Review 12/2562
เรื่อง : เต้าหู้ไซซี
ผู้แต่ง :
YiDuJunHua
ผู้แปล : ทีมห้องสมุด
พิมพ์ครั้งที่1 : มกราคม 2560
สนพ. ห้องสมุดดอตคอม
โปรยปก :
นางเป็นเพียงลูกสาวบ้านตระกูลกัว
ร้ายขายเต้าหู้เล็กๆ ในอำเภอห่างไกลที่ใครๆ
ก็ไม่คาดว่าวันหนึ่งจะมีวาสนาเอื้อมถึงตำแหน่งชายาอ๋อง ซวิ่นอ๋องมู่หรงลี่
ผู้นำกองทัพนักรบปีศาจแห่งแคว้นต้าเอี้ยนไม่คาดคิดมาก่อนว่าสตรีที่ตนเก็บตกได้ระหว่างออกรบจะเป็นชิ้นส่วนที่มาเติมเต็มหัวใจอันว่างเปล่า
สตรีผู้นี้เป็นเพียงสาวชาวบ้าน นิสัยเรียบง่าย หัวอ่อน พูดน้อย
นางมีทุกอย่างที่ตรงข้ามกับเขาโดยสิ้นเชิง แต่กลับเป็น
ยอดพรูหนึ่งเดียวที่ทำให้นักรบอย่างเขารู้สึกอยากวางอาวุธในมือ แล้วกลับบ้าน
นี่เป็นเรื่องราวของซินเดอเรลล่าในยุคจีนโบราณ เป็นเรื่องของสาวน้อยยากจนกับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ต่างกันที่เจ้าชายของเรื่องนี้
ดุ เหี้ยม ปากร้าย และไม่ไว้หน้าใคร
ส่วนสาวน้อยเองก็ดื้อเงียบจนเจ้าชายต้องโบกธงยอมแพ้
คำนำสนพ. :
บุรุษหลายคนใฝ่ฝันอยากจะมีชีวิตคู่ที่เรียบง่าย
อบอุ่น และมีความสุข บ้านควรจะเป็นที่ที่เขากลับไปแล้วรู้สึกได้พักผ่อน
ยามจากก็อาวรณ์ถึง
ด้วยเหตุนี้ผู้หญิงของพวกเขาอาจไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่งมากจนเกินไป
อาจไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญเฉลียวฉลาดไปเสียทุกด้าน
หรืออาจไม่จำเป็นต้องเอาชนะศัตรูด้วยความเก่งกล้าสามารถ แค่ดำรงไว้ซึ่งความเป็น
"ผู้หญิง" ที่ครบถ้วนในทุกรูปแบบและทุกความหมาย ก็คงจะเพียงพอแล้ว
เซียงเซียง ตัวเองของ "เต้าหู้ไซซี" ก็เป็นเช่นนั้น
เต้าหู้ไซซีเป็นเรื่องระหว่างคู่รักที่ไม่ได้รักกันแต่แรกพบ
มีเพียงความถูกตาต้องใจและสถานการณ์ภายนอกที่บังคับให้จำต้องอยู่ด้วยกัน
เรื่องนี้น่าสนใจตรงที่ฝ่ายหญิงเป็นแค่บุตรสาวร้านขายเต้าหู้ ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ใช้
"ความเรียบง่าย" ของตนกุมหัวใจบุรุษที่ห้าวหาญที่สุดในแผ่นดินได้
นางเอกเรื่องนี้มีนิสัยของผู้หญิงโบราณเต็มร้อย นางเป็นช้างเท้าหลัง พูดน้อย
ขี้เกรงใจ ส่วนพระเอกก็มีนิสัยผู้ชายสมัยก่อนเต็มร้อยเหมือนกัน ทั้งเด็ดขาด ใจแข็ง
ปากจัด รักหน้าที่
ความแตกต่างของทั้งคู่ไม่ได้อยู่เพียงแค่ฐานะและนิสัยของทั้งสองฝ่าย
ยังรวมถึงสิ่งแวดล้อมและครอบครัวที่หล่อหลอมทั้งคู่ขึ้นมาด้วย
เนื้อเรื่องดำเนินแบบค่อยเป็นค่อยไป เหมือนหงายไพ่ทีละใบ
เผยให้เห็นที่มาที่ไปของนิสัยตัวเอกทั้งคู่ก่อนที่ทั้งสองจะมาร่วมชีวิตกัน
นับเป็นเรื่องราวที่น่ารักมากเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
เล่ม1 :
กัวเซียงเซียงเป็นบุตรสาวร้านขายเต้าหู้แห่งอำเภอลิ่งจือ
ถูกโจรจับตัวมาจากบ้านเกิด ในเวลาเดียวกัน
กองทัพซวิ่นอ๋องมู่หรงลี่ก็มาปราบปรามคนกลุ่มนี้เข้าพอดีเป็นเผ่าถูเหอ
เหตุการณ์ต่างๆจึงเริ่มขึ้น เพราะเซียงเซียงพูดภาษาที่พวกนี้จับมาไม่ได้
ทำให้หนีไปไหนไม่ได้ จนกระทั่งถูกทหารมาพบ จะนำตัวไปแก้ขัด
ผู้ที่มาพบคือโจวจั๋วพากลับค่ายทหาร
หานซวี่ก็มาขัดขวางบอกไม่สู้ลองถามท่านอ๋องดูก่อน
และเล่าเรื่องราวเมื่อแปดปีก่อนให้ฟัง มู่หรงลี่เห็นเซียงเซียงก็คิดถึงเรื่องราวเมื่อแปดปีก่อนที่เป็นบาดแผลในใจของมู่หรงลี่
ก็สั่งให้ส่งไปที่กระโจม
เซียงเซียงที่เป็นสาวน้อยชาวบ้านธรรมดามาโดนแบบนี้ทั้งหวาดกลัว ทั้งตกใจ
มู่หรงลี่ก็พูดแต่ชื่อหลันโย่ว พอเสร็จก็ถามว่ากลัวมากหรือ
หลันโย่วไม่เคยกลัวสตรีผู้นี้ไม่ใช่หลันโย่ว อนุผู้นั้นของเขา เซียงเซียงไม่ค่อยพูด
นั่งเงียบๆ จนคืนหนึ่งกลุ่มโจรบุกมาอีก เซียงเซียงมีความคิดที่จะหนี
แต่สุดท้ายก็ได้มู่หรงลี่ช่วยไว้อีกครั้ง ตอนกลับเซียงเซียงขอให้ส่งกลับบ้าน
มู่หรงลี่ก็ขี่ม้าไปส่งจริงๆ
แต่เพราะเซียงเซียงเป็นหญิงมู่หรงลี่ส่งลงจากหลังม้าก็ยืนไม่อยู่ เหมือนถูกโยนลงมา
ชาวบ้านต่างเห็นก็บอกว่านี่เต้าหู้ไซซีกลับมาแล้ว
แต่ไม่มีใครที่คิดแง่ดีกับนางอีกเลย
กัวเถียนบิดาเซียงเซียงดีใจมากที่บุตรสาวกลับมา และคิดถึงเรื่องที่เคยหมั้นหมายไว้
แต่ตระกูลอวี๋กลับปฏิเสธกัวเถียนเลยขอถอนหมั้นเอง
เซียงเซียงเป็นคนมีฝีมือในการทำอาหาร กลับมาบ้านก็ช่วยทำน้ำปรุงรสเช่นเดิม
แต่ก็ยังมีคนอยากแต่งกับเซียงเซียงคือหม่าจิ้งซานเป็นพ่อค้าพ่อม่ายลูกติดเมียตาย
ในที่สุดเรื่องราวก็ตกลงกันได้
ส่วนมู่หรงลี่กลับเมืองหลวงจิ้นหยางก็ก่อเรื่องทุกวัน
จนเอี้ยนอ๋องต้องส่งให้มาปราบเผ่าซานหยงที่ก่อเหตุวุ่นวายขึ้นที่อำเภอเหลียวซี
และมีบัญชาให้หานซวี่ โจวจั๋ว
และเหยียนชิงตามไปเพราะกลัวมู่หรงลี่จะไปก่อเรื่องที่เหลียวซีอีก มาถึงเหลียวซี
ทั้งสามแม่ทัพที่ถือเป็นพี่น้องของมู่หรงลี่ก็ชวนกันไปกินเต้าฮวยที่ร้านของเซียงเซียง
พอไปกับได้ยินว่าเซียงเซียงแต่งงานแล้ว มู่หรงลี่ไม่ชอบกองบัญชาการมาพักที่อำเภอลิ่งจือ
ตอนนี้กำลังกินข้าวเห็นหานซวี่ส่งสายตากับเหยียนชิง
เหยียนชิงที่เป็นคนไม่รู้สถานการณ์ที่สุดดันชวนไปกินเต้าฮวยซะนี่ อยากตายใช่ไหม
บื้อมาก แล้วก็ไปกันจริงๆ พอไปถึงตอนแรกเซียงเซียงเห็นก็ตกใจรีบหนีไป
แต่พอคิดได้ว่ามู่หรงลี่ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา กลัวพ่อแม่
น้องชายไปยั่วโทสะแล้วถูกฆ่าเลยออกมาใหม่ มู่หรงลี่ก็ถามว่าจะหนีไปไหน หานซวี่บอกมู่หรงลี่ว่านางแต่งงานแล้ว
มู่หรงลี่โมโหจัดบอกให้ไปถามมาว่าแต่งกับใครจะได้ฆ่าไม่ผิดตัว
หานซวี่กับมาบอกว่าตนเข้าใจผิด แต่จริงๆมาบอกกับพี่น้องว่าแบบนี้ดีกว่าที่พวกเราจะหัวหลุดจากบ่า
แล้วก็ไปเกลี้ยกล่อมเซียงเซียง ในที่สุดเซียงเซียงก็ยอมตกลง
กัวเถียนมาหาก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เซียงเซียงก็บอกว่าข้าเต็มใจ
ออกไปปราบโจรมู่หรงลี่พาเซียงเซียงไปด้วย เซียงเซียงอยู่ว่างไม่ได้ก็ไปช่วยทำอาหาร
มู่หรงลี่พบว่าอาหารอร่อยขึ้นทั้งๆที่เขาลิ้นจระเข้กินอะไรก็ได้ยังรู้สึก
กลางคืนออกมายังเจอคำพูดของทหารทำให้เสียใจ เลยคิดฆ่าตัวตาย หานซวี่ช่วยเอาไว้
แต่มู่หรงลี่ไม่ยอมจับเซียงเซียงกดน้ำครั้งแล้วครั้งเล่า
หานซวี่เกลี้ยกล่อมให้เซียงเซียงอยู่กับท่านอ๋อง
เพราะอยู่กับใครก็ต้องปรนนิบัติเหมือนกัน ในที่สุดเซียงเซียงก็ตัดสินใจได้
แต่ก็ยังมีความคิดไว้ในใจคิดจะยกให้ใครก็ยกให้ เป็นแค่ของเล่นเท่านั้น
แต่ก็ยอมอยู่กับมู่หรงลี่ พอกลับเข้าเมือง
สุดท้ายมู่หรงลี่ยอมตบแต่งเซียงเซียงเป็นอนุภรรยา
เรื่องนี้เป็นที่เล่าลือไปทั้งอำเภอ และก็พาเซียงเซียงกลับจิ้นหยางไปด้วย ตอนลงจากม้ามู่หรงลี่รู้แล้วว่าต้องค่อยๆวางเซียงเซียงลง
ไม่งั้นนางจะล้มไปกับพื้น
คนภายนอกเห็นกิริยาของซวิ้นอ๋องก็เดาความสำคัญของเซียงเซียงได้
แต่เซียงเซียงเองก็ยังไม่รู้ตัว เซียงขอทำครัวเองมู่หรงลี่อนุญาตคิดว่าเรื่องแค่นี้ก็ต้องมาบอกด้วย
เพราะเขาเป็นคนไม่ใส่ใจเรื่องเล็กน้อย แล้วเซียงเซียงก็ค่อยๆรู้เรื่องของหลันโย่ว
เซียงเซียงดูแลอาหารการกิน เรื่องในชีวิตประจำวันให้มู่หรงลี่
ทำอาหารกลางวันไปให้ถ้ารู้ว่าอยู่ที่ไหน แต่เป็นอาหารที่ชาวบ้านกินกัน
เพราะยังไม่รู้จักวัตถุดิบที่คนชั้นสูงกินกัน มู่หรงลี่บอกว่าจะไปตรวจดูที่ด่านผิงตู้กวน
ไม่คิดว่าบอกจะไปก็ไปทันที แล้วใครจะไปเตรียมอะไรทัน เซียงเซียงส่งจดหมายและข้าวของเครื่องใช้
อาหารแห้งที่ทำเองไปให้ทุกเดือน แต่ไม่เคยได้รับจดหมายตอบเลย
จนถึงปลายเดือนสิบเอ็ดเซียงเซียงเริ่มนอนเก่ง กินได้น้อยก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเพราะไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย
ที่แท้นางตั้งครรภ์แล้วนั้นเอง กว่านอวี้บอกให้เซียงเซียงเขียนจดหมายหาท่านอ๋อง
ซูเฟยคิดว่าเซียงเซียงอยู่ในจวนคนเดียวไม่มีคนดูแลจึงรับมาอยู่ด้วย
เซียงเซียงไม่อยากไปเขียนจดหมายหามู่หรงลี่หลายครั้งก็ไม่ได้คำตอบ
ในที่สุดต้องเข้าวัง ที่นางไม่รู้จักใคร
และยังมีอิ๋นจือลูกสาวนางกำนัลที่ซูเฟยดูแลเหมือนลูกมาคอยกลั่นแกล้งทำให้เซียงเซียงเกือบจะไม่รอด
โชคดีที่ช่วยได้ทัน
แต่ทั้งหมดสุดท้ายล้วนเป็นแผนการทั้งสิ้นเพราะมู่หรงลี่มีอำนาจทหารในมือ
ใครก็อยากได้ไว้เป็นพวก ในที่สุดเซียงเซียงก็ได้กลับจวน
กว่านอวี้เห็นแล้วท่าจะไม่ดีจึงรับนางกัวเฉินซื่อมาดูแลเซียงเซียง
ในที่สุดเซียงเซียงก็คลอดลูกสาวออกมาได้สำเร็จ
พอมู่หรงลี่กลับมาถึงเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีลูกแล้ว
ไปดูก็บอกว่าท่านอ๋องน้อยอยู่ที่ไหน
ทำให้เซียงเซียงรู้ว่าที่แท้เขาไม่เคยอ่านจดหมายของนางเลย อนุภรรยาเป็นเพียงอนุภรรยาจะนับเป็นครอบครัวได้อย่างไร
นี่คือสิ่งที่เซียงเซียงคิด
ที่มู่หรงลี่ทำคือเค้านึกว่าไม่มีอะไรก็ไม่เปิดอ่านที่อ่านมีแต่สารทางทหารของเอี้ยนอ๋อง
ผ่านไปนานคนที่ส่งสารจึงเก็บเอาไว้ไม่ได้เอาออกมามอบให้ เซียงเซียงเริ่มคิดได้
เห็นมู่หรงลี่ไม่สนใจลูกก็คิดว่าไม่รักลูกอีก
เพราะเค้ายังตั้งตัวไม่ทันมาถึงก็รู้ว่ามีลูกแล้ว
ความรู้สึกช้าก็อย่างนี้แหละนะท่านอ๋อง
มู่หรงลี่เข้าวังเอี้ยนอ๋องก็ถามว่าตั้งชื่อลูกว่าอะไร มู่หรงลี่ตอบว่า
มู่หรงเจี๋ย เอี้ยนอ๋องคิดนี่มันชื่อเด็กผู้หญิงตรงไหน เลยบอกว่าให้ชื่อมู่หรงเซวียน
มู่หรงลี่ตกลง คิดในใจคิดไว้แล้วจะมาถามทำไม เอี้ยนอ๋องรำคาญไล่กลับไป
แต่พอมู่หรงลี่ไปเหลือบเห็นเส้นผมสีเทาปนขาวก็รู้สึกกลัดกลุ้มอย่างประหลาด
เพราะในครอบครัวเขารักแค่เสด็จพ่อ แม่เลี้ยงซูเฟย
และนับมู่หรงป๋อพี่ใหญ่เป็นพี่ชายเท่านั้น คนที่ยอมลงให้มีเพียงเสด็จพ่อและเสด็จแม่
กลับถึงจวนเซียงเซียงก็ดูแลปรนนิบัติมู่หรงลี่และไปดูแลลูกต่อ
ตอนเช้ามู่หรงเชียนพี่สามมาเยียนถามหาหลานสาว ทั้งสองคุยกัน
แล้วก็ไปจวนโจวไท่เวยโดยอุ้มลูกสาวติดมือไปด้วย พอกลับบ้านดันลืมลูกไว้อีก
บัญชีนี้เซียงเซียงจดไว้แล้ว คิดในใจว่ามู่หรงลี่ไม่รักเราแม่ลูก
เดี๋ยวมีเมียใหม่ลูกใหม่ก็ลืมนางและลูกไปเอง
ตอนนี้เป็นการช่วงชิงอำนาจของรัชทายาทกับมู่หรงป๋อ
ตระกูลเซวน่าจะมีประโยชน์ที่สุด
มู่หรงลี่ตัดสินใจทันทีจะแต่งพระชายาหลานสาวคนโตใต้เท้าเซว เหวินติ้งโหว
เซวเส้าเฉิง ที่หน้าจวนมีคนแปลกหน้าอยู่ มู่หรงลี่จัดการทั้งหมด
วันนั้นมู่หรงป๋อมาเยียนที่จวนบอกว่าต้องออกจากจิ้นหยาง บอกจะไปก็ไป อุ้นลูกไปด้วย
เอาอีกแล้ว
ระหว่างทางต้องฝากลูกและลูกของมู่หรงป๋อไว้กับครอบครัวชาวนาแล้วเดินทางต่อ
แต่มีกับดัก มู่หรงลี่ตัดสินใจเร็ว พาพระชายาซูจิงของมู่หรงป๋อไปส่วนเซียงเซียงทิ้งไว้ให้หลบหนีเข้าไปในป่าเอง
เซียงเซียงจดบัญชีนี้ไว้อีกแล้ว ว่าไม่คิดเหลียวแลนางเลย จะทิ้งก็ทิ้งง่ายๆ พอไปถึงจุดนัดพบ
หานซวี่รออยู่พอรู้ว่าเซียงเซียงถูกทิ้งอยู่กลางทางมู่หลงลี่จะให้ทหารที่ไม่รู้จักไปรับตัว
หานซวี่ก็ขอไปรับเอง มู่หรงลี่ไม่อนุญาต แต่สุดท้ายหานซวี่ก็ขัดคำสั่งไปรับเซียงเซียง
เซียงเซียงยังหนีรอดได้ รอจนได้เจอหานซวี่ แต่ออกจากเมืองไม่ได้ ระหว่างทางทำให้ทั้งสองเกิดความรู้สึกดีๆต่อกัน
แต่ทั้งสองก็คิดไปเองฝ่ายเดียวทั้งคู่ไม่มีเรื่องใดเกิดขึ้นทั้งสิ้น ออกจากเมืองได้ไปพบกับหร่านหวินโจวคนสนิทของมู่หรงลี่อีกคน
บอกว่าหานซวี่ขัดคำสั่งกองทัพน่าจะมีโทษให้เซียงเซียงช่วยพูด
พอเจอหน้ามู่หรงลี่จะทำโทษหานซวี่เซียเซียงจึงออกหน้าบอกว่า คนเช่นข้า
ต่อให้ควักหัวใจออกมา ก็คงไม่มีค่าพอให้ท่านหันกลับมามองสินะ
มู่หรงลี่บอกไสหัวไปเซียงเซียงจะออกจากค่าย โกรธอีก บิดาให้เจ้าใส่หัวไป
เจ้ากล้าไสหัวไปข้างนอก ไสหัวกลับไปที่กระโจม
ใครจะไปรู้ก็นึกว่าไม่ต้องการจริงๆนี่ ไม่บอกใครก็ไม่เข้าใจหรอกนะท่านอ๋อง
เซียงเซียงใจลอย มู่หรงลี่สังเกตได้ หานซวี่ก็แปลกไป
มู่หรงลี่ก็เห็นแต่ยังไม่ได้คิดอะไร จนตอนที่มู่หรงลี่ มู่หรงป๋อต้องยกทัพไปเมืองต้าจี้
ให้หานซวี่ดูแลด่านผิงตู้กวน ซีจิ้งแอบมาสอดแนม
มู่หรงลี่จึงกลับไปที่ด่านผิงตู้กวน
แต่ตอนไปถึงกระโจมมืดค่ำเซียงเซียงนอนอยู่ในใจไม่ปกติก็เลยร้องออกมาว่าไม่ได้ หาน
กำลังจะเอ่ยชื่อออกมาแต่แก้ทัน เท่านั้นมู่หรงลี่ก็รู้แล้วโกรธ
นึกว่ามีชู้แต่ไม่แสดงออก จะทำยังไงดีเนี่ย
พอเปิดศึกเซียงเซียงก็ตัดสินใจได้แล้วว่าต้องติดตามมู่หรงลี่เพราะทหารใช้เลือดเนื้อเป็นกำแพงต่อต้านข้าศึก
พอเสร็จศึกมู่หรงลี่ไม่มาหาเซียงเซียงแต่กลับไปนอนที่หอนางโลมแล้วจากไปอีกครั้ง สงครามกำลังจะปะทุที่จิ้นหยางแต่มู่หรงเชียนมาบอกว่าเอี้ยนอ๋องฟื้นแล้ว
มู่หรงป๋อยอมเข้าไปพบ ตอนนั้นรัชทายาทมู่หรงเซิ้นลอบส่งทหารออกมาไล่ล่ามู่หรงลี่
มู่หรงลี่โกรธจัดเลยสั่งให้บุกเมือง ทหารบุกเข้าไป
ด้านในเตรียมหน้าไม้ยักษ์ไว้ยิงมู่หรงลี่ไม่หลบเพราะถ้าหลบคนที่ตายคือหานซวี่จึงแค่เบี่ยงจุดตาย
และบุกต่อ จนได้เจอเสด็จพ่อจึงยอมกลับไปรักษาตัวที่จวน
เซียงเซียงกลับมารู้ข่าวก็มาดูแลเพราะไม่มีใครเข้าหน้าทนอารมณ์ของมู่หรงลี่ได้
แต่เซียงเซียงใช้ลูกตื้อและแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินทนไปจนป้อนข้าวป้อนน้ำเช็ดตัวให้
เพราะเห็นว่าลุกขึ้นมาอาละวาดไม่ได้จริงๆ
เล่ม1:
เรื่องราวของเซียงเซียงที่ไม่คิดว่าจะได้เจอกับซวิ้นอ๋องมู่หรงลี่
และได้อยู่ด้วยกัน กับนิสัยที่คนหนึ่งเป็นทหารทำอะไรก็รวดเร็ว ไม่สนใจใครหน้าไหน
ไม่ใส่ใจใคร
กับเซียงเซียงหญิงสาวจากครอบครัวธรรมดาจะสามารถอยู่กับท่านอ๋องได้หรือไม่ต้องตามอ่านในเล่มต่อไป
เล่ม2 :
มู่หรงลี่ยอมให้เซียงเซียงดูแล
หมอหลวงจางและคนอื่นๆไม่สามารถทำให้ท่านอ๋องกินข้าวกินยาได้ แต่เซียงเซียงทำได้
ทุกคนจึงเห็นเซียงเซียงเป็นที่พึ่ง เซียงเซียงอุ้มลูกสาวมาให้มู่หรงลี่ดู
ชายหนุ่มไม่เคยเลี้ยงเด็ก อยู่กับเด็กเล็ก
พอเห็นลูกร้องก็คิดในใจว่าเด็กเล็กนี่เลี้ยงยากจริง แต่กลับพูดด้วยน้ำเสียงที่ตัวเองคิดว่าธรรมดา
แต่คนอื่นฟังแล้วคือการตะคอก รำคาญแบบดุๆ ว่าอุ้มออกไป
เซียงเซียงก็คิดว่าขนาดลูกตัวเองก็รำคาญอย่างนั้นก็ให้อยู่ห่างๆหน่อยจะดีกว่า
นึกว่าท่านอ๋องคงไม่รักลูก เพราะท่านอ๋องแสดงออกไม่เป็นนี่สิ เซียงเซียงรู้ว่ามู่หรงลี่เป็นสามีของนาง
นางไม่ตั้งความหวังว่ามู่หรงลี่จะมอบความรักให้เพราะนางเป็นเพียงลูกสาวชาวบ้านเลยต้องระมัดระวังตลอดเวลา
กลัวว่าจะทำอะไรผิดพลาดไป
เซียงเซียงไม่เกลียดมู่หรงลี่แต่ก็รู้ตัวดีว่าไม่มีสิทธิ์รัก
ความรักของเขามีไว้ให้หลันโยว ไม่เกลียดแต่ก็รักไม่ได้ นางเฝ้าแต่คิดเช่นนี้
ปลายเดือนสิบสองเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของเอี้ยนอ๋อง
มู่หรงลี่พาเซียงเซียงเข้าวังมาด้วย ระหว่างทางมู่หรงลี่ยังได้เจอรัชทายาท
มู่หรงเซิ่น
ความจริงแล้วยังไงมู่หรงลี่ก็จะต้องแก้แค้นที่โดนทำร้ายที่ประตูเมืองให้ได้
แต่โดนเซียงเซียงขัดขวางไว้เพราะว่าหมอหลวงจางบอกว่าห้ามเคลื่อนไหวมา
มู่หรงลี่กระชากมือที่จับห้ามอย่างลืมตัวออกแต่แค่นี้ก็ทำให้เซียงเซียงล้มลงแล้ว
มู่หรงลี่ก็เลยเปลี่ยนใจ
เอี้ยนอ๋องพูดกับมู่หรงป๋อบอกเป็นนัยเรื่องที่ให้ชิงบัลลังก์กับรัชทายาทได้
ตอนกลับจวนยังมีเรื่องเกิดขึ้นมีมือสังหารของรัชทายาทมาลอบฆ่ามู่หรงลี่
เซียงเซียงก็ไปตามคนมาช่วยเอาไว้ได้
หลังจากเกิดเรื่องกบฏขึ้นตระกูลเซวก็มาทวงสัญญาอีกครั้ง
แต่ผู้ที่ถูกส่งมาแต่งเป็นพระชายาคือหลานสาวคนเล็กที่ถูกยกฐานะให้เป็นบุตรภรรยาเอก
ในวันแต่งมู่หรงลี่ไม่ได้คิดมากแต่งก็แต่งไป สุดท้ายกลับกลายเป็นเซวจิ่นผิงเด็กอายุสิบสองปีที่ยังไม่โตคนหนึ่งที่หนีออกจากเรือนพักของตัวเองมาที่เรือนของเซียงเซียงเพราะกลัวและหิว
อยู่ที่จวนอ๋องเซวจิ่นผิงอยู่ในจวนฐานะพระชายาแต่กลับกลัวมู่หรงลี่เหมือนหนูกลัวแมว
มู่หรงลี่ก็ไม่ชอบเซวจิ่นผิงชอบไล่ให้กลับเรือนอยู่เรื่อย ไม่อยากเห็นหน้านางเหมือนกัน
เทศกาลตรุษจีนมาถึงหานซวี่กลับมาเยี่ยมบ้าน แวะมารายงานท่านอ๋อง
แต่ดันอ้อมมาที่เรือนของเซียงเซียงพูดคุยกันเสร็จมีคนมามากมาย
แทนที่ตัวเองจะออกไปกลับหลบเข้าห้องเซียงเซียง จนตอนดึกที่มู่หรงลี่กลับมา
เซวจิ่นผิงนอนอยู่กับเซียงเซียง ก็โดนไล่กลับไป พอทำเรื่องอย่างว่าชายหญิงเสร็จกลับพบหานซวี่หลบอยู่ในห้อง
มู่หรงลี่ไม่ฟังอะไรก็มีคำสั่งลงโทษหานซวี่และ กักบริเวณเซียงเซียง
เอาเซวียนเซวียนน้อยไปให้ซูเฟยเลี้ยง เซวจิ่นผิงไม่ยอมไปต่อว่าในที่สุดมู่หรงลี่ก็คิดได้ว่ามีพิรุธ
ควรเรียกทุกคนในเหตุการณ์มาถาม ก็ได้ความตรงกันว่าเซียงเซียงไม่รู้เรื่องเป็นหานซวี่ที่แอบไปหลบอยู่ในห้องเซียงเซียงเอง
พอได้ลูกสาวกลับมาอยู่ข้างกายเซียงเซียงก็กลัวว่ามู่หรงลี่จะไม่ชอบลูกสาว
แต่ความจริงคือเลี้ยงเด็กไม่เป็น พอลูกร้องไห้ เซียงเซียงจะอุ้มไปแอบ
มู่หรงลี่เลยเอามาอุ้มบอกจะพาไปขี่ม้า เซวียนเซวียนก็เงียบทันที
มู่หรงลี่คิดในใจที่แท้เลี้ยงเด็กก็ไม่ยากอย่างที่คิด เป็นครั้งแรกที่มู่หรงลี่เห็นว่าแค่เล่นกับลูกเซียงเซียงก็ดีใจถึงเพียงนี้
ผู้หญิงคนนี้อยู่ใกล้เขาขนาดนี้เลย
มู่หรงป๋อบอกให้มู่หรงลี่แต่งตั้งเซียงเซียงเป็นชายารอง จริงๆแล้วมู่หรงลี่ไม่คิดอะไร
เพราะผู้หญิงของเขาอยู่ในตำแหน่งไหนก็เหมือนกัน แต่คนภายนอกมองต่างกันนี่สิ
และตัวเซียงเซียงเองก็รู้ว่าอนุภรรยากับชายาต่างกัน นางไม่มีสิทธิ์อะไร
ไม่เคยเรียกร้อง และรู้ว่าทุกอย่างเป็นเพราะมู่หรงลี่มอบให้เท่านั้น
มู่หรงลี่บอกให้เซียงเซียงคลอดลูกชายให้อีกคนแล้วจะตั้งเป็นชายารอง
ตอนกินข้าวเซียงเซียงขอให้ไปเรียกเซวจิ่นผิงมาด้วย มู่หรงลี่คิดว่านี่คือครั้งแรกที่รู้สึกว่านี่คือบ้านของเขา
เรื่องของหานซวี่ที่มู่หรงลี่ไม่เรียกใช้ ก็ไม่มีใครในกองทัพเรียกใช้
พี่น้องต่างเป็นกังวล เซียงเซียงก็ขอร้องด้วย แต่พูดเหตุผลกับมู่หรงลี่ไม่ได้ก็ใช้การร้องไห้
กับยอมรับทุกอย่างไปซะเลย มู่หรงป๋อก็มาช่วยพูด บอกว่าที่รู้โกรธนี่เพราะ กลัวว่าเคยรักกันหรือเคยนอนด้วยกัน
มู่หรงลี่คิดไม่ตกสุดท้ายก็คิดได้ว่าเคยรักกันหรือเคยนอนด้วยกันก็ไม่ได้ทั้งสองอย่าง
ที่แท้คำตอบง่ายๆมีอะไรให้ลำบากใจกัน
มู่หรงลี่เรียกที่ปรึกษามาถามว่าควรทำยังไงกับผู้หญิง
ทุกคนก็กลัวมู่หรงลี่ทั้งนั้น พอรู้เรื่องก็บอกว่าให้พาไปเที่ยว
มู่หรงลี่พอฟังก็ไปบอกเซียงเซียง แต่การไปเที่ยวของมู่หรงลี่ไม่เหมือนใคร
ตื่นมาก็พาขี่ม้าไปเลย เร็วจนตามไม่ทัน ขี่ม้าก็เร็วมากนั่งอยู่หลังม้าหนาวสุดๆ
ท่านอ๋องทำอะไรรวดเร็วพอมาถึงวัดก็บอกจะไปกินเจ อาหารเจยังไม่เตรียมก็เป็นของที่พระฉันตามปกติแต่ละวันบอกว่านี่นะอร่อยออกจะธรรมดา
ตัวเองกินเสร็จก็จะไปอีก เซียงเซียงยังไม่ได้กินเลย แต่เรื่องนี้เจอหลายครั้งละ
ตั้งแต่ตอนหนีออกจากเมือง จากนั้นก็จะพาไปดูน้ำตกก็เดินเร็วสุดๆ
ไปถึงยังไม่หายเหนื่อยจะกลับล่ะ พอบอกว่าจะไปจุดธูปไหว้พระ
เซียงเซียงเลยรีบบอกว่าข้าไม่นับถือไม่ต้องไปก็ได้ คือตามไม่ไหวแล้วท่านอ๋องยังไม่รู้นึกว่าเรื่องปกติอีก
กลับมาที่จวน สาวใช้ถามสนุกไหมเซียงเซียงตอบไม่รู้สิก็ไม่เห็นอะไรเลยนี่
ส่วนที่ปรึกษามาถึงก็ถามว่าจะไปเมื่อไหร่ ท่านอ๋องกลับบอกว่าไปมาแล้ว
เป็นใครจะไม่ตกใจ นี่แค่ครึ่งเช้าไปเที่ยวชมธรรมชาติมาแล้ว แน่ใจนะ เร็วไปไหม
เลยต้องเอาใหม่คราวนี้วางแผนไปเที่ยวป่ามรกตพันปี คราวนี้เซียงเซียงเตรียมตัวมาดี
แต่ก็ยังไม่ไว้ใจท่านอ๋อง ท่านอ๋องก็ทำตามทุกขั้นตอน ตื่นนอนสาย ขี่ม้าต้องทำยังไง
ขึ้นไปนั่งในรถม้าเซียงเซียงยังระแวงไม่รู้ต้องทำตัวยังไง
พี่แกก็เอาทวนยาวมาเช็ดซะนี่ รังสีอำมหิตออกขนาดนั้นใครจะไม่กลัว
พอออกไปถามว่าต้องทำยังไง เซียงเซียงก็ทำใจกล้าบอกให้เข้ามานั่งเป็นเพื่อน
พี่แกยังบอกว่ายังไม่ว่างเพราะตัวเองกำลังฟังคำแนะนำของที่ปรึกษาวิธีจีบสาว
สุดยอดจริงๆท่านอ๋อง ฮามากล่ะ พอไปถึงนึกว่าจะได้ชมป่าเหมยมู่หรงลี่กลับบอกว่าเตรียมตัวให้ดี
ยังมีธุระ ธุระที่ว่าก็คือ
รัชทายาทจะส่งคนมาลอบสังหารทุกทีอยู่ในเมืองไม่มีโอกาสมาขนาดนี้ต้องจัดแน่ๆ และก็เป็นไปตามคาด
มีนักฆ่ามาจริงๆ เซียงเซียงยังพอไหวแต่อนุภรรยาของที่ปรึกษานี่สิกลัวจนสลบ
แต่เซียงเซียงเห็นคนตายแบบผ่าศพต่อหน้าก็ตกใจเหมือนกันนะ ฝันร้ายเลยทีเดียว
มู่หรงลี่กลับจะให้ไปเที่ยวต่อเพราะยังไม่ได้ไป
แล้วเสื้อผ้าโดนหิมะซะเปียกขนาดนั้น ท่านอ๋องนี่ไม่รู้เรื่องรู้ราวจริงๆ
สุดท้ายเซียงเซียงป่วยนอนฝันร้าย ขอกลับบ้าน
มู่หรงลี่ก็ยอมพากลับบ้านที่อำเภอลิ่งจือ
นางไม่ได้พาลูกสาวกลับมาด้วยเพราะกลัวจะเหมือนคราวที่แล้วที่ถูกทิ้งอีก
มาถึงก็มาพักที่บ้านตระกูลกัว เซียงเซียงขอพักที่บ้านท่านอ๋องก็พักด้วย แล้วก็คิดว่ากัวเถียนท่านพ่อตานี่พูดมากจริงๆ
คนที่เขายอมฟังมีเพียงเสด็จพ่อเสด็จแม่นะ มาอยู่ที่บ้านของเซียงเซียงมู่หรงลี่เปิดใจพูดกับเซียงเซียงเป็นครั้งแรกบอกว่าให้บอกให้รู้ว่าอยากได้อะไร
ให้หรือไม่ให้เป็นเรื่องของข้า ก็บอกให้รู้ได้ เค้าไม่เคยพูดเปิดใจอะไรแบบนี้มาก่อน
มันน่าอายชะมัด พี่สาวน้องชายชวนไปดูงิ้วเซียงเซียงก็ไป
ตอนดูบอกให้สาวใช้ตกรางวัลนักแสดง สาวใช้โยนทองคำไปก้อนหนึ่ง ที่โรงงิ้วอวี๋ชิ่งได้เห็นเซียงเซียงก็เกิดความคิดริษยาขึ้น
ของๆตนเมื่อก่อนเป็นลูกสาวร้านเต้าหู้ ตอนนี้อยู่สูงเกินเอื้อม ส่วนเซียงเซียงได้ฟังท่านพ่อบอกเรื่องใช้จ่ายเงินการให้รางวัลก็เริ่มกังวล
พอบอกท่านอ๋อง
ท่านอ๋องกลับบอกว่าผู้หญิงของข้าจะตกรางวัลให้ใครจะให้น้อยได้อย่างไร
คิดกันได้คนละอย่างสุดขั้วเลยจริงๆท่านอ๋องกับคนทั่วไปนี่ จากครั้งนี้อวี๋ชิ่งสร้างข่าวลือให้เซียงเซียงเสียชื่อเสียง
เซียงเซียงไปบอกท่านอ๋อง ท่านอ๋องไปจัดการทันที มาถึงก็ดึงลิ้นตัดลิ้น
ไม่ถามเหตุผล ทำก่อนผิดค่อยหาตัวคนใหม่ตรรกะสุดยอดมาก ในบางแง่ก็ไว้ใจท่านอ๋องได้
แต่ถ้าเป็นเรื่องอารมณ์ความรู้สึกนี่ท่านอ๋องไม่ผ่านอย่างแรง เด็กน้อยมากอะ ไม่รู้เรื่องกับใครเค้าเล้ยจริงๆ
จบเรื่องเซียงเซียงอารมณ์ดีจริงๆเพราะท่านอ๋องเชื่อใจนาง
กลับจวนเซวจิ่นผิงอายุครบสิบสามไปแล้วสามารถเข้าหอได้
แต่เรื่องนี้ไม่สบอารมณ์ท่านอ๋องอย่างแรง พูดกับเซียงเซียงซะแรงว่าไม่ต้องยุ่ง
แต่คำพูดมันเหมือนแบ่งชั้นว่าอนุภรรยาไม่ต้องยุ่งเรื่องของพระชายา
ทั้งๆที่ในใจท่านอ๋องไม่ได้คิดอะไรนอกจากเซวจิ่นผิงยังไงก็เป็นเด็ก ยังมีเรื่องที่แม่นมพาท่านหญิงน้อยไปเล่นที่เรือนของหลันโย่วแล้วทำของเสียหาย
มู่หรงลี่โวยวายเซียงเซียงเห็นก็นึกว่าท่าทางแบบนี้คือจะโยนลูกทิ้ง จะทำร้ายลูก
ท่านอ๋องเห็นก็เศร้าใจแล้วก็คิดได้ว่านางไม่เคยไว้ใจข้าเลยตั้งแต่ตอนที่ทิ้งไว้กลางป่า
เลยอธิบายให้ฟังว่าที่ทิ้งไว้เพราะจะได้หนีไปได้ง่ายกว่าถ้าไม่อยู่เฉยๆเป็นเป้านิ่ง
เป้าที่ต้องการก็คือตน ม้าแบกสามคนไม่ไหวไม่รอดอย่างแน่นอน
และถามว่ายอมอยู่ด้วยกันด้วยความจริงใจหรือไม่ เซียงเซียงยอมอยู่ด้วยในที่สุด
ปลายเดือนห้า ตงหูบุกมาโจมตีด่านอวี้โหวกวน กำแพงที่ก่อสร้างถูกทำลาย
มู่หรงลี่ถูกส่งให้ไปคุมการก่อสร้าง ในที่สุดก็ได้เจอหลันโย่ว
แต่นางมีลูกชายมู่หรงลี่ขอร้องให้กลับไปด้วยกัน หลันโย่วบอกให้รับลูกนางไปอยู่ด้วย
มู่หรงลี่ตกลง พอการก่อสร้างกำแพงเสร็จกลับมา
มู่หรงลี่ดูแลหลันเคอที่เปลี่ยนชื่อเป็นมู่หรงเค่อ ไม่สนใจเซวียนเซวียนตอนกลับจวน
และหลันโย่วก็ใช้ให้เซียงเซียงทำปลาแห้ง จากนั้นมู่หรงลี่รับหลันโย่วเป็นชายารอง
เอาชื่อมู่หรงเคอเข้าทำเนียบตระกูล แต่ไม่ให้หลันโย่วยุ่งกับเซียงเซียง
หลันโย่วก็คอยก่อกวนทั้งเรียกร้องว่าจะให้มู่หรงลี่มอบความรักให้ตนคนเดียว
ให้เลือกระหว่างเซียงเซียงกับตน
สุดท้ายมู่หรงลี่ส่งเซียงเซียงออกนอกจวนบอกว่าให้ไปอยู่สองสามวัน
ไม่ได้บอกเหตุผลเป็นใครก็คิดว่าโดนไล่ออกไปแล้ว
แต่มู่หรงลี่กลับคิดว่าให้ไปอยู่สองสามวันรอเกลี้ยกล่อมหลันโย่วได้จะรับกลับมา
แล้วก็เกิดเรื่องท่านหญิงน้อยหายไป พอเซียงเซียงรู้ก็ตกใจจนเป็นลม มู่หรงลี่กลับจวนไปหาสุดท้ายเจอที่เรือนเซวจิ่นผิง
และไปบอกหลันโย่วว่าเด็กต้องการแม่
หลันโย่วยอมบอกความจริงว่าจริงๆบิดาของมู่หรงเค่อแซ่ตวนมู่ วันนั้นก็อยู่ในบ้านแค่บอกว่าจะมาเที่ยวจิ้นหยางสักพัก
บอกว่าเมื่อเก้าปีก่อนตนไม่ได้จมน้ำเพราะว่ายน้ำเป็นที่จากมาเพราะอยากมาด้วยความรู้สึกดีๆในตอนนั้น
ไม่ต้องเสียใจในเรื่องเมื่อก่อนอีกแล้ว เพราะตอนนี้ต่างก็มีคนของตัวเองแล้ว
ทั้งสองพูดคุยกัน พอเช้ามู่หรงลี่กลับไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งอะไร
ทั้งยังคิดว่าอุตส่าห์นั่งฟังตั้งนานยังเป็นเรื่องหาสาระไม่ได้
มู่หรงลี่ส่งคนมารับเซียงเซียงกลับพบว่าเซียงเซียงหนีไปแล้วลูกก็ไม่สนใจ
เพราะเซียงเซียงคิดว่าอะไรก็ไม่ได้เป็นของตนพอไม่ต้องการก็โดนไล่ออกมา
ตัดใจตอนนี้ยังจะดีเสียกว่า เซียงเซียงแอบหนีไปตอนดึกหลังจากรู้ว่าหาลูกเจอแล้ว
ไปที่เมืองต้าจี้ที่รู้จักเพียงแห่งเดียวแต่บ้านเช่าแพงเลยไปที่เสี่ยวจี้แทน
ตำบลอี้สุ่ยและได้ดำเนินการขายเต้าฮวยเพื่อเลี้ยงชีพ
มู่หรงลี่ตามหาเซียงเซียงระหว่างนี้ไปที่บ้านเกิดนางและรับกัวหยางมาฝึกยุทธ์เอง
มู่หรงลี่เป็นคนสอนให้แต่มู่หรงลี่เป็นคนที่เห็นแล้วเป็นเลยอาจารย์สอนครั้งเดียวก็จำได้
ไม่เหมือนคนอื่นที่นึกว่าจะเหมือนกัน แต่ก็ยอมสอนกัวหยาง
ตอนฝึกมีประดาบแต่มีคนลอบเปลี่ยนกระบี่ของกัวหยางในนั้นมีควันพิษ
มู่หรงลี่ก็เลือกจะช่วยกัวหยางก่อน ยาพิษเป็นอันตรายที่ปอด เซียงเซียงมาขายเต้าฮวยก็เริ่มมีคนมาก่อกวนลวนลามจะเป็นยังไงต่อติดตามได้ต่อที่เล่มจบ
หลังอ่าน :
ความสัมพันธ์ของมู่หรงลี่กับเซียงเซียงที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆต้องมีอันที่จะสะดุดลงเพราะหลันโย่วกลับมา
และมู่หรงลี่ที่ยังไม่รู้ใจตัวเอง แต่ตัวเองน่ะรักเค้าอยู่แล้วผู้หญิงของข้านี่จะทำยังไง
เซียงเซียงจะทำยังไงต่อไป มู่หรงลี่จะคิดได้เมื่อไหร่ว่ารักเซียงเซียงที่สุด
ต้องติดตามในเล่มจบ
เล่ม3 :
ผ่านไปหลายวันอาการของมู่หรงลี่ดีขึ้น ก็เรียกให้กัวหยางมาชี้ตัว
ถึงจะรู้ว่าที่จวนอ๋องไม่เหมือนกับร้านเต้าหู้นะ ทำผิดถูกเชือดง่ายๆ
ฆ่าผิดตัวยังดีกว่าไม่จัดการ ทางด้านเซียงเซียงถึงแม้นางจะหนี
แต่ก็มายังเขตอิทธิพลของมู่หรงลี่ไม่ใช่ไปที่อื่น
เพราะไม่อยากเป็นภาระของมู่หรงลี่ หานซวี่ก็หาเซียงเซียงเจอแล้ว
ให้คนไปส่งข่าวบอกท่านอ๋องก็พบว่าคนขับรถม้าฝูเฟิง ก็อยู่ดูแลเซียงเซียงแล้ว
แต่แค่ดูเท่านั้น แล้วตอนนั้นเองที่คนขายผลไม้หยางซุ่นฟาที่มีปัญหาก็มางัดบ้าน
เซียงเซียงก็ได้จัดการซะเลยเพราะนึกว่าลิ่วเหนียงถูกฆ่าตายแล้ว คนขับรถม้ากับหานซวี่เห็นต่างประหลาดใจก็ไม่คิดว่าคนอย่างเซียงเซียงพอถึงคราวคับขันจะกล้าหาญได้ขนาดนี้
เซียงเซียงกลัว แต่ไม่เสียใจ นางคิดไว้หมดแล้วว่าจะจัดการศพยังไง หั่นศพออก
เอาเนื้อให้สุนัขกิน กระดูกเอาไปเผาไฟ แค่นี้ก็ไร้หลักฐาน
แต่พอจะทำจริงๆกลับทำไม่ได้ มู่หรงลี่มาถึงก็บอกว่าทำไม่เป็นข้าจะสอนให้
สอนวิธีหัน สอนทุกอย่างอย่างใจเย็น เป็นเรื่องง่ายๆ มู่หรงลี่ยังคิดว่านานๆจะได้สอนในเรื่องที่ตัวเองถนัด
แต่บอกไปบอกว่า ไปบอกทางการว่าเป็นอนุคนโปรดไม่ง่ายกว่าเหรอ เสร็จแล้วก็เรียกคนมาเอาศพออกไปถ้าไม่อยากเรียน
สารถียอมรับนับถือเซียงเซียงจากใจจริงทั้งๆที่นางกลัวแต่ก็ยังอยู่มาได้ถึงสองวัน ทำทุกอย่างตามปกติ
มู่หรงลี่ไม่ได้ว่าเรื่องที่เซียงเซียงออกไปขายเต้าฮวยเพราะคิดว่านางชอบก็ปล่อยให้นางเล่นขายของไป
ไม่คิดว่านางหนีมาไม่มีเงินหรอกนะ ท่านอ๋องนี่ไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ
ลิ่วเหนียงคิดจะเป็นแม่สื่อให้เซียงเซียงท่านอ๋องมาได้ยินว่าอยู่ข้างนอกเซียงเซียงบอกว่าตัวเองเป็นหญิงม่าย
เลยจัดหนักให้เลย การดึกหายใจไม่ออก ต้องออกมาหาหมอแล้วก็บอกว่าคิดยาแก้แล้วก็คิดวิธีปรุงควันพิษด้วยต้องให้พี่รองได้ลองสูดดูบ้าง
แล้วเซียงเซียงก็ได้รู้ว่ามู่หรงลี่ไม่สบายอีกแล้ว และไม่ยอมกินยา
นางจึงต้องเป็นคนดูแลเหมือนเคย เซียงเซียงรู้ว่ามู่หรงลี่ไม่สบายก็ถามว่าทำไมไม่อยู่ที่จวน
แล้วก็คิดได้ว่าเพราะมาตามหาตัวเอง ส่วนมู่หรงลี่ได้ฟังก็อารมณ์เสีย
ดุว่าให้อยู่ข้างนอกก็หนีมา หนีมายังบอกคนอื่นว่าเป็นหญิงม่าย ยิ่งคิดยิ่งโมโห
พอเห็นเซียงเซียงร้องไห้ก็หายโกรธ ถามว่าจะกลับบ้านเมื่อไหร่ เซียงเซียงก็ไม่ตอบ มู่หรงลี่ไปเล่นกับสุนัขที่เซียงเซียงซื้อมา
ก็คิดว่าซื้อไม่เป็นตัวโตอย่างเดียวสั่งให้ลูกน้องไปเอาสุนัขดีๆมาให้เซียงเซียง เซียงเซียงกลับมากลัวแทบตายเพราะเจอหมาดุที่กินไก่สดๆทั้งตัวเป็นอาหาร
เป็นใครจะไม่กลัวล่ะ แต่มู่หรงลี่กลับมาเห็นกลับพอใจเพราะเป็นหมาที่เลี้ยงเอาไว้ล่าสัตว์
และมันก็จำกลิ่นมู่หรงลี่ที่ติดอยู่บนตัวเซียงเซียงได้ ก็เข้ามาเลีย
ฮาได้อีกท่านอ๋อง บอกว่าให้พวกมันอยู่เป็นเพื่อนจะได้ไม่กลัวอีก
เซียงเซียงออกไปขายเต้าฮวยทุกวัน
จนมีชายแปลกหน้าเอาปิ่นของพี่สาวมาให้บอกให้ไปหาที่ร้านเครื่องสำอาง พอไปถึงก็บอกให้เปลี่ยนยาท่านอ๋อง
เซียงเซียงไม่รับปากบอกขอเจอพี่สาวก่อน แต่คนขายก็ห่อแป้งทาหน้ามาให้
พอกลับมาถึงไม่น่าเชื่อว่ามู่หรงลี่จะสังเกตเห็น ถามว่าเงินพอใช้ไหม
เซียงเซียงคิดก็บอกว่าไม่พอใช้
จากนั้นตอนที่หมอมามู่หรงลี่ก็ถามเรื่องแป้งทาหน้าว่าเท่าไหร่ ท่านหมอสงสัยเอาไปดมดูถึงรู้ว่ามีส่วนผสมที่ต้านกับยาที่รักษาทำให้ตายได้
รัชทายาทช่างกัดไม่ปล่อย มู่หรงลี่เลยสั่งให้คนสืบหาคนของรัชทายาทออกมาทั้งหมด
แล้วจัดการ เซียงเซียงก็เล่าว่าไม่คิดจะทำ มู่หรงลี่ก็คิดในใจมันก็แน่นอนอยู่แล้ว
แต่พอบอกเรื่องพี่สาว มู่หรงลี่ก็ให้คนไปสืบทันที พอเซียงเซียงมองมากๆตัวเองยังคิดอีกว่าต้องให้ข้าไปสืบเองใช่ไหม
แหมท่านอ๋องนี่ไม่เข้าใจความคิดคนอื่นเลยจริงๆ
แล้วมู่หรงลี่ก็สืบหูตาทั้งหมดของรัชทายาทออกมาได้
มู่หรงป๋อมาไม่ได้ก็ส่งเว่ยปินที่ปรึกษามาแทน แนะนำให้ก่อกบฏ
ปลายเดือนสิบพิษในตัวมู่หรงลี่ถูกกำจัดออกไปหมด หูตารัชทายาทก็ถูกกำจัดหมด
ที่เมืองหลวงรัชทายาทก็ได้รับกล่องที่มีควันพิษเช่นกัน
แต่ก็เอาเรื่องไม่ได้ เพราะพิษมาจากจวนตัวเองจริงๆ
จากนั้นจึงร่วมมือกับฮองเฮาวางยาฮ่องเต้ และจับตัวซูเฟยไปแล้วก็จะจัดการมู่หรงป๋อ
มู่หรงลี่แต่ว่าไม่ทันเพราะทุกคนออกจากเมืองไปแล้ว
ส่วนมู่หรงลี่ก็ยกทัพมาที่จิ้นหยาง
รัชทายาทต้องหนีไปอวี๋หยางตอนนี้ทุกอย่างวุ่นวายแต่เซียงเซียงกลับนึกว่าท่านอ๋องออกไปข้างนอกไม่กลับมาซักทีจนได้ยินข่าวลือด้านนอกถึงรู้ว่ามู่หรงลี่ยกทัพไปทำศึกแล้ว
ข่าวต่างๆฟังมาจากชาวบ้านทั้งสิ้น จนถึงตอนหลังที่รัชทายาทไปทำสัญญากับชาวตงหูและซีจิ้งชักศึกเข้าบ้าน
เรื่องราวบานปลาย ชาวตงหูบุกทำลายบ้านเรือนและราษฎร
มู่หรงลี่แอบไปช่วยเอี้ยนอ๋องและซูเฟย
และซ้อนแผนรัชทายาทแต่กลับมีคนปล่อยข่าวออกมาว่ามู่หรงลี่ตายแล้วพร้อมเอี้ยนอ๋อง
ซูเฟย และทหารที่ไปช่วยทั้งหมด เรื่องราวสับสน
ทางด้านเซียงเซียงก็ตั้งท้องอีกครั้งระหว่างที่มู่หรงลี่ไม่อยู่
และเพราะรัชทายาทแค้นมู่หรงลี่รู้ว่าเซียงเซียงสำคัญกับมู่หรงลี่จึงคิดจะมาจับเซียงเซียงแต่เซียงเซียงหนีรอดไปได้เพราะได้องค์รักษ์ที่มู่หรงลี่ทิ้งไว้พาหนีพ้นแต่ตัวเองกลับต้องสละชีวิตเพื่อปกป้อง
หลังจากเสร็จศึกทุกอย่างแก้ไขได้แล้ว ก็เป็นเวลาหลายเดือน พอกลับมามู่หรงลี่ถึงรู้ว่าเซียงเซียงไม่ได้มาอยู่ที่ด่านกับลูกๆ
พอฟังรายงานจึงรีบกลับไปอำเภออี้สุ่ยเพื่อค้นหา
ส่วนเซียงเซียงที่หนีไปบนเขาก็เจอกระท่อมร้างของพรานป่าก็พยายามสะสมอาหาร
จนวันหนึ่งพบว่ามีคนติดอยู่ในหลุมดักสัตว์ที่ถล่มพอช่วยขึ้นมากลับพบว่าเป็นชาวตงหู
นางจึงแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องเพื่อรักษาตัวรอด คอยทำอาหาร ซักผ้าให้
คนที่เป็นหัวหน้าในกลุ่มนั้นคือข่านเถี่ยมู่เจี๋ยของตงหูจนกระทั่งเซียงเซียงคลอดลูกชาย
พวกชาวตงหูจะให้เซียงเซียงไปด้วยคืนนั้นเลี้ยงสุราอาหาร
เซียงเซียงจึงใช้เห็ดพิษที่เก็บเอาไว้มาผสมน้ำจิ้มแล้วฆ่าทุกคน
จากนั้นก็หลบหนีลงจากเขา
ส่วนมู่หรงลี่พอมาถึงอำเภออี้สุ่ยก็ตามหาเซียงเซียงมาตลอดจนถึงเขาที่เซียงเซียงหลบหนี
ได้พาสุนัขที่เซียงเซียงเลี้ยงไว้มาด้วยพวกมันได้กลิ่น มู่หรงลี่จึงคิดว่าเซียงเซียงต้องอยู่แถวนี้จนเจอกระท่อมและศพชาวตงหูทั้งหมด
ในที่สุดก็พบเซียงเซียงที่อุ้มลูกอยู่กับอก เซียงเซียงขอกลับไปอยู่บ้านที่ลิ่งจื่อ
มู่หรงลี่กลับไปจัดการเรื่องรัชทายาท เอี้ยนอ๋องเปลี่ยนตัวรัชทายาท
ลบชื่อองค์ชายสามและองค์ชายหก จากนั้นพอมู่หรงลี่ตามมาเลยบอกว่าขอให้มู่หรงลี่เขียนใบหย่า
ท่านอ๋องไม่ยอมแต่ก็เขียนอยู่ดี พอกลับจวนก็คิดถึงเซียงเซียง
คิดได้ว่ายังไม่เคยอ่านจดหมายก็ไปหามาอ่าน ถึงเพิ่งรู้ว่านางก็เคยขอร้อง
ขอความช่วยเหลือ
มู่หรงลี่เรียกที่ปรึกษามาหาเพื่อให้คิดแผนการให้เซียงเซียงกลับมาหาตน
ในที่สุดก็คิดแผนยอมเจ็บตัว ให้คนไปส่งข่าวว่าได้รับบาดเจ็บจากการไปจับโจรให้มาดูแล
เซียงเซียงก็ต้องมาอยู่แล้ว แต่คนแจ้งข่าวกลับพามาที่บ้านในอำเภออี้สุ่ย
ทุกอย่างจัดเก็บหมดแต่ไม่ใช่ของเดิม เซียงเซียงดูแลมู่หรงลี่
ตอนนี้เป็นช่วงง้อเมียแบบไม่รู้ควรทำยังไงต้องถามที่ปรึกษาตลอด มู่หรงลี่ถามความผิดของตนจะได้ปรับปรุง
เซียงเซียงก็บอกออกมาเป็นข้อ ไม่อ่านจดหมาย กลับบ้านไม่อุ้มลูก
ทิ้งไว้ตรงทางระหว่างหุบเขา กินข้าวเสร็จไม่รอ
จนมู่หรงลี่คิดในใจว่าเหมือนวิญญาณอาฆาตเรื่องเล็กน้อยก็ยังจำได้ จนหลายวัน มู่หรงป๋อมาหาเซียงเซียงทำอาหารให้
และกินเหล้าด้วยแต่เพียงนิดเดียวก็เมาแล้วคราวนี้มู่หรงลี่หลอกถามเซียงเซียงได้
นางบอกว่าข้าไม่อยากเป็นอนุภรรยาอีกแล้ว คราวนี่ล่ะรู้ความจริงมู่หรงลี่กลับจิ้นหยางไปจัดการหย่าเซวจิ่นผิงรับเป็นน้องบุญธรรมแล้วตั้งเป็นองค์หญิง
ส่วนหลันโย่วก็ให้ตัดสินใจเอาเองว่าจะกลับบ้านกับตวนมู่เจิ้งหยางหรืออยู่ต่อ
ตัวเองส่งสินสอดไปสู่ขอเซียงเซียงในฐานะพระชายา
ด่านอวี้โหวกวนผลัดกำลังทหารเลยส่งทหารเดินสารมา ทหารขอร้องให้เซียงเซียงเขียนจดหมายตอบกลับอย่างน้อย
ห้าร้อยตัวอักษรทั้งหมดเจ็ดฉบับเดือนละสองครั้ง
วันที่ยี่สิบสองเดือนสามก็เป็นวันแต่งงาน
เข้าหอเสร็จยังให้ของขวัญเป็นแท่งหยกอีกนะ บอกเอาไว้ใช้เวลาคิดถึง
คือพี่แกคิดแต่เรื่องนี้เลยนะ ท่านอ๋องนี่ เดี๋ยวก็บอกนี่เจ้ากินไม่อิ่มหรือ แค่ข้าคนเดียวไม่พอหรือ
อย่างฮา
ต้นเดือนห้าเอี้ยนอ๋องมู่หรงเซวียนสละบัลลังก์ให้มู่หรงป๋อ
มู่หรงลี่ได้เป็นปิ้งเจียนอ๋อง ช่วงนี้ครอบครัวอยู่กับพร้อมหน้า
เซวียนเซียนน้อยร่าเริงสดใส ชอบขี่ม้า ยิงธนู เล่นเหมือนเด็กผู้ชาย
ส่วนมู่หรงเจี๋ย เสี่ยวเจี๋ยติดเซียงเซียงที่สุด และกลัวมู่หรงลี่ที่สุด
นิสัยเรียบร้อย ชอบนั่งเงียบๆ ค่อยๆทดลองสิ่งต่างๆ
ดูแล้วขัดตาขัดใจมู่หรงลี่ตลอดเวลา
ครั้งนี้มีชาวบ้านรุกฮือที่เหลียวซีนึกว่าจัดการง่ายๆ
พอไปถึงกลับเป็นกลุ่มชาวบ้านที่โดนขุนนางกักตุนเสบียงรวมตัวกันต่อสู้โดยมีบัณฑิตสอบตกเป็นผู้นำ
ที่คิดว่าตัวเองแน่ แต่พอเจอทหารจริงก็ต้องแพ้ และหนีมาฟ้องร้องที่จิ้นหยาง
ฝ่านขุนนางก็อยากจะจัดการมู่หรงลี่
มู่หรงป๋อมีคำสั่งให้ริบยศและมารายงานที่เมืองหลวง ข่าวหลังจากนั้นก็หายไป
เซียงเซียงกังวลใจมากจึงคิดแผนการกินยาพิษฆ่าตัวตายเวลานั้นมู่หรงป๋อตกใจมาก
เพราะถ้าเซียงเซียงตายไปจริงๆตนไม่มีทหารในมือต้องโดนมู่หรงลี่กบฏแน่นอน
จึงไปปรึกษาอดีตเอี้ยนอ๋อง มู่หรงเซวียนก็บอกว่าให้ดินแดนเค้าไปปกครองเอง
ด่านอวี้โหวกวนเค้าจะปกป้องอย่างดี ส่วนขณะนี้มู่หรงลี่ไปลอบชิงตัวองค์หญิงแคว้นซีจิ้งที่จะไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์มา
จึงต้องปิดข่าว พอกลับถึงจวนก็ไปหาเซียงเซียงแต่เซียงเซียงเห็นหญิงสาวแต่งชุดเจ้าสาวก็เริ่มคิดอีกครั้ง
เหมือนตอนหลันโย่วเลย มู่หรงลี่ก็คิดว่าตอนนี้ยังคิดถึงหานซวี่อีก
ไม่รู้เรื่องเลยท่านอ๋อง พอเสร็จเลยลากองค์หญิงอวี้โหรวเข้าวังไปแล้วบอกว่าให้แต่งกับหานซวี่
แล้วก็ได้ราชโองการให้ย้ายไปอยู่ชายแดน
องค์หญิงอวี้โหรวยังสำคัญตัวผิดคิดว่าตัวเองเป็นองค์หญิง แอบชอบท่านอ๋อง
ทั้งๆที่ท่านอ๋องรักแต่เซียงเซียงเลยคิดจะปีนขึ้นเตียง ท่านอ๋องโกรธจัด
สั่งให้เป็นโสเภณีประจำค่าย ยังนึกว่าล้อเล่นจนสุดท้ายรู้ว่าตนไม่มีความสำคัญจริงๆถึงได้คิดได้
ส่วนมู่หรงลี่ส่งฏีกาให้มู่หรงป๋อที่ได้ข่าวจากชายแดนว่าตงหูอาจสมคบกับแคว้นอื่นช่วยรัชทายาท
มู่หรงป๋อเลยสั่งให่มู่หรงลี่ไปจัดการ ช่วงนี้เซียงเซียงตั้งครรภ์อีกแล้ว
มู่หรงลี่บอกว่ายังไงข้าก็แซ่มู่หรง ไปครั้งนี้มู่หรงลี่ติดกับเพราะช่วยกัวหยาง
และหายตัวไป ผ่านไปนานไม่ได้ข่าว ในที่สุดเซียงเซียงก็รู้เรื่องหลังคลอดลูกแล้วก็ตามไปค้นหามู่หรงลี่ด้วย
สุดท้ายก็ได้พบกัน ทัพซีจิ้งแพ้ยอมทำสัญญาสงบศึก มู่หรงลี่ส่งต่ออำนาจทางทหารให้หานซวี่
มาใช้ชีวิตกับลูกเมีย
เล่ม3 :
มู่หรงลี่เข้าใจตัวเองมากขึ้นว่าตัวเองรักเซียงเซียง
ส่วนเซียงเซียงก็ไม่อยากเป็นอนุภรรยาอีกแล้วจะเป็นยังไง
ติดตามได้ในเล่มจบที่มีทั้งการศึกที่ต้องติดตาม
และเรื่องราวความรักของมู่หรงลี่และเซียงเซียง อีกทั้งคนรอบข้างจะมีบทลงเอยแบบไหน
ทุกคนล้วนมีบทสรุปของตัวเอง
หลังอ่าน :
เซียงเซียง สาวน้อยที่บ้านขายเต้าหู้
ถูกโจรจับมาและถูกขายต่อมาแถวเขาอีหลู พูดภาษาต่างเผ่าไม่ได้ เงียบ เรียบร้อย
ชอบทำอาหาร งานบ้าน ขยันขันแข็ง
มู่หรงลี่ ซวิ้นอ๋องที่อารมณ์ร้อน เก่งในด้านการทำสงคราม
แต่เรื่องอารมณ์ ความรู้สึกนี่ไม่รู้เรื่องกับใครเค้าเลยทีเดียว
เซียงเซียงถูกช่วยจากพวกโจรป่าเพราะมู่หรงลี่นำทหารมาปราบโจรพอดี
แต่พวกทหารก็รู้กันว่าอดอยากปากแห้ง พอเจอผู้หญิงก็ขอจัดการซะหน่อย จากนายทหาร
ไปถึงโจวจั๋ว หานซวี่รู้เรื่องเลยมาขอให้ท่านอ๋องเผื่อจะชอบ
ท่านอ๋องก็ดันชอบเพราะคิดถึงหลันโย่วอนุภรรยาของตนที่ตายไปเมื่อแปดปีก่อน
พอกลับเข้าเมืองท่านอ๋องก็พาเซียงเซียงมาส่งที่บ้าน แต่ชาวบ้านปากมากจะตาย
เซียงเซียงมีคู่หมั้นอยู่ก็ต้องถอนหมั้น เรื่องฉาวโฉ่ใครก็ไม่อยากแต่งด้วยแต่มีพ่อม่ายลูกติดมาสู่ขอก็เลยตกลง
ส่วนท่านอ๋องก็ได้รับบัญชาให้มาปราบโจรแถวอำเภอลิ่งจือ
พวกลูกน้องรู้ดีก็เสนอให้ไปร้านเต้าหู้
พอรู้ว่าเซียงเซียงแต่งงานแล้วแบบเข้าใจผิดก็ให้จัดการคนนั้นไปซะ หานซวี่เลยบอกว่าตนเข้าใจผิด
ยังไม่ได้แต่งงาน และบอกให้เซียงเซียงยอมตามท่านอ๋องไป เซียงเซียงยอมตามไปอีกครั้ง
แต่ในค่ายทหาร พวกทหารไม่มีเรื่องอะไรก็พูดแต่เรื่องอย่างว่า
และเซียงเซียงก็ได้ยินว่าท่านอ๋องจะยกนางให้พวกทหารเหมือนอนุคนก่อน
เซียงเซียงทำใจไม่ได้ก็เลยเดินลงน้ำ แต่ไม่ตายเพราะหานซวี่ช่วยไว้แต่ท่านอ๋องมาเห็นก็โกรธจับนางกดน้ำอยู่อย่างนั้น
ในที่สุดก็ถามว่าทำไมเซียงเซียงก็เล่าให้ฟัง ท่านอ๋องก็บอกว่าไม่ทำหรอก
แล้วก็รับเป็นอนุภรรยา ช่วงแรกๆ
เรื่องยังดำเนินไปควบคู่กับค่อยๆเผยนิสัยของตัวละครออกมา
ตอนมู่หรงลี่ไปดูแลทหารผลัดเปลี่ยนกำลังคนแล้วเซียงเซียงท้องส่งจดหมายเท่าไหร่ก็ไม่ได้รับคำตอบเพราะไม่เคยเปิดอ่าน
มารู้ตอนหลังนางก็ไม่ทำอีก ตอนที่ต้องหนีออกจากเมืองหลวงเพราะรัชทายาทไล่ฆ่า
มู่หรงลี่เลือกทิ้งเซียงเซียงไว้ระหว่างทางแต่ช่วยพี่สะใภ้ไป
เรื่องพวกนี้เซียงเซียงจดจำไว้ในใจ แต่มู่หรงลี่คิดแต่การทหารไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยรอบตัว
คนนึงน้อยใจที่เป็นเพียงลูกสาวร้านเต้าหู้ คนนึงเป็นทหารเป็นท่านอ๋อง
ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่คิดถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย คนนึงไม่พูด
เก็บทุกอย่างไว้ในใจ กับอีกคนคิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน มาเจอกัน
ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันเริ่มผูกพัน มีความรักต่อกัน กว่าจะรู้ใจตัวเองต้องผ่านเหตุการณ์มากมาย
เซียงเซียงแสดงถึงความเข้มแข็งไม่เหมือนใครให้เห็นอยู่หลายครั้ง กว่าท่านอ๋องจะคิดได้ว่าคนที่ตัวเองรักอยู่ใกล้ตัวที่สุดก็เกือบสายไป
ต้องชิงกลับมาให้ได้
อ่านเรื่องนี้ไปมีทั้งอารมณ์ที่ต้องเศร้าแทนเซียงเซียงในหลายๆครั้ง ข้าไม่รักหรอกเพราะรักไม่ได้
เป็นแค่อนุภรรยา เป็นแค่สาวชาวบ้าน แต่นางเป็นนักสู้จริงๆ
ขำท่านอ๋องที่คิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน กินไม่ทันก็บอกสิ
แล้วใครมันจะกล้าบอกท่าทางน่ากลัวขนาดนั้น ขี้ม้าเร็วจะพาไปเที่ยวนี่นะ
จะเห็นถึงพัฒนาการเลยว่าพอเจอการอบรมชุดใหญ่ไปแล้วท่านอ๋องรักเมีย
ดูแลเมียดีขึ้นมากแค่ไหน เทียบกับตอนแรกนี่ฟ้ากับดินเลยทีเดียว เป็นเรื่องราวของหญิงสาวธรรมดาที่ไม่ธรรมดาอย่างที่ใครๆคิด
และสุดท้ายปมปัญหาทุกเรื่องที่ทิ้งไว้ได้เฉลยหมด ไม่มีเรื่องที่ทิ้มปมคาใจแน่นอน
ต้องลองอ่านดู