Monday, February 10, 2020

#กำราบรักแม่ทัพเผด็จการ #2เล่มจบ #สนพ.ห้องสมุด


Review : 4/2563
เรื่อง : กำราบรักแม่ทัพเผด็จการ (2 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : เย่วเชี่ยจินหู (Yuexiajinhu)
ผู้แปล : ทีมแปลห้องสมุด
พิมพ์ครั้งที่ 1 : กุมภาพันธ์ 2562

โปรยปกหลัง :
สองตาเขาได้เห็น ‘ถานหวั่นชิง’ ธิดาของอัครเสนาบดีอีกครั้ง
นางนั่งอยู่บนหลังม้าฝีเท้าดี แม้อาภรณ์ที่สวมจะไร้สีสัน อีกทั้งผิวยังขาวซีดราวหิมะ
ทว่ากลับดูบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้จุดด่างพร้อย
นับเป็นคุณหนูตระกูลสูงที่งามหยาดฟ้ายิ่งกว่าสตรีใด

เมื่อเปรียบกับคนเบื้องล่างอย่าง 'เซี่ยเฉิงจู่'
เขาช่างต่ำต้อย ยากจนข้นแค้นจนสุดจะรับไหว
เขานึกสะเทือนใจกับภาพที่เห็นจนทั่วทั้งร่างแทบไร้เรี่ยวแรงเดินไปข้างหน้า
ภายในใจเซี่ยเฉิงจู่อยากจะตะโกนระบายความน้อยเนื้อต่ำใจที่ท่วมท้นอยู่ในอก

 เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มอนาถาวัยสิบสามปีที่มีจิตใจเย็นชา
ภาพตรงหน้าชัดเจนว่าผู้ที่ทำร้ายมารดาและน้องชายของเขา
กลับมีชีวิตสมบูรณ์พูนสุขเสียเหลือเกิน

เซี่ยเฉิงจู่กำมือแน่น สาบานกับตัวเอง ต้องมีสักวัน เขาจะให้นางได้ชดใช้
เขาจะทำให้ผิวขาวราวหิมะที่ขวางหูขวางตานั่นต้องด่างพร้อยแปดเปื้อน
คิดไม่ถึงว่าสวรรค์จะช่วยเหลือ วันที่รอคอยช่างมาถึงเร็วจริงๆ...

คำนำสนพ. :
และแล้ว... แนวจำเลยรักก็มา! เล่มนี้เราจะหนีจากรั้ววังมาเฝ้าประตูเมืองกันแทน กับ "กำราบรักแม่ทัพเผด็จการ" (สองเล่มจบ) จากปลายปากกาของผู้แต่ง อสุรากับยาใจ ตัวพระเอกเรื่องนี้เป็นถึงแม่ทัพใหญ่คุมหัวเมืองชายแดนที่รุ่งเรืองที่สุดแห่งหนึ่ง ส่วนนางเอกของเราก็เป็นดอกฟ้าแก้วตาดวงใจของท่านอัครเสนาบดี ที่พันปีคงไม่มีทางได้ร่วงลงมาพบหน้ากับพระเอกสักครั้ง แต่ด้วยทางบ้านของนางจู่ๆ ก็ต้องโทษกบฏซะงั้น ดอกฟ้าดอกนี้ก็เลยไม่ไกลเกินมือท่านแม่ทัพจะเอื้อมเด็ด! ส่วนจะเด็ดยังไง วิธีไหน ไปติดตามกันในเล่มเลย

ทีมงานห้องสมุด



เล่ม 1 :

เพราะความแค้นที่ถานหวั่นชิงเคยทำไว้ ทำให้เซี่ยเฉิงจู่จดจำไม่ลืม ต่อมาทั้งบ้านอัครเสนาบดีกลับต้องโทษกบฏ กลายเป็นนักโทษใช้แรงงาน แต่ระหว่างทางถานหวั่นชิงสามารถหนีออกมาได้พร้อมลุ่ยจูสาวใช้ ระหว่างที่หนี นางได้ใช้เงินที่แอบนำติดตัวมาแลกกับสถานะปลอมเป็นนักบวชหญิงเดินทางเข้าเมืองเว่ยอัน
แต่นางไม่รู้เลยว่าตั้งแต่หนีมาได้ ถานหวั่นชิงได้ถูกเซี่ยเฉิงจู่ผู้มีความรักความแค้นจับตามองตลอดเวลาแล้ว และเมืองเว่ยอันนี้ก็เป็นพื้นที่ในการดูแลของแม่ทัพเซี่ย เซี่ยเฉิงจู่พอดี ถานหวั่นชิงเตรียมตัวพร้อมตั้งแต่แรกแล้วว่าซักวันจะต้องมีวันนี้เพราะนางรู้ดีว่าฮ่องเต้ไม่มีทางปล่อยให้อัครเสนาบดีเป็นผู้รักษาการแทนได้ตลอดไป แต่นางไม่คิดว่าคนโบราณก็มีความฉลาด และมีความคิดของคนโบราณ สุดท้ายได้แต่ปล่อยเรื่องไปตามจริง เพราะไม่สามารถช่วยอะไรได้
เพราะเรื่องนี้ถานหวั่นชิงจึงเตรียมตัวสำหรับตัวเอง ยังพอมีแอบซ้อนทองใบไม้ไว้กับตัว และพยายามปรับตัวตามสภาพ หารายได้โดยการทำลูกชิ้นปลาหมึกที่ไม่มีคนกิน พอขายได้ดี ก็เจอการพูดของแม่ทัพเซี่ยทำให้ตกใจจนหาทางหนีออกจากเมือง สุดท้ายก็หนีไม่พ้นเพราะโดนตรวจสอบ
และแล้วความจริงก็ปรากฏว่าแม่ทัพเซี่ยรู้สถานะที่แท้จริงของถานหวั่นชิง และบอกความจริงว่าตอนนี้เมืองเว่ยอันเป็นเมืองที่กลวงเปล่า ทั้งถามถึงสมบัติของสกุลถานว่าอยู่ที่ไหน เพราะที่ทางการค้นเจอมีน้อยเกินไป ถานหวั่นชิงไม่รู้ แต่บอกส่วนของตัวเองว่าแอบฝังโฉนดที่ดินเอาไว้ที่ไหน
ถานหวั่นชิงคิดว่าคราวนี้ต้องหนีออกจากเมืองเว่ยอัน แต่กลับถูกพวกโจรต๋าจับตัวไปในขบวนผ้าที่แอบซ่อนตัวอยู่ พอเซี่ยเฉิงจู่รู้ข่าวก็รีบร้อนออกไปช่วยเหลือ พวกลูกน้องคนสนิทต่างรู้ดีว่าถานหวั่นชิงเป็นนางในดวงใจของแม่ทัพเซี่ย เพราะท่านแม่ทัพคอยดูแลทุกอย่างด้วยตัวเอง
เมื่อกลับมาได้ และมีข่าวดีจากกลุ่มที่ไปหาสมบัติสกุลถานก็สามารถสร้างกำแพงป้องกันโจรต๋าได้แล้ว ส่วนถานหวั่นชิงในที่สุดก็บอกกับเซี่ยเฉิงจู่ว่าจะไม่เข้าสกุลเซี่ย ไม่เป็นอนุภรรยา จะอยู่จนกว่าเซี่ยเฉิงจู่จะแต่งงาน เพราะนางเป็นนักโทษหลบหนีไม่คู่ควรกับแม่ทัพอนาคตไกล ส่วนเซี่ยเฉิงจู่กลับคิดว่านางรังเกียจสกุลเซี่ย เข้าใจคนละอย่างไปได้
ถานหวั่นชิงรับปากสอนวาดภาพกับซ่งฮูหยิน และได้เจอกับฝูอันน้องชายที่ไม่ยอมพูดของเซี่ยเฉิงจู่ และก็รู้ว่านี่คือผลจากเรื่องราวในปีนั้นอีกเช่นกัน

หลังอ่านเล่ม1 :

ในเล่มหนึ่ง ทำให้เห็นว่านางเอก ถานหวั่นชิงเป็นคนที่มองโลกตามความเป็นจริง พออ่านไปปมเรื่องจะเฉลยว่านางเอกไม่ได้เป็นคนยุคนี้ จึงมองโลกแตกต่างแต่ก็ไม่ได้ดูถูกคนโบราณ พยายามทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแต่เมื่อแก้ไขไม่ได้ก็ยอมรับความจริง
ส่วนเซี่ยเฉิงจู่ ที่บอกว่าแค้นถานหวั่นชิง เมื่อได้ฟังถานหวั่นชิงบอกก็คิดได้ส่วนหนึ่ง ในใจแอบชอบนาง คอยดูแลนางตลอด แต่เพราะความจริงแล้วตัวเองฐานะแตกต่างจากถานหวั่นชิงทำให้นางเอกพูดอะไรที่เป็นความจริง ก็ฟังขัดหู รับไม่ได้ คิดไปว่านางรังเกียจสกุลของตัวเอง ทั้งๆที่ความจริงแล้วนางมองโลกตามความเป็นจริง และปล่อยวาง อยากอยู่อย่างสงบเพียงเท่านั้น
สุดท้ายเรื่องราวจะจบลงแบบไหน ต้องอ่านเล่มจบต่อไป

เล่ม 2 :


จากที่ถานหวั่นชิงมาสอนวาดภาพ ทำให้ได้พบกับพ่อบ้านหร่วน คนเก่าแก่ของบ้านสกุลถานที่โดนเนรเทศมาเปลี่ยนแปลงไปจนจำเกือบไม่ได้ ทำให้อยากจะไถ่ตัวคืนให้ พอใต้เท้าเซี่ยมาเห็นก็พาถานหวั่นชิงเข้าไปในค่ายทหารด้วยความโกรธทันที
ทำให้เห็นว่าความจริงแล้วทั้งหึงทั้งเป็นห่วง แต่นางเอกยังไม่สนใจ เซี่ยเฉิงจู่เลยเขียนหนังสือสัญญาที่นางต้องการ ทีนี้ถานหวั่นชิงเลยยอมถอดเสื้อออกเลยทีเดียว แต่ซักพักกลับสังเกตเห็นว่าไม่ได้ลงชื่อ แถมนางยังสนใจแต่หนังสือสัญญา พอรู้ว่าไม่ได้ลงชื่อก็ต่อว่า เซี่ยเฉิงจู่เลยฉีกทิ้งซะเลย ซึ่งจึงๆก็ตั้งใจจะฉีกทิ้งอยู่แล้ว คราวนี้ต่างคนต่างโกรธด้วยเหตุผลต่างกัน นางเอกยอมก็ได้แต่สุดท้ายก็สลบไป ส่วนใต้เท้าเซี่ยมีคนงาม คนในดวงใจอยู่กับตัวถนอมยังไงก็ยังทิ้งร่องรอยเอาไว้อยู่ดี สรุปคราวนี้ยังไม่ได้กิน แต่เห็นหมดแล้ว
สุดท้ายก็พาออกจากค่ายทหาร วันรุ่งขึ้นถานหวั่นชิงวางแผนไว้แล้ว โดยการเอาเงินจำนวนหนึ่งพร้อมทั้งจดหมายลับให้อดีตพ่อบ้านไป พ่อบ้านก็รีบออกจากเมืองในคืนนั้นเลย ส่วนเซี่ยเฉิงจู่ก็พาฝูอินมาหาถานหวั่นชิง และยังอยู่ค้างคืน สุดท้ายก็ได้กินซะที นางเอกยังกลัวว่าตัวเองจะเป็นเหมือนมารดาที่พอร่วมหอแล้วจะตายโดยเร็ว แต่นางกลับไม่เป็นอะไรเลย ทั้งยังอยู่ดีอีกด้วย
เซี่ยเฉิงจู่พาถานหวั่นชิงไปเมืองเฟิงหลี เพราะบิดาของนางอยู่ที่นั้น นางไม่อยากจะมาก็โดนจับใส่เกี้ยวมา แม่ทัพเซี่ยดูแลอย่างดียิ่งกว่าอะไร ทหารทุกคนรู้ดีที่สุด เพราะทั้งตามใจทั้งทะนุถนอมนาง ตอนขากลับในที่สุดถานหวั่นชิงก็ได้เห็นบิดาที่ตัวเองเรียกมายี่สิบปี กับมารดาเลี้ยงและน้องสาวต่างมารดา ที่กำลังโวยวายเพราะว่าจะถูกขายเพื่อรักษาพี่ชาย ถานหวั่นชิงขอร้องให้เซี่ยเฉิงจู่ช่วย แต่เซี่ยเฉิงจู่กลับบอกว่าเป็นสิ่งที่ถานจิ่งเอี๋ยนสมควรได้รับ แต่สุดท้ายก็ต้องช่วยเหลือ
ระหว่างทางที่ทะเลาะกันเซี่ยเฉิงจู่ไม่มาดูแล พูดจา แต่พอตกค่ำต้องค้างแรมในหมู่บ้านร้างสุดท้ายก็ต้องมาดูแลคนขี้หนาว และในที่สุดก็คืนดีกัน
ถานหวั่นชิงเคยชินกับการมีเซี่ยเฉิงจู่ในชีวิตอย่างไม่รู้ตัว นางเริ่มมีใจให้แต่ก็ยังไม่ยอมรับอยู่ดี เซี่ยเฉิงจู่ขนของหมั้นมา และพูดเรื่องแต่งงานหลายครั้งนางก็บ่ายเบี่ยงตลอด จนหลังตรุษจีน ย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิ ถานหวั่นชิงเริ่มมีใจขึ้นเรื่อยๆ และไม่อยากจากไป แต่ก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วงอนาคต อีกทั้งไม่รู้ว่าตัวเองจะมีอายุนานแค่ไหน ช่วงระหว่างนี้ถานหวั่นชิงเป็นคนพบพรสวรรค์ของเซี่ยฝูอิน ที่พูดผ่านภาพวาด จึงสอยวาดภาพและดูแลฝูอินอย่างดี
ในที่เซี่ยเฉิงจู่ก็รู้ว่าเพราะอะไรถานหวั่นชิงจึงบ่ายเบี่ยงมาตลอด เมื่อมีขบวนผู้คุ้มกันเดินทางมาถึงก็เข้าใจ จึงคิดว่านางอยากไปก็ต้องได้ไป คนหนึ่งโกรธที่ไม่เชื่อใจ อีกคนหนึ่งก็คิดว่าในที่สุดวันนี้ก็มาถึงวันที่ตัวเองไม่เป็นที่ต้องการ จึงจากไปทันที
เมื่อออกจากเมืองแล้วเป็นวันที่ฝนตกหนัก ต้องหยุดพักหมู่บ้านข้างหน้าไม่อาจหันกลับ ถ้ากลับก็เท่ากับยอมแพ้ สุดท้ายพอหยุดพักก็พบกับโจรต๋ามาบุกปล้น เซี่ยเฉิงจู่มาช่วยโดนเร็ว และก็ได้รู้ว่าถานหวั่นชิงตั้งครรภ์แล้ว ในที่สุดทั้งสองก็ปรับความเข้าใจกัน ถามตามตรงว่ายังแค้นเรื่องเมื่อปีนั้นอีกหรือไม่
เซี่ยเฉิงจู่ยอมบอกความจริงในที่สุด ว่าตอนนั้นท่านแม่บอกไม่ให้คิดแค้นเพราะถ้าไม่โดนแส้ก็จะโดนเหยียบตาย สรุปแล้วคือรักถานหวั่นชิงมาตลอด และแล้วถานหวั่นชิงก็ยอมรับว่าจะอยู่กับเซี่ยเฉิงจู่ไปชั่วชีวิต
ตอนนี้สิ่งที่นางกังวลคือเมื่อตั้งครรภ์จะทำให้คลอดยาก แต่พอให้หมอมาตรวจหลายคนก็บอกว่าแค่ร่างกายอ่อนแอเล็กน้อยเท่านั้นไม่ร้ายแรงอย่างที่คิด ในที่สุดก็ถามว่าเซี่ยเฉิงจู่ฝึกวิชาอะไร เซี่ยเฉิงจู่บอกมาสรุปว่าเป็นวิชาที่บำรุงพลังหยาง แต่พอข้องเกี่ยวกับสตรีจะสูญเสียพลังไปไม่อาจบรรลุขั้นสูงสุด นี่ก็คือเหตุผลที่ถานหวั่นชิงแข็งแรงขึ้น นางคิดว่าชีวิตนี้ช่างดีจริงๆที่ได้พอชายผู้นี้
เมื่อแต่งงานกัน ย้ายมาอยู่ที่จวนเจ้าเมือง จนชายแดนเกิดปัญหาเซี่ยเฉิงจู่ได้รับคำสั่งให้ไปบัญชาการรบเพื่อยึดเมืองชายแดนคืนจากพวกต๋า จนเกือบจะกลับมาไม่ทันการคลอดของฮูหยิน
เวลาผ่านไปถานหวั่นชิงก็กังวลใจว่าวันใด เซี่ยเฉิงจู่จะต้องกลับเข้าเมืองหลวง แต่สุดท้ายนางก็คิดได้ ปล่อยวางให้เป็นเรื่องราวของอนาคตที่ยังมาไม่ถึง และอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข

หลังอ่านเล่ม 2 :

จากที่ถานหวั่นชิงวางแผนเอาไว้ ว่าให้ตัวเองอยู่อย่างเงียบๆต่อไปอีกไม่กี่ปีเพราะตนนั้นร่างกายไม่แข็งแรงแต่กำเนิดมีชีวิตไม่ยืนยาว ยิ่งถ้าตั้งครรภ์คลอดบุตรก็ไม่อาจมีชีวิตได้ แต่เซี่ยเฉิงจู่ที่รักและดูแลถานหวั่นชิงมาตลอด เรื่องราวใดๆ ก็ล้วนไม่อาจหลุดรอดไปได้
ถานหวั่นชิงในที่สุดก็เปิดใจยอมรับการดูแลจากเซี่ยเฉิงจู่ และเคยชินอีกด้วย ตัวเองก็คอยดูแลอาหารการกิน ความเป็นอยู่ต่างๆ เซี่ยเฉิงจู่ถามหลายครั้งเรื่องแต่งงานนางก็บ่ายเบี่ยงตลอดเวลา ทำให้เซี่ยเฉิงจู่ไม่พอใจ
สุดท้ายก็รู้ว่าเพราะอะไร และเจ้าตัวก็วางแผนปล่อยตัวอีกฝ่ายไปเองด้วย ทำให้ตอนแรกนางเอกคิดว่าในที่สุดวันนี้ก็มาถึงเพราะตนไม่คู่ควร เป็นเพียงนักโทษหลบหนีเท่านั้น ไม่อยากจะเป็นตัวถ่วง ก็ตัดใจได้และจากไปทันที แต่สุดท้ายก็เป็นนางเอกที่คอดได้ว่านิสัยของพระเอกเป็นยังไง เพราะนางเป็นคนยุคอื่นเห็นโลกมามากกว่าทำให้กล้าคิดกล้าทำ สุดท้ายก็ถามตามตรงและได้รับคำตอบแท้จริงทำให้ชีวิตมีความสุข
สรุปว่าพระเอกเก็บงำความรักมานาน ถ้านางเอกไม่ตกอับชาตินี้คงไม่มีใคร เรียกได้ว่าบุพเพจริงๆ ดูการใช้ชีวิต และการดำเนินชีวิตของทั้งคู่ที่แตกต่างแต่สุดท้ายสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างดี เพราะความรัก

เนื้อเรื่อง :

เซี่ยเฉิงจู่ มีความแค้นกับถานหวั่นชิงบุตรสาวอัครเสนาบดี ที่ปีนั้นใช้แส้ม้าฟาดใส่มารดาและตัวเอง ต่อมาบ้านสกุลถานต้องโทษเนรเทศทั้งบ้าน ถานหวั่นชิงหนีรอดระหว่างโจรป่าบุกขบวนคุมนักโทษไปได้ นางจึงเปลี่ยนชื่อและเข้าเมืองชายแดนเว่ยอันเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
เมืองเว่ยอันเป็นเมืองชายแดนในการควบคุมของแม่ทัพเซี่ยเฉิงจู่ จริงๆแล้วตั้งแต่ต้นเซี่ยเฉิงจู่คอยตามดูถานหวั่นชิงตลอดเวลา จากคุณหนูสูงศักดิ์ต้องมาอยู่บ้านเช่าซอมซ่อ แต่นางก็อยู่ได้อย่างดี และสามารถหารายได้ได้อีกด้วย เพราะนางมองโลกตามความเป็นจริง และนางไม่ได้เป็นคนในยุคนี้ แต่ร่างกายนี้อ่อนแอแต่กำเนิดต้องบำรุงดูแลร่างกายอย่างดี
เซี่ยเฉิงจู่ในที่สุดก็มาบอกว่าตนรู้ฐานะที่แท้จริง และถามว่าสมบัติตระกูลถานอยู่ที่ไหน และบอกความแค้นในปีนั้น ถานหวั่นชิงหาทางหนี แต่ก็ไม่อาจหนีได้ ถ้าไม่ได้เซี่ยเฉิงจู่ช่วยไว้นางคงตายไปแล้ว
เมืองเว่ยอันมีแค่เปลีอกแต่เซี่ยเฉิงจู่ทำเพื่อทหารและผู้อพยพ สุดท้ายก็สามารถฟื้นฟูเมืองได้ ถานหวั่นชิงในที่สุดก็ได้รู้จักฝูอิน น้องชายของเซี่ยเฉิงจู่ที่อยู่ในท้องมารดาของเซี่ยเฉิงจู่ในปีนั้นก็คอยดูแล
นางยอมตกลงอยู่ด้วยแต่ไม่เข้าตระกูลเซี่ย และไม่เป็นอนุ เหตุผลคือต่อไปเซี่ยเฉิงจู่ต้องเจริญก้าวหน้า นางไม่อยากฉุดรั้งเอาไว้ แต่เซี่ยเฉิงจู่ไม่เข้าใจคิดว่านางรังเกียจสกุลเซี่ย สุดท้ายก็เขียนสัญญา แต่ก็ฉีกทิ้งเพราะไม่คิดจะให้เกิดขึ้น ในที่สุดทั้งสองก็อยู่ด้วยกัน เซี่ยเฉิงจู่ดูแลถานหวั่นชิงอย่างดี ทะนุถนอมทุกอย่าง นางก็ยังคิดทางเผื่อเอาไว้ เมื่อเวลาผ่านไปเซี่ยเฉิงจู่พูดเรื่องแต่งงานนางก็บ่ายเบี่ยง สุดท้ายก็รู้ว่าเพราะอะไร แต่เป็นการเข้าใจฝ่ายเดียว
เซี่ยเฉิงจู่ยอมปล่อยถานหวั่นชิงไป ทำให้นางน้อยใจคิดว่าในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เพราะนางมองโลกตามความจริง แต่เมื่อเดินทางออกจากเมืองก็คิดได้ ไม่กลับไปง้อ เพราะถ้าง้อคือแพ้ ที่แท้นี่คือการลงโทษทรมานนาง แต่จริงๆไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ ในที่สุดนางก็เข้าใจนิสัยของเซี่ยเฉิงจู่ และในคืนนั้นพวกโจรต๋าก็บุกมาอีก เซี่ยเฉิงจู่ก็รีบมาช่วยเหลือ ทั้งยังรู้ว่านางตั้งครรภ์แล้ว
สุดท้ายทั้งคู่ก็ยอมเปิดใจ และแต่งงานกัน ถานหวั่นชิงแม้จะกังวลเรื่องในอนาคตที่ตัวเองเป็นนักโทษหลบหนี แต่สุดท้ายนางก็อยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข เพราะในที่สุดนางก็ปล่อยวางจากความคิดมากได้เสียที 

หลังอ่าน :

เนื้อเรื่องตอนแรกจะค่อยๆบรรยายความเป็นไปของถานหวั่นชิง และการเตรียมพร้อมของนาง สุดท้ายจะได้รู้ว่านางไม่ได้เป็นคนในยุคนี้จึงมีความคิดแตกต่าง มีการเตรียมพร้อมมากมายให้ตัวเองหลังเกิดเรื่องกับสกุลถาน นางพร้อมรับทุกสถานการณ์ และมองโลกตามความจริง
เซี่ยเฉิงจู่ ที่มีความแค้นกับถานหวั่นชิง ตอนแรกก็ติดตาม สอดส่องนางตลอดก็จะเปิดเผยความจริงว่าตัวเองรู้ว่านางคือใคร พออ่านๆไปจะรู้ว่าแม่ทัพเซี่ยนี่รักปักหลักมั่นคงมาหลายปี ทำทุกอย่างเพื่อนางเอกจริงๆ ถ้าครอบครัวนางเอกไม่ตกอับชาตินี้ตัวเองก็หมดหวังตลอดการ
สรุปเนื้อเรื่องก็มีดูการใช้ชีวิตของสองคนที่แตกต่าง สุดท้ายจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร คนหนึ่งมองโลกตามความจริง มองการณ์ไกล กับอีกคนเจ้าแผนการวางแผนทุกขั้นเพี่อให้ได้ตัว แต่อย่างที่บอกความรักชนะทุกอุปสรรค มาร่วมกันลุ้นกับความรักของเซี่ยเฉิงจู่และถานหวั่นชิง ที่ต้องลุ้นจนเกือบจบเล่มว่าจะยอมเปิดปากพูดความจริงกันเมื่อไหร่ อย่างไร และให้ยิ้มไปกับการรักเมียตามใจเมีย จนนายทหารลูกน้องบ่นกับอุบทีเดียว