Review 15/2562
เรื่อง : จะรักใครก็รักไป (3เล่มจบ)
ผู้แต่ง : เฟิงหลิวซูไต
สำนักพิมพ์ :
อรุณ
พิมพ์ครั้งที่1 : มีนาคม 2562
โปรยปกหลัง:
เรื่องราวของหญิงสาวที่ได้รับโอกาสที่สวรรค์ประทานให้อีกครา
ชาติก่อน “กวนซู่อี” ยึดมั่นใจคุณธรรม
เมตตาธรรม และศีลธรรมจรรยา
มีความรู้อย่างถ่องแท้และกว้างขวาง
กลับถูก ข้อห้ามสตรี
กดข่มจนชีวิตต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรม
ชาตินี้
ไม่ว่าทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าจะจริงหรือเท็จ
หรือเป็นการสะท้อนของคันฉ่องวัฏสงสาร
นางก็ยินดีจะแลกเปลี่ยนนับแต่บัดนี้!
นางไม่คิดแค้นผู้ใด ปรารถนาเพียงใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
ในชาตินี้ผู้ใดจะคู่กับใคร ใครจะรักใคร
เกี่ยวอันใดกับนางด้วย
เล่ม1:
กวนซู่อีกระทำตนตามแนวคำสอนทุกอย่าง
ประพฤติตนดี แต่สิ่งที่ได้มามีแต่การโกหก หลอกลวง หลอกใช้
สาบานว่าชาติหน้าเกิดใหม่ขอไม่พบเจอกับคนตระกูลจ้าวอีกเลย
เกิดอีกครั้งเรื่องราวกำลังจะถึงตอนที่ท่านปู่กำลังจะเสียทีให้กับสวีก่วงจื้อที่คิดจะใช้กวนฉีกวงเป็นบันไดไปสู่ราชสำนัก
กวนซู่อีมีหรือจะยอมชาตินี้จะทำทุกอย่างตามอำเภอใจ ท่านปู่เป็นคนที่มีความรู้แต่เสียที่พูดไม่เก่งทำตามหลักการอย่างเดียวตอนที่กำลังจะพลาดพลั้ง
กวนซู่อีจึงพูดขัดตามหลักคำสอนสามารถทำให้สถานการณ์ของท่านปู่คลี่คลายไม่เกิดเรื่องเหมือนในชาติที่แล้ว
สวีก่วงจื้อไม่อาจใช้ท่านปู่เป็นบันไดก้าวขึ้นไปตามอย่างชาติที่แล้วได้
และนั้นก็เป็นเหตุการณ์ที่ฮ่องเต้เซิ่งหยวน ฮั่วเซิ่งเจ๋อ
ได้มาปลอมตัวแอบฟังอยู่ด้วย จากการที่จะยกสวีก่วงจื้อให้เป็นกำลังหลักในการช่วยเหลือดำเนินนโยบายของแว่นแคว้นที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่จากชาติก่อน
จึงเปลี่ยนใจสนใจคนตระกูลกวน จากการให้สืบก็พบว่ากวนฉีกวง และกวนอวิ๋นฉีมีคุณสมบัติช่วยได้
และตั้งใจจะแต่งตั้งกวนซู่อีที่เป็นหลานสาวม่เป็นเจาอี๋เพื่อดึงดูดปัญชาชนเข้าร่วมให้มากขึ้น
แต่แผนการครั้งนี้กลับถูกเย่เจิน ที่อดีตเคยเป็นภรรยาของเจิ้นเป่ยโหว
จ้าวลู่หลีที่เคยมีบุญคุณช่วยชีวิตแอบล่วงรู้
เลยทำให้แผนการของฮั่วเซิ่งเจ๋อผิดพลาด เพราะจ้าวลู่หลีก็ถูกบุตรสาวตัวเอง
จ้าวฉุนซีที่ได้รับข่าวจากเย่เจินใช้แผนการจนทำให้จ้าวลู่หลีทนการรบเร้าของลูกสาว
ลูกชายไม่ไหว ไปขอสมรสพระราชทานจากฮ่องเต้
ฮั่วเซิ่งเจ๋อก็เลยเปลี่ยนใจที่จะให้กวนซู่อีเป็นสนมในวังให้แต่งกับจ้าวลู่หลีแทน
กวนซู่อีแต่งงานไปหลังจากหลบเลี่ยงไม่ได้ก็
ไม่ทำตัวเหมือนชาติที่แล้ว ทุกอย่างนางดูออกหมดไม่เหมือนชาติก่อนที่ยอมช่วยเหลือตระกูลจ้าวทุกอย่าง
ครั้งนี้แตกต่างออกไปเพราะท่านปู่
ท่านพ่อได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้ให้เป็นราชครูและเจ้ากรมพิธีการ
กวนซู่อีทั้งฉลาด เก่ง มองสถานการณ์ออกจะไม่เข้าใจเรื่องราวที่หลอกลวง
บิดผันได้ยังไง คราวนี้ได้ทำทุกอย่างที่ต้องทำ สามารถมองออกถึงเล่ห์เหลี่ยมที่จ้าวฉุนซีใช้
และความขี้เกียจไม่เอาไหนของจ้าววั่งซู แต่ชาตินี้นางจะไม่สั่งสอน
ไม่ช่วยเหลือพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนชาติก่อนอีกต่อไป
แล้วดูสิว่าจุดจบจะเป็นยังไง อยู่ในจวนเจิ้นเป่ยโหวที่น่าเบื่อไม่มีอะไรทำ
ตอนนั้นมีเรื่องที่สวีก่วงจื้อจัดงานอภิปรายสิบวันนางสนใจออกไปดู
ทำให้ได้เจอกับฮ่องเต้ฮั่วเซิ่งเจ๋อที่ปลอมตัวมาเป็นองครักษ์เผ่าจิ่วหลีของเจิ้นซีโหว
ฉินหลิงอวิ๋น ชื่อที่ใช้ในเผ่าจิ่วหลีของฮ่องเต้คือฮูน่าเอ่อร์ ตอนนี้กวนซู่อีมาดูการประชันก็แสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา
เป็นที่ถูกใจฮั่วเซิ่งเจ๋อมาก ยิ่งฟังก็ยิ่งถูกใจ
ส่วนกวนซู่อีก็ชอบที่จะสอนคนอื่นอยู่แล้วก็ยิ่งอธิบายให้เข้าใจอย่างละเอียด
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฮั่วเซิ่งเจ๋อยังพูดกับฉินหลิงอวิ๋นว่าที่ให้สมรสพระราชทานกับจ้าวลู่หลีเพราะตอนอยู่ท้องพระโรงต้องเจอคำสอนของกวนฉีกวงอยู่แล้ว
ถ้ามาตำหนักหลังยังต้องฟังเสียงหลานสาวอีกก็ไม่อยากได้ยิน
เพราะคิดถึงตรงนี้ก็รู้ว่าตอนนี้ฮ่องเต้ชอบกวนซู่อีจริงๆก็สายไปเสียแล้วเพราะได้ให้ไปเป็นภรรยาของผู้อื่นแล้ว
หลังจากนี้ฮั่วเซิ่งเจ๋อจะชอบฟังการอธิบายของกวนซู่อี เรียกว่าฮูหยินทุกคำ
ทำยังกับเป็นฮูหยินของตน ซึ่งตัวเองก็คิดในใจว่าถ้าไม่ถูกสามีภรรยาคู่นี้ทำให้เกิดเรื่องมากมายป่านนี้ฮูหยินต้องเป็นฮองเฮาของตนไปแล้ว
ตอนนี้ก็เริ่มสนใจเรื่องราวภายในจวนเจิ้นเป่ยโหว
ขณะเดียวกันก็พยายามกำจัดภัยภายนอกและปฏิรูปการปกครอง
ฮั่วเซิ่งเจ๋อที่ไม่มีความรู้เรื่องการปกครอง แต่ใฝ่ศึกษาเมื่อก่อนชอบไปคุยกับเย่เจิน
แต่นับตั้งแต่เจอกวนซู่อีก็เห็นความแตกต่างของจิตใจ ความสามารถ คุณธรรม เมตตาธรรม
ของอีกฝ่ายและเริ่มสงสัยเรื่องราวในปีนั้นที่เกิดเรื่องขึ้น
ตระกูลเย่ยังวุ่นวายกับจวนเจิ้นเป่ยโหวบังคับให้รับอนุ
กวนซู่อีก็ไม่ว่าอะไรทั้งยังให้สาวใช้ตนเองแต่งเป็นอนุอีกคน
ทำให้เย่เจินอยากแสดงบารมีส่งหินปะการังสีแดงเป็นของหมั้นหมายให้เป็นการหนุนหลังตระกูลเย่
กดข่มตระกูลกวน สุดท้ายตระกูลเย่ก็ถูกกำจัดจากความโอ้อวดของตนเอง
ทั้งยังหลอกใช้จวนเจิ้นเป่ยโหว จ้าวลู่หลีที่ไม่รู้ดีชั่วก็ยังพยายามช่วยบ้านพ่อตา
แม่ยายของภรรยายที่ตายไปแล้วอย่างโง่งม
ทั้งๆที่กวนซู่อีถามความเห็นแล้วสุดท้ายก็ต้องให้แยกเรือนตะวันออก
ตะวันตกไม่ยุ่งเกี่ยวกัน
ฮั่วเซิ่งเจ๋อรู้แล้วว่าเย่เจินที่เห็นแก่ตัวไม่มีทางมาช่วยตนเองที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร
ทุกอย่างต้องวางแผนการไว้หมดแล้วตั้งแต่ต้น ทำให้ยิ่งแค้นใจสามีภรรยาทั้งสองที่วางแผนกับตน
และยังแย่งชิงภรรยาของตนไปอีกซึ่งก็คือกวนซู่อี ตอนนี้จ้าวลู่หลียังถูกขังคุกเพราะความผิดช่วยเหลือตระกูลเย่
ตระกูลเย่ก็มีความผิดช่วยเหลือราชวงศ์ก่อนโทษถึงขั้นก่อกบฏ
กวนซู่อีจะจัดการกับภัยร้ายต่างๆและใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขยังไงต้องอ่านเล่มสองต่อ
ฮ่องเต้ก็จะหาวิธีทำให้ฮูหยินกับมาเป็นฮูหยินของตนให้ได้
ก็หลงรักเขาแล้วนี่แต่ดันมอบสมรสพระราชทานให้
ตอนนี้ต้องหาทางหย่าให้ฮูหยินให้ได้ล่ะ
หลังอ่านเล่ม1:
กวนซู่อีและตระกูลกวนใช้ชีวิตอย่างสง่าผ่าเผย
มีคุณธรรมทุกเรื่องราว ต้องมาเจอกับจ้าวลู่หลี ที่หลงงมงายเลอะเลือนแต่กับเย่เจินภรรยาที่ตายไปแล้วกับความเละเทะของคนในตระกูล
และตระกูลเย่ที่เห็นแก่ตัว ไม่คิดถึงคนอื่น กวนซู่อีไม่อยากมีชีวิตเหมือนชาติก่อน
ชาตินี้จะทำตามใจตนเองทุกอย่าง สุดท้าย ขนาดฮั่วเซิ่งเจ๋อ
ฮ่องเต้ที่ก่อให้เกิดเรื่องราวทุกอย่างก็ยังประทับใจและหลงรัก
อะไรๆก็ฮูหยินตลอดเวลา
กวนซู่อีต้องหนีจากชีวิตในชาติก่อนและทำทุกอย่างให้ตัวเองสบายใจที่สุด ความรู้
ความสามรถก็มีไม่ต้องไปสนใจคนรอบข้างตนเองมีสติปัญญา มีคุณธรรมซะอย่าง
เล่ม2 :
กวนซู่อีแยกเรือนตะวันตก และตะวันออก ให้ตนเอง
ฮูหยินผู้เฒ่า หร่วนซื่อ และมู่มู่ อาศัยเรือนตะวันตกและใช้ป้ายชื่อจวนแม่ทัพของนายท่านรอง
ฮั่วเซิ่งเจ๋อรู้เรื่องราวในปีนั้นทั้งหมดว่าเป็นแผนการของเย่เจินและคนตระกูลเย่
คิดอยากจะจัดการปัญหาที่เย่เจินทำเป็นมีบุญคุณ แต่ความจริงคือลอบทำร้าย
และยังคิดการปกครองแบบระบบสองสำนักสามกอง กระจายอำนาจของเสนาบดีออกไป
ทุกอย่างได้รับแนวคิดจากกวนซู่อีทั้งสิ้น ทั้งการแก้ปัญหา การจัดการปัญหา
ยิ่งทำให้ฮั่วเซิ่งเจ๋อคิดว่ากวนซู่อีเป็นฮูหยินของตน
ขาดแค่ปมสุดท้ายในใจก็ได้รับการคลายจากกวนซู่อีเช่นกัน
จากการที่กวนซู่อีช่วยผ่าท้องหร่วนซื่อนำเด็กออกมา และกล่าวว่าเด็กเป็นผู้บริสุทธิ์
เป็นสิ่งที่มารดาปกป้องด้วยชีวิต
นั่นคือปมที่ใหญ่ที่สุดของฮั่วเซิ่งเจ๋อที่คิดว่าตนเองคือปีศาจแหวกท้องมารดาออกมา
เป็นการเข้าใจผิดโดยการบิดเบือนข้อเท็จจริงที่เห็นตรวหน้า
ในที่สุดฮั่วเซิ่งเจ๋อก็มาหากวนซู่อีด้วยตนเอง ทำให้กวนซู่อีรู้ว่าฮูน่าเอ่อร์ก็คือฮั่วเซิ่งเจ๋อ
เมื่อฮั่วเซิ่งเจ๋อบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด นางก็โกรธที่ฮั่วเซิ่งเจ๋อโง่
โดนเย่เจินหลอกมานานขนาดนี้ นางแค้นเย่เจินที่สุด
ที่ทำให้ต้องเจอกับเรื่องราวทั้งหมด ฮั่วเซิ่งเจ๋อสารภาพรักกับกวนซู่อี
กวนซู่อีก็รับรู้ได้ ทุกเรื่องพึ่งพาอำนาจของฮั่วเซิ่งเจ๋อ
และจะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา ฮั่วเซิ่งเจ๋อก็รับได้ที่อย่าง
ฮั่วเซิ่งเจ๋อส่งเย่เจินออกมาเพื่อให้กวนซู่อีหย่ากับจ้าวลู่หลี
จ้าวลู่หลีที่ขี้ขลาดก็เดินตามหมาก กว่าจะคิดได้ก็สายเกินไป
เมื่อรู้ความจริงสิ่งสำคัญก็หลุดลอยไป เย่เจินเป็นคนที่เห็นแก่ตัวกลับมาก็ทำให้ตระกูลจ้าวกลับไปเป็นเหมือนก่อนหน้าที่กวนซู่อีจะแต่งเข้ามา
แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะกวนซู่อีก็พร้อมจะจากไปกับพามู่มู่ไปด้วย
กวนซู่อีใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรี
ไม่ได้ทำตามแบบแผนหญิงในตอนนั้น ทำตามอำเภอใจ เพราะมีคนหนุนหลัง และยังคอยขัดขวางการกระทำของสวีก่วงจื้อที่อยากจะเข้าราชสำนัก
เพราะชาตินี้ฮั่วเซิ่งเจ๋อรู้จักกับกวนซู่อี
และรักนางทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
จิตใจของกวนซู่อีที่แม้แต่คนในครอบครัวก็ยังไม่รู้แต่ฮั่วเซิ่งเจ๋อกลับรับรู้
และรับได้ กวนซู่อีเริ่มเปิดใจกับฮั่วเซิ่งเจ๋อขึ้นเรื่อยๆ
หลังอ่านเล่มสอง:
กวนซู่อีที่ยึดมั่นในคุณธรรม
มีหลักการดำเนินชีวิตยัง ดำเนินชีวิตไปอย่างดี
แต่เหตุการณ์ต่างๆก็เกิดขึ้นกับตระกูลจ้าวจนทำให้นางไม่สามารถอยู่ได้อีก
ฮั่วเซิ่งเจ๋อเมื่อรู้ตัวว่ารักแล้วก็ทำทุกอย่างเพื่อฮูหยิน เห็นฮูหยินสำคัญที่สุด
ตอนนี้ก็ยังพยายามให้นางแต่งเข้าวังมาเป็นฮองเฮาของตน จะสำเร็จหรือไม่มาดูกันในเล่มจบ
เล่ม3:
กวนซู่อีเขียนหนังสือโต้ตอบ หักล้างแนวคิด
รวมอรรถาธิบายของสวีก่วงจื้อที่อยากจะเป็นอาจารย์ของคนใต้หล้า ทำให้นักปราชญ์
ผู้มีความรู้ทั่วไปมารวมตัวกันเขียนบทความที่ดีที่สุด
สุดท้ายสวีก่วงจื้อก็พ่ายแพ้ไปอีกครั้ง
กวนซู่อีเป็นคนเริ่มเรื่องแต่ทั้งหมดเพื่อให้รวบรวมแนวคิดที่ดีที่สุดของอาจารย์ทั่วแคว้นมาเพื่อรวบรวมเป็นหนังสือแก่ชนรุ่นหลัง
เรื่องนี้จึงได้รับการตอบรับอย่างมากมาย
เรื่องราวที่ตระกูลกวนจะบังคับให้รับทายาทก็แก้ไขได้ด้วยการที่
กวนเหวินไห่มีใจอิจฉาริษยาจนเกิดความคิดจะลักพาตัวมู่มู่กับกวนซู่อีแต่เรื่องนี้เป็นการหลอกใช้ของผู้มีอำนาจเบื้องหลังที่ต้องการกำจัดกวนซู่อี
ให้กวนเหวินไห่มาเป็นแพะรับบาป
มู่มู่และกวนซุ่อีถูกลักพาตัวไป
กวนซู่อีใช้ความสามารถของตัวเองหนีรอดจากสถานการณ์เลวร้ายได้
ในที่สุดก็รู้ว่าตัวเองอยู่เฉยๆไม่ทำร้ายใคร ผู้อื่นก็มาทำร้ายอยู่ดี
ฮั่วเซิ่งเจ๋อเป็นคนนำทัพออกมาตามหาด้วยตนเอง และได้ช่วยเหลือกวนซู่อี
และไปช่วยมู่มู่กลับมาได้ จากเรื่องราวนี้ในที่สุดกวนซู่อีก็ยอมรับปากแต่งงานกับฮั่วเซิ่งเจ๋อ
แต่ต้องจัดการผู้อยู่เบื้องหลังการลักพาตัวที่เป็นภัยคุกคามไปก่อน
ซึ่งจากการวิเคราะห์ก็ได้ข้อสรุปว่าเป็นเปี้ยนหมิ่นเอ๋อร์เผ่าจิ่วหลี
มีไทเฮาหนุนหลัง กวนซู่อีลงมือวางแผนด้วยตนเอง ระหว่างนี้ก็มี หนังสือข้อห้ามสตรีที่สวีหยาเหยียนเขียนขึ้น
เป็นหนังสือที่ทำให้กวนซู่อีต้องตายในชาติที่แล้วครั้งนี้ก็เพราะหนังสือนี้
นางจึงต้องตัดหนทางที่จะทำให้สวีหยาเหยียนมีโอกาสโด่งดัง
และสวีก่วงจื้อก็จะกลับมามีโอกาสอีกครั้ง
กวนซู่อีเพียงเขียนหนังสือที่ไม่ได้หักล้างแนวคิดข้อห้ามสตรี แต่กล่าวถึงแผ่นดินหลังจากศึกสงคราวหญิงหม้ายเด็กกำพร้ามากมาย
ถ้าไม่ให้แต่งงานใหม่แล้วจะเพิ่มราษฎรได้อย่างไร
ไร้ผู้สืบสกุลเป็นการทำลายรากฐานของแคว้น เรื่องพวกนี้สามารถหักล้าง
ข้อห้ามสตรีได้ และเพราะมีฮั่วเซิ่งเจ๋อ
มำนาจหนุนหลังชาตินี้จึงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ในที่สุดตระกูลสวีก็ต้องขายบ้านกลับบ้านเดิมไม่อาจสู้หน้าอยู่ในเมืองหลวงได้อีก
เรื่องราวต่างๆเปลี่ยนแปลงจากชาติที่แล้ว
ผู้ที่ได้เป็นจ้วนหงวน ปั๋งเหยี่ยน ทั่นฮวา
ในงานเลี้ยงรับรองในที่สุดกวนซู่อีก็สามารถจัดการกับเปี้ยนหมิ่นเอ๋อร์
รวมทั้งตระกูลมีอำนาจของเผ่าจิ่วหลีได้ในคราวเดียว
ขุนนางชาวฮั่นต่างคิดตรงกันว่าผู้ที่เหมาะสมเป็นฮองเฮามีเพียงกวนซู่อี ฮั่วเซิ่งเจ๋อเตรียมจัดงานภายในหนึ่งเดือน
และยังได้ไปจับห่านป่าคู่มาเป็นของหมั้นหมายมาด้วยตนเอง
คนตระกูลกวนที่เห็นเช่นนี้ก็วางใจได้
พอกวนซู่อีเข้าวังก็จัดการภายในหกตำหนักอย่างเรียบร้อย
ออกกฎวังหลังขึ้นมาที่เขียนอ้างอิงประวัติศาสตร์ จึงไม่มีใครกล้าคัดค้าน
เมื่อตั้งครรภ์ก็ยังเกิดคลื่นใต้น้ำที่ผู้คนต่างกดดันว่าทารกในครรภ์เป็นชาย
แต่กวนซู่อีก็ไม่คิดมากตั้งใจดูแลครรภ์อยากดีจนถึงตอนคลอด
และทุกคนก็ได้รู้ความโปรดปรานของฮ่องเต้ที่มีต่อองค์หญิงน้อย
และต่อมาก็คลอดองค์ชายเป็นครอบครัวอบอุ่น
องค์หญิงเหมือนฮั่วเซิ่งเจ๋อเก่งกล้าสามารถ
ส่วนองค์ชายกลับคล้ายมารดาพูดได้ตั้งแต่อายุไม่ถึงหนึ่งขวบ
ตอนพิเศษ
ที่กล่าวถึงช่วงเวลาชาติก่อนที่กวนซู่อีจะตาย
กลายเป็นจ้าวลู่หลีที่กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งจากอีกชาติ
ครั้งนี้จ้าวลู่หลีคิดจะทำดีต่อฮูหยิน แต่ทุกอย่างช้าเกินไปเสมอ
เมื่อฮั่วเซิ่งเจ๋อได้เจอกวนซู่อีในวังก็สามารถกำจัดจิตมารไปได้ และสิ่งทำต่างๆเพื่อให้ได้ฮูหยินมาครอง
ซึ่งในที่สุดเรื่องราวก็ดำเนินมาเหมือนกับชาติก่อน แต่ชาตินี้กวนซู่อีเป็นคนตรงไปตรงมาและไม่มีตระกูลหนุนหลังทำให้ไม่ได้ทำตัวสบาย
อิสระ เหมือนชาติที่แล้ว คนดีมักถูกรังแก แต่สุดท้ายเมื่อได้ทุ่มเทให้ฮั่วเซิ่งเจ๋อก็ทำให้เผยบุคลิก
นิสัยที่เป็นตัวตนของตัวเองออกมา และสามารถอยู่ในวังหลังได้
ทุกอย่างล้วนเหมือนเดิมเมื่อพบเจอคนที่เป็นบุพเพยังไงก็เป็นไปตามที่ขีดเส้นไว้ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว
เหตุการณ์ที่ควรเกิดก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี
เมื่อพบคนที่ถูกต้องเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง
หลังอ่านเล่มสาม :
กวนซู่อีแสดงความสามารถมากมายเพราะรู้ว่ามีคนหนุนหลังตนอยู่
และทุกอย่างเพราะมีคนที่เชื่อใจ ไว้ใจ จึงทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ
และก็สามารถใช้ความสามารถของตนได้อย่างเต็มที่โดยไม่โดนกดข่ม ทำดีไม่ได้ดี
คนดีมักถูกรังแก นางจึงทำตามใจอย่างแท้จริงและไม่ขัดต่อหลักคำสอนที่ทุกคนยึดถือเพราะสุดท้ายรู้ว่ามีคนหนุนหลัง
มีอำนาจหนุนหลังสามารถชนะทุกสิ่ง
หลังอ่าน
กวนซู่อี ชาติก่อนทำดียึดถือคุณธรรม จริยธรรม
ประพฤติดี แต่กลับถูก บ้านตระกูลจ้าวกดข่ม ดูถูก หลอกใช้ต่างๆนานา
พอตายไปได้รู้เรื่องจริงที่เกิดขึ้นขอสาบานว่าเกิดชาติใหม่ขอไม่พบเจอกับคนตระกูลนี้อีก
จ้าวลู่หลี อ่อนแอ ขี้ขลาด คิดช้าไม่เคยทันใคร
หลงงมงายกับ ภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วยังไง กว่าจะเข้าใจทุกอย่าง
อยากจะเริ่มต้นใหม่ก็สายไปแล้ว ทุกครั้งไป
ฮั่วเซิ่งเจ๋อ ,ฮูน่าเอ่อร์ ฮ่องเต้เซิ่งหยวนเป็นคนเผ่าจิ่วหลี
ตอนเด็กถูกเลี้ยงดูโดยฝูงหมาป่า มีจิตใจของสัตว์ป่าอยู่ส่วนหนึ่ง
ไม่เข้าใจวัฒนธรรมจงหยวน รักการเรียนรู้ ขยันหมั่นเพียร
กวนซู่อีที่ชาติก่อนทำความดี กระทำตามหลักคำสอน
ปฏิบัติต่อบ้านสามีอย่างดี กลับได้รับแต่การหลอกใช้ ตายไปอย่างไม่เป็นธรรม
ชาตินี้เกิดใหม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ก็จะต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายเหมือนชาติก่อนอีกแล้ว ชาตินี้ท่านปู่
ท่านพ่อจะต้องไม่เป็นเหมือนชาติก่อน ซึ่งนางก็ทำได้สำเร็จ
ฮั่วเซิ่งเจ๋อที่ตอนแรกคิดจะแต่งตั้งกวนซู่อีเป็นเจาอี๋
แต่เพราะแผนการของเย่เจิน จึงมอบสมรสพระราชทานให้จ้าวลู่หลีแทน ตอนหลังพอรู้ว่าฮูหยินเป็นคนยังไงก็พัวพันคิดแต่ว่ากวนซู่อีคือฮูหยินของตน
เป็นฮ่องเต้ที่หน้าหนามากทีเดียว ทำทุกอย่างเพื่อฮูหยิน ทุกการกระทำจะคิดในมุมของฮูหยิน
แต่ฮั่วเซิ่งเจ๋อยังมีปมในใจเรื่องเกี่ยวกับชาติกำเนิดก็ได้กวนซู่อีเป็นคนคลี่คลายยิ่งทำให้รัก
ชื่นชมบูชาฮูหยินและในที่สุดก็เปิดเผยตัวเพื่อจะได้จีบได้ถนัดๆ
ส่วนกวนซู่อีจากตอนแรกที่ไม่มีใจแต่พอรู้ว่าฮั่วเซิ่งเจ๋อรักจริง
ก็ดีใจที่มีคนชอบจริงๆไม่เหมือนชาติก่อนที่ทำดีแทบตายก็ไม่ได้อะไรตอบแทน
ชาตินี้นางจึงทำตัวตามสบาย ใช้ความรู้
ความสามารถขัดขวางเส้นทางขุนนางของสวีก่วงจื้อที่เป็นต้นเหตุเริ่มต้นทำลายตระกูลกวนในชาติก่อน
เพราะก่อนตายในชาติก่อนนางได้อ่านหนังสือมากมาย สามารถหักล้างบทความต่างๆของสวีก่วงจื้อ
และสวีหย่าเหยียนที่ชาติก่อนเป็นตัวทำลายชีวิตผู้คนมากมาย
ชาตินี้ทุกอย่างจึงไม่เหมือนเดิม เพราะมีฮั่วเซิ่งเจ๋อหนุนหลัง มีอำนาจหนุนหลัง นางจึงทำอะไรได้ตามใจต้องการ
ทั้งๆที่โดนคนเล่นงานหลายครั้งแต่ก็สามารถรอดมาได้ จากที่ไม่ต้องการตำแหน่ง อำนาจ
ก็เปลี่ยนเป็นในเมื่อมาร้ายก็ต้องร้ายตอบ จะอยู่นิ่งเฉยสบายๆก็มีคนมาก่อกวน
ทำให้ต้องใช้อำนาจหนุนหลังและจัดการคนคิดร้ายทั้งหมดไป
โดยทุกเรื่องราวจะมีฮั่วเซิ่งเจ๋อคอยช่วยเหลือ คอยหนุนหลังอยู่ข้างๆ
ตอนพิเศษ ยังแสดงให้เห็นว่าถึงแม้ว่ากวนซู่อีจะไม่ได้ตายไปเป็นคนที่ไร้อำนาจ
แต่เมื่อได้เจอกับฮั่วเซิ่งเจ๋อ ทำให้กำจัดจิตมารไปได้ สิ่งต่างๆก็ยังคงเหมือนเดิม
จ้าวลู่หลีที่เป็นคนย้อนกลับมาเกิดถึงแม้อยากจะทำดีกับฮูหยินชดเชย
แต่ก็สายไปแล้วเสมอ ถึงแม้จะมีโอกาสกลับมาแก้ไขเรื่องราว มาเริ่มต้นใหม่
กับคนที่ไม่ใช่ ก็ไม่สามารถเป็นไปได้ แต่กับคนที่ใช่แล้วไม่ว่ายังไงก็ยังเจอกัน
พบกัน รักกัน และแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไปด้วยกัน สร้างแคว้นเว่ยให้รุ่งเรืองจากการเกือบกลายเป็นกลียุคได้อีกครั้ง
การกระทำของคนเราสามารถสะท้อนให้เห็นผลที่ตามมาได้
ถ้าตั้งใจช่วยเหลือผู้อื่นสุดท้ายก็ย่อมต้องมีคนเห็นความสามารถ
เหมือนกวนซู่อีที่กระทำตามใจ ใช้ชีวิตตามต้องการ
เมื่อมีคนเอาหลักคำสอนมาอ้างก็สามารถหักล้างได้ด้วยความจริง
และหลักการต่างๆตามข้อเท็จจริง เพราะคำสอนของปราชญ์แต่ละคนก็มีข้อดีของตนเอง
ทั้งขงจื้อ เมธีร้อยสำนัก ถ้าเอามาปรับใช้ตามสถานการณ์ได้ถูกต้อง
ทุกเรื่องราวก็จะมีทางแก้ไข