Monday, July 8, 2019

#จะรักใครก็รักไป #3เล่มจบ #สนพ.อรุณ


Review 15/2562
เรื่อง : จะรักใครก็รักไป (3เล่มจบ)
ผู้แต่ง : เฟิงหลิวซูไต
สำนักพิมพ์ : อรุณ
พิมพ์ครั้งที่1 : มีนาคม 2562
โปรยปกหลัง:
เรื่องราวของหญิงสาวที่ได้รับโอกาสที่สวรรค์ประทานให้อีกครา
ชาติก่อน “กวนซู่อี” ยึดมั่นใจคุณธรรม เมตตาธรรม และศีลธรรมจรรยา
มีความรู้อย่างถ่องแท้และกว้างขวาง
กลับถูก ข้อห้ามสตรี กดข่มจนชีวิตต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรม
ชาตินี้ ไม่ว่าทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าจะจริงหรือเท็จ
หรือเป็นการสะท้อนของคันฉ่องวัฏสงสาร
นางก็ยินดีจะแลกเปลี่ยนนับแต่บัดนี้!

นางไม่คิดแค้นผู้ใด ปรารถนาเพียงใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
ในชาตินี้ผู้ใดจะคู่กับใคร ใครจะรักใคร เกี่ยวอันใดกับนางด้วย


เล่ม1:
กวนซู่อีกระทำตนตามแนวคำสอนทุกอย่าง ประพฤติตนดี แต่สิ่งที่ได้มามีแต่การโกหก หลอกลวง หลอกใช้ สาบานว่าชาติหน้าเกิดใหม่ขอไม่พบเจอกับคนตระกูลจ้าวอีกเลย

เกิดอีกครั้งเรื่องราวกำลังจะถึงตอนที่ท่านปู่กำลังจะเสียทีให้กับสวีก่วงจื้อที่คิดจะใช้กวนฉีกวงเป็นบันไดไปสู่ราชสำนัก กวนซู่อีมีหรือจะยอมชาตินี้จะทำทุกอย่างตามอำเภอใจ ท่านปู่เป็นคนที่มีความรู้แต่เสียที่พูดไม่เก่งทำตามหลักการอย่างเดียวตอนที่กำลังจะพลาดพลั้ง กวนซู่อีจึงพูดขัดตามหลักคำสอนสามารถทำให้สถานการณ์ของท่านปู่คลี่คลายไม่เกิดเรื่องเหมือนในชาติที่แล้ว สวีก่วงจื้อไม่อาจใช้ท่านปู่เป็นบันไดก้าวขึ้นไปตามอย่างชาติที่แล้วได้ และนั้นก็เป็นเหตุการณ์ที่ฮ่องเต้เซิ่งหยวน ฮั่วเซิ่งเจ๋อ ได้มาปลอมตัวแอบฟังอยู่ด้วย จากการที่จะยกสวีก่วงจื้อให้เป็นกำลังหลักในการช่วยเหลือดำเนินนโยบายของแว่นแคว้นที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่จากชาติก่อน จึงเปลี่ยนใจสนใจคนตระกูลกวน จากการให้สืบก็พบว่ากวนฉีกวง และกวนอวิ๋นฉีมีคุณสมบัติช่วยได้ และตั้งใจจะแต่งตั้งกวนซู่อีที่เป็นหลานสาวม่เป็นเจาอี๋เพื่อดึงดูดปัญชาชนเข้าร่วมให้มากขึ้น แต่แผนการครั้งนี้กลับถูกเย่เจิน ที่อดีตเคยเป็นภรรยาของเจิ้นเป่ยโหว จ้าวลู่หลีที่เคยมีบุญคุณช่วยชีวิตแอบล่วงรู้ เลยทำให้แผนการของฮั่วเซิ่งเจ๋อผิดพลาด เพราะจ้าวลู่หลีก็ถูกบุตรสาวตัวเอง จ้าวฉุนซีที่ได้รับข่าวจากเย่เจินใช้แผนการจนทำให้จ้าวลู่หลีทนการรบเร้าของลูกสาว ลูกชายไม่ไหว ไปขอสมรสพระราชทานจากฮ่องเต้ ฮั่วเซิ่งเจ๋อก็เลยเปลี่ยนใจที่จะให้กวนซู่อีเป็นสนมในวังให้แต่งกับจ้าวลู่หลีแทน
กวนซู่อีแต่งงานไปหลังจากหลบเลี่ยงไม่ได้ก็ ไม่ทำตัวเหมือนชาติที่แล้ว ทุกอย่างนางดูออกหมดไม่เหมือนชาติก่อนที่ยอมช่วยเหลือตระกูลจ้าวทุกอย่าง ครั้งนี้แตกต่างออกไปเพราะท่านปู่ ท่านพ่อได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้ให้เป็นราชครูและเจ้ากรมพิธีการ กวนซู่อีทั้งฉลาด เก่ง มองสถานการณ์ออกจะไม่เข้าใจเรื่องราวที่หลอกลวง บิดผันได้ยังไง คราวนี้ได้ทำทุกอย่างที่ต้องทำ สามารถมองออกถึงเล่ห์เหลี่ยมที่จ้าวฉุนซีใช้ และความขี้เกียจไม่เอาไหนของจ้าววั่งซู แต่ชาตินี้นางจะไม่สั่งสอน ไม่ช่วยเหลือพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนชาติก่อนอีกต่อไป แล้วดูสิว่าจุดจบจะเป็นยังไง อยู่ในจวนเจิ้นเป่ยโหวที่น่าเบื่อไม่มีอะไรทำ ตอนนั้นมีเรื่องที่สวีก่วงจื้อจัดงานอภิปรายสิบวันนางสนใจออกไปดู ทำให้ได้เจอกับฮ่องเต้ฮั่วเซิ่งเจ๋อที่ปลอมตัวมาเป็นองครักษ์เผ่าจิ่วหลีของเจิ้นซีโหว ฉินหลิงอวิ๋น ชื่อที่ใช้ในเผ่าจิ่วหลีของฮ่องเต้คือฮูน่าเอ่อร์ ตอนนี้กวนซู่อีมาดูการประชันก็แสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา เป็นที่ถูกใจฮั่วเซิ่งเจ๋อมาก ยิ่งฟังก็ยิ่งถูกใจ ส่วนกวนซู่อีก็ชอบที่จะสอนคนอื่นอยู่แล้วก็ยิ่งอธิบายให้เข้าใจอย่างละเอียด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฮั่วเซิ่งเจ๋อยังพูดกับฉินหลิงอวิ๋นว่าที่ให้สมรสพระราชทานกับจ้าวลู่หลีเพราะตอนอยู่ท้องพระโรงต้องเจอคำสอนของกวนฉีกวงอยู่แล้ว ถ้ามาตำหนักหลังยังต้องฟังเสียงหลานสาวอีกก็ไม่อยากได้ยิน เพราะคิดถึงตรงนี้ก็รู้ว่าตอนนี้ฮ่องเต้ชอบกวนซู่อีจริงๆก็สายไปเสียแล้วเพราะได้ให้ไปเป็นภรรยาของผู้อื่นแล้ว หลังจากนี้ฮั่วเซิ่งเจ๋อจะชอบฟังการอธิบายของกวนซู่อี เรียกว่าฮูหยินทุกคำ ทำยังกับเป็นฮูหยินของตน ซึ่งตัวเองก็คิดในใจว่าถ้าไม่ถูกสามีภรรยาคู่นี้ทำให้เกิดเรื่องมากมายป่านนี้ฮูหยินต้องเป็นฮองเฮาของตนไปแล้ว
ตอนนี้ก็เริ่มสนใจเรื่องราวภายในจวนเจิ้นเป่ยโหว ขณะเดียวกันก็พยายามกำจัดภัยภายนอกและปฏิรูปการปกครอง ฮั่วเซิ่งเจ๋อที่ไม่มีความรู้เรื่องการปกครอง แต่ใฝ่ศึกษาเมื่อก่อนชอบไปคุยกับเย่เจิน แต่นับตั้งแต่เจอกวนซู่อีก็เห็นความแตกต่างของจิตใจ ความสามารถ คุณธรรม เมตตาธรรม ของอีกฝ่ายและเริ่มสงสัยเรื่องราวในปีนั้นที่เกิดเรื่องขึ้น ตระกูลเย่ยังวุ่นวายกับจวนเจิ้นเป่ยโหวบังคับให้รับอนุ กวนซู่อีก็ไม่ว่าอะไรทั้งยังให้สาวใช้ตนเองแต่งเป็นอนุอีกคน ทำให้เย่เจินอยากแสดงบารมีส่งหินปะการังสีแดงเป็นของหมั้นหมายให้เป็นการหนุนหลังตระกูลเย่ กดข่มตระกูลกวน สุดท้ายตระกูลเย่ก็ถูกกำจัดจากความโอ้อวดของตนเอง ทั้งยังหลอกใช้จวนเจิ้นเป่ยโหว จ้าวลู่หลีที่ไม่รู้ดีชั่วก็ยังพยายามช่วยบ้านพ่อตา แม่ยายของภรรยายที่ตายไปแล้วอย่างโง่งม ทั้งๆที่กวนซู่อีถามความเห็นแล้วสุดท้ายก็ต้องให้แยกเรือนตะวันออก ตะวันตกไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ฮั่วเซิ่งเจ๋อรู้แล้วว่าเย่เจินที่เห็นแก่ตัวไม่มีทางมาช่วยตนเองที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ทุกอย่างต้องวางแผนการไว้หมดแล้วตั้งแต่ต้น ทำให้ยิ่งแค้นใจสามีภรรยาทั้งสองที่วางแผนกับตน และยังแย่งชิงภรรยาของตนไปอีกซึ่งก็คือกวนซู่อี ตอนนี้จ้าวลู่หลียังถูกขังคุกเพราะความผิดช่วยเหลือตระกูลเย่ ตระกูลเย่ก็มีความผิดช่วยเหลือราชวงศ์ก่อนโทษถึงขั้นก่อกบฏ กวนซู่อีจะจัดการกับภัยร้ายต่างๆและใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขยังไงต้องอ่านเล่มสองต่อ ฮ่องเต้ก็จะหาวิธีทำให้ฮูหยินกับมาเป็นฮูหยินของตนให้ได้ ก็หลงรักเขาแล้วนี่แต่ดันมอบสมรสพระราชทานให้ ตอนนี้ต้องหาทางหย่าให้ฮูหยินให้ได้ล่ะ

หลังอ่านเล่ม1:
กวนซู่อีและตระกูลกวนใช้ชีวิตอย่างสง่าผ่าเผย มีคุณธรรมทุกเรื่องราว ต้องมาเจอกับจ้าวลู่หลี ที่หลงงมงายเลอะเลือนแต่กับเย่เจินภรรยาที่ตายไปแล้วกับความเละเทะของคนในตระกูล และตระกูลเย่ที่เห็นแก่ตัว ไม่คิดถึงคนอื่น กวนซู่อีไม่อยากมีชีวิตเหมือนชาติก่อน ชาตินี้จะทำตามใจตนเองทุกอย่าง สุดท้าย ขนาดฮั่วเซิ่งเจ๋อ ฮ่องเต้ที่ก่อให้เกิดเรื่องราวทุกอย่างก็ยังประทับใจและหลงรัก อะไรๆก็ฮูหยินตลอดเวลา กวนซู่อีต้องหนีจากชีวิตในชาติก่อนและทำทุกอย่างให้ตัวเองสบายใจที่สุด ความรู้ ความสามรถก็มีไม่ต้องไปสนใจคนรอบข้างตนเองมีสติปัญญา มีคุณธรรมซะอย่าง

เล่ม2 :

กวนซู่อีแยกเรือนตะวันตก และตะวันออก ให้ตนเอง ฮูหยินผู้เฒ่า หร่วนซื่อ และมู่มู่ อาศัยเรือนตะวันตกและใช้ป้ายชื่อจวนแม่ทัพของนายท่านรอง ฮั่วเซิ่งเจ๋อรู้เรื่องราวในปีนั้นทั้งหมดว่าเป็นแผนการของเย่เจินและคนตระกูลเย่ คิดอยากจะจัดการปัญหาที่เย่เจินทำเป็นมีบุญคุณ แต่ความจริงคือลอบทำร้าย และยังคิดการปกครองแบบระบบสองสำนักสามกอง กระจายอำนาจของเสนาบดีออกไป ทุกอย่างได้รับแนวคิดจากกวนซู่อีทั้งสิ้น ทั้งการแก้ปัญหา การจัดการปัญหา ยิ่งทำให้ฮั่วเซิ่งเจ๋อคิดว่ากวนซู่อีเป็นฮูหยินของตน ขาดแค่ปมสุดท้ายในใจก็ได้รับการคลายจากกวนซู่อีเช่นกัน จากการที่กวนซู่อีช่วยผ่าท้องหร่วนซื่อนำเด็กออกมา และกล่าวว่าเด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นสิ่งที่มารดาปกป้องด้วยชีวิต นั่นคือปมที่ใหญ่ที่สุดของฮั่วเซิ่งเจ๋อที่คิดว่าตนเองคือปีศาจแหวกท้องมารดาออกมา เป็นการเข้าใจผิดโดยการบิดเบือนข้อเท็จจริงที่เห็นตรวหน้า ในที่สุดฮั่วเซิ่งเจ๋อก็มาหากวนซู่อีด้วยตนเอง ทำให้กวนซู่อีรู้ว่าฮูน่าเอ่อร์ก็คือฮั่วเซิ่งเจ๋อ เมื่อฮั่วเซิ่งเจ๋อบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด นางก็โกรธที่ฮั่วเซิ่งเจ๋อโง่ โดนเย่เจินหลอกมานานขนาดนี้ นางแค้นเย่เจินที่สุด ที่ทำให้ต้องเจอกับเรื่องราวทั้งหมด ฮั่วเซิ่งเจ๋อสารภาพรักกับกวนซู่อี กวนซู่อีก็รับรู้ได้ ทุกเรื่องพึ่งพาอำนาจของฮั่วเซิ่งเจ๋อ และจะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา ฮั่วเซิ่งเจ๋อก็รับได้ที่อย่าง ฮั่วเซิ่งเจ๋อส่งเย่เจินออกมาเพื่อให้กวนซู่อีหย่ากับจ้าวลู่หลี จ้าวลู่หลีที่ขี้ขลาดก็เดินตามหมาก กว่าจะคิดได้ก็สายเกินไป เมื่อรู้ความจริงสิ่งสำคัญก็หลุดลอยไป เย่เจินเป็นคนที่เห็นแก่ตัวกลับมาก็ทำให้ตระกูลจ้าวกลับไปเป็นเหมือนก่อนหน้าที่กวนซู่อีจะแต่งเข้ามา แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะกวนซู่อีก็พร้อมจะจากไปกับพามู่มู่ไปด้วย
กวนซู่อีใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่ได้ทำตามแบบแผนหญิงในตอนนั้น ทำตามอำเภอใจ เพราะมีคนหนุนหลัง และยังคอยขัดขวางการกระทำของสวีก่วงจื้อที่อยากจะเข้าราชสำนัก เพราะชาตินี้ฮั่วเซิ่งเจ๋อรู้จักกับกวนซู่อี และรักนางทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม จิตใจของกวนซู่อีที่แม้แต่คนในครอบครัวก็ยังไม่รู้แต่ฮั่วเซิ่งเจ๋อกลับรับรู้ และรับได้ กวนซู่อีเริ่มเปิดใจกับฮั่วเซิ่งเจ๋อขึ้นเรื่อยๆ
หลังอ่านเล่มสอง:
กวนซู่อีที่ยึดมั่นในคุณธรรม มีหลักการดำเนินชีวิตยัง ดำเนินชีวิตไปอย่างดี แต่เหตุการณ์ต่างๆก็เกิดขึ้นกับตระกูลจ้าวจนทำให้นางไม่สามารถอยู่ได้อีก ฮั่วเซิ่งเจ๋อเมื่อรู้ตัวว่ารักแล้วก็ทำทุกอย่างเพื่อฮูหยิน เห็นฮูหยินสำคัญที่สุด ตอนนี้ก็ยังพยายามให้นางแต่งเข้าวังมาเป็นฮองเฮาของตน จะสำเร็จหรือไม่มาดูกันในเล่มจบ


เล่ม3:
กวนซู่อีเขียนหนังสือโต้ตอบ หักล้างแนวคิด รวมอรรถาธิบายของสวีก่วงจื้อที่อยากจะเป็นอาจารย์ของคนใต้หล้า ทำให้นักปราชญ์ ผู้มีความรู้ทั่วไปมารวมตัวกันเขียนบทความที่ดีที่สุด สุดท้ายสวีก่วงจื้อก็พ่ายแพ้ไปอีกครั้ง กวนซู่อีเป็นคนเริ่มเรื่องแต่ทั้งหมดเพื่อให้รวบรวมแนวคิดที่ดีที่สุดของอาจารย์ทั่วแคว้นมาเพื่อรวบรวมเป็นหนังสือแก่ชนรุ่นหลัง เรื่องนี้จึงได้รับการตอบรับอย่างมากมาย เรื่องราวที่ตระกูลกวนจะบังคับให้รับทายาทก็แก้ไขได้ด้วยการที่ กวนเหวินไห่มีใจอิจฉาริษยาจนเกิดความคิดจะลักพาตัวมู่มู่กับกวนซู่อีแต่เรื่องนี้เป็นการหลอกใช้ของผู้มีอำนาจเบื้องหลังที่ต้องการกำจัดกวนซู่อี ให้กวนเหวินไห่มาเป็นแพะรับบาป
มู่มู่และกวนซุ่อีถูกลักพาตัวไป กวนซู่อีใช้ความสามารถของตัวเองหนีรอดจากสถานการณ์เลวร้ายได้ ในที่สุดก็รู้ว่าตัวเองอยู่เฉยๆไม่ทำร้ายใคร ผู้อื่นก็มาทำร้ายอยู่ดี ฮั่วเซิ่งเจ๋อเป็นคนนำทัพออกมาตามหาด้วยตนเอง และได้ช่วยเหลือกวนซู่อี และไปช่วยมู่มู่กลับมาได้ จากเรื่องราวนี้ในที่สุดกวนซู่อีก็ยอมรับปากแต่งงานกับฮั่วเซิ่งเจ๋อ แต่ต้องจัดการผู้อยู่เบื้องหลังการลักพาตัวที่เป็นภัยคุกคามไปก่อน ซึ่งจากการวิเคราะห์ก็ได้ข้อสรุปว่าเป็นเปี้ยนหมิ่นเอ๋อร์เผ่าจิ่วหลี มีไทเฮาหนุนหลัง กวนซู่อีลงมือวางแผนด้วยตนเอง ระหว่างนี้ก็มี หนังสือข้อห้ามสตรีที่สวีหยาเหยียนเขียนขึ้น เป็นหนังสือที่ทำให้กวนซู่อีต้องตายในชาติที่แล้วครั้งนี้ก็เพราะหนังสือนี้ นางจึงต้องตัดหนทางที่จะทำให้สวีหยาเหยียนมีโอกาสโด่งดัง และสวีก่วงจื้อก็จะกลับมามีโอกาสอีกครั้ง กวนซู่อีเพียงเขียนหนังสือที่ไม่ได้หักล้างแนวคิดข้อห้ามสตรี แต่กล่าวถึงแผ่นดินหลังจากศึกสงคราวหญิงหม้ายเด็กกำพร้ามากมาย ถ้าไม่ให้แต่งงานใหม่แล้วจะเพิ่มราษฎรได้อย่างไร ไร้ผู้สืบสกุลเป็นการทำลายรากฐานของแคว้น เรื่องพวกนี้สามารถหักล้าง ข้อห้ามสตรีได้ และเพราะมีฮั่วเซิ่งเจ๋อ มำนาจหนุนหลังชาตินี้จึงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ในที่สุดตระกูลสวีก็ต้องขายบ้านกลับบ้านเดิมไม่อาจสู้หน้าอยู่ในเมืองหลวงได้อีก
เรื่องราวต่างๆเปลี่ยนแปลงจากชาติที่แล้ว ผู้ที่ได้เป็นจ้วนหงวน ปั๋งเหยี่ยน ทั่นฮวา ในงานเลี้ยงรับรองในที่สุดกวนซู่อีก็สามารถจัดการกับเปี้ยนหมิ่นเอ๋อร์ รวมทั้งตระกูลมีอำนาจของเผ่าจิ่วหลีได้ในคราวเดียว ขุนนางชาวฮั่นต่างคิดตรงกันว่าผู้ที่เหมาะสมเป็นฮองเฮามีเพียงกวนซู่อี ฮั่วเซิ่งเจ๋อเตรียมจัดงานภายในหนึ่งเดือน และยังได้ไปจับห่านป่าคู่มาเป็นของหมั้นหมายมาด้วยตนเอง คนตระกูลกวนที่เห็นเช่นนี้ก็วางใจได้
พอกวนซู่อีเข้าวังก็จัดการภายในหกตำหนักอย่างเรียบร้อย ออกกฎวังหลังขึ้นมาที่เขียนอ้างอิงประวัติศาสตร์ จึงไม่มีใครกล้าคัดค้าน เมื่อตั้งครรภ์ก็ยังเกิดคลื่นใต้น้ำที่ผู้คนต่างกดดันว่าทารกในครรภ์เป็นชาย แต่กวนซู่อีก็ไม่คิดมากตั้งใจดูแลครรภ์อยากดีจนถึงตอนคลอด และทุกคนก็ได้รู้ความโปรดปรานของฮ่องเต้ที่มีต่อองค์หญิงน้อย และต่อมาก็คลอดองค์ชายเป็นครอบครัวอบอุ่น องค์หญิงเหมือนฮั่วเซิ่งเจ๋อเก่งกล้าสามารถ ส่วนองค์ชายกลับคล้ายมารดาพูดได้ตั้งแต่อายุไม่ถึงหนึ่งขวบ
ตอนพิเศษ ที่กล่าวถึงช่วงเวลาชาติก่อนที่กวนซู่อีจะตาย กลายเป็นจ้าวลู่หลีที่กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งจากอีกชาติ ครั้งนี้จ้าวลู่หลีคิดจะทำดีต่อฮูหยิน แต่ทุกอย่างช้าเกินไปเสมอ เมื่อฮั่วเซิ่งเจ๋อได้เจอกวนซู่อีในวังก็สามารถกำจัดจิตมารไปได้ และสิ่งทำต่างๆเพื่อให้ได้ฮูหยินมาครอง ซึ่งในที่สุดเรื่องราวก็ดำเนินมาเหมือนกับชาติก่อน แต่ชาตินี้กวนซู่อีเป็นคนตรงไปตรงมาและไม่มีตระกูลหนุนหลังทำให้ไม่ได้ทำตัวสบาย อิสระ เหมือนชาติที่แล้ว คนดีมักถูกรังแก แต่สุดท้ายเมื่อได้ทุ่มเทให้ฮั่วเซิ่งเจ๋อก็ทำให้เผยบุคลิก นิสัยที่เป็นตัวตนของตัวเองออกมา และสามารถอยู่ในวังหลังได้ ทุกอย่างล้วนเหมือนเดิมเมื่อพบเจอคนที่เป็นบุพเพยังไงก็เป็นไปตามที่ขีดเส้นไว้ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว เหตุการณ์ที่ควรเกิดก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี เมื่อพบคนที่ถูกต้องเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง

หลังอ่านเล่มสาม :

กวนซู่อีแสดงความสามารถมากมายเพราะรู้ว่ามีคนหนุนหลังตนอยู่ และทุกอย่างเพราะมีคนที่เชื่อใจ ไว้ใจ จึงทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ และก็สามารถใช้ความสามารถของตนได้อย่างเต็มที่โดยไม่โดนกดข่ม ทำดีไม่ได้ดี คนดีมักถูกรังแก นางจึงทำตามใจอย่างแท้จริงและไม่ขัดต่อหลักคำสอนที่ทุกคนยึดถือเพราะสุดท้ายรู้ว่ามีคนหนุนหลัง มีอำนาจหนุนหลังสามารถชนะทุกสิ่ง
หลังอ่าน
กวนซู่อี ชาติก่อนทำดียึดถือคุณธรรม จริยธรรม ประพฤติดี แต่กลับถูก บ้านตระกูลจ้าวกดข่ม ดูถูก หลอกใช้ต่างๆนานา พอตายไปได้รู้เรื่องจริงที่เกิดขึ้นขอสาบานว่าเกิดชาติใหม่ขอไม่พบเจอกับคนตระกูลนี้อีก
จ้าวลู่หลี อ่อนแอ ขี้ขลาด คิดช้าไม่เคยทันใคร หลงงมงายกับ ภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วยังไง กว่าจะเข้าใจทุกอย่าง อยากจะเริ่มต้นใหม่ก็สายไปแล้ว ทุกครั้งไป
ฮั่วเซิ่งเจ๋อ ,ฮูน่าเอ่อร์ ฮ่องเต้เซิ่งหยวนเป็นคนเผ่าจิ่วหลี ตอนเด็กถูกเลี้ยงดูโดยฝูงหมาป่า มีจิตใจของสัตว์ป่าอยู่ส่วนหนึ่ง ไม่เข้าใจวัฒนธรรมจงหยวน รักการเรียนรู้ ขยันหมั่นเพียร
กวนซู่อีที่ชาติก่อนทำความดี กระทำตามหลักคำสอน ปฏิบัติต่อบ้านสามีอย่างดี กลับได้รับแต่การหลอกใช้ ตายไปอย่างไม่เป็นธรรม ชาตินี้เกิดใหม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ก็จะต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายเหมือนชาติก่อนอีกแล้ว ชาตินี้ท่านปู่ ท่านพ่อจะต้องไม่เป็นเหมือนชาติก่อน ซึ่งนางก็ทำได้สำเร็จ
ฮั่วเซิ่งเจ๋อที่ตอนแรกคิดจะแต่งตั้งกวนซู่อีเป็นเจาอี๋ แต่เพราะแผนการของเย่เจิน จึงมอบสมรสพระราชทานให้จ้าวลู่หลีแทน ตอนหลังพอรู้ว่าฮูหยินเป็นคนยังไงก็พัวพันคิดแต่ว่ากวนซู่อีคือฮูหยินของตน เป็นฮ่องเต้ที่หน้าหนามากทีเดียว ทำทุกอย่างเพื่อฮูหยิน ทุกการกระทำจะคิดในมุมของฮูหยิน แต่ฮั่วเซิ่งเจ๋อยังมีปมในใจเรื่องเกี่ยวกับชาติกำเนิดก็ได้กวนซู่อีเป็นคนคลี่คลายยิ่งทำให้รัก ชื่นชมบูชาฮูหยินและในที่สุดก็เปิดเผยตัวเพื่อจะได้จีบได้ถนัดๆ ส่วนกวนซู่อีจากตอนแรกที่ไม่มีใจแต่พอรู้ว่าฮั่วเซิ่งเจ๋อรักจริง ก็ดีใจที่มีคนชอบจริงๆไม่เหมือนชาติก่อนที่ทำดีแทบตายก็ไม่ได้อะไรตอบแทน ชาตินี้นางจึงทำตัวตามสบาย ใช้ความรู้ ความสามารถขัดขวางเส้นทางขุนนางของสวีก่วงจื้อที่เป็นต้นเหตุเริ่มต้นทำลายตระกูลกวนในชาติก่อน เพราะก่อนตายในชาติก่อนนางได้อ่านหนังสือมากมาย สามารถหักล้างบทความต่างๆของสวีก่วงจื้อ และสวีหย่าเหยียนที่ชาติก่อนเป็นตัวทำลายชีวิตผู้คนมากมาย ชาตินี้ทุกอย่างจึงไม่เหมือนเดิม เพราะมีฮั่วเซิ่งเจ๋อหนุนหลัง มีอำนาจหนุนหลัง นางจึงทำอะไรได้ตามใจต้องการ ทั้งๆที่โดนคนเล่นงานหลายครั้งแต่ก็สามารถรอดมาได้ จากที่ไม่ต้องการตำแหน่ง อำนาจ ก็เปลี่ยนเป็นในเมื่อมาร้ายก็ต้องร้ายตอบ จะอยู่นิ่งเฉยสบายๆก็มีคนมาก่อกวน ทำให้ต้องใช้อำนาจหนุนหลังและจัดการคนคิดร้ายทั้งหมดไป โดยทุกเรื่องราวจะมีฮั่วเซิ่งเจ๋อคอยช่วยเหลือ คอยหนุนหลังอยู่ข้างๆ

ตอนพิเศษ ยังแสดงให้เห็นว่าถึงแม้ว่ากวนซู่อีจะไม่ได้ตายไปเป็นคนที่ไร้อำนาจ แต่เมื่อได้เจอกับฮั่วเซิ่งเจ๋อ ทำให้กำจัดจิตมารไปได้ สิ่งต่างๆก็ยังคงเหมือนเดิม จ้าวลู่หลีที่เป็นคนย้อนกลับมาเกิดถึงแม้อยากจะทำดีกับฮูหยินชดเชย แต่ก็สายไปแล้วเสมอ ถึงแม้จะมีโอกาสกลับมาแก้ไขเรื่องราว มาเริ่มต้นใหม่ กับคนที่ไม่ใช่ ก็ไม่สามารถเป็นไปได้ แต่กับคนที่ใช่แล้วไม่ว่ายังไงก็ยังเจอกัน พบกัน รักกัน และแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไปด้วยกัน สร้างแคว้นเว่ยให้รุ่งเรืองจากการเกือบกลายเป็นกลียุคได้อีกครั้ง

การกระทำของคนเราสามารถสะท้อนให้เห็นผลที่ตามมาได้ ถ้าตั้งใจช่วยเหลือผู้อื่นสุดท้ายก็ย่อมต้องมีคนเห็นความสามารถ เหมือนกวนซู่อีที่กระทำตามใจ ใช้ชีวิตตามต้องการ เมื่อมีคนเอาหลักคำสอนมาอ้างก็สามารถหักล้างได้ด้วยความจริง และหลักการต่างๆตามข้อเท็จจริง เพราะคำสอนของปราชญ์แต่ละคนก็มีข้อดีของตนเอง ทั้งขงจื้อ เมธีร้อยสำนัก ถ้าเอามาปรับใช้ตามสถานการณ์ได้ถูกต้อง ทุกเรื่องราวก็จะมีทางแก้ไข