Sunday, February 14, 2021

คู่กิเลนค้ำบัลลังก์ #4เล่มจบ #enterbooks #มีeBook #นิยายแปลจีนโบราณ #ชิงไหวชิงพริบในราชสำนัก #นิยามของขุนนางน้ำดีและเชื้อพระวงศ์ผู้ทรงคุณธรรม #สงครามกับศัตรูที่ต้องการรุกล้ำจงหยวน #เรื่องราวแห่งมิตรภาพ #ความรักความผูกพันของพี่น้อง

 Review 5/2564

เรื่อง : คู่กิเลนค้ำบัลลังก์ (4 เล่มจบ) มี E-Book #นิยายแปลจีนโบราณ #ชิงไหวชิงพริบในราชสำนัก #นิยามของขุนนางน้ำดีและเชื้อพระวงศ์ผู้ทรงคุณธรรม #สงครามกับศัตรูที่ต้องการรุกล้ำจงหยวน #เรื่องราวแห่งมิตรภาพ #ความรักความผูกพันของพี่น้อง

ผู้แต่ง : เมิ่งซีสือ (Meng Xi Shi)

ผู้แปล : ปราณหยก

สำนักพิมพ์ : เอ็นเธอร์บุ๊คส์

จำนวนหน้า 465+533+584+560 หน้า

เล่ม 1 พิมพ์ครั้งที่ 1 : กันยายน 2563

โปรยปกหลังเล่ม 1 :

สิบเอ็ดปีเต็มที่ครอบครัวสกุลเฮ่อถูกเนรเทศให้มาอยู่ในอำเภอเล็กๆ อันแสนกันดาร

แม้ ‘เฮ่อไท่’ หัวหน้าครอบครัวจะมีชาติกำเนิดสูงส่ง เป็นถึงองค์ชายใหญ่

แต่โทษทัณฑ์ที่ต้องรับฐานสมรู้ร่วมคิดต่อแผนการปองร้ายรัชทายาทก็ยากละเว้นจริงๆ

ในโชคร้ายยังมีโชคดีที่ลูกๆ ของเฮ่อไท่ล้วนเป็นลูกไม้ไกลต้น

ไม่มีสักคนที่จะขี้ขลาด โง่เขลา ไม่เอาไหนอย่างผู้เป็นบิดา

โดยเฉพาะบุตรชายคนที่สาม ‘เฮ่อหรง’

มีสติปัญญาเฉียบแหลม คอยคิดการต่างๆ เพื่อครอบครัวเรื่อยมา

สิบเอ็ดปีเต็มที่เฝ้ารอ บัดนี้โอกาสที่จะพาทุกคนกลับนครหลวงฉางอัน

และหวนคืนสู่ศักดิ์ฐานันดรเดิมได้ตกลงมาให้คว้าไว้แล้ว!

เล่ม 1 :

ครอบครัวสกุลเฮ่อ ที่มีท่านพ่อเฮ่อไท่ที่เป็นองค์ชายใหญ่ของราชวงศ์แต่เพราะโดนจักรพรรดิ เนรเทศทั้งครอบครัวจากเรื่องกบฏปิ่งเซิน จากองค์ชายใหญ่ หลู่อ๋องกลายมาเป็นสามัญชน สิบเอ็ดปีผ่านมา บุตรชายบุตรสาวเติบโต เฮ่อหรงบุตรชายคนที่สามขาเป๋เพราะอุบัติเหตุตกม้าในวัยเด็ก เหตุการณ์นี้ทำให้เฮ่ออวี๋น้องหกบุตรชายที่เกิดจากชายาเอกตกใจจนเสียชีวิต ซึ่งเกิดก่อนเหตุการณ์กบฏปิ่งเซินหนึ่งปี เกิดจากจ้าวซื่อที่มีส่วนที่ถูกปรักปรำในตอนนั้น เป็นคนช่างคิด ฉลาดทันคน เป็นฝ่ายบุ๋น ช่วยออกความเห็นให้ครอบครัวเสมอ บุตรชายคนที่ห้าเฮ่อจั้น ฝ่ายบู้เหมือนพี่รองเฮ่อซิ่ว ทั้งๆที่มารดาเดียวกับพี่รองแต่สนิทกับพี่สามมากกว่า ส่วนพี่รองกลับเข้ากันได้ดีกับเฮ่อสี่ น้องสี่ พี่ใหญ่เฮ่อมู่เป็นคนเดียวที่ได้แต่งงาน ตอนนี้มีบุตรชายหนึ่งคนคือเฮ่อซิน ส่วนน้องเจ็ดเฮ่อซีอ่อนแอขี้โรค ขี้กลัว ตอนเกิดเรื่องอายุเพียงหนึ่งปี ตอนนี้อายุสิบสอง มีหยวนซื่อที่เป็นอนุภรรยาเป็นมารดาแท้ๆคอยดูแล และเฮ่อจยาที่เหลือเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวจากบุตรสาวทั้งหมดสามคน

ทั้งครอบครัวเพราะอยู่ที่อำเภอจู๋ซาน ฝานโจวมานาน จากตอนแรกรอคอยความหวังจะได้กลับเมืองหลวง จนความหวังเริ่มหมดไป จนตอนนี้มีเรื่องเหลียงโจวก่อกบฏ เซียวอวี้ตั้งตนเป็นอ๋อง หม่าหงขันทีคนสนิทของจักรพรรดิเดินทางมาพร้อมหมอหลวง เพราะจดหมายที่เฮ่อไท่ส่งไป ลายมือไม่เหมือนเดิมด้วยความเกียจคร้าน จึงให้เฮ่อมู่เขียนแทน และมาเล่าถึงเหตุการณ์กบฏ การรบทางชายแดนของทูเจวี๋ยตะวันตกและตะวันออก ทำให้เฮ่อหรงสังเกตความผิดปกติจนถามว่ามีการพูดเรื่องการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์หรือไม่  

เท่านั้นยังไม่พอหลังเทศกาลจงชิวมีข่าวว่า เล่อปี้ ผู้ว่าการจินโจวชูธงก่อกบฏตามไปด้วย และตอนนี้เคลื่อนพลบุกยึดมาเรื่อยจนมาถึงอำเภอจู๋ซาน จะหนีก็ไม่ได้ เป็นเฮ่อหรงที่ให้ชาวบ้านช่วยกันตั้งรับ รอการช่วยเหลือที่ให้เฮ่อมู่ เฮ่อซิ่วไปขอกำลังสนับสนุนเพราะผู้ตรวจการฝางโจวซือหม่าอวิ๋นไม่ยอมให้คนช่วยเหลือ

เฮ่อจั้นเป็นกำลังสำคัญ เฮ่อหรงเป็นมันสมอง สุดท้ายก็รักษาอำเภอจู๋ซานเอาไว้ได้ หยางจวินสหายสนิทของเฮ่อหรงก็อยู่คอยเป็นกำลังสนับสนุนด้านเสบียง แต่พอเสร็จศึกกลับเป็นคนอื่นที่ได้หน้าตาไปแทน เพราะหยางจวินเป็นเพียงลูกเลี้ยงไม่ใช่คนสกุลหยางที่แท้จริง หยางจวินถามเฮ่อหรงว่าถ้าไปเมืองหลวงจะทำอะไร เฮ่อหรงบอกว่าสืบเรื่องมารดาของตัวเอง

อู่เวยโหว จางเทาเป็นผู้มาช่วยเหลือ และไปทำศึกต่อกับเล่อปี้ต่อจนได้ชัยชนะ เฮ่อหรงคาดการณ์ว่าจะได้รับราชโองการจากทางจางเทากลับเมืองหลวงพร้อมกันเมื่อเสร็จศึก ก็เป็นไปตามนั้น

ทั้งบ้านสกุลเฮ่อเดินทางเข้าเมืองหลวง จักรพรรดิให้อยู่ที่วังหลู่อ๋องเดิม แต่ไม่คืนสถานะให้ ให้ตำแหน่งเฮ่อจั้นเป็นทหารราชองครักษ์สังกัดหน่วยเหนือ ส่วนพี่น้องที่เหลือเข้าเรียนที่สำนักฉงเหวิน

เฮ่อจั้นได้รู้จักกับจางเจ๋อหลานของจางเทา ส่วนพวกเฮ่อหรงได้พบเฮ่อเจินบุตรชายของฉีอ๋อง งานวันคล้ายวันพระราชสมภพของจักรพรรดิทั้งครอบครัวได้เข้าวังไปร่วมงาน เฮ่อไท่ได้เอาภาพอักษรจงเหยาราคาห้าร้อยตำลึงมาเป็นของขวัญทั้งที่เป็นเงินทั้งบ้าน ตอนแรกบอกแล้วว่าจะให้อักษรคัดลอกพระคัมภีร์ที่นำไปปลุกเสกที่วัดหงฝูที่เฮ่อหรงเกิดเหตุรถม้าชนกับรถม้าของหลี่ซุ่ยอัน หลานสาวขององค์หญิงใหญ่อี้หยาง บุตรสาวของเจิ้นหยวนโหวหลี่ควน

สรุปว่าภาพอักษรของเฮ่อไท่เป็นของปลอมที่เหมือนกันกับฉีอ๋อง เพราะฉีอ๋องอยากชมเรื่องสนุก สุดท้าย จักรพรรดิมอบตำแหน่งให้เฮ่อไท่ไปทำงานที่กรมโยธา วันต่อมาก็แต่งตั้งให้เป็นหลู่กั๋วกง

เฮ่อหรงอยากหาที่ปรึกษามาช่วยท่านพ่อที่ใสซื่อและขี้กลัวของตัวเอง เพราะจักรพรรดิก็มองการกระทำของฉีอ๋องออกอย่างง่ายดาย เฮ่อหรงได้รู้จักกับเซวียถาน และนัดมาพบกันวันรุ่งขึ้น

จากนั้นก็ไปดูร้านค้าขายเครื่องประทินโฉมของหยางจวิน ร้านเครื่องหอมโม่ซั่ง กลับได้พบกับการหาเรื่องของหลี่ซุ่ยอันอีกครั้ง ยังมีซ่งอวิ้นร่วมด้วย ดีที่ได้เฮ่อจั้นที่ซ่งอวิ้นกลัวจัดการ พร้อมกับจางเจ๋อ

ด้านเฮ่อไท่ที่ประชุมในราชสำนัก ถูกจักรพรรดิถามถึงเรื่องที่เซียวอวี้ส่งสารมา ทุกคนไม่มีความคิดที่ดี เฮ่อไท่กลับผิดคาด เพราะบอกว่าความร่วมมือกับทูเจวี๋ยตะวันตก แล้วจักรพรรดิก็ได้รู้ว่าเป็นความคิดของเฮ่อหรง เรียกให้มาพูดจา เฮ่อหรงอธิบายได้ดีให้ขอความช่วยเหลือจากองค์หญิงเจินติ้งราชวงศ์ก่อน เสนอผลประโยชน์ให้ เพราะเป็นถึงเข่อตุนของหมัวลี่ข่าน และขอเป็นคนที่จะทำหน้าที่นี้ด้วยตัวเองทั้งที่มีความเสี่ยงว่าจะไม่ได้กลับมา

ที่บ้านเป็นห่วง เฮ่อจั้นอยากจะตามไปด้วย แต่เฮ่อหรงห้ามเอาไว้ จักรพรรดิตั้งชื่อรองให้เฮ่อหรงสองชื่อ จี้เหอ(สันติภาพ) และเจินก้วน(หลักเที่ยงธรรม) เฮ่อหรงเลือกชื่อเจินก้วน และทรงจัดพิธีสวมหมวกให้ก่อน ฝ่ายเฮ่อไท่ก็วุ่นวายกับการให้แต่งงานทั้งที่เฮ่อหรงบอกว่าไม่รีบ สุดท้ายก็ได้หมั้นกับบุตรสาวหัวหน้าสำนักตรวจการหลินก่อนออกเดินทาง

วันออกเดินทางสุดท้าย เฮ่อจั้นก็ไปด้วยในฐานะหัวหน้ากองอวี่หลิน นายกองร้อยเฉินเชียนเป็นรองหัวหน้ากองผิดคาดเฮ่อหรง เฮ่อจั้นรู้ว่าพี่สามโกรธ กว่าจะเข้าหน้าได้ก็เดินทางมาระยะหนึ่ง เฮ่อหรงสามารถซื้อใจเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาได้ ด้วยคำพูด และการกระทำ

ด้านเฮ่อไท่ วันเทศกาลฉงหยางเกิดเหตุเพลิงไหม้ตลาดตะวันตก ทำให้ชาวบ้านไม่มีที่อยู่ ในฐานะที่อยู่กรมโยธาก็ต้องขอเงินมาจากกรมอากรอย่างยากเย็น องค์หญิงหลินอันยังจะให้ใช้เงินจากกรมโยธาซ่อมแซมหอชมเดือนที่โดนเพลิงไหม้ไปด้วย เฮ่อไท่คิดไม่ตก อยากปรึกษาเฮ่อหรง ดีที่ได้เฮ่อซิ่วเตือนว่าเฮ่อหรงให้ทำงานยึดความถูกต้อง สุดท้ายก็ไม่ทำตามองค์หญิง จักรพรรดิมาตรวจสอบ และกล่าวชื่นชม ถือว่าผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

เฮ่อหรงเดินทางมาถึงกานโจว จางเยี่ยเป็นเมืองเอกของกานโจว ทั้งหมดหยุดพักหาข่าว ผู้ตรวจการมณฑลกานโจวเหลียงอวี้บอกว่าภายในของทูเจวี๋ยตะวันตกไม่สงบ

แผนเปลี่ยน และเพราะได้ช่วยเหลือเกาซื่อเอาไว้ จึงให้นางเป็นคนไปดำเนินแผน การไปทูเจวี๋ยตะวันตกจึงมีเพียงสามคนคือเฮ่อหรง เซวียถานและเกาซื่อ ส่วนเฮ่อจั้นและหน่วยองครักษ์รออยู่ที่จางเยี่ย

เฮ่อหรง เซวียถานและเกาซื่อ เดินทางถึงวังหลวงแคว้นทูเจวี๋ยตะวันตกและก็ได้รู้ว่าเรื่องไม่ง่ายอย่างที่คิดซะแล้ว

หลังอ่านเล่ม 1 :

ช่วงแรกปูพื้นตัวละครครอบครัวสกุลเฮ่อ ให้ได้รู้ที่มาที่ไป เส้นเรื่องเริ่มกลับมาที่เมืองหลวงฉางอัน และเห็นความสามารถอันโดดเด่นของบุตรชายแต่ละคนของเฮ่อไท่ คนที่แสดงความสามารถมากที่สุด และปมเยอะที่สุดคือเฮ่อหรง โดยมีเฮ่อจั้นน้องห้าคอยติดตามอยู่เสมอ

เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ลุ้นไปกับการเดินทาง และการวางแผนของเฮ่อหรงที่จะสามารถแก้ไขความผิดพลาดในอดีตของมารดา และทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จักได้ยังไง ในเมื่อร่างกายไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่นๆ เรียกได้ว่ามีข้อบกพร่องด้านชาติกำเนิดมากมายต่างจากพี่น้องคนอื่นๆโดยแท้จริง

อ่านแค่เล่ม 1 ก็วางไม่ลง ต้องรีบหยิบเล่ม 2 มาอ่านต่อทีเดียวค่ะ เพราะสนุก และลุ้นมากๆๆๆๆ

เล่ม 2 พิมพ์ครั้งที่ 1 : กันยายน 2563

โปรยปกหลังเล่ม 2 :

เฮ่อหรง เฮ่อจั้น สองพี่น้องอาสาเดินทางไปเป็นทูตที่ทูเจวี๋ยตะวันตก

เป้าหมายหลักคือเพื่อธำรงความสงบสุขของบ้านเมือง

เป้าหมายแฝงย่อมเป็นการสร้างความชอบ เพื่อให้รากฐานของผู้เป็นบิดายิ่งมั่นคง

เส้นทางแม้อันตราย แต่จุดหมายปลายทางอันตรายยิ่งกว่า

โดยเฉพาะเมื่อทุกสิ่งไม่เป็นไปตามคาด สถานการณ์ภายในทูเจวี๋ยตะวันตกพลิกผัน!

ท่านข่านป่วยหนัก องค์หญิงเจินติ้งสูญอำนาจ เฮ่อหรงจะทำอย่างไรต่อไป...

ฟากเมืองหลวง

อ๋องทั้งสองช่วงชิงตำแหน่งรัชทายาทอยู่ดีๆ เฮ่อไท่ก็ไม่รู้โผล่มาจากไหน

กลายเป็นตัวแปรที่เหนือคาด โดยเฉพาะเมื่อลูกๆ ของเขาสามารถสร้างผลงานโดดเด่น

น้ำพระทัยจักรพรรดิยากคาดเดา ในบรรดาพระโอรสทั้งสาม

ผู้ใดจะได้ตำแหน่งรัชทายาทไป หรือจะไม่ใช่ใครเลยในหมู่พวกเขา?

เล่ม 2 :

สถานการณ์ในทูเจวี๋ยตะวันตกกำลังไม่แน่นอน เพราะหมัวลี่ข่านป่วยหนักใกล้ตาย เฉียหลัวหลานชายหมัวลี่ข่านโหดร้าย ต้องการขึ้นเป็นข่านแทน ในขณะที่ องค์หญิงเจินติ้งสนับสนุนหลู่จี๋บุตรชายของข่านคนก่อน

เฮ่อหรงสามารถทำให้องค์หญิงเจินติ้งยอมช่วยได้ และเพราะสถานการณ์ที่เสียเปรียบ มีเฮ่อหรงอยู่ ทำให้สามารถผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ เพราะแผนการของเฮ่อหรง และเฮ่อจั้นที่ตามมาช่วยด้วยคำใบ้ของเฮ่อหรง

เฮ่อจั้นจัดการเฉียหลัวได้ ทางด้านทูเจวี๋ยตะวันตกสงบ เฮ่อหรงร่วมวางแผนระยะยาวกับองค์หญิงเจินติ้ง ให้ทูเจวี๋ยตะวันตกสามารถพึ่งพาตนเองได้ และระหว่างนั้นยังสามารถตลบหลังทูเจวี๋ยตะวันออกที่ส่งทหารออกไปรบที่เมืองจางเยี่ย

ด้านเมืองหลวง เฮ่อไท่ได้รับตำแหน่งหลู่อ๋องคืนหลังจากไปศาลบรรพชนกับจักรพรรดิ และฉีอ๋อง ได้รับพระราชทานสมรสใหม่กับเผยซื่อ ส่วนเฮ่อซิ่วก็ได้สมรสพระราชทานกับลู่ซื่อน้อย ซ่งซื่อเข้าไม่ค่อยได้กับลู่ซื่อน้อย

จักรพรรดิยังเป็นกังวลเพราะในระยะสองปีที่เฮ่อหรง เฮ่อจั้นจากไป ทางจงหยวนก็ไม่สงบ มีทั้งภัยแร้ง น้ำท่วม โรคระบาด จักรพรรดิเหวินเต๋อยังกลัวว่าจะจัดการได้ไม่เรียบร้อย เสียดายที่เฮ่อหรง เฮ่อจั้นเป็นพระราชนัดดา ไม่ใช่พระโอรส และแล้วเฮ่อหรงเฮ่อจั้นก็กลับมาอย่างสำเร็จ

ได้เป็นอันกั๋วกงและซิงกั๋วโหว เฮ่อมู่เริ่มคิดเรื่องตำแหน่งทายาท บรรยากาศในวังอ๋องเปลี่ยนไป เฮ่อสี่สนใจอยากเข้าสำนักเต๋า

จักรพรรดิตัดสินใจเตือนฉีอ๋องด้วยคดีเฉินอู๋เลี่ยง เป็นการเลือกเฮ่อไท่ไปในตัว ส่วนเฮ่อหรงก็ได้เบาะแสเรื่องกบฏปิ่งเซินในปีนั้น ว่ามีคนบงการเบื้องหลังและหลักฐานก็ขาดหายเหลือแค่กลิ่นหอมกับกระดาษที่ไหม้ไปแล้วที่มีเฉพาะบรรดาเชื้อพระวงศ์และตระกูลใหญ่ที่ได้รับพระราชทาน

เฮ่อจั้นถูกส่งไปลั่วหยาง และเฮ่อหรงก็ได้ไปช่วยเหลือรองเสนาบดีกรมโยธาเรื่องน้ำท่วมที่ลั่วหยาง ที่ลั่วหยางเฮ่อหรงได้เบาะแสจากกลิ่นหอมที่ตามหา จนแน่ใจว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับหลี่ควนเพราะเคยได้กลิ่นจากหลี่ซุ่นอัน

จักรพรรดิสั่งสอน เฮ่อไท่แต่คิดว่ายังไม่พอ บอกให้ไปทำพิธีสักการะที่ศาลบูรพกษัตริย์ และเป็นวันที่ฉีอ๋องก่อกบฏ ฉีอ๋องกระทำปิตุฆาต และยังฆ่าเฮ่อจยา ส่วนลู่ซื่อน้อยก็ตายในเหตุนี้ด้วย

เฮ่อไท่ชนะ เว่ยอ๋องที่ลังเลใจสุดท้ายก็ยอมก้มหัวให้ เฮ่อสี่ที่หนีออกจากเมืองไปลั่วหยางและเจอเฮ่อหรงระหว่างทาง ทำให้เฮ่อหรงมาช่วยได้ทันท่วงที ตอนนี้เฮ่อสี่คิดว่าไม่อยากให้ประวัติซ้ำรอยฉีอ๋อง ทิ้งจดหมายไว้ให้เฮ่อจั้นและตัวเองหนีไป บอกว่าจะออกบวชในสำนักเต๋า แต่กลับโดนคนหลอกพาไปอีกที่ มีวาสนาได้เข้าอารามพุทธที่เขาเส้าซื่อ และจะได้ไปที่วัดเส้นหลิน

เฮ่อจั้นกลับมาฉางอันก็รู้สึกว่าบรรยากาศไม่เหมือนเดิม พี่น้องไม่ปรองดองเหมือนเก่า เฮ่อมู่ยิ่งทำตัวเป็นพี่ใหญ่ยิ่งกว่าเดิมเพราะกลัวว่าตำแหน่งรัชทายาทจะหลุดลอยไป ส่วนเฮ่อซิ่วก็อยากแก้แค้นซ่งซื่อ ที่ทำให้ลู่ซื่อน้อยตาย และอยากได้ตำแหน่งรัชทายาทเช่นกัน มีเพียงมาพบเฮ่อหรงที่ความเป็นพี่น้องยังคงเหมือนเดิม ยังสนิทกันเหมือนเก่า ยังห่วงใยกันเช่นเดิม เฮ่อหรงบอกว่าเกาซื่อ หนิงอัน ที่เฮ่อหรงพากลับมาและส่งเสริมทั้งที่ตัวเองมีใจให้เฮ่อหรงแต่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ก็พยายามตัดใจ จะเดินทางไปเปิดร้านชาที่หลิงโจวเพื่อคอยส่งข่าวทูเจวี๋ยตะวันออกกลับมา เพราะเป็นเมืองชายแดนของราชวงศ์ต้าไหว

หลังอ่านเล่ม 2 :

เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เฮ่อไท่เป็นคนที่ลงสู่ต่ำสุดและขึ้นสู่สูงสุด อาจจะเพราะมีบุตรชายเก่งกาจมากความสามารถมากมาย ทำให้สุดท้ายกลายเป็นตัวเลือกที่ไม่คาดคิด

เส้นเรื่องเล่มนี้ แสดงถึงความปรารถนาที่มีในใจ ตั้งแต่จักรพรรดิผู้เป็นหนึ่งในใต้หล้า จนถึงสามัญชนคนธรรมดา ทุกคนล้วนมีความปรารถนาด้วยกันทั้งสิ้น แม้ว่าเหตุผลภายนอกจะสวนงามแค่ไหน ก็ไม่พ้นความปรารถนาในใจนั่นเอง

รอติดตามว่าเรื่องราวในราชสำนักจะเป็นอย่างไรต่อไปในเล่ม 3 เลยค่ะ สนุก และเข้มข้นมากๆ พอมีโมเมนต์น่ารักคือเมื่อเฮ่อหรงอยู่กับเฮ่อจั้น สองพี่น้องต่างมารดาที่สนิทกันยิ่งกว่าพี่น้องคลานตามกันมา

เล่ม 3 พิมพ์ครั้งที่ 1 : ตุลาคม 2563

โปรยปกหลังเล่ม 3 :

ไม่ว่าใครก็คงคิดจินตนาการไปไม่ถึง แม้กระทั่งตัวพวกเขาเอง

ว่าวันหนึ่งบิดาไม่เอาไหนผู้นั้นจะได้ครองบัลลังก์จักรพรรดิ

แล้วทำให้เหล่าลูกกิเลนได้เปลี่ยนกลายเป็นโอรสมังกร!

แต่สิ่งที่พวกเขาต้องสูญเสียไปเป็นการแลกเปลี่ยนมาซึ่งอำนาจ

นั่นก็คือความอบอุ่นในครอบครัว

ความปรองดองระหว่างพี่น้อง ความไว้เนื้อเชื่อใจ

หากรู้ล่วงหน้าว่าเรื่องราวจะกลับกลายเป็นเช่นนี้

บางทีปีนั้น...

เฮ่อหรงคงไม่แนะนำให้บิดาเขียนจดหมายกลับเมืองหลวงก็เป็นได้

เล่ม 3 :

ในปีที่ยี่สิบสี่ของรัชสมัยจักรพรรดิเหวินเต๋อเกิดเรื่องไม่คาดหมาย ที่ใครก็ไม่คิดมาก่อน จักรพรรดิองค์ใหม่ถวายพระอารามนามไท่จง

จักรพรรดิองค์ใหม่ใช้ชื่อรัชศกจยาโย่ว อวยยศย้อนหลังให้เฮ่ออวี๋เป็นรัชทายาทกงหมิ่น บุตรชายคนโตเฮ่อมู่เป็นไหวอ๋อง บุตรชายคนรองเฮ่อซิ่วเป็นจี้อ๋อง บุตรชายคนที่สามเฮ่อหรงเป็นอันอ๋อง บุตรชายคนที่ห้าเฮ่อจั้นเป็นซิงอ๋อง บุตรชายคนที่เจ็ดเฮ่อซีเป็นมี่อ๋อง

ส่วนบุตรชายคนที่สี่ เฮ่อสี่ จักรพรรดิจยาโย่วโกรธจนทำเหมือนไม่มีลูกคนนี้อยู่

เฮ่อมู่ขอช่วยให้เฮ่อหรงสนับสนุนตนเป็นรัชทายาท และช่วยพูดจาไกล่เกลี่ยความบาดหมางระหว่างตัวเองกับเฮ่อซิ่วครั้งนี้เฮ่อหรงยอมพูดให้ได้ ทั้งๆที่เป็นคนไม่ชอบพูดมาก ไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน และเฮ่อซิ่วก็ยอมอ่อนลง เพราะความสูญเสียที่มีร่วมกันคือเฮ่อจยา

ทางด้านเฮ่อสี่ที่วัดอวี้ไถ ตอนนี้ได้ปลงผมออกบวชแล้วมีชื่อทางธรรมว่าหมิงจิ้ง มีศิษย์น้องรู้ความหมิงเฉินช่วยดูแล ตอนนี้อาจารย์(หลวงจีนเฒ่า)ก่อนมรณภาพได้สั่งเสีย ให้เฮ่อสี่เป็นเจ้าอาวาสวัดอวี้ไถ และให้อ่านบันทึกการเดินทางทั้งหมดให้จบ ถ้ายังอยากกลับเพศฆราวาสก็ให้หมิงเฉินเป็นเจ้าอาวาสแทนก่อนมรณภาพ

เรื่องรัชทายาทจบไป ก็มีเรื่องหกเผ่าหนานอี๋ก่อกบฏ ตอนแรกหลี่ควนอาสาไปปราบปราม เฮ่อหรงจึงอาสาพร้อมด้วยเฮ่อจั้น เพราะเฮ่อหรงไม่ไว้ใจหลี่ควน

ส่วนเฮ่อซิ่วที่อยากสร้างผลงาน ในที่สุดก็ได้ไปที่กานโจว เมืองจางเยี่ยโดยมีพี่น้องสกุลจางไปด้วย บุตรชายลุงใหญ่ของจางเจ๋อ

หลี่ควนอยากให้หลี่ซุ่ยอันแต่งงานกับจี้อ๋อง หลี่ซุ่ยอันบอกว่าชอบอันอ๋อง หลี่ควนบอกว่าไม่มีทางได้แต่งกับอันอ๋องและก็เป็นจริงตามนั้น

เฮ่อหรงเฮ่อจั้นออกเดินทางไปหนานอี๋ มีถานจินและโจวอี้ตามไปด้วย เฮ่อหรงเป็นตัวแทนเข้าไปเจรจากับเผ่าของซางจา และก็สำเร็จด้วยดีโดยมีเฮ่อจั้นปลอมเป็นองครักษ์ติดตามโดยใช้ชื่อรองของตัวเอง ชิงอัน และหญิงสาวชาวเผ่าหนานอี๋ก็ชื่นชอบเฮ่อจั้นโดยเฉพาะซางอวิ๋น ส่วนซางหลินชอบติดตามเฮ่อหรงเพราะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล

ตอนนี้เฮ่อจั้นต้องกลับไปนำทัพเข้าก่วงโจว เฮ่อหรงจึงออกเดินทางไปเผ่าต่างๆของหนานอี๋โดยมีซางหลินกับซางอวิ๋นไปเป็นเพื่อน

ด้านเฮ่อสี่ก็ลงจากเขาเส้าซื่อเพราะว่าไม่มีข้าวสารจะกิน ต้องลงมาหาเงิน จึงเปิดแผงทำนายดวงชะตา และเจออันธพาลเจ้าถิ่นเข้า แต่ก็สามารถรอดพ้นไปได้เพราะการช่างสังเกต จากการติดตามพี่สามมานั่นเอง

เฮ่อจั้นกลับมาคุมทัพ เฮ่อหรงคิดแผน และตรวจดูตามค่ายสกุลต่างๆพบปัญหา และหาทางแก้ไข เมื่อมารวมกันอีกครั้ง เฮ่อจั้นปราบกบฏได้แล้ว เฮ่อหรงต้องกลับเมืองหลวงไปก่อน

ระหว่างนั้น เมืองหลวงก็ไม่ได้สงบเพราะอัครเสนาบดีโจงอิง ได้ป่วยหนักและเสียชีวิต ตอนนี้เฮ่อมู่รัชทายาทอยากให้คนของตัวเองขึ้นเป็นอัครเสนาบดี แต่จักรพรรดิกลับมีความคิดที่จะเรียกใช้เหิงกั๋วกง หลี่ควน ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ

ด้านเฮ่อซิ่ว จางเทาได้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ ทำให้ทูเจวี๋ยตะวันออกส่งคนมาลอบตี เฮ่อซิ่วสามารถรักษาเมืองและสังหารน้องชายร่วมมารดาของฝูเนี่ยนข่านได้ สร้างความชอบใหญ่หลวง

เฮ่อหรง เฮ่อซิ่วเดินทางกลับมาเมืองหลวงวันเดียวกัน การต้อนรับของจักรพรรดิกลับต่างกันเห็นได้ชัด ว่าให้ความสำคัญกับเฮ่อซิ่วมากกว่า

เฮ่อมู่อยากดึงเฮ่อหรงเข้าพวก เฮ่อหรงเสนอให้ใช้วิธีมีอัครเสนาบดีสองคน และเรื่องนี้ก็ทำให้เฮ่อซิ่วเข้าใจเฮ่อหรงผิด

สุดท้ายเฮ่อมู่อยากจะให้จางซงเป็นอัครเสนาบดีหลักกลับโดนจักรพรรดิทำเสียเรื่อง เพราะหลี่ควนยังไงก็ปฏิเสธไม่รับตำแหน่ง จนจักรพรรดิรู้สึกผิด สุดท้ายก็ได้ตำแหน่งหลักฝ่ายขวาไป และเฮ่อมู่ยังเสนอให้จักรพรรดิมอบที่ดินบรรดาศักดิ์ให้พวกองค์ชายไปปกครอง หวังให้เฮ่อซิ่วออกจากศูนย์กลางอำนาจ กลับลืมคิดถึงองค์ชายแปดที่กำเนิดจากพระอัครเมเหสีที่หลีกทางให้เฮ่อมู่

ฝ่ายเฮ่อหรงเองคิดว่าจะขอที่ดินบรรดาศักดิ์ที่หลิงโจว ที่เป็นเขตชายแดน เหมือนเหลียงโจวและกานโจว หลิงโจวคือที่ที่ฉินกั๋วกง บิดาของอัครมเหสีปกป้องจนเสียชีวิตในตอนนั้น พวกเซวียถาน จางเจ๋อติดตามเฮ่อหรงไปหลิงโจวด้วย

ก่อนออกเดินทาง เฮ่อหรงได้ไปลาหยวนซื่อที่มีตำแหน่งเต๋อเฟยในวัง และลาแทนน้องสี่และน้องห้า และรับว่าจะคอยดูแลน้องเจ็ดให้

วันเดินทาง หลี่ซุ่ยอันยังมาลาเฮ่อหรง เฮ่อหรงก็ใช่ว่าจะไร้ใจ แต่เป็นไปไม่ได้ และได้บอกกับหลี่ซุ่ยอันว่าเหิงกั๋วกงก็คือเหิงกั๋วกง ท่านก็คือท่าน

เฮ่อสี่เดินทางมาหาเฮ่อจั้นที่ก่วงโจว เฮ่อจั้นเลยให้เฮ่อสี่ที่ตอนนี้ปลงผมออกบวชช่วยทำงานให้ โดยการเทศน์สั่งสอน เฮ่อสี่สามารถเล่าหลักธรรมให้ฟังดูง่าย เข้าใจได้ทำให้ชาวบ้านทั่วไปเข้าใจ เฮ่อจั้นส่งจดหมายหาเฮ่อหรงโดยส่งไปที่หลิงโจวไม่ผ่านเมืองหลวง

เฮ่อหรงมาถึงหลิงโจว อย่างแรกที่ทำคือการเชือดไก่ให้ลิงดูโดยใช้ผู้ตรวจการอวี๋เฟิงเป็นไก่ จากนั้นก็เก็บตัวเงียบครึ่งเดือนไม่มีความเคลื่อนไหว พอมีอีกทีก็สร้างเรื่องใหญ่โต เพราะต้องการจัดระเบียบยกองทัพ ที่พัวพันยุ่งเหยิงกับตระกูลพ่อค้าและขุนนาง มีการยักยอกยุทธปัจจัยทางทหารมาเป็นเวลานาน สุดท้ายก็กำราบตระกูลใหญ่ที่กุมอำนาจเอาไว้ได้สำเร็จ

ที่เมืองหลวงองค์ชายแปด บุตรชายของอัครมเหสีเสียชีวิต เกิดเรื่องมากมายในราชสำนัก รัชทายาทเข้าหน้าจักรพรรดิไม่ติดเพราะคำพูดของที่ปรึกษา

เฮ่อหรงส่งจดหมายให้เฮ่อสี่ เดินทางไปทุกค่ายเพื่อสอนชาวหนานอี๋ และให้มีผู้สืบทอดไว้ก่อนออกเดินทางไปที่อื่นต่อ ส่วนเฮ่อจั้นก็ให้ขอที่ดินบรรดาศักดิ์ที่ก่วงโจว เพราะเฮ่อหรงป้องกันเฮ่อจั้นจากเรื่องยุ่งยากในเมืองหลวงเอาไว้ทุกทาง

เมื่อเฮ่อหรงได้เงินคืนมาก็เร่งดำเนินการปรับปรุงกองทัพ และเสริมสร้างกำแพงเมืองที่ชำรุด ป้องกันการรุกรานของชาวทูเจวี๋ยตะวันออก แต่ข่าวที่ออกมาคือ ทูเจวี๋ยตะวันออกกลับยังไม่มาบุกตีเมือง สิ่งที่ทำคือไปบุกตีทูเจวี๋ยตะวันตก องค์หญิงเจินติ้งส่งคนมาขอความช่วยเหลือ ราชสำนักไม่ยอมช่วย เฮ่อหรงจึงคิดหาวิธีเสี่ยงเองโดยการให้หลินเหมี่ยวไปรับองค์หญิงเจินติ้ง ตอนนี้ที่รอคอยอยู่ทุกวันคือข่าวจากนอกกำแพงเมือง จนมีข่าวดี

หลังอ่านเล่ม 3 :

ในที่สุดพี่น้องที่ร่วมทุกข์ก็ไม่สามารถร่วมสุขได้ เฮ่อหรงได้หาเส้นทางที่แตกต่างได้สำเร็จ ไม่ยอมเข้ากับทั้งพี่ใหญ่และพี่รอง ออกมาหาเส้นทางเอง ด้วยนิสัยของเฮ่อหรงที่ไม่ชอบพูดมาก มองการณ์ไกล สามารถมองเห็นอนาคตได้ มีเพียงคนจากในราชสำนักที่ยังไม่สำนึกว่ามีภัยรอบด้านใกล้จะมาเยียน

อ่านแล้วทั้งลุ้น ทั้งอิน ตอนที่มีบทระหว่างเฮ่อหรง เฮ่อจั้นถึงจะเห็นว่าทั้งสองคนสนิทกันมากแค่ไหน คิดถึงกันตลอด ยังมีอะไรที่น่ารักในพี่น้อง ไม่เหมือนกับพี่น้องคนอื่นๆ ส่วนเฮ่อสี่ก็มีทางเดินของตัวเอง ถือว่ามองขาดตั้งแต่แรกที่ไม่เข้าร่วม ถึงจะแตกต่าง แต่พอมองดูก็ไม่ผิดไปจากคนสกุลเฮ่อจริงๆ แต่ละคนมีบุคลิกที่มองได้ชัด มองได้ขาดมากๆ

ตอนนี้ต้องลุ้นว่าเล่มจบจะเป็นยังไง ทูเจวี๋ยก็จะรุกรานเข้ามาแล้ว ต้าไหวจะเป็นยังไง ต่อไปต้องมาอ่านบทสรุปเล่มจบกันค่ะ ลุ้นไปกับเฮ่อหรงจริงๆ  

เล่ม 4 พิมพ์ครั้งที่ 1 : ธันวาคม 2563

โปรยปกหลังเล่ม 4 :        

อันอ๋องเฮ่อหรงแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่ขอเข้ากับฝ่ายใดทั้งสิ้น

ไม่ว่าตระกูลขุนนาง ตระกูลใหญ่ หรือตระกูลสามัญชนคนยากจน

สงครามภายในระหว่างรัชทายาทกับจี้อ๋องเขาก็ไม่ขอรับรู้อีกต่อไป

มุ่งมั่นในเจตจำนง บุกเบิกเส้นทางของตนโดยลำพัง

หากแต่สถานการณ์เหนือคาดกลับเกิดขึ้น

ในขณะที่ราชสำนักกำลังอ่อนแออย่างที่สุดนั้นเอง

ทูเจวี๋ยตะวันออกและตะวันตกกลับสามารถรวมเป็นหนึ่ง

ยกทัพบุกแดนจงหยวน เข่นฆ่าปล้นชิงเข้าใกล้ฉางอันมากขึ้นเรื่อยๆ

ยามนี้ที่ทุกฝ่ายสมควรร่วมแรงร่วมใจ กลับมีใครบางคนดำเนินแผนร้าย

ด้วยเพราะมุ่งหมายในบัลลังก์มังกร!

ฤาแผ่นดินและราชวงศ์จะถึงคราวสิ้นสุดในมือของพวกเขาครอบครัวสกุลเฮ่อเสียแล้ว...

เล่ม 4 :

คนที่เฮ่อหรงรอคือ องค์หญิงเจินติ้ง ที่หลินเหมี่ยวไปรับที่นอกด่าน ในที่สุดก็มาถึงอย่างปลอดภัย ตอนนี้ทั้งคู่ต้องเตรียมตัวเข้าฉางอันกันก่อน เพื่อชิงรายงานก่อนไม่ให้ราชสำนักปฏิเสธความรับผิดชอบ เมื่อเดินทางใกล้ถึงฉางอัน การลอบวางยาพิษ การลอบฆ่าก็มีมากขึ้นเพราะเฮ่อหรงล่วงเกินคนไว้เป็นจำนวนมาก ทั้งหมดเร่งเดินทางเข้าฉางอัน

เฮ่อหรงโดนจักรพรรดิจยาโย่วว่ากล่าว แต่ก็ไม่ยอมรับผิด ไม่ขอโทษ ที่สบายใจคือได้เจอเฮ่อจั้น เฮ่อหรงมีคำพูดเดียวคือรีบกลับหลิ่งหนาน ส่วนที่บอกกับเฮ่อซิ่วคืออย่าคบหากับหลี่ควนมากเกินไป ก่อนกลับหลิงโจวเฮ่อหรงได้บอกกับจักรพรรดิเรื่องให้ระวังทูเจวี๋ย องค์หญิงเจินติ้งก็เตือนคำพูดเดียวกัน และยังมีจดหมายจากเฉินเวยแม่ทัพที่รักษาการณ์อยู่ที่กานโจวอีกด้วย

ตอนนี้เมืองหลวงน้ำขุนเกินไป อยู่ไปก็ไม่มีความสุข กลับหลิงโจวยังต้องเร่งฝึกกองทัพ ฝูเนี่ยนข่านเจ้าเล่ห์เพทุบายไม่เหมือนข่านทูเจวี๋ยทั่วไป เพราะทุกคนเอาแต่คิดว่าจะปล้นจงหยวนยังไง แต่ฝูเนี่ยนข่านกลับกำราบคนในเผ่า ควบรวมทูเจวี๋ยตะวันตกและตะวันออกเป็นหนึ่งเดียว ตอนนี้ต่างก็คิดว่าจะบุกกานโจวที่อุดมสมบูรณ์ กลับบุกอวิ๋นโจวจนราบ ทิ้งไว้เพียงเศษซากที่เหลือเพราะปล้นสะดมไปหมดแล้ว ในราชสำนักเฮ่อจั้นถูกใช้เป็นเครื่องมือ เพราะพอขอออกศึก เฮ่อซิ่วก็ขอออกศึกตามทำให้รัชทายาทร้อนรน คิดว่าตัวเองไม่มีผลงานทางทหาร ทำให้อยากสร้างผลงานใครก็ทัดทานไม่ได้ ในที่สุดก็ได้นำทัพมาที่อวิ๋นโจว ที่คิดว่าฝูเนี่ยนข่านคงไม่บุกซ้ำที่เดิม แต่ใครจะรู้ว่านั้นคือแผนของฝูเนี่ยนข่าน ที่ร่วมมือกับไส้ศึกลอบส่งข่าวความเคลื่อนไหวในราชสำนัก รัชทายาทติดกับ เฮ่อหรงคิดได้ก็สายเกินไป ส่งจดหมายไปเมืองหลวงก็ไม่ทันการแล้ว

รัชทายาทเสียทีฝูเนี่ยนข่าน ทูเจวี๋ยรุกคืบเข้ามาในจงหยวน จักรพรรดิอ่อนแอ หลงเชื่อคนง่าย เฮ่อซิ่วที่ตอนแรกคิดจะถอนตัวไปยังดินแดนศักดินาของตัวเองก็โดนหลี่ควนปั่นหัวให้อยู่ต่อ ตอนนี้ก็ขอออกศึกอีกครั้ง จักรพรรดิย่อมไม่ยอม และยังคิดว่าใครที่เป็นไส้ศึก เป็นเฮ่อซิ่ว เฮ่อหรงหรือใคร อัครเมหสีบอกจักรพรรดิให้คิดถึงหลี่ควนและจางซงด้วย

เฮ่อหรงอยากจะไปช่วยแม่ทัพเฉินเวยแต่พวกเซวียถานยับยั้งไว้ ผ่านไปสามวันเฮ่อหรงคิดได้ เบนเข็มไปช่วยกานโจวที่โดนเซียวอวี้เข้าตีเมืองเพราะรู้ว่าแม่ทัพเฉินเวยไม่อยู่ เฮ่อหรงสามารถช่วยรักษากานโจวเอาไว้ได้

เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพราะมีไส้ศึกอยู่ในราชสำนัก มีคนคอยส่งข่าวให้ฝูเนี่ยนข่านรู้ว่าควรบุกที่ไหน เมื่อไหร่ คนนั้นก็คือคนที่เฮ่อหรงระแวงนั่นเอง

เฮ่อหรงมาช่วยกานโจวทำให้กานโจวปลอดภัยและได้เซียวจ้งมาเป็นขุนศึก บุกตีเหลียงโจวต่อไป ยังไม่ลงใต้

สถานการณ์ทางใต้ จักรพรรดิจยาโย่วโดนขุนนางยุยงจนหนีออกจากเมืองฉางอัน เฮ่อซิ่วจี้อ๋องไม่ยอมไป ขออยู่รักษาเมือง จักรพรรดิจยาโย่วลงใต้เป็นขบวนใหญ่ ทำให้ผู้คนรายทางติดตามไปมากมาย

เฉินเวยที่ไปสกัดทูเจวี๋ยได้ทหารหลายสายมารวมกัน แต่เพราะไม่ใช่คนในบังคับบัญชา ทำให้เกิดความแตกแยก รวมกับการที่จักรพรรดิทิ้งเมืองหลวง ทหารภายในก่อกบฏเปิดประตูเมือง แม่ทัพเฉนพลีชีพในสนามรบ มีกองทหารองครักษ์ฝ่าออกมาได้ รวบรวมคนมุ่งมาหลิงโจวหาเฮ่อหรง

ฝูเนี่ยนข่านบุกถึงฉางอัน เฮ่อซิ่วสลายกองกำลังแต่รวบรวมคนเพื่อลอบฆ่า เมื่อไม่สำเร็จทำได้เพียงตัดแขนของฝูเนี่ยนข่านส่วนตัวเองเสียชีวิตในสนามรบ

หลี่ซุ่ยอันรู้ความจริงทั้งหมดที่หลี่ควนทำ หาวิธีนำความไปบอกต่อพระอัครมเหสีที่กำลังท้องแก่ ทำให้หนีรอดเงื้อมมือของหลี่ควนไปได้ ส่วนจักรพรรดิจยาโย่วสวรรคตก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองถูกวางยา ตายได้ยังไง เป็นความเลอะเลือนถึงที่สุด

บ้านเมืองถึงความกลียุค มีกลุ่มคนลุกขึ้นมาตั้งตัวเป็นอ๋อง เฮ่อหรงได้เซียวจ้งเป็นแม่ทัพ ตอนนั้นเองที่จดหมายจากเฮ่อจั้นส่งมาที่ถามเพียงคำว่าทำไมไม่ช่วย พร้อมกับภาพวาดของหลี่ควนและข่าวการสวรรคตของจักรพรรดิและจี้อ๋อง ทำให้เฮ่อหรงถึงกับกระอักเลือดออกมา ทำเอาเหล่าคนติดตามตกใจ

พระอัครมเหสีที่หนีมาได้เพราะหลี่ซุ่ยอัน ต้องคลอดระหว่างทางดีที่เจอเฮ่อสี่และศิษย์น้อง ที่กำลังเดินทางไปหาเฮ่อหรงที่หลิงโจว ทั้งหมดร่วมทางกันไป

เฮ่อจั้นไม่ติดกับหลี่ควน และยังได้เผชิญหน้ากับฝูเนี่ยนข่าน ที่ได้รับสายรายงานจากหลี่ควน จนเกือบเสียที ดีที่ได้เฮ่อหรงมาช่วยเอาไว้ทัน ฝูเนี่ยนข่านถูกเซียวจ้งและเฮ่อจั้นร่วมกันจัดการจนเสียข้อมือขวาไปอีก บาดเจ็บสาหัสแต่หนีไปได้

เฮ่อหรงสั่งให้เซียวจ้งตามไปจัดการและช่วยเหลือทาสที่โดนจับไปกลับมา เฮ่อหรงกับเฮ่อจั้นปรับความเข้าใจกันได้

เฮ่อหรงให้เฮ่อจั้นไปจัดการโจรกบฏหลี่ควนทางใต้ ตัวเองเร่งเดินทางกลับฉางอันไปรวมตัวกับพระอัครมเหสี ระหว่างทางก็ปราบปรามโจร และจัดการเมืองต่างๆให้เป็นระเบียบ

ในที่สุดเฮ่อหรงได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิฉุนฮว่า และเพราะได้รับข่าวว่าเฮ่อจั้นบาดเจ็บสาหัสถึงกับเดินทางไปหาด้วยตัวเอง เพื่อดูให้เห็นกับตา

รัชสมัยของจักรพรรดิฉุนฮว่าได้เปลี่ยนแปลงจากเดิม มีความเป็นระเบียบมากมาย คล้ายคลึงกับปฐมกษัตริย์ต้าไหวเลยทีเดียว

หลังอ่านเล่ม 4 :

เรื่องราวมากมายมาเฉลยเอาในเล่มสุดท้ายและเพราะคำว่าอำนาจ กับตำแหน่งสูงสุด บัลลังก์มังกร ทำให้ครอบครัวที่อบอุ่นช่วยเหลือกันในยามยาก ร่วมทุกข์ได้แต่ไม่อาจร่วมสุขกัน ทำให้ผู้คนเปลี่ยนไป แต่ก็ยังมีส่วนที่จงรักภักดี เชื่อใจกัน เส้นทางต่อสู้ต่างๆมาถึงบทสรุปในเล่มนี้เรียบร้อย ทุกปมได้รับการแก้ไข ลุ้นจนวางไม่ลงตั้งแต่หน้าแรกถึงหน้าสุดท้ายจริงๆค่ะ และยังได้มองเห็นเหตุการณ์ต่างๆที่สะท้อนจากความจริง ว่าถ้าไม่สามัคคี ภายในแก่งแย่ง ภายนอกมีภัยคุกคามบ้านเมืองย่อมล่มสลาย

เนื้อเรื่อง :

ครอบครัวสกุลเฮ่อ ที่มีท่านพ่อเฮ่อไท่ที่เป็นองค์ชายใหญ่ของราชวงศ์แต่เพราะโดนจักรพรรดิ เนรเทศทั้งครอบครัวจากเรื่องกบฏปิ่งเซิน จากองค์ชายใหญ่ หลู่อ๋องกลายมาเป็นสามัญชน สิบเอ็ดปีผ่านมา บุตรชายบุตรสาวเติบโต เฮ่อหรงบุตรชายคนที่สามขาเป๋เพราะอุบัติเหตุตกม้าในวัยเด็ก เหตุการณ์นี้ทำให้เฮ่ออวี๋น้องหกบุตรชายที่เกิดจากชายาเอกตกใจจนเสียชีวิต ซึ่งเกิดก่อนเหตุการณ์กบฏปิ่งเซินหนึ่งปี เกิดจากจ้าวซื่อที่มีส่วนที่ถูกปรักปรำในตอนนั้น เป็นคนช่างคิด ฉลาดทันคน เป็นฝ่ายบุ๋น ช่วยออกความเห็นให้ครอบครัวเสมอ บุตรชายคนที่ห้าเฮ่อจั้น ฝ่ายบู้เหมือนพี่รองเฮ่อซิ่ว ทั้งๆที่มารดาเดียวกับพี่รองแต่สนิทกับพี่สามมากกว่า ส่วนพี่รองกลับเข้ากันได้ดีกับเฮ่อสี่ น้องสี่ พี่ใหญ่เฮ่อมู่เป็นคนเดียวที่ได้แต่งงาน ตอนนี้มีบุตรชายหนึ่งคนคือเฮ่อซิน ส่วนน้องเจ็ดเฮ่อซีอ่อนแอขี้โรค ขี้กลัว ตอนเกิดเรื่องอายุเพียงหนึ่งปี ตอนนี้อายุสิบสอง มีหยวนซื่อที่เป็นอนุภรรยาเป็นมารดาแท้ๆคอยดูแล และเฮ่อจยาที่เหลือเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวจากบุตรสาวทั้งหมดสามคน

ทั้งครอบครัวเพราะอยู่ที่อำเภอจู๋ซาน ฝานโจวมานาน จากตอนแรกรอคอยความหวังจะได้กลับเมืองหลวง จนความหวังเริ่มหมดไป จนตอนนี้มีเรื่องเหลียงโจวก่อกบฏ เซียวอวี้ตั้งตนเป็นอ๋อง หม่าหงขันทีคนสนิทของจักรพรรดิเดินทางมาพร้อมหมอหลวง เพราะจดหมายที่เฮ่อไท่ส่งไป ลายมือไม่เหมือนเดิมด้วยความเกียจคร้าน จึงให้เฮ่อมู่เขียนแทน และมาเล่าถึงเหตุการณ์กบฏ การรบทางชายแดนของทูเจวี๋ยตะวันตกและตะวันออก ทำให้เฮ่อหรงสังเกตความผิดปกติจนถามว่ามีการพูดเรื่องการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์หรือไม่ 

เท่านั้นยังไม่พอหลังเทศกาลจงชิวมีข่าวว่า เล่อปี้ ผู้ว่าการจินโจวชูธงก่อกบฏตามไปด้วย และตอนนี้เคลื่อนพลบุกยึดมาเรื่อยจนมาถึงอำเภอจู๋ซาน จะหนีก็ไม่ได้ เป็นเฮ่อหรงที่ให้ชาวบ้านช่วยกันตั้งรับ รอการช่วยเหลือที่ให้เฮ่อมู่ เฮ่อซิ่วไปขอกำลังสนับสนุนเพราะผู้ตรวจการฝางโจวซือหม่าอวิ๋นไม่ยอมให้คนช่วยเหลือ

เฮ่อจั้นเป็นกำลังสำคัญ เฮ่อหรงเป็นมันสมอง สุดท้ายก็รักษาอำเภอจู๋ซานเอาไว้ได้

หลังจากรอคอยมานาน ในที่สุดก็มีข่าวดี ได้กลับเมืองฉางอัน จากตกต่ำถึงขีดสุดกลายเป็นสามัญชน คนสกุลเฮ่อที่ไม่มีอะไรเลย อยู่กันอย่างอบอุ่น ก็ค่อยๆมีบทบาท หน้าตา

เฮ่อหรงที่รู้ว่าตัวเองต้องแสดงฝีมือให้จักรพรรดิเหวินเต๋อเห็น ตัดสินใจเดินทางไปทูเจวี๋ยตะวันตก เพื่อหาทางรอดสายใหม่ เบิกทางอีกสายเพื่อตัวเอง เฮ่อหรงเป็นคนที่ใช้คนเป็น มองการณ์ไกล มองคนขาด เฮ่อจั้นรักที่จะติดตามเฮ่อหรง ทำให้สร้างชื่อได้มากกว่าพี่น้องคนอื่นๆ มีกำลังทหารเป็นของตัวเอง

เพราะการเดินทางมาทูเจวี๋ยตะวันตกได้พบกับทาสชาวจงหยวนที่สละชีวิตเพื่อคนที่ไม่รู้จัก เพราะไม่อยากให้มีชีวิตเหมือนตัวเอง ทำให้เฮ่อหรงเปลี่ยนมุมมองความคิดใหม่ มองคุณค่าในคนมากขึ้น ไม่เอาแต่ใช้ประโยชน์อย่างเดียว การเดินทางครั้งนี้เปลี่ยนเฮ่อหรงไป และทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

ทางด้านเฮ่อไท่ จักรพรรดิเหวินเต๋อมองดูยังไงก็คิดว่ารัชทายาทที่จากไปดีที่สุด และทำไมเฮ๋อหรงเป็นแค่พระราชนัดดาไม่ใช่พระราชโอรส เพราะฉะนั้นก็ต้องเลือกจากที่มี ผลที่ได้คือเฮ่อไท่ที่เป็นองค์ชายใหญ่ จากต่ำสุด ได้ขึ้นสู่จุดสูงสุด

เบื้องหลังเรื่องราวมากมาย ยังมีผู้ที่วางแผนมาเป็นเวลานานหลายสิบปี เปลี่ยนจากองค์ชายคนหนึ่ง ไปมองอีกคนหนึ่ง เลือกฉีอ๋อง เปลี่ยนเป็นเว่ยอ๋อง แล้วก็ยังรอโอกาส ปลุกปั่นยุยง ให้เฮ่อมู่รัชทายาทคนใหม่หวั่นเกรงจะเสียตำแหน่ง คอยยุยงให้จี้อ๋องแย่งชิงอำนาจ สุดท้ายก็ทำเพื่อตัวเอง ถึงขนาดร่วมมือกับต่างเผ่า เป็นไส้ศึกชักศึกเข้าบ้าน บอกแผนการต่างๆทำให้เรื่องราวบานปลาย

เฮ่อหรงที่มองการเมืองในเมืองหลวงออก คอยบอกพี่ใหญ่ พี่รองให้ระวัง และแยกตัวออกมา เลือกทางสายใหม่เพื่อเดินโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับตระกูลขุนนางสูงศักดิ์ในเมืองหลวง จนผู้คนนึกว่าเป็นอ๋องที่ถูกทอดทิ้ง แต่ความจริงมองเห็นเส้นทางว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์ต่างๆขึ้น จึงเตรียมการณ์เอาไว้ล่วงหน้า

และเรื่องราวก็ดำเนินตามที่คิดไว้ รัชทายาทถูกชาวทูเจวี๋ยฆ่าตาย ต่อมาจักรพรรดิที่หูเบาก็ทิ้งเมืองหลวงหนีลงใต้ และถูกวางยาสวรรคตระหว่างทาง ซึ่งตอนที่ตายไปก็ยังเลอะเลือนไม่รู้ว่าตัวเองตายได้ยังไง แต่ยังดีที่อัครมเหสีได้รับการช่วยเหลือจากหลี่ซุ่ยอัน บุตรสาวของหลี่ควนที่มีความรู้สึกดีต่อเฮ่อหรงแต่ไม่สามารถเป็นจริงได้ เพราะเฮ่อหรงรู้ความจริงตั้งแต่ต้นแล้ว จี้อ๋องเฮ่อซิ่วรักษาเมืองฉางอันจนตาย

บ้านเมืองถึงคราวสิ้นสุด มีกองทัพออกมามากมาย เฮ่อหรงต้องทำการปราบปราม เฮ่อจั้นที่อยู่ไกลคนละทิศตอนว้าวุ่นที่สุดยังส่งจดหมายมาทำร้ายความรู้สึกกัน เรื่องราวที่ได้รับรู้มากมายทำให้กระอักเลือด แต่สุดท้ายเมื่อถึงคราวคับขันก็เป็นเฮ่อหรงที่มาช่วยเฮ่อจั้นฝ่าวงล้อม และปรับความเข้าใจกัน

เฮ่อจั้นไปจัดการทัพกบฏที่จับขุนนางราชสำนักเป็นตัวประกัน เฮ่อหรงขึ้นเหนือไปฉางอัน และขึ้นเป็นจักรพรรดิฉุนฮว่า ยุคสมัยเปลี่ยนไป ทุกคนกล่าวว่าเฮ่อหรงเหมือนปฐมกษัตริย์ ทำให้บ้านเมืองร่มเย็นผ่านไปยี่สิบปี

หลังอ่าน :

เรื่องราวการชิงไหวชิงพริบ กับเกมการเมืองที่เดินผิดก้าวเดียวแพ้ทั้งกระดาน ถ้าบ้านเมืองมีความสงบสุข จักรพรรดิจยาโย่วสามารถปกครองได้ แต่ถ้าบ้านเมืองอยู่ในช่วงกลียุค ภายในแก่งแย่ง ศัตรูภายนอกแข็งแกร่ง จักรพรรดิอ่อนแอ หูเบา บ้านเมืองย่อมล่มสลาย ต้องมีผู้มีความสามารถขึ้นมากอบกู้บ้านเมือง และคนผู้นั้นก็คือเฮ่อหรงที่เป็นคนแข็งนอก อ่อนใน ไม่ชอบพูดจาแต่ข้างในอบอุ่น เฮ่อจั้นที่เป็นน้องห้าสนิทกับพี่สามมากที่สุด จนตอนท้ายถึงกับกินน้ำส้ม ที่พี่สามรักน้องสิบ ทำอะไรเพื่อน้องสิบมากกว่าตัวเองเป็นตอนเด็ก

เวลาอ่านเส้นเรื่องเข้มข้นมาก มีอยู่ช่วงเดียวคือช่วงที่เฮ่อหรงอยู่กับเฮ่อจั้น ที่เฮ่อจั้นจะแสดงความรัก ความหวงพี่ชายออกมา ขออยู่ข้างๆพี่สามตลอดไป เป็นคู่พี่น้องที่รักกันมากจริงๆค่ะ

 

 

 14/2/64