Monday, May 20, 2019

#เต้าหู้ไซซี #3เล่มจบ #สนพ.ห้องสมุดดอตคอม


Review 12/2562
เรื่อง : เต้าหู้ไซซี
ผู้แต่ง : YiDuJunHua
ผู้แปล : ทีมห้องสมุด
พิมพ์ครั้งที่1 : มกราคม 2560
สนพ. ห้องสมุดดอตคอม

โปรยปก :
นางเป็นเพียงลูกสาวบ้านตระกูลกัว ร้ายขายเต้าหู้เล็กๆ ในอำเภอห่างไกลที่ใครๆ ก็ไม่คาดว่าวันหนึ่งจะมีวาสนาเอื้อมถึงตำแหน่งชายาอ๋อง ซวิ่นอ๋องมู่หรงลี่ ผู้นำกองทัพนักรบปีศาจแห่งแคว้นต้าเอี้ยนไม่คาดคิดมาก่อนว่าสตรีที่ตนเก็บตกได้ระหว่างออกรบจะเป็นชิ้นส่วนที่มาเติมเต็มหัวใจอันว่างเปล่า สตรีผู้นี้เป็นเพียงสาวชาวบ้าน นิสัยเรียบง่าย หัวอ่อน พูดน้อย นางมีทุกอย่างที่ตรงข้ามกับเขาโดยสิ้นเชิง แต่กลับเป็น ยอดพรูหนึ่งเดียวที่ทำให้นักรบอย่างเขารู้สึกอยากวางอาวุธในมือ แล้วกลับบ้าน นี่เป็นเรื่องราวของซินเดอเรลล่าในยุคจีนโบราณ เป็นเรื่องของสาวน้อยยากจนกับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ต่างกันที่เจ้าชายของเรื่องนี้ ดุ เหี้ยม ปากร้าย และไม่ไว้หน้าใคร ส่วนสาวน้อยเองก็ดื้อเงียบจนเจ้าชายต้องโบกธงยอมแพ้

คำนำสนพ. :
บุรุษหลายคนใฝ่ฝันอยากจะมีชีวิตคู่ที่เรียบง่าย อบอุ่น และมีความสุข บ้านควรจะเป็นที่ที่เขากลับไปแล้วรู้สึกได้พักผ่อน ยามจากก็อาวรณ์ถึง ด้วยเหตุนี้ผู้หญิงของพวกเขาอาจไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่งมากจนเกินไป อาจไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญเฉลียวฉลาดไปเสียทุกด้าน หรืออาจไม่จำเป็นต้องเอาชนะศัตรูด้วยความเก่งกล้าสามารถ แค่ดำรงไว้ซึ่งความเป็น "ผู้หญิง" ที่ครบถ้วนในทุกรูปแบบและทุกความหมาย ก็คงจะเพียงพอแล้ว เซียงเซียง ตัวเองของ "เต้าหู้ไซซี" ก็เป็นเช่นนั้น เต้าหู้ไซซีเป็นเรื่องระหว่างคู่รักที่ไม่ได้รักกันแต่แรกพบ มีเพียงความถูกตาต้องใจและสถานการณ์ภายนอกที่บังคับให้จำต้องอยู่ด้วยกัน เรื่องนี้น่าสนใจตรงที่ฝ่ายหญิงเป็นแค่บุตรสาวร้านขายเต้าหู้ ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ใช้ "ความเรียบง่าย" ของตนกุมหัวใจบุรุษที่ห้าวหาญที่สุดในแผ่นดินได้ นางเอกเรื่องนี้มีนิสัยของผู้หญิงโบราณเต็มร้อย นางเป็นช้างเท้าหลัง พูดน้อย ขี้เกรงใจ ส่วนพระเอกก็มีนิสัยผู้ชายสมัยก่อนเต็มร้อยเหมือนกัน ทั้งเด็ดขาด ใจแข็ง ปากจัด รักหน้าที่ ความแตกต่างของทั้งคู่ไม่ได้อยู่เพียงแค่ฐานะและนิสัยของทั้งสองฝ่าย ยังรวมถึงสิ่งแวดล้อมและครอบครัวที่หล่อหลอมทั้งคู่ขึ้นมาด้วย เนื้อเรื่องดำเนินแบบค่อยเป็นค่อยไป เหมือนหงายไพ่ทีละใบ เผยให้เห็นที่มาที่ไปของนิสัยตัวเอกทั้งคู่ก่อนที่ทั้งสองจะมาร่วมชีวิตกัน นับเป็นเรื่องราวที่น่ารักมากเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว


เล่ม1 :

กัวเซียงเซียงเป็นบุตรสาวร้านขายเต้าหู้แห่งอำเภอลิ่งจือ ถูกโจรจับตัวมาจากบ้านเกิด ในเวลาเดียวกัน กองทัพซวิ่นอ๋องมู่หรงลี่ก็มาปราบปรามคนกลุ่มนี้เข้าพอดีเป็นเผ่าถูเหอ เหตุการณ์ต่างๆจึงเริ่มขึ้น เพราะเซียงเซียงพูดภาษาที่พวกนี้จับมาไม่ได้ ทำให้หนีไปไหนไม่ได้ จนกระทั่งถูกทหารมาพบ จะนำตัวไปแก้ขัด ผู้ที่มาพบคือโจวจั๋วพากลับค่ายทหาร หานซวี่ก็มาขัดขวางบอกไม่สู้ลองถามท่านอ๋องดูก่อน และเล่าเรื่องราวเมื่อแปดปีก่อนให้ฟัง มู่หรงลี่เห็นเซียงเซียงก็คิดถึงเรื่องราวเมื่อแปดปีก่อนที่เป็นบาดแผลในใจของมู่หรงลี่ ก็สั่งให้ส่งไปที่กระโจม เซียงเซียงที่เป็นสาวน้อยชาวบ้านธรรมดามาโดนแบบนี้ทั้งหวาดกลัว ทั้งตกใจ มู่หรงลี่ก็พูดแต่ชื่อหลันโย่ว พอเสร็จก็ถามว่ากลัวมากหรือ หลันโย่วไม่เคยกลัวสตรีผู้นี้ไม่ใช่หลันโย่ว อนุผู้นั้นของเขา เซียงเซียงไม่ค่อยพูด นั่งเงียบๆ จนคืนหนึ่งกลุ่มโจรบุกมาอีก เซียงเซียงมีความคิดที่จะหนี แต่สุดท้ายก็ได้มู่หรงลี่ช่วยไว้อีกครั้ง ตอนกลับเซียงเซียงขอให้ส่งกลับบ้าน มู่หรงลี่ก็ขี่ม้าไปส่งจริงๆ แต่เพราะเซียงเซียงเป็นหญิงมู่หรงลี่ส่งลงจากหลังม้าก็ยืนไม่อยู่ เหมือนถูกโยนลงมา ชาวบ้านต่างเห็นก็บอกว่านี่เต้าหู้ไซซีกลับมาแล้ว แต่ไม่มีใครที่คิดแง่ดีกับนางอีกเลย กัวเถียนบิดาเซียงเซียงดีใจมากที่บุตรสาวกลับมา และคิดถึงเรื่องที่เคยหมั้นหมายไว้ แต่ตระกูลอวี๋กลับปฏิเสธกัวเถียนเลยขอถอนหมั้นเอง เซียงเซียงเป็นคนมีฝีมือในการทำอาหาร กลับมาบ้านก็ช่วยทำน้ำปรุงรสเช่นเดิม แต่ก็ยังมีคนอยากแต่งกับเซียงเซียงคือหม่าจิ้งซานเป็นพ่อค้าพ่อม่ายลูกติดเมียตาย ในที่สุดเรื่องราวก็ตกลงกันได้ 
ส่วนมู่หรงลี่กลับเมืองหลวงจิ้นหยางก็ก่อเรื่องทุกวัน จนเอี้ยนอ๋องต้องส่งให้มาปราบเผ่าซานหยงที่ก่อเหตุวุ่นวายขึ้นที่อำเภอเหลียวซี และมีบัญชาให้หานซวี่ โจวจั๋ว และเหยียนชิงตามไปเพราะกลัวมู่หรงลี่จะไปก่อเรื่องที่เหลียวซีอีก มาถึงเหลียวซี ทั้งสามแม่ทัพที่ถือเป็นพี่น้องของมู่หรงลี่ก็ชวนกันไปกินเต้าฮวยที่ร้านของเซียงเซียง พอไปกับได้ยินว่าเซียงเซียงแต่งงานแล้ว มู่หรงลี่ไม่ชอบกองบัญชาการมาพักที่อำเภอลิ่งจือ ตอนนี้กำลังกินข้าวเห็นหานซวี่ส่งสายตากับเหยียนชิง เหยียนชิงที่เป็นคนไม่รู้สถานการณ์ที่สุดดันชวนไปกินเต้าฮวยซะนี่ อยากตายใช่ไหม บื้อมาก แล้วก็ไปกันจริงๆ พอไปถึงตอนแรกเซียงเซียงเห็นก็ตกใจรีบหนีไป แต่พอคิดได้ว่ามู่หรงลี่ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา กลัวพ่อแม่ น้องชายไปยั่วโทสะแล้วถูกฆ่าเลยออกมาใหม่ มู่หรงลี่ก็ถามว่าจะหนีไปไหน หานซวี่บอกมู่หรงลี่ว่านางแต่งงานแล้ว มู่หรงลี่โมโหจัดบอกให้ไปถามมาว่าแต่งกับใครจะได้ฆ่าไม่ผิดตัว หานซวี่กับมาบอกว่าตนเข้าใจผิด แต่จริงๆมาบอกกับพี่น้องว่าแบบนี้ดีกว่าที่พวกเราจะหัวหลุดจากบ่า แล้วก็ไปเกลี้ยกล่อมเซียงเซียง ในที่สุดเซียงเซียงก็ยอมตกลง กัวเถียนมาหาก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เซียงเซียงก็บอกว่าข้าเต็มใจ ออกไปปราบโจรมู่หรงลี่พาเซียงเซียงไปด้วย เซียงเซียงอยู่ว่างไม่ได้ก็ไปช่วยทำอาหาร มู่หรงลี่พบว่าอาหารอร่อยขึ้นทั้งๆที่เขาลิ้นจระเข้กินอะไรก็ได้ยังรู้สึก กลางคืนออกมายังเจอคำพูดของทหารทำให้เสียใจ เลยคิดฆ่าตัวตาย หานซวี่ช่วยเอาไว้ แต่มู่หรงลี่ไม่ยอมจับเซียงเซียงกดน้ำครั้งแล้วครั้งเล่า
หานซวี่เกลี้ยกล่อมให้เซียงเซียงอยู่กับท่านอ๋อง เพราะอยู่กับใครก็ต้องปรนนิบัติเหมือนกัน  ในที่สุดเซียงเซียงก็ตัดสินใจได้ แต่ก็ยังมีความคิดไว้ในใจคิดจะยกให้ใครก็ยกให้ เป็นแค่ของเล่นเท่านั้น แต่ก็ยอมอยู่กับมู่หรงลี่ พอกลับเข้าเมือง สุดท้ายมู่หรงลี่ยอมตบแต่งเซียงเซียงเป็นอนุภรรยา เรื่องนี้เป็นที่เล่าลือไปทั้งอำเภอ และก็พาเซียงเซียงกลับจิ้นหยางไปด้วย ตอนลงจากม้ามู่หรงลี่รู้แล้วว่าต้องค่อยๆวางเซียงเซียงลง ไม่งั้นนางจะล้มไปกับพื้น คนภายนอกเห็นกิริยาของซวิ้นอ๋องก็เดาความสำคัญของเซียงเซียงได้ แต่เซียงเซียงเองก็ยังไม่รู้ตัว เซียงขอทำครัวเองมู่หรงลี่อนุญาตคิดว่าเรื่องแค่นี้ก็ต้องมาบอกด้วย เพราะเขาเป็นคนไม่ใส่ใจเรื่องเล็กน้อย แล้วเซียงเซียงก็ค่อยๆรู้เรื่องของหลันโย่ว เซียงเซียงดูแลอาหารการกิน เรื่องในชีวิตประจำวันให้มู่หรงลี่ ทำอาหารกลางวันไปให้ถ้ารู้ว่าอยู่ที่ไหน แต่เป็นอาหารที่ชาวบ้านกินกัน เพราะยังไม่รู้จักวัตถุดิบที่คนชั้นสูงกินกัน มู่หรงลี่บอกว่าจะไปตรวจดูที่ด่านผิงตู้กวน ไม่คิดว่าบอกจะไปก็ไปทันที แล้วใครจะไปเตรียมอะไรทัน เซียงเซียงส่งจดหมายและข้าวของเครื่องใช้ อาหารแห้งที่ทำเองไปให้ทุกเดือน แต่ไม่เคยได้รับจดหมายตอบเลย จนถึงปลายเดือนสิบเอ็ดเซียงเซียงเริ่มนอนเก่ง กินได้น้อยก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเพราะไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย ที่แท้นางตั้งครรภ์แล้วนั้นเอง กว่านอวี้บอกให้เซียงเซียงเขียนจดหมายหาท่านอ๋อง ซูเฟยคิดว่าเซียงเซียงอยู่ในจวนคนเดียวไม่มีคนดูแลจึงรับมาอยู่ด้วย เซียงเซียงไม่อยากไปเขียนจดหมายหามู่หรงลี่หลายครั้งก็ไม่ได้คำตอบ ในที่สุดต้องเข้าวัง ที่นางไม่รู้จักใคร และยังมีอิ๋นจือลูกสาวนางกำนัลที่ซูเฟยดูแลเหมือนลูกมาคอยกลั่นแกล้งทำให้เซียงเซียงเกือบจะไม่รอด โชคดีที่ช่วยได้ทัน แต่ทั้งหมดสุดท้ายล้วนเป็นแผนการทั้งสิ้นเพราะมู่หรงลี่มีอำนาจทหารในมือ ใครก็อยากได้ไว้เป็นพวก ในที่สุดเซียงเซียงก็ได้กลับจวน กว่านอวี้เห็นแล้วท่าจะไม่ดีจึงรับนางกัวเฉินซื่อมาดูแลเซียงเซียง ในที่สุดเซียงเซียงก็คลอดลูกสาวออกมาได้สำเร็จ
พอมู่หรงลี่กลับมาถึงเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีลูกแล้ว ไปดูก็บอกว่าท่านอ๋องน้อยอยู่ที่ไหน ทำให้เซียงเซียงรู้ว่าที่แท้เขาไม่เคยอ่านจดหมายของนางเลย อนุภรรยาเป็นเพียงอนุภรรยาจะนับเป็นครอบครัวได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่เซียงเซียงคิด ที่มู่หรงลี่ทำคือเค้านึกว่าไม่มีอะไรก็ไม่เปิดอ่านที่อ่านมีแต่สารทางทหารของเอี้ยนอ๋อง ผ่านไปนานคนที่ส่งสารจึงเก็บเอาไว้ไม่ได้เอาออกมามอบให้ เซียงเซียงเริ่มคิดได้ เห็นมู่หรงลี่ไม่สนใจลูกก็คิดว่าไม่รักลูกอีก เพราะเค้ายังตั้งตัวไม่ทันมาถึงก็รู้ว่ามีลูกแล้ว ความรู้สึกช้าก็อย่างนี้แหละนะท่านอ๋อง มู่หรงลี่เข้าวังเอี้ยนอ๋องก็ถามว่าตั้งชื่อลูกว่าอะไร มู่หรงลี่ตอบว่า มู่หรงเจี๋ย เอี้ยนอ๋องคิดนี่มันชื่อเด็กผู้หญิงตรงไหน เลยบอกว่าให้ชื่อมู่หรงเซวียน มู่หรงลี่ตกลง คิดในใจคิดไว้แล้วจะมาถามทำไม เอี้ยนอ๋องรำคาญไล่กลับไป แต่พอมู่หรงลี่ไปเหลือบเห็นเส้นผมสีเทาปนขาวก็รู้สึกกลัดกลุ้มอย่างประหลาด เพราะในครอบครัวเขารักแค่เสด็จพ่อ แม่เลี้ยงซูเฟย และนับมู่หรงป๋อพี่ใหญ่เป็นพี่ชายเท่านั้น คนที่ยอมลงให้มีเพียงเสด็จพ่อและเสด็จแม่ กลับถึงจวนเซียงเซียงก็ดูแลปรนนิบัติมู่หรงลี่และไปดูแลลูกต่อ ตอนเช้ามู่หรงเชียนพี่สามมาเยียนถามหาหลานสาว ทั้งสองคุยกัน แล้วก็ไปจวนโจวไท่เวยโดยอุ้มลูกสาวติดมือไปด้วย พอกลับบ้านดันลืมลูกไว้อีก บัญชีนี้เซียงเซียงจดไว้แล้ว คิดในใจว่ามู่หรงลี่ไม่รักเราแม่ลูก เดี๋ยวมีเมียใหม่ลูกใหม่ก็ลืมนางและลูกไปเอง  
ตอนนี้เป็นการช่วงชิงอำนาจของรัชทายาทกับมู่หรงป๋อ ตระกูลเซวน่าจะมีประโยชน์ที่สุด มู่หรงลี่ตัดสินใจทันทีจะแต่งพระชายาหลานสาวคนโตใต้เท้าเซว เหวินติ้งโหว เซวเส้าเฉิง ที่หน้าจวนมีคนแปลกหน้าอยู่ มู่หรงลี่จัดการทั้งหมด วันนั้นมู่หรงป๋อมาเยียนที่จวนบอกว่าต้องออกจากจิ้นหยาง บอกจะไปก็ไป อุ้นลูกไปด้วย เอาอีกแล้ว ระหว่างทางต้องฝากลูกและลูกของมู่หรงป๋อไว้กับครอบครัวชาวนาแล้วเดินทางต่อ แต่มีกับดัก มู่หรงลี่ตัดสินใจเร็ว พาพระชายาซูจิงของมู่หรงป๋อไปส่วนเซียงเซียงทิ้งไว้ให้หลบหนีเข้าไปในป่าเอง เซียงเซียงจดบัญชีนี้ไว้อีกแล้ว ว่าไม่คิดเหลียวแลนางเลย จะทิ้งก็ทิ้งง่ายๆ พอไปถึงจุดนัดพบ หานซวี่รออยู่พอรู้ว่าเซียงเซียงถูกทิ้งอยู่กลางทางมู่หลงลี่จะให้ทหารที่ไม่รู้จักไปรับตัว หานซวี่ก็ขอไปรับเอง มู่หรงลี่ไม่อนุญาต แต่สุดท้ายหานซวี่ก็ขัดคำสั่งไปรับเซียงเซียง เซียงเซียงยังหนีรอดได้ รอจนได้เจอหานซวี่ แต่ออกจากเมืองไม่ได้ ระหว่างทางทำให้ทั้งสองเกิดความรู้สึกดีๆต่อกัน แต่ทั้งสองก็คิดไปเองฝ่ายเดียวทั้งคู่ไม่มีเรื่องใดเกิดขึ้นทั้งสิ้น ออกจากเมืองได้ไปพบกับหร่านหวินโจวคนสนิทของมู่หรงลี่อีกคน บอกว่าหานซวี่ขัดคำสั่งกองทัพน่าจะมีโทษให้เซียงเซียงช่วยพูด พอเจอหน้ามู่หรงลี่จะทำโทษหานซวี่เซียเซียงจึงออกหน้าบอกว่า คนเช่นข้า ต่อให้ควักหัวใจออกมา ก็คงไม่มีค่าพอให้ท่านหันกลับมามองสินะ มู่หรงลี่บอกไสหัวไปเซียงเซียงจะออกจากค่าย โกรธอีก บิดาให้เจ้าใส่หัวไป เจ้ากล้าไสหัวไปข้างนอก ไสหัวกลับไปที่กระโจม ใครจะไปรู้ก็นึกว่าไม่ต้องการจริงๆนี่ ไม่บอกใครก็ไม่เข้าใจหรอกนะท่านอ๋อง เซียงเซียงใจลอย มู่หรงลี่สังเกตได้ หานซวี่ก็แปลกไป มู่หรงลี่ก็เห็นแต่ยังไม่ได้คิดอะไร จนตอนที่มู่หรงลี่ มู่หรงป๋อต้องยกทัพไปเมืองต้าจี้ ให้หานซวี่ดูแลด่านผิงตู้กวน ซีจิ้งแอบมาสอดแนม มู่หรงลี่จึงกลับไปที่ด่านผิงตู้กวน แต่ตอนไปถึงกระโจมมืดค่ำเซียงเซียงนอนอยู่ในใจไม่ปกติก็เลยร้องออกมาว่าไม่ได้ หาน กำลังจะเอ่ยชื่อออกมาแต่แก้ทัน เท่านั้นมู่หรงลี่ก็รู้แล้วโกรธ นึกว่ามีชู้แต่ไม่แสดงออก จะทำยังไงดีเนี่ย พอเปิดศึกเซียงเซียงก็ตัดสินใจได้แล้วว่าต้องติดตามมู่หรงลี่เพราะทหารใช้เลือดเนื้อเป็นกำแพงต่อต้านข้าศึก พอเสร็จศึกมู่หรงลี่ไม่มาหาเซียงเซียงแต่กลับไปนอนที่หอนางโลมแล้วจากไปอีกครั้ง สงครามกำลังจะปะทุที่จิ้นหยางแต่มู่หรงเชียนมาบอกว่าเอี้ยนอ๋องฟื้นแล้ว มู่หรงป๋อยอมเข้าไปพบ ตอนนั้นรัชทายาทมู่หรงเซิ้นลอบส่งทหารออกมาไล่ล่ามู่หรงลี่ มู่หรงลี่โกรธจัดเลยสั่งให้บุกเมือง ทหารบุกเข้าไป ด้านในเตรียมหน้าไม้ยักษ์ไว้ยิงมู่หรงลี่ไม่หลบเพราะถ้าหลบคนที่ตายคือหานซวี่จึงแค่เบี่ยงจุดตาย และบุกต่อ จนได้เจอเสด็จพ่อจึงยอมกลับไปรักษาตัวที่จวน เซียงเซียงกลับมารู้ข่าวก็มาดูแลเพราะไม่มีใครเข้าหน้าทนอารมณ์ของมู่หรงลี่ได้ แต่เซียงเซียงใช้ลูกตื้อและแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินทนไปจนป้อนข้าวป้อนน้ำเช็ดตัวให้ เพราะเห็นว่าลุกขึ้นมาอาละวาดไม่ได้จริงๆ
เล่ม1:
เรื่องราวของเซียงเซียงที่ไม่คิดว่าจะได้เจอกับซวิ้นอ๋องมู่หรงลี่ และได้อยู่ด้วยกัน กับนิสัยที่คนหนึ่งเป็นทหารทำอะไรก็รวดเร็ว ไม่สนใจใครหน้าไหน ไม่ใส่ใจใคร กับเซียงเซียงหญิงสาวจากครอบครัวธรรมดาจะสามารถอยู่กับท่านอ๋องได้หรือไม่ต้องตามอ่านในเล่มต่อไป  


เล่ม2 :
มู่หรงลี่ยอมให้เซียงเซียงดูแล หมอหลวงจางและคนอื่นๆไม่สามารถทำให้ท่านอ๋องกินข้าวกินยาได้ แต่เซียงเซียงทำได้ ทุกคนจึงเห็นเซียงเซียงเป็นที่พึ่ง เซียงเซียงอุ้มลูกสาวมาให้มู่หรงลี่ดู ชายหนุ่มไม่เคยเลี้ยงเด็ก อยู่กับเด็กเล็ก พอเห็นลูกร้องก็คิดในใจว่าเด็กเล็กนี่เลี้ยงยากจริง แต่กลับพูดด้วยน้ำเสียงที่ตัวเองคิดว่าธรรมดา แต่คนอื่นฟังแล้วคือการตะคอก รำคาญแบบดุๆ ว่าอุ้มออกไป เซียงเซียงก็คิดว่าขนาดลูกตัวเองก็รำคาญอย่างนั้นก็ให้อยู่ห่างๆหน่อยจะดีกว่า นึกว่าท่านอ๋องคงไม่รักลูก เพราะท่านอ๋องแสดงออกไม่เป็นนี่สิ เซียงเซียงรู้ว่ามู่หรงลี่เป็นสามีของนาง นางไม่ตั้งความหวังว่ามู่หรงลี่จะมอบความรักให้เพราะนางเป็นเพียงลูกสาวชาวบ้านเลยต้องระมัดระวังตลอดเวลา กลัวว่าจะทำอะไรผิดพลาดไป เซียงเซียงไม่เกลียดมู่หรงลี่แต่ก็รู้ตัวดีว่าไม่มีสิทธิ์รัก ความรักของเขามีไว้ให้หลันโยว ไม่เกลียดแต่ก็รักไม่ได้ นางเฝ้าแต่คิดเช่นนี้
ปลายเดือนสิบสองเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของเอี้ยนอ๋อง มู่หรงลี่พาเซียงเซียงเข้าวังมาด้วย ระหว่างทางมู่หรงลี่ยังได้เจอรัชทายาท มู่หรงเซิ่น ความจริงแล้วยังไงมู่หรงลี่ก็จะต้องแก้แค้นที่โดนทำร้ายที่ประตูเมืองให้ได้ แต่โดนเซียงเซียงขัดขวางไว้เพราะว่าหมอหลวงจางบอกว่าห้ามเคลื่อนไหวมา มู่หรงลี่กระชากมือที่จับห้ามอย่างลืมตัวออกแต่แค่นี้ก็ทำให้เซียงเซียงล้มลงแล้ว มู่หรงลี่ก็เลยเปลี่ยนใจ เอี้ยนอ๋องพูดกับมู่หรงป๋อบอกเป็นนัยเรื่องที่ให้ชิงบัลลังก์กับรัชทายาทได้ ตอนกลับจวนยังมีเรื่องเกิดขึ้นมีมือสังหารของรัชทายาทมาลอบฆ่ามู่หรงลี่ เซียงเซียงก็ไปตามคนมาช่วยเอาไว้ได้ หลังจากเกิดเรื่องกบฏขึ้นตระกูลเซวก็มาทวงสัญญาอีกครั้ง แต่ผู้ที่ถูกส่งมาแต่งเป็นพระชายาคือหลานสาวคนเล็กที่ถูกยกฐานะให้เป็นบุตรภรรยาเอก ในวันแต่งมู่หรงลี่ไม่ได้คิดมากแต่งก็แต่งไป สุดท้ายกลับกลายเป็นเซวจิ่นผิงเด็กอายุสิบสองปีที่ยังไม่โตคนหนึ่งที่หนีออกจากเรือนพักของตัวเองมาที่เรือนของเซียงเซียงเพราะกลัวและหิว อยู่ที่จวนอ๋องเซวจิ่นผิงอยู่ในจวนฐานะพระชายาแต่กลับกลัวมู่หรงลี่เหมือนหนูกลัวแมว มู่หรงลี่ก็ไม่ชอบเซวจิ่นผิงชอบไล่ให้กลับเรือนอยู่เรื่อย ไม่อยากเห็นหน้านางเหมือนกัน
เทศกาลตรุษจีนมาถึงหานซวี่กลับมาเยี่ยมบ้าน แวะมารายงานท่านอ๋อง แต่ดันอ้อมมาที่เรือนของเซียงเซียงพูดคุยกันเสร็จมีคนมามากมาย แทนที่ตัวเองจะออกไปกลับหลบเข้าห้องเซียงเซียง จนตอนดึกที่มู่หรงลี่กลับมา เซวจิ่นผิงนอนอยู่กับเซียงเซียง ก็โดนไล่กลับไป พอทำเรื่องอย่างว่าชายหญิงเสร็จกลับพบหานซวี่หลบอยู่ในห้อง มู่หรงลี่ไม่ฟังอะไรก็มีคำสั่งลงโทษหานซวี่และ กักบริเวณเซียงเซียง เอาเซวียนเซวียนน้อยไปให้ซูเฟยเลี้ยง เซวจิ่นผิงไม่ยอมไปต่อว่าในที่สุดมู่หรงลี่ก็คิดได้ว่ามีพิรุธ ควรเรียกทุกคนในเหตุการณ์มาถาม ก็ได้ความตรงกันว่าเซียงเซียงไม่รู้เรื่องเป็นหานซวี่ที่แอบไปหลบอยู่ในห้องเซียงเซียงเอง
พอได้ลูกสาวกลับมาอยู่ข้างกายเซียงเซียงก็กลัวว่ามู่หรงลี่จะไม่ชอบลูกสาว แต่ความจริงคือเลี้ยงเด็กไม่เป็น พอลูกร้องไห้ เซียงเซียงจะอุ้มไปแอบ มู่หรงลี่เลยเอามาอุ้มบอกจะพาไปขี่ม้า เซวียนเซวียนก็เงียบทันที มู่หรงลี่คิดในใจที่แท้เลี้ยงเด็กก็ไม่ยากอย่างที่คิด เป็นครั้งแรกที่มู่หรงลี่เห็นว่าแค่เล่นกับลูกเซียงเซียงก็ดีใจถึงเพียงนี้ ผู้หญิงคนนี้อยู่ใกล้เขาขนาดนี้เลย มู่หรงป๋อบอกให้มู่หรงลี่แต่งตั้งเซียงเซียงเป็นชายารอง จริงๆแล้วมู่หรงลี่ไม่คิดอะไร เพราะผู้หญิงของเขาอยู่ในตำแหน่งไหนก็เหมือนกัน แต่คนภายนอกมองต่างกันนี่สิ และตัวเซียงเซียงเองก็รู้ว่าอนุภรรยากับชายาต่างกัน นางไม่มีสิทธิ์อะไร ไม่เคยเรียกร้อง และรู้ว่าทุกอย่างเป็นเพราะมู่หรงลี่มอบให้เท่านั้น มู่หรงลี่บอกให้เซียงเซียงคลอดลูกชายให้อีกคนแล้วจะตั้งเป็นชายารอง ตอนกินข้าวเซียงเซียงขอให้ไปเรียกเซวจิ่นผิงมาด้วย มู่หรงลี่คิดว่านี่คือครั้งแรกที่รู้สึกว่านี่คือบ้านของเขา
เรื่องของหานซวี่ที่มู่หรงลี่ไม่เรียกใช้ ก็ไม่มีใครในกองทัพเรียกใช้ พี่น้องต่างเป็นกังวล เซียงเซียงก็ขอร้องด้วย แต่พูดเหตุผลกับมู่หรงลี่ไม่ได้ก็ใช้การร้องไห้ กับยอมรับทุกอย่างไปซะเลย มู่หรงป๋อก็มาช่วยพูด บอกว่าที่รู้โกรธนี่เพราะ กลัวว่าเคยรักกันหรือเคยนอนด้วยกัน มู่หรงลี่คิดไม่ตกสุดท้ายก็คิดได้ว่าเคยรักกันหรือเคยนอนด้วยกันก็ไม่ได้ทั้งสองอย่าง ที่แท้คำตอบง่ายๆมีอะไรให้ลำบากใจกัน
มู่หรงลี่เรียกที่ปรึกษามาถามว่าควรทำยังไงกับผู้หญิง ทุกคนก็กลัวมู่หรงลี่ทั้งนั้น พอรู้เรื่องก็บอกว่าให้พาไปเที่ยว มู่หรงลี่พอฟังก็ไปบอกเซียงเซียง แต่การไปเที่ยวของมู่หรงลี่ไม่เหมือนใคร ตื่นมาก็พาขี่ม้าไปเลย เร็วจนตามไม่ทัน ขี่ม้าก็เร็วมากนั่งอยู่หลังม้าหนาวสุดๆ ท่านอ๋องทำอะไรรวดเร็วพอมาถึงวัดก็บอกจะไปกินเจ อาหารเจยังไม่เตรียมก็เป็นของที่พระฉันตามปกติแต่ละวันบอกว่านี่นะอร่อยออกจะธรรมดา ตัวเองกินเสร็จก็จะไปอีก เซียงเซียงยังไม่ได้กินเลย แต่เรื่องนี้เจอหลายครั้งละ ตั้งแต่ตอนหนีออกจากเมือง จากนั้นก็จะพาไปดูน้ำตกก็เดินเร็วสุดๆ ไปถึงยังไม่หายเหนื่อยจะกลับล่ะ พอบอกว่าจะไปจุดธูปไหว้พระ เซียงเซียงเลยรีบบอกว่าข้าไม่นับถือไม่ต้องไปก็ได้ คือตามไม่ไหวแล้วท่านอ๋องยังไม่รู้นึกว่าเรื่องปกติอีก กลับมาที่จวน สาวใช้ถามสนุกไหมเซียงเซียงตอบไม่รู้สิก็ไม่เห็นอะไรเลยนี่ ส่วนที่ปรึกษามาถึงก็ถามว่าจะไปเมื่อไหร่ ท่านอ๋องกลับบอกว่าไปมาแล้ว เป็นใครจะไม่ตกใจ นี่แค่ครึ่งเช้าไปเที่ยวชมธรรมชาติมาแล้ว แน่ใจนะ เร็วไปไหม เลยต้องเอาใหม่คราวนี้วางแผนไปเที่ยวป่ามรกตพันปี คราวนี้เซียงเซียงเตรียมตัวมาดี แต่ก็ยังไม่ไว้ใจท่านอ๋อง ท่านอ๋องก็ทำตามทุกขั้นตอน ตื่นนอนสาย ขี่ม้าต้องทำยังไง ขึ้นไปนั่งในรถม้าเซียงเซียงยังระแวงไม่รู้ต้องทำตัวยังไง พี่แกก็เอาทวนยาวมาเช็ดซะนี่ รังสีอำมหิตออกขนาดนั้นใครจะไม่กลัว พอออกไปถามว่าต้องทำยังไง เซียงเซียงก็ทำใจกล้าบอกให้เข้ามานั่งเป็นเพื่อน พี่แกยังบอกว่ายังไม่ว่างเพราะตัวเองกำลังฟังคำแนะนำของที่ปรึกษาวิธีจีบสาว สุดยอดจริงๆท่านอ๋อง ฮามากล่ะ พอไปถึงนึกว่าจะได้ชมป่าเหมยมู่หรงลี่กลับบอกว่าเตรียมตัวให้ดี ยังมีธุระ ธุระที่ว่าก็คือ รัชทายาทจะส่งคนมาลอบสังหารทุกทีอยู่ในเมืองไม่มีโอกาสมาขนาดนี้ต้องจัดแน่ๆ และก็เป็นไปตามคาด มีนักฆ่ามาจริงๆ เซียงเซียงยังพอไหวแต่อนุภรรยาของที่ปรึกษานี่สิกลัวจนสลบ แต่เซียงเซียงเห็นคนตายแบบผ่าศพต่อหน้าก็ตกใจเหมือนกันนะ ฝันร้ายเลยทีเดียว มู่หรงลี่กลับจะให้ไปเที่ยวต่อเพราะยังไม่ได้ไป แล้วเสื้อผ้าโดนหิมะซะเปียกขนาดนั้น ท่านอ๋องนี่ไม่รู้เรื่องรู้ราวจริงๆ สุดท้ายเซียงเซียงป่วยนอนฝันร้าย ขอกลับบ้าน มู่หรงลี่ก็ยอมพากลับบ้านที่อำเภอลิ่งจือ
นางไม่ได้พาลูกสาวกลับมาด้วยเพราะกลัวจะเหมือนคราวที่แล้วที่ถูกทิ้งอีก มาถึงก็มาพักที่บ้านตระกูลกัว เซียงเซียงขอพักที่บ้านท่านอ๋องก็พักด้วย แล้วก็คิดว่ากัวเถียนท่านพ่อตานี่พูดมากจริงๆ คนที่เขายอมฟังมีเพียงเสด็จพ่อเสด็จแม่นะ มาอยู่ที่บ้านของเซียงเซียงมู่หรงลี่เปิดใจพูดกับเซียงเซียงเป็นครั้งแรกบอกว่าให้บอกให้รู้ว่าอยากได้อะไร ให้หรือไม่ให้เป็นเรื่องของข้า ก็บอกให้รู้ได้ เค้าไม่เคยพูดเปิดใจอะไรแบบนี้มาก่อน มันน่าอายชะมัด พี่สาวน้องชายชวนไปดูงิ้วเซียงเซียงก็ไป ตอนดูบอกให้สาวใช้ตกรางวัลนักแสดง สาวใช้โยนทองคำไปก้อนหนึ่ง ที่โรงงิ้วอวี๋ชิ่งได้เห็นเซียงเซียงก็เกิดความคิดริษยาขึ้น ของๆตนเมื่อก่อนเป็นลูกสาวร้านเต้าหู้ ตอนนี้อยู่สูงเกินเอื้อม ส่วนเซียงเซียงได้ฟังท่านพ่อบอกเรื่องใช้จ่ายเงินการให้รางวัลก็เริ่มกังวล พอบอกท่านอ๋อง ท่านอ๋องกลับบอกว่าผู้หญิงของข้าจะตกรางวัลให้ใครจะให้น้อยได้อย่างไร คิดกันได้คนละอย่างสุดขั้วเลยจริงๆท่านอ๋องกับคนทั่วไปนี่ จากครั้งนี้อวี๋ชิ่งสร้างข่าวลือให้เซียงเซียงเสียชื่อเสียง เซียงเซียงไปบอกท่านอ๋อง ท่านอ๋องไปจัดการทันที มาถึงก็ดึงลิ้นตัดลิ้น ไม่ถามเหตุผล ทำก่อนผิดค่อยหาตัวคนใหม่ตรรกะสุดยอดมาก ในบางแง่ก็ไว้ใจท่านอ๋องได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องอารมณ์ความรู้สึกนี่ท่านอ๋องไม่ผ่านอย่างแรง เด็กน้อยมากอะ ไม่รู้เรื่องกับใครเค้าเล้ยจริงๆ  จบเรื่องเซียงเซียงอารมณ์ดีจริงๆเพราะท่านอ๋องเชื่อใจนาง
กลับจวนเซวจิ่นผิงอายุครบสิบสามไปแล้วสามารถเข้าหอได้ แต่เรื่องนี้ไม่สบอารมณ์ท่านอ๋องอย่างแรง พูดกับเซียงเซียงซะแรงว่าไม่ต้องยุ่ง แต่คำพูดมันเหมือนแบ่งชั้นว่าอนุภรรยาไม่ต้องยุ่งเรื่องของพระชายา ทั้งๆที่ในใจท่านอ๋องไม่ได้คิดอะไรนอกจากเซวจิ่นผิงยังไงก็เป็นเด็ก ยังมีเรื่องที่แม่นมพาท่านหญิงน้อยไปเล่นที่เรือนของหลันโย่วแล้วทำของเสียหาย มู่หรงลี่โวยวายเซียงเซียงเห็นก็นึกว่าท่าทางแบบนี้คือจะโยนลูกทิ้ง จะทำร้ายลูก ท่านอ๋องเห็นก็เศร้าใจแล้วก็คิดได้ว่านางไม่เคยไว้ใจข้าเลยตั้งแต่ตอนที่ทิ้งไว้กลางป่า เลยอธิบายให้ฟังว่าที่ทิ้งไว้เพราะจะได้หนีไปได้ง่ายกว่าถ้าไม่อยู่เฉยๆเป็นเป้านิ่ง เป้าที่ต้องการก็คือตน ม้าแบกสามคนไม่ไหวไม่รอดอย่างแน่นอน และถามว่ายอมอยู่ด้วยกันด้วยความจริงใจหรือไม่ เซียงเซียงยอมอยู่ด้วยในที่สุด
ปลายเดือนห้า ตงหูบุกมาโจมตีด่านอวี้โหวกวน กำแพงที่ก่อสร้างถูกทำลาย มู่หรงลี่ถูกส่งให้ไปคุมการก่อสร้าง ในที่สุดก็ได้เจอหลันโย่ว แต่นางมีลูกชายมู่หรงลี่ขอร้องให้กลับไปด้วยกัน หลันโย่วบอกให้รับลูกนางไปอยู่ด้วย มู่หรงลี่ตกลง พอการก่อสร้างกำแพงเสร็จกลับมา มู่หรงลี่ดูแลหลันเคอที่เปลี่ยนชื่อเป็นมู่หรงเค่อ ไม่สนใจเซวียนเซวียนตอนกลับจวน และหลันโย่วก็ใช้ให้เซียงเซียงทำปลาแห้ง จากนั้นมู่หรงลี่รับหลันโย่วเป็นชายารอง เอาชื่อมู่หรงเคอเข้าทำเนียบตระกูล แต่ไม่ให้หลันโย่วยุ่งกับเซียงเซียง หลันโย่วก็คอยก่อกวนทั้งเรียกร้องว่าจะให้มู่หรงลี่มอบความรักให้ตนคนเดียว ให้เลือกระหว่างเซียงเซียงกับตน สุดท้ายมู่หรงลี่ส่งเซียงเซียงออกนอกจวนบอกว่าให้ไปอยู่สองสามวัน ไม่ได้บอกเหตุผลเป็นใครก็คิดว่าโดนไล่ออกไปแล้ว แต่มู่หรงลี่กลับคิดว่าให้ไปอยู่สองสามวันรอเกลี้ยกล่อมหลันโย่วได้จะรับกลับมา แล้วก็เกิดเรื่องท่านหญิงน้อยหายไป พอเซียงเซียงรู้ก็ตกใจจนเป็นลม มู่หรงลี่กลับจวนไปหาสุดท้ายเจอที่เรือนเซวจิ่นผิง และไปบอกหลันโย่วว่าเด็กต้องการแม่ หลันโย่วยอมบอกความจริงว่าจริงๆบิดาของมู่หรงเค่อแซ่ตวนมู่ วันนั้นก็อยู่ในบ้านแค่บอกว่าจะมาเที่ยวจิ้นหยางสักพัก บอกว่าเมื่อเก้าปีก่อนตนไม่ได้จมน้ำเพราะว่ายน้ำเป็นที่จากมาเพราะอยากมาด้วยความรู้สึกดีๆในตอนนั้น ไม่ต้องเสียใจในเรื่องเมื่อก่อนอีกแล้ว เพราะตอนนี้ต่างก็มีคนของตัวเองแล้ว ทั้งสองพูดคุยกัน พอเช้ามู่หรงลี่กลับไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งอะไร ทั้งยังคิดว่าอุตส่าห์นั่งฟังตั้งนานยังเป็นเรื่องหาสาระไม่ได้ มู่หรงลี่ส่งคนมารับเซียงเซียงกลับพบว่าเซียงเซียงหนีไปแล้วลูกก็ไม่สนใจ เพราะเซียงเซียงคิดว่าอะไรก็ไม่ได้เป็นของตนพอไม่ต้องการก็โดนไล่ออกมา ตัดใจตอนนี้ยังจะดีเสียกว่า เซียงเซียงแอบหนีไปตอนดึกหลังจากรู้ว่าหาลูกเจอแล้ว ไปที่เมืองต้าจี้ที่รู้จักเพียงแห่งเดียวแต่บ้านเช่าแพงเลยไปที่เสี่ยวจี้แทน ตำบลอี้สุ่ยและได้ดำเนินการขายเต้าฮวยเพื่อเลี้ยงชีพ มู่หรงลี่ตามหาเซียงเซียงระหว่างนี้ไปที่บ้านเกิดนางและรับกัวหยางมาฝึกยุทธ์เอง มู่หรงลี่เป็นคนสอนให้แต่มู่หรงลี่เป็นคนที่เห็นแล้วเป็นเลยอาจารย์สอนครั้งเดียวก็จำได้ ไม่เหมือนคนอื่นที่นึกว่าจะเหมือนกัน แต่ก็ยอมสอนกัวหยาง ตอนฝึกมีประดาบแต่มีคนลอบเปลี่ยนกระบี่ของกัวหยางในนั้นมีควันพิษ มู่หรงลี่ก็เลือกจะช่วยกัวหยางก่อน ยาพิษเป็นอันตรายที่ปอด  เซียงเซียงมาขายเต้าฮวยก็เริ่มมีคนมาก่อกวนลวนลามจะเป็นยังไงต่อติดตามได้ต่อที่เล่มจบ

หลังอ่าน :
ความสัมพันธ์ของมู่หรงลี่กับเซียงเซียงที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆต้องมีอันที่จะสะดุดลงเพราะหลันโย่วกลับมา และมู่หรงลี่ที่ยังไม่รู้ใจตัวเอง แต่ตัวเองน่ะรักเค้าอยู่แล้วผู้หญิงของข้านี่จะทำยังไง เซียงเซียงจะทำยังไงต่อไป มู่หรงลี่จะคิดได้เมื่อไหร่ว่ารักเซียงเซียงที่สุด ต้องติดตามในเล่มจบ

เล่ม3 :    
ผ่านไปหลายวันอาการของมู่หรงลี่ดีขึ้น ก็เรียกให้กัวหยางมาชี้ตัว ถึงจะรู้ว่าที่จวนอ๋องไม่เหมือนกับร้านเต้าหู้นะ ทำผิดถูกเชือดง่ายๆ ฆ่าผิดตัวยังดีกว่าไม่จัดการ ทางด้านเซียงเซียงถึงแม้นางจะหนี แต่ก็มายังเขตอิทธิพลของมู่หรงลี่ไม่ใช่ไปที่อื่น เพราะไม่อยากเป็นภาระของมู่หรงลี่ หานซวี่ก็หาเซียงเซียงเจอแล้ว ให้คนไปส่งข่าวบอกท่านอ๋องก็พบว่าคนขับรถม้าฝูเฟิง ก็อยู่ดูแลเซียงเซียงแล้ว แต่แค่ดูเท่านั้น แล้วตอนนั้นเองที่คนขายผลไม้หยางซุ่นฟาที่มีปัญหาก็มางัดบ้าน เซียงเซียงก็ได้จัดการซะเลยเพราะนึกว่าลิ่วเหนียงถูกฆ่าตายแล้ว คนขับรถม้ากับหานซวี่เห็นต่างประหลาดใจก็ไม่คิดว่าคนอย่างเซียงเซียงพอถึงคราวคับขันจะกล้าหาญได้ขนาดนี้ เซียงเซียงกลัว แต่ไม่เสียใจ นางคิดไว้หมดแล้วว่าจะจัดการศพยังไง หั่นศพออก เอาเนื้อให้สุนัขกิน กระดูกเอาไปเผาไฟ แค่นี้ก็ไร้หลักฐาน แต่พอจะทำจริงๆกลับทำไม่ได้ มู่หรงลี่มาถึงก็บอกว่าทำไม่เป็นข้าจะสอนให้ สอนวิธีหัน สอนทุกอย่างอย่างใจเย็น เป็นเรื่องง่ายๆ มู่หรงลี่ยังคิดว่านานๆจะได้สอนในเรื่องที่ตัวเองถนัด แต่บอกไปบอกว่า ไปบอกทางการว่าเป็นอนุคนโปรดไม่ง่ายกว่าเหรอ เสร็จแล้วก็เรียกคนมาเอาศพออกไปถ้าไม่อยากเรียน สารถียอมรับนับถือเซียงเซียงจากใจจริงทั้งๆที่นางกลัวแต่ก็ยังอยู่มาได้ถึงสองวัน ทำทุกอย่างตามปกติ มู่หรงลี่ไม่ได้ว่าเรื่องที่เซียงเซียงออกไปขายเต้าฮวยเพราะคิดว่านางชอบก็ปล่อยให้นางเล่นขายของไป ไม่คิดว่านางหนีมาไม่มีเงินหรอกนะ ท่านอ๋องนี่ไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ ลิ่วเหนียงคิดจะเป็นแม่สื่อให้เซียงเซียงท่านอ๋องมาได้ยินว่าอยู่ข้างนอกเซียงเซียงบอกว่าตัวเองเป็นหญิงม่าย เลยจัดหนักให้เลย การดึกหายใจไม่ออก ต้องออกมาหาหมอแล้วก็บอกว่าคิดยาแก้แล้วก็คิดวิธีปรุงควันพิษด้วยต้องให้พี่รองได้ลองสูดดูบ้าง แล้วเซียงเซียงก็ได้รู้ว่ามู่หรงลี่ไม่สบายอีกแล้ว และไม่ยอมกินยา นางจึงต้องเป็นคนดูแลเหมือนเคย เซียงเซียงรู้ว่ามู่หรงลี่ไม่สบายก็ถามว่าทำไมไม่อยู่ที่จวน แล้วก็คิดได้ว่าเพราะมาตามหาตัวเอง ส่วนมู่หรงลี่ได้ฟังก็อารมณ์เสีย ดุว่าให้อยู่ข้างนอกก็หนีมา หนีมายังบอกคนอื่นว่าเป็นหญิงม่าย ยิ่งคิดยิ่งโมโห พอเห็นเซียงเซียงร้องไห้ก็หายโกรธ ถามว่าจะกลับบ้านเมื่อไหร่ เซียงเซียงก็ไม่ตอบ มู่หรงลี่ไปเล่นกับสุนัขที่เซียงเซียงซื้อมา ก็คิดว่าซื้อไม่เป็นตัวโตอย่างเดียวสั่งให้ลูกน้องไปเอาสุนัขดีๆมาให้เซียงเซียง เซียงเซียงกลับมากลัวแทบตายเพราะเจอหมาดุที่กินไก่สดๆทั้งตัวเป็นอาหาร เป็นใครจะไม่กลัวล่ะ แต่มู่หรงลี่กลับมาเห็นกลับพอใจเพราะเป็นหมาที่เลี้ยงเอาไว้ล่าสัตว์ และมันก็จำกลิ่นมู่หรงลี่ที่ติดอยู่บนตัวเซียงเซียงได้ ก็เข้ามาเลีย ฮาได้อีกท่านอ๋อง บอกว่าให้พวกมันอยู่เป็นเพื่อนจะได้ไม่กลัวอีก เซียงเซียงออกไปขายเต้าฮวยทุกวัน จนมีชายแปลกหน้าเอาปิ่นของพี่สาวมาให้บอกให้ไปหาที่ร้านเครื่องสำอาง พอไปถึงก็บอกให้เปลี่ยนยาท่านอ๋อง เซียงเซียงไม่รับปากบอกขอเจอพี่สาวก่อน แต่คนขายก็ห่อแป้งทาหน้ามาให้ พอกลับมาถึงไม่น่าเชื่อว่ามู่หรงลี่จะสังเกตเห็น ถามว่าเงินพอใช้ไหม เซียงเซียงคิดก็บอกว่าไม่พอใช้ จากนั้นตอนที่หมอมามู่หรงลี่ก็ถามเรื่องแป้งทาหน้าว่าเท่าไหร่ ท่านหมอสงสัยเอาไปดมดูถึงรู้ว่ามีส่วนผสมที่ต้านกับยาที่รักษาทำให้ตายได้ รัชทายาทช่างกัดไม่ปล่อย มู่หรงลี่เลยสั่งให้คนสืบหาคนของรัชทายาทออกมาทั้งหมด แล้วจัดการ เซียงเซียงก็เล่าว่าไม่คิดจะทำ มู่หรงลี่ก็คิดในใจมันก็แน่นอนอยู่แล้ว แต่พอบอกเรื่องพี่สาว มู่หรงลี่ก็ให้คนไปสืบทันที พอเซียงเซียงมองมากๆตัวเองยังคิดอีกว่าต้องให้ข้าไปสืบเองใช่ไหม แหมท่านอ๋องนี่ไม่เข้าใจความคิดคนอื่นเลยจริงๆ แล้วมู่หรงลี่ก็สืบหูตาทั้งหมดของรัชทายาทออกมาได้ มู่หรงป๋อมาไม่ได้ก็ส่งเว่ยปินที่ปรึกษามาแทน แนะนำให้ก่อกบฏ ปลายเดือนสิบพิษในตัวมู่หรงลี่ถูกกำจัดออกไปหมด หูตารัชทายาทก็ถูกกำจัดหมด
ที่เมืองหลวงรัชทายาทก็ได้รับกล่องที่มีควันพิษเช่นกัน แต่ก็เอาเรื่องไม่ได้ เพราะพิษมาจากจวนตัวเองจริงๆ จากนั้นจึงร่วมมือกับฮองเฮาวางยาฮ่องเต้ และจับตัวซูเฟยไปแล้วก็จะจัดการมู่หรงป๋อ มู่หรงลี่แต่ว่าไม่ทันเพราะทุกคนออกจากเมืองไปแล้ว ส่วนมู่หรงลี่ก็ยกทัพมาที่จิ้นหยาง รัชทายาทต้องหนีไปอวี๋หยางตอนนี้ทุกอย่างวุ่นวายแต่เซียงเซียงกลับนึกว่าท่านอ๋องออกไปข้างนอกไม่กลับมาซักทีจนได้ยินข่าวลือด้านนอกถึงรู้ว่ามู่หรงลี่ยกทัพไปทำศึกแล้ว ข่าวต่างๆฟังมาจากชาวบ้านทั้งสิ้น จนถึงตอนหลังที่รัชทายาทไปทำสัญญากับชาวตงหูและซีจิ้งชักศึกเข้าบ้าน เรื่องราวบานปลาย ชาวตงหูบุกทำลายบ้านเรือนและราษฎร มู่หรงลี่แอบไปช่วยเอี้ยนอ๋องและซูเฟย และซ้อนแผนรัชทายาทแต่กลับมีคนปล่อยข่าวออกมาว่ามู่หรงลี่ตายแล้วพร้อมเอี้ยนอ๋อง ซูเฟย และทหารที่ไปช่วยทั้งหมด เรื่องราวสับสน ทางด้านเซียงเซียงก็ตั้งท้องอีกครั้งระหว่างที่มู่หรงลี่ไม่อยู่ และเพราะรัชทายาทแค้นมู่หรงลี่รู้ว่าเซียงเซียงสำคัญกับมู่หรงลี่จึงคิดจะมาจับเซียงเซียงแต่เซียงเซียงหนีรอดไปได้เพราะได้องค์รักษ์ที่มู่หรงลี่ทิ้งไว้พาหนีพ้นแต่ตัวเองกลับต้องสละชีวิตเพื่อปกป้อง หลังจากเสร็จศึกทุกอย่างแก้ไขได้แล้ว ก็เป็นเวลาหลายเดือน พอกลับมามู่หรงลี่ถึงรู้ว่าเซียงเซียงไม่ได้มาอยู่ที่ด่านกับลูกๆ พอฟังรายงานจึงรีบกลับไปอำเภออี้สุ่ยเพื่อค้นหา ส่วนเซียงเซียงที่หนีไปบนเขาก็เจอกระท่อมร้างของพรานป่าก็พยายามสะสมอาหาร จนวันหนึ่งพบว่ามีคนติดอยู่ในหลุมดักสัตว์ที่ถล่มพอช่วยขึ้นมากลับพบว่าเป็นชาวตงหู นางจึงแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องเพื่อรักษาตัวรอด คอยทำอาหาร ซักผ้าให้ คนที่เป็นหัวหน้าในกลุ่มนั้นคือข่านเถี่ยมู่เจี๋ยของตงหูจนกระทั่งเซียงเซียงคลอดลูกชาย พวกชาวตงหูจะให้เซียงเซียงไปด้วยคืนนั้นเลี้ยงสุราอาหาร เซียงเซียงจึงใช้เห็ดพิษที่เก็บเอาไว้มาผสมน้ำจิ้มแล้วฆ่าทุกคน จากนั้นก็หลบหนีลงจากเขา ส่วนมู่หรงลี่พอมาถึงอำเภออี้สุ่ยก็ตามหาเซียงเซียงมาตลอดจนถึงเขาที่เซียงเซียงหลบหนี ได้พาสุนัขที่เซียงเซียงเลี้ยงไว้มาด้วยพวกมันได้กลิ่น มู่หรงลี่จึงคิดว่าเซียงเซียงต้องอยู่แถวนี้จนเจอกระท่อมและศพชาวตงหูทั้งหมด ในที่สุดก็พบเซียงเซียงที่อุ้มลูกอยู่กับอก เซียงเซียงขอกลับไปอยู่บ้านที่ลิ่งจื่อ มู่หรงลี่กลับไปจัดการเรื่องรัชทายาท เอี้ยนอ๋องเปลี่ยนตัวรัชทายาท ลบชื่อองค์ชายสามและองค์ชายหก จากนั้นพอมู่หรงลี่ตามมาเลยบอกว่าขอให้มู่หรงลี่เขียนใบหย่า ท่านอ๋องไม่ยอมแต่ก็เขียนอยู่ดี พอกลับจวนก็คิดถึงเซียงเซียง คิดได้ว่ายังไม่เคยอ่านจดหมายก็ไปหามาอ่าน ถึงเพิ่งรู้ว่านางก็เคยขอร้อง ขอความช่วยเหลือ มู่หรงลี่เรียกที่ปรึกษามาหาเพื่อให้คิดแผนการให้เซียงเซียงกลับมาหาตน ในที่สุดก็คิดแผนยอมเจ็บตัว ให้คนไปส่งข่าวว่าได้รับบาดเจ็บจากการไปจับโจรให้มาดูแล เซียงเซียงก็ต้องมาอยู่แล้ว แต่คนแจ้งข่าวกลับพามาที่บ้านในอำเภออี้สุ่ย ทุกอย่างจัดเก็บหมดแต่ไม่ใช่ของเดิม เซียงเซียงดูแลมู่หรงลี่ ตอนนี้เป็นช่วงง้อเมียแบบไม่รู้ควรทำยังไงต้องถามที่ปรึกษาตลอด มู่หรงลี่ถามความผิดของตนจะได้ปรับปรุง เซียงเซียงก็บอกออกมาเป็นข้อ ไม่อ่านจดหมาย กลับบ้านไม่อุ้มลูก ทิ้งไว้ตรงทางระหว่างหุบเขา กินข้าวเสร็จไม่รอ จนมู่หรงลี่คิดในใจว่าเหมือนวิญญาณอาฆาตเรื่องเล็กน้อยก็ยังจำได้  จนหลายวัน มู่หรงป๋อมาหาเซียงเซียงทำอาหารให้ และกินเหล้าด้วยแต่เพียงนิดเดียวก็เมาแล้วคราวนี้มู่หรงลี่หลอกถามเซียงเซียงได้ นางบอกว่าข้าไม่อยากเป็นอนุภรรยาอีกแล้ว คราวนี่ล่ะรู้ความจริงมู่หรงลี่กลับจิ้นหยางไปจัดการหย่าเซวจิ่นผิงรับเป็นน้องบุญธรรมแล้วตั้งเป็นองค์หญิง ส่วนหลันโย่วก็ให้ตัดสินใจเอาเองว่าจะกลับบ้านกับตวนมู่เจิ้งหยางหรืออยู่ต่อ ตัวเองส่งสินสอดไปสู่ขอเซียงเซียงในฐานะพระชายา ด่านอวี้โหวกวนผลัดกำลังทหารเลยส่งทหารเดินสารมา ทหารขอร้องให้เซียงเซียงเขียนจดหมายตอบกลับอย่างน้อย ห้าร้อยตัวอักษรทั้งหมดเจ็ดฉบับเดือนละสองครั้ง วันที่ยี่สิบสองเดือนสามก็เป็นวันแต่งงาน เข้าหอเสร็จยังให้ของขวัญเป็นแท่งหยกอีกนะ บอกเอาไว้ใช้เวลาคิดถึง คือพี่แกคิดแต่เรื่องนี้เลยนะ ท่านอ๋องนี่ เดี๋ยวก็บอกนี่เจ้ากินไม่อิ่มหรือ แค่ข้าคนเดียวไม่พอหรือ อย่างฮา
ต้นเดือนห้าเอี้ยนอ๋องมู่หรงเซวียนสละบัลลังก์ให้มู่หรงป๋อ มู่หรงลี่ได้เป็นปิ้งเจียนอ๋อง ช่วงนี้ครอบครัวอยู่กับพร้อมหน้า เซวียนเซียนน้อยร่าเริงสดใส ชอบขี่ม้า ยิงธนู เล่นเหมือนเด็กผู้ชาย ส่วนมู่หรงเจี๋ย เสี่ยวเจี๋ยติดเซียงเซียงที่สุด และกลัวมู่หรงลี่ที่สุด นิสัยเรียบร้อย ชอบนั่งเงียบๆ ค่อยๆทดลองสิ่งต่างๆ ดูแล้วขัดตาขัดใจมู่หรงลี่ตลอดเวลา
ครั้งนี้มีชาวบ้านรุกฮือที่เหลียวซีนึกว่าจัดการง่ายๆ พอไปถึงกลับเป็นกลุ่มชาวบ้านที่โดนขุนนางกักตุนเสบียงรวมตัวกันต่อสู้โดยมีบัณฑิตสอบตกเป็นผู้นำ ที่คิดว่าตัวเองแน่ แต่พอเจอทหารจริงก็ต้องแพ้ และหนีมาฟ้องร้องที่จิ้นหยาง ฝ่านขุนนางก็อยากจะจัดการมู่หรงลี่ มู่หรงป๋อมีคำสั่งให้ริบยศและมารายงานที่เมืองหลวง ข่าวหลังจากนั้นก็หายไป เซียงเซียงกังวลใจมากจึงคิดแผนการกินยาพิษฆ่าตัวตายเวลานั้นมู่หรงป๋อตกใจมาก เพราะถ้าเซียงเซียงตายไปจริงๆตนไม่มีทหารในมือต้องโดนมู่หรงลี่กบฏแน่นอน จึงไปปรึกษาอดีตเอี้ยนอ๋อง มู่หรงเซวียนก็บอกว่าให้ดินแดนเค้าไปปกครองเอง ด่านอวี้โหวกวนเค้าจะปกป้องอย่างดี ส่วนขณะนี้มู่หรงลี่ไปลอบชิงตัวองค์หญิงแคว้นซีจิ้งที่จะไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์มา จึงต้องปิดข่าว พอกลับถึงจวนก็ไปหาเซียงเซียงแต่เซียงเซียงเห็นหญิงสาวแต่งชุดเจ้าสาวก็เริ่มคิดอีกครั้ง เหมือนตอนหลันโย่วเลย มู่หรงลี่ก็คิดว่าตอนนี้ยังคิดถึงหานซวี่อีก ไม่รู้เรื่องเลยท่านอ๋อง พอเสร็จเลยลากองค์หญิงอวี้โหรวเข้าวังไปแล้วบอกว่าให้แต่งกับหานซวี่ แล้วก็ได้ราชโองการให้ย้ายไปอยู่ชายแดน องค์หญิงอวี้โหรวยังสำคัญตัวผิดคิดว่าตัวเองเป็นองค์หญิง แอบชอบท่านอ๋อง ทั้งๆที่ท่านอ๋องรักแต่เซียงเซียงเลยคิดจะปีนขึ้นเตียง ท่านอ๋องโกรธจัด สั่งให้เป็นโสเภณีประจำค่าย ยังนึกว่าล้อเล่นจนสุดท้ายรู้ว่าตนไม่มีความสำคัญจริงๆถึงได้คิดได้ ส่วนมู่หรงลี่ส่งฏีกาให้มู่หรงป๋อที่ได้ข่าวจากชายแดนว่าตงหูอาจสมคบกับแคว้นอื่นช่วยรัชทายาท มู่หรงป๋อเลยสั่งให่มู่หรงลี่ไปจัดการ ช่วงนี้เซียงเซียงตั้งครรภ์อีกแล้ว มู่หรงลี่บอกว่ายังไงข้าก็แซ่มู่หรง ไปครั้งนี้มู่หรงลี่ติดกับเพราะช่วยกัวหยาง และหายตัวไป ผ่านไปนานไม่ได้ข่าว ในที่สุดเซียงเซียงก็รู้เรื่องหลังคลอดลูกแล้วก็ตามไปค้นหามู่หรงลี่ด้วย สุดท้ายก็ได้พบกัน ทัพซีจิ้งแพ้ยอมทำสัญญาสงบศึก มู่หรงลี่ส่งต่ออำนาจทางทหารให้หานซวี่ มาใช้ชีวิตกับลูกเมีย
เล่ม3 :
มู่หรงลี่เข้าใจตัวเองมากขึ้นว่าตัวเองรักเซียงเซียง ส่วนเซียงเซียงก็ไม่อยากเป็นอนุภรรยาอีกแล้วจะเป็นยังไง ติดตามได้ในเล่มจบที่มีทั้งการศึกที่ต้องติดตาม และเรื่องราวความรักของมู่หรงลี่และเซียงเซียง อีกทั้งคนรอบข้างจะมีบทลงเอยแบบไหน ทุกคนล้วนมีบทสรุปของตัวเอง


หลังอ่าน :
เซียงเซียง สาวน้อยที่บ้านขายเต้าหู้ ถูกโจรจับมาและถูกขายต่อมาแถวเขาอีหลู พูดภาษาต่างเผ่าไม่ได้ เงียบ เรียบร้อย ชอบทำอาหาร งานบ้าน ขยันขันแข็ง
มู่หรงลี่ ซวิ้นอ๋องที่อารมณ์ร้อน เก่งในด้านการทำสงคราม แต่เรื่องอารมณ์ ความรู้สึกนี่ไม่รู้เรื่องกับใครเค้าเลยทีเดียว
เซียงเซียงถูกช่วยจากพวกโจรป่าเพราะมู่หรงลี่นำทหารมาปราบโจรพอดี แต่พวกทหารก็รู้กันว่าอดอยากปากแห้ง พอเจอผู้หญิงก็ขอจัดการซะหน่อย จากนายทหาร ไปถึงโจวจั๋ว หานซวี่รู้เรื่องเลยมาขอให้ท่านอ๋องเผื่อจะชอบ ท่านอ๋องก็ดันชอบเพราะคิดถึงหลันโย่วอนุภรรยาของตนที่ตายไปเมื่อแปดปีก่อน พอกลับเข้าเมืองท่านอ๋องก็พาเซียงเซียงมาส่งที่บ้าน แต่ชาวบ้านปากมากจะตาย เซียงเซียงมีคู่หมั้นอยู่ก็ต้องถอนหมั้น เรื่องฉาวโฉ่ใครก็ไม่อยากแต่งด้วยแต่มีพ่อม่ายลูกติดมาสู่ขอก็เลยตกลง ส่วนท่านอ๋องก็ได้รับบัญชาให้มาปราบโจรแถวอำเภอลิ่งจือ พวกลูกน้องรู้ดีก็เสนอให้ไปร้านเต้าหู้ พอรู้ว่าเซียงเซียงแต่งงานแล้วแบบเข้าใจผิดก็ให้จัดการคนนั้นไปซะ หานซวี่เลยบอกว่าตนเข้าใจผิด ยังไม่ได้แต่งงาน และบอกให้เซียงเซียงยอมตามท่านอ๋องไป เซียงเซียงยอมตามไปอีกครั้ง แต่ในค่ายทหาร พวกทหารไม่มีเรื่องอะไรก็พูดแต่เรื่องอย่างว่า และเซียงเซียงก็ได้ยินว่าท่านอ๋องจะยกนางให้พวกทหารเหมือนอนุคนก่อน เซียงเซียงทำใจไม่ได้ก็เลยเดินลงน้ำ แต่ไม่ตายเพราะหานซวี่ช่วยไว้แต่ท่านอ๋องมาเห็นก็โกรธจับนางกดน้ำอยู่อย่างนั้น ในที่สุดก็ถามว่าทำไมเซียงเซียงก็เล่าให้ฟัง ท่านอ๋องก็บอกว่าไม่ทำหรอก แล้วก็รับเป็นอนุภรรยา ช่วงแรกๆ เรื่องยังดำเนินไปควบคู่กับค่อยๆเผยนิสัยของตัวละครออกมา ตอนมู่หรงลี่ไปดูแลทหารผลัดเปลี่ยนกำลังคนแล้วเซียงเซียงท้องส่งจดหมายเท่าไหร่ก็ไม่ได้รับคำตอบเพราะไม่เคยเปิดอ่าน มารู้ตอนหลังนางก็ไม่ทำอีก ตอนที่ต้องหนีออกจากเมืองหลวงเพราะรัชทายาทไล่ฆ่า มู่หรงลี่เลือกทิ้งเซียงเซียงไว้ระหว่างทางแต่ช่วยพี่สะใภ้ไป เรื่องพวกนี้เซียงเซียงจดจำไว้ในใจ แต่มู่หรงลี่คิดแต่การทหารไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยรอบตัว คนนึงน้อยใจที่เป็นเพียงลูกสาวร้านเต้าหู้ คนนึงเป็นทหารเป็นท่านอ๋อง ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่คิดถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย คนนึงไม่พูด เก็บทุกอย่างไว้ในใจ กับอีกคนคิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน มาเจอกัน ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันเริ่มผูกพัน มีความรักต่อกัน กว่าจะรู้ใจตัวเองต้องผ่านเหตุการณ์มากมาย เซียงเซียงแสดงถึงความเข้มแข็งไม่เหมือนใครให้เห็นอยู่หลายครั้ง กว่าท่านอ๋องจะคิดได้ว่าคนที่ตัวเองรักอยู่ใกล้ตัวที่สุดก็เกือบสายไป ต้องชิงกลับมาให้ได้ อ่านเรื่องนี้ไปมีทั้งอารมณ์ที่ต้องเศร้าแทนเซียงเซียงในหลายๆครั้ง ข้าไม่รักหรอกเพราะรักไม่ได้ เป็นแค่อนุภรรยา เป็นแค่สาวชาวบ้าน แต่นางเป็นนักสู้จริงๆ ขำท่านอ๋องที่คิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน กินไม่ทันก็บอกสิ แล้วใครมันจะกล้าบอกท่าทางน่ากลัวขนาดนั้น ขี้ม้าเร็วจะพาไปเที่ยวนี่นะ จะเห็นถึงพัฒนาการเลยว่าพอเจอการอบรมชุดใหญ่ไปแล้วท่านอ๋องรักเมีย ดูแลเมียดีขึ้นมากแค่ไหน เทียบกับตอนแรกนี่ฟ้ากับดินเลยทีเดียว เป็นเรื่องราวของหญิงสาวธรรมดาที่ไม่ธรรมดาอย่างที่ใครๆคิด และสุดท้ายปมปัญหาทุกเรื่องที่ทิ้งไว้ได้เฉลยหมด ไม่มีเรื่องที่ทิ้มปมคาใจแน่นอน ต้องลองอ่านดู