Sunday, April 12, 2020

#พันสารท #4เล่มจบ #everY


Review 12/2563
เรื่อง : พันสารท (4 เล่มจบ) (นิยายวาย Y)
ผู้แต่ง : เมิ่งซีสือ (Meng Xi Shi)
ผู้แปล : Bou Ptrn
สำนักพิมพ์ : เอเวอร์วาย


เล่ม 1 พิมพ์ครั้งที่ 1 : ตุลาคม 2562

โปรยปกหลังเล่ม 1 :
เจ้าสำนักเขาเสวียนตู ‘เสิ่นเฉียว’ ถูกศิษย์ร่วมสำนักวางแผนทำร้ายจนตกสู่ก้นเหว
เขาบาดเจ็บสาหัสแทบสิ้นชีวิตประจวบเหมาะกับที่คนผู้หนึ่งผ่านมาพบเข้าพอดี
ผู้นั้นคือ ‘เยี่ยนอู๋ซือ’ประมุขพรรคมารผู้ทำตามอำเภอใจ เอาแน่เอานอนไม่ได้
ซ้ำยังประพฤติตนอวดดี โจษจันไปทั้งโลกอธรรมและธรรมมะ
เขาเลือกที่จะช่วยชีวิตเสิ่นเฉียวเอาไว้ด้วยหวังชี้นำให้เจ้าสำนักเลื่องชื่อ
หันหลังให้ความดี หันหน้าเข้าหาความเสื่อมทราม
ทว่า... เสิ่นเฉียวนั้นมีจิตใจที่เมตตาเอื้อเฟื้อ ทั้งอ่อนโยนและสุภาพ
ภายในกายยังหมุนเวียนไปด้วยความกล้าหาญที่ไม่อาจหักงอ
แม้จะฟื้นจากความตายพร้อมความทรงจำที่ขาดหาย แต่ความแค้นไม่อาจกำหนดทิศทางชีวิต
ต่อให้เยี่ยนอู๋ซือจะชักนำอย่างไร เสิ่นเฉียวก็จะยังคงยึดมั่นในวิถีของตนมิคลาย...

คำนำสำนักพิมพ์ :
"เสิ่นเฉียว" ถูกแผนร้ายเล่นงานพลาดพลั้งตกจากยอดเขาจนแทบเอาชีวิตไม่รอด หนำซ้ำเมื่อฟื้นขึ้นมาดวงตาที่เคยสุกใสกลับมืดบอด ความทรงจำที่มีก็คล้ายว่าจะสูญสิ้นไปหมดเสียแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขาไว้กลับเป็นประมุขนิกายมารผู้โด่งดัง คนคนนี้นึกจะทำอะไรก็ทำตามอำเภอใจโดยไม่แยแสใครหรือสิ่งใดในโลก และดูเหมือนว่าเบื้องหลังเจตนาดีที่ช่วยชีวิตเสิ่นเฉียวเอาไว้จะมีบางสิ่งบางอย่างเคลือบแฝงอยู่ เช่นนี้แล้วเจ้าสำนักผู้รักสงบ ทั้งยังน่ารักและจิตใจดีอย่างเสิ่นเฉียว จะสามารถเอาตัวรอดพ้นจากความวุ่นวายที่ตามมาได้หรือไม่
สำนักพิมพ์เอเวอร์วาย

เล่ม 1 :
เยี่ยนอู๋ซือเจ้าสำนักนิกายฮ่วนเยวี่ยออกจากการกักตนฝึกวิชาสิบปี เรื่องราวในยุทธภพเปลี่ยนแปลงไปมาก วันนี้ที่ยอดเขาปั้นปู้มีการต่อสู้กันของเสิ่นเฉียวเจ้าสำนักเขาเสวียนตูกับคุนเสีย แคว้นทูเจวี๋ย สุดท้ายได้ช่วยเหลือเสิ่นเฉียวเอาไว้โดยให้อวี้เซิงเยียนเป็นคนดูแล เสิ่นเฉียวที่ช่วยกลับมาบาดเจ็บสาหัส พอตอนหลังฟื้นขึ้นมาถึงพบว่าตามืดบอดทั้งยังความจำเสื่อม
ระหว่างนั้นเยี่ยนอู๋ซือก็ออกท่องเที่ยวเพื่อดูว่าในสิบปีนี้เกิดอะไรขึ้นบ้างและสืบหาร่องรอยชิ้นส่วนของคัมภีร์สุริยัน
เยี่ยนอู๋ซือให้อวี้เซิงเยียนพาเสิ่นเฉียวไปปฏิบัติภารกิจด้วยกัน นิสัยแปลกประหลาดชอบกลั่นแกล้งคนของเยี่ยนอู๋ซือใครก็ไม่อาจคาดเดาได้ เสิ่นเฉียวที่ไม่รู้เรื่องราวเรียกเยี่ยนอู๋ซือว่าอาจารย์ อวี้เซิงเยียนว่าศิษย์พี่ แต่พอรู้ว่าต้องมาฆ่าคนทั้งยังต้องฆ่าคนบริสุทธิ์เสิ่นเฉียวก็แอบทำลายแผนการของอวี้เซิงเยียน ทำให้อวี้เซิงเยียนปฏิบัติภารกิจไม่สำเร็จ ทั้งยังบอกความจริงว่าเสิ่นเฉียวเป็นเจ้าสำนักเขาเสวียนตู ให้ลองไปดูแล้วกัน เสิ่นเฉียวก็เริ่มออกเดินทางที่มีเพียงไม้เท้าไม้ไผ่เพื่อไปเขาเสวียนตู ระหว่างทางเจอเฉินกงคนงานแบกข้าวสารก็ร่วมทางกัน เสิ่นเฉียวจิตใจดีมีเมตตา สุภาพอ่อนโยน เมื่อเดินทางมาด้วยกันเรื่อยๆจนพบเจอกับสำนักลิ่วเหอ ที่เฉินกงอยากเข้าร่วม กลับมีเหตุการณ์ที่รวมตัวกันของยอดฝีมือ และเยี่ยนอู๋ซือก็ใช้ให้เสิ่นเฉียวอ่านคัมภีร์สุริยันเล่มจิตเพ้อพกจากนั้นก็ทำลายทิ้ง เพราะเรื่องนี้ทำให้เสิ่นเฉียวคิดว่าควรแยกจากกับเฉินกงเพื่อความปลอดภัยของเฉินกง แต่เฉินกงก็ยังขายตนให้มู่ถีผอ จวิ้นอ๋องแห่งเฉิงหยาง ทำให้เสิ่นเฉียวผิดหวังยิ่ง และเรื่องทั้งหมดเยี่ยนอู๋ซือก็คอยมองอยู่ เสิ่นเฉียวก็บอกว่าเยี่ยนอู๋ซือตั้งใจให้ตัวเองอ่านคัมภีร์สุริยันเล่มจิตเพ้อพก เพราะฉีเฟิ่งเก๋อ อาจารย์ได้ถ่ายทอดคัมภีร์สุริยันเล่มสัมภเวสีให้เสิ่นเฉียวเพียงผู้เดียว เมื่อมารวมกันก็ทำให้กระตุ้นจนกระอักเลือดคลั่ง ระหว่างเดินทางไปเขาเสวียนตูด้วยกันกับเยี่ยนอู๋ซือความจำของเสิ่นเฉียวก็ค่อยๆฟื้นฟูขึ้น เมื่อไปถึงก็จำเรื่องราวได้ทั้งหมด แต่ก็อยากจะแน่ใจจนต้องขึ้นเขาไปด้วยตัวเอง
และเสิ่นเฉียวก็ได้รู้ว่าที่ตัวเองประสบเรื่องราวทั้งหมดเพราะอวี้ไอ่อยากได้ตำแหน่งเจ้าสำนักของตน จึงวางแผนร้ายและยังร่วมมือกับชาวทูเจวี๋ยอีกด้วย เสิ่นเฉียวจึงจากมาพร้อมกับเยี่ยนอู๋ซือ แต่เยี่ยนอู๋ซือก็ไม่ได้ช่วยเปล่าอยากจะต่อสู้ด้วยเพื่อจะได้วิเคราะห์คัมภีร์สุริยัน สู้ทั้งๆที่เสิ่นเฉียวบาดเจ็บ จนเสิ่นเฉียวบรรลุขั้นจิตกระบี่
ตอนนี้เสิ่นเฉียวก็ตามเยี่ยนอู๋ซือไปเป่ยโจว ระหว่างทางเวลาอยู่กับคนนอกเยี่ยนอู๋ซือจะทำราวกับเสิ่นเฉียวเป็นชายบำเรอ เพราะเสิ่นเฉียวตาบอดมองไม่เห็นสีหน้าท่าทาง แต่คนอื่นเห็นกันหมด ชอบทดสอบความอดทนของเสิ่นเฉียวจนเห็นหน้าเปลี่ยนสีตัวเองก็จะพอใจ พออยู่ด้วยกันนานเข้าเสิ่นเฉียวเข้าใจนิสัยชอบหยอกล้อมากขึ้นหน้าก็ไม่เปลี่ยนสีแล้ว
พอเดินทางไปถึงฉางอัน ส่งข่าวให้ศิษย์เอกเปียนเหยียนเหมย หลังจากจัดการกับหยวนซิ่วซิ่ว นิกายเหอฮวนจนจากไป ยังจะพูดจาให้เข้าใจผิดได้อีกนะ
ตอนนี้เสิ่นเฉียวอยู่กับเยี่ยนอู๋ซือที่มีตำแหน่งพระอาจารย์น้อยในเป่ยโจว ก็เริ่มรู้ข่าวสารความเป็นไปมากขึ้นกว่าตอนอยู่เขาเสวียนตู เยี่ยนอู๋ซือเอาข่าวมาบอกว่างานวิจารณ์เต๋าเวทีหยกที่อวี้ไอ่อยากสร้างชื่อกลับเป็น หลี่ชิงอวี๋ชิงความโดดเด่นไปได้ และตอนนี้ทูตของเอ่อร์ฝูข่าน ขึ้นเขาเสวียนตูเชิญเขาเสวียนตูส่งคนมุ่งหน้าไปบรรยายเต๋าที่ทูเจวี๋ยตะวันออก
เสิ่นเฉียวไปงานวันเกิดฮูหยินผู้เฒ่าฉินในนามของเยี่ยนอู๋ซือ ในงานยังมีต้วนเหวินยาง ศิษย์พี่ของคุนเสีย ลูกศิษย์ของหูลู่กูมาก่อกวน ฐานะของเสิ่นเฉียวเปิดเผย และยังได้ช่วยชีวิตของซูเวยเอาไว้ทำให้มีบุญคุณกับจวนสกุลซู
เยี่ยนอู๋ซือบอกกับเสิ่นเฉียวว่าอวี่เหวินยง ฮ่องเต้โจวอยากพบ และยังบอกว่าอวี่เหวินยงจะส่งทูตไปเชื่อมสัมพันธ์กับเฉินตนจะไปด้วยเพราะอยากสู้กับผู้นำสำนักหรู่ หรู่เยียนเค่อฮุ่ยที่เจียงหนาน เมื่อพบอวี่เหวินยง ก็ได้รับการเสนอว่าจะช่วยฟื้นฟูสำนักเขาเสวียนตูให้ แต่เสิ่นเฉียวปฏิเสธไป
ระหว่างออกเดินทางลงใต้ สำนักเหอฮวนยังลอบมาดักฆ่าอวี่เหวินชิ่ง ทูตที่ฮ่องเต้โจวส่งมา ดีที่ได้เยี่ยนอู๋ซือ และเสิ่นเฉียวที่ไม่คิดว่าต้องออกโรงช่วยด้วย แล้วเยี่ยนอู๋ซือก็ยังแกล้งจนเสิ่นเฉียวถึงขั้นสลบไปอีก ฮามาก

หลังอ่านเล่ม 1 :
เล่มหนึ่งช่วงแรกจะบรรยายเหตุการณ์ต่างๆให้เข้าใจสถานการณ์โดยรวมของเรื่องทั้งพรรคต่างๆ แคว้นต่างๆ พอเยี่ยนอู๋ซือมาอยู่กับเสิ่นเฉียวนี่อย่างฮา อยู่ต่อหน้าคนอื่นทำราวกับนายเอกเป็นชายบำเรอ พออยู่ตามลำพังเจ้ากินเองเถอะ เปลี่ยนอารมณ์เป็นหน้ามือหลังมือ เสิ่นเฉียวนิสัยดี  สุภาพ ส่วนเยี่ยนอู๋ซือนิสัยเอาแน่เอานอนไม่ได้ เชื่อว่าเนื้อแท้ของมนุษย์นั้นชั่วร้ายจะคอยพูดจายุยง สอดเสียดตลอด และยังชอบแกล้งเสิ่นเฉียวอีกด้วย แต่สองคนก็อยู่ร่วมกันได้ดี ประมาณว่าอยู่จนชิน สนุกมากค่ะ ตามอ่านเรื่องราวต่อในเล่มสอง

เล่ม 2 พิมพ์ครั้งที่ 1 : ตุลาคม 2562

โปรยปกหลังเล่ม 2 :
เมื่อ ‘เยี่ยนอู๋ซือ’ พลั้งพลาดจนลมปราณแตกซ่าน
‘เสิ่นเฉียว’ คนดีจึงคอยอยู่เคียงข้างกาย ปกป้องภัยอันตรายจากรอบทิศ
พวกเขาเดินทางร่วมกันเนิ่นนาน ซ้ำประมุขเยี่ยนยังเป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิต
เสิ่นเฉียวจึงคิดว่าเยี่ยนอู๋ซือคือสหาย การกระทำเช่นนี้นับว่าสมควรแล้ว
ทว่าประมุขพรรคมารผู้นี้ยังคงเป็นคนใจดำที่ไม่เคยสนใจผู้ใดอยู่วันยันค่ำ
ขณะที่เสิ่นเฉียวมิได้ระแวดระวัง เยี่ยนอู๋ซือกลับฉวยโอกาสนั้นลอบทำร้าย
ส่งตัวเสิ่นเฉียวเข้าสู่เงื้อมมือ ‘ซางอิ่งสิง’ผู้โหดเหี้ยมด้วยตนเอง
ความไร้เดียงสาของเสิ่นเฉียวนำมาซึ่งอันตรายที่เขาไม่คาดคิด
แม้ถูกหักหลังจนตกสู่ห้วงแห่งความตายครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เขากลับยังยึดมั่นดังเดิม
ความแค้นมิอาจกำหนดทิศทางชีวิตของเขาเช่นไร บัดนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น

คำนำสำนักพิมพ์เล่ม 2 :
การมองโลกของ "เสิ่นเฉียว" ที่น่ารักของเราจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว แม้จะยังยึดมั่นในคุณธรรมมุ่งทำดีต่อผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ แต่เขาไม่ได้เอาแต่ยึดติดอยู่กับปณิธานเดิมที่ค่อนข้างเป็นการมองโลกมุมเดียวอีกต่อไป เสิ่นเฉียวเข้าใจความเป็นไปตามธรรมชาติของผู้คนและยุทธภพมากกว่าเดิม นับเป็นการเติบโตที่งดงามอีกก้าวหนึ่งของอดีตเจ้าสำนักผู้รักสงบคนนี้เลยใช่มั้ยล่ะคะ
สำนักพิมพ์เอเวอร์วาย

เล่ม 2 :
หลังมาถึงเจียงหนาน เมืองเจี้ยนคัง อวี่เหวินชิ่งก็รอการเรียกตัวจากฮ่องเต้เฉิน ตอนนี้ก็ออกมาเดินชมเมืองพร้อมทั้งเสิ่นเฉียวแต่เดินไปมากลับพลัดหลงกัน กลายเป็นเสิ่นเฉียวพบเจอหรู่เยียนเค่อฮุ่ยที่จะให้เสิ่นเฉียวไปดื่มน้ำชาที่สำนักศึกษาหลินชวน สุดท้ายเป็นเยี่ยนอู๋ซือตามมาเจอจึงทำการต่อสู้กับหรู่เยี่ยนเค่อฮุ่ย สู้อยู่นานสุดท้ายดูเหมือนเสมอกันแต่ความจริงหรู่เยี่ยนเค่อฮุ่ยบาดเจ็บมากกว่าแต่เยี่ยนอู๋ซือก็มีอาการธาตุไฟเข้าแทรกเช่นเดียวกัน เสิ่นเฉียวก็ยังคงคอยปกป้องอยู่ข้างๆ ไม่ให้คนมาทำร้าย ออกจากเจียงหนาน เสิ่นเฉียวแยกจากเยี่ยนอู๋ซือเพราะต้องการไปพบอวี้ไอ่ที่แคว้นฉี เมืองเย่เฉิงกลับได้พบเยี่ยนอู๋ซืออีก ทั้งสองจึงเดินทางด้วยกัน
พอถึงเย่เฉิงต่างคนต่างแยกจาก เสิ่นเฉียวหาอารามเต๋าเพราะคิดว่าพวกอวี้ไอ่คงมาพักที่นี่กับไม่พบคน ในอารามมีเจ้าอารามและศิษย์เพียงสองคน จากนั้นกลับเป็นเยี่ยนอู๋ซือที่มาหาเพื่อขอพักด้วยแต่กลับพาเสิ่นเฉียวไปหาซางอิ่งสิง บอกว่าพามาให้แลกกับกระบี่ไท่หวา ทั้งๆที่เสิ่นเฉียวเห็นเยี่ยนอู๋ซือเป็นสหายกลับทำแบบนี้กับตน และเพราะต้องสู้กับซางอิ่งสิงจึงต้องทุ่มเทสุดกำลังถึงขั้นทำลายรากฐานของตัวเองเพื่อจะได้ตายไปพร้อมกัน เรื่องนี้ทำให้เสิ่นเฉียวพบว่าเยี่ยนอู๋ซือแอบปลูกจิตมารในกายตัวเอง ตอนนี้ก็ทำลายไปทุกอย่างจนซางอิ่งสิงยังคิดว่าเสิ่นเฉียวบ้า และซางอิ่งสิงก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เสิ่นเฉียวได้รับการช่วยเหลือจากสืออู่ ลูกศิษย์ของเจ้าอารามแต่สืออู่คือเด็กที่เสิ่นเฉียวเคยช่วยเอาไว้ และในตอนนั้นคนของสำนักเหอฮวนก็มาตามหาเสิ่นเฉียว เจ้าอารามซึ่งความจริงคือจู๋เหลิ่งเฉวียน นิกายปี้สยาแห่งเขาไท่ซานได้ฝากฝังสืออู่กับเสิ่นเฉียว แล้วออกไปสู้ตายโดยไม่บอกที่ซ่อนของเสิ่นเฉียวและสืออู่ เรื่องนี้ทำให้เสิ่นเฉียวยังคิดได้ว่าโลกนี้ยังมีผู้คนที่ทำความดี ความดียังมีอยู่จึงเลือกจำแต่สิ่งดี และเพราะเสิ่นเฉียวทำลายรากฐานจึงได้เห็นถึงเคล็ดลับของคัมภีร์สุริยัน พิษสุขพบพานที่อยู่ในตัวก็หายไปด้วย เหมือนเป็นการในเรื่องร้ายก็ยังมีเรื่องดีเกิดขึ้น
เสิ่นเฉียวพาสืออู่กลับนิกายปี้สยาเขาไท่ซาน พอไปถึงก็พบกับการสู้กันภายในสำนักโดยมีศิษย์ของคุนเสียร่วมอยู่ด้วย เสิ่นเฉียวก็เข้ามาช่วยเหลือทั้งยังได้สู้กับคุนเสียอีกครั้ง เพราะเป็นมารในใจที่ต้องข้ามผ่าน ในที่สุดก็สามารถเอาชนะคุนเสียและกำจัดอีกฝ่ายไปได้ และได้รู้เรื่องแผนการล้อมฆ่าเยี่ยนอู๋ซือของห้ายอดฝีมือที่งานชุมนุมผานหลง เมืองฝูซื่อแห่งราชอาณาจักรถู่อวี้หุน
เสิ่นเฉียวเดินทางมาช่วยเยี่ยนอู๋ซือแต่ช้าไปก้าวหนึ่ง ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วแต่ยังดีที่เยี่ยนอู๋ซือยังไม่ตายเสิ่นเฉียวจึงพาไปรักษายังบ้านชาวบ้าน จนต้องมาสืบข่าวแล้วยังเจอกับพวกอวี้ไอ่จึงประกาศตัดสัมพันธ์และบอกความจริงเรื่องตนถูกวางยาตอนสู้กับคุนเสีย ตอนนี้เสิ่นเฉียวรู้จักการเอากำลังเข้าข่มหลังจากออกท่องยุทธภพมาหนึ่งปี
กลับไปพบว่าเยี่ยนอู๋ซือฟื้นแล้วแต่กับมีหลายบุคลิกเป็นทั้งเซี่ยหลิง ทั้งอาเยี่ยน และเยี่ยนอู๋ซือ แต่เนื้อแท้ก็ยังคือเยี่ยนอู๋ซือ
เฉินกงที่เสิ่นเฉียวเคยช่วยเหลือแล้วตอบแทนด้วยการทรยศมาหาพร้อมทั้งจับท่านปู่เจ้าของบ้านเป็นตัวประกันให้เสิ่นเฉียวเดินทางไปชั่วเชียง เพื่อตามหาโมราแดง เสิ่นเฉียวพาเยี่ยนอู๋ซือไปด้วย สุดท้ายเพราะว่าเฉินกงต้องการคัมภีร์สุริยันในกระบี่ไท่อา แต่คัมภีร์สุริยันเล่มนี้สำหรับพรรคมาร เป็นวิธีรักษาของเยี่ยนอู๋ซือพอดี ซึ่งทั้งหมดเยี่ยนอู๋ซือก็รู้ดี ทั้งๆที่ยังป่วยก็สามารถชิงมาได้ เมื่อออกมาจากเมืองใต้ดินเยี่ยนอู๋ซือก็ยังจะอยู่กับเสิ่นเฉียวต่อไป

หลังอ่านเล่ม 2 :
เล่มสองยังไงเสิ่นเฉียวก็ยังคงมองเห็นความดีในตัวคน ยังช่วยเหลือคน ไม่ใช่ตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้นเหมือนคนทั่วไป การมองโลกของเสิ่นเฉียวยังคงดีงามแม้จะผ่านเรื่องราวเลวร้ายก็ยังสามารถกลับมายืนได้อีกครั้ง เป็นเล่มที่แสดงถึงพัฒนาการของเสิ่นเฉียวได้อย่างดีทีเดียวค่ะ แต่ยังไงเสิ่นเฉียวก็ยังต้องเกี่ยวข้องกับเยี่ยนอู๋ซือ เมื่อพูดถึงเยี่ยนอู๋ซือก็ต้องพูดถึงเสิ่นเฉียว ครั้งนี้กลับกัน เพราะบาดเจ็บสาหัส เยี่ยนอู๋ซือถึงได้มีหลายบุคลิกแต่ก็ยังคงเป็นเยี่ยนอู๋ซือ ทำเอาเสิ่นเฉียวพูดไม่ออกทีเดียว นักเขียนเขียนได้ดี ทั้งเรื่องราว และความคิดตัวละคร รวมทั้งมุกประจำตัวของแต่ละคนด้วย ซึ่งขาดไม่ได้เลยค่ะ ตามต่อเล่มสามค่ะ

เล่ม 3 พิมพ์ครั้งที่ 1 : พฤศจิกายน 2562
โปรยปกหลังเล่ม 3 :
แม้ ‘เยี่ยนอู๋ซือ’ จะถอยห่างจากความตายมาได้แล้ว
แต่ร่างกายยังคงบอบช้ำ ซ้ำบุคลิกที่ควรมีเพียงหนึ่งก็กลับมีมากกว่านั้น
‘เสิ่นเฉียว’ จึงตั้งใจว่าจะพาเยี่ยนอู๋ซือกลับนิกายฮ่วนเยวี่ยเสียก่อน
ทว่าระหว่างเดินทางพวกเขาดันเผชิญหน้ากับศิษย์นิกายเหอฮวน
ที่หมายจับตัวเสิ่นเฉียวกลับไปให้ ‘ซางอิ่งสิง’ ล้างแค้นอย่างโหดเหี้ยม
น่าประหลาดที่คนเห็นแก่ตัวอย่างเยี่ยนอู๋ซือกลับห่วงใยเสิ่นเฉียวมากกว่าชีวิตตนเอง
เขาจี้จุดคนงาม ซ่อนตัวไว้ในผนังหินแล้วเผชิญหน้ากับศัตรูตามลำพัง
ทั้งที่เสิ่นเฉียวควรจะยินดีที่ประมุขแสนเย็นชาผู้นี้รู้จักคิดถึงผู้อื่นบ้างแล้ว
แต่ขณะที่ทำได้แค่นั่งนิ่งในผนังหิน ในใจเสิ่นเฉียวกลับรวดร้าวอย่างประหลาด
คล้ายกับกำลังหวาดหวั่นว่าจะต้องสูญเสียสิ่งสำคัญบางอย่างไปตลอดกาล

คำนำสำนักพิมพ์เล่ม 3 :
"เสิ่นเฉียว" ก็ยังคงผกผันขึ้นลงไม่หยุดเช่นเคย มีเส้นทางมากมายที่เขาต้องตัดสินใจว่าจะเลือกทางใดทางหนึ่งในนั้นคือการยื่นมือช่วยเหลือ "เยี่ยนอู๋ซือ" ทั้งที่อีกฝ่ายเคยหักหลังอย่างเลือดเย็นหลายคนคงตั้งคำถามว่าทำไมเสิ่นเฉียวถึงยังยอมช่วยคนคนนี้ ในใจไม่มีความรู้สึกเคียดแค้นต่อเยี่ยนอู๋ซือบ้างเลยหรือ นั่นคงเป็นเพราะพื้นฐานจิตใจของเสิ่นเฉียวมีความเมตตามากเกินกว่าที่จะนิ่งดูดายปล่อยให้ชีวิตคนคนหนึ่งดับสิ้นไปได้ และจนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงยึดถือคติเดิม นั่นคือทำความดีเพื่อความสบายใจของตนเอง ส่วนจะได้รับการตอบแทนหรือไม่ นั่นไม่ใช่เรื่องที่เขาสนใจ แน่นอนว่าการคิดแก้แค้นทั้งหลายย่อมไม่อยู่ในเสี้ยวความคิดแม้สักนิดเช่นกัน
สำนักพิมพ์เอเวอร์วาย

เล่ม 3 :
เสิ่นเฉียวกับเยี่ยนอู๋ซือเดินทางกลับมาถึงราชอาณาจักรถู่อวี้หุนแล้ว และยังให้เยี่ยนอู๋ซือปลอมตัวใส่ชุดผู้หญิงอีกด้วยจะได้ใส่หมวกคลุมหน้าได้ ช่วงนี้ทั้งสองอยู่ด้วยกันนี่ทั้งน่ารัก ทั้งฮา เยี่ยนอู๋ซือที่เสิ่นเฉียวชอบที่สุดคือตอนที่เป็นเซี่ยหลิง เรียกพี่ชายใจดี แต่เวลาที่เยี่ยนอู๋ซือตัวจริงออกมาก็มากขึ้นเรื่อยๆ ช่วงเวลาที่จะรักษาช่องโหว่ของจิตมารเพียงแค่ช้าหรือเร็วเท่านั้น เสิ่นเฉียวปรึกษาเยี่ยนอู๋ซือว่าจะเดินทางไปที่ไหนก่อนไปฉางอันเลยหรือไม่ เยี่ยนอู๋ซือให้ไปที่เว่ยโจว
หลวงจีนเสวี่ยถิงยังสามารถตามรอยมาถึงเว่ยโจวได้อีก เสิ่นเฉียวก็สามารถพาเยี่ยนอู๋ซือหนีมาได้ แม้จะโดนทำร้ายบาดเจ็บแต่เยี่ยนอู๋ซือก็เอาชงหรงหยกให้กิน ทั้งสองอยู่ด้วยกันสนิทกันมาก เสิ่นเฉียวฝันเห็นอาจารย์ และยังละเมอเรียกเซี่ยหลิงทำเอาเยี่ยนอู๋ซือออกจะหึงตัวเองเลยรังแกคนงามซะเลย ทั้งสองสนิทกันจริงๆ เยี่ยนอู๋ซือชอบหยอก ชอบแกล้งเสิ่นเฉียว และเวลาพูดก็เถียงสู้ไม่ได้ จบกันโดนรังแกตลอด
ตอนนี้เดินทางถึงอำเภอถงกู่ยังเจอคนของนิกายเหอฮวนอีก เยี่ยนอู๋ซือโดนล้อมสามต่อหนึ่ง เพราะชอบออกมาข้างนอก ส่วนเสิ่นเฉียวชอบอยู่ในโรงเตี๊ยม แต่พอถึงยามคับขันเสิ่นเฉียวก็มาสู้จนสามารถพาเยี่ยนอู๋ซือหนีออกมาได้ก่อนที่จะมีผู้มาช่วยอีกสองคนหนึ่งในนั้นคือซางอิ่งสิง เสิ่นเฉียวใช้วิชาตัวเบาหนีจะหมดแรง เยี่ยนอู๋ซือก็ออกอุบายบอกว่ามีวิธี สุดท้ายเอาเสิ่นเฉียวไปซ่อนตัวเองออกไปล่อซางอิ่งสิงและยังกว่าคำสั่งเสียเอาไว้ว่าต้องไปไหนทำยังไงต่อไปอีกบ้าง เรื่องนี้ทำเอาเสิ่นเฉียวเสียใจที่ถูกทิ้งทีเดียว และระหว่างที่ถูกซ่อนตัวเสิ่นเฉียวก็สามารถบรรลุอีกขั้นเข้าใจเนื้อหาของคัมภีร์สุริยันที่ก่อนหน้านี้ไม่เข้าใจ ทำให้เปิดลมปราณทั่วร่างได้ ความสามารถเพิ่มขึ้นมาอีก ตอนที่เซียวเซ่อ ไป๋หรง เหยียนโซ่วและเป่าอวิ๋นมาถึง เสิ่นเฉียวก็สามารถทะลวงจุด ชีพจรขยายกว้างคราวนี้ก็มุ่งเน้นโจมตีเหยียนโซ่ว จนสามารถตัดแขนขวาของเหยียนโซ่วได้ ก่อนที่จะหนีไป ส่วนไป๋หรงก็หลอกให้เสิ่นเฉียวไปหาเยี่ยนอู๋ซือผิดทาง สุดทางก็ต้องเดินทางมาฉางอันตามแผนการ
ฉางอันเปลี่ยนแปลงไปเพราะไม่มีอวี่เหวินยงแล้ว ตอนนี้เสิ่นเฉียวจะหาเปียนเหยียนเหมยก็หาไม่เจอกลับพบโต้วเหยียนที่แอบในจวนเปียน และเสิ่นเฉียวได้พาไปส่งที่จวนสกุลซูทำให้ได้พบกับอวี่เหวินเซี่ยนที่เยี่ยนอู๋ซือคิดจะสนับสนุนแทนอวี่เหวินยง โต้วเหยียนบอกเรื่องราวที่พบเห็นมา ระหว่างนั้นคนของอวี่เหวินเซี่ยนยังพาอวี่เหวินซ่งมา ทำให้อวี่เหวินอวินรู้ความเคลื่อนไหวผู้มาล้อมจับก็คือคนคุ้นเคยของเสิ่นเฉียวอีกแล้ว มู่หยงชิ่น คราวนี้เฉินกงก็เปลี่ยนนายใหม่เพราะกระบี่ไท่อา
เสิ่นเฉียวปกป้องเด็กทั้งสองออกนอกเมืองซึ่งยังมียอดฝีมือมาล้อมจับอีกสามคนคือเหยียนโซ่ว เป่าอวิ๋นกับเฉินกง สุดท้ายเสิ่นเฉียวก็กำจัดเหยียนโซ่วและเป่าอวิ๋น สองผู้อาวุโสนิกายเหอฮวนได้ เมื่อออกนอกเมืองโต้วเหยียนได้พบบิดา ส่วนอวี่เหวินซ่งเสิ่นเฉียวจะพาไปนิกายปี้สยาแห่งเขาไท่ซาน
เสิ่นเฉียวพาอวี่เหวินซ่งเดินทางอ้อม เพื่อให้เด็กน้อยผ่อนคลายจิตใจและยังคิดรับเป็นศิษย์จะไปทำพิธีการอาจารย์กันที่นิกายปี้สยา ระหว่างทางเมื่อเดินทางถึงเขตหรู่หนานมีงานวันเกิดของหวงซีเต้า เชี่ยวชาญการดนตรี อวี่เหวินซ่งอยากฟังพิณจึงขอไปฟัง ทำให้เสิ่นเฉียวได้พบกวงหลิงส่านที่อยู่กับเยี่ยนอู๋ซือพอดี เยี่ยนอู๋ซือกับทำเหมือนจำเสิ่นเฉียวไม่ได้ เสิ่นเฉียวนึกว่าเยี่ยนอู๋ซือความจำเสื่อมอีกแล้วเป็นห่วงอย่างมาก ที่ไหนได้ตกดึก เยี่ยนอู๋ซือมาหาเสิ่นเฉียวแสดงความเป็นห่วงจนเยี่ยนอู๋ซือเริ่มคิดได้ว่าโลกนี้มีเสิ่นเฉียวคนเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ตอนนี้ยอมรับตัวตนเซี่ยหลิงที่พอนึกก็รู้สึกทำให้ตัวเองขายหน้าแล้ว ในที่สุดก็รู้ว่าชอบอาเฉียวแล้วสินะ ประมุขเยี่ยน เยี่ยนอู๋ซือพาเสิ่นเฉียวไปดูเรื่องสนุกก็คือรองประมุขพรรคลิ่วเหอสมคบกับบุตรคนรองของหวงซีเต้า แล้วบอกว่าพวกนี้จะทำอะไรกันตอนนี้เยี่ยนอู๋ซือจะรอดูเรื่องสนุกที่จะเกิดขึ้น
ทั้งสามเดินทางไปนิกายปี้สยาด้วยกัน เยี่ยนอู๋ซือสนิทกับเสิ่นเฉียวมาก แม้จะคอยแกล้งแต่เพราะชอบมองสีหน้าต่างๆของเสิ่นเฉียวที่คิดว่าน่ารักไปหมด ทั้งเรียกอาเฉียวของเราตลอด จนกระทั่งหลี่ชิงอวี๋ศิษย์อารามฉุนหยางมาพบจ้าวฉืออิ๋งประมุขเจ้าสำนักเพื่อบอกข่าวงานชุมนุมประลองกระบี่ที่มีตำหนักหลิวหลีเป็นผู้จัดอันดับ เพราะศิษย์นิกายปี้สยาเหลือน้อยจ้าวฉืออิ๋งจึงคิดใช้งานนี้เพื่อหาศิษย์รุ่นใหม่ และขอให้เสิ่นเฉียวเดินทางไปด้วย
เรื่องราวภายนอก สำนักพุทธและนิกายเหอฮวนแบ่งกันครองอำนาจจนทำให้พรรคเล็กพรรคน้อยโดนกลืนกิน อารามฉุนหยางคิดใช้งานนี้รวบรวมคนเพื่อต่อต้านกับนิกายเหอฮวน เมื่อเดินทางไปถึงระหว่างการประลองหยวนซิ่วซิ่วประมุขนิกายเหอฮวนก็มาเพื่อจะได้กำจัดกลุ่มที่จะมาเป็นพันธมิตร ตอนนี้จึงเกิดการต่อสู้ของผู้มีฝีมือกันอย่างแท้จริงหลี่ชิงอวี๋ประลองชนะเซียวเซ่อทำให้ของประลองกับหยวนซิ่วซิ่วแต่หยวนซิ่วซิ่วปฏิเสธ เวลานั้นจางอิ่งสิงก็ตามมาทำให้เกิดการประลองกับอี้ปี้เฉิน ส่วนหยวนซิ่วซิ่วมาขอประลองกับเสิ่นเฉียว ทั้งสองสู้กันจนไปถึงใต้หุบเขาหยวนซิ่วซิ่วพยายามถ่วงเวลาเสิ่นเฉียวทำให้คิดว่าไม่ได้การณ์ เมื่อกลับขึ้นเขาจึงเห็นว่าหูลู่กูมาถึง แปลว่าตลอดมาหูลู่กูแกล้งตายมาตลอดตามการคาดการณ์ของเยี่ยนอู๋ซือ อี้ปี้เฉินต่อสู้จนได้รับบาดเจ็บภายใน จนเมื่อหูลู่กูเห็นเสิ่นเฉียวและรู้ว่าเป็นคนฆ่าคุนเสียและเป็นศิษย์ของฉีเฟิ่งเก๋อจึงต่อสู้ด้วย เสิ่นเฉียวทุ่มความสามารถจนได้รับบาดเจ็บ หูลู่กูยังคิดกำจัดเสิ่นเฉียว จากการที่ช่วยคนมาตลอดทำให้เห็นว่ามีคนปกป้องมากมาย แต่สุดท้ายคนที่มาช่วยเสิ่นเฉียวจริงๆคือเยี่ยนอู๋ซือที่พาเสิ่นเฉียวหนีไป
เยี่ยนอู๋ซือดูแลเสิ่นเฉียว และยังสารภาพว่าชอบเสิ่นเฉียวมีเพียงเสิ่นเฉียวคนเดียวที่ตัวเองใส่ใจ แต่เสิ่นเฉียวไม่ไว้ใจเยี่ยนอู๋ซือแล้วเพราะตอนนั้นตัวเองมอบความเป็นสหายให้แต่กลับได้การทรยศเป็นการตอบแทน ตอนนี้คือกรรมตามสนอง ขุดหลุมฝังตัวเอง แต่เยี่ยนอู๋ซือหรือจะยอมแพ้ คนที่ตัวเองชอบยังไงก็ต้องได้มา
และตอนนี้ก็ได้รับจดหมายขอความช่วยเหลือจากเปียนเหยียนเหมย ที่ช่วยส่งมาจากผู่ลิ่วหรูเจียน ที่ตอนนี้เยี่ยนอู๋ซือคิดจะสนับสนุนต่อจากอวี่เหวินเซี่ยน ขอให้ช่วยเหลือจากฉางอัน

หลังอ่านเล่ม3 :
เล่มนี้เยี่ยนอู๋ซือในที่สุดก็คิดได้ว่ายังไงเสิ่นเฉียวก็ดีที่สุด อะไรก็อาเฉียวของข้า อย่างนู้น อย่างนี้แถมมองว่าทำอะไรก็น่ารัก ชอบแกล้งอีกต่างหาก เสิ่นเฉียวนี่ยังคิดไม่ออกเลยนะว่าประมุขเยี่ยนเปลี่ยนไปแล้ว น่ารักมากเลยค่ะ เนื้อเรื่องดำเนินไปได้ดี ตอนนี้ก็เริ่มเห็นแล้วว่าใครจะเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้า กับช่วงเวลากลียุคที่กำลังแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งกำลังแบ่งพรรคพวกก็กำลังจะได้ข้อสรุป มาตามลุ้นว่าในกลียุคจะจบลงอย่างไร เสิ่นเฉียวจะทำอย่างไรต่อไป และเยี่ยนอู๋ซือจะหลอกล่ออาเฉียวให้ติดบ่วงของตัวเองได้ยังไง มาลุ้นต่อในเล่มจบเลยค่ะ
เล่ม 4 พิมพ์ครั้งที่ 1 : พฤศจิกายน 2562
โปรยปกหลังเล่ม 4 :
นับจากวันที่ ‘เสิ่นเฉียว’ จากฉางอันมาเมื่อครั้งฮ่องเต้โจวสวรรคต
วันเวลาผันผ่าน เรื่องราวมากมายไหลเรื่อยราวสายน้ำ
จนเมื่อ ‘เยี่ยนอู๋ซือ’ ได้รับจดหมายขอความช่วยเหลือฉบับหนึ่ง
ระหว่างที่กำลังดูแลเสิ่นเฉียวซึ่งยังคงบาดเจ็บจากการประมือกับยอดฝีมือชาวทูเจวี๋ย
เนื้อความในจดหมายกล่าวถึงฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ฮองเฮา และกลุ่มอิทธิพลหลากนิกาย
ดูเหมือนว่า...ฉางอันกำลังจะต้องก้าวเข้าสู่การผลัดเปลี่ยนบัลลังก์อีกครั้ง
เมื่อ ‘ผู่ลิ่วหรูเจียน’ ถูกบีบคั้นจนมิอาจเลือกทางใด
นอกเสียจากกำจัดต้นเหตุของปัญหานั้นให้สิ้นซาก

เล่ม 4 :
เยี่ยนอู๋ซือและเสิ่นเฉียวเดินทางเข้าฉางอัน และไปอย่างเปิดเผย เสิ่นเฉียวมีชื่อเสียงอย่างมากตั้งแต่ตอนช่วยเหลืออวี่เหวินซ่งออกนอกเมือง เมื่อกลับมาก็ไม่มีใครขวาง เพราะทั้งสองล้วนเป็นยอดฝีมือ เยี่ยนอู๋ซือไม่สนใจสิ่งใดตรงไปที่จวนของพระอาจารย์น้อยที่ทางการปิดอย่างเปิดเผยทีเดียว เสิ่นเฉียวที่กำลังโกรธเยี่ยนอู๋ซืออยู่ถึงกับพูดไม่ออก ตอนนี้กำลังทำสงครามไม่ยอมพูดด้วยอยู่นี่สิ สุดท้ายเยี่ยนอู๋ซือนัดเจอเปียนเหยียนเหมย  ผู่ลิ่วหรูเจียน ที่มาขอร้องให้ช่วยบุตรชาย กับบุตรสาวที่เป็นฮองเฮาของอวี่เหวินอวิน ตอนแรกเยี่ยนอู๋ซือยังพูดลองใจ สุดท้ายก็ตกลงให้ความช่วยเหลือ
แผนคือให้เสิ่นเฉียวกับเปียนเหยียนเหมยเข้าวังไปช่วยเหลือ เยี่ยนอู๋ซือประสานภายนอก นัดกันวันที่หลวงจีนเสวี่ยถิงออกจากวังไปข้างนอก เมื่อถึงวันนัด เสิ่นเฉียวถึงเพิ่งรู้ว่าต้องปลอมเป็นสาวใช้ แต่งเป็นสตรีพอแต่งออกมาเยี่ยนอู๋ซือถึงกับตะลึง ความคิดที่สองคือข้าก็ตาดีนะเนี่ย ก็คนงามนี่นะ เข้าวังกับคนของผู่ลิ่วหรูเจียนอีกสองคน เมื่อถึงตำหนักของฮองเฮาผู่ลิ่วหรูถึงค่อยบอกแผนการ ตอนนั้นอวี่หวินอวินก็มาหา ทั้งยังเกี้ยวพาเสิ่นเฉียวซะอีก สุดท้ายเลยต้องลงมือจับอวี่เหวินอวินเป็นตัวประกัน แต่ข้างกายกับมีหลวงจีนเสวี่ยถิงปลอมตัวมาเช่นกัน ส่วนเยี่ยนอู๋ซือก็ปลอมเป็นสาวใช้มานั้นเอง โดยใช้หนังมนุษย์ที่ได้จากฮั่วซีจิงที่เยี่ยนอู๋ซือจะเอาให้เสิ่นเฉียว ที่ยังไงก็ไม่ยอมรับตัวเองก็ใช้เอง ทั้งสองสู้กันเพราะเยี่ยนอู๋ซือมีแค้นที่โดนล้อมฆ่าคราวนั้น โต้วเยี่ยนซานถูกเยี่ยนอู๋ซือใช้แผนจัดการไปเรียบร้อย ก่วงหลิงส่านละไว้ชั่วคราว อวี้ไอ่ให้เสิ่นเฉียวจัดการ ต้วนเหวินยางละไว้ก่อน ตอนนี้ยังไงก็ต้องจัดการหลวงจีนเสวี่ยถิง
เสิ่นเฉียวจับอวี่เหวินอวินได้ แต่บุตรคนรองของผู่ลิ่วหรูเจียนกลับโดนลักพาตัวไป ตอนหลังคนลักพาตัวก็มาหานั้นคือมู่หยงชิ่งที่ให้เสิ่นเฉียวไปคนเดียว เฉินกงเป็นตัวการเอากระบี่จี้ผู่ลิ่วหรูอิงเรียกร้องขอคัมภีร์สุริยันที่เคยอยู่ในวังเป่ยโจว ซึ่งผู่ลิ่วหรูเจียนมอบให้เสิ่นเฉียวก่อนหน้านี้ และยังให้ท่องในส่วนที่เขาเสวียนตูครอบครองอยู่อีก จากนั้นก็พร่ำบ่นว่าเสิ่นเฉียวโชคดีที่ตอนนั้นเยี่ยนอู๋ซือเป็นคนช่วยจากเขาปั้นปู้ ไม่เหมือนตัวเองที่เคราะห์ร้าย ดวงไม่ดี สุดท้ายเสิ่นเฉียวทำลายวรยุทธ และยังที่น่าตกใจคือผู่ลิ่วหรูอิงเป็นคนเอากระบี่แทงตาย
หลังการก่อกบฏของผู่ลิ่วหรูเจียนเป่ยโจวกลับมาสงบอีกครั้ง ทั้งยังคืนความยุติธรรมให้คนทั้งหลาย สองเดือนต่อมา ผู่ลิ่วหรูเจียนขึ้นครองบัลลังก์เปลี่ยนกับมาใช้แซ่หยางของชาวฮั่น เปลี่ยนรัชศกเป็นไคหวง เริ่มราชวงศ์สุย ทางเหนือผลัดเปลี่ยนยุคสมัย ความวุ่นวายและกลียุคหลายร้อยปีในที่สุดก็ต้อนรับหน้ากระดาษใหม่
หยวนอิงได้รับจดหมายที่กู้เหิงปัวแอบมอบให้ทำให้รู้สถานการณ์ในสำนักจึงออกมาจากเขาเสวียนจีมาตามหาเสิ่นเฉียว ระหว่างทางพบอวี้เซิงเยียนจึงทำให้รู้ข่าวคราว และมาพบเสิ่นเฉียวได้ หลังจากเล่าเรื่องราวของเขาเสวียนตู เสิ่นเฉียวก็คิดจะกลับไปดูสักรอบหนึ่ง โดยเสิ่นเฉียวจะไปกับเปียนเหยียนเหมย เยี่ยนอู๋ซือบอกว่ามีธุระต้องไปจัดการ
ถึงเชิงเขาเสวียนตู เสิ่นฉียวถึงได้ข่าวว่าเยี่ยนอู๋ซือส่งสารท้าประลองกับหูลู่กู เรื่องนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทำเพื่อเสิ่นเฉียวเพื่อให้หูลู่กูไม่มายุ่งกับทางเขาเสวียนตู เปียนเหยียนเหมยบอกเสิ่นเฉียวอีกเรื่องคือที่ไว้ชีวิตเสวี่ยถิงเพราะจะเอาไปแลกคัมภีร์สุริยันส่วนสุดท้ายที่นิกายเทียนไถ
พอขึ้นเขาก็พบว่าเหล่าผู้อาวุโสกำลังประชุมเรื่องคัดเลือกเจ้าสำนักคนใหม่อยู่ เพราะตอนนี้อวี้ไอ่หายตัวไป ถานหยวนชุนศิษย์พี่ ที่เป็นศิษย์เอกของเสิ่นเฉียวรักษาการณ์แทนอยู่ ตอนนั้นเองที่มีศิษย์มาแจ้งว่านิกายเหอฮวน กับชาวทูเจวี๋ยบุกขึ้นเขา เรื่องราววุ่นวาย ระหว่างนั้นอวี้ไอ่ที่หายตัวไปก็ปรากฏตัวด้วยสภาพบาดเจ็บ และบอกว่าถูกลอบทำร้ายน่าจะมีคนในลอบทำร้ายด้วย
เมื่อเริ่มสู้กันซางอิ่งสิงต่อสู้กับเสิ่นเฉียวเมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญ เสิ่นเฉียวรู้ว่ามีผู้ลอบทำร้ายลับหลังแต่หันไปต้านรับไม่ทัน เมื่อซางอิ่งสิงแพ้และหนีไปจึงเห็นว่าอวี้ไอ่มีช่วยเหลือเสิ่นเฉียว และผู้ที่ลอบทำร้ายคือถานหยวนชุน ต้วนเหวินยางหลังจากต่อสู้แพ้เสิ่นเฉียวเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไม่ได้ก็คิดจากไป โดยบอกว่าในปีนั้นคนที่คอยยุยงอยู่ด้านข้างให้อวี้ไอ่วางยาเสิ่นเฉียวก็คือถานหยวนชุน ตอนนี้เรื่องสำคัญคือตามหาถานหยวนชุนสอบถามความจริง
เมื่อทุกอย่างยุติลง ชาวทูเจวี๋ยและคนนิกายเหอฮวนจากไปถึงเวลาสะสางสำนัก เหล่าผู้อาวุโสต่างพร้อมกันยอมรับเสิ่นเฉียวเป็นเจ้าสำนักอีกครั้ง เมื่อได้พูดคุยกับถานหยวนชุนถึงรู้ว่าตลอดหลายปีมานี้ถานหยวนชุนที่รู้จัก ไม่ใช่ถานหยวนชุนที่แท้จริงมีแต่ความอิจฉาริษยา และเสแสร้งมาตลอด เสิ่นเฉียวในฐานะเจ้าสำนักจึงทำลายวรยุทธ์และให้ไปเฝ้าสุสานปรมาจารย์
ตอนนี้ก็มาสนใจกับเยี่ยนอู๋ซือที่ต้องประลองกับหูลู่กู เสิ่นเฉียวเป็นกังวลแต่เยี่ยนอู๋ซือกับทำตัวตามสบาย ในที่สุดก็กลับมาที่จุดเริ่มต้นเรื่องราว ยอดเขาปั้นปู้อีกครั้ง เยี่ยนอู๋ซือประลองกับหูลู่กูเดิมพันเป็นตาย สุดท้ายแล้วเป็นเยี่ยนอู๋ซือหาจุดอ่อนของหูลู่กูได้จึงเป็นฝ่ายมีชัย
เสิ่นเฉียวถึงขนาดใช้วิชาตัวเบาข้ามจากยอดเขาอิงหุ่ยไปยังยอดเขาปั้นปู้ ถ้าไปช้าอีกก้าวก็ไม่แน่ว่าจะช่วยเยี่ยนอู๋ซือได้ เสิ่นเฉียวยังนึกว่าเยี่ยนอู๋ซือจะตายแล้วเลยถึงขนาดบอกว่าถ้าฟื้นขึ้นมาให้ทำอะไรก็ยอม
ตอนนี้คือช่วงเวลาที่เยี่ยนอู๋ซือทวงสัญญาว่าให้เสิ่นเฉียวยอมทำอะไรก็ได้ตามที่สัญญา คนงามเริ่มไม่อยากมองหน้าแล้ว ประมุขเยี่ยนจะทำยังไงกันนะเนี่ย เลยต้องใช้ยาแรงทำเป็นโกรธไม่สนใจ เสิ่นเฉียวก็ออกเดินทางระหว่างทางก็เริ่มคิดได้ขึ้นเรื่อยๆ ยาแรงได้ผล ประมุขเยี่ยน ทำอะไรจะไม่ได้ผลได้ยังไง ทั้งสองเป็นปรมาจารย์ทั้งคู่ มีแต่คนนับถือ เวลาผ่านไปราชวงศ์สุยตามที่เยี่ยนอู๋ซือวิเคราะห์ และเสิ่นเฉียวดูนรลักษณ์คงจะอยู่ได้แค่สองรุ่นถ้ายังไม่ปรับปรุง แต่เรื่องเหล่านี้เมื่อเสิ่นเฉียวได้ยินสุดท้ายก็ได้แต่ปล่อยวาง

หลังอ่านเล่ม 4 :
เรื่องราวทุกอย่างคลี่คลายทั้งเรื่องสำนัก เรื่องในยุทธภพ สุดท้ายก็คือเยี่ยนอู๋ซือจะทำยังไงให้อาเฉียวมาอยู่ด้วยกันนะเนี่ย ทุ่มทุกทางจริงๆ ประมุขเยี่ยนต้องกรรมสนองเพราะเคยทำตัวเอาไว้มาก กว่าเสิ่นเฉียวจะรู้ตัวได้ ก็ยังอ้ำอึ้งไม่กล้าเผย คนงามทำอะไรก็น่ารักไปหมด อ่านไปฟินไป เพราะว่าน่ารักมากๆๆๆ ชอบสไตล์การเขียนของนักเขียนมากค่ะ แนะนำให้อ่านเลยจริงๆ

เนื้อเรื่อง :
เสิ่นเฉียวเจ้าสำนักเขาเสวียนตูศิษย์ผู้บรรลุฉีเฟิ่งเก๋อประลองกับคุนเสีย ศิษย์ของหูลู่กูที่ยอดเขาปั้นปู้ ได้รับบาดเจ็บตกจากหน้าผา ดีที่ได้เยี่ยนอู๋ซือช่วยชีวิตเอาไว้ เพราะออกจากการเก็บตนมาพบพอดี เยี่ยนอู๋ซือช่วยก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
เสิ่นเฉียวฟื้นขึ้นมากลับตาบอด และวรยุทธ์สูญสิ้น ความจำเสื่อมอีก ตอนนี้เป็นช่วงตกต่ำของเสิ่นเฉียว เยี่ยนอู๋ซือเดินทางท่องเที่ยวเพื่อดูว่าในสิบปีนี้ในยุทธภพมีความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง และสืบหาร่องรอยของคัมภีร์สุริยัน ซึ่งมีห้าเล่ม สามเล่มมีเจ้าของส่วนอีกสองเล่มไม่มีเจ้าของ
เยี่ยนอู๋ซือช่วยเสิ่นเฉียวมาตอนแรกไม่ได้สนใจ แต่ก็ส่งให้ไปทำภารกิจกับศิษย์ของตัวเอง ทั้งๆที่เสิ่นเฉียวตาบอดสูญเสียวรยุทธ์แต่กลับยังมีจิตใจเมตตา หลังจากทำให้งานล้มเหลวก็ถูกอวี้เซิงเยียน ศิษย์ของเยี่ยนอู๋ซ์อบอกความจริงว่าเสิ่นเฉียวเดิมคือใคร ดังนั้นจึงคิดกลับเขาเสวียนตูสักครั้ง ระหว่างทางที่ลำบากก็ได้ช่วยเฉินกงเอาไว้ ต่อมายังมีเหตุการณ์ที่ได้พบกับคนพรรคลิ่วเหอที่กำลังนำส่งชิ้นส่วนคัมภีร์สุริยัน เยี่ยนอู๋ซือใช้พลังปราณทำให้เสิ่นเฉียวมองเห็น และอ่านออกมาจากนั้นก็ทำลายคัมภีร์สุริยันส่วนนั้นทิ้งเป็นการเพิ่มศัตรูไปทั่ว ทำอะไรตามใจของเยี่ยนอู๋ซือ ต่อมาเสิ่นเฉียวรู้ว่าตัวเองมีอันตรายจึงแยกทางกับเฉินกง แต่เฉินกงตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้น เรื่องนี้เยี่ยนอู๋ซือเอามาพูดกับเสิ่นเฉียวบ่อยครั้งเพราะบอกว่าเนื้อแท้ของคนเรามีความชั่วร้าย ไม่เชื่อว่าจะมีคนดีดูจริง แต่เสิ่นเฉียวพิสูจน์หลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่โดนทรยศหักหลัง ยังไงก็ยังคงความดี
แม้เสิ่นเฉียวจะเป็นคนใจอ่อนแต่ความจริงเป็นคนอ่อนนอกแข็งใน เมื่อเยี่ยนอู่ซือรู้ใจตัวเองแล้ว ก็จะต้องหาวิธีทำให้อาเฉียวมาเป็นของตัวเองให้ได้ ทั้งๆที่ตอนแรกที่เสิ่นเฉียวตาบอด เยี่ยนอู๋ซือจะกลั่นแกล้งโดยการทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่าเสิ่นเฉียวเป็นชายบำเรอของตัวเอง แต่เมื่อได้พบตัวจริงจะเห็นว่าคนที่มีบุคลิกแบบนี้ จิตใจมั่นคงแบบนี้ไม่มีทางพึ่งพิงเยี่ยนอู๋ซือแน่นอน
มาดูเรื่องราวในยุทธภพ ที่เกี่ยวเนื่องในช่วงบ้านเมืองกลียุค ผู้แข็งแกร่งอยู่รอด แต่ก็ยังพบได้กับคนที่มีจิตใจมั่นคงอย่างเสิ่นเฉียว ทั้งๆที่อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ จากตอนแรกที่เก็บตัวอยู่ในเขาเสวียนตู เมื่อพบเจอการทรยศหักหลัง ก็มีการเติบโตทางความคิด และจิตใจยังคงเดิม ไม่จำแค้น แต่จำความดี คนเช่นนี้จะให้ประมุขเยี่ยนปล่อยให้หลุดรอดไปได้ยังไง ยังไงก็ต้องเก็บอาเฉียวเอาไว้ใกล้ตัวตลอดไป

หลังอ่าน :
ตัวเอกทั้งสองเยี่ยนอู๋ซือ และเสิ่นเฉียวลักษณะนิสัยชัดเจน นักเขียนเขียนลักษณะนิสัยตัวละครต่างๆออกมาได้ดี เจาะลึกถึงแก่นแท้มนุษย์ ที่เยี่ยนอู๋ซือเข้าใจก็ถูกมนุษย์นั้นในใจล้วนมีความชั่วเพราะเห็นโลกมามาก พบเจอสิ่งต่างๆมาเยอะ แต่คนแบบเสิ่นเฉียวย่อมมีอยู่ที่ยังมีความดีในตัวคน จดจำความดีไม่จดจำความแค้น อ่อนนอกแข็งใน อย่าตัดสินคนจากรูปร่างหน้าตาภายนอก พออ่านจบนอกจากได้ความสนุก ได้พบเรื่องราวที่ตัวละครพบเจอ ยังได้อะไรจากตัวละครต่างๆอีกด้วย
นักเขียนยังสอดแทรกเรื่องราวทางการประวัติศาสตร์ การเมือง ตามแบบฉบับ สไตล์เมิ่งซีสือ สรุปว่ามีครบทุกรส ทั้งน่ารัก ทั้งกวน ทั้งฮา เจ้าเล่ห์ มีทุกอย่างจริงๆค่ะ