป๋จุ่นก็เกิดอาการอยากเข้าหออีก ไม่พ้นเรื่องนี้จริงๆ แถมยังมีแมงป่องโลหิตแอบดูด้วยนะ ยังมีความฮาแฝงอยู่
แปลงร่างไม่ได้นี่ทำให้ไป๋จุ่นออดอ้อนภรรยาสุดตัว เพื่อนวัยเด็กยังมาถูกใจพ่อบ้านจ้าวซื่ออีก เอาตัวไปโดยสินสอดก็ไม่ให้ ช่วงนี้มุกกระจาย แต่ละคนสุดแสนจะยากจนข้นแค้นจริงๆ ปล่อยมุกกันสุดๆ
สุดท้ายไป๋จุ่นก็พูดได้แต่ยังต้องไปพบหมิงเสวียนเพื่อทำทีให้อีกฝ่ายคลายผนึกพลังเวทให้ พอคลายแล้วหมิงเสวียนแทบกระอักเพราะยังเห็นเขาที่แสดงถึงความรักของสามีภรรยา ที่ไป๋จุ่นชอบโอ้อวดอยู่อีก เท่ากับที่กลั่นแกล้งมาเสียแรงเปล่า
หมิงเสวียนแค้นใจจนไปจัดการกับชวี่หรูเจ้านกน้อย เจ้านกสามขา ที่กักอยู่ในวัง ชวี่หรูขอร้องให้ปล่อยนางไป หมิงเสวียนตกลงที่แท้เป็นการหลอกลวง เพราะว่าจับหนึ่งวิญญาณหนึ่งจิตของนางเอาไว้แล้วเอาร่างให้ราชาปีศาจหลัวซาสิงแทน
ชวี่หรูที่ข้างในคือราชาปีศาจหลัวซากลับมาหาเหยี่ยนหวู่ฟางและไป๋จุ่น ไป๋จุ่นดูออก แต่ไม่รู้ว่าวิญญาณแท้จริงของเจ้านกน้อยอยู่ที่ไหน ระหว่างนั้นไป๋จุ่นต้องไปทำภารกิจ ราชาปีศาจหลัวซาทนความเย้ายวนของปีศาจไอมารเหยี่ยนหวู่ฟางไม่ไหวคิดจะจับกิน ตอนนั้นเองพระโพธิสัตว์เหยียนชือก็มาเยี่ยม ที่แท้คือไป๋จุ่นที่วางแผนการปลอมตัวมา ทำให้ปีศาจอมารคิดว่าตนตั้งครรภ์ ตอนนี้ก็กลับไปหาหมิงเสวียนเพื่อปรึกษาเรื่องลูกในท้อง กลายเป็นราชาปีศาจหลัวซาอยากคลอดลูก เลี้ยงลูก หมิงเสวียนจะบ้าตายมาร่วมมือกับคนโง่แบบนี้ ตอนนี้เลยต้องคิดแผนการใหม่ออกมา คราวนี้เอาตะปูวิญญาณตอกเข้าไปในร่างเพื่อกักวิญญาณราชาปีศาจหลัวซาไว้ แล้วยังรอการมาของไป๋จุ่นและเหยี่ยนหวู่ฟาง ทั้งยังบอกเองว่าเห็นว่าชวี่หรูถูกราชาปีศาจหลัวซาสิงจึงใช้ตะปูวิญญาณตอกเอาไว้
คราวนี้ใช้ให้ป๋จุ่นไปเอาคทาวัชระมาให้ ทำให้ไป๋จุ่นรู้จนได้ว่าตนคิดถูกว่าคิดเทพวัชระชูมี่จินกังที่ไม่ผ่านด่านเคราะห์รักเมื่อห้าพันปีก่อน ได้หวนกลับมาในร่างของหมิงเสวียน และบอกให้ไป๋จุ่นช่วยไปเอาคทาวัชระมาให้เพื่อจะได้กำจัดมารในใจให้พ้นไป
ไป๋จุ่นกลับไปบอกเหยี่ยนหวู่ฟาง เมื่อรู้ว่าร่างจริงของหมิงเสวียนคือใครทำให้ไป๋จุ่นตกใจมากที่ต้นแบบของตนกลายเป็นคนที่คิดจะแย่งเมียตัวเองไป จิตใจดีงามของกิเลนเศร้าไปเลย ฮาๆๆ พอไป๋จุ่นไป หมิงเสวียนก็มาหาเหยี่ยนหวู่ฟางในรูปลักษณ์ของเทพชูมี่จินกังเมื่อก่อน แต่เหยี่ยนหวู่ฟางก็คิดได้ว่าเป็นใคร เทพชูมี่บอกว่าที่ไม่ผ่านด่านเคราะห์เพราะปีศาจไอมาร ทำให้ยอมสละตบะเพื่อให้นางมาเกิดใหม่สามครั้ง แต่ไม่ได้ขอให้มีวาสนาต่อกัน เรื่องราวทั้งหมดเริ่มกระจ่างชัดขึ้นเป็นเพราะด่านเคราะห์ในอดีตนั่นเอง
เมื่อเหยี่ยนหวู่ฟางปฏิเสธ เทพชูมี่ก็กลับไปคิดแผนการใช้วิญญาณเจ้านกน้อยเป็นเหยี่อ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งหมดนี้ได้รวมความปริศนาธรรม และคำสอนต่างๆเอาไว้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ให้ได้ดีความ ว่าทั้งหมดจะดำเนินไปในทิศทางไหน ไป๋จุ่นเองจะผ่านด่านเคราะห์ที่สวรรค์กำหนดไว้ได้หรือไม่ หรือจะต้องกลายเป็นมารไปเพราะความรัก เหยี่ยนหวู่ฟางจะตัดสินใจอย่างไร จะเฮฮาขำมาตลอดเรื่องช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ซาบซึ้งถึงความรักของสามี ภรรยาที่รักกันมาก ทั้งสองจะผ่านด่านยากนี้ไปอย่างไรต้องอ่านในเล่มจบ

หลังอ่านเล่มสี่ :
พอไป๋จุ่นมีหน้าที่ต้องค้ำจุนบัลลังก์ ทำให้ยุคสมัยรุ่งเรือง แต่กลับเจอกับฮ่องเต้ที่ไม่ชอบหน้า กลั่นแกล้งกันตลอดเวลา ทั้งยังแอบชอบเมียชาวบ้านอีก ท่านจอมมารที่ขี้อวดก็นิสัยโอ้อวดที่สุด จะทำยังไง ฝ่ายหนึ่งก็คอยกลั่นแกล้ง อีกฝ่ายก็คอยโอ้อวดความรัก แต่เรื่องราวทั้งหมดเพราะด่านเคราะห์ของสวรรค์ทั้งนั้น เป็นเรื่องที่แฝงคำสอนทางธรรม และมีปริศนาธรรมอยู่ในตัว ในขณะที่มุกตลกก็ไม่น้อยลงเลย ทำเอาตอนฮาก็ขำมาก ตอนซึ้งกับความรักของสามี ภรรยาน้ำตาก็ต้องไหลทีเดียว แต่จะยังไงสุดท้ายยังไม่แพ้ความฮาของไป๋จุ่นไปได้ จบดีมากๆ แนะนำเลยค่ะ




 เนื้อเรื่อง :

เหยี่ยนหวู่ฟาง ปีศาจที่ถือกำเนิดจากไอมารความแค้นของเมืองตงถู่ เมื่อหนึ่งพันปีก่อน เพราะความช่วยเหลือของพระโพธิสัตว์เหยียนชือ ทำให้มุ่งสู่ทางธรรม บำเพ็ญเพียร เป็นหมอเทวดาคอยช่วยปีศาจต่างๆ

ไป๋จุ่น มารเฒ่าหมื่นปีเจ้าเมืองเหยียนตู ดินแดนฟั่นสิงซ่าถู ชอบสวมเสื้อคลุมสีดำปิดบังซ่อนเร้นใบหน้าไม่มีใครเคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงมาก่อน มีแต่ข่าวลือความชั่วร้ายต่างๆ นานาออกมาจากดินแดนฟั่นสิงซ่าถู
จากการที่เหยี่ยนหวู่ฟางเป็นหมอเทวดา มีชื่อเสียงเลื่องลือ ทำให้มีปีศาจสาวจากดินแดนฟั่นสิงซ่าถูเดินทางมาขอรับการรักษามากมาย ระยะนี้มีแต่พาบุรุษหนุ่มคนรักมารักษาบอกว่าอยู่ด้วยกันมาสามเดือนก็เจ็บหนัก พอมาถึงมือท่านหมอก็ป่วยตาย ตรวจดูก็พบว่าเป็นร่างกลวงเปล่าที่ไร้วิญญาณ ท่านหมอหาสาเหตุไม่ได้ก็คิดจะไปเยียนเขาหลินซาน ในดินแดนฟั่นสิงซ่าถูดูซักครั้ง นางมีสองสถานะหนึ่งเป็นท่านหมอเทวดาที่รูปร่างหน้าตางดงาม ส่วนอีกหนึ่งมีหน้าที่เฝ้าเจดีย์พระสารีริกธาตุ ตอนที่เฝ้าเจดีย์เพราะศิษย์ของนาง วิหคสามขาชวี่หรูขอร้อง และเพราะความเป็นหมอได้ช่วยเหลือทาสที่ถูกโบยจนเกือบตายเอาไว้ เพราะตัวยาไม่พอจึงต้องไปหาจากเจ้าเมืองเซินหลัวที่นางเคยช่วยชีวิต ซึ่งก็มีพอดีสิ่งนั้นคือแมงป่องโลหิตที่หายากยิ่ง
และเพราะนางรับเอาแมงป่องโลหิตมา ทำให้เรื่องราวต่างๆตามมาอีกมากมาย ตอนนี้ก็ไปช่วยทาสชายคนนั้นก่อน พอฟื้นขึ้นมาถึงรู้ว่าชื่อเย่เจิ้นอี เป็นศิษย์นักพรตแต่เพราะโดนปีศาจแมวเมาพีชิงตบะไปทำให้ร่อนเร่มาเรื่อยๆ ตอนนี้อยากไปจัดการปีศาจแมวเมาพีซึ่งได้ข่าวว่าอยู่ที่เขาหลินซาน จากการที่เหยี่ยนหวู่ฟางต้องการจะไปหาสาเหตุของโรคที่เกิดแต่ผู้ชายตอนแรกคิดจะใช้เย่เจอ้นอีจึงรับเป็นศิษย์ แต่เมื่อมีความมุ่งหมายจะไปที่เดียวกันจึงง่ายกว่าเดิม ทั้งสามออกเดินทางไปเขาหลินซาน ดินแดนฟั่นสิงซ่าถู  เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเพราะทั้งหมดกำลังจะเดินทางไปหามารเฒ่าหมื่นปีที่มีข่าวว่าจะแต่งงานที่ดินแดนฟั่นสิงซ่าถู
เหยี่ยนหวู่ฟางที่ไม่รู้อะไรเลย ได้รับการดูแลคุ้มครองตลอดทาง ที่แท้แล้วคนที่มารเฒ่าจะแต่งงานด้วยก็คือนางนั่นเอง เพราะนางรับของหมั้นไปแล้วซึ่งก็คือแมงป่องโลหิตคู่นั่น จากเรื่องราวมากมายที่แต่ละเรื่องที่ท่านประมุขไป๋จุ่นทำ วางแผนจะเข้าห้องหอตลอดเวลา ช่างทำให้คนเห็นความมุ่งมั่นที่จะสละโสดหมื่นปีของตนเสียจริง ทั้งยังมีลูกน้องแมงป่องหลี่ควานฉาร่วมวางแผน และพ่อบ้านจ้าวซื่อที่เป็นหุ่นปั้น ทำหน้าที่ดูแลค่าใช่จ่ายมาตลอดร่วมด้วยช่วยกันปล่อยมุกเฮฮา เรื่องราวทั้งหมดกลับไม่เหมือนที่ดินแดนภายนอกว่าไว้เลย ท่านประมุขที่น่าหวาดกลัว มารเฒ่าหมื่นปี ที่จริงแล้วนิสัยใสซื่อ ซื่อบื้อมาก จะเจ้าเล่ห์เรื่องเดียวคือเรื่องเข้าหอเท่านั้น มุกฮานี่มาตลอดเรื่อง จนถึงตอนหลังถึงรู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นเรื่องราวก็เพราะเหยี่ยนหวู่ฟาง ปีศาจไอมาร ที่จะเป็นด่านเคราะห์ให้ผ่านไปได้หรือไม่ เรื่องราวความรักของสองสามีภรรยา ที่ซาบซึ้งชวนเศร้า ทั้งยังมีคำสอนและปริศนาธรรมสอดแทรกให้ขบคิด ไม่น่าเชื่อว่าเส้นเรื่องที่มาตลก โปกฮา สุดท้ายก็ยังสอดแทรกสาระคำสอนเข้าไปในเรื่องได้ อย่างดี มาร่วมลุ้นกันว่าทั้งเหยี่ยนหวู่ฟางและไป๋จุ่นจะผ่าด่านเคราะห์ทั้งหมดที่สวรรค์กำหนดไปได้หรือไม่

หลังอ่าน :
เรื่องราวสนุกมาก ความฮาของเรื่องอยู่ที่ท่านประมุขจะแต่งงานเข้าห้องหอ คิดการใหญ่ต่างๆนานา ปิดบังหน้าตาเอาไว้ซะขนาดนั้น ที่ไหนได้ ความจริงแสนจะซื่อบื้อ ขี้อวด ชอบอวดเป็นที่สุด แต่รักเมียมาก รักเมียที่สุด อุตส่าห์อยู่มาหมื่นปีกว่าจะได้แต่งงานอะนะ ทั้งเรื่องตัวไป๋จุ่นเองยังขยันปล่อยมุกที่ไม่มีใครคิดออก เพราะความคิดไม่เหมือนชาวบ้าน ทำให้ทุกคนอึ้งไปตามๆกันในหลายๆเรื่อง กับยังมีลูกสมุนช่วยกันปล่อยมุกเรียกเสียงฮาเข้าไปอีก มันเป็นหนังสือตลกใช่ไหมเนี่ย ไม่นะ เพราะตอนเล่มจบยังมีสอดแทรกปริศนาธรรม คำสอนทางธรรมให้ได้รู้ แถมยังมีความซาบซึ้งของสามี ภรรยาให้ได้น้ำตาร่วงอีก เพราะจริงๆแล้วตั้งแต่ต้นเรื่องมีความเกี่ยวโยงกันทั้งหมด ไม่ควรพลาดส่วนไหนไปเลยเด็ดขาด ตัวละครทุกตัวมีความเชื่อมโยงกัน นข. เขียนโยงเรื่องได้ดีมากๆ สามารถทำให้เรามองข้ามเรื่องต่างๆ แล้วมารู้ในตอนจบว่าทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไปของมันอย่างแน่นอน กรรม และการกระทำแต่ละอย่างเกี่ยวข้องกันทั้งสิ้น ตอนจบของเรื่องจริงๆก็ยังทำเอาฮาเพราะ ไป๋จุ่นอีกนั่นแหละนางคงความฮาไว้ได้เสมอต้นเสมอปลายจนจบทีเดียว อ่านแล้วจะรักมารเฒ่าหมื่นปีที่สุด