Thursday, April 23, 2020

#ชิงชิงยอดรักเจ้าชะตา #4เล่มจบ #สำนักพิมพ์แฮปปี้บานาน่า


Review 13/2563
เรื่อง : ชิงชิง ยอดรักเจ้าชะตา (4 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : Xin Yong Ka
ผู้แปล : เหมยสี่ฤดู
สำนักพิมพ์ : แฮปปี้ บานาน่า



เล่ม 1 พิมพ์ครั้งที่ 1 : กันยายน 2562

โปรยปกเล่ม 1 :
ทุกคนล้วนบอกว่านางเป็นดาวโชคลาภ แต่ทำไมนางถึงตายและย้อนกลับไปในอดีตล่ะ กระนั้นความโชคดีที่ว่ายังคงติดตามนางไป หญิงที่ไม่มีลูกพออุ้มนางแล้วก็สามารถท้องได้ นางขึ้นเขาไปขุดโสมก็เจออย่างง่ายดายราวขุดหัวไช้เท้าขุดออกมาได้เข่งใหญ่

ชิงชิงรู้สึกว่าตนเองตายอย่างไม่เป็นธรรม แม้เป็นเด็กกำพร้า แต่ทุกคนล้วนบอกว่านางโชคดี ไม่เคยกลุ้มใจเรื่องเงินทอง แต่เล็กจนโตล้วนได้รับเงินบริจาคจากผู้มีใจเมตตา ไม่เพียงได้เรียนรู้วิชาหลากหลาย ยังได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่ตั้งใจ

คนดวงดีที่เพื่อนๆ ต่างบอกว่าเป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิดอย่างนาง ไฉนจึงตายเพราะถูกกระถางดอกไม้หล่นใส่หัวตอนช่วยเหลือคน? แบบนี้ไม่สอดคล้องกับความโชคดีของนางเลย! นางตายตาไม่หลับ

ยังดีที่ความโชคดีไม่จากนางไปไหน ลืมตาขึ้นอีกครั้ง จากคนอายุยี่สิบกว่าปีที่เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว กลายเป็นเด็กทารกแรกเกิด ทอดสายตามองไป นางทะลุมิติมาในยุคโบราณที่ไม่รู้จักเสียแล้ว

เล่ม 1 :
การคลอดลูกของหนิงซื่อ ภรรยาของสวีหงต๋าในกำเนิดบุตรสาว พอคลอดเสร็จ สวีหงต๋าก็ได้รับข่าวดีว่าสอบติดซิ่วไฉ ลำดับที่สิบเอ็ดเป็นหลิ่นเซิง ยายสวีจากที่ไม่ชอบหลานสาวก็เปลี่ยนใจทันทีเพราะความโชคดีของเอ้อร์นิว
ชิงชิงคิดว่าตัวเองโชคดีมาตลอด ถึงแม้จะเป็นเด็กกำพร้าแต่ก็โชคดีตลอดมา จนมาตายที่ชิงชิงรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมเพราะถูกกระถางต้นไม้ตกใส่หัวจนตายขณะช่วยเหลือคน พอฟื้นขึ้นมาถึงได้รู้ว่าตัวเองได้กลับมาเกิดใหม่ในร่างเด็กทารก ชิงชิงเป็นเด็กแปลกประหลาด คำแรกที่เรียกไม่ใช่พ่อ แม่ แต่เป็นการชี้ตัวเองและพูดว่าชิงชิง เลยได้ชื่อว่าชิงชิง ส่วนต้านิวเลยเปลี่ยนเป็นจูจู
ชิงชิงชอบสะสมเงินทอง และเก็บก้อนหินประหลาดใส่ไว้ในกล่องสมบัติส่วนตัว ยังชอบล้อเล่นกับท่านย่าว่างกอีกด้วย ระหว่างนั้นหนิงซื่อคิดหาทางเปิดร้านค้าขายชาดในตำบลโดยให้สวีหงเฟยเป็นเถ้าแก่ร้านเพราะมีหัวทางการค้า เมื่อชิงชิงไปที่ร้านจะมีการค้ารายใหญ่เกิดขึ้นจนท่านอาก็ว่าชิงชิงคือดาวนำโชค
ทั้งตอนที่ชิงชิงยังเล็กแถบจี๋โจว ธรรมเนียนการขึ้นปีใหม่แตกต่างจากที่อื่นใกล้วันปีใหม่ วันที่ยี่สิบสี่เดือนสิบสอง นอกจากทำพิธีบูชาเทพเจ้าแห่งเตาไฟ ยังต้องเผาเงินกระดาษส่งเหล่าเทพขึ้นสวรรค์ ผู้ทำพิธีคือนักพรตก่วงเฉิงศิษย์เอกของเจ้าอาราม
ระหว่างเผาเงินกระดาษ เกิดเหตุการณ์ประหลาดเงินกระดาษเป็นพายุหมุนรอบตัวชิงชิง นักพรตทำนายอะไรไม่ได้ ได้แต่บอกว่าเหล่าเซียนเจอสหายเก่าก่อนขึ้นสวรรค์จึงมาทักทาย ยายสวีรู้เรื่องคนเดียวจึงดูแลทั้งคืน เรื่องนี้ปิดเป็นความลับไม่ให้ใครรู้
ชิงชิงบอกว่าท่านแม่จะได้น้องผู้ชายก็ตั้งครรภ์ ปีหน้าท่านพ่อต้องสอบจวี่เหรินทำให้หนิงซื่ออยากไปดูแลใกล้ชิด จึงเริ่มหาเช่าบ้านในตำบล จนถึงวันประกาศผลสอบ ท่านพ่อก็สอบติดทั้งๆที่เจ้าตัวยังไม่คิดว่าจะติด ตอนไปคารวะอาจารย์ อาจารย์จึงบอกว่าให้ลองไปหานักพรตบุ๋นบนเขาดู พอไปถึงก็ได้รับการสั่งสอน ทั้งยังบอกว่าถ้าตอบแทนก็ให้พาชิงชิงมาเป็นเด็กรับใช้ พอบอกว่าชิงชิงอายุสามปีคงทำงานรับใช้ไม่ได้ จึงบอกว่าให้พาพี่สาวนางจูจูมาด้วย พอชิงชิงไปถึงบนเขานักพรตทั้งสี่ได้รออยู่แล้วทั้งยังดูแลอบรบสั่งสอนชิงชิงกับจูจูอย่างดี ส่วนสวีหงต๋าดูเหมือนจะเป็นตัวแถมเพื่อให้ได้ดูแลชิงชิงซะมากกว่า เจ้าตัวตอนแรกยังไม่รู้ พอเห็นการสั่งสอนของนักพรตบุ๋น นักพรตอาหาร นักพรตแพทย์ นักพรตภาพนี่ตัวเองรู้เลยว่ามันลำเอียงชัดๆ ฮามาก นักพรตต่างๆยังแย่งกันสอนเด็กทั้งสองอีกด้วยเกิดศึกทะเลาะกันเลยทีเดียวว่าใช้เวลาเกิน เด็กทั้งสองศึกษากับนักพรตทั้งสี่อยู่สามปี แต่ยังไม่เพียงพอเพราะยังมีอะไรให้เรียนอีกนักพรตบุ๋นจึงคิดหาวิธีโดยการหลอกล่อสวีหงต๋าด้วยหนังสือหายากมากมายเพื่อให้ได้อยู่อีกสามปี
ตอนชิงชิงอายุหกขวบขอขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรเอง ระหว่างทางได้โสมคนมากมาย เห็ดหลินจืออีก และยังเจอจูจื่ออวี้ ที่หนีออกมาหาสมบัติเมื่อได้ฟังเรื่องราวชิงชิงก็รู้ว่าจูจื่ออวี้ถูกแม่เลี้ยงรังแกยังไม่รู้ตัว ตอนนี้พาจูจื่ออวี้ไปหาสมบัติก่อน และก็ได้เจอถ้ำของเทพดาวอู่ขุย ยังเจอเคล็ดวิชาลับจริงๆด้วย ชิงชิงพาจูจื่ออวี้กลับมาที่พักของเหล่านักพรตพอนักพรตบุ๋นอ่านตำราจึงใช้เวลาสั่งสอนจูจื่ออวี้ที่อ่านได้แค่ตำราสามอักษรเท่านั้นเป็นเวลาเก้าวัน ให้จำเอาไว้ทั้งหมด ชิงชิงยังช่วยวาดภาพท่านปู่และพี่ชายฝาแฝดทั้งสองคนให้ด้วย ก่อนจากกันชิงชิงสอนเรื่องราวเล่ห์กลในเรือนหลังจากที่ตัวเองอ่านนิยายมาให้มากมาย นักพรตบุ๋นบอกว่าต้องเชื่อฟังชิงชิง เห็นคำพูดของชิงชิงเป็นเหมือนราชโองการ พอจูจื่ออวี้กอดชิงชิง นักพรตทั้งสี่กับสวีหงต๋านี่หน้าเปลี่ยนสีทันที รักและหวงชิงชิงยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น
จูจื่ออวี้กลับมาเมืองหลวงสามารถจัดการแม่เลี้ยงนางเกาซื่อ และหาคนสนิทของพี่ชายจนเจอ ในที่สุดก็ได้ฝึกวิชายุทธ์และอ่านคัมภีร์ที่ท่านนักพรตบุ๋นสอน และมอบให้
ถึงเวลาที่ใกล้จะเดินทางไปเมืองหลวง นักพรตบอกให้ชิงชิงอยู่ต่อ แต่ตอนนั้นไม่มีใครรู้บอกว่าคราวนี้ต้องสอบติดจิ้นซื่อแน่นอนจึงทำการอำลานักพรตทั้งสี่คารวะอาจารย์เสร็จ ออกมาพอหันกลับไปอาจารย์ก็จากไปแล้ว ปีใหม่คราวนี้พ่อลูกสามคนจึงไม่มีความสุข
เมื่อสวีหงต๋าและสวีหงเฟยเดินทางไปเมืองหลวงล่วงหน้าเพื่อหาที่พักเอาไว้ให้ จูจื่ออวี้ก็หาบ้านพักในนามสินเดิมของมารดาขายให้ในราคาถูก และยังหาร้านค้าให้ในราคาถูกอีก พอพวกชิงชิงเดินทางมาถึงจูจื่ออวี้จึงมาเยือมคารวะแบบหน้าด้าน แต่เพราะเป็นเด็กเรียบร้อย ทั้งยังกำพร้าท่านย่า และท่านแม่ต่างรักและเอ็นดูจึงเข้านอกออกในบ้านสกุลสวีตลอด แต่ตอนนี้มาถึงจูจื่ออวี้บอกให้สวีหงต๋าไปกราบไหว้ศาลเจ้าฮ่องเต้เหวินชาง ที่แท้นักพรตบุ๋นก็คือฮ่องเต้เหวินชางพอสวีหงต๋ามองถึงมีหน้าตาแบบที่เห็นประจำตอนเรียนอยู่ด้วย ส่วนจูจื่ออวี้ก็บอกว่าดดนถลึงตาใส่ มีแต่ชิงชิงที่บอกว่าหน้าตาอ่อนโยนยิ้มให้ชัดๆ และชิงชิงก็คิดถึงอาจารย์มากเลยร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว
ตอนสอบฮุ่ยซื่อชิงชิงกับจูจูคิดว่าการไปสอบอยู่ในนั้นช่างลำบาก ชิงชิงจึงคิดหาวิธีทำให้ต้องบะหมี่โดยไม่ใช้ไฟขึ้นมาจูจูก็เป็นคนทำอาหารตามที่ชิงชิงบอก ตอนสอบคนอื่นกินของเย็นชืดมีแต่สวีหงต๋าที่มีของร้อนกินหอมกินอย่างเอร็ดอร่อย และเรื่องนี้ทำให้เสิ่นเสวี่ยเฟิงตามหาสวีหงต๋า จนเชิญตัวเองไปกินอาหารที่บ้านอีกฝ่ายได้ ไม่คิดเลยว่าบุตรชายราชครูเสิ่นจะชอบกินขนาดนี้ ไปถึงบ้านสวีหงต๋าเห็นรูปวาดของชิงชิงเข้าถึงกับตะลึง อาหารที่จูจูทำก็อร่อยกว่าหอเสียงรุ่ย กินแบบไม่เกรงใจเจ้าของบ้านกันเลยทั้งเสิ่นเสวี่ยเฟิง ทั้งจูจื่ออวี้
ในที่สุดผลประกาศออกมาสวีหงต๋าได้เป็นจ้วงหยวน ส่วนเสิ่นเสวี่ยเฟิงได้เป็นทั่นฮวาทั้งๆที่เขียนบทความดีกว่า แต่ว่าแต่ไหนแต่ไรทั่นฮวาต้องหน้าตาดีเสิ่นเสวี่ยเฟิงจึงได้อันดับสามไป
เสิ่นฮูหยินจัดงานให้เสิ่นเสวี่ยเฟิง โดยเสิ่นเสวี่ยเฟิงให้เชิญสวีหงต๋าและครอบครัวมาด้วย และให้มารดาช่วยดูแลครอบครัวเสิ่นด้วย หนิงซื่อ จูจูและชิงชิงตามไปงาน ที่งานทำให้จูจูกับชิงชิงได้พบกับพวกฮูหยิน ที่พอมองเห็นชิงชิงก็ถูกใจ ยังมีนายหญิงสามบ้านเสนากรมคลังจำชิงชิงได้ที่ตอนนั้นอุ้มชิงชิงกลับไปก็ตรวจพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ยิ่งให้ความสำคัญกับชิงชิง จนหลี่หยวนซานที่ชอบเป็นจุดสนใจอิจฉาอยากกลั่นแกล้ง ตอนออกไปชมสวนด้วยกันเสนอให้แต่งกลอนหรือวาดภาพ จูจูกับชิงชิงรับปาก ทั้งยังวาดภาพออกมาได้ดีถึงขนาดราชครูเสิ่นชื่นชมเลยทีเดียว ครั้งนี้ทำให้จูจูกับชิงชิงได้เพื่อนเล่นใหม่มากมาย แต่ทั้งสองต้องกลับบ้านเกิดกันก่อน
โดยที่มีตัวแถมมาสองคนคือจูจื่ออวี้และเสิ่นเสวี่ยเฟิง เสิ่นเสวี่ยเฟิงได้ไปเห็นภาพเหล่าเซียนร่วมงานเลี้ยงของนักพรตภาพถึงกับตะลึงเหม่อไม่ยอมไปไหนเลยทีเดียว และบอกว่านี่เป็นภาพวาดของเทพเจ้าแห่งภาพวาดอู๋เต้าจือ สวีหงต๋าบอกเทพเจ้าแห่งภาพวาดอู๋เต้าจือเป็นเซียนไปตั้งกี่ร้อยปีแล้ว บ้านนี้เพิ่งสร้างมาเจ็ดแปดปีเองจะเป็นไปได้อย่างไร
พอไปถึงหมู่บ้านทำให้เสิ่นเสวี่ยเฟิงรู้ว่าทำไมสวีหงต๋าถึงต้องกลับมาบ้านเกิด เพื่อให้มารดาได้ภูมิใจสักครั้ง และครั้งนี้ญาติที่ไม่เคยเจอยังถือฝังตระกูลมานับญาติจึงคิดตั้งศาลบรรพชนขึ้น และมีเงินเพื่อให้รุ่นหลานที่มีความสารถได้เล่าเรียน
เมื่อกลับเมืองหลวงก็มารายงานตัวรับตำแหน่ง ส่วนจูจูและชิงชิงหาทำเลเปิดร้านขายภาพ พอจูจื่ออวี้รู้เรื่องก็เอาร้านตังเองให้ เปิดกิจการร้านซูฮว่า ทั้งแสดงภาพของนักพรตภาพ ขายภาพอักษร ภาพวาดของตัวเองและจูจู เพียงแต่ไม่คิดว่าจะได้รับความนิยมขนาดนี้จนต้องเปิดรับจองไปถึงห้าปีหน้า
องค์ชายสามก็มาที่ร้านเพื่อมาให้จูจูวาดภาพให้ในงานคล้ายวันพระราชสมภพของไทเฮา ทำให้รู้ว่าผู้วาดภาพเป็นเด็กหญิงสองคน ช่วงนี้เสิ่นเสวี่ยเฟิงเริ่มคิดถึงจูจูกับการทำอาหาร และรอยยิ้มสดใสของนางขึ้นเรื่อยๆแล้ว
หยางฮั่นฉี แม่ทัพฝู่กั๋วท่านตา ท่านยายของจูจื่ออวี้เกษียณอายุกลับมาเมืองหลวง รับรู้เรื่องราวของจูจื่ออวี้และอยากเจอชิงชิงมาตลอด พอเจอก็บอกว่าชิงชิงหน้าตาคล้ายคลึงเซิ่งเหวินฮองเฮา หนิงซื่อฟังแล้วมีท่าทางแปลกไปทันที ส่วนเกาซื่อด้วยความอิจฉาพูดจาไม่คิดเกือบตายโดยไม่รู้ตัว

หลังอ่านเล่ม 1 :
ชิงชิงพกความโชคดีมาจากชาติที่แล้ว มีประสบการณ์ถึงสองชาติ ไปไหนก็มีแต่ความโชคดี ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านอา คนรอบข้างต่างได้อาศัยความโชคดีของชิงชิงไปด้วย นักพรตทั้งสี่ทั้งรักทั้งหวง ตั้งใจสั่งสอนชิงชิงอย่างเต็มที่ ท่านพ่อยังได้เรียนไปด้วยเพราะชิงชิง มาดูกันว่าชิงชิงจะเป็นยังไงต่อไปกันค่ะ เนื้อเรื่องอ่านง่าย น่ารัก สนุก ขำขันและไม่เครียดเลยค่ะ

เล่ม 2 พิมพ์ครั้งที่ 1 : พฤศจิกายน 2562


โปรยปกหลังเล่ม 2 :
จากหมู่บ้านเล็กๆ ที่ห่างไกลเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงอันเจริญรุ่งเรือง มองถนนหนทางที่ผู้คนสัญจรไปมา ชิงชิงเห็นโอกาสทางการค้าครั้งใหญ่ แต่คิดไม่ถึงว่าเมืองหลวงจะมีความลับที่น่าตื่นตกใจรอนางอยู่ ที่แท้นางเป็น...

สวีหงต๋าสอบติดจ้วงหยวน จึงพาครอบครัวย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง ชิงชิงมาเมืองหลวง แน่นอนว่าคนที่ดีใจที่สุดคือจูจื่ออวี้เขาใช้อุบายทำให้สกุลสวีซื้อบ้านที่เป็นสินเจ้าสาวของมารดาตน ทั้งยังแอบสร้างประตูลับตรงกำแพงบ้านข้างๆ จะได้สะดวกไปพบว่าที่ภรรยาของตนโดยไม่มีใครรู้

ชิงชิงเปิดร้านขายอักษรภาพและภาพวาดในเมืองหลวง โดยใช้นางแฝงว่าซูเซียงจวีซื่อ ไม่นานก็เป็นที่เลื่อมใสของเหล่าบัณฑิตและปัญญาชนในเมืองหลวง สวีหงต๋าก็ไม่น้อยหน้า ถวายฎีกากราบทูลวิธีการแก้ปัญหาน้ำท่วม ฮ่องเต้มีรับสั่งให้เขาไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยและป้องกันน้ำท่วมบริเวณแม่น้ำหวงเหอ เวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่เดือนก็สามารถแก้วิกฤตน้ำท่วม เลื่อนขั้นอย่างราบรื่น

ไทเฮาเรียกตัวมารดา ภรรยา และบุตรสาวของสวีหงต๋าเข้าวังคิดไม่ถึงว่าพอใจไทเฮาเห็นชิงชิงแล้วจะตกใจ เพราะใบหน้าของชิงชิงคล้ายกับฮ่องเต้และฮองเฮาที่สวรรคตไปแล้วมาก

คำนำสำนักพิมพ์เล่ม 2 :
เมื่อชิงชิงได้มาเกิดใหม่ในยุคโบราณ เธอได้นำพาความโชคดีมาสู่ครอบครัว ทำให้บิดาสอบขุนนางได้ การค้าของมารดาก็เจริญรุ่งเรืองนอกจากนี้ยังช่วยให้จูจื่ออวี้พบเคล็ดวิชายุทธ์

พอชิงชิงติดตามบิดามารดามาอยู่เมืองหลวง จูจื่ออวี้จึงวางแผนให้ครอบครัวของชิงชิงซื้อบ้านที่เป็นสินเจ้าสาวของมารดา เพื่อที่เขาจะได้อยู่ใกล้ชิงชิง เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกันความรู้สึกของทั้งคู่ก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป ในขณะเดียวกันความโดดเด่นของชิงชิงและหน้าตาที่คล้ายกับอดีตฮองเฮาก็ทำให้มีคนสงสัยเรื่องชาติกำเนิดของชิงชิงขึ้น มาร่วมลุ้นกันว่าความลับเรื่องชาติกำเนิดของชิงชิงจะถูกเปิดเผยหรือไม่
กองบรรณาธิการ

เล่ม 2 :
จวนเจิ้นกั๋วกงตั้งแต่แต่งเกาซื่อก็ไม่มีใครไปมาหาสู่ สมองมีแต่ความมากเล่ห์อิจฉาริษยา เพราะตระกูลเกาตกต่ำ ใช้คำพูดว่าชิงชิงอาศัยหน้าตาจิ้งจอกล่อลวงจูจื่ออวี้ ทั้งๆที่หยางเหล่าไท่ไท่พูดอยู่ว่าชิงชิงคล้ายเซิ่งเหวินฮองเฮา เหล่าฮูหยินเห็นจูจูก็อยากเริ่มแนะนำ จูจื่ออวี้ได้ยินก็เอาไปบอกสวีหงต๋า และเสิ่นเสวี่ยเฟิง ทำให้เสิ่นเสวี่ยเฟิงเริ่มคิดอะไรขึ้นมาได้เรื่อยๆแล้ว
ตอนนี้กลับบ้านมาพูดความรู้สึกกับเสิ่นฮูหยินแล้ว จากที่เรียกหลายสาวคนโตต้องโดนฮูหยินอบรมอยู่นานกว่าจะยอม แล้วในที่สุดก็เปลี่ยนคำเรียกขาน เสิ่นฮูหยินต้องไปเกริ่นที่บ้านสกุลสวีซะแล้ว
พอมาที่จวนสกุลสวี เสิ่นฮูหยินก็บอกว่ามีคนอยากแนะนำ อายุสิบแปดปีรังเกียจหรือไม่ ยังไม่ได้บอกว่าเป็นลูกชายตัวเอง อ่านช่วงนี้ฮาบ้านนี้กับเสิ่นทั่นฮวาจริง เพราะจากนั้นพอมาบ้านนี้ทีเปลี่ยนคำเรียกขานแบบไม่ทันตั้งตัว เรียกใหม่แบบหน้าหนากันสุดๆ จนหนิงซื่อค่อนข้างแน่ใจทีเดียวว่าใช่แน่ๆ พอบอกสวีหงต๋าที่รู้ความจริงนี่ความหวงลูกสาวออกมาทันที แต่ความหน้าหนาก็ยังเอาชนะได้
ยายสวีมาจากบ้านนอกพอมาเสิ่นเสวี่ยเฟิงก็อาศัยความหน้าหนาเปลี่ยนคำเรียกขานอีกเหมือนกัน เพราะหวังจะเป็นเขยบ้านนี้ต้องลดลำดับขั้นตัวเองลงหนึ่งขั้น ฮามาก
ชิงชิงเสนอความคิดให้ไปไหว้เจ้าแม่ซานเซียว จึงไปยังอารามหนานอวิ๋น ที่มีป่าเหมยกว้างขวางซึ่งเซิ่งเหวินฮองเฮาออกเงินสร้างสมัยยังทรงพระเยาว์ พอไปถึงจูจูกลับได้พบองค์ชายสาม ฉีอวี้ ส่วนชิงชิงกลับพบกับรัชทายาทที่เมาอยู่แล้วนึกว่าเป็นท่านแม่ ทั้งสองตกใจกันมาก จูจูถึงขนาดเป็นไข้ ส่วนชิงชิงเพราะเรื่องนี้ และเรื่องที่ตัวเองรู้ตั้งแต่แบเบาะทำให้ไปหาจูจื่ออวี้ถามถึงเรื่องของเซิ่งเหวินฮองเฮา จูจื่ออวี้ปลอบใจชิงชิง
ส่วนเสิ่นเสวี่ยเฟิงพอรู้ว่าจูจูไม่สบายก็พาหมอหลวงมาตรวจ พอเห็นใบสั่งยาของชิงชิงก็อยากพบอาจารย์ของชิงชิง และยังรู้ว่าเสิ่นเสวี่ยเฟิงถูกใจแม่นางบ้านนี้ ในที่สุดยายสวีก็รู้ว่า เสิ่นเสวี่ยเฟิงอยากเป็นเขยเพราะ หนิงซื่อบอกนั่นเอง
ตอนนี้ก็มาชวนจูจูไปดูร้านที่จะเปิดเป็นร้านอาหาร สวีหงต๋าให้สวีเจ๋อเฮ่าไปดูแล ที่ไหนได้เอาอ่านตำราที่เป็นเล่มคัดลอกจากนักพรตบุ๋น ปล่อยให้ทั้งจูจูและชิงชิง ไปกับเสิ่นเสวี่ยเฟิงกับจูจื่ออวี้กันเอง ทั้งสี่คนสองคู่ไปดูร้านอาหารเสร็จก็ไปเดินเที่ยว เสร็จแล้วไปร้านน้ำชา คนอื่นฟังนิทานกันอย่างสนุกชิงชิงกลับบอกว่านางเล่าได้สนุกกว่าอีก พอเล่าออกมาทุกคนในร้านนั่งฟังจนไม่ได้ทำอะไรกันเลยทีเดียว ชิงชิงอายจนต้องหนีกลับสุดท้ายลืมสวีเจ๋อเฮาเอาไว้
สวีหงต๋าทนไม่ไหวแล้ว ยังไงก็ต้องยอมให้จูจูหมั้นหมายไปก่อนเพราะว่าเรื่องร้านอาหาร ทุกสองสามวันก็ต้องออกไปดูด้วยตัวเองอีกครั้ง สวีหงต๋าจึงบอกว่ายังไงต้องรออีกสองปีให้จูจูอายุสิบห้าผ่านพิธีปักปิ่นไปก่อนถึงจะแต่งงานได้ เสิ่นเสวี่ยเฟิงอยากจะมาหมั้นหมายวันพรุ่งนี้ทีเดียว
วันส่งมอบภาพให้องค์ชายสาม เสิ่นเสวี่ยเฟิงจึงสามารถไปแทนได้อย่างไม่มีปัญหา ทั้งที่ตอนนั้นจูจูโดนขู่แกมหยอกจนไข้ขึ้น ครั้งนี้องค์ชายสามที่คิดว่าจะได้ตัวจูจูง่ายๆก็ไม่มีหวังอีกต่อไป
แล้วก็มีบุคคลไม่คาดคิดมาที่บ้านสกุลสวี คนผู้นั้นคือหนิงเหล่าต้าบิดาของหนิงซื่อที่คิดว่าตายไปนานแล้ว พอครอบครัวใหม่เดือดร้อนก็ขอให้สกุลสวีช่วยเหลือ หน้าด้านหน้าทนมาก นี่เป็นแค่เรื่องคั่นเล็กๆเท่านั้น
ใกล้วันปีใหม่แต่ละบ้านเริ่มเตรียมของขวัญปีใหม่กัน จวนเจิ้นกั๋วกง เกาซื่อกับเกาฮูหยินยังคงคิดปองร้ายจูจื่ออวี้ไม่เลิกคราวนี้จะใช้วิธีคุณไสย
ใกล้ถึงวันที่สามสิบยันต์คุ้มภัยที่ตั้งบูชาอยู่หน้ารูปปั้นซานชิง ในอารามหนานอวิ๋นครบสี่สิบเก้าวัน จูจูกับชิงชิงจึงปรึกษากับหนิงซื่อว่าจะไปอารามหนานอวิ๋นนำยันต์คุ้มภัยกลับมา ชิงชิงทำยันต์ให้กับทุกคนรวมทั้งเสิ่นเสวี่ยเฟิง และจูจื่ออวี้ด้วย
เกาซื่อทนจูจื่ออวี้ต่อไปไม่ไหว เกาฮูหยินบอกให้เอาเส้นผมของจูจื่ออวี้มา เกาซื่อจึงให้จูจื่อเฮ่าไปเอา แต่กลับเอาเส้นผมตัวเองให้ไปแทน สุดท้ายคนที่ป่วยกลับเป็นจูจื่อเฮ่า เพราะตากลมหนาวข้างนอก และจับไข้พอจูจื่ออวี้เอายาของชิงชิงมาให้กินก็อาละวาด สุดท้ายก็ไม่เล่นละครแล้วทุกอย่างจึงเปิดเผยต่อหน้าจูผิงจาง และฮูหยินผู้เฒ่าที่เลอะเลือนมาทั้งชีวิต พอมาเห็นแบบนี้จูจื่ออวี้บอกคำเดียวว่านางเป็นแม่เลี้ยง ช่วยนี้ฟังนิทานบ่อยทำให้เปิดโลกมาก รู้ว่าแม่เลี้ยงคืออะไร ฮูหยินผู้เฒ่าจึงเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ไม่ชอบแม่เลี้ยงอย่างแรง
ฤดูร้อนมาเยือน เซิ่งเต๋อฮ่องเต้กำลังกลุ้มใจเรื่องภัยแล้ง พอขอฝนแล้วกลับเป็นฝนตกไม่ยอมหยุดจนกลายเป็นอุทกภัย คราวนี้ก็ต้องแก้ปัญหาเรื่องอุทกภัย สวีหงต๋าใช้เวลาศึกษาทั้งหาข้อมูลจนถวายฎีกา ทำให้เซิ่งเต๋อฮ่องเต้เห็นว่าใช้ได้จริง จึงส่งให้รัชทายาทกับสวีหงต๋าไปดูแลเรื่องเขื่อนกับทำนบกั้นน้ำ เรื่องที่เกิดขึ้นต่อมาคือสิ่งของที่ส่งมาไม่ถึงมือชาวบ้าน สวีหงต๋าก็ไม่ยอมสอบทานกับทางเมืองหลวงจนผู้เกี่ยวข้องได้รับโทษกันไป พอศึกษาพื้นที่เสร็จก็จะให้ชาวบ้านขุดลอกคูคลอง แต่ฮ่องเต้กลับส่งทหารมา และผู้ที่มาด้วยคือจูจื่ออวี้ ทำให้จูจื่ออวี้เรียนรู้และช่วยประสานงานต่างๆ กว่าจะแล้วเสร็จกลับเมืองหลวงก็เป็นเวลาสองปี
สวีหงต๋าได้รับการเลื่อนขั้นเป็นบัณฑิตซื่อตู๋ขั้นห้าชั้นโท จูจื่ออวี้ยังไงก็ต้องสืบทอดตำแหน่งเจิ้นกั๋วกง ตอนนี้จึงได้รับแต่งตั้งเป็นองครักษ์ขั้นห้าชั้นเอก ยศสูงกว่าพ่อตาซะอีก
สวีหงต๋าถวายฎีกาขอประทานยศให้มารดาและภรรยา แต่งตั้งยายสวีและหนิงซื่อเป็นอี๋เหรินขั้นห้าชั้นโท
จากนั้นยังมีคนจากในวังมาถ่ายทอดรับสั่งจากไทเฮาให้เข้าเฝ้า ถึงเวลาเมื่อไทเฮาเห็นชิงชิงและถามวันเกิด พอทั้งหมดกลับไปไทเฮาที่สงสัยอะไรบางอย่างจึงเรียก อันหมิงต๋าขันทีคนสนิทของฮ่องเต้มาทันที และก็คิดว่าชิงชิงที่ไข่มุกของฮ่องเต้ที่ตกหล่นอยู่ในหมู่ชาวบ้าน เมื่อสืบย้อนหลังก็พบว่าใช่ แต่ทั้งไทเฮาและฮ่องเต้ทำอะไรไม่ได้ และยังสืบรู้อีกว่าซูเซียงจวีซื่อคือชิงชิง ไทเฮาจึงเรียกตัวชิงชิงมาวาดภาพบนกำแพงตำหนักฝูโซ่วในวัง
พอได้มาพบกันอีกครั้งไทเฮาก็แสดงความโปรดปรานชิงชิงมาก พอชิงชิงได้เจอฮ่องเต้ก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ฮ่องเต้ก็รักชิงชิงมากเช่นกัน เพราะชิงชิงหน้าเหมือนเซิ่งเหวินฮองเฮา ฉางวั่งซู ดวงตายังคล้ายฮ่องเต้ที่สุดในลูกทุกคนอีกด้วย และลูกของฮ่องเต้ก็มีแต่องค์ชายไม่มีองค์หญิงเลย จะไม่ให้ทั้งไทเฮาทั้งฮ่องเต้รักได้ยังไง  
พวกสนมในวังที่สู้รบกัน ไม่รู้ว่าเรื่องที่ทุกคนก่อไว้ต่างๆ เป็นผลให้เกิดราชโองการที่ออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งทำให้คนยินดีและคนโมโหก็เพราะชิงชิงทั้งนั้น
ชิงชิงขอลาหยุดกับไทเฮาหนึ่งเดือนเพราะพิธีปักปิ่นของจูจู ไทเฮายังพระราชทานหมวกไข่มุกสำหรับพิธีปักปิ่นของจูจูด้วย
เทศกาลจงชิวปีนี้จูจื่ออวี้บอกว่าชิงชิงส่งของไปที่จวนเจิ้นกั๋วกงเลย และยังบอกว่าก่อนเทศกาลอยากให้ชิงชิงไปพบท่านย่า โดยไปกับป้าสะใภ้ และท่านย่าของจูจื่ออวี้ก็ชอบชิงชิงมาก จนต่อมายายสวีก็ได้เป็นเพื่อนกับท่านย่าของจูจื่ออวี้เพราะทั้งสองคนหนึ่งชองฟังคนหนึ่งชอบเล่า
เทศกาลจงชิว ชิงชิงทำขนมไหว้พระจันทน์ด้วยตัวเอง และได้ยื่นป้ายเข้าวังหลวงมาถวายให้ไทเฮาด้วย พอฮ่องเต้เสวยก็ตกรางวัลให้ชิงชิง ให้ร้านกุยฟู่รับผิดชอบส่งชาดเข้าวังหลวง
เทศกาลจงชิวบ้านชิงชิงมีความสุข จวนเจิ้นกั๋วกงกลับเงียบเชียบ พอเกาซื่อกลับมาจากการกลับบ้านก็ได้รับโทษจากไทเฮา เพราะไทเฮาบอกว่าหลายปีก่อนว่าชิงชิงเป็นนางจิ้งจอกต่อหน้านายหญิงตราตั้งมากมาย เกาซื่อไม่รู้ความจริง นึกว่ารู้เรื่องที่ตัวเองกับมารดาวางแผนเล่นงานจูจื่ออวี้อีกแล้ว คราวนี้จะส่งข่าวก็ไม่ได้แล้วเพราะโดนจับตามอง
จูจื่ออวี้เจอชิงชิง ชิงชิงเห็นจูจื่ออวี้ไม่มีความสุขจึงเล่าเรื่องสนุกและบอกว่าจะวาดรูปเหมือนให้ ระหว่างนั้น จูจื่ออวี้ก็ร้อนที่หน้าอก พอเอายันต์ที่ชิงชิงให้ออกมาดูก็พบว่ายันต์ไหม้ไปแล้ว ชิงชิงบอกว่ายันต์นี้ปกป้องได้ดีที่สุดคือพวกคุณไสยนอกรีต จูจื่ออวี้ก็รู้ทันที ตอนนี้ชิงชิงรีบเขียนยันต์ใหม่ให้จูจื่ออวี้พกติดตัวเอาไว้
ทางด้านเกาฮูหยินตกใจแทบตายที่เห็นเต้ากูกระอักเลือดเพราะมีสิ่งคุ้มภัย รีบหนีกลับเข้าเมืองที่ไหนได้ถูกจับทั้งหมด เพราะจูจื่ออวี้ไปแจ้งความที่ศาลยุติธรรมแล้ว เมื่อเรื่องราวเปิดเผยเกาซื่อและคนที่เกี่ยวข้องก็ไม่พ้นโทษตาย
ตอนนี้จูจื่อเฮ่าก็ได้จูจื่ออวี้ดูแล เป่าจูที่ไม่มีคนสนใจก็เอาเงินที่เกาซื่อยักยอกไว้มาคืนจูจื่ออวี้
ในที่สุดจูจูก็ได้แต่งงานกับเสิ่นเสวี่ยเฟิง พอกลับมาเยี่ยมบ้าน ที่ฮาคือองครักษ์ของจูจื่ออวี้กับเสิ่นเสวี่ยเฟิงคุยกันไม่สนใจคนอยากแต่งงานอย่างจูจื่ออวี้บ้างเลย คู่หูคูฮามาก มาตอนไหนคลายเครียดตลอดเวลา
ตั้งแต่วาดกำแพงบังตาเสร็จไทเฮาก็ให้ชิงชิงเข้าวังมาพูดคุยด้วยทุกห้าวัน  คนอื่นอิจฉายังไม่ทัน ครั้งนี้ยังพบฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวที่ซูเฟยขอร้องให้มาช่วยดูว่าชิงชิงเหมือนเซิ่งเหวินฮองเฮาหรือไม่
ซึ่งทั้งสองยังวางแผนเล่นงานร้านกุยฟู่อีกต่างหาก ทางด้านชิงชิงหลังจากมาพูดคุยกับไทเฮาวันนี้ยังได้พบรัชทายาทอีกด้วย รัชทายาทก็ไม่ยอมกลับไปถือโอกาสอยู่มองชิงชิงนานขึ้นเพราะคิดถึงฮองเฮา จนไทเฮาเดินหมากกับชิงชิง มีความสุขหัวเราะฮ่องเต้ก็เสด็จมาพอรู้ก็ให้ชิงชิงเดินหมากด้วย ชิงชิงฝึกฝนกับนักพรตทั้งสี่ ส่วนฮ่องเต้อาศัยประสบการณ์ต่างๆสู้กันอย่างจริงจัง สุดท้ายเป็นฮ่องเต้ที่แพ้ชิงชิง แต่ชิงชิงก็ยังบอกว่าจะแก้ยังไงทำให้ตนแพ้ได้ ฮ่องเต้พอใจอย่างยิ่ง
ชาดและสินค้าอื่นๆของร้ายกุยฟู่ชิงชิงจะต้องเอามาสุ่มตรวจทุกครั้ง ครั้งนี้ตรวจเจอกินคาว และพบว่ามาจากโลหิตแดงเป็นพืชที่มีพิษทำให้เกิดผื่นขึ้นได้ คิดดูก็รู้ว่าตัวการคือใคร แต่ชิงชิงอยากจะจับให้ได้คาหนังคาเขาจึงต้องล่องูออกจากรู สุดท้ายก็จับได้ทั้งหมดโดยได้รับความช่วยเหลือจากใต้เท้าหัวหน้าศาลยุติธรรม เซวียเหลียนลู่ที่รู้จักตอนคดีเกาซื่อ

หลังอ่านเล่ม 2 :
ชาติกำเนิดชิงชิงเปิดเผย ชิงชิงรู้ความจริงตั้งแต่เห็นหน้า แต่คนที่รู้ความจริงต้องเก็บเป็นความลับ เล่มนี้ฮามากทั้งคู่ชองจูจูกับองครักษ์ของจูจื่ออวี้ มาทีไรฮาได้ตลอด เพิ่มสีสันให้เนื้อเรื่องไม่ต้องเคร่งเครียดจริงๆค่ะ ส่วนชิงชิงนั้นสบายมากความโชคดีและความเก่งยังคงอันดับหนึ่งคนรอบข้างที่คิดร้ายทำอะไรชิงชิงไม่ได้หรอก อ่านต่อเล่มสามกันค่ะ

เล่ม 3 พิมพ์ครั้งที่ 1 : พฤศจิกายน 2562

โปรยปกเล่ม 3 :
เดิมทีเป็นผู้มีความสามารถโดดเด่น แต่เพื่อให้คู่ควรกับสตรีที่ตนรัก เขาจึงเสนอตัวเข้าสู่สนามรบทำสงคราม สาบานว่าจะต้องสร้างความดีความชอบให้ได้ เพื่อแต่งเพื่อนเล่นวัยเยาว์อย่างนางเป็นภรรยา

เนื่องจากมารดาไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องที่ชิงชิงมีสายเลือดของเชื้อพระวงศ์ ชิงชิงจึงแสร้างทำเป็นไม่รู้ชาติกำเนิดของตนเอง จนใจที่ฮ่องเต้มิอาจยอมรับบุตรสาวอย่างเปิดเผยจึงแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ให้ชิงชิง จูจื่ออวี้รู้เรื่องนี้แล้วร้อนใจยิ่งนัก เกรงว่าตนเองที่มีแต่ตำแหน่ง ทว่าไร้อำนาจที่แท้จริงจะไม่คู่ควรกับชิงชิง จึงเป็นฝ่ายอาสานำทัพลงใต้ปราบปรามแคว้นเล็กอย่างเหมี่ยนเตี้ยนที่คิดกบฏ

สู่อ๋องเดิมทีเป็นลูกรักของอดีตฮ่องเต้ สุดท้ายกลับไม่ได้เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ ทั้งยังถูกไล่ออกจากเมืองหลวง เมื่อชายาสู่อ๋องรู้ว่าฮ่องเต้แต่งตั้งบุตรสาวของนางเป็นจวิ้นจู่ ความแค้นที่ฝังอยู่ในใจสองสามีภรรยามานานก็รุนแรงมากขึ้นทุกที

คำนำสำนักพิมพ์เล่ม 3 :
เพราะไม่อาจเปิดเผยเรื่องชาติกำเนิดของชิงชิงให้ทุกคนรู้ได้ ฮ่องเต้จึงใช้ความดีความชอบจองจูจื่ออวี้มาแลกบรรดาศักดิ์ให้ชิงชิง ทั้งยังพระราชทานสมรสให้ชิงชิงกับจูจื่ออวี้ ด้วยหวังว่าเมื่อส่งสวีหงต๋าไปรับตำแหน่งขุนนางท้องถิ่น ชิงชิงจะได้ไม่าต้องติดตามบิดาไปด้วย แต่แล้วเมื่อฮ่องเต้กับไทเฮาขึ้นเขาไปไหว้พระ ทางด้านจูจื่ออวี้ที่เห็นภรรยาซึมเศร้าจึงขอติดตามแม่ทัพหยางไปประจำการที่ซื่อชวนซึ่งเป็นที่เดียวกับที่สวีหงเต๋าไปรับตำแหน่ง

เมื่อทั้งครอบครัวย้ายมาอยู่ซื่อชวนได้ไม่นาน สวีหงต๋ากลับถูกลอบสังหาร ขณะจับตัวคนร้ายมาสืบสวน ความจริงที่ถูกปกปิดไว้ก็ค่อยๆ เปิดเผย ที่แท้สู่อ๋องคิดก่อกบฏงั้นหรือ?
กองบรรณาธิการ

เล่ม 3 :
บ้านสายรองลูกอนุสกุลจ้าวที่มาทำงานสกปรกในกับฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวก็คือ จ้าวอวี้เฉิงสุดท้ายก็โดนหัวหน้าศาลยุติธรรม เซวียเหลียนลู่จับตัวได้พร้อมของกลาง ทั้งพยานหลักฐานพร้อม ตอนโดนจับยังพูดถึงซูเฟยอยู่เลย เรื่องนี้เป็นที่รู้กันไปทั่ว ชิงชิงก็เข้าวังไปกราบทูลไทเฮาหนึ่งรอบเพราะต้องทำการตรวจอย่างละเอียดว่าไม่มีโลหิตแดงหลงเหลือสร้างความเสียหายอยู่ ไทเฮายิ่งโกรธสกุลจ้าวที่ทำเอาพระนางไม่ได้พบหลานสาวสุดที่รัก
ซูเฟยที่เพิ่งออกจากการโดนกักบริเวณ โดนไทเฮาว่าเรื่องที่สกุลจ้าวมาพบบ่อยเห็นวังหลวงเหมือนบ้านตัวเอง ฮ่องเต้ก็หมางเมิน ส่วนที่สกุลจ้าวพอรู้เรื่องก็หาทางส่งข่าวเข้าวังให้ซูเฟยทำลายโลหิตแดงขวดที่สามที่จะเอาไว้ทำร้ายชิงชิง แต่ไม่มีโอกาสส่งข่าวสุดท้ายต้องพึ่งองค์ชายสาม ฉีอวี้ พอองค์ชายสามเข้าวังเห็นความผิดปกติ จึงเปิดจดหมายถึงรู้ว่าสกุลจ้าวทำเรื่องอะรเอาไว้ องค์ชายสามยังคิดจะออกหน้าช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็ไม่มีประโยชน์ เพราะไทเฮาที่อยากรู้เรื่องเรียกให้เซวียฮูหยินเข้าไปรายงานเรื่องราวให้ในวังแล้ว ทั้งบอกว่าใครก็ห้ามช่วยสกุลจ้าว รวมทั้งองค์ชายสาม
ไทเฮานำเรื่องนี้ไปบอกฮ่องเต้ เซวียเหลียนลู่ที่ตัดสินคดีเรียบร้อยก็เข้ามารายงาน และบอกว่ายังไม่พบว่าโลหิตแดงขวดที่สามอยู่ที่ไหน จ้าวอวี้เฉิงคิดว่าน่าจะส่งเข้าวังมาแล้ว ฮ่องเต้จึงเรียกตัวซูเฟย นี่ก็ยังไม่รู้เรื่อง พอไปถึงยังปากแข็งสุดท้ายพอฮ่องเต้ให้ไปค้นตำหนักก็เจอทั้งโลหิตแดง บัญชีลับ และยังเจอตุ๊กตาสาปแช่งที่มีชื่อสวีเจียอี้แต่เพราะไม่รู้ชะตาแปดอักษร เขียนแค่บุตรสาวสวีหงต๋าบัณฑิตซื่อตู๋แค่นี้ก็ต้องตายแล้ว คราวนี้เลยสารภาพหมดบอกว่าอีกหน่อยชิงชิงก็มาแทนที่ ฮ่องเต้บอกว่ารักเหมือนลูกสาวของตัวเองกับฮองเฮาวันหน้าจะแต่งตั้งเป็นองค์หญิง และพระราชทานสมรส อย่างเจ้าไม่คู่ควร ปลดเป็นสามัญชนและโบยให้ตาย สกุลจ้าวล่มสลายโดนโทษประหารและเนรเทศทั้งตระกูล
ชิงชิงว่างจึงเขียนนิทานเรื่องเกี่ยวกับเซียนเอาไว้ ยายสวีหาคนมาเล่านิทานมาฝึกอ่านเรื่องที่ชิงชิงแต่ง จูจื่ออวี้และจูจื่อเฮ่ามาที่บ้านก็มาฟังนิทานด้วย พอได้ฟังจูจื่อเฮ่ากลับไปบอกท่านย่าที่จวนเจิ้นกั๋วกง ท่านย่าก็ให้ยายสวีพานักเล่านิทานไปด้วย ตอนกินข้าวยังพูดเรื่องจะไปสู่ขอชิงชิงอีก เหตุผลท่านย่าตลกมากคือจะได้ฟังนิทานที่ชิงชิงแต่งได้ตลอด แต่ก็บรรลุจุดประสงค์ของทุกคน ส่วนจูจื่อเฮ่าพอฟังนิทานแล้วอยากได้คัมภีร์ฝึกกระบี่บ้าง ก็มาหาจูจื่ออวี้ จูจื่ออวี้บอกว่านี่เป็นเล่มที่เจอกับชิงชิงตอนหกขวบ จูจื่อเฮ่าเลยขอร้องให้ชิงชิงช่วยหาสมบัติให้บ้าง ชิงชิงบอกไปอย่างมั่วๆ ที่ไหนได้สองพี่น้องกลับมาพร้อมคัมภีร์เคล็ดวิชากระบี่จริงๆ จูจื่ออวี้บอกว่าพอไปถึงก็เจอศาลเจ้าเทพดาวอู่ขุยและเจอที่ซ่อนคัมภีร์เคล็ดวิชาจริงๆ
จูจูกับเสิ่นเสวี่ยเฟิงกลับมาเยี่ยมบ้าน เสิ่นเสวี่ยเฟิงไม่มีอะไรทำเลยมาหาสองพี่น้องจูจื่ออวี้กับจูจื่อเฮ่าและบอกเรื่องที่ใต้เท้าเซวี่ยเหลียนลู่ได้ยินฝ่าบาทบอกกับซูเฟยเรื่องที่จะแต่งตั้งชิงชิงเป็นกงจู่ จวิ้นจู่ เสี้ยนจู่ ทั้งยังหาคู่ครองที่ดีให้ชิงชิงหลังพิธีปักปิ่น จูจื่ออวี้เลยคิดว่าจะทำยังไงดีถึงจะก้าวหน้ากว่านี้
ตอนวันปีใหม่ชิงชิงได้ไปเข้าเฝ้าไทเฮา กับนายหญิงตราตั้งทุกคนเห็นว่าชิงชิงได้รับความโปรดปรานจากไทเฮามากแค่ไหน ทั้งมีที่พักในตำหนักข้าง พาท่านย่า ท่านแม่ เสิ่นฮูหยิน หยางฮูหยิน ท่านย่าของจูจื่ออวี้ไปพักรอไทเฮาได้ด้วย ช่างแตกต่าง ก่อนงานเลี้ยงไทเฮายังบอกว่าจูจื่ออวี้ถวายฎีกาให้ฮ่องเต้ขอไปออกรบที่อวิ๋นหนานแต่โดนระงับไว้ กลับมาชิงชิงโกรธมากที่จูจื่ออวี้ไม่ยอมปรึกษากับนางก่อน สุดท้ายผู้ที่ได้ไปไม่ใช่ตระกูลหยางแต่เป็นกงข่าย เสนาบดีกลาโหม พอไปทำศึกก็แพ้จนเสียเมืองติดต่อกันจนกระทั่งถูกจับเป็นเชลยก็ไม่ยอมตาย ขี้ขลาดตาขาว ตอนนี้เองที่ฮ่องเต้จะส่งแม่ทัพหยางซื่อไป จูจื่ออวี้เลยขอตามออกไปรบด้วย โดยฮ่องเต้ให้รัชทายาทไปด้วยอีกคนหนึ่ง สุดท้ายเพราะจูจื่ออวี้ใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อจึงสามารถจัดการกับเหมี่ยนเตี้ยนหวังตูฮา
สงครามยุติ จูจื่ออวี้กลับมารายงานผลก่อน ฮ่องเต้ถามว่าอยากได้รางวัลอะไร อย่างเดียวที่จูจื่ออวี้อยากได้คือแต่งงานกับชิงชิง ฮ่องเต้เลยไปปรึกษากับไทเฮาและได้ความคิดว่าให้จูจื่ออวี้เอาความดีความชอบมาแลกกับตำแหน่งจวิ้นจู่ให้ชิงชิง เพราะฮ่องเต้กับไทเฮาอยากให้ชิงชิงยังอยู่ในเมืองหลวง เนื่องจากสวีหงต๋าเรียนรู้งานในสำนักราชบัณฑิตสามปีแล้วสมควรออกไปรับตำแหน่งต่างเมืองได้แล้ว แต่ทั้งสองพระองค์ตัดใจให้ชิงชิงไปกับครอบครัวไม่ได้จึงให้แต่งงานก่อน จูจื่ออวี้สนใจแต่การแต่งงานบอกว่าต้องไปถามชิงชิงก่อน ตอนแรกชิงชิงไม่อยากได้เพราะเห็นหนิงซื่อไม่สบายใจ แต่เมื่อคิดได้ก็ตกลง สุดท้ายชิงชิงได้แต่งตั้งเป็นอี้เต๋อจวิ้นจู่ทั้งยังได้ที่ดินศักดินาอีกด้วย
ตอนพิธีปักปิ่นของชิงชิงฮ่องเต้และไทเฮาให้ความสำคัญกับชิงชิงมาก อยากมาด้วยตนเองแต่ก็ส่งจิ่นเซ่อมามากับอันหมิงต๋ามาเป็นตัวแทน พอกลับไปเล่าให้ฟังทั้งสองพระองค์มีความคิดเดียวกันคือน่าจะมาเองจริงๆ
ตอนพิธีแต่งงานฮ่องเต้และไทเฮาก็ส่งสินเจ้าสาวมาให้ชิงชิงอีกคนละห้าสิบหาบรวมเป็นหนึ่งร้อยหาบ ส่วนที่บ้านจัดเตรียมเองอีกยี่สิบแปดหาบ ตอนที่หาบสินเจ้าสาวทุกคนต่างมาดูของล้ำค่าหายาก นึกว่าพอถึงของบ้านสกุลสวีแล้วคงไม่มีอะไรแต่พอเห็นชุดเครื่องประดับทับทิม และหยกแต่ละคนก็ตะลึงกันไปหมด ก่อนการแต่งงานของชิงชิงกับจูจื่ออวี้ จูผิงจางกลับอยากจะแต่งงานรอบที่สาม ทำให้ไทเฮาไม่ค่อยพอใจนัก
ชิงชิงกับจูจื่ออวี้แต่งงานเรียบร้อย ไทเฮากับฮ่องเต้ก็คิดว่าช่วงนี้บ้านเมืองไม่ค่อยมีเรื่องอะไร และนี่ก็ครบห้าปีของการขึ้นเขาอู่ไถไปไหว้พระสวดมนต์ ไทเฮาจึงชวนฮ่องเต้ไปด้วยกัน รัชทายาทดูแลแทน และช่วงนี้เองที่แม่ทัพหยางซื่อมาขอให้รัชทายาทอนุมิติให้จูจื่ออวี้ไปฝึกฝนตนที่ซื่อชวนพร้อมตน รัชทายาทจึงอนุญาตไป เรื่องเพราะจูจื่ออวี้รู้ว่าสวีหงต๋าได้รับตำแหน่งไปที่ซื่อชวน เสิ่นเสวี่ยเฟิงก็ไปด้วย ท่านน้าสี่ก็ไปจึงคิดเรื่องนี้ออกมา สรุปทั้งบ้านไปกันหมดผิดแผนของฮ่องเต้กับไทเฮาแล้ว
ทั้งสามบ้านออกเดินทางพร้อมกัน ไทเฮากับฮ่องเต้กลับมาอยากเจอชิงชิงถึงรู้ว่าชิงชิงไปซื่อชวนแล้ว รัชทายาทรับเคราะห์ไปเต็มๆ แถมยังรู้ความลับเรื่องของชิงชิงอีก ลูกสาวหลานสาวสุดที่รักไม่อยู่ รัชทายาทอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา ฮามากๆ
ที่ซื่อชวน เฉิงตู พระชายาสู่อ๋องไม่ชอบชิงชิงเพราะชิงชิงได้เป็นจวิ้นจู่ในขณะที่บุตรสาวสายตรงของตัวเองยังไม่ได้ตำแหน่งนี้ และพยายามจะทำให้พวกฮูหยินไม่ชอบชิงชิง แต่ชิงชิงกลับเข้ากันได้ดีกับทุกคน และทุกคนก็ไม่ได้โง่เหมือนที่พระชายาสู่อ๋องดูถูก จูจื่ออวี้ในที่สุดก็สามารถเอาชนะใจทหารในกองทัพได้ หลังพวกเขารู้ว่าเป็นคนไปตัดหัวหวังตูฮา
ทางด้านสวีหงต๋าที่มาเป็นรองผู้ว่าการเขตชวนหนานกลับพบปัญหามีคนไม่ชอบหน้าเพราะมาดูเรื่องภาษีเกลือ ทั้งยังมีโจรมาลอบฆ่า แต่เนื่องจากฝึกท่าเบญจสัตว์มาหลายปีสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย ภายหลังพอรู้ว่าสวีหงต๋ามีบุตรสาวคนรองเป็นจวิ้นจู่ท่าทีแต่ละคนถึงกลับเปลี่ยนไป เพราะว่าผู้ว่าการเขตเมิ่งได้รับจดหมายจากสู่อ๋องถึงเพิ่งรู้เบื้องหลังของสวีหงต๋า สวีหงต๋ามาอย่างแรกที่สืบคือเรื่องผู้ว่าการมณฑลคนก่อนที่กำลังทำหน้าที่เก็บภาษีเกลือให้ฮ่องเต้และมีอุบติเหตุตกม้าตาย ดูมีเบื้องหลังแต่พอมาตรวจสอบกลับยังไม่พบหลักฐานก็มาโดนลอกสังหาร แต่ดันเป็นโจรกระจอกจากป้อมไท่ผิง ยังไม่ทันสอบสวนก็พูดออกมาแล้ว
ชิงชิงกับจูจื่ออวี้มาถึงพอดี คราวนี้จูจื่ออวี้จึงไปป้องไท่ผิงกับสวีหงต๋า หัวหน้าใหญ่ไม่พูดอะไรแต่ลูกน้องดันปากมากพูดออกมาหมด การสืบจึงง่ายกว่าเดิมเพราะโยงไปถึงหวังโหย่วเต๋อ และเพราะมีชิงชิงทุกอย่างล้วนดูง่าย ดูโชคดีจนผู้คุมยังคิดว่าการสอบสวนคดีง่ายอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ขนาดหวังหมิงเอินให้คนมาวางยาหวังโหย่วเต๋อ ก็ยังไม่ตายเพราะได้ชิงชิงตรวจพบรักษาหาย ทำให้สารภาพหมด เรื่องราวดูง่ายไปทุกอย่าง
ชิงชิงยังคิดจะช่วยท่านพ่อ ไปเยี่ยมเมิ่งฮูหยิน ผู้หยินผู้ว่าการเขตที่ไหนได้ยังได้พบกับหวังฮูหยินที่มาบอกเรื่องราวทำให้ชิงชิง สวีหงต๋า คิดถึงการก่อกบฏของสู่อ๋องได้
หวังฮูหยินที่เป็นหญิงชาวบ้านพอรู้ว่าจูจื่ออวี้คือวีรบุตรที่ไปตัวหัวหวังตูฮายิ่งปลื้มหนัก เล่าความทุกข์ยากของตัวเองออกมา ปลื้มจูจื่ออวี้เหมือนปลื้มดาราในยุคปัจจุบันอีก ทำให้สุดท้ายจูจื่ออวี้หาหลักฐานความผิดได้มากมาย

หลังอ่านเล่ม 3 :
ชิงชิงโตแล้วในที่สุดฮ่องเต้ก็เอาความดีความชอบของจูจื่ออวี้แลกกับตำแหน่งจวิ้นจู่ให้ชิงชิง ดูเหมือนง่ายแต่ถ้าไม่ใช่ชิงชิงก็ไม่มีสิทธิ์นี้นะ ฮ่องเต้กับไทเฮาวางแผนซะดี สุดท้ายชิงชิงก็ยังเดินทางไปซื่อชวนอยู่ดี แต่ความโชคดีของชิงชิงยังมีต่อเนื่อง ท่านพ่อจับโจรง่ายมาก สืบสวนง่ายมาก แถมมีชิงชิงยิ่งโชคดีเข้าไปใหญ่ทำให้รู้แผนการของสู่อ๋องโดยบังเอิญ ถ้าไม่โชคดีแล้วจะเรียกว่าอะไร ติดตามอ่านความโชคดีของชิงชิงได้ต่อในเล่มจบเลยค่ะ

เล่ม 4 พิมพ์ครั้งที่ 1 : พฤศจิกายน 2562

โปรยปกเล่ม 4 :
นอกจากเรื่องที่ต้องตายอย่างไม่เป็นธรรมและทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณแล้ว ชีวิตของนางมีความโชคดีอยู่เคียงข้างตลอด ชิงชิงคิดว่าเรื่องที่โชคดีที่สุดของนางคือ ทะลุมิติเวลามาพันปีและได้พบกับเขา

จูจื่ออวี้สร้างความดีความชอบในการทำสงครามกลับมา จึงได้แต่งชิงชิงเข้าจวนเจิ้นกั๋วกงอย่างสมเกียรติ สองสามีภรรยาแต่งงานได้ไม่นาน สวีหงต๋าก็ถูกส่งไปเป็นขุนนางท้องถิ่นที่ซื่อชวน ชิงชิงอาลัยอาวรณ์บิดามารดา จูจื่ออวี้จึงขอตำแหน่งในชวนหนานเพื่อเดินทางไปกับพ่อตาด้วย

เครือข่ายอำนาจในซื่อชวนสลับซับซ้อน สวีหงต๋าเพิ่งมารับตำแหน่งก็ถูกลอบสังหาร จูจื่ออวี้กับพ่อตาร่วมมือกันสืบหาผู้บงการเบื้องหลัง ชิงชิงที่มีรัศมีแห่งความโชคดีปกคลุมตั้งแต่เด็ก ได้ใช้ประโยชน์จากความโชคดีที่ทำให้คนรอบข้างอิจฉาอีกครั้ง นางได้หลักฐานการก่อกบฏของสู่อ๋องมาโดยไม่ต้องเปลืองแรง

สู่อ๋องมีอุบายล้ำลึก เป็นหอกข้างแคร่ของเซิ่งเต๋อฮ่องเต้มาตลอด จนใจที่เซิ่งเต๋อฮ่องเต้จับผิดอีกฝ่ายไม่ได้สักที คิดไม่ถึงว่าส่งสวีหงเต๋าไปซื่อชวนปฏิวัติการเก็บภาษีเกลือ การปฏิวัติยังไม่ทันเริ่มต้นขึ้น กลับพบความผิดของสู่อ๋องเข้าเสียก่อน เซิ่งเต๋อฮ่องเต้เบิกบานพระทัยสั่งให้จูจื่ออวี้คุมตัวสู่อ๋องกลับเมืองหลวงรอการสอบสวน

คำนำสำนักพิมพ์เล่ม 4 :
หลังจากจูจื่ออวี้และชิงชิงเดินทางไปชวนหนานเพื่อตามสวีหงเต๋าที่ถูกส่งไปเป็นขุนนางท้องถิ่นที่ซื่อชวนแล้ว ความยุ่งยากที่สวีหงต๋าและหนิงซื่อสองสามีภรรยาพบเจอก่อนหน้านี้ก็คลี่คลายได้โดยง่าย นอกจากนี้ความโชคดีของชิงชิงยังทำให้นางจับพลัดจับผลูได้หลักฐานการก่อกบฏของสู่อ๋องมาโดยบังเอิญ ช่วยฮ่องเต้กำจัดเสี้ยนหนามโดยไม่รู้ตัว

ทว่าความโชคดีของชิงชิงที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดจะอยู่กับนางไปถึงเมื่อไหร่ และสาเหตุที่ทำให้ชิงชิงโชคดีคืออะไร ไปหาคำตอบกันได้เลยค่ะ

กองบรรณาธิการ

เล่ม 4 :
หลังจากจูจื่ออวี้กับชิงชิงหาหลักฐานได้จากจวนสกุลหวังก็นำมาตรวจดูกับสวีหงต๋าและวางแผนขั้นต่อไปกัน โดยให้จูจื่ออวี้กลับไปเฉิงตูแจ้งหยางเฉิงเต๋อ และรอเฉียนว่านหลี่ผู้ตรวจการคนใหม่มารับตำแหน่งแล้วรายงานเรื่องขึ้นไปถึงฝ่าบาท วันต่อมาหวังฮูหยินก็เอาทรัพย์สินที่บ้านและของที่ค้นได้จากห้องเซวี่ยอี๋เหนียงมามอบให้ชิงชิง เพื่อบอกว่าขอให้ลูกหลานของตัวเองปลอดภัย ชิงชิงที่ได้ฟังเรื่องราวของหวังฮูหยินมีใจอยากช่วยหวังฮูหยินอยูแล้วจึงบอกท่านพ่อด้วย
เมื่อรวบรวมหลักฐานได้ทั้งหมด รอผู้ตรวจการเฉียนว่านหลี่มาถึงเฉิงตู สวีหงต๋าก็เดินทางไปด้วยตนเอง ใต้เท้าเฉียน หยางเฉิงเต๋อ สวีหงต๋า และจูจื่ออวี้ที่ไปดูค่ายทหารที่สู่อ๋องซื้อม้าและหาทหารมาวางแผนรายงานฮ่องเต้ โดยสารด่วนแปดร้อยลี้ ฮ่องเต้มีบัญชาให้จูจื่ออวี้พาสู่อ๋องเข้าเมืองหลวงจะได้ให้ชิงชิงกลับมาด้วย พ่อค้าเกลือและเจ้าหน้าที่จำนวนมากมีส่วนร่วมทำให้การที่จะปฏิรูปการเก็บภาษีเกลือก่อนหน้าไม่จำเป็นอีกต่อไป ตอนนี้สวีหงต๋าได้เลื่อนเป็นผู้ว่าการเขตแทนเท่ากับได้เลื่อนตำแหน่งเร็วกว่าใคร
หลังปีใหม่ชิงชิงกับจูจื่ออวี้ต้องกลับเมืองหลวงไปก่อน ระหว่างทางชิงชิงแวะรับยายสวีกลับมาด้วย พอถึงเมืองหลวงส่งยายสวีแล้วแทนที่จะได้กลับจวน รถม้ากลับพาเข้าวังไปหาไทเฮา ไทเฮาก็รออยู่และดีใจมากที่ชิงชิงกลับมา รัชทายาทมาพอดีไทเฮาจึงให้ชิงชิงเรียกรัชทายาทว่าพี่ชาย นับเป็นพี่น้องกัน และให้อยู่ค้างในวังด้วยกันกับไทเฮาส่วนจูจื่ออวี้ที่คิดว่ามารายงานฮ่องเต้แล้วจะรีบกลับไปหาชิงชิง ไปถึงจวนเจิ้นกั๋วกงทุกคนรอชิงชิงแต่ชิงชิงอยู่ในวังซะแล้ว มีแต่คนคิดถึงชิงชิง
ฮ่องเต้ในที่สุดก็ได้กลั่นแกล้งจูจื่ออวี้คืนที่พาชิงชิงไปซื่อชวนนานตั้งหนึ่งปี ตอนนี้เลยใช้ทำงานซะเลย ชิงชิงก็เข้าได้กับทุกคน แต่ละคนรักชิงชิงทั้งนั้น ขนาดไทเฮายังบอกให้ชิงชิงเรียกเสด็จย่าบอกว่ารับเป็นหลานสาวบุญธรรม
พอกลับมาที่จวนเจิ้นกั๋วกงทุกคนดีใจ มีเพียงจางซื่อที่อิจฉาริษยา จูจื่ออวี้สอบถามจากจูจื่อเฮ่าว่าช่วงที่ไม่อยู่จางซื่อทำอะไรบ้าง จื่อเฮ่าบอกว่ามาที่เรือนหน้า ที่ทุกคนไม่รู้คือจางซื่อสั่งสาวใช้ให้กลับไปเอายาปลุกกำหนัดที่บ้านเดิม เพราะความต้องการมากเกินไป และบังคับจูผิงจางกินทุกวันจนหนึ่งเดือนให้หลังก็ตายคาอก
จูจื่ออวี้หลังจากได้รับมอบหมายให้ทำงานสืบสวนกับใต้เท้าเซวียแค่มองก็รู้ว่าจะสอบสวนยังไง ก็ได้ความจริงทั้งหมดออกมา เรื่องราวน่ารังเกียจที่จางซื่อทำจึงถูกล่วงรู้ ในพิธีศพสกุลจางมา จูจื่ออวี้บอกความจริงแต่บิดา มารดาจางซื่อกับคิดจะปิดบังความจริง ให้จางซื่อฆ่าตัวตาย นึกว่าเรื่องราวจะยุติได้เข้าศาลบรรพชน เป็นฮูหยินเจิ้นกั๋วกง แต่จูจื่ออวี้ไม่ยอมบอกว่าวางยาพิษ และลักขโมยเขียนหนังสือหย่าและไล่ออกไป ครอบครัวสกุลจางต้องโทษยึดทรัพย์ และถูกเนรเทศ
พวกจูจื่ออวี้ต้องไว้ทุกข์สามปี สามปีผ่านไปถึงเวลาออกทุกข์ เป่าจูถึงเวลาดูตัวแต่งงานได้แล้ว จูจื่อเฮ่าโดนจูจื่ออวี้พาเข้าวังไปขอตำแหน่งกับฮ่องเต้ พอประลองฝีมือดูก็ได้รับตำแหน่งทันที ครั้งนี้ชิงชิงก็ตั้งครรภ์ซะที ความที่ไม่อยากคลอดลูกหลายครั้งชิงชิงบอกว่าขอคลอดฝาแฝดแล้วกัน แล้วยังบอกว่าอยากคลอดภูเขาทองออกมา พอคลอดลูกออกมาเป็นแฝดชายทั้งคู่หน้าตาเหมือนกันแต่นิสัยต่างกันสุดๆ คนพี่จูหมิงเอินชอบอาวุธเหมือนท่านทวด จูหมิงหลี่กลับชอบทองคำ เครื่องประดับแวววาว ได้ชื่อเล่นว่าเจาไฉที่ขุดตรงไหนก็เจอสมบัติ
หกปีผ่านไปสวีหงต๋าและเสิ่นเสวี่ยเฟิงได้รับการประเมินผลงานดีถึงสองครั้งตอนนี้กำลังจำกลับเมืองหลวง แต่ในเมืองหลวงฮ่องเต้กลับประชวนมานาน ชิงชิงจึงใช้วิชาแพทย์ที่เรียนมาจากนักพรตแพทย์รักษาจนฮ่องเต้อาการดีขึ้น พอฮ่องเต้อาการดีขึ้นกลับอยากจะออกไปเดินเล่นแล้วไม่ยอมให้ใครตาม เพราะว่าอ่อนแรงมาโดยตลอดพอเดินก็ไม่มีแรงทำให้ล้มกระแทกเสา ตอนนี้แต่ละคนตกใจกันจนทำอะไรไม่ถูก คนที่ฮ่องเต้อยากเจอคือชิงชิง
ฮ่องเต้สั่งรัชทายาทให้ดูแลชิงชิงให้ดี ห้ามเปิดเผยฐานะของชิงชิง กว่าชิงชิงจะมาถึงและพาฝาแฝดมาด้วย ฮ่องเต้ได้เห็นหมิงเอินก็บอกว่าต่อไปต้องเป็นเจิ้นกั๋วกงที่ดี สั่งเสียทุกอย่างเรียบร้องก็จากไป
ชิงชิงเป็นคนสวดท่องคาถาในพิธีสี่สิบเก้าวันของไท่อี่จิ้วขู่เทียนจุน ถึงขนาดไทเฮาฝันว่าไท่อี่จิ้วขู่เทียนจุนมาพาฮ่องเต้กับเซิ่งเหวินฮองเฮา ไปด้วยตัวเองและบอกว่าเป็นเพราะชิงชิงสวดคาถาให้ และเป็นเพื่อนกับชิงชิง ให้ช่วยดูแลชิงชิง วันหน้าจะมารับไทฮองไทเฮาไปด้วย ทำให้ไทฮองไทเฮาปล่อยวางได้และบอกกับฮ่องเต้เฉียนซิง ให้สร้างรูปปั้นเซิ่งเต๋อฮ่องเต้ เซิ่งเหวินฮองเฮา   ไท่อี่จิ้วขู่เทียนจุน ในอารามเต๋า และวันหน้าให้สร้างรูปปั้นของตัวเองด้วยจะได้รับไอธูปเพื่อการบำเพ็ญเซียน  
หลังเสร็จพิธีวันคล้ายวันเกิดครั้งแรกของเฉียนซิงฮ่องเต้ ชิงชิงก็นำเอาหยกหลันเถียนที่แกะเอาไว้มาให้เป็นของขวัญ เรื่องนี้ทำให้เฉียนซิงฮ่องเต้คิดว่าสามารถแต่งตั้งชิงชิงเป็นกงจู่ได้ จึงปรึกษากับไทฮองไทเฮา แต่งตั้งชิงชิงเป็นจ่างกงจู่และมอบตำหนักกงจู่ให้
วันเวลาผ่านไปหลังออกทุกข์ของอดีตฮ่องเต้ ชิงชิงก็ตั้งครรภ์ให้กำเนิดลูกฝาแฝดชายหญิง คราวนี้ก็มีจิ้นเป่าที่เข้าคู่กับเจาไฉได้ทุกเรื่องเหมือนกัน
จวบจนจูหมิงเอินเติบโตมีครอบครัว จูจื่ออวี้ก็ขอเกษียณตัวเองมองตำแหน่องเจิ้นกั๋วกงให้จูหมิงเอิน ตังเองออกท่องเที่ยวกับชิงชิง พว่งด้วยสองแฝดชายหญิง จูหมิงอี้กลายเป็นที่รังเกียจของบิดา ถูกพาไปปล่อยไว้กับจูจื่อเฮ่าที่ชายแดน แล้วตัวเองก็หนีไปกับชิงชิงและจิ้นเป่า จนถึงเวลาที่จิ้นเป่าต้องปักปิ่นจึงกลับเมืองหลวง
ครอบครัวอยู่อย่างมีความสุขมาหลายสิบปี จนถึงเวลาที่ชิงชิงกับจูจื่ออวี้อายุหนึ่งร้อยปีหลับไปก็มาตื่นอีกทีพบกับเซียนทั้งหลายที่มารับตน ที่แท้อาจารย์ นักพรตทั้งสี่ก็เป็นเซียนจริงๆ และชิงชิงก็มีที่มาไม่ธรรมดา เพราะสัญญาว่าจะอยู่กับจูจื่ออวี้ทุกชาติ จูจื่ออวี้จึงได้ตามมาด้วย และได้เจอญาติสนิทที่จากกันไปแล้วอยู่พร้อมหน้าอย่างมีความสุข

หลังอ่านเล่ม 4 :
พออ่านถึงเล่มจบก็จะรู้ว่าทำไมชิงชิงถึงได้โชคดีอะไรขนาดนั้น ถ้าไม่เป็นแแบนี้ก็ไม่รู้จะจบยังไงเหมือนกันค่ะ โดยรวมเนื้อเรื่องสนุกนะคะ นักเขียนก็เริ่มเรื่องได้ดีตั้งแต่ต้น คิดว่าคงวางพล็อตแบบนี้ ก็สนุก ฮาตลอดเรื่อง อ่านเบาๆไม่เครียดดีค่ะ อ่านไปชิงชิงนี่รวมความโชคดีตั้งแต่เกิดจริงๆ มันต้องมีที่มาที่ไป ในที่สุดก็หาเหตุผลได้ล่ะ แฮปปี้มากๆเลยค่ะ

เนื้อเรื่อง :
ชิงชิงเป็นคนโชคดีมาตลอด แต่ทำไมถึงตายอย่างไม่เป็นธรรม พอลืมตาขึ้นอีกครั้งถึงรู้ว่าตัวเองอยู่ในร่างเด็กทารกเพิ่งคลอดในยุคโบราณ แต่ความทรงจำเดิมยังอยู่
พอชิงชิงเกิด ครอบครัวของชิงชิงก็โชคดีขึ้นมาตามไปด้วยเริ่มตั้งแต่วันที่ชิงชิงเกิด สวีหงต๋าบิดาของชิงชิงก็สอบติดซิ่วไฉ
ชิงชิงชอบเงินทองเป็นที่สุด ทั้งยังเก็บก้อนหินประหลาดบ่อยๆ บอกว่าเป็นสมบัติล้ำค่า หนิงซื่อมารดาของชิงชิงมีความคับแค้นใจที่บอกใครไม่ได้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ชิงชิง ชิงชิงก็ได้ยินบิดา มารดาคุยกันตั้งแต่ยังแบเบาะก็พอเดาได้แต่ไม่ได้สนใจ
หนิงซื่อคิดเปิดร้านขายชาดในตำบล เวลาชิงชิงไปอยู่หน้าร้านจะมีการค้าครั้งใหญ่ สวีหงต๋าต้องมาศึกษาในตำบลพอถึงเวลาไม่มีความมั่นใจในการสอบว่าตัวเองจะสอบติดจวี่เหริน แต่กลับสอบได้ เมื่อไปหาอาจารย์ที่สำนักศึกษาก็ได้รับคำแนะนำให้ลองไปหานักพรตบุ๋นดูอาจได้รับคำชี้แนะ ที่ไหนได้นักพรตทั้งสี่รอสวีหงต๋าอยู่ ทั้งยังบอกว่าจะให้ชิงชิงมาเป็นเด็กรับใช้ความจริงแล้วตั้งใจจะสั่งสอนชิงชิง สวีหงต๋าเป็นของแถมยังไม่รู้ตัว จูจูกับชิงชิงจึงได้เรียนสิ่งต่างๆจากนักพรตบุ๋น นักพรตแพทย์ นักพรตอาหาร และนักพรตภาพ จนสามปีผ่านไปนักพรตทั้งสี่ก็คิดว่ายังสอนสิ่งต่างๆให้ไม่หมด ต้องดึงสวีหงต๋าให้อยู่ต่ออีกสามปี
ตอนชิงชิงอายุหกขวบขอขึ้นเขาเก็บสมุนไพรเป็นครั้งแรกก็ได้เจอกับจูจื่ออวี้ ทายาทจวนเจิ้นกั๋วกงที่ออกมาหาสมบัติ ก็ได้ชิงชิงช่วยเหลือและสอนเรื่องราวเรือนหลังให้จูจื่ออวี้ จูจื่ออวี้ยังได้รับการชี้แนะจากนักพรตบุ๋นอีกด้วย จากนั้นมาจูจื่ออวี้ก็เฝ้ารอชิงชิงมาตลอด
เมื่อถึงเวลาต้องจากกันนักพรตบุ๋นยังมอบหนังสือล้ำค่าให้ชิงชิงมากมาย สวีหงต๋าเดินทางเข้าเมืองหลวงสอบจิ้นซื่อ ชิงชิงกับจูจูใช้วิชาความรู้ที่เรียนมาช่วยเหลือสวีหงต๋าเรื่องอาหารในการสอบ เรียกเสิ่นเสวี่ยเฟิงที่สอบห้องข้างๆให้สนใจได้
และก็เป็นไปตามความคาดหมายสวีหงต๋าสอบติด สุดท้ายได้เป็นจ้วนหยวน เสิ่นเสวี่ยเฟิงได้เป็นทั่นฮวา ชิงชิงทำอะไรก็ราบรื่นไปหมดและทำให้ครอบครัวโชคดีไปด้วย
ชิงชิงเปิดร้านขายภาพ ซึ่งเป็นที่สนใจ และราคาสูงมาก ขนาดไทเฮายังชื่นชอบ ประกอบกับเกิดภัยแล้งและอุทกภัยตามมา สวีหงต๋าสามารถหาวิธีแก้ปัญหาที่ใช้ได้ผลแก้ไขได้จึงสร้างผลงานทำให้ฮ่องเต้โปรดปราน มอบตำแหน่งให้นายหญิงตราตั้งให้ยายสวีกับหนิงซื่อตามที่สวีหงต๋ายื่นเรื่อง เมื่อไทเฮาได้พบกับชิงชิง ถึงได้รู้ว่าที่แท้ชิงชิงก็เป็นหลานสาว ฮ่องเต้กับไทเฮารักและโปรดปรานชิงชิงมาก มีไม่กี่คนที่รู้ความจริงแต่ก็ปล่อยให้เป็นความลับต่อไป คนไม่รู้มากมายล้วนอิจฉาชิงชิง
ชิงชิงไปที่ไหนก็ราบรื่นโดยตลอด จนตลอดชีวิตสุดท้ายแล้วจะได้รู้ว่าทำไมชิงชิงถึงได้โชคดีขนาดนี้ตลอดเวลา ใครๆก็สู้ไม่ได้จริงๆ

หลังอ่าน :
อ่านเรื่องราวนักเขียนปูเรื่องมาตั้งแต่แรกว่าชาติกำเนิดของชิงชิงเป็นปริศนา เรื่องจะค่อยๆเฉลยออกมาว่าสรุปแล้วชิงชิงเป็นลูกของใคร ที่สำคัญคือทำไมชิงชิงถึงได้โชคดีตลอดเวลา เพราะอะไรถึงเจอแต่ของดีที่ร้อยชาติ พันชาติคนอื่นก็ไม่มีวันเจอ สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะเฉลยออกมา ตั้งใจอ่านไปจนจบเรื่องแล้วจะรู้
แต่ระหว่างทาง เรื่องราวเฮฮา ขำขันแต่ละตอนของชิงชิง และคนอื่นๆก็สนุก ตลกไม่แพ้กัน อ่านไปขำไปจริงๆค่ะ อย่างคนสนิทของจูจื่ออวี้ทำไมถึงซื่อได้ขนาดนั้น มุกฮา มุกตลกนี่มีมาตลอดเรื่อง อ่านไปไม่ผิดหวังแน่นอน ถึงแม้จบแบบนี้ก็ถือว่าโอเคเพราะถ้าไม่จบแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าทำไมคนเรามันจะดวงดี โชคดีได้ขนาดนี้ แบบนี้มีเหตุผลรับได้ค่ะ ถือว่าโอเคเลยทีเดียว