Friday, November 6, 2020

Out of Tune #3เล่มจบ #นิยายวาย #นิยายวายแปลจีนแนวปัจจุบัน #BL #Y

 Review 36/2563

เรื่อง : Out of Tune (3 เล่มจบ) #นิยายวาย #นิยายวายแปลจีนแนวปัจจุบัน #BL #Y

ผู้แต่ง : Wu Zhe (อูเจ๋อ)

ผู้แปล : หมีสามเกลอ

ภาพปก : yku

สำนักพิมพ์ : เฮอร์มิท

พิมพ์ครั้งที่ 1 : สิงหาคม 2562

โปรยปกหลัง :

อยากก้าวหน้าก็ต้องฆ่าคนวางเพลิง ถ้าไม่อยาก...ก็แค่ขโมยไก่ขโมยหมา"

นี่คือช่วงชีวิตยี่สิบปีที่ผ่านมาของ เซี่ยงซี

ชีวิตของเขา...เหมือนกับว่าภายในกระดูกเต็มไปด้วยน้ำเน่าขัง

หากต้องการจะเป็นอิสระหรือหลุดพ้น ก็ต้องตอบแทนสิ่งนั้นด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส ความฝันพังทลายลงนับครั้งไม่ถ้วน

ต้องละทิ้งความหวังไปไม่รู้กี่ครั้ง

 

เซี่ยงซีดิ้นรนต่อสู้ชีวิตที่อยู่ในความมืดมนนี้เป็นครั้งสุดท้าย

ทว่าทุกย่างก้าวล้วนมีแต่รอยแผลจากอดีตตามติดราวกับเงา สลัดอย่างไรก็ไม่หลุด...

จนกระทั่งได้พบกับเฉิงโป๋เยี่ยน ผู้เป็นดั่งแสงสว่างสาดส่องเส้นทางชีวิตที่มืดมน

แม้อาจจะไม่สว่างมากนัก แต่ก็เพียงพอที่จะโอบอุ้มและให้ความอบอุ่น



เล่ม 1 :

เฉิงโป๋เยี่ยนเป็นหมอกระดูกประจำโรงพยาบาล ที่บ้านมีพ่อที่เป็นหมอ แม่เป็นนักโภชนาการ กินทุกอย่างถูกหลักอนามัย และที่สำคัญเป็นโรคชอบล้างมือ รักความสะอาดขั้นสุด

เซี่ยงซี เป็นเด็ดที่ถูกเก็บมาเลี้ยงโดยลุงผิง ใช้ชีวิตเป็นนักเลง อันธพาล เป็นพวกมิจฉาชีพ ชีวิตของทั้งสองไม่น่าจะมาบรรจบกันได้ แต่เพราะหม่านโถวเพื่อนที่อยู่ด้วยกันคิดจะขโมยเงินของเอ้อผานที่เก็บไว้สามหมื่นหยวน ทำให้เซี่ยงซีต้องหารายได้โดยการไปขโมยกระเป๋าเงินของเฉิงโป๋เยี่ยนได้เงินสี่พันหยวน บัตรประชาชนส่งคืนทางไปรษณีย์ นั่นคือครั้งแรกที่ทั้งสองพบกัน

เซี่ยงซีถูกเอ้อผานทำร้ายเหยียบขาหัก ไปหาหมอที่โรงพยาบาลก็ได้เจอกับเฉิงโป๋เยี่ยนใช้ชื่อที่ลุงผิงตั้งเป็นชื่อเล่นว่า จ่านหงถูไปรักษา ตัวเองไม่มีบัตรประชาชน มีแต่บัตรปลอมในชื่อจ่านหงถู ตอนนั้นก็ยังโกหกว่าพ่อป่วย เป็นเนื้องอก นอนโรงพยาบาลไม่ได้ แต่ต่อมาเฉิงโป๋เยี่ยนยังเจอเซี่ยงซีที่มาหารายได้โดยการแกล้งโดนรถชนแล้วบาดเจ็บ จนมาเจอกับตัวเองเพราะเซี่ยงซีวิ่งหนีคู่อริแล้วเข้ามาในรถ พอเห็นเป็นหมอที่เคยรักษาก็นึกว่าจะใจดี ที่ไหนได้เฉิงโป๋เยี่ยนรู้ว่าเซี่ยงซีเป็นมิจฉาชีพก็ไม่ไว้ใจไล่ลงจากรถ คนธรรมดาที่ไหนก็ต้องทำแบบนี้กันทั้งนั้น แต่สุดท้ายก็ยังได้ช่วยเซี่ยงซีเอาไว้ รถตัวเองก็โดนตีจนกระจกแตก เซี่ยงซีบอกว่าจะรับผิดชอบค่าซ่อม เฉิงโป๋เยี่ยนก็ไม่เกรงใจ ไม่ซ่อมกับร้านที่รู้จัก แต่พอรู้ว่าค่าใช้จ่ายมากถึงแม้จะบ่นแต่ก็ยอมจ่าย

เซี่ยงซีคิดอยากหนีออกจากชีวิตแบบนี้ เพราะหม่านโถวก็หนีไปแล้ว ตัวเองคงอยู่ได้อีกไม่นาน เมื่อวางแผนหนี แต่ล้มเหลว ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายคือโดนซ้อมปางตาย แต่จะตายไม่ได้ ก่อนที่ลุงผิงจะไปเซี่ยงซียังเอาจี้หยกที่เป็นของติดตัวเพียงอย่างเดียวของตัวเองมาจากลุงผิงได้ด้วย และด้วยความเด็ดเดี่ยวทำให้เซี่ยงซีสามารถไปขอความช่วยเหลือจากเฉิงโป๋เยี่ยนได้ เฉิงโป๋เยี่ยนรับเป็นคนไข้และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่าง

เซี่ยงซีต้องใช้เวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลนานถึงสามเดือน เซี่ยงซีเรียกเฉิงโป๋เยี่ยนว่าพี่ตลอด นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เฉิงโป๋เยี่ยนช่วยเซี่ยงซีเอาไว้ และเริ่มรู้ว่าคุณหมอเฉิงเป็นคนที่ชอบล้างมือมาก รักสะอาดสุดๆ เป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตนี้ เซี่ยงซีบอกความจริงว่าตัวเองเป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง ไม่มีเพื่อน สิ่งเดียวที่เป็นของตัวเองคือหยกชิ้นนั้น ขอให้ช่วยเก็บรักษาให้ด้วย ตอนแรกเฉิงโป๋เยี่ยนจะไม่ยอม แต่เซี่ยงซีขอร้องและบอกว่าจะหาเงินมาคืนให้ทั้งหมด แต่ช่วยเก็บหยกเอาไว้ให้ด้วย เพราะมีแค่เฉิงโป๋เยี่ยนคนเดียวที่ตัวเองไว้ใจ

พอออกจากโรงพยาบาลได้ เซี่ยงซีไม่มีที่ไป แต่ก็ไม่กล้าบอกเฉิงโป๋เยี่ยน ได้แต่ไปนอนในตู้เอทีเอ็มกับพวกจรจัด ไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม อยากเริ่มต้นใหม่ ยังดีที่เจอเพื่อนเก่าถานเสี่ยวคัง เลยมีที่อยู่ และได้ทำงานร้านอาหารทำงานจิปาถะ ใช้แรงงาน แล้วก็ได้เจอเฉิงโป๋เยี่ยนมากินอาหารที่นี่

เซี่ยงซียังพบเจอเรื่องราวอีก ไม่คิดว่าถานเสี่ยวคังจะเป็นพวกชอบผู้ชาย ถูกลวนลาม ตัวเองไม่ยอมก็เลยถูกขัง ยังดีที่สามารถโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากเฉิงโป๋เยี่ยนได้ ตอนที่เฉิงโป๋เยี่ยนมาถึงก็ได้ยินเสียงที่เซี่ยงซีด่าถานเสี่ยวคังว่าโรคจิต ตอนนั้นเซี่ยงซียังไม่รู้รสนิยมทางเพศของเฉิงโป๋เยี่ยน

เฉิงโป๋เยี่ยนพาเซี่ยงซีมาอยู่ที่บ้าน เซี่ยงซีเพิ่งเคยอยู่ที่บ้านที่สะอาดและมีระเบียนขนาดนี้เป็นครั้งแรก เฉิงโป๋เยี่ยนรักสะอาด ทุกอย่างต้องสะอาดเป็นระเบียบ เซี่ยงซีก็สามารถอยู่ได้ เฉิงโป๋เยี่ยนรู้สึกว่าตัวเองทำอาหารได้รสชาติแย่ที่สุด เซี่ยงซีก็กินได้ แค่จืดไปหน่อยเท่านั้น เซี่ยงซีอยู่ง่ายมาก ทั้งยังได้เจอกับหัวหน้าสวี แม่ของเฉิงโป๋เยี่ยนอีกด้วย เซี่ยงซีชอบหัวหน้าสวีมากเพราะดูในโทรทัศน์แล้วชื่นชมความเป็นกูรูเรื่องอาหาร ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเป็นแม่ของเฉิงโป๋เยี่ยน จนได้เจอตัวเป็นๆนี่แหละ

เซี่ยงซีพยายามหางานทำ ขนาดงานเฝ้าร้านผลไม้กะดึกยังไม่ได้รับการติดต่อ เซี่ยงซีมีความหวังอยู่เสมอ เฉิงโป๋เยี่ยนก็ให้กำลังใจ แล้วเซี่ยวซีก็ยังเป็นปอดอักเสบ เฉิงโป๋เยี่ยนก็ดูแลเซี่ยงซี เซี่ยงซีก็ยังหางานระหว่างไปฉีดยา รักษาที่โรงพยาบาล ตอนที่ไปเดินหางานตามป้ายประกาศก็ทำให้ได้เจอกับฟางหยินช่างภาพที่เคยมาถ่ายรูปและโดนขโมยกล้องถ่ายรูปไป และได้ตกลงถ่ายภาพสามสิบวันกับฟานหยิน เซี่ยงซีโทรสมัครงานได้สองที่คืองานร้านอาหารกับงานขายของเล่น

งานขายของเล่นดันเป็นธุรกิจมืดเกือบเอาตัวไม่รอดเพราะฟางหยินตามถ่ายรูปอยู่ เซี่ยงซีไปได้งานที่ร้านข้าวอบหม้อดิน เถ้าแก่ เถ้าแก่เนี้ยใจดีมากให้พักที่ห้องใต้หลังคา แต่เซี่ยงซีก็ไม่บอกความจริงกับเฉิงโป๋เยี่ยน ว่าพักที่ไหน เซี่ยงซีทำงานอย่างมีความสุข จนลูกน้องของลุงผิงมากินข้าวแล้วน่าจะจำเซี่ยงซีได้ เซี่ยงซีก็เริ่มวิตก ย้ายที่อยู่ไปเช่าห้องพักแถวมหาวิทยาลัยตามที่เฉิงโป๋เยี่ยนเคยบอก และก็มีคนมาถล่มร้านดีที่หลบออกมาได้ก่อน งานก็เสียไป แต่ก็ยังไม่บอกความจริงกับเฉิงโป๋เยี่ยน

เฉิงโป๋เยี่ยนช่วยเซี่ยงซีมากินข้าวกับเพื่อนๆ ที่จริงเป็นวันเกิดตัวเอง เซี่ยงซีรู้สึกว่าตัวเองไม่เข้ากับคนอื่น รู้สึกมีปมด้อย เฉิงโป๋เยี่ยนขนาดรักสะอาดขนาดนั้นยังเข้าไปในห้องน้ำคุยจนรู้ว่าเซี่ยงซีไม่มีงานแล้ว แต่ไม่กล้าบอกเพราะกลัวว่าเฉิงโป๋เยี่ยนจะจากไป ไม่อยากเสียเฉิงโป๋เยี่ยนไป เฉิงโป๋เยี่ยนเลยให้เซี่ยงซีทำงานกับซ่งอีที่เปิดซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่ เซี่ยงซีที่สงสัยความสัมพันธ์ระหว่างซ่งอีและหลินเฮ่อก็ได้รู้ว่าทั้งสองคบกัน แต่ก็ไม่มีใครรังเกียจ ไม่เหมือนถานเสี่ยวคัง และเซี่ยงซีก็ไม่รู้สึกรังเกียจเมื่อรู้รสนิยมของเฉิงโป๋เยี่ยนอีกด้วย

เซี่ยงซีดีใจมากที่ได้ทำงานที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เฉิงโป๋เยี่ยนก็ตามมาดู และนัดเลี้ยงข้าวตอบแทนหลินเฮ่อและซ่งอี

หลังอ่านเล่ม 1 :

เซี่ยงซีอยากเปลี่ยนตัวเอง การเปลี่ยนตัวเองต้องแลกด้วยความเจ็บปวด ดีที่ได้เฉิงโป๋เยี่ยนคอยช่วยเหลือ เซี่ยงซีก็สงสัยว่าทำไมเฉิงโป๋เยี่ยนถึงช่วยตัวเอง เฉิงโป๋เยี่ยนบอกว่าเพราะตัวเองเคยมีน้องชายแต่ตายไปแล้ว เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปเซี่ยงซีพิสูจน์ตัวเองได้ว่า ตัวเองก็มีค่าพอ มีศักดิ์ศรีพอ และอยากยืนยัดด้วยตัวเอง คนที่แตกต่างสองคนมาเจอกัน รู้จักกัน และเข้าใจกัน

เฉิงโป๋เยี่ยนเป็นแสงสว่างของเซี่ยงซี เป็นคนดีที่สุดที่ตัวเองเคยรู้จักจะทำให้ผิดหวังไม่ได้ เรื่องราว ความสัมพันธ์ดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่มาถึงก็รักกันอย่างไม่มีเหตุผล ต้องค่อยๆอ่านทำความเข้าใจตัวละคร ที่ลักษณะนิสัย ความเป็นอยู่ต่างกันสุดขั้ว จะมาอยู่ด้วยกัน รักกันได้ยังไง ติดตามชีวิตของเซี่ยงซีได้ในเล่มสองต่อเลยค่ะ ตอนนี้ชีวิตกำลังดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว


เล่ม 2 :

เฉิงโป๋เยี่ยนมารับเซี่ยงซี ระหว่างทางยังเจอประสบการณ์มิจฉาชีพเองต่อหน้า ดีที่เฉิงโป๋เยี่ยนใจแข็งไม่งั้นก็เสียทรัพย์แน่นอน เฉิงโป๋เยี่ยนให้เซี่ยงซีกลับมากินข้าวที่บ้าน แต่กลายเป็นให้เซี่ยงซีทำข้าวอบหม้อดินให้กิน คราวที่แล้วทอดไข่ยังกินไม่ได้เลย คราวนี้เคยมองเถ้าแก่ทำน่าจะทำได้ แต่ผงชูรสก็ไม่ใส่ เกลือใส่ได้นิดเดียวแล้วจะอร่อยไหมเนี่ย ฮ่าๆๆ สรุปทำออกมาได้แบบใบหนึ่งหม้อไหม้ อีกใบหม้อแตก แต่ก็กินได้ละนะ

เซี่ยงซีขอให้เฉิงโป๋เยี่ยนพาไปซื้อพจนานุกรม บอกว่าจะเอาไว้ฝึกอ่าน เฉิงโป๋เยี่ยนคิดว่ามีหนังสือเรียนลัดที่เหมาะกับเซี่ยงซีมากกว่า สุดท้ายวันหยุดเฉิงโป๋เยี่ยนพาเซี่ยงซีไปซื้อหนังซื้อเรียนสำหรับเด็ก มีภาพประกอบอ่านเข้าใจง่าย ฉันไปซูเปอร์มาร์เก็ตกับคุณแม่

เซี่ยงซีชอบมาก อ่านสนุก เรียนรู้ตัวอักษรเร็ว ฟางหยินยังมาหาเซี่ยงซีที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เซี่ยงซีไม่ให้ถ่ายชื่อร้าน ซ่งอีให้เซี่ยงซีกรอกเอกสารแต่ก็รู้ว่าเซี่ยงซีรู้จักตัวอักษรไม่มากเลยเป็นคนถามและให้เซี่ยงซีตอบ จนมาถึงคำถามสุดท้ายเรื่องเลขที่บัญชี เซี่ยงซีไม่มี ซ่งอีเลยบอกว่าจะให้เป็นเงินสด

ซ่งอีโทรศัพท์คุยกับเฉิงโป๋เยี่ยนเรื่องเซี่ยงซี บอกว่าจะมีปัญหาหรือไม่ แล้วยังมีนักข่าวตามถ่ายรูปอีก เฉิงโป๋เยี่ยนเอ๊ะใจ คิดว่าเป็นคนที่เซี่ยงซีเคยให้ดู และบอกว่าขอลาหยุดกับซ่งอีด้วยเรื่องจะผ่าตัดเล็กเอาหมุดที่ขาเซี่ยงซีออก

เฉิงโป๋เยี่ยนกลับไปค้นดูบล็อกของฟางหยินจนเจอและได้เห็นรูปของเซี่ยงซี คำพูดต่างๆ และคอมเมนต์ที่เห็นทำให้รู้ว่าฟางหยินไม่ได้บอกเรื่องที่เอารูปของเซี่ยงซีไปทำอะไร ถ้าเซี่ยงซีมาเห็นต้องเสียใจแน่นอน ที่มีคนมองตัวเองแบบนี้ เฉิงโป๋เยี่ยนคิดจะหาทางคุยกับฟางหยิน

เซี่ยงซีมาผ่าตัดเล็กที่โรงพยาบาล เฉิงโป๋เยี่ยนก็มาคอยดูแลเมื่อมีเวลา และได้เจอฟางหยินที่มาหาเซี่ยงซี สุดท้ายหลังจากตัดสินใจก็โทรหาเพื่อขอพูดคุย และได้บอกว่าไม่เห็นด้วยที่เอารูปเซี่ยงซีมาลงแบบนี้ ได้บอกเจ้าตัวให้รู้หรือไม่ เพราะรูปของฟางหยินมีแต่ความมืดมน และในความรู้สึกของเฉิงโป๋เยี่ยนคือถ่ายแต่น่าอนาถ ตอนนี้เซี่ยงซีก้าวพ้นออกมาแล้ว ฟางหยินกลับไปคิดดูและพอเซี่ยงซีออกจากโรงพยาบาลก็บอกให้เซี่ยงซีลองเข้าไปดูรูปที่บล็อกของตัวเอง

ตอนที่เซี่ยงซีพักฟื้นที่โรงพยาบาลได้ดูข่าวโรงงานเหล้าเถื่อนและเห็นหม่านโถวในข่าว เซี่ยงซีก็คิดว่าไหนว่าหนีไปแล้วทำไมถึงยังอยู่แถวนี้ ชีวิตยังไม่ดีขึ้น พอได้ออกจากโรงพยาบาลเซี่ยงซีก็ไปตามสถานที่ในข่าวและได้รู้ว่าคนที่ขาเป๋ถูกทุบตีตลอด ตอนนี้ไม่รู้ไปไหน เพราะได้ข่าวหม่านโถว เรื่องที่ฟางหยินให้ดูรูปจึงสนใจขึ้นมา และร้านเน็ตก็ต้องใช้บัตรประชาชน สุดท้ายเซี่ยงซีก็ไปที่บ้านเฉิงโป๋เยี่ยน หลังจากเห็นบล็อกและข้อความก็เศร้าเสียใจ เป็นเฉิงโป๋เยี่ยนที่ปลอบเซี่ยงซี และให้เซี่ยงซีถ่ายรูปที่อยากถ่าย สิ่งที่เซี่ยงซีกลัวที่สุดคือเมื่อเรื่องนี้จบลงเฉิงโป๋เยี่ยนจะทิ้งตัวเองหรือไม่ เป็นปมในใจที่คิดมาตลอดเพราะเฉิงโป๋เยี่ยนคือความอบอุ่น คือแสงสว่าง

เฉิงโป๋เยี่ยนอดใจไม่ไหวเข้าไปจูบปากเซี่ยงซี เซี่ยงซีตกใจจนหนีกลับไปเลย แต่ไม่ได้รังเกียจ แค่เพียงตกใจ

เฉิงโป๋เยี่ยนขับรถตามมาหาเซี่ยงซี สุดท้ายเซี่ยงซีก็รีบออกมาเพราะกลัวว่าเฉิงโป๋เยี่ยนจะกลับไป และเป็นเฉิงโป๋เยี่ยนที่บอกให้เซี่ยงซีถ่ายรูป อยากถ่ายอะไรก็ถ่าย เซี่ยงซีบอกถ้างั้นจะตั้งชื่อว่าผมเห็นแสงสว่าง

เฉิงโป๋เยี่ยนให้หลินเฮ่อเอากล้องฝากให้ซ่งอีเอามาให้เซี่ยงซี เฉิงโป๋เยี่ยนมาหาเซี่ยงซี เซี่ยงซีเล่าเรื่องกล้องและเรื่องเขียนชื่อที่ชุดให้ฟัง แถมยังเขียนกรอบเพื่อความแท้ไม่ได้รู้เลยว่าหมายถึงคนตาย เซี่ยงซีรีบเอาเสื้อเครื่องแบบให้เฉิงโป๋เยี่ยนดู เฉิงโป๋เยี่ยนก็บอกจะลบให้ ช่างเป็นคุณพ่อที่ใจดี ใส่ใจในทุกเรื่องจริงๆ ยกเว้นเรื่องรักสะอาดสุดๆกับห้ามพูดคำหยาบนี่ดีไปหมด ดูแลทุกสิ่งอย่าง

เซี่ยงซีไม่รู้ว่ากล้องที่เฉิงโป๋เยี่ยนยืมมาจากซ่งอีจะราคาแพง แถมเฉิงโป๋เยี่ยนยังใส่ใจเซี่ยงซีมากถึงขนาดวาดวิธีใช้เป็นรูปภาพให้อีกด้วย เซี่ยงซีชอบมาทำอาหารบ้านเฉิงโป๋เยี่ยนทั้งๆที่ตัวเองก็ทำอาหารไม่ค่อยเป็นแต่ก็ชอบทำ ครั้งนี้ก็มาทำบะหมี่ไข่มะเขือเทศพริกหวาน แต่เฉิงโป๋เยี่ยนก็จะกินหมดทุกครั้ง แล้วยังเอารูปที่เซี่ยงซีถ่ายใส่เก็บลงในคอมพิวเตอร์แยกหมวดหมู่วันที่ ประเภทให้

เซี่ยงซีอยากได้คอมพิวเตอร์ อยากซื้อมือสอง เฉิงโป๋เยี่ยนบอกว่าจะขายให้แปดร้อยหยวน เซี่ยงซีไม่เอา บอกว่าจะซื้อต่อจากนักศึกษาที่เรียนจบ พอได้มาตัวเองก็ต่อสายคอมไม่เป็นต้องเป็นธุระของเฉิงโป๋เยี่ยนอีก ก่อนหน้านี้เฉิงโป๋เยี่ยนสร้างบัญชีเวยป๋อให้เซี่ยงซี เซี่ยงซีถามว่าเฉิงโป๋เยี่ยนใช้ชื่อบัญชีอะไร พอรู้ว่ากระดูกใหญ่ก็มาค้นหาและอ่านข้อความทั้งหมด ตอนนี้ก็กำลังคุยกันเรื่องนี้ที่เขียนถึงขาสวยในนั้นที่หมายถึงขาของเซี่ยงซี ไปๆมาๆเซี่ยงซีก็โดนจูบอีกแล้ว

คราวนี้ไม่ได้ติดต่อกันหลายวัน เซี่ยงซีเข้าไปดูในเวยป๋อของเฉิงโป๋เยี่ยนจนมีข้อความใหม่เข้ามาของ พี่ชายเจ้าของขาเรียวยาว เท่านั้นแหละเซี่ยงซีหึงจนสติหลุดทุบคอมห้าร้อยหยวนของตัวเองพังทันทีเลย จะซ่อมก็ต้องแพงกว่าห้าร้อยหยวนแล้ว

ทีนี้ก็หงุดหงิด ไปทำงานก็หงุดหงิด แต่เฉิงโป๋เยี่ยนหลังจากไปห้องของเซี่ยงซีก็มาหักคอให้ซ่งอีหาที่อยู่ให้เซี่ยงซีที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เฝ้ากะดึกมีเงินเพิ่มทั้งยังมีที่พักอีกด้วย เซี่ยงซีเลยได้ย้ายออกพอดีเพราะสัญญาเช่าอีกสองวันก็ครบกำหนด

เซี่ยงซีมากินข้าวกับเพื่อนร่วมงานและความจำกล้องก็เต็มในที่สุดก็โทรหาเฉิงโป๋เยี่ยน พอไปถึงเพราะว่าเมาได้ที่เลยอาละวาดเรื่อง พี่ชายเจ้าของขาเรียวยาว ซะเลยเพราะเห็นชื่อในคอมอีกแล้ว บอกว่าให้เป็นตัวเองไม่ให้ยุ่งกับคนอื่น ทีนี้เลยได้จูบกันอีก แล้วยังเอาเจลล่อลื่นมาขู่อีกด้วย เซี่ยงซีไม่ได้กลัว เฉิงโป๋เยี่ยนแค่กลัวว่าเซี่ยงซีจะตกใจ สุดท้ายสองคนก็คืนดีกันได้

เซี่ยงซีอยากเรียนอบรมเพิ่มเติมเลยชวนเฉิงโป๋เยี่ยนไปดู เฉิงโป๋เยี่ยนเป็นที่ปรึกษาที่ดี แต่ทุกอย่างต้องมีค่าใช้จ่าย เซี่ยงซีเพิ่งเอาเงินฝากเข้าบัญชีของเฉิงโป๋เยี่ยนทำให้ต้องคิดดูก่อน ยังตามโจรขโมยของและก็รู้ว่าเป็นหม่านโถวด้วย

เฉิงโป๋เยี่ยนไปรู้เรื่องเกี่ยวกับการชงชา จากคุณลุง ตอนที่ไปกินข้าวที่บ้านย่า ก็คิดว่าน่าจะเหมาะกับเซี่ยงซี

เซี่ยงซีคิดจะทำช็อกโกแลต เฉิงโป๋เยี่ยนหาแม่พิมพ์มาให้ แล้วเพื่อนร่วมงานของเซี่ยงซียังเอาช็อกโกแลตรูปหัวใจให้อีก เซี่ยงซีไม่คิดอะไร แต่เฉิงโป๋เยี่ยนมองทีก็รู้ว่ามีคนคิดอะไรกับเซี่ยงซี เลยจัดการกินที่เค้าให้มาทั้งหมดเลย แถมยังให้เซี่ยงซีใช้แม่พิมพ์รูปหัวใจอีกด้วย

ระหว่างที่เซี่ยงซีทำขนม เฉิงโป๋เยี่ยนรออยู่ข้างนอก และที่ค้นหาในคอมพิวเตอร์คือเรื่องหม่านโถวทั้งชื่อจริง ชื่อตอนนี้ เซี่ยงซีกำลังซึ้งทำช็อกโกแลตไหม้เลย พอเสร็จเฉิงโป๋เยี่ยนก็ยังกินจนหมดทั้งๆที่มีกลิ่นไหม้นี่แหละ รูปหัวใจสื่อความหมาย เฉิงโป๋เยี่ยนพูดเรื่องไปซื้อใบชา ไม่คิดว่าเซี่ยงซีจะมีความรู้เรื่องชามากขนาดนี้ เซี่ยงซีบอกว่าเป็นลุงผิงที่ชอบกินชาเลยจำได้ว่าขั้นตอนการชงชาเป็นยังไง

เซี่ยงซีกับเฉิงโป๋เยี่ยนไปชิมชาในวันหยุด และเฉิงโป๋เยี่ยนก็บอกว่าให้เรียนกับผู้เฒ่าลู่ ซึ่งเซี่ยงซีก็ดูจะสนใจ พอบอกว่าไม่ต้องเสียเงินค่าเรียนยิ่งสนใจเข้าไปใหญ่ สามารถไปคนเดียวได้เลย

พอเฉิงโป๋เยี่ยนได้ที่อยู่มา เซี่ยงซีเลยไปหา และก็เป็นที่ถูกชะตากับผู้เฒ่าลู่ตกลงรับเป็นลูกศิษย์

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มพัฒนาไปอีกขั้น คราวนี้จูบกันก็ไม่เป็นไร เซี่ยงซีก็รู้สึกดีที่ได้จูบกัน ทั้งยังชอบอยู่ใกล้ๆเฉิงโป๋เยี่ยนให้เฉิงโป๋เยี่ยนสัมผัส เฉิงโป๋เยี่ยนก็ยกเว้นให้เซี่ยงซี จากตอนแรกที่มาอยู่บ้าน ที่นอนก็ห้ามนอน ตอนนี้เซี่ยงซีเผลอนอนก็ไม่โดนโยนออกไปแล้ว โรครักสะอาดไม่เป็นหนักกับเซี่ยงซี แต่เซี่ยงซีก็ปรับตัวเข้ากับเฉิงโป๋เยี่ยนได้มากว่าคนอื่นๆ

เฉิงโป๋เยี่ยนพาเซี่ยงซีไปกินข้าวกับพวกเพื่อนกลุ่มเดิม คราวนี้มีร้องคาราโอเกะ เซี่ยงซีร้องสารภาพกับเฉิงโป๋เยี่ยน เฉิงโป๋เยี่ยนก็ร้องเพลงให้เซี่ยงซี พอกลับไปวันนั้นสุดท้ายทั้งสองคนได้นอนเตียงเดียวกัน

เกิดเหตุไฟไหม้ที่จ้าวเจียเหยา ที่ที่เซี่ยงซีเคยอยู่ เซี่ยงซีอยากรู้ว่าใครเป็นยังไง คนที่จะถูกส่งไปโรงพยาบาลใช่หม่านโถวหรือไม่ สุดท้ายคือหม่านโถว แต่เรื่องราวมันมากกว่านั้นเพราะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เฉิงโป๋เยี่ยนกลัวว่าเซี่ยงซีจะเป็นอันตรายเลยให้ลาออกจากที่ซูเปอร์มาร์เก็ตตอนนี้ต้องอยู่กับบ้าน ไปไหนต้องมีเฉิงโป๋เยี่ยนไปด้วย ครั้งนี้เฉิงโป๋เยี่ยนขอสัมผัสเซี่ยงซีจะได้ไหม

หลังอ่านเล่ม 2 :

ความสัมพันธ์ของเซี่ยงซีและเฉิงโป๋เยี่ยนพัฒนาไปอีกขั้นแล้วจากเล่มหนึ่ง ครั้งนี้เซี่ยงซีรู้ใจตัวเองแล้วว่าตัวเองชอบเฉิงโป๋เยี่ยน ถึงขั้นรักเลย แล้วยังมีหม่านโถวที่คิดว่าหนีไปได้แล้วย้อนกลับมา เรื่องราวของเซี่ยงซีจะเป็นยังไงต่อไป เซี่ยงซีที่ออกมาในแสงสว่างกับเฉิงโป๋เยี่ยนยังต้องเจอบทพิสูจน์อะไรอีกในเล่มจบ

เรื่องราวดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ความสัมพันธ์พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เหตุการณ์สมเหตุ สมผล เซี่ยงซีเป็นคนมีศักดิ์ศรีและอยากก้าวเดินสู่แสงสว่างแต่เส้นทางนี้ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด ดีที่มีเฉิงโป๋เยี่ยนอยู่เคียงข้าง 


เล่ม 3 :

ทั้งสองข้ามไปอีกขั้น ในที่สุดก็ได้ใช้มือสัมผัสกันและกัน เซี่ยงซียังขี้อาย แต่ก็รับได้เพราะเป็นเฉิงโป๋เยี่ยน ไม่คิดว่าเฉิงโป๋เยี่ยนจะมีมุมแบบนี้ด้วยคือพอพูดเรื่องลามกนี่หน้าไม่เปลี่ยนสีเลยสักนิดเดียว ฮ่าๆๆ

ตอนนี้เซี่ยงซีไม่มีงานทำต้องอยู่บ้าน เฉิงโป๋เยี่ยนก็ต้องไปโรงพยาบาลทุกวัน แต่ก็คอยสังเกตตลอด จนเห็นคนสามคนใต้ตึกที่พัก เซี่ยงซีก็สังเกตเห็นเหมือนกัน ตอนแรกก็คิดว่าเป็นคนของลุงผิงแต่เซี่ยงซีก็ไม่เคยเห็นหน้า สงสัยว่าเป็นใคร กดดันจนมีคำพูดหลุดออกมาบางคำทำให้เฉิงโป๋เยี่ยนคิดถึงซ่งอีได้ แล้วก็เลยรู้ว่าเป็นคนที่ซ่งอีส่งมาเป็นบอดี้การ์ดคุ้มครองความปลอดภัย กันเอาไว้ก่อน

แม่ของเฉิงโป๋เยี่ยนมาหาพร้อมคุณย่าและอาสะใภ้ มาเยี่ยมโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า ทำเอาเซี่ยงซีตกใจ แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ก็ต้องเผชิญหน้ากับหัวหน้าสวีล่ะ แล้วเซี่ยงซีก็ดันทักอาสะใภ้เป็นคุณย่าอีกเพราะความที่หัวหน้าสวีดูดีมาก จากการประเมินของเซี่ยงซีลักษณะนี้ต้องเป็นคุณย่าแน่นอน แบบฮ่ามากล่ะ เรื่องราวก็ผ่านไปได้อย่างดี หัวหน้าสวีจำเซี่ยงซีได้จากตอนที่ออกโรงช่วยที่ร้านอาหาร เฉิงโป๋เยี่ยนก็เพิ่งรู้เรื่อง คุณย่าก็ชอบเซี่ยงซีเพราะหน้าตาดี ส่วนอาสะใภ้น่ะไม่ต้องไปสนใจ หัวหน้าสวีแม้จะไม่ชอบใจแต่ก็รับได้เพราะเหลือเฉิงโป๋เยี่ยนคนเดียวแล้ว

เซี่ยงซีมาห้องเรียนชาของผู้เฒ่าลู่ ครั้งนี้ได้เจอกับลูกศิษย์อีกคนคือหูไห่ ที่ตอนผู้เฒ่าลู่แสดงชงชาดีดพิณอยู่ด้านข้าง หูไห่ไม่ค่อยพูดมาก แต่เข้ากับเซี่ยงซีได้ดี ทำอาหารอร่อย และผู้เฒ่าลู่ก็บอกว่าที่ให้หูไห่ไปเรียนดีดพิณเพื่อให้ใจสงบ เพราะตัวเองทำน้องชายหายไป

ผู้เฒ่าลู่ให้ชามา เซี่ยงซีก็เอาไปชงให้เฉิงโป๋เยี่ยนลองชิม เฉิงโป๋เยี่ยนติดใจหูไห่มาก เซี่ยงซียังไม่รู้ว่าเฉิงโป๋เยี่ยนเริ่มหึงแล้วนะ

แล้วก็ถึงเวลาที่เฉิงโป๋เยี่ยนคิดจะจัดการเซี่ยงซีซะแล้ว พูดซะเซี่ยงซีอึ้งไปเลยแต่ตัวเองก็ยอมนะ พอเสร็จแล้วยังถามเรื่องก้นตลอด เป็นห่วงก้นมากจริงคุณพ่อ พอโดนเซี่ยงซีเรียกพ่อจะยอมทำทุกอย่างให้เลยทีเดียว เลี้ยงเซี่ยงซีด้วยความรัก ดูแลเหมือนลูกชาย อยากได้อะไรต้องได้ ฮ่าๆๆ

แล้วเฉิงโป๋เยี่ยนก็บอกรักเซี่ยงซี ก่อนหน้านี้ไม่กล้าพูดมากกว่านี้ตอนนี้พูดได้แล้ว เซี่ยงซีซึ้งจนร้องไห้เลยทีเดียว แล้วพอเซี่ยงซีบอกรักบ้างเฉิงป๋เยี่ยนถึงขนาดขับรถกระตุกทีเดียว คนมันตื่นเต้น วันนี้เซี่ยงซีเลยไปเฝ้าที่โรงพยาบาลเพราะไม่มีอะไรทำ

หัวหน้าสวีโทรมาให้ไปเอากุนเชียงที่คุณย่าฝากเอาไว้ให้ ระหว่างทางที่ไปหามีมอเตอร์ไซค์ขับปาดหน้า พอลงจากลงยังเป็นคนเดิมที่เคยปาดหน้าคราวนี้มาใช้ท่อนเหล็กฟาดเซี่ยงซี ต่อมาก็ชักมีดออกมาเป็นเฉิงโป๋เยี่ยนที่บาดเจ็บ เซี่ยงซีเห็นหน้าคนร้ายคือต้าเจี้ยนลูกน้องของเอ้อผาน โทรแจ้งตำรวจ เซี่ยงซีคิดอยู่ในใจตลอดว่าไม่เหมือนกัน เราไม่เหมือนกับพวกนี้ ดีที่ได้บอดี้การ์ดที่ซ่งอีส่งมาช่วยเอาไว้ เรื่องราวทั้งหมดหัวหน้าสวีเห็นเหตุการณ์ตลอด เรื่องนี้ต้องมีคำอธิบาย เพราะแค่เซี่ยงซีก็พอว่า แต่ยังมีเรื่องตามฆ่ากันกลางถนนหัวหน้าสวีรับไม่ได้แต่ก็มีสติพอ

เซี่ยงซีให้ความร่วมมือกับทางตำรวจ นายตำรวจจางเดินเรื่องให้เซี่ยงซีทำบัตรประชาชนได้แต่จะยุ่งยากหน่อย ยากแค่ไหนเซี่ยงซีก็ยินดีเพราะจะได้มีบัตรประชาชนจริงๆแล้ว และให้ตรวจสอบดีเอนเอทิ้งเอาไว้ เผื่อมีแจ้งคนหาย

เรื่องที่เซี่ยงซีบาดเจ็บอาจารย์ลู่รู้เรื่องและชวนมากินขาแพะฝีมือหูไห่ ทำให้เซี่ยงซีได้รู้เรื่องของหูไห่มากขึ้นกว่าครั้งที่แล้วที่เจอกันครั้งแรก

เฉิงโป๋เยี่ยนทำงานเหนื่อยแต่ก็ยังจะพาเซี่ยงซีออกไปกินข้าว เหนื่อยขนาดนี้พอได้ยินเรียกพี่ไห่ก็ออกอาการทำไมเซี่ยงซีไม่เรียกเค้าดีๆบ้าง เรียกแต่เฉิงโป๋เยี่ยนกับไม่เรียกอะไรเลย เค้าเรียกหึงนะเนี่ยหึง ฮ่าๆๆ ซีซีน้อยยังไม่รู้อีกว่าพ่อหึงแล้ว

สรุปว่าไปกินเคเอฟซีเพราะเซี่ยงซีไม่เคยกิน เฉิงโป๋เยี่ยนตามใจเซี่ยงซีมากเลย ขนาดอาหารทอด อาหารขยะแบบนี้ยังยอมให้กินอีก แล้วแม่ของเฉิงโป๋เยี่ยนก็บอกว่าให้แวะมาหาเพราะพ่ออยากเจอเซี่ยงซี เวลายังไม่เหมาะแต่พ่อจะไม่อยู่บ้านยังไงก็ต้องแวะไป เซี่ยงซีก็เตรียมของฝากไปให้ เอาชาจากอาจารย์ลู่ไปฝากพ่อ และซื้อผ้าพันคอไหมแท้ฝากหัวหน้าสวี

เซี่ยงซีเข้ากับคุณลุงเฉิงพ่อของเฉิงโป๋เยี่ยนได้ดี พูดคุยเรื่องชากัน หัวหน้าสวีก็ชอบผ้าพันคอที่เซี่ยงซีซื้อมาฝาก แล้วก็เอานาฬิกาข้อมือที่เข้ากับเซี่ยงซีฝากไปให้ เซี่ยงซีชอบมาก ถึงขนาดกล้าโทรไปขอบคุณหัวหน้าสวีด้วยตัวเอง ตอนอยู่ที่บ้านก็บอกว่าดูรายการหัวหน้าสวีตลอดเรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับเลยทีเดียว

นายตำรวจจางโทรมาบอกเซี่ยงซีว่าสามารถทำบัตรประชาชนได้ ให้ไปที่ทำการจ้าวเจียเหยาวันทำการ

เฉิงโป๋เยี่ยนกับเซี่ยงซีไปกินข้าวตามคำเชิญของอาจารย์ลู่ ทำให้เฉิงโป๋เยี่ยนมีโอกาสเห็นว่าหูไห่มีหยกชิ้นหนึ่งอยู่ที่คอ ลักษณะเป็นหยกเนื้อดีเหมือนของเซี่ยงซี และเคยได้ยินมาว่าหูไห่เสียน้องชายไปทำให้คิดว่าอาจเป็นไปได้ที่หูไห่เป็นพี่ชายของเซี่ยงซี ก็มาพูดกับเซี่ยงซีทำให้เซี่ยงซีมีความหวัง ทั้งๆที่ไม่น่าจะใช่เพราะหน้าตาก็ไม่เหมือนกัน แต่เซี่ยงซีก็จะลองดู มีความความก็ดีกว่าไม่มี

เซี่ยงซีมาที่จ้าวเจียเหยา มาพบนายตำรวจหลี่ ตอนนี้โรคกลัวตำรวจของเซี่ยงซีหายไปแล้ว เมื่อก่อนเจอตำรวจไม่ได้ทำอะไรผิดก็กลัวไว้ก่อน เซี่ยงซีต้องการเก็บตัวอย่างดีเอนเอเพื่อตรวจสอบกับข้อมูลคนหาย และก็ต้องให้กรรมการชุมชนรับรองว่าถูกเก็บมาเลี้ยงจริงๆ กรอกเอกสารต่างๆ จากนั้นก็จะมีบัตรประชาชนแล้ว

กลับบ้านมาเซี่ยงซีก็รอเฉิงโป๋เยี่ยนมากรอกเอกสารให้ เฉิงโป๋เยี่ยนกรอกเอกสารให้อย่างดีทีเดียว

เซี่ยงซีเอาเอกสารไปยื่นให้นายตำรวจหลี่ ที่นิติเวชก็ต้องรอผล เซี่ยงซีไปหาเฉิงโป๋เยี่ยนที่โรงหยาบาลเพื่อตรวจซ้ำ ไม่ได้แซงคิวด้วย แล้วเฉิงโป๋เยี่ยนก็เอาหยกของเซี่ยงซีไปร้อยสายห้อยคอ ถึงได้รู้ว่าหยกพกมีราคาหลักแสน แต่ยังไงเซี่ยงซีก็ต้องลองดูแม้จะมีความเป็นไปได้น้อยมากก็ตามที

แล้วเซี่ยงซีก็มีโอกาส และก็รู้ว่าไม่ใช่เพราะว่าน้องชายของหูไห่หายไปตอนอายุสามขวบ ไม่มีหยกและไม่มีขี้แมลงวันใต้ตาเหมือนเซี่ยงซี เซี่ยงซีคิดแล้วว่ายังไงก็คงไม่เจอง่ายขนาดนี้แต่ก็เศร้าอยู่ดี เรียกว่ายังไงก็ผิดหวัง หูไห่ก็อยากให้เซี่ยงซีเป็นน้องชายเหมือนกัน เซี่ยงซีเลยเรียกหูไห่ว่าพี่

อาจารย์ลู่ให้เซี่ยงซีไปนั่งที่โรงชากับอาจารย์ลู่ ที่หวินสุ่ยฝานซิน เพราะต้องมีประสบการณ์จริงหน่อย

เซี่ยงซีกลับไปบอกเฉิงโป๋เยี่ยนและในที่สุดก็รู้แล้วว่าเฉิงโป๋เยี่ยนหึงอยู่ กว่าจะรู้นะเนี่ย

เซี่ยงซีไปที่โรงชา ชงชาสไตล์ตัวเอง ครั้งแรกที่ขึ้นแสดงมีซ่งอีกับหลินเฮ่อมาให้กำลังเพราะเฉิงโป๋เยี่ยนเรียกให้มาดู และก็ผ่านไปด้วยดี

แล้วอาจารย์ลู่ยังไม่ว่างให้เซี่ยงซีแสดงตอนเย็นอีก เซี่ยงซีแสดงเสร็จ ก็มีข่าวจากนายตำรวจจางว่าจับลุงผิงได้แล้ว ในที่สุดเซี่ยงซีก็รู้สึกเป็นอิสระเสียที

แล้วนายตำรวจจางก็ถามให้แล้วว่าเซี่ยงซีถูกเก็บมาเลี้ยงจริงๆ เซี่ยงซีกับเฉิงโป๋เยี่ยนเลยจะได้ดูสถานที่ที่เก็บเซี่ยงซีในตอนนั้น เป็นชานเมือง เซี่ยงซีเตรียมน้ำเตรียมเสบียงเหมือนจะไปเที่ยว ส่วนเฉิงโป๋เยี่ยนแค่อย่างเดียวก็พอแล้วนั้นคือ แอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ ขาดไม่ได้เด็ดขาด

พอถามได้ความก็รู้ว่าตัวเองถูกเก็บมาจริงๆ และตอนนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่ดี และจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ เฉิงโป๋เยี่ยนชวนเซี่ยงซีไปเที่ยวฟาร์มออร์แกนิก มีทั้งตกปลาจับไก่ เป็นอะไรที่เฉิงโป๋เยี่ยนที่รักสะอาดสุดๆไม่เคยมาอย่างแน่นอน อาหารกลางวันที่สั่งเซี่ยงซียังเลือกตั๊กแตนทอดเพิ่มเข้าไปอีกด้วย นอกจากไก่และน้ำแกง

ตอนตกปลาฮาสุดๆ แต่พ่อก็พยายามจะใส่เบ็ดให้ลูกชายสุดที่รัก อ่านตอนนี้แล้วหัวเราะท้องคัดท้องแข็งจริงๆ จากนั้นยังต้องไปจับไก่อีก แล้วเซี่ยงซีจับไม่ได้ ไก่ดันวิ่งมาให้เฉิงโป๋เยี่ยนจับ พ่อจับเลย โอยจะตายให้ได้ สุดท้ายอาหารกลางวัน ตั๊กแตนทอด เซี่ยงซียังขอร้องให้เฉิงโป๋เยี่ยนกินอีก ตอนแรกอมไว้ไม่ยอมเคี้ยว สุดท้ายก็ยอม กร๊วบบบบ กรอบมาก ถ้าไม่รู้ก็ไม่คิดว่าเป็นตั๊กแตนหรอก กลับบ้านนี่อาบน้ำชั่วโมงครึ่ง ขัดนานมากๆๆๆๆ พ่อคุณคนรักสะอาด ฮ่าๆๆๆ

นายตำรวจหลี่โทรมาบอกว่าทำบัตรประชาชนได้แล้ว วันรุ่งขึ้นเซี่ยงซีไปทำบัตรประชาชนแบบด่วน เอาใบรับมาฝากเฉิงโป๋เยี่ยนเอาไว้ แล้วก็เอาออกมาดูทุกวันด้วยความเห่อสุดๆ

ผลตรวจเทียบก็ออกมาแล้ว แต่ไม่มีผลที่ตรงกัน เซี่ยงซีเศร้าแต่ก็ทำใจไว้ได้แล้ว คนที่เอาเด็กมาทิ้งจะมาแจ้งหายได้ยังไง เฉิงโป๋เยี่ยนบอกว่าเพราะนานเกินไปเหมือนกับที่นิติเวชที่พูดบอกเซี่ยงซี เซี่ยงซีก็ทำใจได้แล้ว

วันนี้เฉิงโป๋เยี่ยนลงทุนเดินตลาดเพื่อตามหาตั๊กแตนเอามาทอดให้เซี่ยงซี บอกว่าพอจะกลับมาให้โทรบอกจะเตรียมเซอร์ไพร์ไว้ เซี่ยงซีกลับจากชงชาก็ได้กลิ่นน้ำมันทอด และก็เห็นตั๊กแตนทอดที่เฉิงโป๋เยี่ยนทำให้ เซี่ยงซีซึ้งใจจนร้องไห้เลย แล้วก็บอกเรื่องที่หูไห่รู้ว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน เฉิงโป๋เยี่ยนตกใจกลัวว่าเซี่ยงซีจะมีปัญหาถูกมองแปลกๆ เฉิงโป๋เยี่ยนยังไงก็ได้ เซี่ยงซีก็ยังไงก็ได้เหมือนกัน

เฉิงโป๋เยี่ยนพาเซี่ยงซีไปหาหัวหน้าสวี แต่หัวหน้าสวีอยู่บ้านคุณย่า เซี่ยงซีเลยไปด้วย ครั้งนี้เฉิงโป๋เยี่ยนพูดเรื่องของเซี่ยงซีแล้ว เพราะปัญหาหมดไป เซี่ยงซีก็ยืนยันกับหัวหน้าสวีว่าจะไม่มีทางปล่อยเฉิงโป๋เยี่ยนไป เพราะเป็นคนที่มาเติมเต็มความรู้สึกทั้งชีวิตให้เซี่ยงซี

ฟางหยินขอร่วมงานกับเซี่ยงซีคราวนี้ใช้หัวข้อวิ่ง เฉิงโป๋เยี่ยนให้เซี่ยงซีต่อรองให้เอารูปที่ตัวเองถ่ายใช้ในนิทรรศการด้วย สรุปก็สามารถร่วมงานกันได้ ใช้รูปของเซี่ยงซีหนึ่งรูป และคุณลุงเฉิงกับหัวหน้าสวีก็มาดูด้วย เซี่ยงซีดีใจมากเลย

เรื่องราวของเซี่ยงซีทุกอย่างลงตัวแล้ว มีบัตรประชาชน เปิดบัญชีทำบัตร ซื้อนาฬิกาให้เฉิงโป๋เยี่ยน และก็เอาบัตรให้เฉิงโป๋เยี่ยนอยากซื้ออะไรก็ซื้อ ถ้าเงินหมดก็รอเงินเดือนออก เพราะมีเฉิงโป๋เยี่ยนอยู่เซี่ยงซีถึงได้ก้าวมาได้ไกลขนาดนี้

หลังอ่านเล่ม 3 :

เป็นบทสรุปของเรื่องราวของเซี่ยงซี ที่เริ่มจากเด็กเก็บมาเลี้ยงอยู่ในจ้าวเจียเหยาที่คนได้ยินชื่อก็ต้องหนีห่าง มาเห็นแสงสว่างเพราะความตั้งใจมุ่งมั่นของตัวเอง และการสนับสนุนของเฉิงโป๋เยี่ยน เฉิงโป๋เยี่ยนที่เป็นคุณหมอโรคกระดูกที่งานรัดตัว ยุ่งตลอดเวลาแต่พอเป็นเรื่องของเซี่ยงซีก็ให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นคนที่ตัวเองรักและใส่ใจ จากโรครักสะอาดขั้นสุด ยังยอมทำอะไรให้เพื่อลูกชาย เพราะอยากให้ได้กิน ได้เที่ยวแบบที่คนอื่นได้ทำบ้าง

อย่างที่ซ่งอีบอกเซี่ยงซีว่าบ้านของเฉิงโป๋เยี่ยนใครจะกล้าเข้าไป รักสะอาดขนาดนั้น แต่เซี่ยงซีกลับอยู่ได้อย่างดี ไม่เห็นถึงความลำบากอะไรเลย เพราะชินกับโรครักสะอาด และเพราะความรักนั้นเองที่อะไรๆก็เอาชนะได้  


เนื้อเรื่อง :

เซี่ยงซีเป็นเด็กที่ถูกลุงผิงเก็บมาเลี้ยง อาศัยอยู่ในจ้าวเจียเหยา หาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นมิจฉาชีพ ในเรื่องมีเพื่อนสนิทคือหม่านโถวที่ตัวเองบอกว่าไม่มีเพื่อน แต่ก็ใส่ใจ หมานโถวอยากขโมยเงินของเอ้อผางลูกน้องลูกผิงแล้วหนีไป เซี่ยงซีบอกว่าอย่าแตะต้องเงินนั้น แล้วก็ไปขโมยกระเป๋าเงินของเฉิงโป๋เยี่ยนที่เป็นหมอกระดูกอยู่ที่โรงพยาบาลแทน นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองได้พบกัน

จากนั้นยังมีเหตุให้เซี่ยงซีไปโรงพยาบาลเพราะโดนเหยียบขาหัก แต่ก็ยังไม่ยอมเอกซเรย์เพราะยังไม่ได้หาเงินให้ลุงผิง เซี่ยงซียังต้องใช้วิธีหลอกลวงกระโดดให้รถชนเรียกร้องเอาเงิน เฉิงโป๋เยี่ยนก็เห็นเหตุการณ์ ทั้งสองวนเวียนพบกัน จนเฉิงโป๋เยี่ยนได้ช่วยเซี่ยงซีจากนักเลงอีกพื้นที่

และเมื่อเซี่ยงซีตัดสินใจหนีออกจากจ้าวเจียเหยา สิงที่ต้องแลกที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เซี่ยงซีก็อดทนจนได้เจอเฉิงโป๋เยี่ยนและขอร้องให้ช่วย เพราะเซี่ยงซีบอกว่าพี่ ช่วยด้วย ทำให้เฉิงโป๋เยี่ยนยอมช่วย

และจากนั้นก็เริ่มรู้ว่าคุณหมอเฉิงรักสะอาดขนาดไหน เซี่ยงซีไม่มีบ้านให้กลับ หลังจากรักษาตัวอยู่นานหลายเดือนเมื่อจะออกจากโรงพยาบาล ก็ต้องไปนอนข้างถนน เซี่ยงซีไม่ต้องการให้เฉิงโป๋เยี่ยนรู้ว่าตัวเองไม่มีที่ไป และก็ได้เจอคนรู้จัก ที่หางานร้านอาหารให้ เรื่องราวดำเนินไป เซี่ยงซีที่ไม่น่าจะได้เห็นแสงสว่างจริงๆ ได้รับการช่วยเหลือจากเฉิงโป๋เยี่ยนอีกครั้ง

ทั้งสองเริ่มเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เซี่ยงซีก็รับกับการรักสะอาดของเฉิงโป๋เยี่ยนได้ และรู้ว่ารสนิยมของเฉิงโป๋เยี่ยนเป็นยังไง ก็ไม่ได้รังเกียจ เฉิงโป๋เยี่ยนคอยช่วยเซี่ยงซี เซี่ยงซีก็พยายามทำตัวให้ดี อยากมองเห็นแสงสว่าง ซึ่งเฉิงโป๋เยี่ยนคือแสงสว่างของเซี่ยงซี คอยเติมเต็มทุกความรู้สึกของเซี่ยงซี เรื่องราวระหว่างทางเซี่ยงซีมีความพยายามมีความสามารถ และมีเฉิงโป๋เยี่ยนคอยช่วยเหลืออยู่เคียงข้าง มีอะไรน่าติดตามตลอดทางของทั้งสองอย่างแน่นอน

หลังอ่าน :

จะเห็นว่าเซี่ยงซีเป็นเด็กที่มีความคิดดี ไม่ได้เลวร้ายจนช่วยไม่ได้ เฉิงโป๋เยี่ยนเข้าใจจิตใจเซี่ยงซีและคอยแนะนำ ช่วยเหลืออยู่เคียงข้าง ถ้าเซี่ยงซีไม่ได้เจอกับเฉิงโป๋เยี่ยนก็คงไม่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น เดินบนทางที่ถูกแบบในตอนหลัง

ทั้งสองเข้ากันได้ดี เซี่ยงซีทำตามกฎ และสามารถอยู่กับเฉิงโป๋เยี่ยนที่เป็นโรครักสะอาดขนาดนั้นได้ ทั้งๆที่ใครๆก็ไม่สามารถอยู่ด้วยได้ เซี่ยงซีอยู่ได้สบายมาก

เรื่องราวไม่โอเว่อร์เกินจริง มีที่มาที่ไป ที่สำคัญ คาแรกเตอร์ตัวละครแต่ละตัว สมบทบาท ชัดเจนมากๆๆ เฉิงโป๋เยี่ยนรักสะอาด ตอนที่เจอความสกปรกคือทนไม่ไหว ห้ามเซี่ยงซีพูดคำหยาบ จะเป็นคนที่คอยสอน คอยกำกับให้เซี่ยงซีเดินทางที่ถูกและช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ดูแลไม่ห่าง นักเขียนเขียนได้มีอารมณ์ขัน ฮามาก มีบทซาบซึ้ง บทเศร้า มีทุกรสชาติเลยค่ะ เป็นเรื่องที่แนะนำให้หยิบมาอ่านจริงๆ แล้วหลงรักเซี่ยงซีและเฉิงโป๋เยี่ยนจนหมดใจแน่นอน  

5/11/63