Friday, November 5, 2021

#คุณผู้ช่วยสถาปนิก #4เล่มจบ #นิยายแปลจีนวายแนวปัจจุบัน #BL #อาชีพสถาปนิก #แนวslice_of_life #เริ่มต้นทำงาน #การเป็นสถาปนิก #การใช้ชีวิต

 Review 25/2564

เรื่อง : คุณผู้ช่วยสถาปนิก (4 เล่มจบ) #นิยายแปลจีนวายแนวปัจจุบัน #อาชีพสถาปนิก #แนวslice of life #เริ่มต้นทำงาน #การเป็นสถาปนิก #การใช้ชีวิต

ผู้แต่ง : ซีเหอชิงหลิง

ผู้แปล : หนิงเหมิงฉา

สำนักพิมพ์ : โรส

จำนวนหน้า : 410 + 430 + 410 + 394 หน้า

เล่ม 1 พิมพ์ครั้งที่ 1 : ตุลาคม 2563

โปรยปกหลังเล่ม 1 :

เมื่อ จางซืออี้ นักเรียนนอกจบใหม่ไฟแรงกลับสู่ประเทศบ้านเกิดด้วยปณิธานมุ่งมั่นอยากจะเป็นสถาปนิก โดยมีแรงบันดาลใจมาจากไอดอลสมัยมัธยมปลาย แต่ชีวิตมันช่างยากเย็น แฟนก็เพิ่งเลิก งานการก็ยังไม่มีแถมค่าเช่าห้องก็ต้องจ่าย จะหาเงินจากไหนมาประทังชีวิต โชคยังดีบริษัทที่ส่งใบสมัครงานไว้เรียกไปสัมภาษณ์

 

แต่เอ๊ะ! กู้เซียว ว่าที่เจ้านายที่สัมภาษณ์เขาคือ คนที่โดนแฟนเก่าเขาสาดกาแฟใส่ แถมยังเข้าใจเขาผิดอีกต่างหาก! แล้วทำไมทำงานวันแรกต้องถูกหักเงินเดือน แถมยังต้องทำโอทีอีก โอ๊ย...นี่มันการต่อสู้ชีวิตของมนุษย์เงินเดือนจางซืออี้ชัดๆ!

เล่ม 1 :

จางซืออี้ (นายเอก)  เด็กคณะสถาปัตย์ที่เพิ่งเรียนจบหมาดๆจากอังกฤษ กลับมาอยู่จีนก็เตะฝุ่น ยังหางานไม่ได้ แถมแฟน (ผญ) ก็งี่เง่า เปิดเรื่องมานางก็หาเรื่องด่านายเอก ว่าไม่มีเวลาให้ เรียนจบหางานไม่ได้ จางซืออี้ทนฟังจนทนไม่ไหว ทั้งที่จางซืออี้ก็บอกแล้วว่ากำลังหาอยู่ แล้วก็มาพูดเรื่องเป็นเกย์กับเพื่อนสนิทที่เรียนจบมาจากอังกฤษด้วยกันฟู่ซิ่นฮุยว่าเป็นคู่เกย์ มีเวลากดไลค์ไทมไลน์วีแชทแต่ไม่มีเวลามาหา สุดท้ายจางซืออี้ทนไม่ไหวบอกเลิกกันเถอะ  ฝั่งแฟนหัวร้อนมากฉอดเสร็จสาดกาแฟใส่ นายเอกสวมวิญญาณคล่องแคล่ว หลบกาแฟบินได้ แต่เจ้ากรรมไปตกที่คนที่ข้างหลัง หนุ่มหล่อผู้โชคร้ายเลยรับกาแฟแทนเข้าไปเต็มๆ และเมื่อมีบริษัทหนึ่งเรียกเขาเรียกไปสัมภาษณ์ ผลปรากฏว่า คนสัมภาษณ์คือกู้เซียว (พระเอก) คนที่โดนสาดกาแฟนั่นแหละ บริษัทอู๋จิ้งเป็นบริษัทที่จางซืออี้เลือกส่งประวัติเป็นอันดับแรกๆไม่คิดว่าจะโดนเรียกสัมภาษณ์จริงๆด้วยซ้ำ พระเอกก็ถามไปว่าทำไมถึงเลือกเรียนสถาปัตย์ฯ อยากเป็นสถาปนิก นายเอกตอบไปว่าเพราะมีรุ่นพี่สมัยเรียนเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งไม่รู้ตัวว่าคนที่ปลื้มเป็นคนสัมภาษณ์อยู่ ตอนนั่งสัมภาษณ์ก็ยังไม่รู้ เพราะจำไม่ได้แล้ว ถามว่ารุ่นพี่พูดยังไง ก็จำไม่ได้ แค่ประทับใจมาก สุดท้ายนายเอกก็ได้งานแบบงงๆ จากนั้นก็เริ่มชีวิตวัยทำงาน กับการเผชิญโลกการทำงานครั้งแรก เรื่องราวความรักของคนแอบรักอย่างเจ้านายจอมเฮี๊ยบและเด็กน้อยจบนอกจึงเริ่มขึ้น

เพราะชอบเล่นวีแชท ตอนสัมภาษณ์กู้เซียวบอกเลยว่าเดี๋ยวเริ่มงานได้เลย แล้วก็บอกเงินเดือน การทดลองงาน ห้ามเล่นวีแชท ต้องทำโอทีได้ พอมาถึงก็ได้เพื่อนร่วมงานที่คุยเก่งสุดๆ ช่างเม้าท์ แล้วก็ได้ฉายาทันทีคือป้าสี่ (ซื่ออี๋) ได้มาทำงานแบบงง แล้วกู้เซียวก็สั่งงานทันที จางซืออี้ก็ทำแบบงง เพราะยังไม่ชิน

กลางวันไปกินข้าว เจอกู้เซียว ก็นึกว่าเลี้ยง กู้เซียวชอบแกล้งจางซืออี้แถมหนิ่งมาก แล้วจางซืออี้ก็ได้รู้ว่ากู้เซียวคือรุ่นพี่ที่ตัวเองปลื้มนั้นเอง กลับเข้าทำงาน ก็ได้รู้ว่าบริษัทมีการให้ดูแลต้นไม้คนละต้น ถ้ารอดก็จะได้โบนัส ตัวเองก็คิดว่าจะเลี้ยงแคคตัสเพราะคงไม่ต้องดูแลมาก แต่เดนดูรอบๆมีเพียงสองต้น ต้นใหญ่เป็นของกู้เซียว ต้นเล็กก็ของกู้เซียวอีก เลยโวยวายว่าทำไมกู้เซียวเลี้ยงได้ กู้เซียวมาได้ยิน ถามว่านายชอบแคคตัส เจ้าตัวอยากเลี้ยงเลยตอบรับ สุดท้ายกู้เซียวก็ยกให้ เรื่องนี้รู้ไปทั้งบริษัท พวกสาวๆต่างอิจฉาจางซืออี้

จางซืออี้ได้รับมอบหมายงาน ก็ทำแต่พื้นที่ส่วนกลาง วาดห้องน้ำและบันได พอไปส่งยังได้รับการสอนจากกู้เซียวอีก งานที่สั่งวันนั้นก็ต้องส่งวันนั้น วันแรกก็ต้องทำโอทีแล้ว ที่นัดเลี้ยงข้าวเพื่อนที่เรียนด้วยกันที่อังกฤษเป็นไม่ต้องล่ะ

จากวาดห้องน้ำและโถงบันได พอตัวเองโกงด้วยการเอาแบบสำเร็จรูปมาส่งงาน กู้เซียวก็รู้อีก ให้ทำการบ้าน พอทำไม่ได้ เพราะพื้นที่มันแปลกไปหมด กู้เซียวก็สอนอีก เจ้าตัวนี่ไม่ได้รู้เรื่องเลย ว่าได้รับการสั่งสอนอย่างดี ตัวเองเดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวโกรธ เป็นพวกซื่อบื้อสุดๆ โดนแกล้งประจำ บอกว่ากู้เซียวปากร้าย เถียงไม่เคยชนะ แล้วต่อมาก็ให้เขียนลานจอดรถ ทั้งหมดที่สอนคือพื้นฐานของสถาปนิกที่จางซืออี้ต้องรู้

ตอนที่จางซืออี้ได้นามบัตรมาครั้งแรก เที่ยวได้แจกให้นายหน้าขายบ้าน หลังจากนั้นตัวเองก็ไม่มีความสุขเลย เพราะมีแต่เบอร์แปลกโทรมาขายนู้น นี่ นั่นมากมาย จะเปลี่ยนเบอร์ก็ไม่ได้ ถ้าเห็นเบอร์แปลก จะกลัวทันทีเลย

กู้เซียวได้รับโครงการเมือง Z มาต้องมาคัดเลือกกับทีม B ของถงกง ครั้งนี้จางซืออี้ได้ร่วมโครงการใหญ่ครั้งแรก หน้าที่คือเป็นตัวปะ จริงๆจางซืออี้ก็มีความสามารถที่คนอื่นไม่มี ครั้งนี้ถึงได้เห็นว่าแต่ละคนมีความสามารถขนาดไหน ตัวเองว่างสุด กู้เซียวเลยให้ตามไปพื้นที่จริงเพื่อสำรวจด้วยกัน

ไปทำงานกับกู้เซียว ไม่ใช่ง่ายๆ เพราะกู้เซียวสำรวจทุกอย่าง สอบถามความต้องการของชาวบ้าน ดูสภาพแวดล้อม ความเป็นมาในท้องถิ่น แล้วถึงเอามาออกแบบ

แบบที่แข่งกันทีม B ได้รับเลือก แต่สุดท้าย ก็บอกว่ามีข่าวรั่วว่ามีคนใช้รูปแบบซ้ำ เลยกลับมาที่ทีม A ของกู้เซียว ทุกคนในทีมตั้งใจทำมาก มีช่วงวันฮาโลวีน ได้แกะสลักโคมไฟฟักทองชิงเงินรางวัล จางซืออี้เช่าที่พักใกล้ที่ทำงาน ค่าเช่าแพง ทำให้ไม่ค่อยมีเงิน ตัวเองก็เพิ่งรู้ว่าเงินทองหายากแค่ไหน ถ้าไม่ได้เป็นตัวหลัก พอเห็นเพื่อนคนอื่นแกะสลักก็รู้ว่าตัวเองชนะแน่นอน แล้วฟักทองที่จางซืออี้แกะ กู้เซียวก็ชอบ จางซืออี้เลยยกให้ซะเลย ทำเอาคนอื่นแปลกใจกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่

การทำโครงการครั้งนี้ทำให้ทุกคนทำงานอย่างมุ่งมั่นถึงขนาดค้างที่บริษัททีเดียว แล้วจางซืออี้ก็ได้ยินกู้เซียวคุยกับผู้บริหารว่ามีการล็อกบริษัทไว้แล้ว จางซืออี้เลยต่อว่ากู้เซียว แผนการทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยพอดี กู้เซียวไม่ให้จางซืออี้บอกคนอื่น และให้หยุดพักไปเลย ส่วนตัวเองจะเดินทางไปพรีเซ้นงานพร้อมทีมอีกไม่กี่คน

แล้วจางซือออี้ก็ได้รู้จากปี้เล่อเล่อว่าบริษัทอู๋จิ้งชนะโครงการนี้ ตัวเองเลยหลุดปากบอกไป ปี้เล่อเล่อชอบเม้าท์เลยหาข่าว แถมเป็นสาววายอีกต่างหาก ตอนหลังจางซืออี้เลยสร้างกลุ่มแชทที่อยู่ทีมAขึ้นมา อัจฉริยะทั้งหลาย สร้างสรรค์งานได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ใช้โปรแกรมวีแชทไม่เป็น เล่นกันอย่างสนุก ทั้งส่งสติกเกอร์ อั่งเปา จางซืออี้เสนอให้เชิญกู้เซียวเข้ากลุ่มด้วย ไม่มีใครยอมซักคนเดียว

จางซืออี้กลับบ้านที่หนิงเฉิง ได้เจอพ่อ แม่ เล่าเรื่องการทำงานให้ฟัง พ่อ สหายจางก็บอกว่าจำกู้เซียวได้ เคยมองรางวัลให้ ตอนกลับมาทำงานต้องกลับรถไฟ ทั้งพ่อแม่ที่มาส่งจางซืออี้ก็ได้เจอกู้เซียว กู้เซียวจำพ่อจางซืออี้ได้ เรียก อธิบดีจาง แล้วพ่อของจางซืออี้ก็ฝากฝังจางซืออี้กับกู้เซียว

พ่อกับแม่จางซืออี้ ให้ความสำคัญกับกู้เซียวมาก ส่งข้อความมาถามกู้เซียวแทนที่จะถามจางซืออี้ กลับส่งข้อความถามกู้เซียวแทน

เรื่องงานโอเคมาก เรื่องส่วนตัว คือเพื่อนร่วมห้อง หลังจากที่ทำงานหนักทำโอทีตลอด ตอนนี้เจียงไห่มีแฟนแล้วตัวติดกันมาก จนตอนหลังไม่ค่อยกลับห้อง เลยคืนห้องซะเลย พอเจียงไห่คืนห้อง ฟู่ซิ่นฮุยเลยซื้อหมาโกลเด้นรีทีฟเวอร์มาเลี้ยง ตั้งชื่อให้ว่าเจิ้นจั้ว  

กลับมาจากหนิงเฉิงก็คือวันเกิดของจางซืออี้ ตอนแรกคิดว่ากู้เซียวไม่รู้ แล้วนัดออกไป ที่จริงคือสอนให้ดูรูปแบบการออกแบบลานจอดรถ เดินจนขาลาก แล้วก็ให้เลือกร้านอาหาร ตัวเองเลยเลือกอาหารฝรั่งที่ถนัด และเห็นว่าแพงที่สุด สุดท้าย กู้เซียวสั่งขนมเค้กให้หนึ่งก้อนพร้อมอวยพรวันเกิด ยังให้ตลับเมตร เจ้าตัวยังติว่าเก่ายังเอามาให้คนอื่น กลับบ้านได้เลนส์กล้องเป็นของขวัญจากฟู่ซิ่นฮุยดีใจจนโพสต์ไทม์ไลน์ แล้วถึงเห็นว่ากู้เซียวโพสต์ว่าตลับเมตรอันที่ให้เป็นของที่อยู่กับตัวเองมาสิบปี ตั้งแต่เริ่มเรียนสถาปัตย์

งานเลี้ยงฉลองปีใหม่ จางซืออี้โดนกู้เซียวแอบถ่ายรูปตลก ส่วนตัวเองก็ถ่ายรูปกู้เซียวตอนยืนเลือกหนังสือ พอมาอยู่คู่กัน คนหนึ่งตลก อีกคนเทพสุดๆ จางซืออี้เตรียมมาเล่นเกมชิงเงินรางวัลโดนเฉพาะ แล้วก็อยากแกล้งกู้เซียว ชวนขึ้นเวที ทุกคนแปลกใจที่กู้เซียวยอมเล่นเกม แต่ที่ขำคือจางซืออี้มุ่งมั่นที่จะทำลายลูกโป่งฝ่ายตรงข้ามโดนที่ไม่สนเลยว่าคนนอกจะเห็นว่ากู้เซียวแตะอั๋งจางซืออี้ไปเท่าไหร่แล้ว ขำมากๆ

จบงานยังไปคาราโอเกะต่อ กู้เซียวปฏิเสธเพราะมีธุระ แต่ก็ยังตามมาฟังจางซืออี้ร้องเพลง

ก่อนหน้านี้จางซืออี้ไม่ได้สนใจต้นแคคตัสเลย มาดูอีกทีต้นเหี่ยว รากกำลังจะตาย กลัวว่ากู้เซียวจะจับได้ ตัวเองแอบไปซื้อต้นใหม่มาปลูก แล้วเอาต้นเดิมไปดูแลที่บ้าน ที่ทำให้กู้เซียวสังเกตเพราะเพื่อนที่เรียนที่อังกฤษด้วยกัน แต่มีประวัติชอบหลอกใช้คนอื่นมาหาถึงบริษัท จางซืออี้ไม่รู้จะจัดการยังไงก็ได้กู้เซียวตอบปฏิเสธทันที

กู้เซียวถามจางซืออี้เรื่องต้นแคคตัส เลยรู้ว่าความแตกแล้ว ต้องสารภาพความจริง แล้วก็ถ่ายรูปต้นจริงที่ตัวเองกำลังดูแล กู้เซียวว่าถ้าจะให้หายโกรธต้องเล่นไวโอลินให้ฟัง จางซืออี้เคยบอกตอนนั่งรถไฟกลับด้วยกันว่าถ้าจะเล่นให้ฟังเฉพาะคนที่ชอบนี่สิ กู้เซียวก็ยังจำได้ วันเกิดกู้เซียวจางซืออี้ก็ทำโคมไฟแคคตัสทำมือให้ ตอนแรกก็กลัวว่ากู้เซียวจะไม่รับ เพราะพวกเพื่อรร่วมงานหญิงก็ถามว่าจะซื้ออะไรให้กู้กงดี จางซืออี้ก็แนะนำให้ซื้อแคคตัส สุดท้ายกู้เซียวรู้ก็เลยเอามาไว้เป็นของบริษัท ส่วนโคมไฟแคคตัสของจางซืออี้กู้เซียวก็รับเอาไว้

กู้เซียวมอบงานออกแบบให้จางซืออี้และลู่เฉียวไปแข่งกัน แต่พอดูพื้นที่แล้วคิดอะไรไม่ออก เลยต้องเดินทางไปดูสถานที่จริง เพราะได้อยู่ด้วยกัน ทัศนะการใช้ชีวิตของลู่เฉียวทำให้จางซืออี้เข้าใจอีกแบบ ฟู่ซิ่นฮุย ก็อิจฉาความรักน้องของล่าเฉียวเพราะมาคิดดูตัวเองมันไม่ใช่เลย

การเดินทางไปเมือง C ผู้อำนวยการหวังมาหาด้วยตัวเอง จางซืออี้แสดงท่าทีได้ดี ทำให้ลู่เฉียวสนใจ จนต้องถามว่าพ่อนายทำงานอะไร จนในที่สุดก็รู้ว่าพ่อของจางซืออี้เป็นอธิบดีกรมการก่อสร้างมณฑล Z เพราะคุ้นเคยตั้งแต่เด็กว่าคนระดับไหน ต้องพูดคุยยังไง เลยปฏิบัติได้อย่างดี แล้วจางซืออี้ก็เอาประสบการณ์ที่เคยไปสำรวจสถานที่กับกู้เซียวมาใช้ แต่เพราะเป็นคนต่างถิ่น คนขับแท็กซี่เลยขับอ้อมทำให้ไม่ทันรถบัส และตกรถไฟ ทั้งสองคนตกใจ กู้เซียวโทรมา และบอกว่าให้หาที่พักและกลับวันรุ่งขึ้น เลยสงบลงได้ และกู้เซียวยังสอนจางซืออี้อีกด้วย จางซืออี้ยังคิดทำไมตัวเองโดนบ่นคนเดียว ลู่เฉียวไม่เห็นโดนเลย ฮ่าๆๆๆ

กลับมาทำงาน เพื่อนๆโหวตรูปกันเรียบร้อย รูปที่ได้รับเลือกคือรูปของจางซืออี้กับรูปของกู้เซียว ตัวเองโวยวายว่าแอบถ่ายรูปตัวเองทำไม กู้เซียวก็บอกว่านายก็แอบถ่ายเหมือนกัน ทำเอาเพื่อนคิดว่ามีแต่จางซืออี้ที่กล้าแอบถ่ายรูปกู้กง ฮ่าๆๆๆ

กู้เซียวชอบล้อเล่นกับจางซืออี้คนเดียว ครั้งนี้ก็ลูปหัวปลอบ ทำเอาคนอื่นตาค้าง ส่วนจางซืออี้นี่อายสุดๆไปแล้ว ///

หลังอ่านเล่ม 1 :

เรื่องนี้อ่านแล้วได้ความรู้เรื่องการทำงานด้านสถาปนิกแน่ๆ นักเขียนทำการบ้านมาดีมาก ตัวละครก็น่ารักสุดๆ อ่านไปขำกับความโก๊ะ ความฮาของจางซืออี้ (นายเอก) ของเรื่อง จริงๆนางก็เก่ง แต่แพ้ฝีปากกู้เซียวตลอดเวลา เสร็จแล้วก็กลัว แล้วก็ต้องมาขอโทษ เพราะรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองคิดมันช่างเด็กน้อยจริงๆ ไม่ได้เข้าใจโลกของการทำงานเลยทีเดียว

อ่านแล้วชอบบุคลิกจางซืออี้กับกู้เซียวมาก แตกต่างแต่เข้ากันได้ดีสุดๆ อ่านแล้วยิ้มแก้มปริทีเดียวค่ะ

เล่ม 2 พิมพ์ครั้งที่ 1 : ธันวาคม 2563

โปรยปกหลังเล่ม 2 :

จางซืออี้ ถามอย่างสงสัย คนที่คุณชอบ...คือใครครับ เขาหันไปมองคนข้างๆ อย่างไม่ตั้งใจ ภายใต้ความมืดเห็นสันจมูกโด่งของ กู้เซียว รางๆ ดวงตาลึกซึ้งของกู้เซียวสบเข้ากับเขา ถึงแม้จางซืออี้จะมองไม่ชัดว่าเป็นแววตาแบบไหน แต่รู้สึกราวกับมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านในอากาศ ผมสัญญาว่าจะไม่บอกใครแน่นอนครับ เขากับกู้เซียวคลุกคลีกันเฉพาะเวลาทำงานเท่านั้น ต่อให้รู้เขาก็คงไม่พูดอะไรออกไปอยู่แล้ว ...แต่เดี๋ยวก่อน หรือว่าเขาจะรู้จักคนที่กู้เซียวชอบเป็นคนในบริษัทเหรอ หรือว่า...คนที่กู้เซียวชอบก็คือ...

เล่ม 2 :

กลับมาเขียนโครงการ กู้เซียวถามว่าจะกลับบ้านตอนตรุษจีนด้วยกันไหม เจ้าตัวอายเลยโกหกไปอีกนะ พอมาเช็คตารางรถไฟถึงรู้ว่าไม่มีเที่ยวที่ตัวเองโกหก เลยต้องบอกว่าขอกลับด้วย

ฟู่ซิ่นฮุยก็หางานได้แล้ว แต่ฟังแล้วเหมือนเป็นการเป็นโฮสต์เลย แล้วตอนนั้นเจียงไห่กับแฟนก็มาพอดี จะแก้ตัวยังไงก็ฟังไม่ขึ้น แต่พอได้ฟังที่มาที่ไป และฟู่ซิ่นฮุยบอกถึงความคิดเรื่องเส้นสาย คอนเน็กชั่นเป็นของตัวเองแล้วถึงเข้าใจ

กู้เซียวพาจางซืออี้และลู่เฉียวไปพรีเซ้นงาน และให้จางซืออี้เป็นคนพรีเซ้น จางซืออี้ทำได้ดี ผู้อำนวยการหวังอยากได้ตึกสูงกว่านี้ กู้เซียวตอบรับ แต่ต้องมีงบเพิ่ม วิธีการพูดของกู้เซียวทำให้คนยอมรับได้ เรื่องเรียบร้อยก็หยุดปีใหม่

จางซืออี้นัดกับกู้เซียว กู้เซียวบอกว่าจะขับรถกลับ ออกรถตอนตีสาม ถ้ามาไม่ทันก็ไม่รอ หรือจะมาค้าง จางซืออี้ก็ต้องมาค้างอยู่แล้ว

และก็ได้เห็นการใช้ชีวิตของกู้เซียว กู้เซียวทำอาหารให้กิน โดนสั่งให้ล้างจาน ต้องนอนเตียงเดียวกัน แต่ดันนอนไม่หลับทำให้ต้องเล่นเกมถามตอบ จริงหรือกล้า (Truth or Dare) แล้วจางซืออี้ก็ได้รู้หลายอย่าง และก็แพ้หลายครั้ง จนต้องถอดแม้แต่กกน. ฮ่าๆๆๆ เขินจนไม่กล้าไปไหน แพ้อีกคราวนี้โดนให้ใส่กกน.ของกู้เซียว ตัวเองก็ดันกอดกู้เซียวซะแน่นแถมตื่นสาย โอ้ย...ฮามาก ฝันเปียกอีก ไปทั้งอย่างนั้นเลย

บนรถกู้เซียวก็ดูแลดี แม่จางซืออี้โทรมา ก็บอกให้นั่งคุยเป็นเพื่อนไม่ใช่นอนหลับ จุดพักรถกู้เซียวก็ลงไปซื้ออาหารให้ ดูแลทุกอย่าง แบบนี้ไม่ใจเต้นได้ไง แต่มันติดที่เป็น ชช นี่สิ ยังยอมรับไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ

 ถึงเมืองหนิงเฉิง แม่ก็มารับ พ่อก็บอกให้หาเวลาไปสวัสดีปีใหม่กู้เซียว นี่เป็นครั้งแรกที่ตัวเองเริ่มทำงาน เลยต้องแจกอั่งเปา เหมือนรวย แต่ความจริงไม่มีเงินแล้ว

ฟู่ซิ่นฮุยเกิดเรื่อง เพราะอาของเค้าสร้างเรื่อง และพี่สาวที่คิดว่าเกลียดก็เป็นคนที่เข้าไปช่วยเจิ้นจั้วตอนที่ถูกนักเลงจับ แปลว่าที่ผ่านมา เข้าใจพี่สาวผิดไป พอเล่าเรื่องให้พ่อฟัง พ่อก็บอกว่าอย่าสนิทมาก เดี๋ยวจะมีเรื่องเดือดร้อนก็โกรธอีก

ในที่สุดก็ได้มาเยี่ยมกู้เซียว แถมกู้เซียวยังบอกให้เอา กกน.มาคืน ก่อนหน้านี้ก็รู้แล้วว่าผู้หญิงที่อยู่ด้วยตอนวันคริสต์มาสไม่ใช่แฟนแต่เป็นน้องสาว ตอนนี้มาที่บ้านถึงรู้ว่าตัวเองเคยเจอกับกู้เซียวตอนสี่ขวบ กู้เซียวสิบขวบ เพราะพ่อของกู้เซียวเล่าเรื่องให้ฟัง แล้วจางซืออี้ก็เข้ากับกู้เหยาได้ดี เพราะโดนกู้เซียวข่ม กู้เซียวแกล้งเหมือนกัน ความรู้สึกเดียวกัน มีแนวร่วม ฮ่าๆๆๆ

ได้ฟังเรื่องราวของกู้เซียวตอนเด็ก และที่บ้านของกู้เซียวก็อบอุ่นมาก กู้เหยาสังเกตเห็นว่ากู้เซียวสนิทกับจางซืออี้ เพราะเรื่องที่พูดกับคือเรื่องที่จางซืออี้บอกว่าตัวเองไม่มีเงินแล้ว กู้เซียวเลยให้อั่งเปา แล้วยังสอนใช้แอปบัญชีรายรับรายจ่าย พอฟังว่าใช้เงินยังไงก็บอกว่าให้ดูแลดีๆ เพราะดูเหมือนเงินจะหมดไปกับการเลี้ยงเพื่อน

ตอนบ่ายไปดูหนังด้วยกัน กู้เซียวยังได้นั่งกับจางซืออี้ กู้เหยาสังเกตพี่ชายตลอดเริ่มคาดเดาบางอย่างได้

ตอนนี้มีเพียงจางซืออี้ที่คิดไม่ทันคนเดียว แล้วยังจิตใจฟุ้งซ่าน คิดว่าตัวเองชอบกู้เซียว ถ้าเกิดชอบกู้เซียวแล้วเค้าไม่ชอบตอบล่ะ เหมือนคนแอบรักข้างเดียว อีกอย่างคือเรื่องเพศของตัวเอง ตอนแรกชอบผู้หญิงอยู่ ทำไมตอนนี้สนใจแต่กู้เซียว แล้วยิ่งมีแม่เป็นสาววาย เอาหนังสือเอานิยายมาแอบในห้องเลยเอามาอ่านดู ยิ่งฟินเข้าไปอีก วันหยุดที่เหลือเลยพยายามทำตัวหลอกตัวเองว่าตัวเองยังปกติดี จนกระทั่งกู้เซียวถามว่าจะกลับด้วยกันไหม นั่นแหละ ถึงบอกว่ากลับด้วย แล้วแม่ก็ฝากของกลับไปมากมาย กู้เซียวกับกู้เหยามารับ แม่เห็นกู้เหยาก็ถูกใจทันที ในรถทั้งสองคนเอาแต่วีแชทคุยกันเรื่องของกู้เซียว กู้เซียวก็คิดว่าเด็กสองคนนี้เข้ากันได้ แอบหึงเข้าไปอีก ดีที่เปลี่ยนที่กัน พอจางซืออี้ไปนั่งหน้า กู้เซียวก็อารมณ์ดีขึ้นเยอะ

จางซืออี้เริ่มแอบมองกู้เซียว กู้เซียวก็โพสต์โมเมนต์วีแชทให้จางซืออี้ดูคนเดียว แต่เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่อง ยังนึกว่า ที่ว่างเอาไว้ให้คนอื่น แอบช้ำใจ ยังมีเรื่องของฟู่ซิ่นฮุยที่ที่บ้านมีปัญหา ตอนนี้เจิ้นจั้วต้องอยู่กับจางซืออี้ แล้วฟู่ซิ่นฮุยก็มาบอกว่าต้องไปเมืองนอก จางซืออี้มีเวลาหาห้องใหม่แค่ยี่สิบวัน กู้เซียวรู้เรื่องก็บอกว่ามีอะไรให้ช่วยก็บอก แต่จางซืออี้ก็ยังคงหาห้องเช้าเอง และยังทำงานอย่างหนัก เพราะเป็นโครงการแรกที่ได้รับเลือก ทำไปถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วถึงเอางานไปให้กู้เซียวดู กู้เซียวไม่ได้แก้ไขอะไร เพราะว่าโครงการนี้ไม่ได้รับการสร้างแล้ว จางซืออี้เสียใจมาก

ช่วงนี้กู้เซียวรับเถาเฝ่ย รุ่นน้องมหาวิทยาลัย ที่หน้าตาสวยกว่าผู้หญิงเข้าทำงาน เพิ่งจบโทจากอังกฤษ เท่ากับโปร์ไฟล์ดีกว่าจางซืออี้ทุกอย่าง แบบนี้จางซืออี้ก็ยิ่งหึงเข้าไปใหญ่ ตอนนี้ก็ยิ่งเสียใจ วันรุ่งขึ้นพอไม่มาทำงาน โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ ทำให้กู้เซียวร้อนใจมาก จนต้องมาหาที่บ้าน

จางซืออี้ที่กำลังเสียใจ ถึงขนาดบอกว่าจะลาออก กู้เซียวที่ผิดหวัง บอกว่าที่จะตั้งใจคือแค่นี้เอง จางซืออี้เลยพูดถึงเถาเฝ่ย ทำให้กู้เซียวรู้ว่าเด็กบื้อนี่หึงอยู่ แต่ก็ยังไม่กล้าแน่ใจ จนต้องบอกว่าทำไมถึงเลือกจางซืออี้ แล้วเพื่อนร่วมงานแต่ละคนทำงานหนักแค่ไหน กว่าจะมาถึงจุดนี้ แต่จางซืออี้แค่ครึ่งปีก็จากเลิกทำแล้ว แล้วกู้เซียวก็บอกว่าดีกับจางซืออี้คนเดียว ก่อนที่จะมีเรื่องด่วนต้องไปคุยธุระต่อ

จางซืออี้เริ่มคิดได้ และมองย้อนดู รวมถึงถามกู้เหยาเรื่องโมเมนต์วีแชท ที่กู้เหยาเคยแอบเอาโทรศัพท์ของจางซืออี้ไปดูแล้ว ก็รู้ว่าเหล่าเกอของตัวเองเจ้าเล่ห์แค่ไหน ตอนนี้ได้เวลาแสดงฝีมือช่วยเหลือแล้ว ในที่สุดจางซืออี้ก็รู้ว่าคนที่กู้เซียวรอก็คือตัวเอง จางซืออี้ตกลงไปอยู่กับกู้เซียวที่บ้าน กู้เซียวมาช่วยเก็บของทุกวัน จางซืออี้อยากเซอร์ไพรส์ด้วยการเล่นไวโอลิน ตอนนี้ก็ฝึกซ้อมทุกวัน

กู้เซียวเปลี่ยนชื่อให้เจิ้นจั้วเป็นเจิ้นไจ๋ ก่อนที่จะถึงวันย้าย จางซืออี้ก็ทนไม่ไหว ส่งข้อความไปว่าคิดถึง จนกู้เซียวต้องมารับกลางดึก ในที่สุด ทั้งสองคนก็ได้อยู่ด้วยกัน แถมจางซืออี้ยังเล่นไวโอลิน สารภาพรัก กู้เซียวก็อัดวิดีโอเก็บเอาไว้ดู

แล้วกู้เซียวก็บอกว่าเวลาอยู่บริษัทต้องทำตัวยังไง แล้วจะเข้มงวดกับจางซืออี้มากกว่าเดิม เพราะอยากให้จางซืออี้รู้ทุกอย่างที่ตัวเองรู้ให้หมด จะได้เดินไปด้วยกันตลอดไป

หลังอ่านเล่ม 2 :

เล่มนี้ก็ทั้งฮา ทั้งน่ารัก ทั้งสองคนเค้ารักกันมีใจให้กัน กู้เซียวนี่เจ้าเล่ห์กว่าจางซืออี้เยอะเลย เรื่องพวกนี้เด็กบื้อ ลูกศิษย์ตัวน้อยแบบจางซืออี้ตามไม่ทันหรอกนะ กว่าจะเข้าใจตัวเอง รู้ใจตัวเอง เล่นเอาเหนื่อย ทำเอาคนอ่านทั้งขำ ทั้งลุ้น และยิ้มไม่หุบไปด้วย น่ารักมากๆเลยค่ะ มาตามดูเส้นทางความรัก และการเป็นสถาปนิกของจางซืออี้กันต่อในเล่ม 3 เลยค่ะ  

เล่ม 3 พิมพ์ครั้งที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564

โปรยปกหลังเล่ม 3 :

กู้เซียวถาม คบกับฉัน นายเสียใจหรือเปล่า จางซืออี้ รีบตอบอย่างรวดเร็ว ไม่ครับ กู้เซียวหัวเราะเบาๆ แต่ฉันอิจฉา จางซืออี้ ...ครับ? อิจฉาที่พวกเขาสามารถยืนท่ามกลางแสงไฟได้อย่างสง่างาม สามารถถูกจับตามองจากคนอื่นได้อย่างเปิดเผย อิจฉาที่พอคบกัน พวกเขาก็ได้รับคำอวยพรจากทุกคน... กู้เซียวถอนหายใจแล้วเอ่ยต่อ ขอโทษนะซืออี้ ที่ตอนนี้ฉันยังทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ แล้วยังลากนายให้มาอยู่ในที่มืดมนกับฉันด้วย ได้ยินดังนั้นจางซืออี้ก็รู้สึกปวดใจไปด้วย เขากุมมือกู้เซียวแน่นๆ ไม่เป็นไรครับ พวกเราเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว

เล่ม 3 :

จางซืออี้อยู่กับกู้เซียว ได้เห็นสมุดสเก็ตภาพ ในนั้นมีเรื่องราวที่เป็นไดอารี่ที่กู้เซียวเขียนถึงตัวเอง และการจดบันทึกต่างๆมากมาย จางซืออี้สนใจอ่านแต่เรื่องของตัวเอง ทำให้รู้ว่าช่วงเวลานั้นๆกู้เซียวก็สับสนเหมือนกัน

จางซืออี้ตั้งใจจะเก่งเหมือนกู้เซียว เลยพยายามพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น เวลาทำงาน กู้เซียวได้รับโครงการออกแบบสถานที่พักตากอากาศระดับหรู เลยมอบให้เถาเฝ่ยและจางซืออี้ดูแล เถาเฝ่ยพาจางซืออี้ไปยูนนาน ทั้งสองเริ่มสนิทกันมากขึ้น คุยกันถูกคอ เพราะเรียนจบอังกฤษเหมือนกัน และจางซืออี้ก็ไม่รู้สึกขัดตาเถาเฝ่ยอีกแล้ว มีแต่เถาเฝ่ยที่คอยแกล้งจางซืออี้ โพสต์หน้าเซลฟี่ตอนไม่รู้ตัว อะไรแบบนี้ จริงๆคือจะคอยยั่วศิษย์พี่นี่แหละ เพราะมองเห็นแล้วว่าจางซืออี้คือจุดอ่อนของศิษย์พี่ ขอให้จับให้ได้จริงๆเถอะ

ตอนคุยกับเถาเฝ่ยเรื่องการเรียนทำให้จางซืออี้เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงเก่งกว่า แล้วยิ่งมีความคิดที่อยากกลับไปเรียนต่อปริญญาโทอีกครั้ง แต่พอคิดถึงค่าเรียนก็ต้องผลัดไปก่อน ทั้งสองเข้าพักแต่ที่พักหรูที่สุด ตอนแรกจางซืออี้ยังกังวล แต่เถาเฝ่ยบอกว่าให้โครงการได้รับคัดเลือก ก็ไม่ต้องจ่ายเองแล้ว จนกู้เซียวทนไม่ไหวต้องตามมาจนได้ แล้วนอนห้องเดียวกัน ทั้งสองคนยังจู๋จี๋กันอีก เถาเฝ่ยแกล้งหลับเพื่อจับให้ได้ แต่พอคิดไปมา สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องจัดการที่จางซืออี้ แล้วก็ได้ผล กู้เซียวโกรธจัด เถาเฝ่ยก็เลยบอกว่าไม่ทำแบบนี้จะรู้ความจริงได้ไง ตัวเองก็น้อยใจที่สนิทกันแต่ไม่ยอมบอกต้องให้มาสารภาพเอง แล้วหลังจากนั้นก็มาสำรวจโครงการต่อ และกลับไปเขียนแผนงาน

งานเร่งจนเถาเฝ่ยไม่สนใจภาพลักษณ์ โต้รุ่งที่บริษัท จางซืออี้ที่กู้เซียวอยู่ทำโอทีด้วย ก็บอกให้กู้เซียวกลับไปก่อน ไม่ต้องรอ เพราะจะเร่งทำงาน กู้เซียวทนไม่ได้ที่สุดคือจางซืออี้ไม่สนใจตัวเอง แต่ที่จางซืออี้คิดคืออยากให้กู้เซียวพักผ่อนสบายๆ เลยทะเลาะกันเป็นครั้งแรก

วันสุดท้ายเขียนโครงการเสร็จ เป็นเถาเฝ่ยที่บอกให้จางซืออี้กลับบ้าน ถึงได้รู้ว่ากู้เซียวไม่สบาย ทั้งสองคืนดีกัน ปรับความเข้าใจกัน ตอนที่นำเสนอ ยังได้เห็นความสามารถในการออกแบบของจางซืออี้อีกด้วย

ตอนเลี้ยงอาหารกลางวัน กู้เซียวถูกบังคับให้ดื่มเหล้า จนสุดท้ายต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ก็เพราะเรื่องนี้ทำให้ได้เซ็นสัญญาจนได้

พ่อกับแม่มาเยี่ยมจางซืออี้ที่บ้าน ยังปลื้มที่ได้กู้เซียวดูแล กู้เหยามาพักที่บ้านกู้เซียวด้วยเพราะต้องฝึกงานบริษัทใกล้ๆ

บริษัทจะจัดให้ไปดูงานที่ญี่ปุ่น จางซืออี้กับกู้เซียวยิ่งทำให้เพื่อนร่วมงานจับคู่จิ้นฟินกันไปใหญ่เพราะจับคู่กันตั้งแต่ต้น ไม่ได้แสดงละครแต่มันเหมือนจริงสุดๆ เพราะเป็นเรื่องจริง แต่มีคนหนึ่งที่สังเกตตลอดคือลู่เฉียว แล้วก็รับไม่ได้ เพราะค่านิยมและความอิจฉาริษยา ดีที่กู้เซียวและจางซืออี้มาได้ยินที่ล่าเฉียวมาสารภาพกับต้นไม้ กู้เซียวเลยบอกว่าจางซืออี้ตั้งใจทำงาน ไม่ได้ใช้เส้นสายส่วนตัว แล้วทั้งคู่ก็เริ่มรักษาระยะห่างไม่ให้เกิดกรณีอย่างลู่เฉียวขึ้นมาอีก

เพราะการไปญี่ปุ่นครั้งนี้ ความรักยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ กลับไปทั้งสองยังต้องสะสางงาน แต่ความต้องการของทั้งคู่ก็ยังไม่ได้ถูกปลดปล่อย ในที่สุดก็ได้เวลาที่จะเป็นของกันและกัน แล้วจางซืออี้ก็รู้ว่ากู้เซียวเป็นคนยังไงกันแน่ ฮ่าๆๆๆ

เพราะบริษัทจางซืออี้ได้งานจากบริษัทของเจียงไห่ เลยได้ติดต่อกันอีกครั้ง เพื่อนเก่าอัพเดตเรื่องราวกัน นัดกินข้าวกัน ซูหยวนที่ตอนนั้นก้าวหน้ากว่าใครตอนนี้กำลังท้อแท้เพราะการทำงานไม่เป็นเหมือนที่คิด งานเพิ่มเงินลด จางซืออี้ได้ฟังแล้วก็ต้องการที่จะให้กำลังใจ เหริ่นเมิ่งเซวียนที่ต้องการจะอวดแฟนใหม่พาแฟนมาด้วย ชื่อไป่รุ่ย ทุกคนมองว่าเป็นคนสุดเฟอร์เฟ็ก วางตัวดี ทำไมครั้งนี้เกิดสนใจจางซืออี้ที่พูดมีหลักการทำให้ซูหยวนไม่เสียใจ จนเดินทางผิดซ้ำรอยลู่เฉียวเป็นคนที่สอง เหรินเมิ่งเซวียนเริ่มเอะใจ

หลังอ่านเล่ม 3 :

หลังจากจางซืออี้มาคบกับกู้เซียว การใช้ชีวิต ทัศนะคติ ความขยัน การตั้งใจทำงาน ตั้งใจพัฒนาความสามารถเพื่อให้ก้าวทันอีกฝ่ายที่เป็นแบบอย่าง ทำให้คนอื่นที่ไม่เข้าใจ ตอนแรกยังคิดว่าเป็นคนระดับเดียวกัน ความสามารถใกล้เคียงกัน พอมองอีกที จางซืออี้โดดเด่นจนไม่เหมือนเดิม รับผิดชอบโครงการใหญ่ มีความก้าวหน้า แต่นิสัยทั้งซื่อ ทั้งเชื่อคนง่าย ทำอะไรก็แสดงบนสีหน้าหมดยังเหมือนเดิมนะ ยังไม่ใช่นักแสดงมืออาชีพ ต้องฝึกฝนอีกเยอะ แต่ก้าวหน้าเร็วแล้ว อ่านไปขำไปค่ะ เล่มนี้กู้เซียวจัดเต็มแล้วนะ ซืออี้จะไหวไหมเนี่ย เขินเลย ><”

เล่ม 4 พิมพ์ครั้งที่ 1 : มีนาคม 2564

โปรยปกเล่ม 4 :

กู้เซียว ยกยิ้มมุมปากรู้สึกได้ว่าเจ้าเด็กนั่นกำลังวิ่งเข้ามาหา จางซืออี้ แตะมือเขาเหมือนต้องการดึงให้หยุดแล้วบอกให้เขาเดินช้าลงหน่อย แต่กู้เซียวกลับฉวยโอกาสจับมือจางซืออี้และกระชับเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ทันใดนั้นจางซืออี้ก็รู้สึกว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้วไม่จำเป็นต้องมีคำสาบานว่าจะรักกันตลอดไป ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดหวานๆ อะไรทั้งนั้น มือทั้งสองข้างสอดประสานเข้าด้วยกัน แม้ว่าคนรอบข้างจะหันมามอง พวกเขาก็ไม่สนใจแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามา ตกกระทบลงบนพื้นหินอ่อนรูปร่างเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ชีวิตจางซืออี้ก็เหมือนพื้นหินอ่อนแผ่นนี้ เต็มไปด้วยเงาที่กู้เซียวเติมเต็มให้ เหมือนดวงไฟที่นำทางให้เขาไม่มีทางสูญหาย และไม่มีอะไรมาแทนที่ได้ หนทางข้างหน้าอีกยาวไกล แต่จางซืออี้ไม่กลัวและไม่ลังเลอีกต่อไป เพราะมีกู้เซียวเดินไปกับเขา

เล่ม 4 :

ไป่รุ่ยไม่เหมือนเดิมที่ทำตัวแบ่งแยกชัดเจน คราวนี้ทำไมมาหยอกล้อจางซืออี้ได้ ทั้งยังแย่งจ่ายค่ากาแฟ แล้วยังให้จ่ายคืนในQR Code จางซืออี้ไม่ได้คิดมาก แต่มองว่านี่มันนิสัยแปลกๆแถมขี้งกอีก ไม่เห็นเหมือนเศรษฐีเลยสักนิด

จางซืออี้มาขอร้องให้กู้เซียวช่วยเรื่องซูหยวน กู้เซียวปฏิเสธเพราะอู๋จิ้งไม่ได้เหมือนที่จางซืออี้มองเห็นยังมีปัญหาด้านอื่น และไม่รับคนภายในปีนี้ ยังบอกว่าถ้าความสามารถมากกว่าเถาเฝ่ยจะรับไว้ แค่นั้นจางซืออี้ก็โกรธ เพราะไม่ได้สิทธิพิเศษของแฟน กู้เซียวก็ทำอะไรไม่ถูกเศร้าเหมือนกันเพราะทะเลาะกัน จนจางซืออี้คิดได้ถึงรู้ว่ากู้เซียวก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำไม่ถูกยังไง หลังจากพูดปรับความเข้าใจกัน กู้เซียวก็บอกว่าให้ซูหยวนส่งประวัติมาจะแนะนำให้เพื่อนรู้จัก น่าจะตรงกับสายงานมากกว่า คือหางานใหม่ให้แต่ไม่ใช่ที่อู๋จิ้ง แค่นี้จางซืออี้ก็ดีใจแล้ว เล่าเรื่องไปเจอเพื่อนให้ฟัง แล้วยังเจอความประหลาดของไป่รุ่ย พอกู้เซียวมาเห็น แค่รูปโปร์ไฟล์ก็เดาได้ ชื่อที่ใช้อีก ตอนนี้บอกว่าต้องหาหลักฐาน แล้วก็คิดว่าเด็กบื้อนี่คลาดสายตาคนอื่นก็มาวุ่นวายแล้ว

ระวังเรื่องของจางซืออี้ได้ แต่กู้เซียวลืมสังเกต ระวังเรื่องกู้เหยา ถึงเพิ่งรู้ว่ากู้เหยาก็มีเถ้าแก่ที่ลงทุนที่ทำงานมาตามจีบ ทั้งสองคนเลยตัดสินใจสลับกันไปรับกู้เหยา

ที่บริษัท ไปรุ่ยยังตามมาอีก ทั้งเอาเค้กมาให้ แล้วยังย้ายบริษัทมาอยู่ชั้นบน สุดท้ายคนที่จัดการได้คือเถาเฝ่ย เพราะไป่รุ่ยเข้าใจผิดคิดว่าคือแฟนจางซืออี้ แต่ละคนแสดงละครเก่งเกินไปไหมเนี่ย ><’

จางซืออี้ไปรับกู้เหยา กำลังเข้าตาจนเพราะเจอเถ้าแก่ช่างตื้อ โชคดีที่ได้เฮ่อเฉิงเทียนผ่านมา ทำให้เฮ่อเฉิงเทียนรับบทบาทเป็นคู่หมั้นกู้เหยา แล้วนี่ก็ทำให้จางซืออี้ได้รับตำแน่งพ่อสื่อไปโดยปริยาย

อู๋จิ้งได้รับโครงการรีโนเวทเมืองเก่า ครั้งนี้ได้ทำงานร่วมกับอาจารย์ชุย ทีมC กู้เซียวก็ให้จางซืออี้เดินทางทันที ปี้เล่อเล่อ สาววายช่างเม้าที่พอจับสังเกตอะไรได้ก็อยากจะไปกอสซิบต่อเลยขอไปด้วย ครั้งนี้เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับเมืองเก่า จางซืออี้ได้ความร็มากมาย และยังรู้จากเพื่อนร่วมห้องนักศึกษาปริญญาโทถึงเรื่องแฟนเหมือนกัน ที่เป็นรักทางไกล ทำให้จางซืออี้มีความคิดอยากจะไปเรียนต่อปริญญาโทอีกครั้ง การมาทำงานครั้งนี้เป็นช่วงวันเกิดจางซืออี้ ทำให้ไม่อยากมา แล้วยังเห็นว่ากู้เซียวดูเหมือนจำไม่ได้ แต่จริงๆแล้วกู้เซียวจำได้ ยังทำเซอร์ไพรซ์ให้อีกด้วย ตอนแรกจะให้แหวนคู่ แต่เพราะจางซืออี้ทำโทรศัพท์หาย เลยได้ของขวัญเป็นโทรศัพท์แทน จางซืออี้มุ่งมั่นอยากได้แหวนก่อนวันเกิดปีหน้ามากๆ

จางซืออี้บอกความคิดว่าอยากกลับไปเรียนต่อ กู้เซียวบอกว่าขอคิดดูก่อน แล้วจะให้คำตอบ เพราะกู้เซียวต้องคิดอย่างจริงจังไม่อยากแยกกับจางซืออี้ แล้วก็บอกว่าจะออกค่าใช้จ่ายให้

เมื่อตัดสินใจได้ จางซืออี้ก็ต้องเตรียมตัว ทั้งเรื่องงาน เรื่องเรียน แต่ก็ทำทุกอย่างออกมาได้ดี ช่วงคริสต์มาส รุ่นพี่ที่กู้เซียวนับถือกลับมาเยี่ยม กู้เซียวก็พาจางซืออี้ไปพบ และได้รับคำแนะนำ แล้วรุ่นพี่ก็บอกให้กู้เซียวรักษาความรักนี้ไว้ อย่าเชื่อใจอนาคตมากเกินไป ทำให้กู้เซียวตัดสินใจครั้งใหญ่ กะจะเซอร์ไพรซ์จางซืออี้ แต่จางซืออี้ที่ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัย 2 แห่งก่อน จนถึงมหาวิทยาลับA ที่ตอบมาช้ากว่า ก็ตัดสินใจว่าจะไม่ไป เพราะไม่อยากแยกจากกู้เซียว สุดท้ายกลายเป็นกู้เซียวที่จะไปเรียนด้วย แต่ยังดีที่ยังยืนยันไปยังมหาวิทยาลัยAทัน ทำให้ไม่ผิดแผนจนเกินไป

กู้เซียวใช้เวลาเตรียมตัวหนึ่งอาทิตย์ ทุกอย่างก็เรียบร้อย เป็นลูกรักของพระเจ้า เป็นเด็กเทพอย่างแท้จริง ทั้งแฟ้มสะสมผลงาน การสอบภาษาอังกฤษ ที่คนอื่นทำกันเป็นเดือน นี่แค่เลือกสุ่มๆมา ไม่ได้กังวลอะไรเลย

เรื่องสุดท้ายคือ บอกความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทไปแล้ว ทีนี้ก็เหลือพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย แต่สรุป พ่อแม่ของกู้เซียวรับได้ เพราะรู้ตั้งแต่กู้เซียวอายุ 17 ปี ทีนี้คือเหลือแต่พ่อแม่ของจางซืออี้ แม่ของจางซืออี้ไม่ยอมรับ แต่ก็ให้โอกาส บอกว่าให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ในที่สุดทั้งสองคนก็ทยอยลาออกจากบริษัท และการเดินทางก็เริ่มขึ้น เพื่อไปให้ถึงจุดมุ่งหมาย ตอนที่คุยกับฟู่ซิ่นฮุยระหว่าเดินไปขึ้นเครื่องกู้เซียวหึงเลยเลือกช่วงเวลานี้ในการสวมแหวนซะเลย ><’

ช่วงการเรียนที่อังกฤษเป็นตอนพิเศษ ขยายเรื่องราวหลัก ซึ่งจางซืออี้ก็ประสบความสำเร็จตามที่กู้เซียวหวังเอาไว้ และก็เป็นตอนที่พยายามจะเปิดเผยความสัมพันธ์กับนายท่านจาง ซึ่งเป็นคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้อย่างดี

หลังอ่านเล่ม 4 :

ในที่สุดก็มาถึงเล่มสุดท้าย เรื่องราวลงเอยด้วยดี ในที่สุดจางซืออี้ก็ได้เดินตามฝันที่ตั้งใจ เคียงข้างไปกับกู้เซียว นักเขียนได้เปรียบเทียบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ตอนแรกก็หาเงินได้มากกว่า ตอนนี้ เส้นทางต่างกัน บุคลิกต่างกัน การศึกษา ความรู้ ความเข้าใจ ความสนใจไม่เหมือนกัน การมองโลกไม่เหมือนกัน

เรื่องนี้นอกจากได้ความรู้ด้านสถาปัตย์ ยังได้รู้เรื่องเกี่ยวการทำงานของเด็กจบใหม่ ความฝัน การเติบโต เป็นแรงใจที่ดีนอกจากความสนุก และเสียงฮาที่จางซืออี้ และกู้เซียวให้กับคนอ่านแล้ว ยังได้แนวคิดไปใช้ในการทำงาน ในการมองโลกด้วยค่ะ

เนื้อเรื่อง :

จางซืออี้ (นายเอก)  เด็กคณะสถาปัตย์ที่เพิ่งเรียนจบหมาดๆจากอังกฤษ กลับมาอยู่จีนก็เตะฝุ่น ยังหางานไม่ได้ แถมแฟน (ผญ) ก็งี่เง่า เปิดเรื่องมานางก็หาเรื่องด่านายเอก ว่าไม่มีเวลาให้ เรียนจบหางานไม่ได้ จางซืออี้ทนฟังจนทนไม่ไหว ทั้งที่จางซืออี้ก็บอกแล้วว่ากำลังหาอยู่ แล้วก็มาพูดเรื่องเป็นเกย์กับเพื่อนสนิทที่เรียนจบมาจากอังกฤษด้วยกันฟู่ซิ่นฮุยว่าเป็นคู่เกย์ มีเวลากดไลค์ไทมไลน์วีแชทแต่ไม่มีเวลามาหา สุดท้ายจางซืออี้ทนไม่ไหวบอกเลิกกันเถอะ  ฝั่งแฟนหัวร้อนมากฉอดเสร็จสาดกาแฟใส่ นายเอกสวมวิญญาณคล่องแคล่ว หลบกาแฟบินได้ แต่เจ้ากรรมไปตกที่คนที่ข้างหลัง หนุ่มหล่อผู้โชคร้ายเลยรับกาแฟแทนเข้าไปเต็มๆ และเมื่อมีบริษัทหนึ่งเรียกเขาเรียกไปสัมภาษณ์ ผลปรากฏว่า คนสัมภาษณ์คือกู้เซียว (พระเอก) คนที่โดนสาดกาแฟนั่นแหละ บริษัทอู๋จิ้งเป็นบริษัทที่จางซืออี้เลือกส่งประวัติเป็นอันดับแรกๆไม่คิดว่าจะโดนเรียกสัมภาษณ์จริงๆด้วยซ้ำ พระเอกก็ถามไปว่าทำไมถึงเลือกเรียนสถาปัตย์ฯ อยากเป็นสถาปนิก นายเอกตอบไปว่าเพราะมีรุ่นพี่สมัยเรียนเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งไม่รู้ตัวว่าคนที่ปลื้มเป็นคนสัมภาษณ์อยู่ ตอนนั่งสัมภาษณ์ก็ยังไม่รู้ เพราะจำไม่ได้แล้ว ถามว่ารุ่นพี่พูดยังไง ก็จำไม่ได้ แค่ประทับใจมาก สุดท้ายนายเอกก็ได้งานแบบงงๆ จากนั้นก็เริ่มชีวิตวัยทำงาน กับการเผชิญโลกการทำงานครั้งแรก เรื่องราวความรักของคนแอบรักอย่างเจ้านายจอมเฮี๊ยบและเด็กน้อยจบนอกจึงเริ่มขึ้น

เพราะชอบเล่นวีแชท ตอนสัมภาษณ์กู้เซียวบอกเลยว่าเดี๋ยวเริ่มงานได้เลย แล้วก็บอกเงินเดือน การทดลองงาน ห้ามเล่นวีแชท ต้องทำโอทีได้ พอมาถึงก็ได้เพื่อนร่วมงานที่คุยเก่งสุดๆ ช่างเม้าท์ แล้วก็ได้ฉายาทันทีคือป้าสี่ (ซื่ออี๋) ได้มาทำงานแบบงง แล้วกู้เซียวก็สั่งงานทันที จางซืออี้ก็ทำแบบงง เพราะยังไม่ชิน

กลางวันไปกินข้าว เจอกู้เซียว ก็นึกว่าเลี้ยง กู้เซียวชอบแกล้งจางซืออี้แถมหนิ่งมาก แล้วจางซืออี้ก็ได้รู้ว่ากู้เซียวคือรุ่นพี่ที่ตัวเองปลื้มนั้นเอง กลับเข้าทำงาน ก็ได้รู้ว่าบริษัทมีการให้ดูแลต้นไม้คนละต้น ถ้ารอดก็จะได้โบนัส ตัวเองก็คิดว่าจะเลี้ยงแคคตัสเพราะคงไม่ต้องดูแลมาก แต่เดนดูรอบๆมีเพียงสองต้น ต้นใหญ่เป็นของกู้เซียว ต้นเล็กก็ของกู้เซียวอีก เลยโวยวายว่าทำไมกู้เซียวเลี้ยงได้ กู้เซียวมาได้ยิน ถามว่านายชอบแคคตัส เจ้าตัวอยากเลี้ยงเลยตอบรับ สุดท้ายกู้เซียวก็ยกให้ เรื่องนี้รู้ไปทั้งบริษัท พวกสาวๆต่างอิจฉาจางซืออี้

จางซืออี้ได้รับมอบหมายงาน ก็ทำแต่พื้นที่ส่วนกลาง วาดห้องน้ำและบันได พอไปส่งยังได้รับการสอนจากกู้เซียวอีก งานที่สั่งวันนั้นก็ต้องส่งวันนั้น วันแรกก็ต้องทำโอทีแล้ว

ตอนเริ่มทำงาน กู้เซียวจัดการปรับเปลี่ยน สอนๆๆๆ เข้มงวดกับจางซืออี้มาก จากที่ชอบแชท ก็ไม่ค่อยมีเวลา แล้วพอเริ่มรู้จัก แถมไปๆมาๆเป็นคนบ้านเดียวกัน สุดท้ายอ้าวคือเด็กน้อยที่รู้จักตั้งแต่เด็กคนนั้น มันคือพรหมลิขิตสินะ

ส่วนจางซืออี้ก็เริ่มมองกู้เซียวต่างออกไป จากราชันปีศาจจอมเฮี๊ยบ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เริ่มมองตามการทำงาน แถมเพราะได้รับมอบหมายวันเกิดยังพามาสอนนอกสถานที่ เดินก้มๆเงยๆวัดๆๆๆตามอย่าง สุดท้ายได้ของขวัญวันเกิดเป็นตลับเมตรที่กู้เซียวใช้มานาน ตอนแรกไม่พอใจ พอรู้ว่าอีกฝ่ายให้คุณค่าก็เริ่มคิดได้

กู้เซียวเป็นพวกน้ำนิ่งไหลลึก ยิ่งคนที่อ่อนกว่า และสนิทมากๆปากจะยิ่งร้าย และคนที่โดนปากร้ายของกู้เซียวกัดบ่อยๆก็คือจางซืออี้ และกู้เหยาน้องสาวที่อายุรุ่นเดียวกับจางซืออี้

กว่าจางซืออี้จะรู้ตัว ต้องผ่านประสบการณ์เด็กบื้อ จางซืออี้เป็นเด็กใสซื่อ จอมบื้อ ที่โดนคนหลอกง่ายมาก แถมยังจิตใจดี กว่าจะรู้ว่ากู้เซียวก็ชอบตัวเองเหมือนกันก็นานเชียวแหละ

พอเป็นแฟนกัน กู้เซียวก็ดูแลจางซืออี้ทุกอย่าง ทั้งยังเข้มงวดกับจางซืออี้มากกว่าเดิม แล้วจางซืออี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะไม่ได้เล่นวีแชทเหมือนเดิม จนเพื่อนร่วมงานยังถาม จางซืออี้มีกู้เซียวเป็นแบบอย่าง มีทั้งความพยายามและพรสวรรค์

และยังดึงดูดคนอื่นอีก ถ้ากู้เซียวไม่ป้องกันไว้คงโดนหลอกได้ง่ายๆ ในสี่เล่มคือเรื่องราวตั้งแต่เข้าทำงานจนคบกัน รักกัน เวลาผ่านไปหนึ่งปีจางซืออี้ก็พัฒนาความสามารถไปไกลจนคนที่คิดว่ามีฝีมือพอๆกันตามไม่ทัน เพราะมีกู้เซียวคอยเคียงข้าง และเรื่องสุดท้ายคือเรื่องเปิดตัว ที่ดูเหมือนก็ไม่ได้ยากจนเกินไปนะเนี่ย

หลังอ่าน :

เรื่องนี้เป็นแนว  slice of life ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ ตัวเอกพัฒนาไปเรื่อยๆทั้งด้านความสามารถและความรัก ยังมีความฮา น่ารักของบุคลิกจางซืออี้ เด็กบื้อให้ได้ขำตลอดเรื่อง ส่วนกู้เซียวก็เป็นพวกลูกรักของพระเจ้า เกิดมาหน้าตาดี เรียนเก่ง ฉลาด เป็นอัจฉริยะ ทำอะไรก็เก่งไปหมด แต่พออยู่ด้วยกันก็รู้ว่ายังมีข้อบกพร่องที่น่ารักมากๆๆ ฮามากๆๆๆ

แถมเรื่องนี้อ่านไปยังได้แนวคิดในการทำงาน การออกแบบ สถาปัตยกรรม พอมีโหมดฮา ก็มีแทรกสาระความรู้ ให้แง่คิดในการใช้ชีวิตจากตัวละครผ่านมายังนักอ่านได้ดีทีเดียวค่ะ แนะนำๆ

 1/11/64