Saturday, May 15, 2021

#แผนลวงคดีรัก #4เล่มจบ #นิยายแปลจีนแนวปัจจุบัน #สืบสวนสอบสวน #ตำรวจหญิง #นักเขียนนิยายอาชญากรรม #นักวิจัยด้านจิตวิทยา

 Review 14/2564

เรื่อง : แผนลวงคดีรัก (4 เล่มจบ) #นิยายแปลจีนแนวปัจจุบัน #สืบสวนสอบสวน #ตำรวจหญิง #นักเขียนนิยายอาชญากรรม #นักวิจัยด้านจิตวิทยา

ผู้เขียน : ติงโม่ (Ding Mo)

ผู้แปล : เรืองชัย รักศรีอักษร

ภาพปก : Jadeline

สำนักพิมพ์ : อรุณ

จำนวนหน้า : 373 + 358 + 362 + 374 หน้า


เล่ม 1 พิมพ์ครั้งที่ 1 : กุมภาพันธ์ 2564

โปรยปกหลังเล่ม 1 :

โหยวหมิงสวี่ สาวสวยสุดห้าว มากความสามารถ และยังโสดสนิท

ระหว่างพักร้อนที่ทิเบต เธอเจออิงเฝิง ชายหนุ่มรูปหล่อ

ใสกระจ่างเหมือนดั่งแสงตะวัน

จากนั้นเขาก็เกาะหนึบพัวพันไม่เลิกรา

เธอถูกสถานการณ์บังคับให้รับเขาไว้อยู่ร่วมบ้าน

เดิมคิดว่านั่นเป็นเพียงผู้เคราะห์ร้ายที่สูญเสียความทรงจำคนหนึ่ง

แต่กลับเป็นเขาที่คอยช่วยเหลือเธอมากกว่าที่คิด

มีเพียงเรื่องเดียวที่ยังคงเป็นปริศนา

คือสาเหตุความทรงจำที่สูญหายของเขา

หากวันหนึ่งจดจำได้ทุกเรื่องราว

ความรู้สึกที่เขาเคยมีให้เธอจะยังคงเดิมหรือเปลี่ยนแปลง...

เล่ม 1 :

โหยวหมิงสวี่ ลาหยุดขี่จักรยานท่องเที่ยวในทิเบต เจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกือบถูกปล้นและข่มขืน ดีที่ได้กู้เทียนเฉิงซึ่งขับรถผ่านมาช่วยเอาไว้ ระหว่างนั้นฝนตกหนักขึ้น ทั้งยังเจอกับนักขี่จักรยานอีก และได้ช่วยเอาไว้ คราวนี้เป็นผู้ชายชื่อ หมิงเทา ตอนแรกดูไม่น่าไว้ใจ แถมยังพูดมาก บอกว่ามีพื้นฐานวิเคราะห์พฤติกรรม และยังเล่าถึงฆาตกรต่อเนื่องที่ที่ฆ่าคนไปแล้วสี่ราย พูดถึงแต่เรื่องฆาตกรตลอด

ทั้งหมดหาที่พักได้เป็นบ้านร้าง ที่นั้นมีสองสาวซ่งหลาน โจวฝูหรง ที่มาขี่จักรยานเที่ยวในทิเบตเหมือนกัน คืนนี้ต้องกางเต็นท์นอนร่วมกัน

เรื่องราวในคืนนั้นช่างประหลาด มีคนที่สติไม่เต็มออกมาขโมยของ พอกลับมาที่เต็นท์ของตัวเอง มาในถุงนอนโหยวหมิงสวี่ถึงรู้ว่าข้างในมีคนอีกคนอยู่ในนั้น เรื่องราวยิ่งแปลกขึ้น เพราะคนนั้นดูเหมือนปัญญาอ่อน แต่กลับบอกว่าฆ่าคนเยอะ ฆ่าเจ็ดคน แถมยังทั้งร้องไห้ เกาะติดโหยวหมิงสวี่แจ แต่คนอื่นจับหมัดและไปใส่ท้ายรถ

ต่อมากู้เทียนเฉิงที่เฝ้ายามก็บอกว่าสองสาวหายไป หมิงเทาอยากปลีกตัว แต่ไม่มีใครยอมเลยจับขังไว้ในรถ กู้เทียนเฉิงไปตามหาคนกับโหยวหมิงสวี่

โหยวหมิงสวี่ได้ยินเสียงร้อง และเห็นเจ้างั้งแบกซ่งหลาน ทำเอาเข้าใจผิด สุดท้ายเรื่องราวกลับไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะเจ้างั้งดูแล้วก็เหมือนจะเป็นตำรวจ แต่ทำไมพกถุงหูรูด ที่พวกโจรชอบใช้ แถมยังคิดอะไรได้ถูกต้อง เป็นใครกันแน่ แต่ที่แน่ๆคือผู้เคราะห์ร้ายคนหนึ่งเพราะถูกรถชนและชิงรถมาทำให้สติฟั่นเฟือนไป

พอเรื่องราวคลี่คลาย โหยวหมิงสวี่ที่ช่วยทุกคนไว้ได้คือตำรวจที่ลาพัก พอรู้ข่าวก็มาดักที่เส้นทาง แต่กลับพบต้นตอพอดี ส่วนเจ้างั้งคนนั้นคือ อินเฝิงนักเขียนนิยายอาชญากรรมชื่อดัง ยังเป็นศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย นักวิจัยด้านจิตวิทยา เคยช่วยกรมตำรวจไขคดีมาแล้วด้วย

ตอนนี้อินเฝิงไอคิวคงเดิม แต่อีคิวกับอายุทางจิตวิทยาน่าจะประมาณเด็กเจ็ดแปดขวบ ติดโหยวหมิงสวี่แจ ตามติดทุกที่ โหยวหมิงสวี่ก็คิดว่าเพราะพอออกมาจากที่ถูกขังก็เห็นเธอเป็นคนแรก เลยมีความรู้สึกเหมือนลูกนก อยู่กับใครก็ไม่ปลอดภัยเท่ากับอาสวี่

ผู้ช่วยของอินเฝิงคิดแผนการให้อินเฝิงได้อยู่กับโหยวหมิงสวี่ อินเฝิงกลับเป็นเด็ก ชอบใส่เสื้อลายการ์ตูน หน้าซูเปอร์ฮีโร่ ช่างแตกต่างกับอินเฝิงในอดีตอย่างสิ้นเชิง

อินเฝิงได้อยู่บ้านเดียวกับโหยวหมิงสวี่ ติดโหยวหมิงสวี่ ไปที่ทำงาน พวกเพื่อนตำรวจกลัวเจ้โหยวแต่อยกาได้ลายเซ็นของอินเฝิง อินเฝิงก็ขออนุญาตจากโหยวหมิงสวี่ จนเห็นว่าเยอะเกิน รีบพามาหลบ แต่ตัวเองต้องทำงาน อินเฝิงก็ไม่ยอมกลับบ้านเอง ต้องคอยดูแลเหมือนแม่เลย อินเฝิงรอโหยวหมิงสวี่ในห้องประชุม พอจะกลับ อินเฝิงยังบอกว่าคดีนี้ตามผิดทาง พอบอกแนวคิดโหยวหมิงสวี่ก็โทรหาผู้รับผิดชอบคดีทันที

เกิดคดีอีกครั้งผู้เคราะห์ร้ายคือเซี่ยฮุ่ยฟางกับลูกสาวลูกชาย โหยวหมิงสวี่ไปที่เกิดเหตุอินเฝิงที่มีบัตรผ่านแอบตามไป ทั้งยังวิเคราะห์คดีจนโดนหัวหน้าติงโสงเหว่ยดุ เพราะบอกว่าให้ตามดูความสัมพันธ์กับผู้เคราะห์ร้ายตัดทางอื่นทิ้ง เพราะเสียเวลา แต่ไม่มีคนเชื่อ คดีนี้มีอะไรแปลกๆ สืบยังไงก็หาผู้ต้องสงสัยไม่ได้ มีพยานที่อยู่ชัดเจน

จนสุดท้ายอินเฝิงพนันกับโหยวหมิงสวี่ว่าถ้าเป็นคนร้ายที่มีความสัมพันธ์ต้องให้ตัวเองตามไปด้วย แล้วอินเฝิงก็เป็นฝ่ายถูก

อินเฝิงเริ่มมีพัฒนาการขึ้น จำอะไรได้บ้าง แต่ก็ไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบเก่าเพราะรู้สึกว่ามีคนร้ายคอยจ้องเล่นงานอยู่ในเงามืด แต่พอนึกก็นึกไม่ออก

มีคดีเกิดขึ้นอีกครั้ง เป็นชายที่ทำงานอยู่โรงงานชื่อสวีเจียหยวน โหยวนหมิงสวี่กับอินเฝิงไปถึงที่เกิดเหตุ คดีนี้กับคดีก่อนหน้าที่ยังไม่คืบหน้า อินเฝิงกลับคิดเอามาเชื่อมโยงกันจนเห็นรูปแบบชัดเจนขึ้น และรู้ตัวคนร้ายของสองคดี จับได้หนึ่ง อีกหนึ่งพยายามหนีขึ้นเขา โหยวหมิงสวี่และอินเฝิงเป็นหน่วยแรกที่มาถึง คนร้ายพยายามจะโดดน้ำฆ่าตัวตายโหยวหมิงสวี่ลงไปช่วย แต่อินเฝิงกลับคิดได้ว่าตัวเองว่ายน้ำไม่เป็น พอโหยวหมิงสวี่ช่วยคนขึ้นมา กลับไม่ใช่ทีมช่วยเหลือที่อยู่บนฝั่ง เป็นคนของหลัวอวี่ ทนายความที่พยายามตามจีบโหยวหมิงสวี่จนเผยธาตุแท้ความชั่ว ที่โหยวหมิงสวี่ไม่สนใจนานแล้วแต่ยังคอยตามตื้อ ตอนนี้ส่งคนมาทำร้ายอินเฝิง จับกดน้ำ กว่าโหยวหมิงสวี่จะหาทางช่วยได้ อินเฝิงไม่ยอมไปโรงพยาบาลเพราะกลัวแยกจากโหยวหมิงสวี่ แล้วยังได้จูบกันอีกด้วย แต่ต่อจากนั้นก็คุยกันแต่เรื่องเด็กๆ เพื่อนร่วมงานที่มาส่งสวี่เมิ่งซานเห็นเหตุการณ์ก็ต้องนิ่งเฉย วันรุ่งขึ้นฝานเจียยังมาล้ออีก แต่มันไม่มีอะไรต่อจากนั้นนี่นะ มันยังไม่มี

ปิดคดีทั้งสองได้ แต่ยังมีคนร้ายในเงามืดที่คอยบงการ ติดตามอยู่เบื้องหลังโหยวหมิงสวี่และอินเฝิง ทั้งสองคนยังไม่รู้เรื่อง คนหนึ่งสูญเสียความจำ อีกคนคอยปกป้อง

มีงานแจกลายเซ็นของอิงเฝิง โหยวหมิงสวี่ตกลงไปร่วมงาน วันนี้อินเฝิงส่งรถมารับเพราะอยากพาไปดูบ้าน อินเฝิงต้องไปทำความคุ้นเคยก่อน โหยวหมิงสวี่สังเกตคนของอินเฝิง ตั้งแต่คนขับรถ เข้าบ้านที่เป็นคฤหาสน์ เห็นคนสวนที่ไม่ธรรมดา คนดูแลทั่วไปที่เคยต้องโทษ ทุกคนล้วนไม่ธรรมดา แต่โหยวหมิงสวี่ก็ไม่พูดอะไร

วันนี้พักที่คฤหาสน์ของอินเฝิง โหยวหมิงสวี่ได้ยินเสียงที่อยู่ห้องติดกัน เห็นอินเฝิงถูกวางยา เพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นดาราตัวเล็กๆ แต่พยายามยั่วยวนอินเฝิง ยังพูดว่าเมื่อก่อนก็แบบนี้ ทำให้โหยวหมิงสวี่คิดไม่ตก ถึงจะคอยปกป้อง แต่คิดว่าเพราะอินเฝิงถูกวางยาไม่รู้ว่าจะฟังเข้าใจไหม เลยบอกว่าเรื่องทั้งหมดไม่จริง เป็นเรื่องล้อเล่นแล้วกลับไปทันที

อินเฝิงตื่นขึ้นมายังจำได้ถึงคำพูดของโหยวหมิงสวี่แต่ไม่สนใจ ผู้หญิงคนนั้น ที่เฉินเฟิงจัดการเรียบร้อยไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน อินเฝิงคิดว่าทำไมระหว่างเราถึงเป็นไปไม่ได้ โหยวหมิงสวี่มีปมในใจ ไม่ยอมเปิดรับใคร แต่สนิทกับอินเฝิง และก็คิดกลัวว่าพอทุกอย่างกลับเป็นเหมือนเดิม อินเฝิงไปใช้ชีวิตอย่างเดิม ตัวเองก็จะไม่ใช่คนที่อินเฝิงสนใจอีก เลยไม่อยากให้ตัวเองใจอ่อน แต่พออยู่กับอินเฝิง โหยวหมิงสวี่กลับยิ้มบ่อยมาก

โหยวหมิงสวี่ยังพรางตัวมางานแจกลายเซ็นของอินเฝิง ขนาดอยู่ในกลุ่มคน อินเฝิงก็ยังหาตัวเจอ พอกลับมาบ้าน โหยวหมิงสวี่ก็บอกว่าแวะไปเฉยๆ เพราะมีงานแถวนั้น อินเฝิงเข้าใจแต่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

มีคดีเกิดขึ้นที่เมืองไหว ได้ส่งตำรวจอาชญากรรมมาร่วมเพราะปีที่แล้วก็เคยเกิดคดีแบบนี้ ครั้งนี้อินเฝิงก็ตามมาด้วย ตอนนั่งในรถสวี่เมิ่งซานเห็นชัดๆว่าอินเฝิงแกล้งหลับ แต่โหยวหมิงสวี่นี่เต็มใจ แบบไม่รู้เรื่องที่จะพิง จะให้อินเฝิงกอดทีเดียว

คดีที่เกิดขึ้น พบศพอยู่พับอยู่ในหีบ ถูกชำระล้างภายใน ภายนอกจนสะอาด หาร่องรอยอะไรไม่ได้เลย ผู้เคราะห์ร้ายเป็นนักศึกษาจบใหม่ที่ยังไม่มีงาน ชื่อหลิวอีซา อินเฝิงวิเคราะห์ว่าคนร้ายต้องเป็นช่างฝีมือดี การศึกษาไม่สูง สภาพของศพเหมือนกับคดีเมื่อหนึ่งปีก่อนที่หาคนร้ายไม่ได้ ผู้เคราะห์ร้ายชื่อ จ้าวเฟยเอ๋อร์เป็นนักศึกษาจบใหม่เหมือนกัน

สุดท้ายเพราะอินเฝิงจึงพุ่งเป้าไปที่การปล่อยกู้ในมหาวิทยาลัย เพราะทั้งสองคดี ผู้เคราะห์ร้ายกู้เงินทั้งคู่ ตอนนี้โหยวหมิงสวี่จะปลอมตัวไปสืบคดี แต่อินเฝิง และสวี่เมิ่งซานคัดค้าน ทำให้ฝานเจียเสนอตัว ปลอมเป็นนักศึกษาเพิ่งจบอยากกู้เงิน และได้ติดต่อกับพี่ผิงกั่วหรือเฉินเจาฉือเป็นคนพาไป

เรื่องราวดำเนินไปด้วยดี อินเฝิงได้เฉินเฟิงเอาคนของตัวเองออกตามหาภาพร่างที่คิดไว้ พอมาเจอกับโหยวหมิงสวี่ อยู่ดีๆเกิดเห็นภาพในสมองจนปวดหัวมาก ต้องส่งโรงพยาบาล สุดท้ายก็ไม่พบอะไร แต่ที่อินเฝิงอยากรู้คือพี่ชายตัวเอง ตายจริงหรือไม่

บริษัทเงินกู้ติดตาม คุกคามฝานเจียมากเพราะไม่จ่ายดอกเบี้ย คราวนี้ฝานเจียต้องดำเนินแผนการขั้นต่อไป ที่เฉินเจาฉือ

หลังอ่านเล่ม 1 :

เปิดเรื่องได้ดี ในเล่มแรกมีสามคดีที่สามารถหาตัวคนร้ายได้ และอีกหนึ่งคดี ที่ต้องไปต่อในเล่มสอง

ความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งพระเอก อินเฝิงที่เหลืออีคิวเพียงเด็กน้อย แต่ไอคิวยังคงอยู่ กับโหยวหมิงสวี่ตำรวจเก่ง เจ้โหยวของทั้งกรมจะเดินหน้าไปทิศทางไหน อาสวี่จะเปิดใจให้อิงจวิ้น(อินเฝิงตั้งเองเลยนะ)ได้ไหม ต้องลุ้นทั้งคดีและความรักเลยค่ะ

อ่านแล้ววางไม่ลง ต้องคิดวิเคราะห์ตามตลอด ไม่ผิดหวังกับติงโม่ และการแปลของคุณเรืองชัยเลยค่ะ สายสืบสวนไม่ควรพลาดสุดๆ

เล่ม 2 พิมพ์ครั้งที่ 1 : มีนาคม 2564

โปรยปกหลังเล่ม 2 :

โหยวหมิงสวี่ สาวสวยสุดห้าว มากความสามารถ และยังโสดสนิท

ระหว่างพักร้อนที่ทิเบต เธอเจออินเฝิง ชายหนุ่มรูปหล่อ

ใสกระจ่างเหมือนดั่งแสงตะวัน จากนั้นเขาก็เกาะหนึบพัวพันไม่เลิกรา

เธอถูกสถานการณ์บังคับให้รับเขาไว้อยู่ร่วมบ้าน

เดิมคิดว่านั่นเป็นเพียงผู้เคราะห์ร้ายที่สูญเสียความทรงจำคนหนึ่ง

แต่กลับเป็นเขาที่คอยช่วยเหลือเธอมากกว่าที่คิด

มีเพียงเรื่องเดียวที่ยังคงเป็นปริศนา

คือสาเหตุความทรงจำที่สูญหายของเขา

หากวันหนึ่งจดจำได้ทุกเรื่องราว

ความรู้สึกที่เขาเคยมีให้เธอจะยังคงเดิมหรือเปลี่ยนแปลง

เล่ม 2 :

ฝานเจียตามมาหาเฉินเจาฉือ เพราะเรื่องถ่านคลิปวิดีโอยังไงก็ไม่ได้แต่อย่างอื่นยอมหมด แต่เฉินเจาฉือก็ยังปฏิเสธ

โหยวหมิงสวี่กับสวี่เมิ่งซานคิดว่าจะแสดงตัวและเรียกมาคุย แต่ฝานเจียกลับบอกว่าเฉินเจาฉือส่งข้อความนัดเจอ ทำให้ทั้งสองยกเลิก แต่ดูเหมือนเฉินเจาฉือจะมองอะไรออก

ฝานเจียถูกพามาที่บริษัท ถูกตรวจสอบอุปกรณ์ทำเอาเครื่องดักฟังหล่นหาย แต่ไม่ถูกจับได้ เฉินเจาฉือ ส่งมาพบจางเวยชงชาให้ดื่ม พูดกล่อมให้ทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการโจว พอไปพบผู้จัดการโจว ฝานเจียรู้จุดประสงค์อยู่แล้ว แต่ก็แสดงละคร ให้เวลาคิด ออกจากห้องแล้วล็อกห้องไว้ ฝานเจียได้โอกาส สิ่งที่ถนัดที่สุดคือด้านเทคนิค ตอนนี้อยู่ในห้องผู้จัดการเลยตรงไปถอดรหัสที่คอมพิวเตอร์ และเห็นข้อมูลทั้งของจ้าวเฟยเอ๋อร์ หลิวอีซา และรู้ตัวว่าถูกวางยาที่ชาที่จางเวยให้ดื่ม ผู้จัดการโจวเข้ามาฝานเจียคิดจะกดขอความช่วยเหลือแต่ก็ต้องต่อสู้ สติจะไม่อยู่กับตัวแต่หนีออกมาได้

หนีมาที่ชั้นสอง เข้าห้องหนึ่งและก็ถูกคนจับไป

โหยวหมิงสวี่ใช้สัญชาตญาณว่าหาไปนาน บุกเข้าไปก็หาฝานเจียไม่เจอ ใช้กำลังตำรวจค้นหาก็ไม่พบ พวกที่พามากรมตำรวจก็รู้ว่าเดี๋ยวก็ได้รับการปล่อยตัว

โหยวหมิงสวี่และอินเฝิงกลับไปที่เกิดเหตุอีกครั้ง ย้อนรอยตั้งแต่ต้น จนถึงห้องของจางเวย และเห็นกาน้ำชาที่เพิ่งล้าง และไม่วางในที่ๆควรอยู่ เริ่มมีเบาะแส ทั้งคู่วิเคราะห์และตรวจสอบจนถึงชั้นสอง ตรวจทีละห้อง และพบห้องเก็บของ มีเงื่อนงำ จนในที่สุดก็ได้พบว่าฝานเจียหายไปจากที่นี่ และพบเครื่องถอดรหัส

คราวนี้เรื่องราวเปิดเผยจากคลิปที่เห็นว่าหลิวอีซาโดนอะไรบ้าง และตายยังไง ตำรวจจับผู้ต้องสงสัยทั้งหมด คำให้การคราวนี้บอกว่าศพได้ให้เฉินเจาฉือเป็นคนจัดการ จางเวยให้การว่าตัวเองก็เคยเป็นเหยื่อ และเฉินเจาฉือเสนอว่าจะทำเหมือนคดีเมื่อปีที่แล้ว ที่แท้นี่เป็นคดีเลียนแบบ ???

ฝานเจียฟื้นขึ้นมาพบว่าถูกมัด และพาออกมา หลังจากนั้นก็ถูกพามาขังอีกทีหนึ่ง

สวี่เมิ่งซานที่สงสัยเฉินเจาฉือที่หนีรอดไปได้เพียงคนเดียวกัดไม่ปล่อย ตามสืบจนรู้ประวัติความเป็นมา และรู้ว่าตัวเฉินเจาฉือเองวัยเด็กไม่ได้อบอุ่น แฟนก็เคยเป็นหนี้เงินกู้จนสุดท้ายกระโดดตึกฆ่าตัวตาย อินเฝิงวิเคราะห์ว่าจากเหยื่อเมื่อไม่สามารถหาทางได้ก็จะเป็นกลุ่มคนร้ายซะเอง ต้องดูที่ฝานเจียว่าจะเกลี้ยกล่อมได้หรือไม่

สวี่เมิ่งซานไม่มั่นใจ แต่โหยวหมิงสวี่และอินเฝิงต่างมั่นใจในตัวฝานเจีย

ฝายเจียเองที่ฟังประวัติความเป็นมา ก็คิดถึงทุกคนที่สนิทในหน่วย อยากเก่งเหมือนเจ้โหยว สามารถกล่อมเฉินเจาฉือได้สำเร็จ พาออกมาจากหลุมหลบภัยเก่า ฝานเจียและเฉินเจาฉือต้องเดินเท้าเพื่อไปสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด ไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับคนร้ายในคดีนั้นเมื่อปีก่อน เอาค้อนมาทุบหัว ฝานเจียถูกแบกขึ้นหลังไป ส่วนเฉินเจาฉือถูกทุบหัว แต่ยังฟื้นขึ้นมาและหนีรอดไปได้

ด้านโหยวหมิงสวี่มาถึงหลุมหลบภัยเก่า ช้ากว่าฝานเจียที่ออกมาแล้ว ทั้งหมดตามหา และดูภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้คือหาฝานเจียให้พบ

อินเฝิงบอกว่าได้ผู้ต้องสงสัยจากภาพร่างที่ให้ลูกน้องตามหาแล้วทั้งหมดสี่คน สี่อาชีพ คนแรกจ้าวต้าเหว่ยเป็นช่างไม้ สองเส่าหยวนเซิงเป็นสัตวแพทย์พื้นบ้าน สามฝูเหวินซิ่ว คนขายปลา สี่เติ้งเย่าคนฆ่าหมู ลายมือทั้งสี่ไม่ตรงกับลายมือคนร้าย อินเฝิงอยากใช้เครื่องจับเท็จ

ระหว่างนั้นโหยวหมิงสวี่ที่คิดมากเริ่ม คิดถึงฝานเจีย และลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนสังเกตเห็นอย่างหนึ่งว่าเป็นสิ่งที่มีอยู่ในความฝันหรือความจริง รีบตรงไปตรวจสอบทันทีคนเดียว ก่อนจะปีนเข้าไปยังคิดได้ส่งข้อความบอกอินเฝิง

ในความมืด โหยวหมิงสวี่คลำทางมาที่เดิม แต่ทุกอย่างต่างออกไป ด้วยลางสังหรณ์ของตำรวจทำให้เห็นฝานเจีย พอจับชีพจรและรู้ว่าไม่มี ด้วยความเสียใจ อยากพาฝานเจียออกไปไม่ทันระวังตัวเหมือนปกติทำให้โดนค้อนทุบทำร้าย การต่อสู้เริ่มขึ้น จนโหยวหมิงสวี่พลาดท่าเสียที ความคิดสุดท้ายคือไปอยู่กับฝานเจีย และจะไม่ได้เจออินเฝิง

อินเฝิงที่ออกมาไม่เห็นโหยวหมิงสวี่ เห็นข้อความก็รู้ว่าเกิดเรื่องร้าย รีบตามไปโทรหาโหยวหมิงสวี่ไม่รับสาย โทรหาสวี่เมิ่งซานและกำลังเสริม ก่อนตามไป ด้วยความที่ชอบไขกุญแจเอง แค่นี้ไม่เป็นปัญหา ทันได้ยินเสียงโหยวหมิงสวี่ และรีบเอาตัวเข้ากัน ทำให้โดนท้ายทอยเต็มๆ

โหยวหมิงสวี่ตกใจ เสียใจ ที่มีคนทำร้ายอินเฝิงมีแรงฮึดอีกครั้งจัดการคนร้ายจนอยู่ แล้วก็ไปกอดอินเฝิงสลบไป นั้นคือภาพที่กำลังตำรวจที่เข้ามาเห็น

โหยวหมิงสวี่ฟื้นที่โรงพยาบาล และรู้ว่าอินเฝิงอยู่ห้องข้างๆ ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ มอบตัวให้อินเฝิง ไม่มีรางวัล เพราะตัวเองเป็นของอินเฝิงแล้ว ทำเอาอินเฝิงดีใจมาก โหยวหมิงสวี่คิดได้ว่าจะเสียใครไป แต่เสียอินเฝิงไปไม่ได้

พิธีของฝานเจียทำเอาโหยวหมิงสวี่เสียใจ คืนนั้นโหยวหมิงสวี่ได้รับการปลอบจากอินเฝิง และอยู่ด้วยกัน เฉินเฟิงก็รู้เรื่องแล้วเช่นกัน

งานยังไม่จบ จากคำให้การเหมือนคนร้ายจะทำคนเดียว แต่จริงๆ ยังรับผิดแทนอีกคน อินเฝิงที่ถูกทุบทำให้เลือดคลั่งในสมองสลายไปดูจะมองเห็นภาพคิดอะไรได้กระจ่างขึ้น ถามคนร้ายได้ตรงเป้า และบอกว่าถูกหลอกใช้ทั้งหมด ให้บอกความจริงที่เหลือมาเพื่อจะได้พูดต่อหน้า

ตอนนี้ทั้งหมดตามจับคนร้ายที่หนีไป ตามที่ได้รับการบอกคนที่มาถึงก่อนคือโหยวหมิงสวี่และอินเฝิง โหยวหมิงสวี่บุกเข้าไป ให้อินเฝิงรออยู่ด้านนอก จับคนร้ายได้ ตอนที่จะนำตัวออกมา กลับไม่คิดว่ากู้เทียนเฉิงจะหลบอยู่ โหยวหมิงสวี่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ อินเฝิงตอนนั้นก็เกิดปวดหัวขึ้นมา แต่อดทนไว้ ยังสามารถช่วยโหวยหมิงสวี่พลิกสถานการณ์ ก่อนที่กู้เทียนเฉิงจะหนีไปได้บอกว่า คิดว่าเรื่องที่ทิเบตบังเอิญขนาดนั้น คดีสลับตัวก็ไม่ง่ายแบบนั้น

อินเฝิงสลบไปและกู้เทียนเฉิงก็ไม่ได้ทำอะไร พอฟื้นขึ้นก็จำเรื่องราวทั้งหมดได้ จนถึงช่วงก่อนที่จะไปเก็บตัวเขียนหนังสือ พอฟื้นก็ปฏิเสธความสัมพันธ์กับโหยวหมิงสวี่ เอาของทั้งหมดออกจากบ้าน กลับบ้านตัวเอง โหยวหมิงสวี่ตอนแรกยังไม่ยอมแพ้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ อยากได้โหยวอิงจวิ้นคืนแต่ก็ไม่คืนกลับมา เพราะอินเฝิงตัวจริงกลับมาแล้ว

โหยวหมิงสวี่มาตามสืบที่ร้านอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง ตอนนั้นคิดดูเถ้าแก่ให้ข้อมูลมากเกินไป เซี่ยงหรงถูกตามสืบ จนพบว่าบ้านเดิมอยู่ที่เดียวกัน และนี่ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับอินเฝิง อินเฝิงก็ส่งเสี่ยวเยียนมาสืบ คราวนี้โหยวหมิงสวี่ก็ได้รู้ว่าคนข้างกายอินเฝิงมีความสามารถอะไร และที่ไขประตูเก่งคงฝึกมาจากไหน

ทั้งสองตกลงสืบด้วยกันแบบต่างไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ตามจับการก่อคดีของเซี่ยงหรงได้ง่ายๆ สาเหตุเพราะ ลูกชายตกน้ำตายในวัยเด็ก และที่ผ่านมาได้พบกับพี่อวี่ พอได้ยินชื่อ และในกล้องวงจรปิดที่หนึ่งเวลาไขว้กันมีหลัวอวี่อยู่ในกล้อง ทำให้ทั้งหมดมุ่งความสนใจไปที่หลัวอวี่ เรียกตัวมาสอบ อินเฝิงได้ชำระแค้น เซี่ยงหรงยังไม่ทันได้มายืนยันก็ตายซะก่อน บอกว่าถูกพิษ

อินเฝิงเริ่มตรวจสอบช่วงเวลาที่ตัวเองเก็บตัวเขียนหนังสือ และก็เห็นว่าคนในกล้องวงจรปิดไม่ใช่ตัวเอง แสดงว่าเรื่องทางทิเบตน่าจะโดนจัดฉาก  อยากให้โหยวหมิงสวี่ช่วยสืบให้ด้วย

มีสมาชิกหน่วยคนใหม่ส่งมาจากอวิ๋นหนาน คือจิ่งผิง ฉากหน้าส่งมาใหม่ แต่ความจริงมาตามเรื่องคดีค้ายาเสพติดจากอวิ๋นหนาน คนที่หายไปคือกัวซิง ทั้งหมดตามสืบจนรู้ว่าตายที่บ่อตกปลา แต่ความจริงแล้ว นี่ไม่ใช่คนร้ายแต่เป็นตำรวจแฝงตัวเป็นสาย ที่ใช้แผนซ้อนแผนทำให้คนร้ายที่ฆ่าเข้าใจผิดฆ่าเอาตำรวจดีไป แต่ที่น่าหนักใจคือข้อมูลที่นำมาด้วยหายไป และในเวลาเดียวกันก็มีภาพของหลัวอวี่ใกล้ที่เกิดเหตุอีกแล้ว

ตอนนี้เหลือเพียงรอโอกาสตรวจสอบ ระหว่างนี้ความทรงจำของอินเฝิงก็กลับมาเป็นระยะ จำได้แล้วว่าเคยอยู่กับโหยวหมิงสวี่ ตอนนี้อยากทำข้อตกลงต้องอยู่ด้วยกันมากๆ ติดต่อกับตลอด จะได้ช่วยระบบความทรงจำ โหยวหมิงสวี่ตกลง

หลังอ่านเล่ม 2 :

คดีพลิกผันไปมา อ่านไปตื่นเต้นไป เรื่องคดีก็ตามสืบกันสนุกทั้งช่วงที่อินเฝิงยังเป็นโหยวอิงจวิ้น และตอนที่ตัวเองกลับมาแล้วความสามารถยิ่งเยอะขึ้น แต่ก็มีเรื่องเศร้าใจเกิดขึ้น เรียกน้ำตาจากคนอ่านได้เต็มๆ อ่านไปลุ้นไป เศร้าไป หลายอารมณ์มากค่ะ แต่บอกได้คำเดียวว่าสนุก ห้ามพลาดเด็ดขาด อ่านจบต้องเปิดเล่ม 3 แบบด่วนเลยทีเดียว

เล่ม 3 พิมพ์ครั้งที่ 1 : มีนาคม 2564

โปรยปกหลังเล่ม 3 :

ความลับในอดีตถูกเปิดเผย

ความจริงเป็นสิ่งที่เธอและเขาต้องค้นหา

โหยวหมิงสวี่ก็มีเป้าหมาย อินเฝิงก็มีเป้าหมาย

และทั้งเธอและเขา ต่างเป็นเป้าหมายของใครบางคนเช่นกัน

ปริศนารอการคลี่คลาย ความรักรอวันผลิบาน

ยิ่งเข้าใกล้คำตอบก็เหมือนมีเงาปริศนาขวางอยู่ตรงหน้า

รอให้พวกเขาก้าวเข้าไปเพื่อไขคำตอบ

เล่ม 3 :

พอตกลงกันได้ โหยวหมิงสวี่ดูเหมือนอารมณ์ดี กินอาหารอร่อย ครั้งนี้อินเฝิงและโหยวหมิงสวี่จะจับไส้ศึกที่แฝงตัวอยู่ข้างกายอินเฝิง ทั้งสองแสดงละครแบบสมจริง วางยา ฆ่าเพราะความหึงหวง สุดท้ายคนที่ออกจากบ้านไปคือ เว่ยหลาน พ่อครัวที่อยู่กับอินเฝิงมาสามปี

ทั้งหมดตามไปอย่างรวดเร็ว ทั้งยังแจ้งทางจิ่งผิง ไปถึงที่พัก คนร้ายรู้ตัวแล้ว สู้แบบพร้อมยอมตาย ดีที่จิ่งผิงปฏิกิริยาฉับไวทำให้รอดพ้นมาได้ และครั้งนี้ได้พบกู้เทียนเฉิงเป็นครั้งสุดท้าย ตายสนิทแบบไม่มีครั้งหน้าอีก

ทุกคนเข้าไปที่รังของคนร้ายกลุ่มนี้เห็นรูปแบบการใช้ชีวิตที่มีวินัย มีรูปถ่ายโหยวหมิงสวี่มากมายในห้องหนึ่ง ได้หลักฐานมาพอควร ข้อความที่สะดุดตา ความดีตายแล้ว จงทำชั่ว

สำนักงานตำรวจมณฑล ครั้งนี้เป็นคดีที่ใหญ่กว่า สรุปได้ว่า นี่คือ องค์กร ผู้ลงทัณฑ์

โหยวหมิงสวี่มาหาอินเฝิงให้วิเคราะห์องค์กรผู้ลงทัณฑ์ เอาคนดีที่สะอาดซื่อตรง แต่ชีวิตถูกทำลายย่อยยับ เปลี่ยนให้เป็นผู้ลงทัณฑ์ สิ่งที่ได้คือองค์กรนี้ทำเหมือนอินเฝิง แต่ก็ตรงกันข้ามกับอินเฝิง ทั้งเรื่อง ความดีตายแล้ว จงทำชั่ว

อินเฝิงก็มีคนอย่างถูยา เสี่ยวเยียน เหลาจิ่ว ก้วนจวินอยู่ข้างกาย แต่คอยระวังไม่ให้ทำความผิด และความเชื่อของอินเฝิงคือ ตลอดชั่วชีวิต อย่าทำชั่ว จงทำแต่ความดี

เขาเปรียบเทียบกับอินเฝิง แข่งกับอิงเฝิง เฝ้ามองอินเฝิงตลอด

โหยวหมิงสวี่มีข้อเรียกร้องในการที่จะกลับมาอยู่ด้วยกันเพียงให้คิดคำพูดที่ตัวเองเคยพูดตอนที่ตกลงอยู่ด้วยกันออกเท่านั้น

อินเฝิงจำได้หลายเรื่องแต่ยังจำเรื่องนี้ไม่ได้

โหยวหมิงสวี่ ยังกลับไปคิดว่าใครคือผู้นำองค์กรผู้ลงทัณฑ์ คนแรกคือ อินเฉิน คนที่สองหลัวอวี่ คนที่สามยังไม่เปิดเผย ตอนนี้ทำได้เพียงสืบหาความผิดข่ายหยางกรุ๊ปกับหลัวอวี่

วันนี้จะประชุมกันถึงข่ายหยางกรุ๊ป สิงจี่ฟู่ ประธานข่ายหยางกรุ๊ป สิงเหยียนจวิน ลูกชายคนโต เรียนต่างประเทศ หวงหลง ลูกบุญธรรม กัวเฟยหรง ดูแลด้านโลจิสติกส์ หลัวอวี่ ทนายโจร

ทางอวิ๋นหนานมีความเคลื่อนไหว จิ่งผิงนำกำลังไปจับที่สนามบิน และสามารถสาวไปถึงตัวกลาง ระหว่างจับกุม คนซื้อขายก็มา ทำให้ไม่มีทางเลือกโหยวหมิงสวี่ต้องไปแทน แต่ความจริงโดนจับพิรุจได้แต่แรกแล้ว เพราะสายที่จับได้บอกภายหลังว่าติดต่อกันแล้วตั้งแต่เมื่อวาน

วันนี้โหยวหมิงสวี่เลยต้องตามอาฮว่าไป ความจริงก็เอาตัวรอดได้ แต่ไม่โชคดีเท่า สุดท้ายยังได้อินเฝิงที่แอบตามมาอยู่ท้ายรถช่วยไว้ อินเฝิงที่อยู่ท้ายรถทำให้จำความรู้สึกตอนนั้นได้

แต่คนที่ไม่คาดคิดคือหลัวอวี่ที่ยิงปืนฆ่าโดยไม่ลังเล และจัดการศพทั้งสาม และบอกว่าไม่เคยพบกัน

หลังจากนั้นก็นัดเจอโหยวหมิงสวี่ ทั้งกินข้าว พามาตีกอล์ฟ ทำให้ได้รู้จักทั้งหมดของข่ายหยางกรุ๊ป ทั้งสองล้วนมีแผนการ โหยวหมิงสวี่ไม่รู้ว่าแผนของหลัวอวี่คืออะไร แต่ตัวเองอยากสืบเรื่องของข่ายหยางอยู่แล้ว สุดท้ายถึงกับให้อยู่ร่วมบ้าน และเดินทางไปซื้อขายด้วยกันได้ โหยวหมิงสวี่เตรียมตัวพร้อม มีก้วนจวินติดเครื่องติดตาม ทั้งหมดคิดออกว่าเป็นการ ส่งเสียงบูรพา ตีฝ่าประจิม เตรียมพร้อมจับแก๊งค้ายาอวิ๋นหนาน และสิงจี่ฟู่ ที่จะทำงานครั้งนี้และวางมือ

แต่ความจริงแล้วยังมีคนที่จะรวบแหใหญ่กว่านั้น วางแผนครอบคลุมลึกลงไปอีก กว่าจะรู้ว่าเป็นพวกเดียวกันเกือบสายเกินไป แต่สุดท้ายยังได้สู้ศึกด้วยกัน สุดท้ายยังต้องพลีชีพ

โหยวหมิงสวี่ถูกจับเป็นตัวประกันอีกครั้ง เป้าหมายครั้งนี้ขององค์กรผู้ลงทัณฑ์คือสิงจี่ฟู่ แล้วจากการที่หลัวอวี่เปิดเผยต่อแก็งค์เซียงถาน ทำให้รู้ว่าเป็นลูกสาวของสิงจี่ฟู่ เพราะเรื่องนี้ทำให้สิงจี่ฟู่ยอมปรากฏตัว เพราะทั้งลูกสาว ลูกชายถูกจับพร้อมกัน

ตอนนี้คนข้างกายสิงจี่ฟู่ที่เชื่อใจมาตลอดอย่าง กัวเฟยหรงกลับไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะรอโอกาสมาตลอด ที่สุดแล้วคืออินเฉินที่ สิงจี่ฟู่คิดว่าปีนั้นเกี่ยวพันกับแม่ของโหยวหมิงสวี่

เรื่องราวมากมาย สุดท้ายโหยวหมิงสวี่สงบใจได้ จับคนร้ายตามหน้าที่อย่างเดียว ในที่สุดพวกอินเฝิงก็มาแล้ว ถูยาถึงกับใช้วิธีพุ่งชนสกัดตามสไตล์การขับรถไม่กลัวตาย เสี่ยวเยียนกระโดดข้ามมาตอนแรกคิดว่าแค่เรียกร้องความสนใจแต่ความจริงคือมาเพื่อสังหารคนขับ ทั้งคู่บาดเจ็บสาหัสไม่รู้เป็นตาย

ในที่สุดสองพี่น้องก็ได้พบกัน และอินเฝิงก็จำได้แล้วว่าตัวเองโดนทรมานมากแค่ไหนจนกลายเป็นโหยวอิงจวิ้น แล้วถึงโดนปล่อยออกมา เหมือนเล่นจนเบื่อแล้ว จะสามารถไปได้แค่ไหน แต่สุดท้าย อินเฝิงก็บอกว่าตัวเองชนะ เพราะยังไงก็ยังไม่ได้ทำเรื่องชั่วร้าย

ถูยารอดตายพาสิงเหยียนจวินมา พร้อมกับเสี่ยวเยียนที่เบาะหลัง อินเฝิงต่อรองกับอินเฉินจนได้ตัวโหยวหมิงสวี่ เรื่องราวพลิกผันอีกครั้งเมื่อก้วนจวินเปิดฉากยิง โหยวหมิงสวี่จับตัวอินเฉินได้ แต่เรื่องไม่น่าเกิดก็เกิดขึ้น เมื่ออินเฉินพูดว่าลงมือ คนที่ถูกทำร้ายคืออินเฝิง โดนสิงเหยียนจวินที่นอนสลบอยู่แทงลึกถึงสองแผล ยังพูดคติขององค์กรผู้ลงทัณฑ์ ที่แท้นี่คือไม้เด็ดสุดท้าย องค์กรได้ไปล่อลวงจนสิงเหยียนจวินเปลี่ยนไปตั้งแต่เรียนอยู่ต่างประเทศแล้ว

เรื่องคาดไม่ถึงเกิดขึ้นหนัดกว่าเดิม เมื่อเหลาจิ่วเห็นอินเฝิงบาดเจ็บก็ใช้วิธีพลีชีพ วิ่งตามคนทำร้ายอินเฝิงไป และจัดการฝ่ายตรงข้ามให้ตายตกไปตามกัน

โหยวหมิงสวี่ทยอยส่งสหายร่วมรบเข้าห้องผ่าตัดคนแล้วคนเล่า และเฝ้ารอข่าวมาตลอด ทุกคนถูกเข็นออกมาอย่างปลอดภัย เหลือเพียงอินเฝิงที่ยังต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด และเรียกแพทย์ฝีมือดีมาทำการผ่าตัดซ้ำ

โหยวหมิงสวี่ต้องมาไว้อาลัยอีกครั้ง ครั้งนี้คือหลัวอวี่ เมื่อถามติงโสงเหว่ยว่าเค้าเป็นคนดีหรือไม่ ก็ได้คำตอบว่าบางที เขาเป็นคนเลว แต่เป็นตำรวจที่ดี

พอกลับมาโรงพยาบาล ได้พบว่าสวี่เมิ่งซานและจิ่งผิงฟื้นแล้ว สวี่เมิ่งซานบอกให้จิ่งผิงตัดใจ

โหยวหมิงสวี่มาหาอินเฝิง พอฟื้นดูแปลกไปแต่มองไม่ออกว่าแปลกที่ไหน เรื่องสุดท้ายคือตอนนี้รอเพียงอินเฉินมาหา แล้วพิสูจน์ว่าสิ่งที่ตัวเองเชื่อมาตลอดถูกต้อง

หลังอ่านเล่ม 3 :

เรื่องราวยิ่งพลิกผันมากขึ้น บางที ตัดสินคนจากการกระทำภายนอกไม่ได้จริงๆ เรื่องราวมันหลายซับหลายซ้อน กว่าจะถึงเบื้องลึกเบื้องหลังสุดท้าย เป็นเล่มที่ลุ้นระทึก และยังต้องเสียน้ำตาให้กับความเสียสละ ของเหล่าผู้กล้าทั้งหลาย อ่านไปอินไป

ทั้งยังมีเรื่องเหนือความคาดหมาย แต่ไม่เกินคาดเดาหลายครั้งให้ได้อึ้งๆๆๆ อ่านแล้ววางไม่ลงจริงๆค่ะ มาร่วมลุ้น และหาความจริงกันในเล่มสุดท้ายกับโหยวหมิงสวี่และอินเฝิงกันค่ะ รักเรื่องนี้มากๆๆๆๆ

เล่ม 4 พิมพ์ครั้งที่ 1 : มีนาคม 2564

โปรยปกหลังเล่ม 4 :

ปริศนาสุดท้ายยังรอการคลี่คลาย

พร้อมกับความรักของเธอและเขาที่รอวันผลิบาน

แต่ยิ่งเข้าใกล้คำตอบเหล่านั้นมากเท่าไร

ก็เหมือนมีแผลลวงบางอย่างคอยขัดขวาง

และหาก "ความจริง" ทำให้ทุกคนต้องเจ็บปวด

เธอและเขาจะตัดสินใจอย่างไร

เล่ม 4 :

โหยวหมิงสวี่ดูแลอินเฝิงอย่างดี และดูแลถูยากับเสี่ยวเยียนด้วย จนโดนเหล่าติงตามตัวกลับไปทำงานที่เมืองเซียง ต้องให้อินเฝิงอยู่พักรักษาตัวต่อเอง

โหยวหมิงสวี่กลับมา เรื่องแรกที่มาถามติงโสงเหว่ยคือเรื่องราวระหว่างแม่ตัวเอง โหยวหรุยเส่ว์ สิงจี่ฟู่ และอินเฉิน คดีที่ติดตามตอนนั้น ที่เป็นคดีที่ทำให้โหยวหรุยเส่ว์ตาย เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าแล้วตัดหัวนมศพ พร้อมทั้งทำลายอวัยวะเพศ ที่เธอเสียชีวิตเพราะปกป้องผู้เคราะห์ร้าย จนตายกับตำรวจอีกนายที่บาดเจ็บสาหัส ฆาตกรก็พบหลังจากนั้นถูกฆ่าอย่างทรมานถูกถลกหนังทั้งเป็น เรื่องที่ฆาตกรตายโหยวหมิงสวี่ได้ยินจากปากสิงจี่ฟู่เองแล้ว

โหยวหมิงสวี่ทำงานยุ่ง แต่เรื่องคดีนี้ก็ยังส่งให้อินเฝิงดู ส่วนอินเฝิงถ้าโหยวหมิงสวี่ไม่โทรไปก็เงียบเชียว จนโหยวหมิงสวี่บอกว่าตัวเองยุ่ง อินเฝิงนอนอย่างเดียว ทำให้พูดไม่ออก

ทุกคนลุกจากเตียงได้หมด เหลืออินเฝิงคนเดียว สวี่เมิ่งซานกับจิ่งผิงกลับมา จิ่งผิงบอกว่าจะย้ายกลับอวิ๋นหนานแล้ว อยากประลองกับโหยวหมิงสวี่ก่อนกลับ พอประลอง โหยวหมิงสวี่ก็แพ้ ถึงแม้จิ่งผิงจะสารภาพแต่ก็รู้ว่ามาช้าไป บอกว่าถ้าแต่งงานอย่าลืมส่งการ์ดมาให้

อินเฝิงกลับมา โหยวหมิงสวี่ดีใจมาก อินเฝิงขอให้โหยวหมิงสวี่ย้ายมาอยู่ด้วยกัน บอกว่าจะได้คุ้มกันง่ายกว่า แต่จริงๆตัวเองจำเรื่องทั้งหมดออกแล้ว และในที่สุดก็สารภาพกับโหยวหมิงสวี่ ถึงความรู้สึกกลัวที่จะสูญเสียสิ่งสำคัญไปเลยไม่อยากบอก

ตอนนี้ก็เป็นเวลาโหยวหมิงสวี่เอาคืนเรื่องที่ผ่านมา

มีเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องเกิดขึ้น คดีที่เกิดห่างกับสิบวัน ลักษณะศพเหมือนกันทุกอย่าง พอโหยวหมิงสวี่มาก็พบว่ารูปแบบเหมือนกับคดีเมื่อสิบห้าปีก่อน ที่แม่ตัวเองเสียชีวิต

ติงโสงเหว่ยยืนยันว่าคนร้ายคนละคนกับตอนนั้น สวี่เมิ่งซานควานหาภาพวงจรปิดจนได้ภาพที่หน้าตึก โหยวหมิงสวี่คิดว่าฆาตกรดูคุ้นตา อีกแล้ว

อินเฝิงมาช่วยวิเคราะห์คนร้าย ให้คิดนอกกรอบตำรวจ พอทุกคนได้ภาพตามที่ต้องการก็ออกตรวจสอบ ส่วนอินเฝิงมาอ่านคดีเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว จากติงโสงเหว่ย แล้วก็ฝันถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น นั่นคือความฝันสินะ

กลายเป็นก้วนจวินที่หาสถานที่ได้ก่อน เมื่อทุกคนไปถึง นี่คือสถานที่ของฆาตกรฝึกหัดแน่นอน โหยวหมิงสวี่ ให้ทางตำรวจตรวจสอบจนพบว่าคนที่มาคุมคอมพิวเตอร์ทั้งสองที่คือคนเดียวกันพอส่งรูปมาคือหมิงเทา ไม่น่าเชื่อว่าไม่เจอกันไม่กี่เดือนจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ แต่เมื่อคิดดูก็มีความเป็นไปได้ ตรวจสอบถึงเหตุการณ์ตอนนั้นคนที่สนใจ ถามตำรวจถึงเรื่องเก่าๆก็คือคนนี้ พฤติกรรมต่างๆสอดคล้อง และคืนนี้จะลงมืออีกครั้ง  ต้องจับให้ได้ เหมือนคนร้ายจะรู้ตัว พาไปที่บ้านริมทะเลสาปใกล้บ้านของอินเฝิง และอินเฝิงก็ดูคุ้นเคย ได้เจอกับชายที่ดูคล้ายอินเฝิง ที่ถูกล่ามอยู่พอตรวจสอบพบว่าหลี่หมิงตี้ แล้วกลายเป็นว่าหลี่หมิงตี้ให้การว่าถูกอินเฝิงลักพาตัวมาเพื่อเขียนหนังสือแทน

ยังมีเฉินเฟิงที่แอบออกไปเพื่อจะฆ่าปิดปาก แต่อินเฝิงตามไป พอฟังเรื่องราวก็สับสน แล้วก็คิดว่าตัวเองคือผู้บงการทั้งหมด พวกของเฉินเฟิงพาอินเฝิงหนีไป หลังจากอินเฝิงประกาศว่าตัวเองคือผู้บงการคนนั้น

โหยวหมิงสวี่ไม่มีทางเชื่อ อินเฝิงคิดว่าตัวเองมีสองบุคลิก แต่โหยวอิงจวิ้นเป็นหนึ่งในอินเฝิงไม่ใช้บุคลิกที่สอง โหยวหมิงสวี่ไม่ยอมแพ้ บอกให้อินเฝิงคิดให้ดี ถึงจุดเริ่มต้น เมื่ออินเฝิงคิดถึงรายละเอียดต่างๆ ก็เห็นความผิดปกติและรู้ว่าใครคือผู้ก่อตั้งองค์กรผู้ลงทัณฑ์ ให้ก้วนจวินติดตาม และไปหาโหยวหมิงสวี่พร้อมหลักฐาน ในที่สุดก็รู้ว่าคืออาจารย์ฟ่านซูหัวของตัวเอง โดนการสะกดจิตหลอกลวงให้เชื่อ ดีที่มีโหยวหมิงสวี่ แผนการสุดท้ายถูกทำลาย ทั้งหมดในสมุดปกดำต้องมี สิบสามคนแต่ที่ถูกจับคือสิบสองคน ที่หนีรอดไปคืออินเฉิน

การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเริ่มต้น

อินเฝิง โหยวหมิงสวี่ไปเที่ยวพักผ่อนกันทุกคน กำลังจะขอแต่งงาน ก็ได้รับข้อความว่าพ่อแม่ของสวี่เมิ่งซานถูกจับตัวไป และเลือดในที่เกิดเหตุคือเลือดของสิงจี่ฟู่ ต่อมาติดตามกล้องวงจรปิดได้ อินเฉินไปที่บ้านโหยวหมิงสวี่สาดเลือดและวางของไว้แบบเดียวกัน และก็ได้ข่าวว่าพ่อแม่อินเฝิงก็หายตัวไป ที่บ้านก็เหมือนกับบ้านทั้งสอง

ตัวประกันห้าคนถูกส่งมา อยู่ในห้องปิดมีน้ำปล่อยลงมา สามารถจมน้ำได้ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง โหยวหมิงสวี่คิดว่าเป็นฟาร์ม ส่วนอินเฝิงคิดว่าอินเฉินต้องการกลับบ้าน ทั้งสองแยกกันตรวจสอบ บ้านแม่โหยวหมิงสวี่ไม่มี ที่ถัดไปคือบ้านที่อยู่เมื่อตอนเด็ก

โหยวหมิงสวี่ไปที่ฟาร์มไก่ในชื่อของอาฮว่า พบตัวประกัน ช่วยออกมา แต่เพราะความร้อน ทำให้หิวน้ำ ทั้งถูยาและโหยวหมิงสวี่ดื่มน้ำไปมาก นั้นคือแผนของอินเฉิน

อินเฝิงคิดได้ หลังตรวจสอบ ก็หลบหนีออกมาและจุดระเบิดอย่างที่อินเฉินต้องการ และเห็นเหตุการณ์ที่อินเฉินจับโหยวหมิงสวี่

ทำให้มาแลกตัวประกันกัน เพราะฟ่านซูหัววิเคราะห์อินเฝิง อินเฝิงวิเคราะห์อินเฉิน แต่อินเฝิงก็รู้ทันสามารถชนะในเกมนี้ ตอนนี้อินเฉินจะพาอินเฝิงไปด้วย โหยวหมิงสวี่ไม่ยอม ใช้วิชายูโดขั้นสูงพาทั้งคู่หนีออกมาจากระเบิดได้ทันเวลา

ในที่สุดองค์กรผู้ลงทัณฑ์ และอินเฉินที่เป็นเพียงสมุดปกดำหนึ่งเล่มก็ไม่มีอีกต่อไป

หลังอ่านเล่ม 4 :

เป็นตอนที่พลิกไปพลิกมา มาก ถ้าอินเฝิงไม่มีโหยวหมิงสวี่ แผนการทั้งหมดคงสมบูรณ์แบบ แต่เพราะมีตำรวจหัวดื้อ ที่ไม่ยอมแพ้ ทุกครั้งจึงเป็นแสงสว่างของอินเฝิง สามารถทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้ ทั้งสองคู่กันอย่างลงตัวจริงๆ

ตอนพิเศษสุดท้ายยังได้กลับมาเจอศาสตราป๋อให้หายคิดถึงอีกด้วยนะ

แนะนำให้อ่านเรื่องนี้เลยค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน ลุ้นตั้งแรกเล่มแรกจนเล่มจบจริงๆ  

เนื้อเรื่อง :

เรื่องราวของโหยวหมิงสวี่ที่ลาหยุดเพื่อสืบคดีฆาตกรรมบนทางหลวงบนเส้นทางทิเบต ระหว่างทางเจอทั้งนักขี่จักรยานคนอื่น และรถใจดีที่ให้อาศัย เรื่องราวไม่ง่ายอย่างนั้นเพราะหนึ่งในนั้นคือคนร้าย ในคนร้ายยังพาอินเฝิงนักเขียน และนักจิตวิทยาอาชญากรรมชื่อดังที่อีคิวเหลือเพียงเด็กเจ็ดแปดขวบมาด้วย โดยอ้างว่าขับรถชนแล้วชิงรถมา แต่ความจริงไม่ง่ายดายแบบนั้น

อินเฝิงที่เห็นโหยวหมิงสวี่ครั้งแรกติดโหยวหมิงสวี่ คอยตามตื้อ ตั้งชื่อตัวเองเป็นโหยวอิงจวิ้น ทำทุกอย่างใสบริสุทธิ์ เอาชนะใจโหยวหมิงสวี่ที่ใจแข็งได้

อินเฝิงยังช่วยคลี่คลายคดี ทั้งที่อีคิวมีเพียงเด็กน้อย แต่ไอคิวยังดีอยู่ แต่ก็ค่อยๆฟื้นฟูขึ้นเรื่อยๆ ความรักก่อตัว โหยวหมิงสวี่ไม่อาจก้าวข้ามว่าถ้าอินเฝิงหายดีแล้วจะจากไป จนอินเฝิงยอมสละชีวิต ทั้งสองถึงอยู่ด้วยกัน แต่เพียงเวลาสั้นๆ เพราะโหยวอิงจวิ้นตามโหยวหมิงสวี่ไปทุกที่ ครั้งสุดท้ายที่ปวดหัว ก็ไม่อยากกลับคืนเป็นปกติ

แต่เมื่อตื่นขึ้น ทุกอย่างเหมือนเดิม กลับจำช่วงเวลาที่อยู่กับโหยวหมิงสวี่ไม่ได้ แต่ก็ค่อยๆจำได้ขึ้นมา และตามตื้ออีกครั้ง ครั้งนี้คลี่คลายคดีเร็วขึ้น เรื่องราวซับซ้อน ทั้งคดีต่างๆไม่ใช่แค่เห็นเพียงภายนอก ยังมีผู้บงการเบื้องหลัง

จนค้นพบว่าคือองค์กรผู้ลงทัณฑ์ ต้องตามหาผู้ก่อตั้ง และคนที่น่าสงสัย ว่าคือคนใกล้ตัวที่แอบมอง คอยจ้องทำร้ายอยู่

มาคอยตามดูการร่วมกันคลี่คลายคดีของโหยวหมิงสวี่และอินเฝิง และคนรอบตัวที่มีบทบาทกัน และความรักของทั้งคู่ว่าบทสรุปจะเป็นแบบไหนกันค่ะ

หลังอ่าน :

แต่ละตัวละครมีบทบาทที่ชัดเจนมาก ถ้าตั้งใจมองหาจะเห็นการพยายามใส่รายละเอียดของติงโม่ มองแล้วเห็นภาพ และเห็นความเสียสละของตำรวจ ที่ทำหน้าที่ต่างกัน ทั้งที่เป็นสาย ทำงานด้านอาชญากรรม ด้านยาเสพติด ทุกคนมีบทบาทของตัวเองที่ชัดเจน ถ้าไม่หลงในอำนาจ เงินทอง เพื่อประชาชน จะเห็นถึงความทุ่มเทใส่ใจ

ตัวละครทุกตัวมีบทบาทที่ชัดเจน มีที่มา ที่ไป มีปัญหาจึงเป็นแบบนี้ ถ้าได้แบบอย่างที่ดีก็สามารถกลับตัวได้ เหมือนอย่างที่อินเฝิงประลองความเชื่อที่ตรงกันข้ามกันกับองค์กรผู้ลงทัณฑ์ ความดีก็จะชนะความชั่ว ตลอดกาล

เป็นนิยายสืบสวน สอบสวนที่สนุก แนะนำให้อ่านเลยค่ะ นักแปลแปลได้ดี ไม่สะดุดด้วยค่ะ   

14/5/64