Tuesday, February 18, 2020

#ลำนำรักนักษัตรปีจอ #เล่มเดียวจบ #มากกว่ารัก #แจ่มใส


Review 6/2563
เรื่อง : ลำนำรักนักษัตรปีจอ (เล่มเดียวจบ)
ผู้แต่ง : ถงซิน
ผู้แปล : หยกชมพู
สนพ. แจ่มใส (มากกว่ารัก)
พิมพ์ครั้งที่ 1 : มีนาคม 2562


โปรยปกหลัง :
เพื่อตามหาคู่ร่วมแข่งขันที่สามารถช่วยนางให้ชนะการแข่งขันบนสวรรค์ได้
นางซึ่งเป็นนักษัตรปีจอจึงได้เข้ามาอยู่ในนิทานเลื่องชื่อเพื่อเป็นนางเอก!

ทว่าพอตื่นขึ้นมา นางกลับกลายเป็น ‘อิ๋นซิน’ สาวใช้ข้างกายตัวเอกอย่าง ‘จู้อิงไถ’ เสียได้
เมื่อเป็นเช่นนี้นางก็มิอาจพา ‘เหลียงซานป๋อ’ ขึ้นไปร่วมแข่งขันบนสวรรค์เสียแล้ว
แต่ด้วยนิสัยมองโลกในแง่ดีของนาง ทำให้นางไม่นึกถอดใจและมองหาตัวช่วยอื่นแทน
เบื้องหน้าปรากฏชายผู้หนึ่งนามว่า ‘หม่าเหวินไฉ’ ที่ทั้งหล่อเหลา ผ่าเผย และเก่งกล้าด้านบุ๋น
เขาไม่เพียงแต่มีน้ำใจช่วยนางและคุณหนูครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังใจกว้างแบ่งปันอาหารเลิศรสให้นางอีกด้วย
แต่น่าเสียดาย คนที่เขาชอบพอและมาสู่ขอในเวลาต่อมาคือคุณหนู
ทว่าเมื่อถึงเวลาขึ้นเกี้ยว คุณหนูของนางกลับหนีตามเหลียงซานป๋อไป
และนางก็กลายเป็นเจ้าสาวแต่งแทนอย่างมึนงง?!
เรื่องราวเป็นเช่นนี้แล้วเขาจะโกรธเคืองนางหรือไม่นะ
และแบบนี้เขาจะยินยอมอยู่เคียงข้างในโลกมนุษย์ และเคียงคู่ร่วมแข่งขันกับนางบนสวรรค์ได้จริงๆ หรือ

คำนำสนพ. :
เรื่องราวของ อิ๋นซิน ที่พยายามหาคู่หูที่มีใจเสน่หาต่อตนและยอมติดตามมาแดนเซียนเมื่อหมดอายุขัย เพื่อจะได้ร่วมแข่งขันวิ่งระยะไกลคู่กับนางบนสวรรค์ แต่เมื่อเข้าร่างผิดและไม่ได้คู่กับ เหลียงซานป๋อ แล้วนางก็มิได้ใส่ใจ เพียงซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อเจ้านายคนปัจจุบันอย่าง จู้อิงไถ ตามนิสัยของสุนัข จนได้พบ หม่าเหวินไฉ ความใกล้ชิดของเขาและนางก็สั่นคลอนหัวใจดวงน้อยๆ นี้ แต่จะทำอย่างไรได้เล่าเมื่อหม่าเหวินไฉผู้นั้นหลงรักคุณหนูของนางเข้าแล้ว ในที่สุดเขาก็สู่ขอคุณหนู ทว่าอีกฝ่ายกลับหนีตามเหลียงซานป๋อไปและอิ๋นซินต้องกลายมาเป็น เจ้าสาวแต่งแทน เป็นเช่นนั้นเขาจะไม่ยิ่งเกลียดนางหรือแบบนี้บิดามารดาของเขาจะยอมรับนางได้อย่างไร นางคงหมดความหวังที่จะได้เขาไปเป็นคู่ร่วมแข่งขันบนสวรรค์แล้วใช่หรือไม่

สำนักพิมพ์แจ่มใส

เนื้อเรื่อง :
เพื่อตามหาคู่ร่วมแข่งขันที่สามารถช่วยนางให้ชนะการแข่งขันบนสวรรค์ได้ นางซึ่งเป็นนักษัตรปีจอจึงได้เข้ามาอยู่ในนิทานเลื่องชื่อเพื่อเป็นนางเอก แต่เรื่องราวกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะนิทานที่เลือกกลับเป็นฉบับปรับปรุงไม่ใช่ฉบับดั้งเดิมซะนี่
พอตื่นขึ้นมา นางกลับกลายเป็น ‘อิ๋นซิน’ สาวใช้ข้างกายตัวเอกอย่าง ‘จู้อิงไถ’ เสียได้ เมื่อเป็นเช่นนี้นางก็มิอาจพา ‘เหลียงซานป๋อ’ ขึ้นไปร่วมแข่งขันบนสวรรค์เสียแล้ว แต่ด้วยนิสัยมองโลกในแง่ดีของนาง ทำให้นางไม่นึกถอดใจและมองหาตัวช่วยอื่นแทน ตอนนี้ก็ลองมองหาผู้อื่นไปเรื่อยๆแล้วกัน
จู้อิงไถต้องการไปสำนักศึกษา จึงต้องแต่งกายเป็นชายและพาอิ๋นซินไปด้วย วันแรกก็เกิดเรื่องโจรดักปล้น อิ๋นซินมองออกว่าไม่ใช่เป็นคนแก่จริงๆ แต่พวกโจรไม่ยอมปล่อยไป เวลานั้นเองที่ เหลียงซานป๋อก็มาพอดี อิ๋นซินนึกว่าจะปลอดภัยแล้ว แต่เหลียงซานป๋อดูแล้วไม่ได้เรื่องซักนิด ช่วยเหลือไม่ได้เลย โชคดีที่นางมีไหวพริบ เลยวิ่งไปหาคนมาช่วยก็ได้เจอกับรถม้าของหม่าเหวินไฉ อิ๋นซินเห็นเท่านั้นก็คิดว่าหล่อที่สุด จึงขอร้องให้ช่วยคุณชายของตน นางไม่รู้เลยว่าหม่าเหวินไฉมองออกตั้งแต่แรกแล้ว นางมองว่าหม่าเหวินไฉ เก่งกล้าสามารถ สายตาจึงแสดงความชื่นชมออกมา แล้วก็ยังไปเจอที่สำนักศึกษาอีก ส่วนคุณหนูของตน จู้อิงไถก็เหมือนรักแรกพบกับ เหลียงซานป๋อ แต่มองว่าหม่าเหวินไฉเป็นคนน่ากลัว ผิดกับอิ๋นซินโดยสิ้นเชิง
จู้อิงไถชอบนึกเข้าข้างตัวเองว่าหม่าเหวินไฉแอบมองตนเอง แล้วก็ส่งอิ๋นซินมาขอบคุณแทน เพราะนางจิตใจดี หม่าเหวินไฉชอบกลั้นแกล้งแต่ก็ยังแพ้เสน่ห์ความน่ารัก ใสซื่อของอิ๋นซินเลย แผนการเลยเริ่มขึ้นเพราะคิดว่าจะต้องแต่งงานกับอิ๋นซินให้ได้
เรื่องราวน่ารักอลเวงที่พระเอกรักนางเอกแต่ไม่กล้าบอก จะค่อยๆบ่มเพาะความรัก  เพราะนางเอกของเราใสซื่อที่สุด นางก็เข้าใจว่าพระเอกไม่ได้รักนางแต่รักคุณหนูจากคำบอกเล่าของคุณหนู และการกระทำของหม่าเหวินไฉที่ดูรับผิดชอบ โอ้ว เข้าใจผิดไปกันใหญ่ ฝ่ายหนึ่งจีบเมียตัวเอง อีกฝ่ายยังไม่เข้าใจจิตใจตัวเอง จนพ่อแม่ของพระเอกจะให้ญาติผู้น้องมาเป็นเมียอีกคน ตอนแรกนางก็ยังไม่เข้าใจเพราะความใสซื่อของนาง สุดท้ายก็รู้ แต่เพราะพระเอกคอยดูแลปกป้อง ทำให้แผนการเลวร้ายของญาติผู้น้องล้มเหลว แถมนางเอกก็ยังโชคดีตลอด และนางจิตใจดีงาม ให้ปล่อยวาง ทำให้พระเอกจากที่คิดว่าตัวเองเจ้าเล่ห์ มีเล่ห์เหลี่ยมมากก็เริ่มที่จะพยายามทำดีเหมือนกัน เรื่องราวน่ารักของเซียนน้อยนักษัตรปีจอที่มาพร้อมความโชคดีของปีจอ ให้ได้ขำ ฮากับความใสซื่อของนางจริงๆค่ะ

หลังอ่าน :
เนื้อเรื่องน่ารัก เทพนักษัตรปีจอมาหาคู่ลงวิ่งแข่งขัน เข้ามาในนิยาย นึกว่าตัวเอกจะมาอยู่ในร่างนางเอก กลับกลายเป็นสาวใช้นางเอกซะได้ ทำให้ต้องตามหาคู่แข่งขันต่อไป เรื่องราวน่ารักก็เลยเริ่มต้นขึ้น นางมาพร้อมดวงดีของปีจอ โชคดีตลอดเวลา มาดูว่าพระเอกของเรื่องที่เป็นตัวร้ายในนิทานจะจีบนางเอกยังไงกันค่ะ น่ารักมากๆๆๆๆ นางเอกใสซื่อสุดๆเลย และสุดท้ายยังทำให้พระเอกที่ดูเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ มาทำตัวดีอยากอยู่กับภรรยาตลอดไปเป็นคู่รักตลอดกาลจริงๆ น่ารัก น่าอิจฉาของใครต่อใครไปหมด
เนื้อเรื่องน่ารัก ใสๆ อ่านคั่นเรื่องยาวได้ดีทีเดียวค่ะ เรื่องเบาๆ มาดูพระเอกเจ้าเล่ห์ กับนางเอกใสซื่อว่าจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง อ่านไปขำไปทีเดียวค่ะ



Sunday, February 16, 2020

#เป็นเมียแม่ทัพไม่ง่าย #4เล่มจบ #สนพ.ห้องสมุด


Review : 5/2563
เรื่อง : เป็นเมียแม่ทัพไม่ง่าย (4 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : ฮวารื่อเฟย (Hua RiFei)
ผู้แปล : ทีมห้องสมุด
พิมพ์ครั้งที่ 1 : พฤศจิกายน 2562

โปรยปกหลัง :
ปู้ถานแม่ทัพน้อยผู้นี้เชี่ยวชาญทั้งบุ๋นบู๊ เป็นบุรุษที่องอาจแกล้วกล้า
เขาเข้าสู่สนามรบด้วยวัยเพียงสิบแปด
ได้รับการยกย่องปูนบำเหน็จมากมายจากเบื้องบน
ทว่า...ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงอดีต
ปู้ถานในวันนี้เป็นเพียงแม่ทัพที่ไร้กำลังพล ซ้ำยังกลายเป็นคนเดินขากะเผลก
เขานำความอัปยศอดสูมาสู่ตระกูลปู้
บุรุษที่เสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องบ้านเมือง แต่ยามตกอับกลับถูกฮ่องเต้อยุติธรรมเนรเทศ
ชีวิตที่เคยพุ่งสูงเสียดฟ้ากลับถูกกระชากลงดินเพียงชั่วพริบตา
เอ... ช้าก่อน เขาจำได้ว่าตนเองเคยมีคู่หมั้นตั้งแต่ยังเล็กนี่นา!

ความปรารถนาหนึ่งเดียวของ ‘สีหยุนจือ’ ก็คือการทำให้คนทั้งบ้านได้กินอิ่มนอนหลับ
นางมองเงินที่ตนอุตส่าห์เก็บหอมรอมริบมาอย่างยากลำบาก
แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองกองทัพของ "คู่หมั้นแต่วัยเยาว์" ที่แห่กันมาเยือนถึงหน้าประตูบ้าน
นางสะกิดถามผู้ติดตามของคู่หมั้นว่า “ตระกูลปู้มีสมาชิกทั้งหมดเท่าไร?
องครักษ์ทั้งสองของท่านแม่ทัพสบตากันและตอบนางอย่างพร้อมเพรียง
“สองแสนคนขอรับ”
“...............”
“อ๊ะ... ช่วยด้วย ฮูหยิน...ฮูหยินเป็นลมไปแล้ว!”
ทั้งยากจน ทั้งอดอยากแร้นแค้น บ้านนี้...ดูแลยากเกินไปแล้ว!

เล่ม 1 :

แม่ทัพปู้ถานหลังจากพ่ายศึกกลับมาก็ถูกฮ่องเต้ลงโทษโดยการให้ไปเฝ้าสุสานหลวงที่ลั่วหยาง ทั้งยังได้รับบาดเจ็บจากศึกในครั้งนั้นทำให้ขากะเผลก ทำให้ไม่สนใจสิ่งใดในชีวิต แต่ท่านปู่กลับคิดจะให้ปู้ถานแต่งงานและคิดถึงตัวเลือกหนึ่งเดียว
ที่เมืองลั่วหยางสีหยุนจือ คุณหนูใหญ่ตระกูลสีโดนทางบ้านกดขี่ข่มเหง ตั้งแต่ที่มารดาถูกกล่าวหาว่ามีชู้และตายจากไป น้องชายเพียงคนเดียวก็หายสาบสูญ ทุกวันถูกที่บ้านกลั่นแกล้ง นางคิดมีชีวิตอยู่ก็ต้องอดทน ขอร้องออกไปทำงานร้านค้าของสกุลสีจนมีเงินเก็บ จนถึงตอนนี้บรรดาลูกพี่ลูกน้องจะออกเรือน นางกลับจะถูกฮูหยินห้าบังคับให้ออกเรือนไปพร้อมกับบุตรสาวของนางเพื่อไปเป็นเมียรอง นางไม่ยอม ฮูหยินผู้เฒ่าก็ไม่สนใจใยดี ทั้งยังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
สุดท้ายนางต้องหาทางช่วยตัวเอง และให้บังเอิญที่สกุลปู้ส่งคนมาสู่ขอบุตรสาวคนโตของตระกูลพอดีก่อนที่นางจะถูกลบชื่อออกจากตระกูล สีหยุนจือจึงได้แต่งงานออกไปแบบเร่งด่วน ไม่มีคนเหลียวแล
มาถึงสกุลปู้ ที่นี่มีเพียงบ้านหลังเล็ก สามีก็ไม่มองหน้า แต่นางก็พยายามทำทุกอย่างให้ดี และเริ่มเรียนรู้ความชอบของสามี ท่านปู่ก็มอบหมายให้นางดูแลบัญชี และทรัพย์สินภายในบ้าน ที่ไหนได้ ทั้งบ้านเหลือเงินแค่ห้าตำลึง นางเป็นคนสู้ชีวิต จึงบอกสามีว่าอยากเปิดร้านค้า ตอนนี้ก็เลยไปซื้อร้านค้าและจะทำร้านอาหาร สีหยุนจือเป็นคนที่มีหัวการค้ามาก ตอนนี้ปู้ถานก็เริ่มมองนางมากขึ้น เมื่อพูดจากัน สีหยุนจือก็บอกว่าสามีถือว่าเป็นเจ้าชีวิต เป็นที่พึ่งหนึ่งเดียว จะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันตลอดไป ทั้งยังให้กำลังใจเรื่องขาว่านี่คือเรื่องมีเกียรติที่ปกป้องบ้านเมือง ทำให้ปู้ถานเริ่มคิดได้ อยากจะรักษาขาของตนแล้ว
สีหยุนจือปรึกษาเรื่องที่ดินรอบบ้านที่น่าจะเอามาทำนา ปลูกข้าวได้ ปู้ถานรับฟัง สีหยุนจือก็เริ่มลงมือ พอถึงเวลาเริ่มไถ ปรับหน้าดิน ก็มีทหารที่โดนเนรเทศมาพร้อมท่านแม่ทัพเริ่มมากันเรื่อยๆ สุดท้ายก็ได้เป็นแรงงาน
นางมีวิธีคิดที่ดี มีหัวการค้า และสามารถทำให้การค้าก้าวหน้าได้ ตอนนี้ร้านอาหารก็เป็นที่หมายตาของฮูหยินห้าตระกูลสี คู่อรินางจนได้ นางก็ทำจนสามารถขายได้ในราคาสูง และไปเปิดร้านขายเครื่องประดับ และร้านปักผ้า
ช่วงนี้ปู้ถานหายแล้วก็จะออกไปข้างนอกกลับมาก็เอาห่อของมาให้เป็นเครื่องประดับล้ำค่ามากมายจนสีหยุนจือต้องถามว่าไปปล้นมาหรือ ก็โดนสายตาบอกว่าตระกูลปู้จะไม่เหลือสมบัติเลยได้อย่างไร
และแล้วญาติฝ่ายหญิงของปู้ถานก็ตามมาจากเมืองหลวงมากมายถึงเก้านาง สุดท้ายสีหยุนจือก็จะจัดการให้ดูแลตัวเองได้นั้นเอง ปู้ถานจะคอยให้กำลังใจ คอยถามว่าให้ช่วยหรือไม่ แต่ไม่ก้าวก่าย เคารพการตัดสินใจตลอดเวลา และนางก็ไม่เคยทำให้ปู้ถานผิดหวัง
และในที่สุดโอกาสก็มาถึงสีหยุนจือเมื่อ สีหยุนซิ่วลูกพี่ลูกน้องที่เกิดจากบ้านสี่ที่แต่งไปกับบุตรชายเจ้าเมืองเกิดเรื่อง ในที่สุดนางก็รู้ว่าแต่ละคนในตระกูลที่เห็นรักกันก็ไม่ได้รักกันจริง ทำให้นางสามารถมองดูสองเสือกัดกันได้ สุดท้ายทั้งฮูหยินสี่ และฮูหยินห้าต่างพ่ายแพ้ไป และสีหยุนจือยังรู้อีกด้วยว่าฮูหยินห้ามีส่วนในการตายของมารดาในปีนั้น การที่นาง บิดา และน้องชายไม่ได้อยู่ร่วมกันก็เป็นการปลอดภัยเช่นกัน ตอนนี้ได้เวลาตามหาบิดาที่ติดเหล้าแล้ว

หลังอ่านเล่ม 1 :

สีหยุนจือเป็นหญิงสาวที่สู้ชีวิต มีหัวการค้า ฉลาด มีไหวพริบมากทีเดียว หลังจากได้ออกจากบ้านตระกูลสีก็พยายามทำให้บ้านสามีดีขึ้น และพูดจนปู้ถาน สามีที่คิดไม่ตกกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง ตอนแรกที่แต่งไป นางทั้งผอม ทั้งซูบซีดถึงขนาดเมียรองก็เป็นไม่ได้ แต่อยู่ด้วยกันไป สามียิ่งรัก ยิ่งหลง คิดไปว่าไม่น่าเชื่อว่าตอนแรกนางจะผอมขนาดนั้น
และยังทำการค้าได้ดี ตลอดทั้งเล่มจะเห็นนางทำงานต่างๆ ด้วยแผนการที่วางไว้ อีกทั้งสุดท้ายยังแก้แค้นฮูหยินสี่และฮูหยินห้าไปได้ และยังรู้อีกด้วยว่าฮูหยินห้าทำให้มารดาของนางต้องตายในปีนั้นอีกด้วย เรื่องราวเรื่องเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แล้วปู้ถานออกจากบ้านไปทำอะไร ไม่ยอมบอกนางอยากรู้จริงเชียว

 เล่ม2 พิมพ์ครั้งที่ 1 : ธันวาคม 2562

เล่ม 2 : (9/2/19-11/2/19)

ฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลสี ส่งเทียบเชิญสีหยุนจือมาร่วมงานเลี้ยงแต่นางปฏิเสธไปทันที ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธมาก หาทางเล่นงานสีหยุนจืออยู่ ตอนนี้สีหยุนจือซื้อร้านค้าของตระกูลสี และเปลี่ยนเป็นร้านของตัวเองมากมาย
นางหาทางจนทำให้ได้สร้อยไข่มุกของมารดาคืนจากฮูหยินผู้เฒ่า และทำจนตระกูลสีอับจนสิ้นหนทางติดหนี้สิน เพราะมีแต่เปลือกนอก ภายในโดนเถ้าแกร้านยักยอกขนสินค้าไปขายนานตั้งแต่ฮูหยินห้ายังไม่ได้ขึ้นดูแลตระกูลสี แต่ที่สีหยุนจือคิดไม่ถึงคือเรื่องราวเหล่านี้ มีปู้ถานแอบช่วยอยู่ลับๆ ในที่สุดนางก็รู้จนได้ว่าท่านแม่ทัพไปธุระนอกบ้านทำอะไรมา
ในที่สุดนางก็ตั้งครรภ์ และถึงเวลาที่ปู้ถานต้องย้ายกลับเมืองหลวง ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี เพราะการค้าทุกอย่างนางวางระบบไว้ทั้งหมดแล้ว
มาถึงเมืองหลวง สีหยุนจือก็คิดทำการค้าโดยการซื้อมาขายไปได้กำไรจากการขายบ้าน และการอยู่เมืองหลวงทำให้ได้พบกับสีหยุนเจิง ที่แต่งให้กับผู้ตรวจการอี นางก็ยังหาเรื่องสีหยุนจือเหมือนเดิม และที่สำคัญสีหยุนจือได้พบกับพระชายาจี้ ภรรยาขององค์ชายจี้ที่ก็คือเซียวลั่วที่มาหาสามีที่ลั่วหยางนั่นเอง
สีหยุนจืออยู่เมืองหลวงก็จะแกล้งทำเป็นสาวบ้านนอกต่อหน้าพวกพระชายาเอก พระชายาจิ้ง เพื่อไม่ให้ตัวเองลำบาก แต่ก็ยังถูกกลั่นแกล้งจนนางคิดว่าจะต้องยิ่งใหญ่เท่านั้นจึงสามารถอยู่อย่างสงบสุขได้ สีหยุนเจิงมาหาเรื่องนาง แต่นางก็โต้กลับไปได้ จนรู้ว่าคนที่บ้านมาพึ่งพิงสีหยุนเจิง และเห็นสีหยุนลูกเมียรองของท่านอาห้าที่สีหยุนเจิงพามาแนะนำในงานเลี้ยง และได้รู้ว่ามาเข้าสอบจอหงวน ซึ่งเมื่อประกาศผลสอบสีหยุนจือกับปู้ถานกลับเข้าใจกันคนละอย่างจนเกือบทะเลาะกัน ที่จริงแล้วคนที่สอบได้จอหงวนคือบิดาของนาง สีเจิงที่หายไปนานนั่นเอง
ระหว่างนั้นสีหยุนจือได้คลอดบุตรชาย และปู้ถานก็ถูกส่งไปรบโดยใช้กำลังทหารสองหมื่นต่อสู้กับทหารหนึ่งแสนนาย ในที่สุดสีหยุนจือก็รู้ว่าในราชสำนักมีแต่การแก่งแย่งชิงดี และการทำลายกันเท่านั้น
องค์ชายจี้คิดการใหญ่ จนสุดท้ายโดนฮ่องเต้สั่งเนรเทศ จากที่สีหยุนจือมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระชายาจี้จึงไปส่งที่นอกเมืองและยังมอบของไปให้
ระหว่างที่ในเมืองวุ่นวายระหว่างองค์ชายรัชทายาทกับองค์ชายจิ้งต่อสู้กัน องค์ชายจี้ก็กลับมาพร้อมด้วยพระศพของอดีตฮ่องเต้ สุดท้ายองค์ชายจี้ก็ได้เป็นฮ่องเต้สมดังใจ และยังแต่งตั้งสีหยุนจือเป็นเก๋อมิ่งฮูหยิน ฮูหยินขั้นหนึ่ง เพราะความดีความชอบของนางที่เคยมอบเงินสองแสนตำลึงให้ตอนถูกเนรเทศ ปู้ถานเตือนสีหยุนจือให้เตรียมพร้อมรับความโหดร้ายของราชสำนัก ที่จะต้องเข้ามาในวังวนนี้

หลังอ่านเล่ม 2 :

เรื่องราวดำเนินมาถึงในที่สุดสีหยุนจือสามารถแก้แค้นคนตระกูลสีได้แล้ว และได้สร้อยไข่มุกของมารดากลับคืนมา นางยังตั้งครรภ์ และยังต้องย้ายมาเมืองหลวงกับปู้ถานที่ได้เรียกตัวกลับอีกด้วย
เมื่อมาเมืองหลวงนางก็มองหาการค้าที่น่าลงทุน สามารถมองหาลู่ทางได้อย่างชัดเจน จนนับไปนับมานางก็เป็นคนที่ร่ำรวยมากคนหนึ่งเลยทีเดียว
เรื่องความสัมพันธ์กับผู้คน นางได้เจอพระชายาจี้ ที่เป็นชายาขององค์ชายจี้ซึ่งก็คือเซียวลั่วที่มาหาสามีที่ลั่วหยางนั่นเอง ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน พระชายาจี้คอยให้คำแนะนำในเมืองหลวงแก่สีหยุนจือ จนกระทั่งนางคลอดลูกชายออกมา และเกือบโดยพระชายาจิ้งทำร้าย ก็มีการตอบโต้กันไปมาตามไหวพริบ ซึ่งสีหยุนจืออยู่เบื้องหลังอยู่หลายครั้ง
สุดท้ายคนที่ได้เป็นฮ่องเต้กลับเป็นองค์ชายจี้ที่ถูกเนรเทศแต่เพราะเงินสองแสนตำลึงที่สีหยุนจือมอบให้ด้วยความหวังดีทำให้ทั้งสองสามารถกลับมาเมืองหลวงอย่างยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง
คราวนี้ปู้ถานต้องเตือนภรรยาสุดที่รักให้เตรียมใจรับมือกับความโหดร้ายของอำนาจ และราชสำนัก
เล่ม 3 พิมพ์ครั้งที่ 1 : มกราคม 2563

เล่ม 3 : (11/2/63-13/2/63)

ตอนแรกฮองเฮาก็ทำดีด้วย แต่สุดท้ายแล้วเมื่อมองถึงจุดประสงค์ของฮ่องเต้ที่มีต่อสีหยุนจือออกนางก็บอกตามตรงว่าไม่อยากให้เข้ามาในวังอีก สีหยุนจือก็เข้าใจได้เพราะคนเราเปลี่ยนไปจากการต้องต่อสู้กันในวังหลังทำให้โหดเหี้ยมขึ้นเป็นธรรมดา
พระชายาจิ้งยังตามอาฆาต ปองร้ายไม่เลิก สุดท้ายสีหยุนจือ ปู้ถานก็วางแผนดัดหลังสำเร็จ ทั้งยังมีกู้หรานที่มาพร้อมองค์ชายจี้ในตอนนั้นจากซีเป่ยที่ความเป็นมาไม่แน่ชัด แต่พยายามจะบอกว่าตัวเองเป็นสีหยุนหรานน้องชายของนางเอก แต่สีหยุนจือไม่เชื่อ และปู้ถานยังจับได้ว่ากู้หรานใช้วรยุทธของแคว้นฉีอีกด้วย
ตอนนี้ท่านอาของปู้ถาน ปู้ฉือมาเมืองหลวง พร้อมด้วยทหารคนสนิทและบุตรสาวบุญธรรมฉินเกอที่ห้าวแบบผู้ชาย เชื่อฟังแต่ปู้ถาน ก่อเรื่องมากมาย จนทำให้ต้องมาฝึกความเป็นกุลสตรีกับสีหยุนจือ  เรื่องราวระหว่างปู้ถานกับปู้ฉือเป็นกับดักของฮ่องเต้ที่ทำให้ทั้งสองทะเลาะกัน เพราะอยากได้ตัวสีหยุนจือ ส่วนสีหยุนจือเมื่อรู้ตัวก็ส่งเสี่ยวอันบุตรชายคนเดียวออกนอกเมือง ขณะที่ปู้ถานยังอยู่กรมอาญากลับมีคนแอบอ้างว่าล่วงเกินเบื้องสูง ทำให้ถูกขังในคุก เรื่องราวมากมายฮ่องเต้วางแผนเพื่อจะได้ตัวสีหยุนจือ แต่ฮองเฮามาช่วยไว้ทันและพูดเรื่องไม่เห็นแก่ผู้มีพระคุณ และลอบปลงพระชนม์อดีตฮ่องเต้ซึ่งก็คือพ่อตัวเอง ทำให้ฮ่องเต้โกรธมากสั่งกักบริเวณฮองเฮา
ปู้ถานกลับถึงจวนถึงค่อยรู้เรื่อง แล้วยังถูกกล่าวหาว่าเป็นไส้ศึกมีคำสั่งให้จับตัวเข้าวัง สุดท้ายเป็นแผนการของฮ่องเต้ทั้งหมด มีฮูหยินผู้เฒ่าสีเป็นคนบอกว่าสีหยุนจือไม่ใช่คนแคว้นเซียวเพราะมารดาของนางเป็นชนชั้นสูงของแคว้นฉี หลักฐานคือสร้อยไข่มุก เท่ากับปู้ถานมีความผิดที่แต่งงานกับคนแคว้นฉี ปู้ถานถามหาภรรยาแต่ฮ่องเต้ไม่ยอมปล่อยคน ใช้กำลังเข้าจับกุมแต่ทหารเท่าไหร่ก็ไม่สามารถสู้ได้ ทั้งปู้ถานกล่าวถึงการทำศึกต่างๆที่ผ่านมาของตระกูลปู้ที่ปกปักษ์รักษาบ้านเมืองมาตลอด จนปู้ฉือมาให้ยอมแพ้ แต่ปู้ถานก็ไม่ยอม ในที่สุดฮ่องเต้ก็ให้พาสีหยุนจือออกมาใช้เป็นเหยื่อล่อ เพื่อที่ตัวเองจะได้ทำร้ายปู้ถานสมใจ โดยการยิงธนูใส่ปู้ถานไปถึงสิบแปดดอกโดยไม่ให้แม่ทัพปู้หลบ ไม่เช่นนั้นจะทำร้ายสีหยุนจือ พอปู้ถานล้มลงสีหยุนจือก็ไม่ให้ใครมาแตะต้องทำให้ถูกนำตัวไปขังด้วยกัน สุดท้ายคนที่ช่วยเหลือพวกนางคือ จางเยียนนั่นคือจางถิงสหายสนิทที่คบกันมาตั้งแต่เมืองลั่วหยางแต่ความจริงแล้วเป็นหญิงที่งามมาก ที่มีความสัมพันธ์กับอดีตรัชทายาทและโดนทรยศอดีตรัชทายาททรยศซึ่งตอนนี้คือองค์ชายหยู่ กับฮองเฮาช่วยออกมาจากวังหลวง ยังดีที่สีหยุนจือยังมีหานเฟิง และจ้าวอี้องครักษ์ของปู้ถานอยู่ด้วย จึงสามารถผ่านอุปสรรคและออกจากเมืองหลวงมาได้ และก็ได้มาตามหาเสี่ยวอัน ป้าหลิว หรูอี้ หรูเยว่ที่นางส่งออกมานอกเมืองก่อนหน้านี้ ทั้งยังมีข่าวว่ากู้หรานเข้าวังหลวงไปลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้อีกด้วย
ตอนนี้ก็ต้องคอยดูแลปู้ถานที่ยังไม่ฟื้นแต่ก็ไม่ตาย ดีที่อาจารย์เหยียนเคยใช้หนอนพิษในการรักษาขา เมื่อมียาสมุนไพรหนอนพิษในร่างก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ในที่สุดปู้ถานก็ฟื้นขึ้นมา เหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้ปู้ถานสิ้นศรัทธาในฮ่องเต้แคว้นเซียว ทั้งหมดเดินทางขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ เพื่อหาสมุนไพรมารักษาปู้ถาน และหลบหนีจากทางการที่ตามจับ จนออกมาถึงเผ่าเอ้อเวินเค่อ หลังจากอยู่ในเผ่าสุดท้ายก็ยังถูกทหารฉีบุกมา ทำให้จ้าวอี้กับหานเฟิงจะไปขอให้ทหารของผู้ตรวจการมาช่วยดูแลชาวเผ่าที่อยู่เหนือสุดของแคว้นเซียวนี้ และแล้วระหว่างที่พวกจ้าวอี้ หานเฟิงและหัวหน้าเผ่าไม่อยู่ ทหารแคว้นฉีก็บุกมาอีก คราวนี้เลยจับตัวชาวบ้านที่เหลือไปเป็นเชลยรวมทั้งปู้ถาน สีหยุนจือ และเสี่ยวอัน สามคนพ่อแม่ลูก
พอถึงค่ายทหาร ราชครูแคว้นฉีก็ยังเลือกปู้ถานไปเป็นตัวทดลองยาอีก เหลือสีหยุนจือกับเสี่ยวอัน ซึ่งนางเกือบจะถูกฆ่าตายเพราะปกป้องเสี่ยวอัน ดีที่เถี่ยโหรวหญิงที่สีหยุนจือเคยช่วยเอาไว้จำได้ ต่อมายังเจอหลานตงคนทรยศที่ทำร้ายปู้ถาน โชคดีที่องค์ชายสามและกู้หรานมาช่วยไว้ทัน สรุปแล้วกู้หรานเป็นคนขององค์ชายสามฉีจาว ซึ่งก็คือน้องชายของนางเอง สีหยุนหราน
แต่ยังไงสีหยุนจือก็บอกกับน้องชายว่าบิดาเพียงคนเดียวคือสีเจิง คนที่เห็นแก่ตัว จนทิ้งเมียและลูกในท้องอย่างนั้นนางไม่นับ และไม่พบ
สองพี่น้องพบกัน ฉีจาวสั่งคนไปช่วยปู้ถาน ที่ความจริงหายแล้วจากการแช่ยาของราชครูแต่ปิดบังทุกคนยกเว้นสีหยุนจือ ปู้ถานให้คำแนะนำแก่ฉีจาว ลดทอนอำนาจขององค์หญิงใหญ่ จนกระทั่งจ้าวอี้ และหานเฟิงตามมาถึง ทั้งหมดดีใจที่ได้พบกัน แต่ก็ได้รับข่าวร้ายนั่นคือการตายของปู้ฉือ ที่โดนฮ่องเต้ลอบวางยาพิษ เพื่อชิงอำนาจทหารกองทัพตระกูลปู้สองแสนนาย
สีหยุนจือตั้งครรภ์อีกครั้ง และแล้วปู้ถานก็บอกว่าถึงเวลาที่ต้องไปจากแคว้นฉีแล้ว

หลังอ่านเล่ม 3 :

ในเล่มนี้เรื่องราวซับซ้อนเริ่มเปิดเผยให้เห็น ความลับที่ซุกซ่อนไว้เป็นเหตุให้ปู้ถานและสีหยุนจือต้องหนีออกจากเมืองหลวง ปู้ถานถึงขนาดหมดสิ้นศรัทธาในฮ่องเต้แคว้นเซียวเลยทีเดียว และในที่สุดสีหยุนจือก็ได้เจอกับน้องชายที่หายไปซะที คราวนี้ก็ได้มาพบกับความจริง แต่นางก็ยังบอกกับน้องชายว่าบิดาเพียงคนเดียวก็คือสีเจิง ปู้ถานจะกลับแคว้นเซียวเพื่อแก้แค้นให้กับตัวเองและคนในครอบครัวยังไงต้องตามอ่านเล่มจบ เล่มนี้สนุก ลุ้นไปกับการเดินทาง และการเอาชีวิตรอดที่สีหยุนจือสามารถมีสติคิดออกมาตั้งแต่อยู่เมืองหลวงเพื่อทุกคนได้ นางเก่งจริงๆ นับถือเลย ตามอ่านต่อดูว่าสีหยุนจือจะช่วยเหลือสามียังไงในเล่มจบค่ะ 

เล่ม 4 พิมพ์ครั้งที่ 1 : มกราคม 2563

เล่ม 4 : (13/2/63-15/2/63)

ปู้ถานพาสีหยุนจือและครอบครัวออกจากบ้านน้อยตั้งแต่เช้า แต่ก็ได้บอกว่าอีกไม่นานต้องมีคนตามทัน หลานตงมาลอบฆ่าปู้ถาน องค์ชายสามมาช่วยเอาไว้ และเป็นคนพาส่งไปยังที่ปลอดภัย แต่ความจริงแล้วองค์หญิงใหญ่ มีคำสั่งให้ลอบฆ่าองค์ชายสาม เรื่องนี้ปู้ถานคิดไว้แล้ว จึงรับมือได้ทัน ฉีจาวเมื่อคิดได้ก็กังวลว่าองค์หญิงใหญ่จะลอบฆ่าพ่อตัวเองซึ่งก็คือฮ่องเต้ ปู้ถานจึงแนะนำให้เข้าไปในเมืองยงโจวแล้วนำกำลังทหารกลับไปช่วย แต่ระหว่างทางก็มีคนร้ายดักรออยู่ราวสองร้อยคน คนร้ายต้องการชีวิตของฉีจาว ซึ่งฉีจาวรับมือไม่ไหว สุดท้ายก็เป็นปู้ถานที่ออกมาช่วยเหลือเลยเปิดเผยเรื่องที่หายดีแล้วไม่ได้สูญเสียวรยุทธไป และฉีจาวก็ตัดสินใจไปช่วยฮ่องเต้ไม่หันมาจัดการปู้ถานเพราะเห็นแก่สีหยุนจือ
ในที่สุดปู้ถานก็กลับถึงแคว้นเซียว และมาอยู่ในค่ายทหารกองทัพปู้ที่หนานหนิง ปัญหาสำคัญคือเรื่องปากท้องของทหารสองแสนนายที่ทางการสั่งตัดเสบียงตั้งแต่ประกาศแยกตัวออกมา สีหยุนจือยอมรับไปดูแลทั้งคิดคำนวณเงินทั้งหมดเพื่อให้ทหารทุกนายมีอาหารและเสื้อผ้าใส่ จึงทำให้เหล่าทหารเคารพฮูหยินแม่ทัพใหญ่อย่างมาก จนชนะศึกแรกและจับเชลยมาได้ สีหยุนจือเห็นการทารุณที่ไม่เป็นธรรมก็คิดถึงตัวเองตอนถูกจับเป็นเชลย จึงสั่งห้าม แต่คนที่สั่งเป็นทหารที่มาใหม่นิสัยเลวร้าย ดูถูกสีหยุนจือจึงโดนเหล่าทหารกลั่นแกล้ง พอรู้ความจริงก็จะมาล้างแค้น จนสีหยุนจือจัดการจนได้ขึ้นศาลทหารข้อหาขโมยเงินกองทัพ ทำให้ปู้ถานรู้เรื่อง และทำการเชือดไก่ให้ลิงดู ว่าฮูหยินเป็นคนที่คอยอยู่เคียงข้าง เป็นกำลังใจ เป็นทุกสิ่ง ซึ้งมากล่ะ
หลังจากนั้นเรื่องการศึกพี่ปู้ก็ชนะกองทัพของราชสำนักเรื่อยมา เสบียงอาหารก็ได้ฮูหยินเป็นผู้เตรียมการให้ จนกระทั่งสีหยุนจือคลอดลูกคนที่สองเป็นหญิง เรื่องที่รอมานานก็ใกล้เข้ามาและปู้ถานก็รู้ความกังวลใจของฮูหยินสัญญาว่าจะมีเพียงฮูหยินเพียงคนเดียว
แผนของเซียวลั่วที่นึกว่าตนแน่แต่สุดท้ายก็โดนปู้ถานซ้อนแผน ส่วนฮองเฮาปู้ถานให้ฮูหยินเป็นคนมาจัดการ ซึ่งสีหยุนจือก็รู้ดีว่าไม่อาจปล่อยเซียวลั่วไปได้ ฮองเฮาเพื่อนเพียงหนึ่งเดียวของนางก็รู้ดี และยอมตามไปทั้งอย่างนั้น
เรื่องราวมาถึงที่สุด เมื่อเปลี่ยนเป็นแคว้นหนิง ปู้ถานฮ่องเต้องค์ใหม่ก็มีเพียงสีหยุนจือ มีคนมากมายอยากจะเข้ามาตำหนักใน นางก็ต้องจัดการเชือดไก่ให้ลิงดู และจนถึงต่างแคว้นส่งองค์หญิงมาเชื่อมสัมพันธ์ ในที่สุดก็หาทางออกได้ด้วยดีจาก ฉีจาวฮ่องเต้องค์ใหม่แคว้นฉีที่เปิดเผยชาติกำเนิดของสีหยุนจือ จึงไม่มีใครคัดค้านอีกต่อไป

หลังอ่านเล่ม 4 :

การกลับมาแก้แค้นฮ่องเต้เซียวลั่ว ก็ยังต้องให้สีหยุนจือช่วยเหลือเรื่องเสบียงอาหารและเสื้อผ้า นางทำทุกอย่างเพื่อสามีจริงๆ เป็นหลังบ้านที่เข้มแข็ง แข็งแกร่ง สามารถรับมือกับเรื่องต่างๆได้ดี พร้อมร่วมทุกข์ ร่วมสุข
เมื่อเรื่องราวต่างๆคลี่คลาย ความกังวลหนึ่งเดียวก็ได้รับการขจัดออกไป สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
เรื่องนี้ไม่ได้เน้นที่การศึกสงคราม แต่เส้นเรื่องอยู่ที่สีหยุนจือ เมียแม่ทัพ ที่คอยช่วยเหลือสามีตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ต้น เป็นกำลังใจให้ก้าวผ่านความผิดหวังเสียใจ คอยคิดช่วยเหลือสามี และอยู่เคียงข้างดูแลสามีไม่ห่าง ตั้งแต่ต้น ร่วมฟันฝ่ากันมาด้วยกันจนเกิดเป็นความรักลึกซึ้งของทั้งคู่ ทำให้เราได้เห็นพัฒนาการทางความรัก ความเชื่อใจ และความสามารถของทั้งสองที่มีให้กันตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นแนวสุขนิยมที่สุด 
เนื้อเรื่อง :

สีหยุนจือ คุณหนูใหญ่ตระกูลสีที่โดนทางบ้านกลั่นแกล้งมาโดยตลอด เพราะมารดาตายจากด้วยข้อหาคบชู้สู่ชาย อยู่ในตระกูลอย่างยากลำบาก

ปู้ถาน แม่ทัพที่ชนะศึกมาโดยตลอด แต่ศึกสุดท้ายกลับแพ้ และได้รับบาดเจ็บกลับมาทำให้เดินขากะเผลก ทั้งยังโดนริบทรัพย์และสั่งให้ไปดูแลสุนานหลวงที่ลั่วหยาง เรื่องราวจึงเริ่มต้นขึ้น

เมื่อท่านปู่ของปู้ถานจำได้ว่าหลานชายยังมีคู่หมั่นอยู่ที่ลั่วหยาง ส่วนสีหยุนจือ กำลังจะโดนอาสะใภ้ห้าผู้ร้ายกาจบังคับให้แต่งงานไปเป็นเมียรองของลูกสาวตัวเอง เหมือนไปเป็นคนใช้ให้น้องสาวใครจะไปยอม นางอาจโดนฆ่าตายระหว่างการเดินทางไปเมืองหลวงด้วยซ้ำ ระหว่างนั้นตระกูลปู้ก็ส่งคนมาสู่ขอพอดี สีหยุนจือจึงตัดสินใจแต่งงาน โดยรู้เพียงว่าเป็นตระกูลตกอับจากเมืองหลวง นางก็ต้องออกจากบ้านนี้ให้ได้
พอไปถึง สามีไม่ใยดี ขนาดหน้ายังไม่อยากจะมอง ทำหน้าที่เสร็จหันหลังหนี นางก็ไม่รู้ว่าสามีรังเกียจอะไรตน ตนทำอะไรผิดไป วันทั้งวันออกไปข้างนอก เย็นกลับมาไม่พูดไม่จา วันแรกสีหยุนจือต้องพยายามทำตัวอย่างดี และคิดหาทางต่างๆเพื่อบ้านสามีเพราะเมื่อท่านปู่มอบสมุดบัญชีให้ ในบ้านมีเพียงห้าตำลึง จะเป็นลม สีหยุนจือจึงต้องเริ่มคิดทำการค้า จนในที่สุดก็พูดคุยกับสามีจนในที่สุดสามีก็คิดได้  ไม่สิ้นหวังไม่ทำอะไรอีกต่อไปเริ่มเป็นผู้เป็นคน เมื่อคิดได้ก็ตัดสินใจรักษาขาตัวเอง สีหยุนจือก็คอยดูแลต้มยาไม่ห่าง นวดเท้า ทำสารพัดจะทำเพื่อให้สามีกลับมาเดินได้ปกติอีกครั้ง  สามีรับฟังปัญหาจากนั้นให้นางตัดสินใจเอง แต่จะคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ตั้งแต่การเปิดร้านอาหาร ขอความเห็นว่าจะปลูกข้าว ทำนา เริ่มขยายกิจการไปเป็นขายของ เครื่องประดับ ปักผ้า ไปๆมาๆกิจการนางมีอยู่ทั่วเมืองลั่วหยางเลยทีเดียว ดูสิว่านางหัวการค้าขนาดไหน ส่วนสามีก็คอยช่วยอย่างลับๆเบื้องหลังเรื่องการแก้แค้นญาติตระกูลสีที่เคยกลั่นแกล้งนาง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสีหยุนจือที่วางแผนอยู่ลับหลัง จนพวกนั้นแพ้ภัยตัวเอง ตอนอยู่เมืองลั่วหยางก็มีคนจากเมืองหลวงมาหาคือเซียวลั่ว ปู้ถานสั่งไม่ให้สีหยุนจือเข้าใกล้ ไม่ต้องไปสนใจ
ในที่สุดก็ได้กลับเมืองหลวง มาเมืองหลวง สีหยุนจือก็มองหาลู่ทางทำมาหากิน สรุปที่ซื้อที่มาเก็งกำไร ง่ายสุด ได้เงินดีที่สุด ไปๆมาๆที่ดินในเมืองหลวงมากมายเป็นกรรมสิทธิ์ของนาง นางเป็นเจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ไปเลยทีเดียว และยังใช้ทหารหน่วยสอดแนมของสามีมีหาข่าวชาวบ้านว่าบ้านไหนอยากซื้อ อยากขายบ้านสุดยอดหัวการค้าจริงๆ
และแล้วเซียวลั่วก็คือองค์ชายจี้ ปู้ถานเห็นความคิดดี หลังจากที่ผิดหวังจากฮ่องเต้เลยคิดจะสนับสนุนซะหน่อย แถมสีหยุนจือยังสนิทกับพระชายาจี้อีก นางคอยช่วยเหลือตอนอยู่เมืองหลวงใหม่ๆ เป็นเพื่อนสนิทเลยทีเดียว เรื่องราวมากมายดำเนินไป องค์ชายจี้ถูกขับไล่ไปอยู่ซีเป่ยด้วยข้อหากบฏ สีหยุนจือยังอุตส่าห์เห็นแก่มิตรภาพไปส่งแถมยังแอบมอบเงินให้อีก ด้วยความหวังดี แต่เงินจำนวนนี้กลับทำให้องค์ชายจี้กลับเมืองหลวงได้ในฐานะฮ่องเต้องค์ใหม่
มีฮ่องเต้ใหม่นึกว่าบ้านเมืองจะดีขึ้น ที่ไหนได้ กลับเป็นฮ่องเต้โฉด อยากได้เมียชาวบ้าน ใส่ร้ายปู้ถานจนตัวเองเกือบเอาชีวิตไม่รอด ยังดีได้ฮองเฮาช่วยไว้ ทั้งบ้านเลยหนีออกจากเมืองหลวงได้ด้วยความฉลาด และมองการณ์ไกลของสีหยุนจือ ทั้งครอบครัวต้องหนีออกจากเมืองหลวง ระหกระเหินหนีขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ปู้ถานก็บาดเจ็บสาหัส ยังดีที่ได้องค์รักษ์ของปู้ถาน และคนสนิทของตัวเองทำให้ไม่ลำบากจนเกินไป สามารถผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ จนถึงเผ่าที่อยู่เหนือสุดของแคว้นเซียว ก็ยังถูกทหารแคว้นฉีรุกราน
ทั้งครอบครัวโดนจับไปเป็นเชลยของทหารแคว้นฉี ปู้ถานโดนราชครูจับไปทดลองยา สีหยุนจือเกือบตายเพราะปกป้องลูกชาย สุดท้ายก็รอดมาได้ ทั้งยังได้รู้ความจริงเรื่องของตัวเอง และได้พบน้องชายที่หายตัวไปอีก ความเป็นมาของนางไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
เมื่อพร้อมก็ต้องกลับไปแคว้นเซียว เพื่อแก้แค้นเซียวลั่ว ดีที่ได้ฉีจาวน้องชายของสีหยุนจือช่วยเหลือ พอกลับมาถึงค่ายทหารสองแสนนายก็กำลังขาดเสบียงอาหาร ฮูหยินแม่ทัพใหญ่ก็ต้องขนสมบัติตัวเองออกมาช่วยเหลือหาเสบียงมาเลี้ยงกองทัพ ยังเจอทหารเลวดูถูกนังฮูหยิน ท่านแม่ทัพใหญ่มีหรือจะปล่อยไป อบรมสั่งสอนถึงความดีของนังฮูหยินให้ทหารทั้งกองทัพฟังทำเอาซึ้งไปตามๆกัน เมียข้าใครอย่าแตะ เข้าใจไหม
สุดท้ายก็จัดการเซียวลั่วได้ การศึกไม่ได้บรรยายเพราะเนื้อเรื่องหลักอยู่ที่สีหยุนจือที่ดูแลท่านแม่ทัพไม่ใช่แม่ทัพนะจ๊ะ
ปู้ถานเปลี่ยนแคว้นเซียวเป็นแคว้นหนิง และมีเพียงฮองเฮาหนึ่งเดียวตามที่สัญญาเอาไว้ เมียข้าเป็นใหญ่ที่สุด จากชาวบ้านธรรมดาจนมาถึงจุดสูงสุด มีคนมากมายหมายตาตำแหน่ง แต่เพราะมีปู้ถาน และลูกๆจึงผ่านมาได้ และก็ต้องจัดการเชือดไก่ให้ลิงดู คนในวังจะได้รู้ซะบ้าง จนถึงองค์หญิงต่างแคว้นที่มาสร้างความวุ่นวายสุดท้ายก็จบลงที่ความช่วยเลือของน้องขายฉีจาวที่เป็นฮ่องเต้องค์ใหม่แคว้นฉีทำให้ทุกคนไร้ข้อกังขาเรื่องชาติกำเนิด ยอมรับฮองเฮาได้ในที่สุด

หลังอ่าน :

เส้นเรื่องเน้นหนักที่สีหยุนจือ การใช้ชีวิตที่ฉลาด มองการณ์ไกล ขยัน อดทน การแก้แค้นก็ใช้ความสามารถในการมองเห็นจุดอ่อนของศัตรู แต่ที่มารู้ภายหลังคือ สามีที่ดูเหมือนปล่อยให้ทำทุกอย่างเอง ก็แอบช่วยอยู่ลับๆตลอดเวลา
ถ้าจะมองเรื่องการทำศึกเพราะชื่อเรื่อง คือไม่ใช่เลย เพราะเรื่องนี้คือเป็นเมียแม่ทัพไม่ง่าย เพราะฉะนั้นน้องสีขอฉายเดี่ยว การทำศึกไม่เกี่ยว ไม่ได้เป็นแม่ทัพ นางเป็นเมียแม่ทัพ ภาระเรื่องกินอยู่ปากท้องของกองทัพจึงตกอยู่ที่นาง แต่นางก็สามารถหามาได้เพื่อสามีจะได้ไม่ลำบาก ไม่กังวลตอนออกศึก สามีเป็นสามีแห่งชาติ รักเมียยิ่งสิ่งใด มีการเปิดอบรมถึงคุณความดีฮูหยินต่อหน้าเหล่าทหาร เป็นบุรุษลัทธิบูชาเมียของแท้ เมียข้าใครห้ามแตะ
ตัวร้ายแต่ละตัวมีบทลงเอยของตัวเอง ไม่ได้ปล่อยทิ้งให้เป็นปริศนามีจุดจบ ถึงแม้ดูเหมือนแต่ละคนจะตายกันง่ายๆ แต่ถ้าดูจากชีวิตที่ผ่านมา การตายแบบอนาถ การตายแต่ละแบบก็สาสม อีกทั้งนางเอกเองก็บอกว่านางไม่แค้นอีกต่อไป
เรื่องนี้ยังบอกถึงมีความแค้น ชำระแค้น และยังมีการปล่อยวางความแค้นได้ ให้คนเห็นพัฒนาการของตัวละครแต่ละตัว เป็นเรื่องสุขนิยมที่อ่านแล้วไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ