Sunday, March 31, 2019

#แผนร้ายเกี่ยวรัก #เล่มเดียวจบ #สนพ.ลูกองุ่น


Review 8/2562
เรื่อง แผนร้ายเกี่ยวรัก
ผู้แต่ง กิ่งฉัตร
พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม 2562
สนพ. ลูกองุ่น
โปรยปกหลัง :
นวัต เป็นหนุ่มหล่อ แต่หน้างอเหมือนจวักจนได้สมญาจากกลุ่มเพื่อนสนิทว่า “ดร.บึ้ง” เขาเป็นอาจารย์หนุ่มที่เก่งกาจ มีความรู้ ความสามารถ มีปริญญาห้อยท้ายชื่อยาวเหยียดแต่สุดท้ายกลับตายน้ำตื้น แพ้พนันน้องสาวจนต้องสลัดมาดอาจารย์มาเป็นเอ็นจิเนียร์คนใหม่ในเรือสำราญแพนโดร่า วันทั้งวันทำงานยุ่งอยู่กับการเลี้ยงกุ้งจับปลา เสิร์ฟอาหาร ตามติดเชฟสาวที่มีแก้มอิ่มกลมราวลูกพีช แถมยังต้องหาว่าทำไมจู่ๆแขกวีไอพีเกิดโดนแมวทับตายอีก!
พริมา รักการทำอาหาร หล่อนรักงานที่ทำโดยเฉพาะช่วงที่ ลงเรือ เพื่อเป็นเชฟในเรือยอช์ตขนาดเล็กที่รับรองแต่แขกวีไอพี แม้จะต้องตบตีกับแบลงเก็ต แม่ย่านางเรือที่เย่อหยิ่ง และเจ้าอารมณ์อยู่บ้าง แต่งานนี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยม งานสบาย เงินดี วิวเยี่ยม อาหารที่หล่อนปรุงเองก็อร่อย
แต่ทำไมการลงเรือคราวนี้กลับป่วนหนัก
ไหนจะเอ็นจิเนียร์คนใหม่ที่หน้าหงิกงอตลอดเวลา
ไหนจะการตายของแขกคนสำคัญในเรือ
งานนี้อย่าว่าแต่เชฟสาวเลย แมวยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยได้เหมือนกัน!
หลังอ่าน :
ในที่สุดก็มาถึง ดร.บึ้ง หรือไอ้บึ้ง ของเพื่อนกลุ่มโรนินสยาม(จากเรื่องรื่นรักรมย์ลวง@หัวหิน และกุหลาบเกี่ยวใจ) ที่แพ้พนันน้องสาวต้องมาลงเรือ แต่ตอนที่เจอกับเชฟเพียวครั้งแรก เธอรีบออกตัวว่าฉันไม่อ้วน (แค่อวบนิดๆ) เชฟเพียวเห็นถึงความแปลกของคุณเอ ที่เพื่อนๆจำชื่อจริงๆไม่ได้แล้ว กับความหน้าบึ้งพูดตรง แต่เถียงไม่ทัน ชอบพูดหลักการตลอดเวลา คุณเอยังบอกว่าเพื่อนผมแปลกกว่านี้อีก(คิดถึงนายเม้ง) ในเรื่องยังมีความป่วนของแม่ย่านางเรือ แบลงเก็ต ที่นางเป็นเจ้านาย ทุกคนบนเรือล้วนเป็นทาส เจ้าทาสทั้งหลายต้องทำตามคำสั่ง ต้องดูแลเจ้านายอย่างดีเข้าใจไหม แบลงเก็ตผีผ้าห่มที่ไม่เคยกลัวใครก็ไปจุดเด่นในเรื่องเหมือนกัน
แถมด้วยลูกเรือทั้งหลายที่ดูธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา และแขกวีไอพีชุดนี้ ทริปล่องเรือ 7 วันจะจบลงแบบไหนต้องตามอ่านเอง ในเรื่อง ชาวโรนินสยามจะมาให้หาคิดถึงในรูปของแชทไลน์กับดร.บึ้ง แถมด้วยนายเม้งที่ได้ส่งเสียงตามสายมา
และยังอาหารประจำทริปที่เรียกได้ว่าสุดยอดทุกเมนู แต่มีคนช่างติอยู่คนเดียวคือญาติสาวของเชฟเพียวที่มาเป็นผู้ติดตามแขกวีไอพี มาสร้างความป่วนเข้าไปอีก
ทั้งยังเจอเหตุการณ์ผีหลอกวิญญาณหลอนบนเรือเป็นพักๆ ให้คนตกใจเล่น งานนี้ขนาดแบลงเก็ตยังกลายเป็นแมวปีศาจไปเลยทีเดียว
ต้องตามอ่านเรื่องราวสนุก สุดป่วน บนเรือสำราญ 7 วันอันตราย และแอบขำเป็นพักๆ สนุกมากๆเลยค่ะ มาอ่านกันเร็ว เจ้าทาสทั้งหลาย แบลงเก็ตกล่าว เหมียวววว  

Friday, March 29, 2019

#นางพญาท้ารบ #6เล่มจบ #สนพ.ห้องสมุด


Review 7/2562
เรื่อง : นางพญาท้ารบ (6 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : เชียนซานฉาเค่อ
ผู้แปล : ทีมงานห้องสมุด
สนพ. ห้องสมุดดอตคอม
พิมพ์ครั้งที่ 1 : กุมภาพันธ์ 2561
โปรยปก :
เพราะรักจึงต้องรบ!
ชาติก่อน เพราะรักชายคนหนึ่งสุดหัวใจ นางจึงยอมอุทิศชีวิตตัวเองเป็นบันไดให้เขาปีนป่ายสู่บัลลังก์
ต้องตกเป็นเชลย เป็นหญิงไร้ยางอาย เป็นตัวตลกในสายตาใครๆ
นางยอมทุกอย่าง แต่กลับได้มาเพียงหัวใจตระบัดสัตย์และคำสั่งประหัตประหารจากชายผู้เป็นที่รัก

เพราะรบจึงพบรัก!
ชาตินี้ นางมาเพื่อทวงแค้น วางแผนทุกอย่างเสียดิบดี หนทางข้างหน้ากำลังไปได้สวย
แต่จู่ๆ กลับมีเรื่องรักมาข้องแวะให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงัก
นางควรจะทำอย่างไรต่อ?
มุ่งมั่นในเป้าหมายเดิม หรือปล่อยวางหัวใจให้ไหลไปตามลิขิตฟ้า

คำนำสนพ. :
"นางพญาท้ารบ" มีการดำเนินเรื่องแบบชิงไหวชิงพริบ สะใจ และชวนลุ้นไม่แพ้เรื่องผลาญ จะแตกต่างกันอยู่บ้างที่ "เสิ่นเมี่ยว" ตัวเอกของเรื่องนี้ค่อนข้างนิ่งและเป็นผู้ใหญ่มากกว่า บุคลิกของนางจะแตกต่างกับ "เจี่ยงหร่วน" ในเรื่องผลาญพอสมควร เสิ่นเมี่ยวรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่วู่วามผลีผลาม อาจเพราะอดีตนางเคยสูงส่งเป็นถึงฮองเฮาผู้ดูแลหกตำหนักใน จึงค่อนข้างทันเกมและตอกกลับได้แบบที่เรียกว่าเชือดนิ่มๆ ศัตรูหลายคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตายเพราะอะไร ผลงานเขียนเรื่องนี้จึงค่อนข้างลึกและลงรายละเอียด ดูมีชั้นเชิงกว่างานเขียนชิ้นแรก เรื่องนี้มี 6 เล่มจบ

ทีมงานห้องสมุด



เล่ม1 :
เสิ่นเมี่ยว ฮองเฮาแห่งหกตำหนักใน ได้รับพระราชทานผ้าขาว จากโอรสสวรรค์ ติ้งอ๋องฟู่ซิวอี๋ เพราะความรักนางจึงทุ่มเทกายใจสนับสนุน ผลสุดท้ายกลับได้มาเพียงการทรยศหักหลังจากคนที่รัก และคนใกล้ตัว ทำให้บุตรชาย บุตรสาว บิดามารดา พี่น้องบ่าวรับใช้ คนในตระกูลเสิ่นทั้งหมดล้วนพินาศย่อยยับ หนี้เลือดนี้ ฟู่ซิวอี๋ เหมยฮูหยิน เสิ่นชิง เสิ่นเย่ คนที่เคยทำร้ายพวกเขาทั้งหมด คนที่ทำร้ายญาติของนางทั้งหมดต้องชดใช้
เกลียดจนไม่อาจอยู่ร่วมฟ้า ต่อให้ลงนรกก็ต้องลากพวกมันลงไปด้วย!
เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเสิ่นเมี่ยวจึงพบว่าตัวเองกลับมาเกิดใหม่ในปีที่ตนอายุสิบสี่ปี ก่อนที่เรื่องราวเลวร้ายในปีนั้นจะเกิดขึ้น ตอนนี้เมื่อมาทบทวนดูก็รู้แล้วว่าทั้งหมดเป็นเพราะการสั่งสอนอบรมแบบหวังดีประสงค์ร้าย ทำให้นางมีชื่อเสียงหม่นหมองป่นปี้ ให้นางเป็นหญิงโง่ เป็นตัวตลกให้คนหัวเราะเยาะ ครั้งนี้ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จะต้องเดินหมากชิงลงมือก่อน ในสำนักศึกษาก่วงเหวินถัง เสิ่นเมี่ยวได้พบซูหมิงหล่างน้องชายของซูหมิงเฟิง ที่เป็นเพื่อนสนิทของเซี่ยจิ่งสิง เซี่ยเสี่ยวโหว ร้องไห้เพราะตอบคำถามไม่ได้ กลับบ้านต้องโดนท่านพ่อตี พอเสิ่นเมี่ยวรู้ว่าเป็นใคร และคิดถึงในอดีตที่ผ่านมา ทำให้อยากช่วยเหลือเด็กน้อย จึงสอนคำตอบที่ทำให้ไม่โดนตี พอซูหมิงหล่างกลับบ้านก็พูดตามความหมายเชือดหมาล่าเนื้อทิ้งเมื่อจับกระต่ายได้แล้ว เหมือนข้ามแม่น้ำแล้วรื้อสะพาน ทำให้สองพ่อลูกซูอี้ และซูหมิงเฟิงรอดพ้นภัยพิบัติไปได้ เวี่ยจิ่งสิงมารู้ภายหลังจึงอยากรู้ว่าใครเป็นคนสอน และก็ได้เจอเสิ่นเมี่ยว จึงถามว่าส่งสารลับให้ตระกูลซูทำไม เสิ่นเมี่ยวตอบว่าข้าเพียงคิดจะปกป้องตนเอง นับแต่นั้นมาเซี่ยจิ่งสิงเริ่มจับตาดูความเคลื่อนไหวของเสิ่นเมี่ยว เซี่ยจิ่งสิงโดยฉากหน้าจะเป็นคนเจ้าเล่ห์มากแผนการ ไม่สนใจสิ่งใด แต่ความจริงฉลาดหลักแหลม และเก่งรอบด้าน
งานเทศกาลดอกเบญจมาสกับการสอบประจำปีของก่วงเหวินถังถูกจัดวันเดียวกัน ครั้งนี้ในที่สุดเสิ่นเมี่ยวก็สามารถลบคำเล่าลือที่ว่านางเป็นตัวตลก และโง่ได้แล้วเพราะได้แสดงความสามารถในการสอบ สอบวาดภาพได้อันดับหนึ่ง มีศิษย์ชายมาท้าประลองยิงธนูนางก็เป็นฝ่ายชนะ และเสิ่นเมี่ยวยังได้เตือนเซี่ยจิ่งสิงถึงน้องชายต่างมารดาทั้งสองคนของเขาว่าให้ระวังไว้ให้ดี อย่าให้เป็นภัยกับตัว เซี่ยจิ่งสิงจึงจัดการเซี่ยฉางเจา เซี่ยฉางอู่พร้อมกันทีเดียวเพราะทั้งสองก็มีใจคิดกำจัดเซี่ยจิ่งสิงอยู่แล้ว ในการสอบเสิ่นเมี่ยวได้ทำให้คนสนใจไม่น้อยรวมทั้งอี้ชิงอ๋องด้วย ทำให้ต้องรับมือกับเหตุการณ์ที่ตามมา เพราะอี้ชิงอ๋องโหดเหี้ยมมักมากในกาม เริ่นหว่านอวิ๋นอาสะใภ้รองอยากทำลายเสิ่นเมี่ยวอยู่แล้วจึงร่วมมือวางแผนด้วย โดยวางแผนจะไปไหว้พระที่วัดวั่วหลง และจัดการที่นั้น แต่เสิ่นเมี่ยวก็สามารถรอดมาได้ เพราะได้เจออดีตองครักษ์ประจำตัวมั่วฉิง กำลังมีปัญหาเรื่องเงินจึงทำการช่วยเหลือ ตอนอยู่ที่วัดเสิ่นเมี่ยวได้ไปพักอีกที่หนึ่งแต่นางไม่ยอม เริ่นหว่านอวิ๋นจึงไปพักที่ห้องข้างๆ แต่เสิ่นเมี่ยวได้เตรียมแผนไว้แล้วให้มั่วฉิงพาเสิ่นชิงมาตอนตัวเองกำลังจะออกไปกลับพอกับเซี่ยจิ่งสิงที่มา จึงต้องซ่อนตัวอยู่ด้วยกันจนหนีออกไปได้ เมื่อกลับถึงจวนตระกูลเสิ่น เสิ่นเมี่ยวก็ถูกลงโทษถูกขังอยู่ในห้องบรรพชนเพื่อสำนึกผิด และต่อมาก็ถูกบังคับให้แต่งงาน โดยมีการวางแผนว่าจะสลับเจ้าบ่าวกับเสิ่นชิง เสิ่นเมี่ยวยิ่งไม่ยอม ในงานวัดเกิดฮูหยินผู้เฒ่า เสิ่นเมี่ยวตัดสินใจใช้ตนเองเพื่อเป็นการบอกบิดา มารดาว่าคนตระกูลเสิ่นสายรองและสามสามไม่เคยเห็นพวกตนเป็นครอบครัวมีแต่จ้องจะเอาเปรียบ เลยสร้างเรื่องเผาห้องบรรพชนเองเวลานั้นเซี่ยจิ่งสิงได้มาหาของที่ห้องบรรพชนสกุลเสิ่นได้เห็นเหตุการณ์คิดจะช่วยออกไปแต่เสิ่นเมี่ยวกลับบอกว่าให้หนีไปเอง คนที่ข้ารอมาถึงแล้วคือบิดา มารดา และพี่ชายใหญ่ที่ไปทำศึกอยู่ชายแดน

ในเล่มแรก จะเห็นว่านางเอกเสิ่นเมี่ยวมีความแค้นในอดีตอย่างไร เมื่อได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งจึงได้วางแผนการ หมากกระดานนี้เพื่อล้างแค้นคนที่เคยทำร้ายตนและครอบครัวในอดีต ตัดหนทางคนที่จะมามีบทบาทคอยช่วยเหลือติ้งอ๋องฟู่ซิวอี๋ทั้งหมด แก้ไขข้อผิดพลาด มองเห็นความผิดพลาด การสั่งสอนที่หวังดีประสงค์ร้ายของครอบครัวสายรองและสายสาม และเซี่ยจิ่งสิงที่ดูแล้วไม่น่าคิดว่าจะตายเร็วในชาติที่แล้ว ทำไมจึงมาปรากฏตัวอยู่ในเหตุการณ์ของนางได้บ่อยๆกัน และบอกว่ามาชมเรื่องสนุก นางเอกจะเจ้าแผนการกว่าเจียงหร่วนในเรื่องผลาญมาก เป็นข้อแตกต่างใหญ่ทีเดียว เพราะมีประสบการณ์ชีวิตมากกว่าเผชิญมรสุมชีวิตมากกว่า แต่การตายดูแล้วไม่โหดร้ายเท่าเจียงหร่วนของผลาญ



เล่ม2 :
เสิ่นเมี่ยวไม่ยอมออกจากห้องบรรพชนกับเซี่ยจิ่งสิง แต่รอการมารับของเสิ่นซิ่นบิดา หลัวเสวี่ยเยี่ยนมารดา และเสิ่นชิวพี่ชายใหญ่ พอได้ยินเสียงบิดาและพี่ชายก็ใช้ป้ายบรรพชนติดไฟพาดที่แขนตนให้บาดเจ็บและวิ่งออกไปหาบิดา และพี่ชาย เพื่อให้ครอบครัวรู้ความจริงว่าครอบครัวสายรองและสายสามไม่ได้จริงใจอย่างที่คิด เซี่ยจิ่งสิงตกใจมากที่มีหญิงที่โหดเหี้ยมกับตนเองถึงเพียงนี้ หลังจากนั้นครอบครัวสายหลักก็เริ่มตีตัวออกห่างไม่สนใจครอบครัวสายรองและสายสามที่มีฮูหยินผู้เฒ่าเคยเป็นอดีตนางเอกงิ้วอีกต่อไป
สามวันให้หลังเป็นวันที่ราชสำนักจัดงานเลี้ยงให้กองทัพกลับเมืองหลวง เสิ่นซิ่นขอพระราชทานอยู่เมืองหลวงต่ออีกครึ่งปี ในงานเสิ่นเมี่ยววางแผนให้ เสิ่นชิงต้องเปิดเผยความจริงเรื่องตัวเองตั้งครรภ์กับอี้ชิงอ๋อง ตอนที่หมอหลวงมีตรวจอาการเสิ่นเมี่ยวเห็นเกาหยางครั้งแรกก็รู้สึกคุ้นหน้ามาก แต่ความทรงจำในชาติก่อนไม่มีคนผู้นี้อยู่ในสำนักหมอหลวง เกาหยางเป็นคนของเซี่ยจิ่งสิงที่วางแผนทำการใดอยู่ ยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ฮ่องเต้ต้องพระราชทานงานแต่งงานให้อี้ชิงอ๋องกับเสิ่นชิงแทนที่จะเป็นเสิ่นเมี่ยวที่มีคนปกป้องมากมาย
โรงจำนำเฟิงเซียน เป็นโรงจำนำที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงติ้งจิง และฉากหลังยังเป็นสำนักซื้อขายข่าวลับด้วย เสิ่นเมี่ยวเดินทางมาเพื่อซื้อขายข่าวลับ เถ้าแก่ของโรงจำนำเฟิงเซียนคือหลี่อี่ซู แต่ความจริงเป็นกิจการของเซี่ยจิ่งสิง อี่ซูเรียกเซี่ยจิ่งสิงว่าพี่สามเรียกเป็นพี่น้องกับเซี่ยจิ่งสิง และเกาหยาง เสิ่นเมี่ยวมาขายข่าวคดีตระกูลเฉินแห่งเจียงหนานเมื่อสามปีก่อน ข่าวที่ต้องการจะซื้อคือข่าวอี้ชิงอ๋องคิดก่อกบฏ หลี่อี่ซูไปถามความเห็นเซี่ยจิ่งสิง เซี่ยจิ่งสิงบอกให้รับการค้าครั้งนี้ และเสิ่นเมี่ยวยังให้ตามหาคนผู้หนึ่งชื่อหลิวอิ๋ง ประมาณว่าเป็นคนของหอนางโลมในเมืองหลวงติ้งจิง สรุปว่าคุณหนูทั้งสองของตระกูลเฉินถูกอี้ชิงอ๋องลักพาตัวไป พี่สาวตายไปแล้ว เหลือน้องสาวตาบอด ที่นึกว่าหนีรอดสุดท้ายก็ยังอยู่ในมืออี้ชิงอ๋อง ถ้าต้องการแก้แค้นให้ลงมือในวันแต่งงานของพี่สาวนางและเว้นชีวิตพี่สาวนางไว้ซักคน คนอื่นต้องกำจัดให้หมด
วันแปดค่ำเดือนสิบสอง วันมงคลที่อี้ชิงอ๋องจะอภิเษกพระชายา เสิ่นหยวนบุตรชายคนโตของครอบครัวสายรองก็กลับมาทันพอดี ยังไงเสิ่นชิงก็ต้องแต่งไปตำหนักอ๋อง แต่จะต้องแก้แค้นให้เสิ่นชิงแน่นอน จวนอ๋องตอนกลางคืนมีคนลอบเข้ามาฆ่ายกตำหนัก เหลือเสิ่นชิงผู้เดียว ทำให้เจ้าเมืองสั่งจับเสิ่นชิงมาพิพากษา เสิ่นเมี่ยวขอตามเสิ่นชิวไปตำหนักอี้ชิงอ๋อง พอไปถึงก็หาทางไปห้องลับที่ห้องน้ำชา ในห้องลับได้เจอเซี่ยจิ่งสิงกับเกาหยางที่มาเอา “ของ” ชิ้นนั้น เซี่ยจิ่งสิงคิดจะฆ่าปิดปากเสิ่นเมี่ยวแต่เปลี่ยนใจเพราะเจอน้ำตาสาวน้อย การตายของคนทั้งตำหนักอี้ชิงอ๋องทำให้คนสงสัยตระกูลเสิ่น  เสิ่นหยวนมาหาเสิ่นเมี่ยว เสิ่นเมี่ยวจึงเสนอให้เสิ่นชิงพิสูจน์ตัวเอง เท่านี้ก็เข้าใจได้ว่าให้ใช้ความตายพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เสิ่นเมี่ยวจึงมาหาเสิ่นชิงที่เรือนจำ มาบอก “เสิ่นชิง เจ้าเป็นคนแรก” และเสิ่นชิงก็โดนเสิ่นหยวนฆ่าตายโดยจัดฉากว่าตัวเองไม่ผิดขอใช้ความตายพิสูจน์ ฮ่องเต้ก็ไม่ติดใจเอาความเพราะก่อนหน้านี้ได้มีการปล่อยข่าวและสืบว่าอี้ชิงอ๋องฆ่าองค์รักษ์ในตำหนักที่หน้าตาเหมือนนักฆ่าเมื่อสิบปีก่อน
เทศกาลกระต่ายหยกของแคว้นหมิงฉี คืนก่อนปีใหม่ทุกคนจะออกจากบ้านมาร่วมทายอักษร ข้างทะเลสาบว่านหลี่จะมีการจุดโคมไฟนับหมื่น คนในจวนตระกูลเสิ่นมากันพร้อมหน้า ไปทะเลสาบว่านหลี่ เสิ่นชิวกับเสิ่นเมี่ยวไปด้วยกัน แต่เสิ่นชิวก็พลัดหลงกับเสิ่นเมี่ยวเพราะว่าเสิ่นเมี่ยวถูกคนจับตัวไป เพื่อสอบถามว่าใครอยู่ในห้องลับ เสิ่นเมี่ยวไม่ยอมบอกกระโดดลงจากเรือหนีไปแต่ได้รับบาดเจ็บที่ขา เซี่ยจิ่งสิงรู้ข่าวก็รู้ว่าเกี่ยวกับตนจึงเรียกหน่วยทหารลับมั่วอี่ออกตามหา  เซี่ยจิ่งสิงมาช่วยเสิ่นเมี่ยวไว้ทัน ได้ดูแลแผลบาดเจ็บให้ บอกว่าอย่าได้ชอบข้าเชียวนะ ข้าไม่ใช่คนดีอะไร จากนั้นก็ส่งไปให้องค์หญิงหรงซิ่นเป็นผู้ส่งกลับจวน องค์หญิงหรงซิ่นสนิทกับองค์หญิงอวี้ชิงที่เป็นมารดาของเซี่ยจิ่งสิง พอองค์หญิงหรงซิ่นพบเสิ่นเมี่ยวก็ชอบเพราะเซี่ยจิ่งสิงพามาและยังเป็นสหายคนแรกที่พามา กลับถึงจวนทุกคนต่างอิจฉาที่เสิ่นเมี่ยวได้รู้จักองค์หญิงหรงซิ่น ทำให้บิดา มารดา พี่ชายของเสิ่นเมี่ยวได้เห็นความจริงใจของคนในครอบครัวสายรองและสายสามอย่างชัดเจน
ปีใหม่ปีนี้ญาติฝ่ายมารดาของฮูหยินผู้เฒ่าจะมาจากซูโจว เสิ่นเมี่ยวจำได้ดีว่าชาติที่แล้วพี่ชายตนต้องตายเพราะจิงฉู่ฉู่ที่มาและปีนขึ้นเตียงจากนั้นก็สวมเขา นางจึงหาทางแก้เอาไว้ก่อน ครั้งนี้ คนที่ได้รับไปก็คือเสิ่นหยวนไม่ใช่เสิ่นชิวเพราะเสิ่นเมี่ยวเตรียมการไว้หมดแล้ว เป็นการแผนนั้นคืนสนองอย่างดี   เสิ่นหยวนที่เจ้าแผนการเพราะมีเรื่องอื่นให้รีบจัดการจริงไม่มาหาเรื่องนางมาก นั้นก็คือการส่งหลักฐานเอาผิดเสิ่นซิ่นให้ฟู่ซิวอี๋ให้ฮ่องเต้ใช้เอาผิด ในโทษฐานแม่ทัพขัดราชโองการ เสิ่นเมี่ยววางแผนให้เสิ่นหยวนตามไปเจอจิงฉู่ฉู่สวมเขาให้ตนอยู่กับซุนไฉหนาน บุตรชายคนเดียวของขุนนางกองประวิติซุนเทียนเจิ้ง เสิ่นหยวนบันดาลโทสะใช้มีดแทงซุนไฉหนานตาย ครั้งนี้ไม่มีใครช่วยได้ฟู่ซิวอี๋ก็ตัดเสิ่นหยวนทิ้งทันที เสิ่นเมี่ยวมาหาพบที่คุมขังบอกว่ารับว่าตนเป็นคนทำ และครอบครัวสายรองต้องสิ้นทายาท พอเกิดเรื่องครอบครัวตระกูลจิงแตกหักกับฮูหยินผู้เฒ่า เปิดเผยความจริงให้หลัวเสวี่ยเยี่ยนฟังแผนการของฮูหยินผู้เฒ่า และประกาศว่าจะแยกตระกูลกับครอบครัวสายรองและสายสาม เสิ่นเมี่ยววางแผนช่วยเหลือพี่สาวของอาจารย์เพ่ยหลาง หลิวอิ๋งก่อนที่ฟู่ซิวอี๋จะมาชิงตัว สรุปว่าเพ่ยหลางยอมตอบตกลงตามที่เสิ่นเมี่ยวขอร้องให้ไปเป็นสายแฝงตัวเมื่อฟู่ซิวอี๋ชักชวนไปทำงานด้วย ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเซี่ยจิ่งสิงทั้งสิ้น และได้คาดการณ์ต่างๆที่เสิ่นเมี่ยวจะทำ

เรื่องราวในเล่มนี้เสิ่นเมี่ยวได้ดำเนินการตามแผนการที่ตนได้เตรียมไว้จากความจำในชาติก่อน ได้กำจัดศัตรูคนแรกไปได้ก็คือเสิ่นชิง และครอบครัวสายรอง เริ่มวางหมากต่างๆแต่ทุกอย่างที่ทำมาก็เริ่มต่างจากเรื่องราวเมื่อชาติก่อนขึ้นแล้ว



เล่ม3 :
ท่านพ่อ ท่านแม่และพี่ชายใหญ่ปรึกษากับเสิ่นเมี่ยวเรื่องแยกตระกูล และจะพาเสิ่นเมี่ยวไปอยู่ที่แดนตะวันตกเฉียงเหนือด้วยกัน เพราะไม่วางใจให้อยู่คนเดียวแล้ว เสิ่นเมี่ยวตกลง จากนั้นหลัวเสวี่ยเยี่ยนและเสิ่นเมี่ยวถูกเรียกตัวเข้าวัง เพื่อไปพบสองสนมของฮ่องเต้สนมสีเสียนมารดาโจวอ๋อง จิ้งอ๋องและสนมต่งซู มารดาติ้งอ๋องฟู่ซิวอี๋ เสิ่นเมี่ยวได้พบกับเซี่ยจิ่งสิงและได้ถามว่าฮ่องเต้เรียกบิดาเจ้าเข้าเฝ้าหรือ เสิ่นหยวนเป็นคนของติ้งอ๋อง เท่านี้เสิ่นเมี่ยวก็คิดอะไรได้บ้าง และเห็นการแต่งตัวก็ถามว่าจะไปไหน ก็บอกว่าเข้าวังเพื่อขอนำทัพ เรื่องทั้งหมดกับชาติก่อนได้เปลี่ยนไปแล้ว เซี่ยจิ่งสิงแนะนำคำหนึ่งคือ ถอย เสิ่นเมี่ยวอวยพรให้เซี่ยจิ่งสิงได้ชัยกลับมา รุ่งขึ้นขันทีจากวังหลวงตามตัวเสิ่นซิ่น หลัวเสวี่ยเยี่ยน และเสิ่นชิวเข้าวัง เสิ่นเมี่นวคิดแล้วก็รู้ว่าเรื่องที่ตามนั้นเป็นเรื่องใด คือเรื่องที่เสิ่นซิ่นสู้ศึกแคว้นซีอวี้ เหวินฮุยตี้มีรับสั่งให้ฆ่าล้างเมืองแต่เสิ่นซิ่นไม่ใช่พวกกระหายเลือดจึงแอบปล่อยสตรีและคนชราไป เมื่อเสิ่นเมี่ยวคิดได้ก็หาทางแก้โดยการไปจวนตระกูลซู ผิงหนานปั๋ว หาซูหมิงเฟิงทั้งที เสิ่นเมี่ยวขอให้ซูหมิงเฟิงช่วยขอร้องให้ ผิงหนานปั๋วเขียนฏีกาเรื่องบิดาตนเองแลกกับการช่วยเหลือเรื่องม้าป่วยจนอาจเกิดโรคระบาด เซี่ยจิ่งสิงที่แอบฟังอยู่ด้านข้างก็บอกให้ทำตามที่นางบอก สุดท้ายแล้ว เหวินฮุยตี้ยึดตราพยัคฆ์ ริบเงินเดือนหนึ่งปี ให้เหลือเพียงทหารหน่วยหน้าของตระกูลเสิ่น กองอื่นๆให้มารวมกับหน่วยอี้หลินของวังหลวง เสิ่นเมี่ยวบอกกับเสิ่นซิ่นว่าให้ขอย้ายไปป้องกันชายแดนที่เมืองเสี่ยวชุนเพื่อประจำการ ให้ใช้ทหารตระกูลหลัวมาทดแทนทหารตระกูลเสิ่น จัดการเรื่องอาจารย์เพ่ยเรียบร้อยบอกว่าจะกลับมาภายในสองปี ฝากอาจารย์ด้วย วันแรกของการเดินทางเป็นคืนที่พักกับครอบครัวชาวนา เสิ่นเมี่ยวดื่มเหล้าจนเมาตกกลางคืนเซี่ยจิ่งสิงมาลา แต่นางกลับเมาเหล้าพูดเรื่องตนเป็นฮองเฮา และเรียกเซ่ยจิ่งสิงเป็นหลี่กงกง เป็นเสี่ยวหลี่จื่อ แล้วก็บอกว่าให้เซี่ยจิ่งสิงเป็นชายบำเรอแล้วจูบเซี่ยจิ่งสิง บอกว่านับแต่นี้เป็นต้นไปเจ้าคือคนของข้าแล้ว
เมืองเสี่ยวชุนเป็นเมืองเล็กแถบชายแดนของแคว้นหมิงฉี ขุนนางตำแหน่งใหญ่สุดคือท่านแม่ทัพหลัวสุย ท่านตาของเสิ่นเมี่ยว ตระกูลหลัวยังมีบุตรชายอีกสองคนคือท่านลุงของเสิ่นเมี่ยว หลัวเหลียนอิ๋งกับหลัวเหลียนไถ ฮูหยินท่านลุงใหญ่ อี๋ซื่อ มีบุตรชายสองคน หลัวหลิง หลัวซ่า ท่านลุงรองมีฮูหยินคือหม่าซื่อ บุตรสาวนามหลัวเถียน บุตรชายนามหลัวเชียน หลังจากทักทายพูดคุยเสิ่นเมี่ยวได้ถามเรื่องชานเมืองเสี่ยวชุนมีชนเผ่าเติร์ก แต่ทุกคนไม่สนใจเพราะแต่ละปีแค่มาขโมยแล้วหนีเท่านั้น แต่เสิ่นเมี่ยวจำได้ว่าชาติก่อนในปีนี้ เมืองเสี่ยวชุนจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น เสิ่นเมี่ยวเสนอให้ฟื้นฟูกองทัพตระกูลหลัวแต่หลัวสุยไม่ยอม วันเวลาผ่านไป ในวันที่มีลูกเห็บเผ่าเติร์กมาแย่งอาหาร พวกเสิ่นซิ่นออกไปขับไล่ แต่เป็นการล่อเสือออกจากถ้ำ เสิ่นเมี่ยวจึงคิดแผนการยื้อเวลารอให้พวกเสิ่นซิ่นกลับมาได้ จากนั้นหลัวสุยจึงคิดฟื้นฟูกองทัพตระกูลหลัวอีกครั้ง วันหนึ่งเสิ่นเมี่ยวได้ยินข่าวจากหลัวถานว่าเซี่ยจิ่งสิงตายแล้วในสนามรบเหมือนในชาติก่อนไม่มีผิด
สองปีผ่านไป เหวินฮุยตี้มีราชโองการให้เสิ่นซิ่น และครอบครัวกลับเมืองหลวง คืนชื่อเสียงท่านแม่ทัพเวยอู่ให้ ทั้งยังบอกว่าจะคืนตราพยัคฆ์ให้ตระกูลเสิ่นอีกด้วย เพราะงานเลี้ยงต้อนรับบรรณาการจะเริ่มขึ้น บรรณาการร้อยปี ราชวงศ์หนึ่งผ่านไปร้อยปีย่อมต้องมีบรรณาการหนึ่งครั้ง นอกจากแคว้นฉิน แคว้นต้าเหลียงก็มาเยือน กลับเมืองหลวงครั้งนี้พาหลัวหลิงกับหลัวถานมาด้วย วันงานเลี้ยงต้อนรับบรรณาการ ได้เจอรัชทายาทหวงฝู่ฮ่าวกับองค์หญิงหมิงอานแคว้นฉิน รุ่ยอ๋องแห่งแคว้นต้าเหลียงที่ใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าไว้ องค์หญิงหมิงอานคิดจะรังแกเสิ่นเมี่ยวในงานเลี้ยงเสนอให้เล่นยิงธนูเหมือนงานเทศกาลดอกเบญจมาสในอดีต แต่แทนที่จะทำให้เสิ่นเมี่ยวเสียหน้ากลับกลายเป็นตนเองที่เสียหน้า เพราะเสิ่นเมี่ยวรู้ว่าศรดอกนั้นเป็นการระบายแค้นแทนชีวิตที่สุดแสนอาภัพในชาติที่แล้วของนาง
คืนนั้นรุ่ยอ๋องมาเยี่ยมเยือนเสิ่นเมี่ยว แต่ความจริงแล้วเสิ่นเมี่ยวรู้อยู่แล้วว่าคือเซี่ยจิ่งสิง เซี่ยจิ่งสิงบอกว่าแค่คืนฐานะเดิมของตนเท่านั้น
เสิ่นเมี่ยวก็รู้ว่าโรงจำนำเฟิงเซียนเป็นของเซี่ยจิ่งสิง จากทุกสิ่งที่นำมารวมกันทั้งหมด ฉางไจ้ชิงมาเมืองหลวงติ้งจิงโดยอ้างว่าบิดาของตนเคยรับดาบแทนแม่ทัพเสิ่นผู้เฒ่า เฉินรั่วชิวคิดจะใช้ประโยชน์ทำให้ครอบครัวหลักประสบเคราะห์ร้าย แต่เสิ่นเมี่ยวพอเห็นหน้าก็รู้ว่านางเป็นหญิงที่ร้ายกาจที่ทำให้หลัวเสวี่ยเยียนตายในชาติที่แล้วและยังหลอกลวงว่ายังไม่แต่งงาน ความจริงทั้งแต่งงานและมีลูกชายแล้ว เพียงแต่สามีติดการพนันลูกชายขี้โรคก็เก็บเงินหนีมา เสิ่นเมี่ยวจึงหาทางป้องกันมารดาของตนที่เชื่อคนง่าย โดยพูดให้ฉางไจ้ชิงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่เสิ่นว่าน และคืนนั้นเสิ่นเมี่ยวก็ฝันถึงชาติก่อนว่าเป็นตนเองที่โง่เขลาทำให้มารดาตาย เซี่ยจิ่งสิงที่เข้ามาในห้องนอนได้ปลอบใจและอยู่รอจนหลับไป ที่ได้ยินมีคำพูดถึงฟู่ซิวอี๋ด้วยทำให้เซี่ยจิ่งสิงไม่พอใจมาก   เซี่ยจิ่งสิงชอบแวะเข้ามาคุยกับเสิ่นเมี่ยวในห้องนอนตอนดึกเคยบอกว่าในแคว้นหมิงฉีคนที่ข้าจะไว้เนื้อเชื่อใจได้มีเพียงเจ้าคนเดียวแล้ว และว่าเจ้ากับอ๋องอย่างข้า เกิดมาเพื่อเป็นคนเหนือคน งานเลี้ยงของรัชทายาท รุ่ยอ๋องได้กล่าวเป็นศัตรูกับติ้งอ๋องด้วยเรื่องของเสิ่นเมี่ยว และยิ่งทำให้องค์หญิงหมิงฉีแค้นหนักขึ้นจึงคิดกำจัดนางโดยวางแผนให้เซี่ยฉางอู่ เซี่ยฉางเจาจับเสิ่นเมี่ยวไปขายหอนางโลมชั้นต่ำให้เสียชื่อเสียง เป็นการแลกเปลี่ยนกับการเอ่ยปากชมต่อหน้าติ้งอ๋องให้มีตำแหน่งใหญ่ขึ้น ทั้งสองวางแผนจับเสิ่นเมี่ยวตอนที่ไปเที่ยวกับเฝิงอานหนิง โดยวางแผนมาอย่างรัดกุม เสิ่นเมี่ยวถูกจับไปกับหลัวถาน เสิ่นเมี่ยวบอกว่าให้หาโอกาสหนีแล้วไปขอความช่วงเหลือจากรุ่ยอ๋อง ตระกูลเสิ่นปิดเมืองค้นหา ให้รางวัลถึงสองหมื่นตำลึงทอง แต่ก็หาไม่เจอเพราะเสิ่นเมี่ยวถูกพาไปในห้องลับของจวนหลินอานโหว ส่วนหลัวถานได้รับบาดเจ็บหนักได้รับการช่วยเหลือจากหมอหลวงเกาหยาง เซี่ยจิ่งสิงรู้ข่างจาก หลี่อี่ซูและเกาหยางก็ตามหาเสิ่นเมี่ยวเจอในอีกสองวันต่อมาในขณะที่เซี่ยฉางเจาคิดจะข่มเหงเสิ่นเมี่ยว เซี่ยจิ่งสิงจึงกำจัดทิ้ง เสิ่นเมี่ยวได้รู้ว่าเซี่ยจิ่งสิงมาเองโดยที่ยังไม่ได้รับการร้องขอจากหลัวเถาเพราะนางบาดเจ็บยังไม่ฟื้น เซี่ยจิ่งสิงส่งเสิ่นเมี่ยวให้องค์หญิงหรงซิ่นเป็นผู้ส่งกลับจวนแม่ทัพเพื่อกันข้อครหา กลับมาก็ได้รับข่าวว่าหลัวหลิงบาดเจ็บจนแขนขวาใช้การไม่ได้จากการลอบทำร้ายที่จะล่อให้เสิ่นชิวไปติดกับแทน
เล่มสามนี้ต้องออกจากเมืองหลวง ไปสองปี กลับมาก็เจอทั้งศัตรูเก่าและศัตรูใหม่ที่จ้องเล่นงาน เสิ่นเมี่ยวจะทำอย่างไร และความรู้สึกที่เสิ่นเมี่ยวกับเซี่ยจิ่งสิงก็ยิ่งลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย



เล่ม4 :
เซี่ยจิ่งสิงกลับมาที่ตำหนักพำนักของรุ่ยอ๋องพบหลี่อี่ซูปลอมเป็นตนเองอยู่ กับเกาหยาง เกาหยางเล่าว่าหลัวหลิงบาดเจ็บเพราะติดกับแทนเสิ่นชิว ส่วนเสิ่นเมี่ยวเห็นหลัวหลิงโทษตัวเองก็มาปลอบใจทั้งยังทำขนมมาให้ ที่ไหนได้เซี่ยจิ่งสิงแอบหึง ชัดเจนมากกก จะบังคับให้เกาหยางรักษาหลัวหลิงให้หาย และบอกว่าให้เสิ่นเมี่ยวทำขนมให้ตนกิน ตอนออกไปฆ่าคนให้ เซี่ยจิ่งสิงวางแผนจัดการทั้งเซี่ยฉางอู่และองค์หญิงหมิงอานโดนปลอมจดหมายเล่าแผนการเรียกออกมาพบ จนจัดการทั้งสองได้ และได้ใช้ศพของทั้งสามเป็นประติมากรรมน้ำแข็งไว้ในทะเลสาบว่านหลี่
ฟู่ซิวอี๋คิดจะโยนเรื่ององค์หญิงหมิงอานให้เสิ่นเมี่ยว โดยบอกว่าเบื้องหลังคือรุ่ยอ๋อง เพ่ยหลางที่ได้ฟังอยู่หลังฉากได้จดหมายไปเตือนเสิ่นเมี่ยว
เสิ่นเย่จะโดนบังคับให้แต่งงานไปตระกูลหวัง เสิ่นตงหลินแกล้งมาทำดีด้วยความจริงคือมาหลอกใช้เสิ่นเย่ให้ได้แต่งออกไปจากตระกูลเสิ่น สุดท้ายเสิ่นเย่หลงกลเพราคิดว่าตัวเองไม่ยอมแต่ง หลงรักแต่ฟู่ซิวอี๋เท่านั้น เลยคิดว่าตัวเองหลอกใช้เสิ่นตงหลิง แต่เป็นเสิ่นตงหลิงบุตรสาวอนุว่านของครอบครัวสายรองหลอกใช้นางต่างหาก
เซี่ยจิ่งสิงแวะมาหาเสิ่นเมี่ยวบอกว่าจะไม่อยู่หลายวัน ถ้ามีปัญหายุ่งยากใจให้ไปหาหลี่อี่ซูที่โรงจำนำเฟิงเซียน และเกาหยางก็เป็นคนของตน สามารถเชื่อใจได้ เสิ่นเมี่ยวรับคำและยังบังเกิดความรู้สึกแปลกประหลาด ท่าทางของเขาคล้ายสามีกำลังสั่งภรรยาก่อนออกจากบ้านไปไกล จึงตกใจ (นางเอกก็เริ่มมีใจขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัวล่ะ)
หลังวันแต่งงานของเสิ่นเย่ วันต่อมาคนในจวนจึงรู้ว่าเสิ่นเย่กับเสิ่นตงหลิง สลับตัวกัน วันรุ่งขึ้นจวนตระกูลหวังก็มารับอนุว่านไปตามคำของเสิ่นตงหลิงทำให้ทุกคนผิดคาด พอเสิ่นว่านไปพูดคุยก็ได้รับคำตอบที่ว่าให้เสิ่นเย่กับเสิ่นตงหลิงแต่งเข้าตระกูลหวัง ด้วยฐานะเมียคนสำคัญเท่าเทียมกัน นี่เป็นการหยามเกียรติ เรื่องนี้ทำให้เสิ่นว่านกับเฉินรั่วชิวทะเลาะกันหลายครั้ง แท้จริงเป็นแผนของเสิ่นตงหลิงที่บอกว่าเสิ่นเย่มีใจรักฟู่ซิวอี๋ และเสิ่นว่านก็จะครอบครัวสายสามตระกูลเสิ่นก็สนับสนุนติ้งอ๋อง แต่ตระกูลหวังอยู่ฝ่ายรัชทายาทก็ไม่ต้องการรับเสิ่นเย่อยู่แล้ว ระหว่างนั้นเสิ่นว่านก็แอบไปพบฉานไจ้ชิงเป็นประจำ เฉินรั่วชิวก็ไม่รู้เรื่องเพราะยุ่งเรื่องงานแต่งงานของเสิ่นเย่ตลอด เซี่ยจิ่งสิงยังไม่กลับมา เสิ่นเมี่ยวคนอื่นก็สังเกตได้ว่าเหมือนเป็นโรคคิดถึง และก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกนั้นก็คือเสิ่นเย่หนีไป ครอบครัวสายสามก็ทะเลาะกัน ฮูหยินผู้เฒ่าชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านก็จัดการซะเลย ให้เสิ่นว่านได้ฉางไจ้ชิงเป็นเมียอีกคน เฉินรั่วชิวกลับตระกูลเดิม มีเรื่องขึ้นศาลฟ้องร้องเป็นขี้ปากชาวบ้าน สุดท้ายก็ต้องหย่าทำให้แค้นใจ ตั้งใจเล่นงานเสิ่นว่านให้ได้
เซี่ยจิ่งสิงกลับมาแล้วพร้อมทั้งเอาเครื่องประดับมามอบให้แต่ความจริงแล้วเป็นอาวุธลับทั้งสิ้น และบอกว่าเสิ่นเย่อยู่ในเรือนพำนักของรัชทายาทแคว้นฉิน เสิ่นเย่กลายเป็นอนุของหวงฝู่ฮ่าว หวงฝู่ฮ่าวช่วยเสิ่นเย่ไว้ความจริงต้องการถามเรื่องเสิ่นเมี่ยว จึงกล่าวว่าร้ายเสิ่นเมี่ยวมากมาย ในที่สุดนางก็คิดประจบรัชทายาทแคว้นฉิน
เสิ่นเมี่ยวให้มั่วฉิงพาสองพ่อลูกจากหลิ่วโจวกลับมาให้ เสิ่นว่านไปเข้ากับฟู่ซิวอี๋และใช้ให้เสิ่นว่านทำยังไงก็ได้ให้เสิ่นเมี่ยวแต่งกับโจวอ๋อง เสิ่นเมี่ยวรู้ถึงอันตรายจากเพ่ยหลาง จึงระวังตัวเป็นพิเศษ สองพ่อลูกมาจากหลิ่วโจว เซี่ยจิ่งสิงมาพอดีจึงไปเป็นเพื่อนเสิ่นเมี่ยว เพื่อไปหาแล้วบอกความจริงกับเถียนลี่ ว่าตอนนี้ฉางไจ้ชิงอยู่ไหนทำอะไร และให้เถียนลี่เปิดเผยความจริงเพื่อแลกกับเงินที่จะได้ใช้ชีวิตกับลูกชายอย่างสบายในอนาคต เถียนลี่ตกลง
เสิ่นว่านรู้ความจริงว่าฉางไจ้ชิงมีสามีและมีลูกแล้ว ก็ส่งคนไปสืบสุดท้ายยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริง ฮ่องเต้เหวินฮุ่ยตี้ได้รับฎีกาที่กล่าวว่าขุนนางกับองค์ชายมีความสัมพันธ์กัน และองค์ชายคนนั้นก็คือติ้งอ๋องที่แสดงท่าทีเป็นกลางไม่ฝักใฝ่อำนาจมาตลอด ฮ่องเต้ก็โกรธมากจะจัดการเชือดไก่ให้ลิงดู โดยจับตระกูลเสิ่นทั้งตระกูลมาขังคุก ตอนนี้ฟู่ซิวอี๋เริ่มสงสัยเพ่ยหลางเข้าให้แล้ว ที่คอยแก้ต่างให้ตระกูลเสิ่นสายหลักตลอด ข่าวต่อมาก็คือมีคนมาร้องทุกข์ว่านายท่านสามตระกูลเสิ่นลักพาตัวเมียของเขาไป ชายผู้นั้นมีหนังสือสมรสยืนยันด้วย เฉินรั่วชิวและเสิ่นเย่ก็ไม่รอดเช่นกันเพราะมีคนไปจับถึงที่ หวงฝู่ฮ่าวไม่รู้เรื่องก็จะส่งคนมาสอบถามฟู่ซิวอี๋ สุดท้ายก็ทำให้ฮ่องเต้ระแวงได้อย่างแท้จริงว่าทั้งสองมีการติดต่อคบหากัน นี่คือแผนที่เสิ่นเมี่ยววางเอาไว้ เพราะศัตรูที่แท้จริงของนางก็คือฟู่ซิวอี๋นั่นเอง ที่วางแผนมาทุกขั้นสุดท้ายก็เพื่อจัดการฟู่ซิวอี๋ เซี่ยจิ่งสิงกล่าวว่า ข้าเบิกทางถอยไว้ให้เจ้าเดินแล้ว เพราะคำพูดนี้เสิ่นเมี่ยวรู้สึกว่ามีผีเสื้อกระพือปีกอยู่ข้างใน ในใจของเสิ่นเมี่ยวหวั่นไหวขึ้นมาแล้ว ในคุกเฉินรั่วชิว เสิ่นเย่ถูกจับมาด้วย และได้บอกว่าฉางไจ้ชิงหลอกลวงมีสามีและลูกแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธจัดตบตีจนนางแท้งและตายในคุก แต่ทั้งตระกูลก็ไม่รอดเช่นกันเพราะทั้งหมดโดนสั่งริบทรัพย์และประหาร วันที่มีการประหารเสิ่นมี่ยวไปดูโดยมีหลัวถาน เสิ่นชิว หลัวหลิงไปด้วย และได้เจอเสิ่นตงหลิง จากนั้นก็ได้พบซูหมิงหล่างกับซูหมิงเฟิง ซูหมิงเฟิงเห็นกำไลหัวพยัคฆ์ก็คิดถึงเซี่ยจิ่งสิงทันที ทำให้ทุกคนแปลกใจ กลับถึงบ้าน พ่อแม่ยังเข้าใจผิดคิดว่าซูหมิงเฟิงมีใจให้เสิ่นเมี่ยวจึงมาสู่ขออีกต่างหาก ทางด้านเสิ่นเมี่ยวก็มาบอกเซี่ยจิ่งสิงว่าซูหมิงเฟิงอาจจะสังเกตเห็น และรู้ว่าเซี่ยจิ่งสิงยังมีชีวิตอยู่ เซี่ยจิ่งสิงบอกว่ายังไงก็ต้องรู้จนได้
เซี่ยจิ่งสิงได้พบไต้ซือกวนเจิน ที่วัดผู่ถัว คำนายถึงเขาก็คือ แตกดับแล้วกำเนิด มังกรดุดันค้ำฟ้า ผู้เดียวครอบจักรวาล วันรุ่งขึ้นเสิ่นเมี่ยวก็จะไปที่วัดผู่ถัว ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดคือ ต้นบุพเพ พอไปถึง เสิ่นเมี่ยวเจอกับนักพรต จะทำนายชะตาให้ ให้เสิ่นเมี่ยวหยิบติ้วมาสองอัน อันแรกกล่าวว่า เพราะมังกรขังหงส์ ช่างอาภัพรักนำภัยสู่ตนตลอดชาติ หัวหลุดจากบ่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนว่างเปล่าไม่เหลือสิ่งใด เป็นภัยใหญ่เหลือเกิน อีกอันคือ ต่ำคืนสู่สูง วาสนาจากบูรพา เป็นยอดแห่งมงคล นักพรตบอกว่าชะตาดีมีผู้สูงส่งค่ำจุน เสิ่นเมี่ยวถามว่าจะหาพบที่ใด นักพรตตอบว่า ไกลสุดขอบฟ้า ใกล้เพียงลืมตา เซียมซีสองอันมีคนขอให้เสิ่นเมี่ยวอันหนึ่ง เป็นคนที่ติดค้างเจ้ามากผู้หนึ่ง ภายในวัดไต้ซือกวนเจินรอเสิ่นเมี่ยวอยู่ แต่เสิ่นเมี่ยวไม่มาแล้ว ได้กล่าวกับศิษย์ว่า คนที่นางได้พบก็ถือว่าเป็นผู้มีวาสนา
ฟู่ซิวอี๋วางแผนให้รัชทายาทแต่งงานกับเสิ่นเมี่ยวเพื่อให้ได้อำนาจทหารจากเสิ่นซิ่น ฮองเฮาเห็นด้วย คนตระกูลเสิ่นกลัวว่าเสิ่นเมี่ยวต้องแต่งเข้าราชวงศ์ก็จะทำการหมั้นหมายเสิ่นเมี่ยวไปก่อน แต่ไม่มีตระกูลไหนในเมืองหลวงยอมเลยเพราะไม่อยากแย่งชิงสิ่งที่ราชวงศ์ต้องการ หลัวหลิงเอ่ยปากขอแต่งงานกับเสิ่นมี่ยว ต่อมาก็ซูฮูหยิน มารดาของซูหมิงเฟิงก็มาเสนอตัว และยังมีเฝิงจื่อเสียนพี่ชายของเฝิงอานหนิง จากตอนแรกหาคนมาหมั้นหมายไม่ได้ตอนนี้มีให้เลือกมากมาย ในที่สุดเซี่ยจิ่งสิงก็รู้จากคนสนิทเถี่ยอี ตอนที่กำลังจะกลับแคว้นต้าเหลียงทำให้เปลี่ยนแผน กลับมาที่ติ้งจิงก่อน วันนั้นเป็นวันที่ฮองเฮาเรียกเสิ่นเมี่ยวเข้าวังอีกครั้ง เสิ่นเมี่ยวไม่รับปากฮองเฮาเลยไล่กลับไป ระหว่างทางเพ่ยหลางหาทางพูดคุยกับเสิ่นเมี่ยว บอกว่าตนสามารถเป็นคนที่แต่งงานด้วยได้ แต่เสิ่นเมี่ยวก็ปฏิแสธอีกเวลาเดียวกัน ก็มีนักฆ่าจากโจวอ๋อง หลีอ๋องมาลอบสังหารเสิ่นเมี่ยวทั้งคู่ แต่เซี่ยจิ่งสิงมาช่วยเอาไว้ได้ทัน และพาตัวเสิ่นเมี่ยวไป เซี่ยจิ่งสิงโกรธเสิ่นเมี่ยวมากทั้งสองทะเลาะกัน เสิ่นเมี่ยวเรียกชื่อเซี่ยจิ่งสิงเสียงดัง ทำให้องค์หญิงหรงซิ่นที่เข้าวังในเวลานั้นที่คิดจะช่วยพูดแทนเสิ่นเมี่ยวได้ยินพอดี เซี่ยจิ่งสิงบอกว่านี่เป็นชื่อเล่น ชื่อจริงคือเซี่ยยวน คืนนั้นพอกลับถึงตำหนักรุ่ยอ๋องจัดการลงโทษเกาหยางกับหลี่อี่ซูที่ไม่ยอมบอกข่าวแล้วยังไปคิดบัญชีกับเสิ่นเมี่ยวอีกรอบ เสิ่นเมี่ยวบอกว่าเราเป็นแค่พันธมิตรกัน เซี่ยจิ่งสิงเลยบอกว่าจูบซะเลยแล้วบอกว่าตอนนี้ไม่ใช่แค่พันธมิตรแล้ว จำไว้วันหน้าออกเรือน คลอดลูก หย่าร้าง หรือถูกทอดทิ้งต้องให้ข้ายินยอมก่อนถึงทำได้ (พระเอกประกาศความเป็นเจ้าของซะทีนะ 555)  วันนั้นรุ่ยอ๋องเข้าไปกล่าวกับฮ่องเต้ว่าจะไม่ร่วมมือกับหมิงฉีและอยากได้เมืองชายแดนฮ่องเต้ที่หวาดระแวงก็รู้ว่าไม่สามารถทำให้เสิ่นซิ่นโกรธในตอนนี้ได้ จึงระงับเรื่องแต่งงานของเสิ่นเมี่ยวเอาไว้ก่อน วันนั้นที่วังหลวงองค์หญิงหรงซิ่นกำลังสับสน พอกลับตำหนักถึงคิดได้จากสิ่งต่างๆ การแต่งตัวและลายปักชายเสื้อ เลยต้องการพิสูจน์ ด้วยการเรียกเสิ่นเมี่ยวมาพบ และคาดคั้นถามความจริง เสิ่นเมี่ยวไม่ยอมรับ ในที่สุดเซี่ยจิ่งสิงก็ปรากฏตัว และยอมรับความจริง คืนนั้นเสิ่นเมี่ยวจึงไปปลอบใจเซี่ยจิ่งสิงที่ตำหนักรุ่ยอ๋อง และบอกว่าในใต้หล้านี้ไม่มีใครเดินทางสายเดียวกับนางได้ เซี่ยจิ่งสิงจึงพูดว่า เราเดินทางสายเดียวกัน เสิ่นเมี่ยวบอก แล้วใครว่าไม่ใช่เล่า เซี่ยจิ่งสิงถาม เจ้าคิดว่าข้าเป็นรุ่ยอ๋องแห่งต้าเหลียงหรือเซี่ยเสี่ยวโหวแห่งจวนหลินอานโหว เสิ่นเมี่ยวตอบว่าสำคัญด้วยหรือ เซี่ยจิ่งสิงก็ตอบว่าข้าก็คิดว่าไม่สำคัญ แต่มีคนเตือนข้าไม่หยุดว่านี่คือสิ่งสำคัญ เสิ่นเมี่ยวตอบว่าสำหรับข้าแล้วไม่สำคัญ ก็แค่เซี่ยจิ่งสิง  ช่วงนี้เป็นช่วงเปิดใจ พูดคุยกัน เซี่ยจิ่งสิงยอมรับว่าจะทำลายหมิงฉี เสิ่นเมี่ยวก็บอกว่าตนเองก็เช่นกัน เราเหมือนกัน เซี่ยจิ่งสิงก็บอกว่าเสิ่นเมี่ยวอย่าได้คิดเสียใจภายหลัง ลงเรือลำเดียวกับข้าแล้ว ชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่อาจขึ้นไปไหนได้ แล้วก็จูบเสิ่นเมี่ยวอย่างบ้าคลั่ง (ช่วงนี้เป็นช่วงเปิดใจ และหึงหวง จูบตลอดละท่านอ๋อง) แล้วก็ถามเสิ่นเมี่ยวว่าตอนนี้คิดจะแต่งงานกับใคร พอเสิ่นเมี่ยวทำท่าคิดก็บอกเจ้ายังคิดจะแต่งกับคนอื่นอีก จูบข้าแล้ว กอดข้าแล้ว ยังคิดจะสวมเขาให้ข้า เสิ่นเมี่ยว เจ้าใจกล้าไม่เบาเลย เสิ่นเมี่ยว”ท่านคงไม่คิดจะแต่งกับข้าหรอกกระมัง” เซี่ยจิ่งสิง”ในที่สุดก็ฉลาดเสียที” (คืออยากแต่งกับสาว ยังต้องให้สาวพูดก่อนอีกนะท่านอ๋อง 5555) แล้วเสิ่นเมี่ยวก็พูดเรื่ององค์รัชทายาทว่ามีแผนอยากให้ช่วย เซี่ยจิ่งสิงรีบบอกว่า อ๋อ อยากให้สามีช่วยเจ้าน่ะรึ (คราวนี้ล่ะ ไม่ปล่อยโอกาสทีเดียวเชียวนะ)
เสิ่นตงหลิงคิดแผนจะเล่นงานเสิ่นเมี่ยว โดยให้รัชทายาทแคว้นฉินหมายตาแล้วรัชทายาทหมิงฉีมาช่วย ไว้เพื่อไม่ให้ต้องแต่งไปต่างเมือง หวังปี้ก็จะได้หน้า ที่คิดแผนให้รัชทายาทด้วย แต่เรื่องพวกนี้ไม่พ้นสายตาของเซี่ยจิ่งสิง เสิ่นเมี่ยวจึงให้เซี่ยจิ่งสิงหาวิธีเพื่อทำลายการผูกมิตรของสองแคว้นโดยการ ฆ่าคน ลักทรัพย์ ให้ร้าย ป้ายสี ให้ตายแบบไร้หลักฐานย่อมดีที่สุด

เล่มนี้ในที่สุดก็กำจัดครอบครัวสายสามได้ รวมถึงคนตระกูลเสิ่นทั้งหมดที่เคยทำร้ายเสิ่นเมี่ยวในอดีต แล้วเรื่องก็ยังมีการเปิดใจของเสิ่นเมี่ยวกับเซี่ยจิ่งสิง เพราะการที่มีแต่คนอยากแต่งงานกับเสิ่นเมี่ยวเป็นเหตุ พระเอกตอนนี้มีโอกาสได้นี่เป็นจูบตลอดเลย เป็นเรื่องราวน่ารักท่ามกลางการแก้แค้นที่วางแผนอย่างดีของนางเอก 



 เล่ม5 :
แผนการของเซี่ยจิ่งสิงและเสิ่นเมี่ยวสำเร็จด้วยดี เพราะทั้งสองช่วยกันคิดช่วยกันวางแผนให้ หวงฝู่ฮ่าวรัชทายาทแคว้นฉินตายโดยการป้ายความผิดไปยังฟู่ซิวถิงรัชทายาทหมิงฉี พยานหลักฐานพร้อมคือเสียงร้องบอกว่าฟู่ซิวถิงสังหารตนอย่างโกรธแค้น พวกองครักษ์ของหวงฝู่ฮ่าวต้องรู้อยู่แล้วว่ากลับไปก็ตาย จึงสู้แบบเอาชีวิตเข้าแลก เพื่อแก้แค้นให้ได้ ฮ่องเต้แคว้นฉินเรียกร้องความเป็นธรรม เหวินฮุ่ยตี้ฮ่องเต้หมิงฉีต้องมอบชีวิตรัชทายาทฟู่ซิวถิงให้เป็นการตอบแทน การตัดสินออกมาอย่างรวดเร็ว รัชทายาทฆ่าตัวตายในคุก สามีภรรยาหวังปี้เสิ่นตงหลิงโดนประหารและยึดทรัพย์ข้อหาค้าเกลือเถื่อน ส่วนเซี่ยจิ่งสิงก็เข้าวังไปขอพระราชทานสมรสกับเหวินฮุ่ยตี้ให้แต่งกับเสิ่นเมี่ยว โดยให้เข้าแลกเปลี่ยนเป็นเมืองชายแดนเป็นของแต่งงาน ใบรายการสินสอดทำออกมามากมาย(ตอนนี้จะแบบอย่างฮาเพราะใบรายการหลายใบสุดๆ คนที่มาป่าวร้องคือเถี่ยอีองครักษ์ของเซี่ยจิ่งสิง หน้าไม่ให้แต่ร้องซะสนุกไปเลย) สินสอดยิ่งกว่าแต่งองค์หญิงเสียอีก ซูหมิงเฟิงมาถามถึงตำหนักรุ่ยอ๋อง สุดท้ายเซี่ยจิ่งสิงยอมบอกความจริงก็ถูกหาว่าทรยศ เสิ่นเมี่ยวทนไม่ได้พูดจาปกป้องแทนเซี่ยจิ่งสิง เซี่ยจิ่งสิงไปจวนตระกูลเสิ่นเอาชุดแต่งงานมาให้ และตอนประลองฝีมือก็ใช้วิชาเฉพาะของตระกูลเซี่ยเพื่อบอกใบ้เสิ่นซิ่น เสิ่นซิ่นทนไม่ไหวจึงไปพบรุ่ยอ๋องที่ตำหนัก เซี่ยจิ่งสิงเล่าความจริงให้ฟังว่าเสิ่นเมี่ยวทำอะไรให้ตระกูลเสิ่นบ้าง ทำให้เสิ่นซิ่นรู้ความจริงทั้งหมด วันแต่งงานองค์หญิงหรงซิ่นเขียนจดหมายบอกฐานะแท้จริงของรุ่ยอ๋องให้เหวินฮุ่ยตี้รู้ แต่จดหมายถูกชิงไปโดยซูหมิงเฟิงที่ไปส่งนอกเมืองเป็นครั้งสุดท้าย และยังมีอีกฉบับสายสืบของติ้งอ๋องได้ไป เสิ่นเมี่ยวแต่งงานกับเซี่ยจิ่งสิงที่หมิงฉีเดินทางไปแคว้นต้าเหลียงใช้เวลา สามเดือนหลัวถานแอบหลบซ่อนหนีตามมาด้วย แต่ถูกเกาหยางพบก่อน และโนหลอกว่าเคยเดินทางไปต้าเหลียงมีจวนที่นั้น ทำให้เสิ่นเมี่ยวยังไม่รู้เรื่อง ถึงหลงเย่ ต้าเหลียงเซี่ยจิ่งสิงให้เวลาเสิ่นเมี่ยวปรับตัวสองเดือนก่อนจะร่วมหอกัน ตอนพบฮ่องเต้หยงเล่อแห่งต้าเหลียง ฮ่องเต้ไม่ชอบเสิ่นเมี่ยวมากนัก ผิดกับฮองเฮาเสี่ยนเต๋อ และก็ได้เจอกับความวุ่นวายของฐานอำนาจในต้าเหลียง ที่มีตระกูลหลูกับตระกูลเย่อยู่ ตระกูลหลูคล้ายตระกูลเสิ่นในหมิงฉีคือเป็นตระกูลแม่ทัพ ตระกูลเย่เป็นตระกูลบู๊ ก่อนหน้านี้ที่หมิงฉีเซี่ยจิ่งสิงช่วยเพ่ยหลางออกมาจากคุกใต้ดินได้และให้ตามมาที่ต้าเหลียงเพื่อหนีภัยจากฟู่ซิวอี๋ เสิ่นเมี่ยวจึงบอกให้เพ่ยหลางไปใช้ชีวิตของตนเอง แต่เพ่ยหลางกลับบอกว่าจะอยู่ตำหนักรุ่ยอ๋อง 
เทศกาลล่าสัตว์ของเชื้อพระวงศ์ที่อดีตฮ่องเต้กำหนดขึ้นเพื่อเล่นงานสองพี่น้องฮ่องเต้หย่งเล่อและรุ่ยอ๋อง ครั้งนี้เสิ่นเมี่ยวรู้สึกใจไม่สงบยิ่งถึงเวลาเซี่ยจิ่งสิงบอกว่าแผนเปลี่ยนก็ยิ่งรู้สึกแปลก เมื่อฮ่องเต้ออกมาอีกครั้งก็บอกว่ารุ่ยอ๋องบาดเจ็บพากลับเมืองหลวงไปรักษาตัวแล้ว ที่แท้ฮ่องเต้คิดเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อตัดสินกับตระกูลหลู ไม่คาดคิดว่าเซี่ยจิ่งสิงจะเอาตัวมาขวางกระบี่ไปแทน บนกระบี่อาบยาพิษทำให้หมดสติไม่รู้สึกตัว เกาหยางบอกว่าเหลือเวลาสี่วันเสิ่นเมี่ยวเอายาคืนชีพที่ได้จากเฝิงอานหนิงมาให้ยืดเวลาเป็นสิบวัน แต่ละวันคอยเฝ้าอยู่ข้างเตียงจนวันที่สี่อาการทรุดหนักลง หลัวถานที่รู้ความจริงว่าเกาหยางเป็นคนต้าเหลียงที่ไม่รู้จะทำอะไรได้กลับไปที่จวนตระกูลเกาขังตัวเองในห้องพอดีมีเปินเย่ที่พูดปลอบใจเก่งเล่าเรื่องญาติไปพบผู้สูงส่งทำให้อาการที่รักษาไม่ได้รักษาหาย หลัวถานจึงได้ขอแผนที่แล้วไปหาเสิ่นเมี่ยวเพื่อขอยืมเข็มทิศ เสิ่นเมี่ยวถามความจริงพอรู้จึงตัดสินใจพาผู้ติดตามไปด้วยตัวเอง ทางที่ไปเป็นเหมือนเขาวงกตเดินไปแต่เห็นต้นไม้ซ้ำเดิมตลอดเวลา มีอุปสรรคมากมายแต่เสิ่นเมี่ยวก็ยังเดินหน้าต่อ ในที่สุดก็พบกระท่อมตามคำบอกของเปินเย่ ผู้ที่พบก็คือนักพรตท่านนั้นที่เคยทำนายให้ที่วัดผู่ถัวแคว้นหมิงฉี นักพรตนามว่าชื่อเยี่ยน เสิ่นเมี่ยวขอร้องให้ช่วยสามี นักพรตบอกว่าเลือกได้สิ่งเดียวระหว่างความลับของตัวกับช่วยคน เสิ่นเมี่ยวบอกว่าชีวิตคนสำคัญกว่า นักพรตก็กล่าวว่าไม่สู้บอกว่า ฮูหยินเห็นเขาสำคัญกว่าตัวเจ้าเอง ดังนั้นเพื่อเขาแล้วย่อมสามารถสละสิ่งที่ตัวเองปรารถนาได้ (คือนักพรตชื่อเยี่ยนรู้ดีจริงๆ ความลับของตัวเอง ปัญหาของตัวเองไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเซี่ยจิ่งสิงต่างหาก เสิ่นเจียวเจียวปากแข็ง 555) นักพรตชื่อเยี่ยนจะให้ยาสมุนไพรที่ถอนพิษได้แต่ข้อแลกเปลี่ยนคือกำจัดหนอนในหญ้าหงซิ่วทั้งหุบเข้าและให้ใส่ปุ๋ยให้ เสิ่นเมี่ยวตกลงทำ ต้องทำเองคนเดียวทั้งวันทั้งคืนกว่าจะเสร็จ ในที่สุดก็ได้มา พอจากไปนักพรตชื่อเยี่ยนยังกล่าวกับตัวเองว่าเหนื่อยเปล่า 
เมื่อกลับถึงจวนกลับพบว่ามีพี่น้องที่มาตามหาครอบครัวเห็นประกาศหาคนรักษาได้นำยามาให้แล้ว พอเจอเสิ่นเมี่ยวก็เห็นว่าคือ หลี่เค่อหลี่เหมยสองพี่น้องที่มีความแค้นกับนางมากที่สุดในชาติที่แล้ว เสิ่นเมี่ยวนึกดูกลัวว่าเมื่อชาติก่อนเซี่ยจิ่งสิงเคยมีความเกี่ยวข้องกับสองพี่น้องมากเป็นพัธมิตรกัน เสิ่นเมี่ยวให้มั่วฉิงไปลอบสังหารแต่เพ่ยหลางกล่าวขัดขวางไว้พร้อมข้อเสียมากมายที่จะเกิดกับจวนรุ่ยอ๋อง เสิ่นเมี่ยวไปเยี่ยมเซี่ยจิ่งสิง เซี่ยจิ่งสิงนึกว่าเสิ่นเมี่ยวไม่เคยสนใจตัวเองไม่มาเฝ้าตัวเองด้วย และเสิ่นเมี่ยวก็ไม่ให้ใครบอกเรื่องที่ตัวเองออกจากตำหนักไปหายามาให้เซี่ยจิ่งสิงเพราะคิดว่ายังไงก็ไม่ได้ใช้แล้ว บอกไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร เสิ่นเมี่ยวให้มั่วฉิงไปสืบประวัติสองพี่น้องยังไม่ได้ความอะไร และเสิ่นเมี่ยวก็คิดแผนการกำจัดภัยร้ายออกไปจากตำหนักรุ่ยอ๋อง  ออกไปให้ห่างจากเซี่ยจิ่งสิงไม่ออกเพราะสองพี่น้องมีฐานะเป็นผู้มีคุณไปแล้ว เสิ่นเมี่ยวตัดสินใจให้มั่วฉิงไปลอบสังหารอีกครั้งแต่มั่วฉิงบอกว่าสองพี่น้องหลี่เหมยหลี่เค่อที่มาตามหาญาติ ญาติที่ตามหาคือตระกูลเย่ เสิ่นเมี่ยวคิดวิธีไม่ออกก็มาขอร้องให้เพ่ยหลางช่วยออกความเห็น เซี่ยจิ่งสิงเข้าใจผิดอีก น้อยใจเข้าไปใหญ่ เย่เม่าไฉและเย่ฮูหยินมารับเย่เหมยเย่เค่อกลับจวน ปาเจี่ยวมาพูดกับเสิ่นเมี่ยวเรื่องเซี่ยจิ่งสิง บอกว่าทำไมไม่เล่าเรื่องที่ไปหายาสมุนไพรให้นายท่านฟัง บอกว่าความตั้งใจของท่านสำคัญยิ่งกว่าสมุนไพร บอกว่านายท่านให้ความสำคัญกับการไว้เนื้อเชื่อใจที่สุด นายท่านไม่ได้โกรธฮูหยินแต่โกรธตัวเอง สงสัยว่าตัวเองไม่ดีพอให้ฮูหยินไว้ใจตัวเองได้ คำพูดเหล่านี้ทำให้เสิ่นเมี่ยวคิดได้ คนหยิ่งผยองเช่นเซี่ยจิ่งสิงไม่มีทางเป็นพวกเดียวกับเย่เหมย เย่เค่อได้แน่นอนทั้งชาติก่อนและชาตินี้  นางไม่สมควรสงสัยในตัวเขา ความไม่เชื่อใจของนางที่แท้ก็คือความไม่เชื่อมั่นในความรักของตัวเอง ปาเจี่ยวยังบอกว่าเซี่ยจิ่งสิงปลอบง่าย ให้ฮูหยินทำหมี่อายุยืนซักชามรับรองว่านายท่านต้องหายโกรธ เสิ่นเมี่ยวเลยตกลงใจที่จะง้อเซี่ยจิ่งสิงในงานวันคล้ายวันเกิดของเซี่ยจิ่งสิง  จัดงานที่หอปี้เซียว คนมาร่วมงานมากมาย เย่เหมยยังจะแสดงความสามารถระบำธารหมึก ทำให้เสิ่นเมี่ยวหวนนึกถึงแค้นเลือดชาติก่อนของตน เสิ่นเมี่ยวคิดว่าท่าทางของเย่เหมยจะทำให้เซี่ยจิ่งสิงเป็นเหมือนฟู่ซิวอี๋ในชาติที่แล้ว เห็นแล้วหลงใหลได้ปลื้ม เสิ่นเมี่ยวจึงมองเซี่ยจิ่งสิง ดวงตาของเซี่ยจิ่งสิงกลับจับจ้องอยู่บนร่างเสิ่นเมี่ยว ไม่ได้มองระบำที่ผู้คนชื่นชมอยู่ตรงหน้า
ดวงตาเซี่ยจิ่งสิงมองเพียงนาง ไม่ได้มองเย่เหมยแม้เพียงหางตา
คนสองคนช่างไม่เหมือนกันจริงๆ เหมือนกับนางและเย่เหมยที่ไม่เหมือนกัน เซี่ยจิ่งสิงกับฟู่ซิวอี๋ที่ไม่เหมือนกัน

เล่มห้านี้เรื่องราวครึ่งแรกจะเป็นการอยู่ในแคว้นหมิงฉีช่วงสุดท้ายพร้อมงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ก่อนที่จะเดินทางมาต้าเหลียงเพื่อมาเริ่มชีวิตใหม่ และได้เจอกับศัตรูที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เสิ่นเมี่ยวได้ตายในชาติก่อนนี้ มาเจอกันใหม่ความแค้นครั้งนี้จะทำอย่างไรต่อไปต้องติดตามตอนจบในเล่มหกต่อเลย



เล่ม6 :
เสิ่นเมี่ยวมัวแต่ตกอยู่ในภวังค์ จนเย่เหมยร่ายรำจบ เย่เหมยขอให้เสิ่นเมี่ยวร่ายรำบ้างเสิ่นเมี่ยว กล่าวว่าข้าเป็นชายาอ๋องจะมาร้องเพลง เริงระบำเหมือนนักร้องนางโลมได้อย่างไร แต่จะบรรเลงพิณให้เย่เหมยฟังแล้วกัน บอกว่าบทเพลงนี้ชื่อหยาดโลหิต ครึ่งแรกเป็นอารมณ์ขององค์หญิงน้อยที่ถูกบีบบังคับให้ต้องไปอภิเษกยังแดนไกล ครึ่งหลังเป็นของเสด็จแม่แท้ๆ ฮองเฮา ที่ต้องสูญเสียบุตรสาว ทั้งสิ้นหวังและเคียดแค้น เสร็จเสิ่นเมี่ยวก็คารวะสุราและออกไปรับลม รอที่ศาลาตามที่ได้นัดกับเซี่ยจิ่งสิง เพ่ยหลางตามออกมาบอกว่ายังคิดอยู่ว่าคงไม่มีใครที่เจ้าจะยอมอ่อนข้อให้ ตอนนี้รู้แล้ว ที่แท้คนผู้นั้นก็คือท่านอ๋อง ส่วนเซี่ยจิ่งสิงเป็นพวกปากแข็งแต่ใจอ่อน ใจจริงเขาก็อยากง้อนาง แต่ทำสีหน้าเยือกเย็นไปอย่างนั้นเอง ที่จริงในใจเขาตอนนี้รู้สึกโล่งอกนัก เพ่ยหลางพูดเสร็จก็จะจากไปแต่ชนกับเด็กน้อยวัยแปดเก้าขวบ เด็กน้อยนั้นดวงตาเต็มไปด้วยไอสังหารเพ่ยหลางจึงกอดเสิ่นเมี่ยวไว้โดนแทงเอง แต่เด็กก็ถีบเพ่ยหลางออกและใช้ดาบแทงไปที่เสิ่นเมี่ยว
เสิ่นเมี่ยวถูกแทงเข้าที่ท้องรอยดาบไม่ได้ทำร้ายจุดสำคัญ กินยานอนหลับพรุ่งนี้เช้าก็ตื่น เกาหยางบอก แต่อาการของเพ่ยหลางบาดเจ็บสาหัส กลัวว่านิสัยของเสิ่นเมี่ยวชาตินี้ทั้งชาติย่อมต้องละอายแก่ใจไปตลอด เพราะเพ่ยหลางรับดาบแทนนาง เซี่ยจิ่งสิงให้ตามจับนักฆ่าแล้วฆ่าทิ้ง ส่วนผู้บงการเบื้องหลังให้สืบต่อ เซี่ยจิ่งสิงเข้ามาอยู่ในห้องกับเสิ่นเมี่ยวเห็นบะหมี่อายุยืนที่เสิ่นเมี่ยวสั่งให้ทำไว้ก็กินอย่างไม่รู้รสชาติและนั่งจับมือเสิ่นเมี่ยวไว้แน่น หลัวถานรู้เรื่องจากเกาหยางก็ถามว่ารักษาเสิ่นเมี่ยวได้หรือไม่ วันต่อมาก็ยังไม่ฟื้นทั้งเสิ่นเมี่ยวและเพ่ยหลาง หลัวถานร้อนใจมากจึงเล่าเรื่องทั้งหมดที่เสิ่นเมี่ยวทำเพื่อเซี่ยจิ่งสิงให้เซี่ยจิ่งสิงฟัง เล่าจบเซี่ยจิ่งสิงจะให้ไปจับสองพี่น้องตระกูลเย่มาสอบสวน แต่นักพรตชื่อเยี่ยนก็เดินทางมาพบพอดี บอกว่าชะตาชีวิตของฮูหยินประหลาดล้ำต้องให้นางเป็นคนเลือกเอง แล้วบอกว่าเอายาวิเศษที่ได้มาออกมา ยานั้นเอาไว้ช่วยนาง นักพรตรู้ว่าเหนื่อยเปล่า ผู้ที่คิดช่วยคนอื่นย่อมได้รับการช่วยเหลือตอบแทน นางแสวงหายามาช่วยเจ้าแต่ที่แท้เอาไว้ช่วยนางเอง ชะตาเสิ่นเมี่ยวมีเคราะห์ นักพรตแค่ช่วยให้เคราะห์เหลือน้อยที่สุด นักพรตบอกว่ามีวาสนาพบเสิ่นเมี่ยวสามครั้ง สองครั้งต้องเกี่ยวพันกัน ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อสงเคราะห์วาสนาของนาง
ที่แท้เสิ่นเมี่ยวนอนหลับก็ฝันเห็นตัวเองในชาติก่อนที่เป็นฮองเฮาเดินทางกลับมาจากแคว้นฉิน ระหว่างทางได้เจอนักพรตชื่อเยี่ยน นักพรตได้ขอน้ำ และบอกว่าเส้นทางนี้เป็นสายปรโลก เดินทางไปย่อมไม่อาจกลับมาได้อีก ซึ่งเสิ่นเมี่ยวก็ต้องปฏิเสธตามคาด นักพรตเลยให้ด้ายแดงเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณ เสิ่นเมี่ยวผูกไว้ที่ข้อมือกลับถึงติ้งจิง เสิ่นเมี่ยวถึงรู้ว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยมีเหมยฮูหยินอยู่ฝ่ายในอีกคนเป็นที่โปรดปราน ในงานเลี้ยงปีใหม่ฟู่ซิวอี๋สั่งให้เซี่ยจิ่งสิงออกรบ พองานเลิก เสิ่นเมี่ยวไปแอบดื่มเหล้าในอุทยานและได้พบกับเซี่ยจิ่งสิง ก็ได้อวยพรให้เซี่ยจิ่งสิงมีชัยชนะกลับมา และได้มอบด้ายแดงที่ผูกบนข้อมือให้เซี่ยจิ่งสิงโดยผูกไว้ที่ข้อมือของเซี่ยจิ่งสิงด้วยตนเอง เซี่ยจิ่งสิงเลยบอกว่าจะทำความปรารถนาของนางให้เป็นจริง นั่นคือเหตุการณ์ที่เสิ่นเมี่ยวลืมเลือนไปเมื่อชาติก่อน ยังมีเรื่องราวของเหมยฮูหยินที่บังคับให้เพ่ยหลางนำหยดเลือดปลายนิ้วของเสิ่นเมี่ยวมาให้เพื่อเปลี่ยนแปลงชะตาหงส์ของเสิ่นเมี่ยว และเรื่องราวต่อมาหลังจากที่เสิ่นเมี่ยวตาย เซี่ยจิ่งสิงก็ยังคงทำศึกอย่างต่อเนื่องและกลับมายังติ้งจิงเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้เสิ่นเมี่นวเพียงเพราะคำสัญญาในตอนนั้น กับเพ่ยหลางที่เสียใจไปทั้งชาติที่ทำกับเสิ่นเมี่ยวเช่นนั้นจนต้องกลับมาแก้ไขในชาตินี้ เรื่องราวเหล่านี้คือสิ่งที่เสิ่นเมี่ยวฝันเห็นรวมถึงเพ่ยหลางด้วยทำให้รู้ว่าทำไมเสิ่นเมี่ยวถึงมีท่าทางร้ายกาจกับตน พอตื่นขึ้นมาก็พบว่าเซี่ยจิ่งสิงเฝ้าอยู่ข้างกาย เสิ่นเมี่ยวก็รู้สึกหัวใจหวั่นไหว นักพรตชื่อเยี่ยนได้ฝากด้ายแดงเอไว้ให้ เสิ่นเมี่ยวจึงนำมาผูกข้อมือตัวเองและเซี่ยจิ่งสิง ปากเซี่ยจิ่งสิงบอกไม่ยอมแต่ก็ยอมผูกโดยดี ตัดสินใจเล่าความจริงให้ฟัง ในรูปแบบว่าตอนอายุสิบสี่ที่เคยตกน้ำแล้วตื่นขึ้นมาเปลี่ยนไป จากที่หลงใหลฟู่ซิวอี๋ก็ไม่มีความคิดนั้นอีก เพราะความฝันอันยาวนานของตน เสิ่นเมี่ยวเล่าเรื่องในชาติที่แล้วในรูปของความฝันตื่นหนึ่ง แต่เซี่ยจิ่งสิงก็เชื่อ กล่าวว่าแค้นของเจ้าก็คือแค้นของข้า คืนนั้นเสิ่นเมี่ยวเมาจนไม่ได้สติแต่ก็รบเร้าจะนอนกับเซี่ยจิ่งสิง มาเสนอตัวสารพัด สุดท้ายทั้งสองก็อยู่ด้วยกัน ตื่นขึ้นมาเสิ่นเมี่ยวจำไม่ได้ เซี่ยจิ่งสิงยังพูดไม่เลิกอีกต่างหาก สองคนนี้คืนดีกันในที่สุด ตำหนักอ๋องกลับมามีความสุขอีกครั้ง
เพ่ยหลางจากไปพร้อมทั้งจดหมายที่เขียนถึงแผนการของฟู่ซิวอี๋มากมายทำให้เซี่ยจิ่งสิงกับเสิ่นเมี่ยวสามารถวางแผนจัดการฟู่ซิวอี๋ต่อได้ เพราะมีข่าวว่าแคว้นหมิงฉีฮ่องเต้ประชวนหนัก ฟู่ซิวอี๋ยึดอำนาจ เรื่องต่อไปเป็นการจัดการตระกูลหลู ตระกูลเย่ของฮ่องเต้หย่งเล่อ ตระกูลหลูของจิ้งเฟยโดยไปก่อน เย่เหมยที่อยู่ตระกูลเย่ก็ได้รู้ว่าที่จริงตนไม่มีเชื้อสายตระกูลเย่ก็คิดจะตีตัวออกห่างหาทางหนีที่ไล่ให้ตัวเองหลังรู้สถานการณ์ของตระกูลเย่แล้ว โดยหลอกใช้เย่เค่อน้องชายตัวเองด้วย เซี่ยจิ่งสิงต้องไปปราบตระกูลหลู ก่อนที่แม่ทัพหลูตายยังได้ส่งข่าวไปบอกฟู่ซิวอี๋ว่าฮ่องเต้หย่งเล่อจะอยู่ไม่พ้นปีนี้เพราะร่างกายที่โดนยาพิษมานาน เรื่องนี้เซี่ยจิ่งสิงได้เล่าความเป็นมาทั้งหมดของตัวเองให้เสิ่นเมี่ยวฟังแล้วว่าตัวเองถูกสลับตัวไปอยู่จวนหลินอานโหวได้อย่างไร และเกิดอะไรขึ้นก็พ่อ แม่ของตัวเอง และชาติกำเนิดของตัวเอง พี่ชายโดนพิษได้ยังไง ตอนที่เสิ่นเมี่ยวฟังจบยังบอกว่าข้าจะอยู่กับท่านไปจนวาระสุดท้าย   เย่เหมยก่อนจากตระกูลเย่ไปยังได้ขโมยของสำคัญในห้องหนังสือของเย่เหมาไฉไป แต่เสิ่นเมี่ยวรู้นิสัยนางดีจึงส่งคนคอยติดตาม และได้เปลี่ยนเบาะแสในจดหมายเป็นของปลอมเพื่อให้เย่เหมยได้เข้าใกล้ฟู่ซิวอี๋ได้เร็วขึ้น ถึงเวลาที่เซี่ยจิ่งสิงต้องออกศึกใหญ่เพราะ แคว้นหมิงฉีและแคว้นฉินร่วมมือกัน เสิ่นเมี่ยวก็ตั้งครรภ์ ฮ่องเต้หย่งเล่อและฮองเฮาเสี่ยนเต๋อจึงเรียกให้ไปอยู่ในวังเพื่อรักษาทายาทตระกูลเซี่ยเอาไว้ ระหว่างนี้การศึกก็เป็นไปตามแผนการ  ข่าวจากเซี่ยจิ่งสิงที่ส่งมาถึงเมื่อพิชิตโยวโจวสิบสามเมืองที่เป็นเมืองสำคัญตั้งอยู่รอยต่อสามแคว้นยังความดีใจให้ทุกคน ในจดหมายเซี่ยจิ่งสิงยังเล่าว่าได้ปล่อยข่าวว่าเหมยฮูหยินเป็นสายที่ฝ่ายต้าเหลียงส่งไป เพียงแค่นี้คนขี้ระแวงอย่างฟู่ซิวอี๋ก็ทนไม่ไหวทรมานนางในคุก ทำลายโฉม สุดท้ายให้ไปเป็นกระโถนมนุษย์ คำสาบแช่งของเย่เหมยยังดังก้องในหูฟู่ซิวอี๋ หลังจากนั้นไม่นานเซี่ยจิ่งสิงก็ยึดเมืองติ้งจิงได้ ฟู่ซิวอี๋ถูกประหารบนกำแพงเมืองโดยธนูนับพันดอกทะลุร่างตอนตายฟู่ซิวอี๋ยังไม่รู้เลยว่าตายด้วยสาเหตุใด ยามที่รู้ข่าวเสิ่นเมี่ยวกลับไม่รู้สึกว่าการแก้แค้นสำคัญที่สุดอีกต่อไปนางมีสิ่งสำคัญกว่าต้องแบกรับกับปัจจุบัน ส่วนสุขภาพฮ่องเต้หย่งเล่อก็ทรุดลงจนในที่สุดก็สวรรคต จากนั้นฮองเฮาเสี่ยนเต๋อก็ไม่ยอมอยู่คนเดียวตามเสด็จไปด้วย (ช่วงนี้เป็นช่วงเศร้าซึ้งจริงๆ ความรักของฮ่องเต้ และฮองเฮาก็ไม่น้อยหน้าแต่ทั้งสองกลับไม่ยอมแสดงออก จนกระทั่งเกือบนาทีสุดท้ายของชีวิตทีเดียว) ส่วนเรื่องราชกิจฮ่องเต้หย่งเล่อจัดการไว้เป็นอย่างดี มอบบัลลังก์ต่อให้น้องชายคนเดียวคือรุ่ยอ๋อง เซี่ยจิ่งสิงเรียบร้อยเขียนราชโองการแต่งตั้งไว้พร้อมนานแล้ว เสิ่นเมี่ยวต้องทำงานหนักมากเพราะฮ่องเต้และฮองเฮาจากไปในเวลาไล่เลี่ยกัน ต้องแบกท้องโตออกมาที่ท้องพระโรงสยบข่าวลือทั้งหลาย รอเวลาเซี่ยจิ่งสิงกลับมา ยังมีกบฏตระกูลหลูที่อาศัยช่วงเวลาเปราะบางมาบุกเมืองหลวงหลงเย่ เสิ่นเมี่ยวต้องออกไปที่หน้าประตูวังเพื่อสยบข่าวลืออีกครั้งว่าจะสู้ไปพร้อมกับทุกคน เมืองอยู่ข้าอยู่ เมืองม้วยข้าม้วย ช่วงนี้อาจารย์เพ่ยได้กลับมาช่วยเหลือทำให้ภาระของเสิ่นเมี่ยวเบาลง สองวันต่อมาพวกกบฏตระกูลหลูได้บุกทำลายหลงเย่อย่างบ้าคลั่ง เสิ่นเมี่ยวต้องบัญชาการอยู่หลังม่านไม่ได้พักผ่อน พอวิกฤติผ่านพ้น ร่างกายอ่อนแอก็เจ็บท้องคลอดลูกพอดี พอคลอดเสร็จได้ลูกชายฝาแฝด ทำได้แค่ฝากฝังให้ดูแลลูกก็หลับไป ส่วนเซี่ยจิ่งสิงเหมือนล่วงรู้รีบบุกเมืองสุดท้ายและกลับมาหลงเย่ ได้เห็นแต่ลูกชายฝาแฝดกับเสิ่นเมี่ยวที่หลับสนิท ก่อนเซี่ยจิ่งสิงขึ้นครองราชย์ เพ่ยหลางมาเตือนสติ แต่สุดท้ายเซี่ยจิ่งสิงบอกว่าขอบคุณ และว่า แต่ไรมาข้าก็ไม่เคยทำอะไรให้ที่เสียใจภายหลัง และจะไม่ทำเรื่องที่ทำให้คนอื่นเสียใจภายหลังด้วย (รับฟังแต่สุดท้ายก็บอกว่าไม่เคยทำอะไรให้เสียใจภายหลัง และไม่เคยทำให้คนอื่นเสียใจภายหลังโดยเฉพาะคนที่ข้ารักที่สุดสินะ)
วันที่เซี่ยจิ่งสิงขึ้นครองราชย์ ท้องฟ้าแจ่มใส เป็นฮ่องเต้ที่มีพระนามว่าเซี่ยวจิ่ง หลังเสร็จพิธีก็อุ้มเสิ่นเมี่ยวออกมาแต่งตั้งเป็นฮองเฮา โดยไม่ฟังคำทัดทานของใครทั้งสิ้น (อย่ามาวุ่นเรื่องของข้าเข้าใจมั้ย ประมาณนั้นเลย) ครึ่งปีให้หลังเซี่ยจิ่งสิงพาลูกออกไปท่องเที่ยว รถม้าหยุดลงตรงเขาเจอหยาง ทิวทัศน์งดงาม เซี่ยจิ่งสิงเลี้ยงลูกเองคนหนึ่งแบกบนหลัง อีกคนกอดป้อนข้าวต้มให้ ในรถม้ามีเสิ่นเมี่ยวนอนอยู่ มีคนได้ยินเสียงหัวเราะในรถม้า เสิ่นเมี่ยวตื่นแล้ว ไม่พบกันนานนะเซี่ยเสี่ยวโหว

เล่มจบ เป็นบทสรุปของทุกเรื่องราว ทั้งประวัติความเป็นมาของเซี่ยจิ่งสิง ปริศนาปมวาสนาที่ผูกเซี่ยจิ่งสิงกับเสิ่นเมี่ยวเอาไว้ด้วยกัน ทั้งยังมีความรักความเห็นใจของฮ่องเต้หยงเล่อและฮองเฮาเสี่ยนเต๋อ และบทสรุปของฟู่ซิวอี๋และเย่ฮูหยินที่เสิ่นเมี่ยวแสนจะเคียดแค้น ว่าสุดท้ายเป็นอย่างไร จะคลายปมในใจเสิ่นเมี่ยวได้หรือไม่ และสุดท้ายคือเรื่องราวความรักของเสิ่นเมี่ยวและเซี่ยจิ่งสิงจะเป็นอย่างไรในท้ายที่สุด



หลังอ่าน:
เป็นเรื่องราวการแก้แค้นที่จากชาติที่แล้วทำดีด้วยทุกอย่างแต่สุดท้ายทำไม ได้กลับมาคือการทรยศและความตาย นางเอกของเรื่องไม่รู้บทสรุปสุดท้ายว่าพวกที่คิดชั่วกับตัวสุดท้ายมีจุดจบแบบไหน ก็นางตายไปแล้วนี่ แต่นางกลับได้มีโอกาสฟื้นขึ้นมาในร่างของตัวเองก่อนที่เรื่องราวต่างๆจะเกิดขึ้นอย่างที่มันควรจะเป็นอย่างเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ
การกลับมาเกิดใหม่ทำให้เสิ่นเมี่ยวคนใหม่ฉลาด ทันคนไม่เหมือนคนเดิมอีกต่อไป รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมขอทุกคนและได้คอยช่วยเหลือครอบครัวที่รักให้รอดพ้นเคราะห์ภัยต่างๆนานา ส่วนพระเอกเซี่ยจิ่งสิงที่เสิ่นเมี่ยวรู้ก็คือตายตั้งแต่อายุยังน้อย ช่างน่าเสียดายคนเก่งที่น้ำใจดีต่อคนใกล้ชิด โดยไม่รู้ความเป็นมาลึกๆ แต่เรื่องราวไม่ง่ายอย่างนั้นเพราะทุกเหตุการณ์ที่เสิ่นเมี่ยววางแผนทำ เซี่ยจิ่งสิงจะแอบรู้เห็นอยู่ จนรู้สึกสนใจขึ้นเรื่อยๆ และจะเป็นน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลองได้ยังไง ยังไงก็มีศัตรูคนเดียวกัน ตระกูลเดียวกันนี่นะ  
เนื้อเรื่องมีทุกอารมณ์ ทั้งการแก้แค้น ความรัก ความเศร้าของการสูญเสีย ความน่ารักของตัวละคร และอารมณ์ขันที่สอดแทรกในเรื่อง การที่ศัตรูถูกทำให้ย่อยยับก็ยังไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงมาจากไหนกันแน่ เมื่อถึงจุดสุดท้ายของเรื่อง การแก้แค้นที่ปรารถนารู้ผลสำเร็จสามารถปล่อยวางได้ รู้ว่าไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดอีกต่อไป นั่นคือจุดสำคัญของเรื่องราว การปล่อยวางทำให้รู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคืออะไร นักเขียนเขียนได้ดีมากทีเดียว เข้มข้นครบทุกรส สนุกมากๆเลยค่ะ