Wednesday, February 6, 2019

#สองเรา #3เล่มจบ #ห้องสมุด

Review 3/2562
เรื่อง : สองเรา (3 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : ติงโม่
ผู้แปล : ห้องสมุด
สนพ. ห้องสมุด.คอม
พิมพ์ครั้งที่ 1 : สิงหาคม 2561

โปรยปก :
เรื่องราวของหญิงสาวใจดี ที่ประคบประหงมแมวน้อยน่าสงสาร
โดยไม่ระแคะระคายว่าแท้จริงแล้ว... เป็นเสือ!

งานใหม่ของเธอมาพร้อมกับภาระชิ้นใหญ่
ระยะนี้ ชีวิตของหลินเฉี่ยนมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายวิ่งเข้ามาห
ข่าวดีคือ... เธอเพิ่งได้งานใหม่ ตำแหน่งดี ค่าตอบแทนสูง
ข่าวร้ายคือ... วันแรกที่เข้าทำงาน ถึงได้รู้ว่าบริษัทใกล้เจ๊งอยู่รอมร่อ
มีการลดจำนวนพนักงาน ทั้งยังเปลี่ยนตัวผู้บริหาร

บอสใหม่ของหลินเฉี่ยนเป็นอดีตนายทหารที่เพิ่งปลดประจำการ
เขามารับช่วงธุรกิจต่อจากบิดาแบบงง ๆ
ทหาร... ที่เป็นทหารมาทั้งชีวิต
ทหาร... ที่กินอยู่กับกองทัพ ไม่เคยก้าวเท้าออกมาไกลกว่านั้น

แบบนี้แล้ว หลินเฉี่ยนไม่รู้จะสงสารบริษัทหรืออนาคตของตัวเองดี
แต่ที่แน่ ๆ เธอจำเป็นต้องสอนมวยคุณทหารหน้ามนคนนี้เสียหน่อย
ว่าโลกธุรกิจมันโหดร้าย และไม่ได้ฆ่ากันได้ง่ายๆเหมือนในสนามรบ

หวังว่าเขาจะเป็นนักเรียนที่ดีนะ

เล่ม1 :
นางเอกของเรื่อง หลินเฉี่ยน ระหว่างกลับจากท่องเที่ยวพักผ่อนได้ประสบอุบัติเหตุรถเสีย ทำให้ได้รับการช่วยเหลือจากทหาร ซึ่งได้อาศัยรถไฟทหารกลับเข้าเมืองมาพร้อมกับทหารปลดประจำการ ในรถไฟได้รู้จักกับผู้พันคนหนึ่ง และทหารอีกกลุ่มหนึ่ง ตอนนั้นยังไม่รู้ทั้งชื่อ และที่อยู่ ต่อมาหลินเฉี่ยนจึงพบว่า ผู้พันที่ปลดประจำการและพบที่บริษัทอยู่เรื่อย ไม่ใช่ผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอดภัยแต่คือประธานคนใหม่ของบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่ ลี่จื้อเฉิง ในเล่มนี้ยังเป็นการทำความรู้จักนิสัย และการทำงานที่เปลี่ยนจากทหารมาเป็นการบริหารธุรกิจแทน ที่หลินเฉี่ยนมองแล้วว่าผู้พัน ประธานลี่ของเธอจะบริหารบริษัทไปได้แน่เหรอ วันแรกของการเป็นเลขาก็พบว่า ลี่จื้อเฉิง อ่านหนังสือ กลยุทธ์ซุนจื่อ ที่ถูกพลิกอ่านจนเก่าและยังเป็นฉบับเกี่ยวกับธุรกิจ และยังมีการจดข้อความต่างๆเอาไว้ เช่น ล่อเนื้อเข้าถ้ำเสือ ยืมมีดฆ่าคน หลอกซ้ายตีขวา ตั้งเสาไม้หน้าประตูเมือง ตั้งมั่นรับการโจมตี เมื่อหลินเฉี่ยนเห็นไม่ได้คิดอะไรเลยนอกจาก ตำราพวกนี้ใครก็เคยอ่าน แต่จะมีใครจะนำไปใช้ได้จริงกัน แต่จากเหตุการณ์ต่างๆที่จะต้องบุกยึดตลาดกระเป๋ากลับมาอีกครั้ง จนสุดท้ายเป็นผลสำเร็จทุกขั้นตอน ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ หลินเฉี่ยนได้เล่าให้หลินม่อเฉิน พี่ชายที่ทำงานอยู่ในตลาดหุ้นวอลสตีทฟัง ซึ่งเป็นคนที่เก่ง ฉลาดมากในเชิงธุรกิจ หลินม่อเฉินก็พูดขึ้นมาทันทีว่า ตั้งเสาไม้หน้าประตูเมือง ทำให้หลินเฉี่ยน นึกขึ้นได้ถึงหลายเดือนก่อนตอนที่เพิ่งเริ่มทำงานเป็นเลขาของ ลี่จื้อเฉิงว่าเคยเห็นและจดเอาไว้ เลยเอามาดู เมื่อคิดถึงวิธีการทำงานจึงคิดได้ว่าเขาไม่ใช่แมวน้อย แต่เป็นหมาป่าต่างหาก วางแผนทุกขั้นตอนไว้หมดแล้ว เป็นคนประเภทเดียวกับพี่ชายเลยทีเดียว ซึ่งลี่จื้อเฉิงก็ไม่ได้ปฏิเสธทั้งยังบอกว่าจะชอบเธออีกด้วย หลินเฉี่ยนกลัวใจตัวเองเลยถอยห่าง แต่จริงๆแล้วนั่นคือแผนปล่อยเพื่อจับต่างหาก

เล่ม 2 :
หลังจากที่ใช้ กลยุทธ์ซุนจื่อ จัดการกับบริษัทซือเหม่ยฉีได้แล้ว ตอนนี้ก็จะทำกลยุทธ์จัดการกับเจ้าตลาดอันดับหนึ่งอย่างบริษัทซินเป่ารุ่ย ในตอนแรกลี่จื้อเฉิงได้แยก Vinda ออกมาจากอ้ายต๋าก่อน จากนั้นก็ชิงส่วนแบ่งตลาดกระเป๋ามิดเอนด์จากซือเหม่ยฉีมาได้ ตอนนี้กระเป๋า Aito ที่ออกมาทำตลาดด้วยกระเป๋าแนวคิดใหม่ที่รวมเอากระเป๋าเป้สะพายและกระเป๋าลำลองมารวมกัน ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่เช่นกัน เพราะเนื้อผ้า Mind ลิขสิทธิ์ผ้าของหมิงเต๋อโรงงานผลิตผ้าในไต้หวัน สร้างกระแสปั่นป่วนจนซินเป่ารุ่ยต้องเปิดตัว ซายิง หรือ DH กระเป๋าเป้สะพายชนิดใหม่ กระเป๋าลำลองและกระเป๋ากีฬาในตัว ซึ่งเอาแนวคิดจาก Aito มาใช้ หนิงเหวยข่ายประธานบริษัทซินเป่ารุ่ยคิดได้ว่าควรนิ่งเฉยจากการที่ ลี่จื้อเฉิงสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดของซือเหม่ยฉีได้ แต่หลังจากประชุมคณะกรรมการผู้บริหารสกุลจู้ก็มีคำสั่งให้ออกกระเป๋ามาสู้ซึ่งผลที่ได้ก็คือ DH ที่ทำออกมาได้ดีกว่า Aito ทุกอย่างทั้งการออกแบบ การโฆษณา แต่แผนที่แท้จริงของลี่จื้อเฉิงก็สำเร็จ เพราะเขาได้เข้าร่วมลงทุนซื้อหุ้นของหมิงเต๋อเรียบร้อย 51% และยังใช้เงินทุน 50 ล้านหยวนที่ยืมมาจากหลินม่อเฉิน(พี่ชายหลินเฉี่ยนให้ยืมเงินทุน 100 ล้านหยวนโดยต้องคืนในอีกหนึ่งปีเป็นเงิน 200 ล้านหยวน 100 ล้านหยวนให้คือเค้าอีก 100 ล้านหยวนให้เป็นสินเดิมของหลินเฉี่ยน) ซื้อหุ้นในชื่อหลินเฉี่ยน 21% ส่วน วังไท่ซื่อผู้ก่อตั้งมีหุ้น 29% นี่คือความสำเร็จที่รอคอยเพราะศรยาวที่ลี่จื้อเฉิงต้องการก็คือ ซินเป่ารุ่ยที่มีทุนหนานั่นเอง กลยุทธ์ครั้งนี้เริ่มจาก Vinda เป็นตัวบังหน้าออกสินค้าใหม่ Aito เริ่มด้วย เท็จในจริง จริงในเท็จ กลยุทธ์ที่เคยทำก่อนหน้า ตั้งแผนกการตลาด โยนกระเบื้องล่อหยก อยากได้ต้องให้ก่อน เรือฟางยืมลูกศร ลอบตีเฉินชาง ใช้หอกของท่าน แทงโล่ท่านเอง ทัพใหม่ออกรบ ยิงธนูดอกเดียวได้นกสามตัว ระหว่างนี้ความรักของทั้ง ลี่จื้อเฉิงและหลินเฉี่ยนก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น ในที่สุดหลินเฉี่ยนก็ยอมย้ายมาอยู่กับลี่จื้อเฉิง อีกหนึ่งปีจะผ่านไป แผนการต่างๆสำเร็จสุดท้าย หนิงเหว่ยข่ายโดนย้ายไปเป็นประธานบริษัทด้านไอทีในเครือสกุลจู้เพราะยอดขายกระเป๋าตัวอื่นตกต่ำเหลือแต่ DH ที่ขายได้ ลี่จื้อเฉิงและหลินเฉี่ยนอยู่เบื้องหลังคอยรับเงินค่าลิขสิทธ์ผ้าของหมิงเต๋อที่แต่ละบริษัทก็อยากใช้ในการผลิต ส่วนซือเหม่ยฉีที่คิดว่าเสือสองตัวกัดกันจะขอเข้ามามีส่วนแบ่งตลาดด้วยรีบทำการผลิตกระเป๋าขึ้นมาแข่ง แต่ก็ไม่ทันเพราะ ลี่จื้อเฉิงส่ง Aier ออกมาตีตลาดทำให้ซือเหมยฉีขาดทุนย่อยยับ

เล่ม3 :
หลังจากความสำเร็จผ่านไป อ้ายต๋าได้จัดงานฉลองใหญ่ขึ้น ครั้งนี้ลี่จื้อเฉิงได้สวมแหวนหมั้นให้หลินเฉี่ยนในคืนนั้น บริษัทที่ขาดทุนที่สุดคือซือเหม่ยฉีที่คิดว่า DH และอ้ายต๋าสู้กันตนจะได้ส่วนแบ่งตลาดคืนมา แต่ผิดพลาด เพราะเอาที่ดินไปจำนองธนาคาร จึงตัดสินใจร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติ DG ทีมที่มาในครั้งนี้มีหลินม่อเฉินพี่ชายของหลินเฉี่ยนเป็นผู้นำด้วย ซึ่งจะเป็นคนดำเนินการบริษัทซือเหม่ยฉีและซินเป่ารุ่ย แต่จะให้คนอื่นดำเนินการกับบริษัทอ้ายต๋าเพราะความสัมพันธ์ส่วนตัว ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ต่อสู้กับทุนต่างชาติ ทั้งลี่จื้อเฉิงและหลินม่อเฉินคิดว่าหลินเฉี่ยนเป็นจุดอ่อนจึงให้ออกห่างจากเรื่องของบริษัทอ้ายต๋า หลินเฉี่ยนจึงมีความคิดที่จะสร้างแบรนด์ของตัวเอง โดยไม่ต้องการทำกำไรแต่ต้องการค้นหาตัวเองให้พบ การต่อสู้กับทุนนอกลี่จื้อเฉิงและหนิงเหวยข่ายได้ร่วมมือกัน โดยหนิงเหวยข่ายโจมตีด้านนอกส่วนลี่จื้อเฉิงรับผิดชอบอีกส่วน โดยการไปฟลอเรนซ์เจรจาเป็นตัวแทนจำหน่ายประจำภูมิภาคเอเชียกับบริษัทผลิตกระเป๋าหนังและกระเป๋าลำลอง ได้สิทธิ์มาทั้งหมดห้ารายซึ่งกิจการทั้งหมดนี้เป็นบริษัทท้องถิ่นกิจการตั้งมานาน บางบริษัทนับร้อยปี หนึ่งในบริษัทนั้นคือ เดวิทที่รับสืบทอดกิจการ ทำการค้าตามสบาย เป็นกระเป๋าที่คุณภาพดีแต่ทำกิจการไม่เคร่งเครียด ก็ยินดีมาร่วมงานด้วย ยุทธวิธีที่ลี่จื้อเฉิงใช้ตอนนี้ก็คือจับปลาน้ำขุ่น เป็นการตีตลาด DG โดยเฉพาะ เมื่อมีโฆษณาออกมา ก็จะมีโฆษณาคล้ายกันลอกเลียนแบบตามมา บอกว่า DG อายุร้อยกว่าปี ก็บอกว่า David ก่อตั้งปี ค.ศ.1890 อายุมากกว่า DG ถึงสิบกว่าปี กระเป๋าดูธรรมดา ราคา 3000 หยวน กระเป๋าคุณภาพธรรมดาแต่รูปลักษณ์ดูดีขาย 300 หยวน ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนเกิดความสับสน สุดท้าย DG ได้นำ Zamon สินค้าตัวหลักแบรนด์เนมมีชื่อเสียงระดับโลกออกมาสู้ จากที่นำเอาสินค้าอันดับสอง อันดับสามออกมา

ส่วนหลินเฉี่ยนได้เปิดตัวกระเป๋าชิงเฉิน กระเป๋าสะพายสำหรับสุภาพสตรี ลี่จื้อเฉิงมีการวางหมากให้กู้เหยียนจือเปิดเวบไซด์ซีหยางฟั่น ซึ่งเป็นเวบไซด์ที่ให้พื้นที่ในการซื้อขายอิสระมาโจมตีกระเป๋าของ DG ต่อ และต่อมาก็ใช้รูปแบบโฆษณาโทรทัศน์ประกาศท้ารบ DG ในค่ำคืนเดียวผู้บริโภคทั่วประเทศก็รู้ถึงราคาจำหน่ายของ Zamon ที่ตั้งในประเทศและนอกประเทศ รู้ว่าธุรกิจท้องถิ่นของจีนกำลังปกป้องแบรนด์ตัวเองด้วยการต่อต้านการซื้อกิจการของธุรกิจต่างชาติ ในที่สุดลี่จื้อเฉิงก็ทำสำเร็จ และสามารถตี DG สาขาประเทศจีนออกไปได้ เรื่องราวจบลงด้วยดี ทั้งการงานและความรัก

หลังอ่าน :
เนื้อเรื่อง เป็นการดำเนินธุรกิจของพระเอกที่เป็นนายทหาร พันตรีปลดประจำการ แต่เป็นหน่วยรบพิเศษไม่ธรรมดาสุดๆ ลี่จื้อเฉิง กับนางเอก หลินเฉี่ยนที่ไม่คิดว่าพระเอกจะเข้าใจเรื่องราวธุรกิจ แต่ความจริงแล้ว เมื่อเนื้อเรื่องได้ดำเนินมาจนสุดทางจนถึงบทพิเศษท้ายเรื่อง ถึงรู้ถึงความรู้สึกตัวละครว่าพระเอกนางเอก มีความสนใจในกันและกันเลยอยากจะปกป้องนั้นเอง ทำให้มองหมาป่าเจ้าเล่ห์ไม่ออก มีการใช้กลยุทธ์ในการดำเนินธุกิจที่เข้มข้น ใช้ตำราพิชัยสงครามซุนจื่อมาเป็นหลักดำเนินธุรกิจ น่าติดตามมาก ทั้งความสามารถของพระเอกที่เก่งในการวางแผน การวางหมากกล และดำเนินการต่างๆ และในเรื่องความรักที่ไม่ว่ายังไงเมื่อตัดสินใจได้แล้วก็ต้องใช้ทุกแผนการเพื่อให้ได้มา ยังมีตัวละครอื่นๆที่มีสีสันในเรื่อง และหลินม่อเฉินพี่ชายนางเอกที่จะได้มีบทบาทต่อไปในเรื่องราวของตัวเอง และมีตอนพิเศษให้ได้รู้ชีวิตของศจ.ป๋อ กับจี้ไป๋อีกนิดนึงให้หายคิดถึงอีกด้วย ตอนพิเศษน่ารักมากๆเลยทีเดียว