Review : 4/2563
เรื่อง : กำราบรักแม่ทัพเผด็จการ (2 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : เย่วเชี่ยจินหู (Yuexiajinhu)
ผู้แปล : ทีมแปลห้องสมุด
พิมพ์ครั้งที่ 1 : กุมภาพันธ์
2562
โปรยปกหลัง :
สองตาเขาได้เห็น ‘ถานหวั่นชิง’
ธิดาของอัครเสนาบดีอีกครั้ง
นางนั่งอยู่บนหลังม้าฝีเท้าดี
แม้อาภรณ์ที่สวมจะไร้สีสัน อีกทั้งผิวยังขาวซีดราวหิมะ
ทว่ากลับดูบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้จุดด่างพร้อย
นับเป็นคุณหนูตระกูลสูงที่งามหยาดฟ้ายิ่งกว่าสตรีใด
เมื่อเปรียบกับคนเบื้องล่างอย่าง 'เซี่ยเฉิงจู่'
เขาช่างต่ำต้อย ยากจนข้นแค้นจนสุดจะรับไหว
เขานึกสะเทือนใจกับภาพที่เห็นจนทั่วทั้งร่างแทบไร้เรี่ยวแรงเดินไปข้างหน้า
ภายในใจเซี่ยเฉิงจู่อยากจะตะโกนระบายความน้อยเนื้อต่ำใจที่ท่วมท้นอยู่ในอก
เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มอนาถาวัยสิบสามปีที่มีจิตใจเย็นชา
ภาพตรงหน้าชัดเจนว่าผู้ที่ทำร้ายมารดาและน้องชายของเขา
กลับมีชีวิตสมบูรณ์พูนสุขเสียเหลือเกิน
เซี่ยเฉิงจู่กำมือแน่น สาบานกับตัวเอง
ต้องมีสักวัน เขาจะให้นางได้ชดใช้
เขาจะทำให้ผิวขาวราวหิมะที่ขวางหูขวางตานั่นต้องด่างพร้อยแปดเปื้อน
คิดไม่ถึงว่าสวรรค์จะช่วยเหลือ
วันที่รอคอยช่างมาถึงเร็วจริงๆ...
คำนำสนพ. :
และแล้ว... แนวจำเลยรักก็มา!
เล่มนี้เราจะหนีจากรั้ววังมาเฝ้าประตูเมืองกันแทน กับ
"กำราบรักแม่ทัพเผด็จการ" (สองเล่มจบ) จากปลายปากกาของผู้แต่ง
อสุรากับยาใจ
ตัวพระเอกเรื่องนี้เป็นถึงแม่ทัพใหญ่คุมหัวเมืองชายแดนที่รุ่งเรืองที่สุดแห่งหนึ่ง
ส่วนนางเอกของเราก็เป็นดอกฟ้าแก้วตาดวงใจของท่านอัครเสนาบดี
ที่พันปีคงไม่มีทางได้ร่วงลงมาพบหน้ากับพระเอกสักครั้ง แต่ด้วยทางบ้านของนางจู่ๆ
ก็ต้องโทษกบฏซะงั้น ดอกฟ้าดอกนี้ก็เลยไม่ไกลเกินมือท่านแม่ทัพจะเอื้อมเด็ด!
ส่วนจะเด็ดยังไง วิธีไหน ไปติดตามกันในเล่มเลย
ทีมงานห้องสมุด
เล่ม 1 :
เพราะความแค้นที่ถานหวั่นชิงเคยทำไว้ ทำให้เซี่ยเฉิงจู่จดจำไม่ลืม
ต่อมาทั้งบ้านอัครเสนาบดีกลับต้องโทษกบฏ กลายเป็นนักโทษใช้แรงงาน
แต่ระหว่างทางถานหวั่นชิงสามารถหนีออกมาได้พร้อมลุ่ยจูสาวใช้ ระหว่างที่หนี
นางได้ใช้เงินที่แอบนำติดตัวมาแลกกับสถานะปลอมเป็นนักบวชหญิงเดินทางเข้าเมืองเว่ยอัน
แต่นางไม่รู้เลยว่าตั้งแต่หนีมาได้
ถานหวั่นชิงได้ถูกเซี่ยเฉิงจู่ผู้มีความรักความแค้นจับตามองตลอดเวลาแล้ว
และเมืองเว่ยอันนี้ก็เป็นพื้นที่ในการดูแลของแม่ทัพเซี่ย เซี่ยเฉิงจู่พอดี
ถานหวั่นชิงเตรียมตัวพร้อมตั้งแต่แรกแล้วว่าซักวันจะต้องมีวันนี้เพราะนางรู้ดีว่าฮ่องเต้ไม่มีทางปล่อยให้อัครเสนาบดีเป็นผู้รักษาการแทนได้ตลอดไป
แต่นางไม่คิดว่าคนโบราณก็มีความฉลาด และมีความคิดของคนโบราณ
สุดท้ายได้แต่ปล่อยเรื่องไปตามจริง เพราะไม่สามารถช่วยอะไรได้
เพราะเรื่องนี้ถานหวั่นชิงจึงเตรียมตัวสำหรับตัวเอง
ยังพอมีแอบซ้อนทองใบไม้ไว้กับตัว และพยายามปรับตัวตามสภาพ
หารายได้โดยการทำลูกชิ้นปลาหมึกที่ไม่มีคนกิน พอขายได้ดี
ก็เจอการพูดของแม่ทัพเซี่ยทำให้ตกใจจนหาทางหนีออกจากเมือง
สุดท้ายก็หนีไม่พ้นเพราะโดนตรวจสอบ
และแล้วความจริงก็ปรากฏว่าแม่ทัพเซี่ยรู้สถานะที่แท้จริงของถานหวั่นชิง
และบอกความจริงว่าตอนนี้เมืองเว่ยอันเป็นเมืองที่กลวงเปล่า
ทั้งถามถึงสมบัติของสกุลถานว่าอยู่ที่ไหน เพราะที่ทางการค้นเจอมีน้อยเกินไป
ถานหวั่นชิงไม่รู้ แต่บอกส่วนของตัวเองว่าแอบฝังโฉนดที่ดินเอาไว้ที่ไหน
ถานหวั่นชิงคิดว่าคราวนี้ต้องหนีออกจากเมืองเว่ยอัน
แต่กลับถูกพวกโจรต๋าจับตัวไปในขบวนผ้าที่แอบซ่อนตัวอยู่
พอเซี่ยเฉิงจู่รู้ข่าวก็รีบร้อนออกไปช่วยเหลือ
พวกลูกน้องคนสนิทต่างรู้ดีว่าถานหวั่นชิงเป็นนางในดวงใจของแม่ทัพเซี่ย
เพราะท่านแม่ทัพคอยดูแลทุกอย่างด้วยตัวเอง
เมื่อกลับมาได้ และมีข่าวดีจากกลุ่มที่ไปหาสมบัติสกุลถานก็สามารถสร้างกำแพงป้องกันโจรต๋าได้แล้ว
ส่วนถานหวั่นชิงในที่สุดก็บอกกับเซี่ยเฉิงจู่ว่าจะไม่เข้าสกุลเซี่ย
ไม่เป็นอนุภรรยา จะอยู่จนกว่าเซี่ยเฉิงจู่จะแต่งงาน
เพราะนางเป็นนักโทษหลบหนีไม่คู่ควรกับแม่ทัพอนาคตไกล ส่วนเซี่ยเฉิงจู่กลับคิดว่านางรังเกียจสกุลเซี่ย
เข้าใจคนละอย่างไปได้
ถานหวั่นชิงรับปากสอนวาดภาพกับซ่งฮูหยิน
และได้เจอกับฝูอันน้องชายที่ไม่ยอมพูดของเซี่ยเฉิงจู่
และก็รู้ว่านี่คือผลจากเรื่องราวในปีนั้นอีกเช่นกัน
หลังอ่านเล่ม1 :
ในเล่มหนึ่ง ทำให้เห็นว่านางเอก ถานหวั่นชิงเป็นคนที่มองโลกตามความเป็นจริง
พออ่านไปปมเรื่องจะเฉลยว่านางเอกไม่ได้เป็นคนยุคนี้
จึงมองโลกแตกต่างแต่ก็ไม่ได้ดูถูกคนโบราณ
พยายามทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแต่เมื่อแก้ไขไม่ได้ก็ยอมรับความจริง
ส่วนเซี่ยเฉิงจู่ ที่บอกว่าแค้นถานหวั่นชิง
เมื่อได้ฟังถานหวั่นชิงบอกก็คิดได้ส่วนหนึ่ง ในใจแอบชอบนาง คอยดูแลนางตลอด
แต่เพราะความจริงแล้วตัวเองฐานะแตกต่างจากถานหวั่นชิงทำให้นางเอกพูดอะไรที่เป็นความจริง
ก็ฟังขัดหู รับไม่ได้ คิดไปว่านางรังเกียจสกุลของตัวเอง
ทั้งๆที่ความจริงแล้วนางมองโลกตามความเป็นจริง และปล่อยวาง อยากอยู่อย่างสงบเพียงเท่านั้น
สุดท้ายเรื่องราวจะจบลงแบบไหน ต้องอ่านเล่มจบต่อไป
เล่ม 2 :
จากที่ถานหวั่นชิงมาสอนวาดภาพ ทำให้ได้พบกับพ่อบ้านหร่วน
คนเก่าแก่ของบ้านสกุลถานที่โดนเนรเทศมาเปลี่ยนแปลงไปจนจำเกือบไม่ได้
ทำให้อยากจะไถ่ตัวคืนให้ พอใต้เท้าเซี่ยมาเห็นก็พาถานหวั่นชิงเข้าไปในค่ายทหารด้วยความโกรธทันที
ทำให้เห็นว่าความจริงแล้วทั้งหึงทั้งเป็นห่วง แต่นางเอกยังไม่สนใจ
เซี่ยเฉิงจู่เลยเขียนหนังสือสัญญาที่นางต้องการ
ทีนี้ถานหวั่นชิงเลยยอมถอดเสื้อออกเลยทีเดียว
แต่ซักพักกลับสังเกตเห็นว่าไม่ได้ลงชื่อ แถมนางยังสนใจแต่หนังสือสัญญา
พอรู้ว่าไม่ได้ลงชื่อก็ต่อว่า เซี่ยเฉิงจู่เลยฉีกทิ้งซะเลย
ซึ่งจึงๆก็ตั้งใจจะฉีกทิ้งอยู่แล้ว คราวนี้ต่างคนต่างโกรธด้วยเหตุผลต่างกัน
นางเอกยอมก็ได้แต่สุดท้ายก็สลบไป ส่วนใต้เท้าเซี่ยมีคนงาม
คนในดวงใจอยู่กับตัวถนอมยังไงก็ยังทิ้งร่องรอยเอาไว้อยู่ดี
สรุปคราวนี้ยังไม่ได้กิน แต่เห็นหมดแล้ว
สุดท้ายก็พาออกจากค่ายทหาร วันรุ่งขึ้นถานหวั่นชิงวางแผนไว้แล้ว
โดยการเอาเงินจำนวนหนึ่งพร้อมทั้งจดหมายลับให้อดีตพ่อบ้านไป
พ่อบ้านก็รีบออกจากเมืองในคืนนั้นเลย ส่วนเซี่ยเฉิงจู่ก็พาฝูอินมาหาถานหวั่นชิง
และยังอยู่ค้างคืน สุดท้ายก็ได้กินซะที
นางเอกยังกลัวว่าตัวเองจะเป็นเหมือนมารดาที่พอร่วมหอแล้วจะตายโดยเร็ว
แต่นางกลับไม่เป็นอะไรเลย ทั้งยังอยู่ดีอีกด้วย
เซี่ยเฉิงจู่พาถานหวั่นชิงไปเมืองเฟิงหลี เพราะบิดาของนางอยู่ที่นั้น
นางไม่อยากจะมาก็โดนจับใส่เกี้ยวมา แม่ทัพเซี่ยดูแลอย่างดียิ่งกว่าอะไร
ทหารทุกคนรู้ดีที่สุด เพราะทั้งตามใจทั้งทะนุถนอมนาง
ตอนขากลับในที่สุดถานหวั่นชิงก็ได้เห็นบิดาที่ตัวเองเรียกมายี่สิบปี
กับมารดาเลี้ยงและน้องสาวต่างมารดา
ที่กำลังโวยวายเพราะว่าจะถูกขายเพื่อรักษาพี่ชาย
ถานหวั่นชิงขอร้องให้เซี่ยเฉิงจู่ช่วย แต่เซี่ยเฉิงจู่กลับบอกว่าเป็นสิ่งที่ถานจิ่งเอี๋ยนสมควรได้รับ
แต่สุดท้ายก็ต้องช่วยเหลือ
ระหว่างทางที่ทะเลาะกันเซี่ยเฉิงจู่ไม่มาดูแล พูดจา
แต่พอตกค่ำต้องค้างแรมในหมู่บ้านร้างสุดท้ายก็ต้องมาดูแลคนขี้หนาว
และในที่สุดก็คืนดีกัน
ถานหวั่นชิงเคยชินกับการมีเซี่ยเฉิงจู่ในชีวิตอย่างไม่รู้ตัว
นางเริ่มมีใจให้แต่ก็ยังไม่ยอมรับอยู่ดี เซี่ยเฉิงจู่ขนของหมั้นมา
และพูดเรื่องแต่งงานหลายครั้งนางก็บ่ายเบี่ยงตลอด จนหลังตรุษจีน
ย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิ ถานหวั่นชิงเริ่มมีใจขึ้นเรื่อยๆ และไม่อยากจากไป
แต่ก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วงอนาคต อีกทั้งไม่รู้ว่าตัวเองจะมีอายุนานแค่ไหน
ช่วงระหว่างนี้ถานหวั่นชิงเป็นคนพบพรสวรรค์ของเซี่ยฝูอิน ที่พูดผ่านภาพวาด
จึงสอยวาดภาพและดูแลฝูอินอย่างดี
ในที่เซี่ยเฉิงจู่ก็รู้ว่าเพราะอะไรถานหวั่นชิงจึงบ่ายเบี่ยงมาตลอด
เมื่อมีขบวนผู้คุ้มกันเดินทางมาถึงก็เข้าใจ จึงคิดว่านางอยากไปก็ต้องได้ไป
คนหนึ่งโกรธที่ไม่เชื่อใจ
อีกคนหนึ่งก็คิดว่าในที่สุดวันนี้ก็มาถึงวันที่ตัวเองไม่เป็นที่ต้องการ
จึงจากไปทันที
เมื่อออกจากเมืองแล้วเป็นวันที่ฝนตกหนัก
ต้องหยุดพักหมู่บ้านข้างหน้าไม่อาจหันกลับ ถ้ากลับก็เท่ากับยอมแพ้
สุดท้ายพอหยุดพักก็พบกับโจรต๋ามาบุกปล้น เซี่ยเฉิงจู่มาช่วยโดนเร็ว
และก็ได้รู้ว่าถานหวั่นชิงตั้งครรภ์แล้ว ในที่สุดทั้งสองก็ปรับความเข้าใจกัน
ถามตามตรงว่ายังแค้นเรื่องเมื่อปีนั้นอีกหรือไม่
เซี่ยเฉิงจู่ยอมบอกความจริงในที่สุด
ว่าตอนนั้นท่านแม่บอกไม่ให้คิดแค้นเพราะถ้าไม่โดนแส้ก็จะโดนเหยียบตาย
สรุปแล้วคือรักถานหวั่นชิงมาตลอด
และแล้วถานหวั่นชิงก็ยอมรับว่าจะอยู่กับเซี่ยเฉิงจู่ไปชั่วชีวิต
ตอนนี้สิ่งที่นางกังวลคือเมื่อตั้งครรภ์จะทำให้คลอดยาก
แต่พอให้หมอมาตรวจหลายคนก็บอกว่าแค่ร่างกายอ่อนแอเล็กน้อยเท่านั้นไม่ร้ายแรงอย่างที่คิด
ในที่สุดก็ถามว่าเซี่ยเฉิงจู่ฝึกวิชาอะไร
เซี่ยเฉิงจู่บอกมาสรุปว่าเป็นวิชาที่บำรุงพลังหยาง
แต่พอข้องเกี่ยวกับสตรีจะสูญเสียพลังไปไม่อาจบรรลุขั้นสูงสุด
นี่ก็คือเหตุผลที่ถานหวั่นชิงแข็งแรงขึ้น
นางคิดว่าชีวิตนี้ช่างดีจริงๆที่ได้พอชายผู้นี้
เมื่อแต่งงานกัน ย้ายมาอยู่ที่จวนเจ้าเมือง
จนชายแดนเกิดปัญหาเซี่ยเฉิงจู่ได้รับคำสั่งให้ไปบัญชาการรบเพื่อยึดเมืองชายแดนคืนจากพวกต๋า
จนเกือบจะกลับมาไม่ทันการคลอดของฮูหยิน
เวลาผ่านไปถานหวั่นชิงก็กังวลใจว่าวันใด
เซี่ยเฉิงจู่จะต้องกลับเข้าเมืองหลวง แต่สุดท้ายนางก็คิดได้
ปล่อยวางให้เป็นเรื่องราวของอนาคตที่ยังมาไม่ถึง และอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข
หลังอ่านเล่ม 2 :
จากที่ถานหวั่นชิงวางแผนเอาไว้
ว่าให้ตัวเองอยู่อย่างเงียบๆต่อไปอีกไม่กี่ปีเพราะตนนั้นร่างกายไม่แข็งแรงแต่กำเนิดมีชีวิตไม่ยืนยาว
ยิ่งถ้าตั้งครรภ์คลอดบุตรก็ไม่อาจมีชีวิตได้ แต่เซี่ยเฉิงจู่ที่รักและดูแลถานหวั่นชิงมาตลอด
เรื่องราวใดๆ ก็ล้วนไม่อาจหลุดรอดไปได้
ถานหวั่นชิงในที่สุดก็เปิดใจยอมรับการดูแลจากเซี่ยเฉิงจู่
และเคยชินอีกด้วย ตัวเองก็คอยดูแลอาหารการกิน ความเป็นอยู่ต่างๆ
เซี่ยเฉิงจู่ถามหลายครั้งเรื่องแต่งงานนางก็บ่ายเบี่ยงตลอดเวลา ทำให้เซี่ยเฉิงจู่ไม่พอใจ
สุดท้ายก็รู้ว่าเพราะอะไร และเจ้าตัวก็วางแผนปล่อยตัวอีกฝ่ายไปเองด้วย
ทำให้ตอนแรกนางเอกคิดว่าในที่สุดวันนี้ก็มาถึงเพราะตนไม่คู่ควร เป็นเพียงนักโทษหลบหนีเท่านั้น
ไม่อยากจะเป็นตัวถ่วง ก็ตัดใจได้และจากไปทันที แต่สุดท้ายก็เป็นนางเอกที่คอดได้ว่านิสัยของพระเอกเป็นยังไง
เพราะนางเป็นคนยุคอื่นเห็นโลกมามากกว่าทำให้กล้าคิดกล้าทำ
สุดท้ายก็ถามตามตรงและได้รับคำตอบแท้จริงทำให้ชีวิตมีความสุข
สรุปว่าพระเอกเก็บงำความรักมานาน ถ้านางเอกไม่ตกอับชาตินี้คงไม่มีใคร
เรียกได้ว่าบุพเพจริงๆ ดูการใช้ชีวิต
และการดำเนินชีวิตของทั้งคู่ที่แตกต่างแต่สุดท้ายสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างดี
เพราะความรัก
เนื้อเรื่อง :
เซี่ยเฉิงจู่ มีความแค้นกับถานหวั่นชิงบุตรสาวอัครเสนาบดี
ที่ปีนั้นใช้แส้ม้าฟาดใส่มารดาและตัวเอง ต่อมาบ้านสกุลถานต้องโทษเนรเทศทั้งบ้าน ถานหวั่นชิงหนีรอดระหว่างโจรป่าบุกขบวนคุมนักโทษไปได้
นางจึงเปลี่ยนชื่อและเข้าเมืองชายแดนเว่ยอันเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
เมืองเว่ยอันเป็นเมืองชายแดนในการควบคุมของแม่ทัพเซี่ยเฉิงจู่
จริงๆแล้วตั้งแต่ต้นเซี่ยเฉิงจู่คอยตามดูถานหวั่นชิงตลอดเวลา
จากคุณหนูสูงศักดิ์ต้องมาอยู่บ้านเช่าซอมซ่อ แต่นางก็อยู่ได้อย่างดี
และสามารถหารายได้ได้อีกด้วย เพราะนางมองโลกตามความเป็นจริง
และนางไม่ได้เป็นคนในยุคนี้
แต่ร่างกายนี้อ่อนแอแต่กำเนิดต้องบำรุงดูแลร่างกายอย่างดี
เซี่ยเฉิงจู่ในที่สุดก็มาบอกว่าตนรู้ฐานะที่แท้จริง
และถามว่าสมบัติตระกูลถานอยู่ที่ไหน และบอกความแค้นในปีนั้น ถานหวั่นชิงหาทางหนี
แต่ก็ไม่อาจหนีได้ ถ้าไม่ได้เซี่ยเฉิงจู่ช่วยไว้นางคงตายไปแล้ว
เมืองเว่ยอันมีแค่เปลีอกแต่เซี่ยเฉิงจู่ทำเพื่อทหารและผู้อพยพ
สุดท้ายก็สามารถฟื้นฟูเมืองได้ ถานหวั่นชิงในที่สุดก็ได้รู้จักฝูอิน น้องชายของเซี่ยเฉิงจู่ที่อยู่ในท้องมารดาของเซี่ยเฉิงจู่ในปีนั้นก็คอยดูแล
นางยอมตกลงอยู่ด้วยแต่ไม่เข้าตระกูลเซี่ย และไม่เป็นอนุ
เหตุผลคือต่อไปเซี่ยเฉิงจู่ต้องเจริญก้าวหน้า นางไม่อยากฉุดรั้งเอาไว้
แต่เซี่ยเฉิงจู่ไม่เข้าใจคิดว่านางรังเกียจสกุลเซี่ย สุดท้ายก็เขียนสัญญา
แต่ก็ฉีกทิ้งเพราะไม่คิดจะให้เกิดขึ้น ในที่สุดทั้งสองก็อยู่ด้วยกัน
เซี่ยเฉิงจู่ดูแลถานหวั่นชิงอย่างดี ทะนุถนอมทุกอย่าง นางก็ยังคิดทางเผื่อเอาไว้
เมื่อเวลาผ่านไปเซี่ยเฉิงจู่พูดเรื่องแต่งงานนางก็บ่ายเบี่ยง
สุดท้ายก็รู้ว่าเพราะอะไร แต่เป็นการเข้าใจฝ่ายเดียว
เซี่ยเฉิงจู่ยอมปล่อยถานหวั่นชิงไป
ทำให้นางน้อยใจคิดว่าในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เพราะนางมองโลกตามความจริง
แต่เมื่อเดินทางออกจากเมืองก็คิดได้ ไม่กลับไปง้อ เพราะถ้าง้อคือแพ้
ที่แท้นี่คือการลงโทษทรมานนาง แต่จริงๆไม่มีทางปล่อยนางไปแน่
ในที่สุดนางก็เข้าใจนิสัยของเซี่ยเฉิงจู่ และในคืนนั้นพวกโจรต๋าก็บุกมาอีก
เซี่ยเฉิงจู่ก็รีบมาช่วยเหลือ ทั้งยังรู้ว่านางตั้งครรภ์แล้ว
สุดท้ายทั้งคู่ก็ยอมเปิดใจ และแต่งงานกัน
ถานหวั่นชิงแม้จะกังวลเรื่องในอนาคตที่ตัวเองเป็นนักโทษหลบหนี
แต่สุดท้ายนางก็อยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข เพราะในที่สุดนางก็ปล่อยวางจากความคิดมากได้เสียที
หลังอ่าน :
เนื้อเรื่องตอนแรกจะค่อยๆบรรยายความเป็นไปของถานหวั่นชิง
และการเตรียมพร้อมของนาง
สุดท้ายจะได้รู้ว่านางไม่ได้เป็นคนในยุคนี้จึงมีความคิดแตกต่าง
มีการเตรียมพร้อมมากมายให้ตัวเองหลังเกิดเรื่องกับสกุลถาน นางพร้อมรับทุกสถานการณ์
และมองโลกตามความจริง
เซี่ยเฉิงจู่ ที่มีความแค้นกับถานหวั่นชิง ตอนแรกก็ติดตาม
สอดส่องนางตลอดก็จะเปิดเผยความจริงว่าตัวเองรู้ว่านางคือใคร
พออ่านๆไปจะรู้ว่าแม่ทัพเซี่ยนี่รักปักหลักมั่นคงมาหลายปี
ทำทุกอย่างเพื่อนางเอกจริงๆ
ถ้าครอบครัวนางเอกไม่ตกอับชาตินี้ตัวเองก็หมดหวังตลอดการ
สรุปเนื้อเรื่องก็มีดูการใช้ชีวิตของสองคนที่แตกต่าง
สุดท้ายจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร คนหนึ่งมองโลกตามความจริง มองการณ์ไกล
กับอีกคนเจ้าแผนการวางแผนทุกขั้นเพี่อให้ได้ตัว
แต่อย่างที่บอกความรักชนะทุกอุปสรรค
มาร่วมกันลุ้นกับความรักของเซี่ยเฉิงจู่และถานหวั่นชิง
ที่ต้องลุ้นจนเกือบจบเล่มว่าจะยอมเปิดปากพูดความจริงกันเมื่อไหร่ อย่างไร
และให้ยิ้มไปกับการรักเมียตามใจเมีย จนนายทหารลูกน้องบ่นกับอุบทีเดียว