Wednesday, February 20, 2019

#สิงห์สถิต #2เล่มจบ #สนพ.ห้องสมุดดอตคอม

Review 5/2562
เรื่อง : สิงห์สถิต
ผู้เขียน : ฟงเหอโหยวเย่ (Fengheyouyue) 
ผู้แปล : ห้องสมุด
พิมพ์ครั้งที่ 1 : ธันวาคม 2561
สนพ. ห้องสมุดดอตคอม

โปรยปก :
คุณคิดว่าอนาคตอีกหลายร้อยปีข้างหน้ามนุษย์จะเป็นอย่างไร? 
เผชิญมหันตภัย อดอยากหรือวิวัฒนาการจนฉลาดล้ำเหนือธรรมชาติ
แล้วถ้าสิ่งที่คุณคิดมันผิดหมด ถ้าโลกใบนี้ไม่มีมนุษย์อีกต่อไปแล้ว?

จี้เสี่ยวโอวคือเด็กสาวที่โดนรอยต่อแห่งกาลเวลาเล่นตลก
สะบัดเธอข้ามไปอยู่ในโลกอนาคต
โลกที่ไม่เหลือเผ่าพันธุ์มนุษย์แม้แต่คนเดียว
เธอต้องพยายามเอาตัวรอดจากสัตว์กลายพันธุ์ที่แข็งแกร่งกว่า
เอาตัวรอดจากสภาพอากาศที่โหดร้ายแบบสุดขั้ว

ณ ที่แห่งนี้เธอช่วยเหลือเหมียวน้อยน่ารักที่กำลังเจ็บหนักอยู่ตัวหนึ่ง
โดยไม่รู้เลยว่าเนื้อแท้ของมันคือจ่าฝูงเผ่าเสือที่ดุร้ายที่สุดในห่วงโซ่อาหาร!

เล่ม 1 :
จี้เสี่ยวโอว สาวน้อยวัยประมาณสิบหกสิบเจ็ดปีไปทัศนศึกษากับเพื่อนที่โรงเรียน ระหว่างทางรถบัสเกิดอุบัติเหตุทำให้ตัวเองถูกเหวี่ยงหลุดลงมาจากหน้าต่างรถ พอฟื้นขึ้นมาพบว่าตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ต้นไม้รอบตัวไม่มีต้นไหนที่รู้จักเลย ทำให้คิดว่าจะเดินไปที่ยอดเขาอาจจะเจอเพื่อนๆ และรถที่รออยู่ จึงได้ใช้มีดพกสลักต้นไม้ที่เห็นต้นแรกว่า 1002 คือวันที่วันนี้และเพื่อเป็นหลักเตือนไม่ให้เดินกลับมาที่เก่า ตอนที่ตกลงมานั้นเสี่ยวโอวมีเพียงกระเป๋าเป้สะพายหลังและของใช้จำเป็น แต่พอลองดูอีกทีกลับพบว่ากระเป๋าเป้ตัวเองเป็นเหมือนห้วงมิติเวลาที่มีของทุกสิ่งที่เพื่อนทุกคนบนรถเอามา และเวลาเดินช้าแทบจะหยุดนิ่งของไม่เน่าเสียเลยทีเดียว จากนั้นก็เจอเสือดาวน้อยที่ขาหลังบาดเจ็บ ตอนแรกยังกังวลว่ามันเป็นเสือจะทำอันตรายเลยหาทางหนี แต่ที่แปลกของที่นี่คือ พอหกโมงเย็นฟ้าก็มืดทันทีเหมือนใครมาปิดไฟดับ พอหกโมงเช้าฟ้าก็สว่างทันทีเหมือนเดิม เสี่ยวโอวเดินทั้งวัน สุดท้ายกลับมาที่เดิมที่มีเสือดาวน้อยนอนอยู่ใต้ต้นไม้ และหลังจากนั้นก็เหมือนได้ยินเสียงฝูงหมาป่า เสือดาวน้อยบาดเจ็บก็เหมือนจะสื่อสารทางสายตาให้พาไปด้วย ทั้งสองจึงเริ่มเดินทางไปด้วยกัน หลังจากนั้นเสี่ยวโอวถึงได้รู้ว่า ตนมาอยู่ในโลกอนาคตที่ไม่มีเผ่าพันธุ์มนุษย์หลงเหลืออยู่แล้ว ในดินแดนโบเออร์เนีย เมื่อเจ็ดร้อยปีก่อนสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สี่ฤดูผันแปร พอสภาพอากาศกลับเป็นปกติมนุษย์ก็หายไปหมดแล้ว สิ่งเหล่านี้คือหัวหน้าโบแร็ต ปูของอีริคเผ่ากวางเรนเดียร์กลายพันธุ์ประเภทกินพืชเป็นผู้บอก และบอกว่าถ้าอยากรู้เรื่องให้ตามหาเต่าน้ำชื่อแพ็ตที่สุดขอบตะวันออกอาจจะหาทางกลับบ้านได้เพราะเต่าน้ำแพ็ตอายุยืนนานที่สุด เสี่ยวโอวจึงตัดสินใจเดินทางไปทางตะวันออก พร้อมเสือดาวน้อยและอีริคที่จะไปประชุมแทนปู่ที่หมู่บ้านกวางหนอกที่ฝั่งตะวันออก ตอนอยู่ที่หมู่บ้านของอีริคเสี่ยวโอวเคยเจอเสือดาวกลายพันธุ์สองตัว มาถามหาไรอัน ตลอดทางเสี่ยวโอวไม่รู้เลยว่าไรอันที่ว่าเป็นจ่าฝูงเสือดาวก็คือเสือดาวน้อยที่ตนช่วยเหลือและตั้งชื่อว่าเถาเถา ระหว่างทางได้พบพายุหิมะ ทำให้ต้องหาที่หลบ เจอหมีดำกลายพันธุ์มาขโมยเป้สะพายหลังไปแลกอาหาร พอถึงหมู่บ้านกำลังจะต่อรองเอาเป้คืนมาก็เจอหมาป่ากลายพันธุ์มาแย่งเป้ตัดหน้าไปอีก คืนนั้นเสือดาวน้อยไรอันได้แอบออกไปสำรวจในเรือของฝูงหมาป่าเพราะคิดว่าหมาป่ามีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ตนตัวเล็กเป็นเด็กน้อย เสี่ยวโอวเป็นห่วงก็ตามไปหา และโดนจับได้บนเรือหลังจากเจอเป้และเสือดาวน้อยแล้ว จึงทำการต่อรองกับจ่าฝูงเผ่าหมาป่าฮุลตันพอเช้าขอลงจากเรือเพื่อแลกกับการช่วยเหลือล่องเรือผ่านไปได้ในสภาพอากาศหมอกลงจัดที่ไม่เห็นทางข้างหน้าและมีแนวโขดหินอันตรายอยู่ ฮุลตันตกลง เสี่ยวโอวพาเรือผ่านไปได้โดยแอบใช้เข็มทิศกับแผนที่ที่ขอยืมมา และได้ออกเดินทางต่อ จนมาเจอหมู่บ้านหนึ่งซึ่งกลายเป็นหมู่บ้านที่อีริคมาประชุมพอดี ก่อนเข้าหมู่บ้านเสี่ยวโอวได้เอาไรอันใส่เข้าห้วงมิติตอนนี้ห้วงมิติของเสี่ยวโอวไม่ได้อยู่ที่เป้เท่านั้น สามารถหยิบของเก็บของจากกลางอากาศได้ แอบเอาไว้ทำให้ไม่มีคนเห็น พอตอนเย็นอีริคมาตามไปกินอาหารเห็นเสี่ยวโอวยังไม่ตื่นเลยไปดูปรากฎว่าไรอันกลับกลายเป็นเสือดาวโตเต็มวัยแล้ว ความลับนี้เกี่ยวข้องกับห้วงมิติของเสี่ยวโอวอย่างแน่นอน เสี่ยวโอวยังไม่ทันรู้เรื่องอะไร ไรอันก็กลายเป็นเสือดาวน้อยอีก ทำให้ไรอันคิดหาวิธีอยากกลับเข้าไปในห้วงมิติว่าเพราะอะไรกันแน่ เลยวางแผนสร้างความปั่นป่วน เสี่ยวโอวเลยโดนขับออกจากหมู่บ้านเพราะพาไรอันมาด้วย ออกจากหมู่บ้านเดินทางท่ามกลางหิมะจนมาเจอบ้านร้างก็เข้าไปอาศัย ยังมาเจอราอูล ซิธ เสือดำกลายพันธุ์ที่เป็นรองในฝูงเสือดาวของไรอัน มาถามหาไรอันอีก จนสุดท้ายเสือดำเห็นและรู้ว่าไรอันกลายเป็นเสือดาวน้อยก็คิดกำจัด แต่เสี่ยวโอวเอาไรอันใส่เข้าห้วงมิติอีกครั้ง และระหว่าอันตรายตัวเองยังเข้าไปในห้วงมิติได้ด้วย และคายตัวเองออกมาทีหลัง แต่สุดท้ายราอูล ซิธก็ตามเจออีกและจัดการเสี่ยวโอวจนบาดเจ็บ ไรอันที่เสี่ยวโอวใส่เข้าห้วงมิติก่อนหน้าได้ออกมาช่วยโดยเป็นเสือโตเต็มวัยมาสู้กัน ระหว่างนั้นเสี่ยวโอวคิดว่าตนเคยเจอเสือดาวตัวนี้เป็นตัวที่เห็นก่อนที่จะตกจากหน้าต่างรถบัส นั่นคือสิ่งสุดท้ายก่อนหมดสติไป ไรอันชนะและพาเสี่ยวโอวกลับหมู่บ้านเสือดาวที่ตะวันตกแทน พอเสี่ยวโอวฟื้นก็เป็นจากนั้นแล้วหลายวัน ที่พบคือเสือดาวกลายพันธุ์ผู้เป็นจ่าฝูง ซึ่งก็คือเถาเถาของเสี่ยวโอวนั่นเอง ทำให้รู้ว่าตลอดมาไรอันเป็นจ่าฝูงไม่ใช่ลูกเสือดาว ไรอันขอให้เสี่ยวโอวอยู่ที่เผ่าเสือดาวจนกว่าแผลจะหาย เสี่ยวโอวอยากกลับบ้าน ทำให้หนีออกจากฝูงเสือดาวตอนที่ไรอันไปหาอาหารสำหรับฤดูหนาว พอดีกลับมาเร็วกว่ากำหนดทำให้รู้ว่าเสี่ยวโอวหนีไปเจอกับฮุลตัลฝูงหมาป่าที่อยู่หุบเขาข้างเคียง ไรอันบอกเสี่ยวโอวอีกครั้งว่าจะช่วยตามหาเต่าน้ำแพ็ตให้โดยแลกเปลี่ยนกับการที่เสี่ยวโอวอยู่ที่หมู่บ้านเสือดาวให้ไรอันจีบ หลังจากนั้นเสือเขี้ยวดาบได้รวมฝูงกันมาแก้แค้น เสี่ยวโอวจึงเพิ่งค้นว่าห้วงมิติของตนอัพเกรดอีกครั้งมีประทัดเพิ่มมา จึงใช้ช่วยเหลือสุชานาเสือดาวตัวเมียในฝูง เสี่ยวโอวจึงคิดว่าห้วงมิติน่าจะเชื่อมโยงกับที่เก็บของรถบัส แต่ตัวเองก็ไม่สามารถกับบ้านได้ ไรอันกลับมาได้รับบาดเจ็บจากการสู้กับจ่าฝูงเสือเขี้ยวดาบ ตัวเมียจากที่ไปช่วยมาจากฝูงเสือเขี้ยวดาบตอนไปหาอาหารยังสร้างความลำบากให้เสี่ยวโอวอีกครั้งโดยวางแผนไปบอกผู้เฒ่าของฝูงว่าตัวเมียฝูงเสือดาวต้องแบ่งปันกับตัวผู้ในฝูงหลายตัว เสี่ยวโอวรับไม่ได้คิดจากไปอีกครั้ง ไรอันเลยประกาศว่าต่อไปนี้เสือดาวจะใช้ชีวิตเป็นคู่ไม่แบ่งปันตัวเมีย และเสี่ยวโอวคือคู่ชีวิตของตน

เล่ม 2 :
ไรอันเริ่มวิธีจีบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคอยอุ้ม คอยจับ คอยจูบจนเสี่ยวโอวต้องห้ามเอาไว้ และแล้วการรอคอยข่าวจากฝั่งตะวันออกก็จบลงเมื่อวินเทอร์เสือดาวที่วิ่งเร็วอันดับต้นๆของฝูงกลับมาจากการไปสืบข่าว และได้บอกกับเสี่ยวโอวว่าเต่าน้ำแพ็ตตายไปแล้วเมื่อสิบปีก่อน เสี่ยวโอวเศร้ามากแต่ก็ต้องอยู่ที่โบเออร์เนียต่อไป ตอนนี้ก็เลยอยากลืมเรื่องเศร้าด้วยการคิดทำระเบิดจากประทัดที่อยู่ในห้วงมิติ พอทดลองจนใช้ได้ไรอันก็บอกว่าอย่าให้ใครเห็นอีกถ้าไม่ได้อยู่ด้วย ราอูล ซิธที่เคยทำร้ายเสี่ยวโอว และไรอันกลับมาพร้อมท้าสู้เพื่อเป็นจ่าฝูงคนใหม่ไรอันตกลง ระหว่างสู้กันได้ตกหน้าผา เวลาเดียวกันฝูงหมาป่าก็บุกมาที่หมู่บ้านเสือดาว เรื่องนี้เป็นการนัดหมายกันของราอูล ซิธและฮุลตันจ่าฝูงหมาป่าที่เคยช่วยราอูล ซิธตอนบาดเจ็บเอาไว้ เสี่ยวโอวเลยต้องใช้ระเบิดเข้าช่วยฝูงเสือดาวที่มีกำลังน้อยกว่าในการบุกเข้ามาของฝูงหมาป่าทางด้านบึงกั้นเขตแดน เรื่องนี้ทำให้ผู้เฒ่าฝูงเห็นถึงประโยชน์จึงมาขอร้องให้เสี่ยวโอวช่วยสอนเสือดาวในฝูงทำระเบิด ไรอันตกลงเพราะต้องการให้เสี่ยวโอวรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกันฝูงอย่างแท้จริง ช่วงที่ทำการทดสอบผลของระเบิดเสี่ยวโอวคิดว่าหลังจากนี้จะสอนการฝังระเบิดจึงกลับที่พักเพื่อหาแผนที่จะได้อธิบายง่ายขึ้น ตอนนั้นเองที่เสี่ยวโอวแอบได้ยินไรอันคุยกับวินเทอร์จนรู้ความจริงว่าที่จริงแล้วเต่าน้ำแพ็ตยังไม่ตาย เป็นไรอันที่โกหกตน ฤดูฝนพายุกำลังจะมา ไรอันกลัวเสี่ยวโอวหนีไปเลยขังไว้ในบ้าน ระหว่างนั้นเสี่ยวโอวทำกระเป๋าเป้ตนเองตกของข้างในกระจาย ทั้งไฟฉาย เข็มทิศ และโทรศัพท์มือถือเป็นเหตุให้โทรศัพท์เปิดโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากเก็บของหมดแล้วก็ได้ยินเสียงสัญญาณเรียกเข้ากดรับสายได้ และได้รู้ว่าแม่ของตนไม่สบายอยู่โรงพยาบาล เสี่ยวโอวร้อนใจอยากกลับบ้าน เลยทะเลาะกับไรอันและใช้เครื่องช็อตไฟฟ้ากับไรอันแล้วหนีออกมา ระหว่างทางเจอฮุลตันติดตามมาตลอดทางแต่ก็ไม่สนใจหนีไปเรื่อยๆจนถึงต้นไม้ใหญ่ก็ปีนขึ้นไปพัก พอฟื้นขึ้นมาก็กลับมาที่โลกของตัวเองแล้ว อยู่ที่โรงพยาบาลโดยเพื่อนร่วมชั้นเรียนเจอที่ข้างทางตรงจุดที่เกิดอุบัติเหตุไปทัศนาจรเมื่อครึ่งปีก่อน จากนั้นเสี่ยวโอวก็ใช้ชีวิตตามปกติ สามปีผ่านไปตอนนี้เสี่ยวโอวอยู่ปี 2 ในมหาวิทยาลัยช่วงปิดปลายภาค จึงวางแผนอีกครั้งกลับไปที่เดิมแต่คราวนี้เตรียมข้าวของพร้อมก่อนไป พอไปถึงก็พบต้นไม้ที่คุ้นตา นั้นคือต้นไม้ที่มีสลักตัวเลข 1002 ซึ่งเป็นต้นเดียวกับตอนที่เสี่ยวโอวสลักไว้ตอนกันไม่ให้ตนเดินหลงทางในป่าโบเออร์เนีย ที่แท้ความลับจุดเชื่อมโยงก็อยู่ที่นี่ เสี่ยวโอวแตะไปที่ต้นไม้พอลืมตาขึ้นอีกครั้งป่าก็เปลี่ยนไป ทั้งยังได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคยของอีริค เสี่ยวโอวจึงอยู่ที่หมู่บ้านกวางเรนเดียร์และให้เมล็ดเพาะปลูก บอกวิธีเพาะปลูกที่ถูกต้อง ระหว่างนั้นเสี่ยวโอวได้เจอเสือดาวน้อยบาดเจ็บขาหลังเหมือนตอนนั้นทำให้นึกถึงไรอัน เผลอเรียกเถาเถา แต่บอกว่าต้องเก็บเป็นความลับไม่งั้นจะไม่ให้กินนมอีก หลายวันผ่านไปเสือดาวน้อยมาหาที่เดิมทุกวัน จนกระทั้งถึงวันออกล่าของฝูงเสือดาวทำให้รู้ว่าเสือดาวน้อยตัวนั้นคือวินเบิร์กลูกของวินเทอร์และสุชานา สุชานากำลังตามหาวินเบิร์กและถามเรื่องกลิ่นนมกับชื่อเถาเถาที่ได้ยินจากวินเบิร์กกับวินเทอร์ทำให้ไรอันรู้ว่าเสี่ยวโอวกลับมาแล้ว คราวนี้ไรอันทำเหมือนเสี่ยวโอวเป็นเหยื่อมัดพาเดินไปที่ถ้ำซึ่งเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนเพราะรู้ว่าเสี่ยวโอวไม่ชอบอยู่กับฝูง และในที่สุดทั้งสองก็ได้ร่วมคู่กันซะทีเพราะตลอดมาคนที่อยู่ในใจเสี่ยวโอวตลอดก็คือไรอันนั้นเอง ทั้งสองกลับมาอยู่ที่ฝูงจนกระทั่งถึงเวลาใกล้เปิดเรียนของเสี่ยวโอว ตอนแรกเสี่ยวโอวขอเวลากลับบ้าน 3 เดือนแต่ไรอันไม่ตกลง เลยเกิดความคิดชวนไรอันไปยังโลกของตนด้วย พอไปถึงไรอันเห็นความแตกต่างของโบเออร์เนียและโลกมนุษย์ เห็นความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวของมนุษย์ และเห็นสถานะที่ทางสังคมมนุษย์ต้องมี สิ่งเหล่านี้แตกต่างจากโลกของสัตว์กลายพันธุ์ แต่ไรอันก็สามารถทำให้พ่อและแม่ของเสี่ยวโอว ยอมรับได้ภายในเวลาหนึ่งเดือนและได้กลับไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่โบเออร์เนีย

หลังอ่าน :
ในเล่มหนึ่งเส้นเรื่องจะอยู่ที่ การเดินทางของเสี่ยวโอวกับไรอัน แสดงถึงโลกของสัตว์กลายพันธุ์ วิถีชีวิตการดำรงอยู่ของสัตว์กลายพันธุ์กินพืช กินเนื้อ การดำรงอยู่ของนักล่าและผู้ถูกล่า และได้บอกว่าเสี่ยวโอวได้หลุดเข้ามาในโลกอนาคตที่ไม่มีมนุษย์อยู่เลยโดยนำเอาสิ่งของที่พัฒนา มีประสิทธิภาพมากกว่าตามมาด้วย เสี่ยวโอวต้องการกลับบ้าน ส่วนไรอัน เมื่อร่วมทางไปด้วยกันก็เกิดความผูกพัน จนตอนแรกยังไม่รู้ว่าคือความรัก อยากแต่จะให้เสี่ยวโอวอยู่ที่โบเออร์เนีย ถึงกับเปลี่ยนกฎเกณฑ์การดำรงชีวิตของฝูงที่มีมานานเพื่อเสี่ยวโอว

เล่มสอง เส้นเรื่องเดินไปในทางของความรักที่ไรอันมีต่อเสี่ยวโอว และที่เสี่ยวโอวมีต่อไรอัน แต่ตอนแรกยังไม่เข้าใจเพราะตนคือมนุษย์ ไรอันคือเสือดาว และเสี่ยวโอวยังอายุน้อยเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น หลังจากหนีกลับบ้านได้ก็ยิ่งรู้ใจตัวเองทั้งคู่ว่านั้นคือคนรัก คือคู่ชีวิตเพียงหนึ่งเดียว ที่ให้ไรอันไปโลกมนุษย์ไรอันได้เห็นและเรียนรู้ว่าสังคมมนุษย์ดูแลลูกของตนไม่ห่างจนโต เอาไว้ข้างกายตลอด ต่างกับเสือดาวที่พอหนึ่งปีก็ต้องแยกจากพ่อแม่เพื่อออกล่า เพื่อความอยู่รอด ไม่งั้นจะเป็นตัวไร้ค่า และไรอันก็เห็นถึงสถานะที่มนุษย์ต้องมี ไรอันฉลาด ช่างสังเกต เรียนรู้เร็ว จึงสามารถทำความเข้าใจ และมีความสามารถที่จะทำได้จริงๆ เพราะไรอันรักเสี่ยวโอวนั่นเอง ไม่ยอมแยกจากจึงต้องทำเพื่อให้พ่อและแม่ยอมรับไรอันให้ได้ และสุดท้ายก็ทำสำเร็จ

ถ้าจะพูดถึงเรื่องนี้ขอบอกว่าเนื้อเรื่องน่าจะอิงเรื่องความรักที่สุด ที่เสี่ยวโอวข้ามมิติมาก็เพราะมีไรอันอยู่ เพราะทั้งสองเป็นคู่ชีวิตกันนั่นเอง ส่วนในห้วงมิติตามที่เสี่ยวโอวคิดไว้ จากที่หยิบของในเป้ได้ ต่อมาพอมีสมาธิมากขึ้น ชำนาญมากขึ้นก็สามารถหยิบของเก็บของในอากาศได้ และสามารถซ่อนไรอันและตัวเองเข้าไปได้ชั่วคราวด้วย จริงๆแล้วเต่าน้ำแพ็ตต้องรู้เรื่องโลกมนุษย์และห้วงมิติแน่ แต่ไม่ยอมบอกไรอัน เพราะจะทำให้ทุกอย่างผิดเพี้ยนไป (เดาว่าเหมือนเรื่องทวิภพ ประมาณนั้น ที่นางเอกสามารถผ่านกระจกย้อนอดีตไปได้คนเดียว พอแม่จะตามไปก็โดนดีดกลับ) แต่สุดท้ายก็ยังบอกถึงสถานะของมนุษย์ และได้สร้างสถานะไว้ให้ไรอัน สรุปว่าไรอันเตรียมพร้อมมากในจุดนี้ สมกับเป็นจ่าฝูงจริงๆ

เรื่องการร่วมคู่ อันนี้ธรรมดาสุดๆ ไม่ขอกล่าวถึง ใครที่หวัง NC แบบสัตว์ป่านี่ไม่ต้องไปคิดเลย ถ้าอยากอ่านไปอ่าน นลินี ซิงห์ ประมาณนั้นจะดีกว่า เพราะอย่างนั้น อันนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญเลยจริงๆ

การข้ามห้วงมิติไปกลับโลกกับโบเออร์เนีย ถ้าอ่านจนถึงท้ายเรื่องจะรู้ว่า ไม่มีใครจะสนใจจริงๆ เพราะ เกรทพูลลูกชายเสี่ยวโอวรู้ว่าพ่อ แม่ ต้องไปทุกปีเวลาเดิม ยังไม่เห็นสน สนแต่เกมล่าสัตว์ จนไรอันที่ฉลาดอีกแล้วที่เอาปืนออกมาให้เกรทพูลเห็น แล้วบอกว่าต้องหามาเอง ฉลาดสุดๆจริงๆ

ท้ายสุด เรื่องนี้เน้นที่ความรักของตัวละครจริงๆ ความรักต่างเผ่าพันธุ์สามารถอยู่ร่วมกันได้ ถ้าปรับตัวเข้าหากัน ยอมรับซึ่งกันและกัน จากที่เสือดาวจะอยู่ตัวเดียวก็กลายเป็นมีคู่ชีวิต มีลูกชายที่พ่อกีดกันไม่ให้เข้าใกล้แม่ และลูกสาวที่เหมือนแม่ ทุกคนในครอบครัวรักที่สุด และก็เป็นที่หวงสุดๆของพ่อและพี่ชาย

เนื้อเรื่องแปลกดี สำหรับเรื่องแปลจีน อ่านได้ถ้าต้องการความแปลกใหม่ เน้นเรื่องความรักต่างเผ่าพันธุ์ของแท้จริงๆ การยอมรับซึ่งกันและกัน อย่าไปใส่ใจเรื่องห้วงมิติมากนักทั้งๆที่จริงๆแล้ว นข.ได้ปูพื้นเรื่องแล้วว่ามันอัพเกรดได้ตลอด อ่านไปแบบขำๆ ตามจินตนาการ นข. แล้วจะสนุกว่าที่คิดจริงๆ เพราะนิยายก็คือจิตนาการ อย่าหาความสมจริงเพราะมันไม่มีตั้งแต่ต้นแล้ว ลองอ่านดูแล้วจะรู้


Monday, February 11, 2019

#กมลมังกร #เล่มเดียวจบ #ห้องสมุด

Review 4/2562
เรื่อง : กมลมังกร
ผู้แต่ง : sunsy
สนพ. ห้องสมุด
พิมพ์ครั้งที่1 : มกราคม 2557

โปรยปก :
คนอย่างเขาจะไม่เป็นรองใครในแผ่นดิน รุ่งเรือง โดดเด่น เป็นใหญ่ที่สุด…ถ้า...เขาได้มงกุฎหงสาคืนมาในครอบครองนะ!!! เพราะบรรพบุรุษทำของวิเศษสูญหาย 'ต้วนเจิ้งอี้' ประมุขแห่งต้าลี่ จึงสู้มุมานะเพื่อตามกลับคืนมา เพื่อจะพบว่าความลับของมงกุฎ…อยู่ที่เด็ก เด็กคนหนึ่งจะกำความลับที่ยิ่งใหญ่นี้ไว้ได้อย่างไร เขาจะจากไปก็ยังสงสัย...จะเลี้ยงเอาไว้ก็คงรำคาญ ทำยังไงดีหนอ...ก็เขายังไม่พร้อมมีภาระ

นึกหรือว่านางจะยอมให้เขาทอดทิ้งภาระตัวเล็กๆ ไปได้โดยง่าย!!! หงส์ฟ้าผู้ซุกซนอุตส่าห์ตามมังกรหนุ่มมาจุติ เพียงแค่เห็นว่านางเป็นเด็กเขาถึงกับหน้าถอดสี หัวเด็ดตีนขาดนางก็ไม่ยอมให้เขาละทิ้งสัญญาระหว่างกันไปได้ หน็อย...คิดจะทอดทิ้งนาง ไฉนเลยจะง่ายดายปานนั้น นางจะสร้างความโกลาหล จะก่อกวนให้หัวหมุนเลยคอยดู

เด็กน้อยที่เติบโตอย่างพิสดารสู่ร่างสาวสะคราญอันตระการตา จะสร้างความโกลาหลกับหัวใจของมังกรหนุ่มได้มากน้อยแค่ไหน นางจะทำให้เขาจำพันธะสัญญาระหว่างกันได้หรือเปล่า ลุ้นกันต่อในเล่มเลย

เนื้อเรื่อง :
ต้วนเจิ้งอี้ ฮ่องเต้องค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์ต้วน เป็นโอรสสายเลือดเทพมังกร ที่ห่างหายไปนานถึงสองร้อยปี สิ่งที่ยังไม่บรรลุปณิธานก็คือแคว้นเหย่วตั้งตนเป็นใหญ่ ไม่ยอมสวามิภักดิ์กลับเข้ามารวมเป็นหนึ่งกับอาณาจักรต้าลี่ ต้วนเจิ้งอี้จึงวางแผน เดินทางไปสังหารอ๋องแคว้นเหย่วเพื่อชิงมงกุฎหงสา หนึ่งในสามสิ่งวิเศษแห่งแคว้นตาลี่คืนมา นั่นคือ กระบี่ปราณมังกร ศรเทวยุทธ์ มงกุฎหงสา ในตำนานเรื่องเล่าของมงกุฎหงสามีว่าใครได้ครองมงกุฎหงสาจะได้ครองสมบัติมากมาย ความจริง ต้องเจิ้งอี้ต้องการมงกุฎหงสาเพื่อจะหาสมบัติมาใช้ในการสงครามกับแคว้นเหย่วและเติมท้องพระคลัง ระหว่างเดินทางกลับในถ้ำได้บังเอิญทำมงกุฎหงสาหล่นไปในกองไฟทำให้เกิดเดินทารกน้อยขึ้น ได้ตั้งชื่อว่าหยกน้อย แท้จริงแล้วคือหงส์ฟ้าที่เป็นคู่ของมังกรฟ้ามาตั้งแต่บนสวรรค์ตามมาเกิดยังโลกมนุษย์ หยกน้อยแค่เป็นทารกก็รู้ภาษาและคอยบอกว่าสมบัติอยู่ที่ไหน จนได้พาไปถึงเผ่าผู้พิทักษ์ที่ผามังกร หยกน้อยมีความพิเศษที่โตเร็วมาก ระหว่างเดินทางก็โตจนกลายเป็นเด็กน้อยเดินได้รู้ความ หลังจากออกจากถ้ำสมบัติ ได้มีศัตรูบุกมาโจมตี ต้วนเจิ้งอี้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนหยกน้อยกลายเป็นนกหงส์ไฟไป กลับถึงวังหลวงต้วนเจิ้งอี้จำหยกน้อยไม่ได้เพราะบาดเจ็บและสวมมงกุฎหงสาที่กดปราณมังกรเอาไว้ หยกน้อยที่เป็นนกสังเกตเห็นเลยมาถอดมงกุฎหงสาออกทำให้จำเรื่องราวได้ และรู้ว่าจะต้องกลับไปเผ่าผู้พิทักษ์เพื่อคืนร่างมนุษย์ให้หยกน้อย พอไปถึงก็มีศัตรูกลุ่มเดิมบุกมาจึงได้ช่วยเหลือเผ่าผู้พิทักษ์ และคืนร่างมนุษย์คราวนี้ได้กลายเป็นหญิงสาวสวยงามไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไป เรื่องราวดำเนินต่อไปโดยการไปทำศึก หาทหารม้าที่นอกด่านซึ่งเป็นเมืองของที่นตาและน้องชาย เมื่อกลับเมืองหลวงก็เป็นการจัดการภายฝ่ายใน เพราะหยกน้อยคือคู่ครองหนึ่งเดียวที่เป็นคู่บุพเพของสวรรค์ เรื่องราวดำเนินมาถึงในวังหลวงจัดการกับเหล่านางสนมต่างๆจนเรียบร้อย แต่งตั้งฮองเฮา และปราบกบฎในคราวเดียวกัน บทส่งท้ายเป็นหลังจากนั้นหลายร้อยปีได้กล่าวกลับไปถึงเผ่ามังกรบนสวรรค์ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นจนจบ

หลังอ่าน :
เนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ เส้นเรื่องอยู่ที่การเดินทาง ชีวิตความเป็นอยู่ของต้วนเจิ้งอี้และหยกน้อย มีที่สะดุดที่ภาษาพูดของหยกน้อยที่จะมีคำ จ้า น้า อิอิ แบบถ้าเป็นเจ้าคะ หรืออะไรที่ดูเป็นจีนโบราณจะอ่านแล้วลื่นไหลกว่านี้มาก เรื่องก็เดาทางได้เดินทาง กลับวัง สนมฝ่ายในแย่งชิงตำแหน่ง แต่คือหยกน้อยจะสร้างความบันเทิง เบิกบานใจให้ทุกคน เพราะนิสัยช่างกิน ร่าเริง สนุกสนาน มีน้ำใจ บทส่งท้ายกลับไปกล่าวถึงเผ่ามังกรบนสวรรค์ก็ทำให้เรื่องราวจบได้สมบูรณ์ ส่วนที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นช่วงตอนพิเศษ ในยุคปัจจุบันต้วนเจิ้งอี้ และหยกน้อยนิสัยยังคงเดิม แต่อ่านแล้วไม่สะดุดเหมือนตอนก่อนหน้า อ่านได้ลื่นไหลและสนุกกว่ามากเลยล่ะ

Wednesday, February 6, 2019

#สองเรา #3เล่มจบ #ห้องสมุด

Review 3/2562
เรื่อง : สองเรา (3 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : ติงโม่
ผู้แปล : ห้องสมุด
สนพ. ห้องสมุด.คอม
พิมพ์ครั้งที่ 1 : สิงหาคม 2561

โปรยปก :
เรื่องราวของหญิงสาวใจดี ที่ประคบประหงมแมวน้อยน่าสงสาร
โดยไม่ระแคะระคายว่าแท้จริงแล้ว... เป็นเสือ!

งานใหม่ของเธอมาพร้อมกับภาระชิ้นใหญ่
ระยะนี้ ชีวิตของหลินเฉี่ยนมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายวิ่งเข้ามาห
ข่าวดีคือ... เธอเพิ่งได้งานใหม่ ตำแหน่งดี ค่าตอบแทนสูง
ข่าวร้ายคือ... วันแรกที่เข้าทำงาน ถึงได้รู้ว่าบริษัทใกล้เจ๊งอยู่รอมร่อ
มีการลดจำนวนพนักงาน ทั้งยังเปลี่ยนตัวผู้บริหาร

บอสใหม่ของหลินเฉี่ยนเป็นอดีตนายทหารที่เพิ่งปลดประจำการ
เขามารับช่วงธุรกิจต่อจากบิดาแบบงง ๆ
ทหาร... ที่เป็นทหารมาทั้งชีวิต
ทหาร... ที่กินอยู่กับกองทัพ ไม่เคยก้าวเท้าออกมาไกลกว่านั้น

แบบนี้แล้ว หลินเฉี่ยนไม่รู้จะสงสารบริษัทหรืออนาคตของตัวเองดี
แต่ที่แน่ ๆ เธอจำเป็นต้องสอนมวยคุณทหารหน้ามนคนนี้เสียหน่อย
ว่าโลกธุรกิจมันโหดร้าย และไม่ได้ฆ่ากันได้ง่ายๆเหมือนในสนามรบ

หวังว่าเขาจะเป็นนักเรียนที่ดีนะ

เล่ม1 :
นางเอกของเรื่อง หลินเฉี่ยน ระหว่างกลับจากท่องเที่ยวพักผ่อนได้ประสบอุบัติเหตุรถเสีย ทำให้ได้รับการช่วยเหลือจากทหาร ซึ่งได้อาศัยรถไฟทหารกลับเข้าเมืองมาพร้อมกับทหารปลดประจำการ ในรถไฟได้รู้จักกับผู้พันคนหนึ่ง และทหารอีกกลุ่มหนึ่ง ตอนนั้นยังไม่รู้ทั้งชื่อ และที่อยู่ ต่อมาหลินเฉี่ยนจึงพบว่า ผู้พันที่ปลดประจำการและพบที่บริษัทอยู่เรื่อย ไม่ใช่ผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอดภัยแต่คือประธานคนใหม่ของบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่ ลี่จื้อเฉิง ในเล่มนี้ยังเป็นการทำความรู้จักนิสัย และการทำงานที่เปลี่ยนจากทหารมาเป็นการบริหารธุรกิจแทน ที่หลินเฉี่ยนมองแล้วว่าผู้พัน ประธานลี่ของเธอจะบริหารบริษัทไปได้แน่เหรอ วันแรกของการเป็นเลขาก็พบว่า ลี่จื้อเฉิง อ่านหนังสือ กลยุทธ์ซุนจื่อ ที่ถูกพลิกอ่านจนเก่าและยังเป็นฉบับเกี่ยวกับธุรกิจ และยังมีการจดข้อความต่างๆเอาไว้ เช่น ล่อเนื้อเข้าถ้ำเสือ ยืมมีดฆ่าคน หลอกซ้ายตีขวา ตั้งเสาไม้หน้าประตูเมือง ตั้งมั่นรับการโจมตี เมื่อหลินเฉี่ยนเห็นไม่ได้คิดอะไรเลยนอกจาก ตำราพวกนี้ใครก็เคยอ่าน แต่จะมีใครจะนำไปใช้ได้จริงกัน แต่จากเหตุการณ์ต่างๆที่จะต้องบุกยึดตลาดกระเป๋ากลับมาอีกครั้ง จนสุดท้ายเป็นผลสำเร็จทุกขั้นตอน ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ หลินเฉี่ยนได้เล่าให้หลินม่อเฉิน พี่ชายที่ทำงานอยู่ในตลาดหุ้นวอลสตีทฟัง ซึ่งเป็นคนที่เก่ง ฉลาดมากในเชิงธุรกิจ หลินม่อเฉินก็พูดขึ้นมาทันทีว่า ตั้งเสาไม้หน้าประตูเมือง ทำให้หลินเฉี่ยน นึกขึ้นได้ถึงหลายเดือนก่อนตอนที่เพิ่งเริ่มทำงานเป็นเลขาของ ลี่จื้อเฉิงว่าเคยเห็นและจดเอาไว้ เลยเอามาดู เมื่อคิดถึงวิธีการทำงานจึงคิดได้ว่าเขาไม่ใช่แมวน้อย แต่เป็นหมาป่าต่างหาก วางแผนทุกขั้นตอนไว้หมดแล้ว เป็นคนประเภทเดียวกับพี่ชายเลยทีเดียว ซึ่งลี่จื้อเฉิงก็ไม่ได้ปฏิเสธทั้งยังบอกว่าจะชอบเธออีกด้วย หลินเฉี่ยนกลัวใจตัวเองเลยถอยห่าง แต่จริงๆแล้วนั่นคือแผนปล่อยเพื่อจับต่างหาก

เล่ม 2 :
หลังจากที่ใช้ กลยุทธ์ซุนจื่อ จัดการกับบริษัทซือเหม่ยฉีได้แล้ว ตอนนี้ก็จะทำกลยุทธ์จัดการกับเจ้าตลาดอันดับหนึ่งอย่างบริษัทซินเป่ารุ่ย ในตอนแรกลี่จื้อเฉิงได้แยก Vinda ออกมาจากอ้ายต๋าก่อน จากนั้นก็ชิงส่วนแบ่งตลาดกระเป๋ามิดเอนด์จากซือเหม่ยฉีมาได้ ตอนนี้กระเป๋า Aito ที่ออกมาทำตลาดด้วยกระเป๋าแนวคิดใหม่ที่รวมเอากระเป๋าเป้สะพายและกระเป๋าลำลองมารวมกัน ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่เช่นกัน เพราะเนื้อผ้า Mind ลิขสิทธิ์ผ้าของหมิงเต๋อโรงงานผลิตผ้าในไต้หวัน สร้างกระแสปั่นป่วนจนซินเป่ารุ่ยต้องเปิดตัว ซายิง หรือ DH กระเป๋าเป้สะพายชนิดใหม่ กระเป๋าลำลองและกระเป๋ากีฬาในตัว ซึ่งเอาแนวคิดจาก Aito มาใช้ หนิงเหวยข่ายประธานบริษัทซินเป่ารุ่ยคิดได้ว่าควรนิ่งเฉยจากการที่ ลี่จื้อเฉิงสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดของซือเหม่ยฉีได้ แต่หลังจากประชุมคณะกรรมการผู้บริหารสกุลจู้ก็มีคำสั่งให้ออกกระเป๋ามาสู้ซึ่งผลที่ได้ก็คือ DH ที่ทำออกมาได้ดีกว่า Aito ทุกอย่างทั้งการออกแบบ การโฆษณา แต่แผนที่แท้จริงของลี่จื้อเฉิงก็สำเร็จ เพราะเขาได้เข้าร่วมลงทุนซื้อหุ้นของหมิงเต๋อเรียบร้อย 51% และยังใช้เงินทุน 50 ล้านหยวนที่ยืมมาจากหลินม่อเฉิน(พี่ชายหลินเฉี่ยนให้ยืมเงินทุน 100 ล้านหยวนโดยต้องคืนในอีกหนึ่งปีเป็นเงิน 200 ล้านหยวน 100 ล้านหยวนให้คือเค้าอีก 100 ล้านหยวนให้เป็นสินเดิมของหลินเฉี่ยน) ซื้อหุ้นในชื่อหลินเฉี่ยน 21% ส่วน วังไท่ซื่อผู้ก่อตั้งมีหุ้น 29% นี่คือความสำเร็จที่รอคอยเพราะศรยาวที่ลี่จื้อเฉิงต้องการก็คือ ซินเป่ารุ่ยที่มีทุนหนานั่นเอง กลยุทธ์ครั้งนี้เริ่มจาก Vinda เป็นตัวบังหน้าออกสินค้าใหม่ Aito เริ่มด้วย เท็จในจริง จริงในเท็จ กลยุทธ์ที่เคยทำก่อนหน้า ตั้งแผนกการตลาด โยนกระเบื้องล่อหยก อยากได้ต้องให้ก่อน เรือฟางยืมลูกศร ลอบตีเฉินชาง ใช้หอกของท่าน แทงโล่ท่านเอง ทัพใหม่ออกรบ ยิงธนูดอกเดียวได้นกสามตัว ระหว่างนี้ความรักของทั้ง ลี่จื้อเฉิงและหลินเฉี่ยนก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น ในที่สุดหลินเฉี่ยนก็ยอมย้ายมาอยู่กับลี่จื้อเฉิง อีกหนึ่งปีจะผ่านไป แผนการต่างๆสำเร็จสุดท้าย หนิงเหว่ยข่ายโดนย้ายไปเป็นประธานบริษัทด้านไอทีในเครือสกุลจู้เพราะยอดขายกระเป๋าตัวอื่นตกต่ำเหลือแต่ DH ที่ขายได้ ลี่จื้อเฉิงและหลินเฉี่ยนอยู่เบื้องหลังคอยรับเงินค่าลิขสิทธ์ผ้าของหมิงเต๋อที่แต่ละบริษัทก็อยากใช้ในการผลิต ส่วนซือเหม่ยฉีที่คิดว่าเสือสองตัวกัดกันจะขอเข้ามามีส่วนแบ่งตลาดด้วยรีบทำการผลิตกระเป๋าขึ้นมาแข่ง แต่ก็ไม่ทันเพราะ ลี่จื้อเฉิงส่ง Aier ออกมาตีตลาดทำให้ซือเหมยฉีขาดทุนย่อยยับ

เล่ม3 :
หลังจากความสำเร็จผ่านไป อ้ายต๋าได้จัดงานฉลองใหญ่ขึ้น ครั้งนี้ลี่จื้อเฉิงได้สวมแหวนหมั้นให้หลินเฉี่ยนในคืนนั้น บริษัทที่ขาดทุนที่สุดคือซือเหม่ยฉีที่คิดว่า DH และอ้ายต๋าสู้กันตนจะได้ส่วนแบ่งตลาดคืนมา แต่ผิดพลาด เพราะเอาที่ดินไปจำนองธนาคาร จึงตัดสินใจร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติ DG ทีมที่มาในครั้งนี้มีหลินม่อเฉินพี่ชายของหลินเฉี่ยนเป็นผู้นำด้วย ซึ่งจะเป็นคนดำเนินการบริษัทซือเหม่ยฉีและซินเป่ารุ่ย แต่จะให้คนอื่นดำเนินการกับบริษัทอ้ายต๋าเพราะความสัมพันธ์ส่วนตัว ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ต่อสู้กับทุนต่างชาติ ทั้งลี่จื้อเฉิงและหลินม่อเฉินคิดว่าหลินเฉี่ยนเป็นจุดอ่อนจึงให้ออกห่างจากเรื่องของบริษัทอ้ายต๋า หลินเฉี่ยนจึงมีความคิดที่จะสร้างแบรนด์ของตัวเอง โดยไม่ต้องการทำกำไรแต่ต้องการค้นหาตัวเองให้พบ การต่อสู้กับทุนนอกลี่จื้อเฉิงและหนิงเหวยข่ายได้ร่วมมือกัน โดยหนิงเหวยข่ายโจมตีด้านนอกส่วนลี่จื้อเฉิงรับผิดชอบอีกส่วน โดยการไปฟลอเรนซ์เจรจาเป็นตัวแทนจำหน่ายประจำภูมิภาคเอเชียกับบริษัทผลิตกระเป๋าหนังและกระเป๋าลำลอง ได้สิทธิ์มาทั้งหมดห้ารายซึ่งกิจการทั้งหมดนี้เป็นบริษัทท้องถิ่นกิจการตั้งมานาน บางบริษัทนับร้อยปี หนึ่งในบริษัทนั้นคือ เดวิทที่รับสืบทอดกิจการ ทำการค้าตามสบาย เป็นกระเป๋าที่คุณภาพดีแต่ทำกิจการไม่เคร่งเครียด ก็ยินดีมาร่วมงานด้วย ยุทธวิธีที่ลี่จื้อเฉิงใช้ตอนนี้ก็คือจับปลาน้ำขุ่น เป็นการตีตลาด DG โดยเฉพาะ เมื่อมีโฆษณาออกมา ก็จะมีโฆษณาคล้ายกันลอกเลียนแบบตามมา บอกว่า DG อายุร้อยกว่าปี ก็บอกว่า David ก่อตั้งปี ค.ศ.1890 อายุมากกว่า DG ถึงสิบกว่าปี กระเป๋าดูธรรมดา ราคา 3000 หยวน กระเป๋าคุณภาพธรรมดาแต่รูปลักษณ์ดูดีขาย 300 หยวน ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนเกิดความสับสน สุดท้าย DG ได้นำ Zamon สินค้าตัวหลักแบรนด์เนมมีชื่อเสียงระดับโลกออกมาสู้ จากที่นำเอาสินค้าอันดับสอง อันดับสามออกมา

ส่วนหลินเฉี่ยนได้เปิดตัวกระเป๋าชิงเฉิน กระเป๋าสะพายสำหรับสุภาพสตรี ลี่จื้อเฉิงมีการวางหมากให้กู้เหยียนจือเปิดเวบไซด์ซีหยางฟั่น ซึ่งเป็นเวบไซด์ที่ให้พื้นที่ในการซื้อขายอิสระมาโจมตีกระเป๋าของ DG ต่อ และต่อมาก็ใช้รูปแบบโฆษณาโทรทัศน์ประกาศท้ารบ DG ในค่ำคืนเดียวผู้บริโภคทั่วประเทศก็รู้ถึงราคาจำหน่ายของ Zamon ที่ตั้งในประเทศและนอกประเทศ รู้ว่าธุรกิจท้องถิ่นของจีนกำลังปกป้องแบรนด์ตัวเองด้วยการต่อต้านการซื้อกิจการของธุรกิจต่างชาติ ในที่สุดลี่จื้อเฉิงก็ทำสำเร็จ และสามารถตี DG สาขาประเทศจีนออกไปได้ เรื่องราวจบลงด้วยดี ทั้งการงานและความรัก

หลังอ่าน :
เนื้อเรื่อง เป็นการดำเนินธุรกิจของพระเอกที่เป็นนายทหาร พันตรีปลดประจำการ แต่เป็นหน่วยรบพิเศษไม่ธรรมดาสุดๆ ลี่จื้อเฉิง กับนางเอก หลินเฉี่ยนที่ไม่คิดว่าพระเอกจะเข้าใจเรื่องราวธุรกิจ แต่ความจริงแล้ว เมื่อเนื้อเรื่องได้ดำเนินมาจนสุดทางจนถึงบทพิเศษท้ายเรื่อง ถึงรู้ถึงความรู้สึกตัวละครว่าพระเอกนางเอก มีความสนใจในกันและกันเลยอยากจะปกป้องนั้นเอง ทำให้มองหมาป่าเจ้าเล่ห์ไม่ออก มีการใช้กลยุทธ์ในการดำเนินธุกิจที่เข้มข้น ใช้ตำราพิชัยสงครามซุนจื่อมาเป็นหลักดำเนินธุรกิจ น่าติดตามมาก ทั้งความสามารถของพระเอกที่เก่งในการวางแผน การวางหมากกล และดำเนินการต่างๆ และในเรื่องความรักที่ไม่ว่ายังไงเมื่อตัดสินใจได้แล้วก็ต้องใช้ทุกแผนการเพื่อให้ได้มา ยังมีตัวละครอื่นๆที่มีสีสันในเรื่อง และหลินม่อเฉินพี่ชายนางเอกที่จะได้มีบทบาทต่อไปในเรื่องราวของตัวเอง และมีตอนพิเศษให้ได้รู้ชีวิตของศจ.ป๋อ กับจี้ไป๋อีกนิดนึงให้หายคิดถึงอีกด้วย ตอนพิเศษน่ารักมากๆเลยทีเดียว