Review : 28/2563
เรื่อง : เสมือนไข่มุก เสมือนหยก ( 3เล่มจบ)
ผู้แต่ง : เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง (Yue
Xia Die Ying)
ผู้แปล : Hunza
พิมพ์ครั้งที่ 1 : กรกฎาคม 2563
สำนักพิมพ์ : อรุณ
โปรยปกหลัง :
“กู้หรูจิ่ว”
คุณหนูรองจากสกุลผู้ดีเก่าอันดับสองปลายแถว
ได้รับการทำนายทายทักจากนักพรตเฒ่าผู้มีชื่อเสียง
ว่าเป็นผู้มีวาสนาสูงส่งที่สมควรเผื่อแผ่ให้ผู้อื่น
“จิ้นยาง”
บุตรชายอ๋องผู้มีร่างกายอ่อนแอและแสนอาภัพ
โชคชะตานำพาให้เขากลายเป็นเจ้าแผ่นดิน
สองดวงใจผูกพัน
“...บุรุษต้องรักและทะนุถนอมสตรีที่รักเสมือนไข่มุก
เสมือนหยกล้ำค่า”
“สำหรับข้าแล้ว ไม่ว่าไข่มุกหรือหยกก็มิอาจเทียบจิ๋วจิ่วของข้าได้”
“เจ้าเป็นชีวิตของข้า มีเจ้าอยู่
ข้าถึงมีชีวิตอยู่ต่อไปได้”
เล่ม 1 :
ฮ่องเต้องค์ก่อนสวรรคต ไม่มีทายาท
โจวฮองเฮาจึงต้องเลือกฮ่องเต้องค์ใหม่จากบุตรคนโตของเฉิงอ๋อง
กู้หรูจิ่วบุตรีคนเล็กของหนิงผิงปั๋ว
ในวัยสิบปีเป็นที่รักใคร่ของครอบครัว ไทเฮาให้กู้ฉางหลิงเป็นอาจารย์ถวายการสอนทรงพระอักษรและการวาดภาพของฮ่องเต้
ทำให้จิ๋วจิ่วรู้ว่าท่านพ่อชื่นชมฮ่องเต้น้อย กู้หรูจิ่วเป็นคนย้อนอดีตมา จากวิชาประวัติศาสตร์ที่เรียนมาในชาติที่แล้ว
ทำให้นางทราบคดีนองเลือดของการเลือกข้างไม่ชัดเจนหลายคดี
ถ้าฮ่องเต้น้อยดีจริงอย่างที่ท่านพ่อบอกก็ขอให้เขามีอายุยืนยาวอีกสักหน่อย
โจวไทเฮาก็ชอบจิ๋วจิ่วอยากให้เข้าวังไปหาบ่อยๆ และนี่เป็นครั้งแรกที่จิ้นยางฮ่องเต้น้อยวัยไม่ถึงสิบสามปี
ร่างกายอ่อนแอได้พบกู้หรูจิ่วเป็นครั้งแรก
โจวไทเฮาที่มีศักดิ์เป็นเสด็จอาของจิ๋วจิ่วอยากแต่งตั้งนางเป็นท่านหญิงขั้นห้า
มีศักดินาสามร้อยหลังคาเรือน ติดที่ไม่มีความดีความชอบ
จึงบอกให้กู้ฉางหลิงเร่งสร้างความชอบเข้า กู้ฉางหลิงไม่ทำให้ผิดหวัง
ตั้งใจสอนจิ้นยาง ส่วนจิ้นยางก็ตั้งใจเรียนรู้ ทั้งยังเรียกท่านอาจารย์กู้ไม่ใช่หนิงผิงปั๋ว
ครึ่งปีผ่านไปวิถีชาวต้าเฟิงกลับสู่ปกติ
และก็มีข่าวว่าสกุลซือหม่าสายสามกำลังจะมาเมืองหลวง
ในฐานะสกุลใหญ่ลำดับหนึ่งจึงเป็นที่สนใจของผู้คนทั่วไป
กู้หรูจิ่วเข้าวังเข้าเฝ้าไทเฮาพอดีกับได้ข่าวว่าฮ่องเต้น้อยป่วย
ช่วงนี้กู้ฉางหลิงจึงไม่มีสอน ก็พาบุตรธิดาไปชานเมืองเพื่อดูองครักษ์ที่เลี้ยงดูไว้
กู้หรูจิ่วสังเกตสัตว์ต่างๆ และคาดเดาไปถึงปรากฏการณ์ก่อนเกิดแผ่นดินไหว ด้วยเกรงว่าท่านพ่อจะไม่เชื่อจึงอ้างถึงบันทึกพิสดารที่เคยอ่าน
ซึ่งมีบันทึกไว้จริง เรื่องนี้ถ้าปิดเงียบก็ไม่มีผลใด
แต่ชาวเมืองมากมายจะเสียชีวิต ถ้าไม่เกิดเรื่องจริงทั้งครอบครัวจะเดือดร้อน
แต่คนสกุลกู้พร้อมใจกันให้กู้ฉางหลิงรายงานฮ่องเต้ ทำให้ครอบครัวตัวเองและญาติสนิทรอดพ้นภัยพิบัติไปได้
แต่สกุลใหญ่ส่วนมากไม่เชื่อถือก็สูญเสียทรัพย์สินไป เพราะไม่เชื่อถือว่าจะเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้น
เมื่อเหตุการณ์สงบกลับเข้าเมือง จิ๋วจิ่วเข้าวังไปพบฮ่องเต้
ไทเฮาก็ให้ฮ่องเต้พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้จิ๋วจิ่ว เป็นท่านหญิงขั้นห้า มีศักดินาห้าร้อยหลังคาเรือน
จากเหตุครานี้ฮ่องเต้น้อยได้ประโยชน์มากที่สุด
ในฐานะขุนนางผู้กล้าถวายฎีกาโดยไม่กลัวตายเช่นกู้ฉางหลิงก็มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว
เมื่อมีข่าวกู้หรูจิ่วได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นท่านหญิงขั้นห้าแพร่ออกมาจึงไม่มีใครติดใจ
จากนั้นบรรดาศักดิ์โหวขั้นสองที่ได้รับก่อนหน้านี้ก็ได้เลื่อนขั้นเป็นโหวขั้นหนึ่ง
เวลาผันผ่านไป สกุลซือหม่าเชิญไปขี่ม้าชมบุปผาที่เรือนพักชานเมือง
จิ๋วจิ่วยังจำคำของไทเฮาได้ที่ว่าสกุลซือหม่าหวังสูง ซึ่งก็คือตำแหน่งฮองเฮา
ในสนามขี่ม้าเกิดเหตุขึ้นกับคุณหนูสกุลใหญ่สองคนคือคุณหนูบ้านสายรองสกุลซือหม่ากับคุณหนูสกุลหลี่
ที่ทั้งสองสกุลอยากช่วงชิงตำแหน่งฮองเฮา
เพราะมีกู้หรูจิ่วทำให้ผู้ดูแลสนามขี่ม้าไม่โดนจับไปเป็นแพะรับบาปให้สองสกุลใหญ่
จิ้นยางเป็นห่วงศิษย์น้องส่งของมาให้มากมาย ตอนนี้ดูแลด้วยความเป็นห่วงอย่างพี่ชายดูแลน้องสาว
แต่เพราะจิ๋วจิ่วน่ารัก นิสัยดีใครเห็นใครก็รัก จิ้นยางจะต้านทานได้ยังไง
สกุลซือหม่าทั้งสามบ้านก็ไม่สงบสุข
บ้านสายรองกับสายสามเกิดความขัดแย้งกัน
ฮูหยินรองโทษว่าที่บุตรีเสียชีวิตเป็นเพราะซือหม่าเซียง
ในที่สุดบ้านสายสามก็ย้ายออกไปตั้งเรือนเอง
กู้ฉุนจิ่งพี่รองของกู้หรูจิ่วเป็นราชองครักษ์มังกร ราชองครักษ์ประจำพระองค์ขั้นห้า
ใกล้ชิดฮ่องเต้ตลอด เวลานี้จิ้นยางอยากออกไปกินภัตตาคารที่ทำอาหารประเภทปลาที่เปิดใหม่และยังไปชวนกู้หรูจิ่วอีกด้วย
ทำเอากู้ฉุนจิ่งระแวงว่าตัวเองจะโดนแย่งชิงความเป็นพี่ชายไปเลยเพราะทั้งสองสนิทกันมาก
กู้หรูจิ่วเป็นคนสั่งอาหารให้จิ้นยางและสังเกตความชอบของเขาได้จากการที่กินอาหารร่วมกันหลายครั้ง
ทำเอาจิ้นยางพึงพอใจมาก ที่สั่งอาหารรสชาติถูกปากในขณะที่คนอื่นกลัวว่ารสชาติจะจัดเกินไป
เวลาผ่านไปอีกหนึ่งปี ปีที่กู้หรูจิ่วอายุสิบสองปี
ซือหม่าหลิงเข้าพิธีปักปิ่น เวลาผ่านไปอีกปีคุณหนูสามสกุลซือหม่า
ซือหม่าเซียงก็เตรียมตัวเข้าพิธีปักปิ่น ข่าวลือต่างๆเกี่ยวกับสกุลซือหม่ายิ่งมายิ่งมาก
สกุลซือหม่าเก็บอาการไม่อยู่เรื่องอยากเป็นฮองเฮาแล้ว เพราะฮ่องเต้น้อยอายุสิบหกปีแล้ว
แต่บุตรต้าเฟิงส่วนใหญ่แต่งงานตอนอายุสิบแปดปี
สกุลซือหม่าเข้าทางราชวงศ์ทั้งองค์หญิงใหญ่เต๋ออี๋ ทั้งผิงจวิ้นอ๋อง
คังจวิ้นอ๋อง แต่จิ้นยางไม่สนใจบอกเพียงว่ายังไม่เข้าพิธีสวมมาลามงกุฎ
ยังไม่ได้เริ่มออกว่าราชการ
ติ้งกั๋วกงจัดงานเลี้ยงน้ำชา กู้ฮูหยิน หยางซื่อพาจิ๋วจิ่วไปร่วมงานด้วย
สกุลหยางในเมืองหลวงกับสกุลหยางที่เป็นสกุลเดิมของหยางซื่อแม้จะสกุลหยางเหมือนกัน
ทว่าก็ไม่ได้มาจากต้นตระกูลเดียวกัน
หยางฮูหยินชอบจิ๋วจิ่วมาก
แต่หยางซื่อไม่คิดจะตอบตกลงเรื่องของจิ๋วจิ่วในตอนนี้
ฮ่องเต้ที่ฟังไทเฮาเล่าว่าจิ๋วจิ่วมางานที่จวนติ้งกั๋วกงก็ขี่ม้ามาแถวหน้าจวนพร้อมกับกู้ฉุนจิ่ง
แล้วก็กลับไป เริ่มมีใจกับจิ๋วจิ่วแต่ยังไม่รู้ตัวสินะ
พระราชพิธีสวมมาลามงกุฎประกาศออกมาแล้ว ฮ่องเต้จะเข้าพิธีก่อนกำหนด
เพราะไทเฮาจะทรงยกอำนาจทั้งหมดให้ฮ่องเต้บริหารเอง
ไทเฮาให้จิ๋วจิ่วอยู่เป็นเพื่อนในวังหลายๆวัน เพราะประชวน
จิ๋วจิ่วสนิทกับไทเฮามากกล้าพูดเล่นด้วย จิ้นยางฟังแล้วหนักใจกลัวว่านางแต่งงานไปแล้วบ้านสามีจะรังแก
กับนิสัยพูดอะไรตรงๆของนาง
ไทเฮา ฮ่องเต้ และกู้หรูจิ่วไปไหว้พระที่อารามอู่จวง
เจ้าอารามอู่จวงคือนักพรตชูอวิ๋น พอเห็นจิ๋วจิ่วก็บอกว่าเป็นผู้มีโหงวเฮ้งดี มีทั้งโชค
ทั้งมีวาสนา ทั้งยังมากด้วยบารมี
กู้จืออวี่ พี่ใหญ่ของกู้หรูจิ่วบอกว่าในที่สุกสะใภ้ใหญ่ก็ตั้งครรภ์
คนทั้งบ้านต่างดีใจกับหลานคนแรก
สกุลซือหม่าเริ่มทนไม่ไหว หาทางต่างๆรู้ความเคลื่อนไหวของฮ่องเต้
ขนาดจิ๋วจิ่วยังได้รับการเตือนให้ระวัง
ก่อนวันพระราชพิธีสวมมาลามงกุฎ ฮ่องเต้มีราชโองการให้กู้หรูจิ่วเป็นท่านหญิงขั้นสาม
ศักดินาเพิ่มเป็นสี่ร้อยหลังคาเรือน มีราชทินนามว่า ฉางเหยียน
หลังงานพระราชพิธีสวมมงกุฎไป๋เสียนถูกฮ่องเต้ลงโทษ
จึงให้เหอหมิงมารับใช้แทน จิ๋วจิ่วยังพักอยู่ในตำหนักกับไทเฮา
ตอนนี้ฮ่องเต้มาบอกไทเฮาแล้วว่าอาจมีคนที่ชอบ เริ่มรู้ใจตัวเองแล้วสินะ
คนอื่นดูออกกันนานแล้ว แค่ยังไม่แน่ใจกันเท่านั้น
แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้
สาวใช้ของจิ๋วจิ่วมาแจ้งว่าฮูหยินน้อยไม่อยู่แล้ว เพราะนั่งรถไปไหว้พระที่อารามอู่จวง
ระหว่างทางม้าเทียมรถตกใจเพราะคุณชายซือหม่าของครอบครัวสายสามขี่ม้าทำให้ตกใจกลายเป็นหนึ่งศพสองชีวิต
จิ้นยางรู้เรื่องนี้รีบวิ่งออกมาหาจิ๋วจิ่วและสัญญาว่าจะให้ความเป็นธรรมกับสกุลกู้
จิ้นยางเป็นคนตัดสินประหารชีวิตซือหม่าจี้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ครอบครัวซือหม่าสายสามวิ่งเต้นยังไงก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้
หลังจากนั้นครึ่งเดือนกว่าถึงงานวันคล้ายวันเกิดไทเฮา ไทเฮามีราชโองการให้คุณหนูคุณชายสกุลใหญ่ไปร่วมงานเลี้ยงที่ตำหนักไท่เหอ
ซือหม่าเซียงยังพยายามดึงดูดความสนใจของฮ่องเต้ด้วยการแข่งขันขี่ม้า
มีหรือที่กู้หรูจิ่วจะยอม ครั้ง คนสกุลกู้มีแค้นต้องชำระ ไทเฮารู้ดี และกู้หรูจิ่วก็สามารถเอาชนะซือหม่าเซียงได้
ซือหม่าเซียงยิ่งแสดงให้เห็นถึงการใช้วิธีการต่ำช้าทั้งที่อายุยังน้อย
จนไทเฮาตรัสว่าต่อไปมีงานชุมนุมใดอีกไม่ให้เชิญซือหม่าเซียง
ครั้งนี้จิ๋วจิ่วยังดึงดูดความสนใจของคุณชายหยาง
และจิ้นยางก็สังเกตเห็นขัดขวางตลอด คนที่สังเกตเห็นชัดอีกคนคือคุณชายหลี่
หลี่ไหวกู่ที่รู้ว่าหยางฉุยเหวินสนใจจิ๋วจิ่ว แต่คงไม่สำเร็จเพราะจิ้นยาง
อีกคนที่สังเกตได้คือหูอวิ๋นฉี พี่ชายของหูซื่อที่เป็นภรรยาของกู้ฉุนจิ่ง
เป็นราชองครักษ์มังกรเหมือนกู้ฉุนจิ่ง ที่สนิทกับบ้านสกุลกู้มาก
พอจิ้นยางรู้ว่าไทเฮามีคนที่หมายตาเป็นฮองเฮาอยู่แล้ว
จิ้นยางก็ไม่อยู่เฉยรีบไปพบไทเฮา ไทเฮาบอกว่าคนที่คิดว่าคู่ควรคือบุตรีของหยางกั๋วกง
จิ้นยางบอกว่ามีคนที่ชอบแล้ว ไม่คิดจะแต่งงานกับบุตรีของหยางกั๋วกง
จะมีฮองเฮาคนเดียวตลอดชีวิต และให้ช่วยบอกอาจารย์กู้ด้วย เรื่องยังไม่ถึงไหนก็มีข่าวว่าหูฮูหยินเป็นแม่สื่อไปสู่ขอกู้หรูจิ่วให้หยางฉุยเหวิน
จิ้นยางเสียกิริยาโกรธจัด พอรู้ว่าสกุลกู้ไม่ตกลงค่อยกลับเป็นปกติ
กู้หรูจิ่วมาเยี่ยมไทเฮาและฮ่องเต้โดยเอาใบชาที่มีสรรพคุณแก้ไอมาให้ด้วย
ทำให้ได้พบไป๋เสียนและถามจิ้นยางถึงไป๋เสียน
ราชสำนักสงบสุขดีจนสองเดือนหลังจากนั้นมีประกาศการเสียชีวิตเฉิงอ๋องที่เมืองจิ่นโจว
เรื่องที่หูซื่อมาพบหยางซื่อที่สกุลกู้เกี่ยวกับจิ๋วจิ่วและฮ่องเต้จึงพักไว้ก่อน
เพราะฮ่องเต้ประกาศไว้ทุกข์เจ็ดเดือน ห้าเดือนหลังจากนั้นครอบครัวเฉิงอ๋องเดินทางมายังเมืองหลวง
ชายาเฉิงอ๋องรู้ดีว่าฮ่องเต้กำลังจะดึงพื้นที่ศักดินากลับคืนมา
ให้เป็นอ๋องผู้มีศักดิ์แต่ไร้อำนาจ
ชายาเฉิงอ๋องวิ่งเต้นสารพัดแต่ไร้ประโยชน์
จนโอกาสดีมาถึงคืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้าคุณหนูรองสกุลกู้จะเข้าพิธีปักปิ่น
ตอนนี้ที่สกุลกู้กำลังบอกเรื่องที่ฮ่องเต้ต้องการรับจิ๋วจิ่วเป็นฮองเฮา
หลิวกูกูก็มารับจิ๋วจิ่วเข้าวังพอดี เพราะไทเฮาไม่อาจออกมาในวันงานได้
จิ๋วจิ่วเข้าวังมาถึงก็ได้ยินเสียงหัวเราะของไทเฮาทันที
จิ้นยางหาโอกาสสารภาพกับจิ๋วจิ่ว บอกว่าตัวเองขี้อิจฉา เจ้าคิดเจ้าแค้น ใจแคบ
บอกความรู้สึกตัวเองและสุดท้ายบอกว่าหากจิ๋วจิ่วเป็นฮองเฮา ยินดีไม่รับพระสนม
จะมีจิ๋วจิ่วคนเดียว อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า ถึงตายก็ไม่เสียใจ
เท่านี้จิ๋วจิ่วก็บอกว่าให้ฝ่าบาทส่งคนไปสู่ขออย่างเป็นทางการเถิด
ก่อนกลับจิ้นยางให้หยกที่สลักอายุยืนยาว แข็งแรงปลอดภัยให้จิ๋วจิ่ว
วันงานสกุลกู้จัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่ สามวันหลังจากนั้นหูฮูหยินสวมชุดข้าราชบริพารหญิงพาขุนนางกรมพิธีการนำสิ่งของหายากมากมายมาเคาะประตูใหญ่จวนสกุลกู้
หลังอ่านเล่ม 1 :
เล่มหนึ่ง ยังเป็นตอนที่ทั้งกู้หรูจิ่วและจิ้นยางยังเป็นเด็กน้อย
ค่อยๆเติบโต อธิบายความซับซ้อนของสกุลใหญ่ต่างๆ และความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร
จนจิ้นยางรู้ใจตัวเอง ในขณะที่คนอื่นๆเริ่มมองออก
สังเกตเห็นกันบ้างแล้ว เมื่อสัญญาว่าจะมีเพียงจิ๋วจิ่วคนเดียว
จิ๋วจิ่วก็ตอบตกลงในที่สุด
เล่ม 2 :
หูฮูหยินเป็นตัวแทนราชวงศ์มาทาบทาม
ไม่กี่วันหลังจากนั้นก็มาสู่ขออย่างเป็นทางการ
เมื่อได้วันเดือนปีเกิดของกู้หรูจิ่วก็นำกลับสำนักโหรหลวง
ดวงชะตาของฮ่องเต้และท่านหญิงฉางเหยียนนับเป็นดวงคู่สมพงศ์กันอย่างแท้จริง เป็นคู่สวรรค์ลิขิต
ชะตาชีวิตสมพงศ์
วันราชาภิเษกกำหนดแล้ว วันที่สิบแปดเดือนยี่ปีหน้า นอกจากงานชุมนุมสำคัญมากๆ
นอกจากนั้นไม่ต้องไป งานสังสรรค์ครั้งนี้ชายาทายาทอ๋องเป็นผู้จัด
เจิ้งซื่อฮูหยินใหญ่ครอบครัวสายหลักสกุลซือหม่ามาช่วยแต่วันในฐานะญาติทางสกุลเดิมของชายาอ๋องน้อย
กู้หรูจิ่วเป็นที่สนใจในงานที่สุดดังคาด เพราะคือว่าที่ฮองเฮานั่นเอง
หยางซื่อบอกกู้หรูจิ่วว่าจะพูดครั้งเดียวว่าอย่าไว้ใจง่ายๆ ไม่ว่าผู้ใด
ต้องใช้ใจมองอย่าได้เกิดโทสะง่าย เมื่อเกิดโทสะจะขาดสติ
ชายาเฉิงอ๋องยังไม่ละความพยายามยังคงส่งเทียบเชิญ
กู้หรูจิ่วไม่ชอบเพราะจิ้นยางอยู่จวนอ๋องก็โดนกลั่นแกล้ง แค่คิดก็โกรธแล้ว
ส่วนจิ้นยางไม่สนใจเรื่องแก้แค้นตอนนี้
กำลังหารือระเบียบขั้นตอนการรับฮองเฮา ตัวเองจะไปรับเองให้ได้ และพอถึงวันงานก็เป็นตัวเองไปเอง
แย่งงานของหมัวมัวทุกขั้นตอน ดีใจมากขนาดหนัก ไม่อยากออกจากห้องหอเลย
จิ้นยางพระราชทานบรรดาศักดิ์ญาติสกุลเดิมของฮองเฮาทุกคน
พอวันประชุมกู้ฉางหลิงก็ถวายฎีกาขอลาออก จิ้นยางไม่อยากให้ออกแต่ก็ทำไม่ได้
จิ๋วจิ่วเข้าใจท่านพ่อดีก็บอกเหตุผลให้ฟังอย่างง่ายดาย
คืนวันแต่งงานของฮ่องเต้และฮองเฮา
ฮูหยินครอบครัวสายสามสกุลซือหม่าที่ชอบด่าว่าบ้านสายหลัก สายรอง
สกุลกู้ก็ฆ่าตัวตาย สกุลซือหม่าปิดข่าวเอาไว้
แต่จิ้นยางก็ยังรู้เรื่องอยู่ดีเพราะมีสายลับคอยรายงาน
องค์หญิงใหญ่เดินทางย้ายมาเมืองหลวง
และเพราะไม่พอใจฮองเฮาแสดงตัวอย่างไม่เหมาะสมต่อหน้าฮ่องเต้
ยืนรับการคารวะจากฮองเฮาทำเอาจิ้นยางโกรธ ทำเอาจนองค์หญิงใหญ่รู้สำนึก
แต่ก็ยังมีความคิดว่าฮองเฮาเป็นนางมารร้าย
งานราชาภิเษกของฮ่องเต้และฮองเฮาต้องมีคณะทูตจากแคว้นต่างๆมาร่วมแสดงความยินดีอยู่แล้ว
ทั้งหมดออกเดินทางก่อน แต่ถึงหลังจากงานจบลง ทั้งหมดมีทั้งที่รู้กาลเทศะ
และทำเรื่องวุ่นวาย และมาขอความช่วยเหลือ ที่ก่อเรื่องที่สุดก็คือแคว้นโตวเป่า
และแคว้นเกาหลัวที่มีหัวหน้าคณะเป็นเสนาบดีฉีเหลียน ที่หน้าตาคล้ายคนต้าเฟิง
ที่อยากชมเรื่องสนุก และยังติดต่อกับซือหม่าเซียงอีกด้วย
ในวังหลวงก็มีเรื่องของพวกไท่เฟยให้ปวดหัว
แต่ก็ไม่เกินมือของจิ๋วจิ่วไปได้
เพราะฮ่องเต้รักและตามใจฮองเฮาแต่คนภายนอกยังคิดว่าเป็นการแสดงให้คนภายนอกดู
มีเพียงคนใกล้ชิดเท่านั้นที่รู้ว่าฮ่องเต้รักและตามใจฮองเฮามากที่สุด
พออยู่ภายนอกเป็นแบบหนึ่ง พออยู่กับฮองเฮาให้บรรยากาศอบอุ่นต่างกันอย่างสิ้นเชิง
และก็มีเรื่องของนางกำนัลที่หวังปีนขึ้นสูงก็ได้รับการจัดการอย่างเด็ดขาดจากทั้งฮ่องเต้และฮองเฮา
สิ่งที่แตะไม่ได้ของจิ๋วจิ่วก็คือครอบครัวและบุรุษของตัวเอง
พอจิ๋วจิ่วหึงจิ้นยางจะมีความสุขที่สุด เรื่องนี้เป็นการวางแผนกันของซุนไท่เฟย
เฉียนไท่เฟย เรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เห็นมีแผนการซับซ้อนภายใน
ประสานนอกใน แต่เพราะฮ่องเต้ ฮองเฮารักกัน เชื่อใจกันทุกอย่างจัดการได้ดี
ฉีเหยียนที่แท้คือคนสกุลหลิว ทั้งยังร่วมมือกับซือหม่าเซียง
เมื่อถูกจับได้ก็รู้ว่ามีความเกี่ยวพันกับรุ่ยอ๋อง
ซือหม่าเซียงที่เห็นแบบนั้นที่แท้โหดร้ายขนาดวางแผนฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น
โชคดีที่จิ๋วจิ่วในตอนนั้นรอดพ้นจากอันตรายเพราะคุณชายหลี่ชวนกู้หรูจิ่วคุยทำให้เสียแผน
เป็นหญิงที่บ้ามากจริงๆ
ซือหม่าผิงต้องลาออกจากราชการ เพื่อรักษาสกุลซือหม่าเอาไว้
คนต่างๆโดนโยกย้ายไปตำแหน่งไม่สำคัญ
พอเรื่องเรียบร้อยก็มีคนหาเรื่องโดยการเรียกร้องให้ฮ่องเต้รับสนม
เรื่องนี้ทำให้จิ้นยางโกรธมาก จากที่จะมีชื่อในประวัติศาสตร์ก็เป็นชื่อด้านร้าย
ไม่ต้องรับราชการตลอดชีวิต คนในครอบครัวสามรุ่นห้ามเข้าราชสำนัก
ในที่สุดก็รู้ว่าตัวเองทำพลาดขนาดไหน
ทั้งเรื่องโยกย้าย ทั้งเรื่องฝ่ายฝ่ายใน
ทำให้เหล่าขุนนางที่อยากให้ฮ่องเต้รับสนมมีข่าวออกมาว่ามาบ้านเล็ก
บ้านน้อยกันมากมายทีเดียว
หลังอ่านเล่ม 2 :
เล่มนี้ออกจากบ้าน
ได้เวลาแต่งงานต้องมาอยู่ท่ามกลางวังหลวงจากคุณหนูผู้ได้รับการปกป้องอย่างดี
จิ๋วจิ่วก็สามารถอยู่ในวังหลวงได้อย่างมีความสุข และจัดการสิ่งต่างๆได้ดี
เพราะมีจิ้นยางคอยรักและเอาใจใส่ตลอดเวลา
ทั้งสองรักกันมากจนทำเอาคนรอบข้างอิจฉาทีเดียว
เล่ม 3 :
นี่เป็นเรื่องที่หลี่กวงเจี่ยโยนความผิดให้ฮองเฮารับผิดชอบแต่กลับกลายเป็นว่า
ฮ่องเต้ทรงรับเอาไว้เองทุกอย่าง หลี่ไหวกู่ถูกถามถึงดำริฮ่องเต้
และรู้ว่าหลี่กวงเจี่ยร่วมมือกับลุ่ยอ๋องพยายามจะห้ามก็ห้ามไม่ได้ นางอู๋ซื่อหลังจากเสียบุตรีไปก็หาเหตุต่างๆ
ปิดประตูเรือนไม่ยอมพบหลี่ไหวกู่อีก หลี่ไหวกู่รู้สึกไม่มีที่พึ่งพิงทางใจ
กู้หรูจิ่วรู้ว่าเป่าลวี่นางกำนัลที่เป็นสาวใช้คนสนิท
ที่พามาจากจวนสกุลกู้มีความคิดต่อฮ่องเต้ ตอนแรกกู้หรูจิ่วคิดจะจัดการสุดท้ายตัดสินใจปล่อยออกจากวัง
ฮองเฮายอมปล่อย แต่ฮ่องเต้ยอมปล่อยหรือ
ในเมื่อเป่าลวี่ก็เคยได้ยินตอนฮ่องเต้บอกกับกู้หรูจิ่วว่าถ้ามีใครทำให้กู้หรูจิ่วเสียใจจะทำให้คนผู้นั้นนึกเสียใจภายหลัง
ปีนี้เป็นงานเฉลิมพระชนมพรรษาครั้งแรกของฮ่องเต้หลังพิธีราชาภิเษก
ทำให้ฮ่องเต้เชิญอ๋องที่มีเขตปกครองเป็นของตนเองมาร่วมงานด้วย ที่เหลือก็มีเพียงรุ่ยอ๋องและจงอ๋องที่ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นอ๋องหมวกเหล็ก
แต่ชื่อเสียงที่ผ่านมาคือเป็นอ๋องที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ในเขตปกครองของตนเองคือหรงโจว
หลังงานเฉลิมจะส่งพวกไท่เฟยทั้งหลายไปอยู่ที่ตำหนักหลินอันนอกเมืองหลวง
รุ่ยอ๋องแม้ขาจะพิการนั่งเก้าอี้รถเข็นแต่หน้าตาดูดีจนจิ๋วจิ่วอดมองนานกว่าปกติไม่ได้
และพบว่านัยน์ตาของจิ้นยางคล้ายรุ่ยอ๋องมาก หลังจากพูดคุยกันกู้หรูจิ่วมีความรู้สึกว่ารุ่ยอ๋องและชายาเฉิงอ๋องมีอดีตบางอย่างด้วยกัน
แล้วซุนไท่เฟยล่ะ กู้หรูจิ่วความรู้สึกไวมาก
พอมาพบไทเฮาและไท่เฟยกู้หรูจิ่วสังเกตก็ไม่เห็นรุ่ยอ๋องผิดปกติมีเพียงซุนไท่เฟยฝ่ายเดียวเท่านั้นตื่นเต้น
เมื่อคิดให้กระจ่างก็รู้สึกเห็นใจซุนไท่เฟยยิ่งนัก
จงอ๋องเข้าเมือง สืบข่าวและขอเข้าพบสกุลกู้
ซึ่งสกุลกู้ปิดประตูไม่รับของขวัญ เรื่องนี้ปกติสำหรับสกุลกู้อยู่แล้ว
แต่จงอ๋องไม่รู้ จึงเกิดความรู้สึกไม่ดีกับฮองเฮาไปด้วย
พอเข้าวังจงอ๋องและบุตรชายบุตรสาวกินข้าวกันจนทำให้กู้หรูจิ่วเจริญอาหารเพิ่มขึ้น
จิ๋วจิ่วมีความรู้สึกดีกับครอบครัวจงอ๋องมากกว่ารุ่ยอ๋องมากนัก
จงอ๋องกลับออกมาจากวัง
ฟังการวิเคราะห์ของจิ้นหงว่าฮ่องเต้และฮองเฮารักใคร่กันจริง
และฮ่องเต้ยังกลัวภรรยาอีกด้วย
ตอนนี้จุดประสงค์หลักของฮ่องเต้ที่จะให้อ๋องทั้งสองอยู่ในเมืองหลวงต่อก็บรรลุผลสำหรับรุ่ยอ๋องคือรักษาขา
สำหรับจงอ๋องคือหาคู่ครองให้บุตรี
งานเฉลิมพรชนมพรรษาของฮ่องเต้มีการแสดง
คราวนี้นอกจากกองสังคีตยังมีนักแสดงภายนอก
ไป๋เสียนบอกกู้หรูจิ่วว่ามีนางรำจากภายนอกที่ทำให้เหล่าคุณชายลุ่มหลง คือฝูเหยา
แต่จิ้นยางกลับไม่สนใจบอกว่าคนที่งามที่สุดคือจิ๋วจิ่ว
ฝูเหยาเป็นพวกหวังสูงจริงๆ คิดว่าตัวเองหน้าตาดีจะเป็นที่ต้องตาของฮ่องเต้
แล้วคอยดูกันไปว่าจะเป็นยังไง
วันพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาปีแรกที่จิ้นยางราชาภิเษกสมรสก็มาถึง
ครอบครัวสายรองสกุลซือหม่าก็ได้รับเชิญ ยังมีเถียนปี้เย่ว์บุตรีของอดีตเจ้าเมืองจิ่นโจวในตอนนั้นที่เคยให้ความช่วยเหลือจิ้นยางก่อนเข้าเมืองหลวงที่มีใจให้จิ้นยางแต่ไป๋เสียนก็ยังล่วงรู้และได้บอกกับจิ๋วจิ่วไปแล้ว
ตอนนี้ได้รับตำแหน่งหัวหน้าสำนักอาชาหลวง จิ๋วจิ่วก็ใส่ชื่อเข้าไปด้วยเพื่อให้นางได้มีโอกาสดีขึ้นในการแต่งงานใหม่มากขึ้น
งานเลี้ยงเริ่มสองคนสามีภรรยาไม่สนใจใคร
จิ๋วจิ่วแกะลิ้นจี่ให้จิ้นยางให้กินได้แค่ห้าลูกเพราะกลัวร้อนใน
จิ๋วจิ่วเข้มงวดเรื่องอาหารการกินของจิ้นยางมากเพราะสุขภาพของจิ้นยางไม่แข็งแรง
จิ้นยางก็ต้องค่อยๆกินของดีที่มีน้อย ฮ่าๆๆๆ
ขันทีคนสนิททั้งสองเห็นจนชาชินไปนานแล้ว
ทีนี้ถึงตาจิ้นยางปอกสาลี่ให้จิ๋วจิ่วบ้าง แต่การแสดงนางรำเริ่มพอดี
จิ๋วจิ่วสนใจฝูเหยาที่งามมากจนไม่สนใจสาลี่ที่จิ้นยางปอก
จิ้นยางหน้าดำไหน้ำส้มล้นทะลัก เพราะไม่ยอมกินสาลี่เอาแต่มองสาวงาม
เหล่าขุนนางเลยไม่กล้าดูนางรำเพราะสังเกตสีหน้าฮ่องเต้ กลายเป็นฮองเฮาที่ตกรางวัล
และชายาทายาทผิงจวิ้นอ๋องที่อยู่ข้างฮองเฮาก็ตกรางวัล งานนี้เลยการเป็นสตรีสูงศักดิ์ทั้งหลายตกรางวัลแต่บุตรกับไม่สนใจ
ฮ่าๆๆๆ
ตอนนี้เถียนปี้เย่ว์ก็รู้แล้วว่าเด็กหนุ่มในปีนี้กับชายหนุ่มตรงหน้าเป็นเพียงภาพลวงตาที่ไม่มีวันเป็นจริง
แล้วยังโดนอู๋ตงอวิ๋นว่าเตือนสติเพราะฮ่องเต้
ฮองเฮารักกันขนาดนี้ยังแสดงออกแบบนี้หวังจะไปแทรกกลางหรือไร อู๋ตงอวิ๋นบ่นกับญาติผู้น้องก็ให้บังเอิญที่กู้จืออวี่
กู้ฉุนจิ่งและหูอวิ๋นฉีผ่านมาถ้าเป็นคนอื่นคงเสียภาพพจน์หมดแล้ว
ด้านหน้างานครึกครื้น แต่ทางด้านหลังมีนางรำทะเลาะตบตีกัน
เรื่องแบบนี้ในวังหลังมีให้เห็นมากนัก ขันทีผู้ดูแลไม่สนใจสั่งโบยฝูเหยาคนก่อเรื่องทันทีสิบไม้
คิดว่าจะเรียกร้องความสนใจแบบนี้ไม่ง่ายไปหน่อยหรือ
งานเลี้ยงยุติ กู้หรูจิ่วพาจิ้นยางไปตำหนักหลวนเหอที่ตัวเองแอบทำความฝันในวัยเด็กให้จิ้นยาง
ทั้งยังทำบะหมี่อายุยืนให้อีกด้วย
เป็นการกระทำที่มีเพียงคนรักและใส่ใจเท่านั้นที่ทำได้
เพราะถ้าไม่ใส่ใจคงไม่จดจำว่าตัวเองเคยเล่าอะไรให้ฟัง
ว่าในวัยเด็กอยากได้อะไรแต่ไม่ได้
หลี่กวงเจี่ยมาร้องทุกข์ที่ห้องหนังสือของจิ้นยาง
ว่าจงอ๋องตั้งใจหาเรื่อง เมื่อวานหลังงานเลี้ยงเลิกนั่งรถม้ากลับจวน
เพราะมีทางตรงทางเลี้ยว คนของจงอ๋องมาทางเลี้ยว
แต่เพราะคนขับรถม้าสกุลหลี่ถือว่าเป็นสกุลใหญ่ไม่ยอมหยุดให้ ครั้งรู้เรื่องวันนี้ตั้งใจไปขอโทษที่จวน
จงอ๋องกลับพาคนมาสาดน้ำหมึกใส่หน้าประตู ทั้งยังยืนด่าไม่ไปไหน
จิ้นยางส่งกู้ฉุนจิ่งหัวหน้าองครักษ์มังกรไปดูพอไปถึงจงอ๋องก็กลับไปทันที
เมื่อกู้ฉุนจิ่งมารายงานกู้หรูจิ่วอยู่ด้วย แต่เพราะอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ทำให้พี่รองเรียกน้องสาวว่าฮองเฮา
ทำเอาจิ๋วจิ่วน้อยใจ แต่ก็ออกไปเตรียมน้ำบ๊วยแก้ร้อนให้ เมื่อกู้ฉุนจิ่งเล่าเรื่องราวทั้งหมด
จิ้นยางก็เข้าใจจุดประสงค์ที่จงอ๋องอยากจะบอก
ว่าข้าไม่ชอบสกุลหลี่ข้าจงรักภักดีต่อฮ่องเต้ คนของฮ่องเต้มาข้าก็หยุด
จิ๋วจิ่วกลับมาพร้อมน้ำบ๊วยสองถ้วนถ้วนหนึ่งใส่น้ำแข็งอีกถ้วนไม่ใส่น้ำแข็ง
เห็นได้ว่าออกมาจากหม้อเดียวกัน จิ้นยางมองถวยที่ใส่น้ำแข็ง
แต่จิ๋วจิ่วส่งให้พี่รอง ตัวเองได้ถ้วยที่ร้อนไม่มีน้ำแข็ง ทั้งๆที่อยากกินน้ำแข็งก็ยังตั้งใจดื่มให้หมดอย่างเร็ว
กู้ฉุนจิ่งทนดูไม่ไหว ขนาดส้มเปรี้ยวที่บ้านก็ยังกินหมดลูกได้
ฮ่องเต้ไม่ธรรมดาจริงๆ เหล่าข้ารับใช้ชาชินนานแล้ว ใต้เท้ากู้ไม่รู้หรือ ฮ่าๆๆๆ
วันที่สามหลังงานฉลองเจ้าครองแคว้นลี่เดินทางมาคุกเข่าต่อหน้าจิ้นยาง
ขอเป็นส่วนหนึ่งของต้าเฟิง พระราชทานสกุลให้ว่าหลี ตอนนี้องค์หญิงชิวลี่เอ่อร์มีชื่อว่าหลีชิว
มาพบฮองเฮาในวังอีกครั้ง พอฮ่องเต้รู้เรื่องก็รีบตามไปทันทีเห็นจับมือกันด้วยแทบอยากจะวิ่งไปผลักออกทีเดียว
อะไรจะหวงจิ๋วจิ่วขนาดนี้นะจิ้นยาง จากนั้นก็มีข่าวจากจวนซือหม่าว่าใต้เท้าซือหม่าหงถึงแก่กรรมตอนเที่ยง
แต่ข่าวเพิ่งมาถึงแปลว่าต้องมีคนสกัดเอาไว้
ฮ่องเต้ให้จัดงานศพระดับกั๋วกงขั้นสอง
ภายในงานกู้จืออวี่ที่ตอนนี้เป็นรองเจ้ากรมคลังมาร่วมงานทุกคนก็อยากพูดคุยด้วย
แต่มีคนหนึ่งที่เข้ามาตีสนิทแล้วกู้จืออวี่ยอมคุยด้วยคือเฉินข่ง
น้องชายของเฉินซื่อภรรยาที่ตายไปเมื่อสองปีก่อน ตอนนี้อยากให้กู้จืออวี่ใช้เส้นสายเข้ากรมคลัง
ทั้งที่ก่อนหน้านี้กู้จืออวี่ก็หางานที่กรมพิธีการให้แล้วยังไม่พอใจ
พอกู้จืออวี่บอกว่าให้ไปสอบถ้าไม่เข้าใจให้มาถาม ก็ประชดประชันว่าไม่ยอมช่วยเหลือ
ผู้คนในงานรู้กันทั่วจนเข้าหูจิ๋วจิ่ว จิ๋วจิ่วก็เป็นกังวลจนนอนไม่หลับ
วันรุ่งขึ้นเจอหน้ากู้จืออวี่เพราะจิ้นยางเรียกมาได้คุยกันจนพอใจ พอจิ้นยางกำลังจะเข้ามาก็พอดีกับจิ๋วจิ่วสลบไปพอดี
จิ้นยางตกใจสุดขีด หมอหลวงมาตรวจก็ไม่แน่ใจชีพจรลื่น
ต้องตรวจอีกทีแต่ตอนนี้บอกว่าพักผ่อนไม่พอ
จิ้นยางฟังจบก็ให้โกรธเฉินข่งที่ทำจิ๋วจิ่วกลุ้มใจ
ปลดออกจากตำแหน่งห้ามกลับมารับราชการอีก คนที่เสียใจที่สุดคือกู้จืออวี่ที่ทำให้คนทางบ้านเป็นกังวล
ควรปล่อยวางได้แล้ว
พอจิ๋วจิ่วไม่สบายจิ้นยางเลยคิดจะส่งพวกไท่เฟยไปตำหนักหลินอัน
ซึ่งตรงกับความตั้งใจของจิ๋วจิ่วพอดี พวกไท่เฟยออกเดินทาง ซุนไท่เฟยก็รู้ว่าตัวเองถูกฮ่องเต้เปลี่ยนตัวคนสนิท
และยังถูกจับตามอง
หลังจากคิดได้ก็ทำลายจดหมายที่หมดแช่ในกาน้ำชาและขว้างใส่ขันทีที่ไม่ทำตามคำสั่ง
จากนั้นก็หลีกเลี่ยงอาหารของตัวเอง จนกระทั่งถึงตำหนักหลินอันพอลงจากรถม้าก็ยังโดนนักฆ่าลอบสังหาร
มีเพียงเฉียนไท่เฟยที่อยู่ใกล้ ทั้งหมดเป็นคนสั่งของรุ่ยอ๋องที่ถ้าไม่ได้จดหมายที่บอกความชอบต่างๆของฮ่องเต้
ก็ต้องสังหารซุนไท่เฟยให้ได้
ช่วงนี้กู้หรูจิ่วอารมณ์ไม่ปกติ
จิ้นยางที่พอรู้อยู่แล้วให้หมอมาตรวจคราวนี้ก็เป็นที่แน่นอนว่ากู้หรูจิ่วตั้งครรภ์
จิ้นยางดูแลทุกอย่าง เรื่องของซุนไท่เฟยถูกส่งกลับมา
คนที่น่าสงสัยที่สุดก็คือรุ่ยอ๋อง
รุ่ยอ๋องให้คนกระพือข่าวว่าซุนไท่เฟยไม่ถูกกับฮองเฮา แต่กู้หรูจิ่วกลับเอาเรื่องรักสามเส้าของอดีตฮองเต้
รุ่ยอ๋อง และซุนไท่เฟยมาเล่าลือในหมู่ชาวบ้าน
ชาวบ้านยิ่งฟังยิ่งจินตนาการเรื่องราว ทำเอาจิ๋วจิ่วหัวเราะออกมาทีเดียว
ชื่อเสียงรุ่นอ๋องยิ่งตกต่ำ
จงอ๋องดูออกว่าคราวนี้เป็นฝีมือของฮองเฮา
จิ้นยางดูแลจิ๋วจิ่วอย่างดีทุกอย่าง ดูแลเสมือนไข่มุกเสมือนหยก
แล้วจงอ๋องก็ถวายฎีกาขออยู่เมืองหลวงตลอดไป จิ้นยางยังให้ส่วยอากรจากหรงโจวเป็นของจงอ๋อง
และสามารถโยกย้ายขุนนางของหรงโจวได้ เรื่องนี้ทำให้รุ่ยอ๋องโกรธจัดเพราะเหลือเพียงตัวเองที่เป็นอ๋องที่มีเขตปกครอง
เพราะฮองเฮาตั้งครรภ์สกุลโจวเลยมีความคิดอยากส่งบุตรสาวมาเป็นพระสนมอีกครั้งถูกทั้งไทเฮาและฮ่องเต้ไล่กลับไป
ฮ่องเต้ตัดสินใจรื้อคดีสกุลหลิน เพื่อให้ฉีเหลียนมีโอกาสแก้ไขให้สกุลตัวเองว่าถูกใส่ร้าย
ไม่ใช่เพราะวางยาพิษองค์ชายน้อย และยังมอบบรรดาศักดิ์ให้องค์ชายน้อยเป็นชินอ๋อง
ทำให้ไทเฮาดีใจมาก
บุตรชายชายาเฉิงอ๋องออกไปก่อเรื่องข้างนอก ทะเลาะกับเฉินข่งแล้วยังตกจากระเบียงชั้นสองหัวกระแทกพื้นตาย
ชายาเฉิงอ๋องไปด่าว่าฮองเฮาถึงประตูวัง กู้ฉุนจิ่งถีบเข้าให้
จิ้นยางก็ออกมาเองเพราะว่าภรรยาสุดที่รักเป็นนางมารร้ายอยู่นั้น
สั่งลดขั้นเป็นชายาจวิ้นอ๋องให้บุตรชายชายารองเป็นทายาทเฉิงอ๋องแทน จิ้นยางบอกว่ายังไม่ทันแก้แค้นก็มาด่วนตายไปซะก่อนแล้ว
เฉินฮูหยินยังจะมาขอร้องให้สกุลกู้ช่วย
เพราะเฉินข่งฆ่าคนต้องชดใช้ชีวิต จิ้นยางประกาศแล้วว่าให้ประหารชีวิต
ที่นี้พอสกุลกู้ไม่ช่วยก็มาด่าว่าอีก
จิ้นยางให้หยางซื่อมาอยู่เป็นเพื่อนจิ๋วจิ่ว วันที่มีการสอบคัดเลือกจิ๋วจิ่วตื่นมาดูแลจิ้นยาง
พอจิ้นยางไปจิ๋วจิ่วถึงบอกว่าตัวเองจะคลอดแล้ว
ห้ามบอกฮ่องเต้จนกว่าการสอบจะเสร็จสิ้น
พอการสอบเสร็จจิ๋วจิ่วก็ยังไม่คลอด ไป๋เสียนมาบอกเหอหมิง
จิ้นยางรีบไปทันที พอมาถึงก็จะบุกเข้าห้องคลอด พอมีคนห้าม ก็ส่งเสียงเข้าไป
พอจิ๋วจิ่วได้ยินเสียงจิ้นยางก็ด่าว่าเพราะความเจ็บปวด
กลายเป็นจิ้นยางกลัวซะเองรับผิดทั้งหมด แล้วก็บุกเข้าไปจนได้
แต่ละเรื่องที่ทำไม่มีใครเหมือนจริงๆ
สองคนพ่อแม่ดูลูกตัวเองแล้วบอกว่าหน้าตาหน้าขี้เหร่
ตอนจัดพิธีร้อยวันขององค์ชายน้อย ทำเอาเหล่าฮูหยินเห็นฮ่องเต้อุ้มลูกอย่างชำนาญ
แปลว่าทำบ่อยๆ ชื่นชมไม่ขาดปากทีเดียว
การสอบครั้งนี้มีสตรีปลอมเป็นบุตรสอบได้ระดับที่สอง
กู้หรูจิ่วสนใจจึงเรียกมาพบ เมื่อฟังเหตุผลก็จะช่วยพูดให้ฮ่องเต้
ทำให้มีจางไถเป็นนายอำเภออีกคนหนึ่ง พวกขุนนางบุ๋นก็ต้องยอมรับ เพราะมีขุนนางบู๊ก่อนหน้านี้ในประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงเป็นสตรี
จากนั้นไม่นานหลี่กวงเจี๋ยโดนหญิงออกเรือนแล้วมาร้องเรียนว่าเอาบุตรลูกอนุมาเป็นบุตรของภรรยาเอก
เรื่องราวจะว่าเล็กก็ได้จะว่าใหญ่ก็ได้
ตอนนี้จิ้นยางให้อู๋ซื่อเข้าวังมาเพื่อยืนยัน
สิ่งที่อู๋ซื่อเล่าทำให้ความจริงเปิดเผย
และยังมอบหลักฐานที่หลี่กวงเจี๋ยสมคบกับรุ่ยอ๋อง
หลี่ไหวกู่เป็นคนที่น่าสงสารที่สุด เพราะอู๋ซื่อที่เลี้ยงดูมายังไงก็รัก แต่ก็ทำใจไม่ได้กับการจากไปของบุตรี
และย้ำถึงคำสอนของตัวเอง ก่อนจากไปเพราะกินยาพิษมาก่อนหน้านี้ ในที่สุดสกุลหลี่ก็ล่มสลาย
หลี่ไหวกู่ลาออกจากราชการ ออกเดินทางจากเมืองหลวง
เพราะจิ้นยางเห็นว่าเหตุการณ์ครั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้วทำให้ขุนนางตื่นตระหนก
จึงจัดงานเลี้ยงชมบุปผาที่ตำหนักไท่เหอ รุ่ยอ๋องคิดจะก่อกบฏโดยใช้ชื่อฮองเฮาเป็นมารร้าย
กู้หรูจิ่วไม่กลัวรุ่ยอ๋อง พูดจนรุ่ยอ๋องกระอักเลือดด้วยความโกรธ แผนการต่างๆไม่เป็นไปตามที่คิด
เพราะจิ้นยางเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
รุ่ยอ๋องถูกถอดถอนเป็นสามัญชน จิ้นยางไปพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาก่อนที่ตัวเองจะเกิด
ทำให้รุ่ยอ๋องรู้ว่าความจริงแล้วจิ้นยางเป็นลูกของใคร ทำให้ยกเลิกแผนลอบสังหาร
แต่จริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้จิ้นยางรู้อยู่แล้ว
เหตุการณ์ต่างๆผ่านพ้นไป ใครทำสิ่งใด เลือกสิ่งใดก็ได้ผลตามนั้น
ความรักของเต๋อหลงฮ่องเต้และเจาเหอฮองเฮาถูกเล่าลือไปอีกนาน
หลังอ่านเล่ม 3 :
เรื่องราวทุกอย่างคลี่คลาย จิ้นยางรักจิ๋วจิ่วเสมือนไข่มุกเสมือนหยกจริง
ดูแลทุกอย่าง อะไรก็หึงจิ๋วจิ่วชอบมองหญิงงาม จิ้นยางก็ไม่ยอม ถามว่าใครงามกว่ากัน
แต่จริงๆแล้วทั้งสองคนก็กินไหน้ำส้มด้วยกันทั้งคู่เพราะรักกันมาก
จากที่คนไม่คิดว่าเป็นจริงสุดท้ายก็เชื่อว่าฮ่องเต้รักฮองเฮาเพียงผู้เดียว ทั้งยังมีไป๋เสียนและเหอหมิงขันทีคนสนิทที่แย่งกันทำหน้าที่
ที่รู้ดีกว่าใครในเรื่องการตามใจและรักใคร่ของฮ่องเต้ที่มีต่อฮองเฮา เป็นเรื่องราวที่งดงามที่จารึกในประวัติศาสตร์
เนื้อเรื่อง :
ฮ่องเต้องค์ก่อนสวรรคต ไม่มีทายาท
โจวฮองเฮาจึงต้องเลือกฮ่องเต้องค์ใหม่จากบุตรคนโตของเฉิงอ๋อง
กู้หรูจิ่วบุตรีคนเล็กของหนิงผิงปั๋ว ในวัยสิบปีเป็นที่รักใคร่ของครอบครัว
ไทเฮาให้กู้ฉางหลิงเป็นอาจารย์ถวายการสอนทรงพระอักษรและการวาดภาพของฮ่องเต้
ทำให้จิ๋วจิ่วรู้ว่าท่านพ่อชื่นชมฮ่องเต้น้อย กู้หรูจิ่วเป็นคนย้อนอดีตมา
จากวิชาประวัติศาสตร์ที่เรียนมาในชาติที่แล้ว ทำให้นางทราบคดีนองเลือดของการเลือกข้างไม่ชัดเจนหลายคดี
ถ้าฮ่องเต้น้อยดีจริงอย่างที่ท่านพ่อบอกก็ขอให้เขามีอายุยืนยาวอีกสักหน่อย
จิ้นยางรู้ว่ากู้ฉางหลิงตั้งใจอบรมด้วยความจริงใจ
ก็ให้ความเคารพ และอยากรู้จักกู้หรูจิ่วด้วยเพราะอาจารย์กู้กล่าวถึงบุตรีด้วยความรักใคร่บ่อยๆ
ต่างจากตัวเองที่ยามเด็กลำบากกว่าจะเดินทางมาเมืองหลวง
มีเหตุการณ์ที่สัตว์ทั้งหลายเตือนก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหว
กู้หรูจิ่วอ้างถึงบันทึกประหลาด ทำให้กู้ฉางหลิงรู้ตัวและเข้าวังบอกฮ่องเต้
จิ้นยางเชื่อกู้ฉางหลิง ชาวบ้านพ้นภัย สกุลใหญ่บ้านเรือนเสียหาย
ช่วงแรกจิ้นยางยังคงเป็นห่วงกู้หรูจิ่วในฐานะศิษย์น้อง
และความรู้สึกค่อยเปลี่ยนไป
ที่กู้หรูจิ่วยอมรับเพราะคำว่าจะมีเพียงจิ๋วจิ่วคนเดียวไม่มีใครอีก
ทั้งสองอยู่ด้วยกันด้วยความรัก
ฟันฝ่าสิ่งต่างๆร่วมกัน กู้หรูจิ่วความรู้สึกไว ฉลาดหลักแหลม
จิ้นยางที่อยู่ต่อหน้าจิ๋วจิ่วอบอุ่นอ่อนโยนความจริงแล้วเป็นคนที่ร้ายกาจคนหนึ่ง
มาดูจิ้นยางและจิ๋วจิ่วร่วมกันต่อสู้
คนหนึ่งต่อสู้กับคนในราชสำนัก อีกหนึ่งคนดูแลฝ่ายใน ที่ดูเหมือนทั้งสองอ่อนโยนใจดี
แต่จะมีบททดสอบมาให้ต้องจัดการอยู่เรื่อย ทั้งสองก็ทำได้ดี
จิ้นยาง : ก่อนเป็นฮ่องเต้เป็นคนที่ไม่มีอะไรอย่างแท้จริง
โดนแม่เลี้ยงรังแก น้องชาย น้องสาวต่างมารดากลั่นแกล้ง พ่อไม่รัก สุขภาพไม่แข็งแรง
แต่มีความมุ่งมั่นมาก
เมื่อเห็นจิ๋วจิ่วครั้งแรกคือดีใจที่เด็กหญิงคนนี้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เหมือนตนเอง
กู้หรูจิ่ว : เกิดมาในสกุลกู้ทุกคนรักใคร่
เลี้ยงดูอย่างทนุถนอมเอาใจ
เมื่อมาอยู่วังหลวงทุกคนคิดว่ารังแกง่ายแต่ความจริงแล้วคนสกุลกู้ ฉลาดขนาดไหน อยู่เป็นร้อยปีไม่เคยตกต่ำแต่ก็ไม่ขึ้นสูง
อยู่อันดับสองจากท้ายไม่โดดเด่นแต่อยู่มายืนยาว
ไป๋เสียน : กงกงที่ตามรับใช้จิ้นยางตั้งแต่เด็ก
ต่อมามองเห็นความสำคัญของกู้หรูจิ่วจึงมาติดตามกู้หรูจิ่ว ได้รับความสำคัญจากทั้งจิ๋วจิ่วและจิ้นยาง
เหอหมิง : กงกงที่ขับเคี่ยวกันมากับไป๋เสียน
ดูถูกที่ไป๋เสียนไปประจบเอาใจกู้หรูจิ่ว สุดท้ายก็ต้องยอมรับ
หลังอ่าน :
เส้นเรื่องคือเรื่องราวในราชสำนัก
และการตัดสินคนจากสกุลผู้ดีเก่าแก่หลายร้อยปี กับสกุลผู้ดีใหม่ที่เพิ่งได้ดี
หรือจากยากจนแต่สามารถมาถึงตำแหน่งสูงได้ ทั้งเรื่องจะบอกเล่าถึงการเป็นสกุลผู้ดีอันดับหนึ่ง
หรือเป็นคนธรรมดา แต่ความจริงแล้วทุกอย่างต้องขึ้นกับฮ่องเต้ว่าจะให้หรือไม่
เพราะทุกสิ่งในแผ่นดินคือของฮ่องเต้ ที่จิ๋วจิ่วบอกจิ้นยางตั้งแต่เด็ก
นักเขียนผูกปมเรื่องเอาไว้ ตั้งแต่เล่มแรก สังเกตจากการแสดงออกของตัวละครต่างๆ
และจะค่อยๆเฉลยออกมาว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
มีการเฉลยปมทุกเรื่อง เมื่ออ่านจบ
ในเล่มสองเป็นเล่มที่เบาแต่น่ารักมากเพราะเพิ่งแต่งงาน
จิ้นยางยิ่งแสดงความรักต่อจิ๋วจิ่วจนคนใกล้ชิดต่างคาดไม่ถึง นานๆไปก็ชินไปเอง
เล่มสุดท้ายทุกอย่างมีการเฉลย ทุกจุดจบ บทลงเอยต่างๆล้วนมีบอกไว้ ทั้งยังมีบทสรุปของตัวละครว่าที่แต่ละตัวละครเลือกเดินนั้นผลสุดท้ายเป็นอย่างไร
เป็นแนว feel good ที่อ่านแล้วต้องยิ้มไปกับความน่ารักของตัวละคร
บทสรุปที่มีความสุขค่ะ
(11/8/63)