Friday, June 24, 2022

#ลิขิตฟ้า ปักษาคู่บัลลังก์ #5เล่มจบ #นิยายแปลจีนวายแนวโบราณ #BL #เฟิ่ง #มังกร #หงส์แดง #วิหคเทพ #สำนักพรรค #บัลลังก์มังกร #HanTao

 Review 11/2565

เรื่อง : ลิขิตฟ้า ปักษาคู่บัลลังก์ (5 เล่มจบ) #นิยายแปลจีนวายแนวโบราณ #BL #เฟิ่ง #มังกร #หงส์แดง #วิหคเทพ #สำนักพรรค #บัลลังก์มังกร #HanTao

ผู้แต่ง : Lv Ye Qian He

ผู้แปล : ดาบเดี่ยวใต้เงาจันทร์

ภาพปก : Shen Cao

สำนักพิมพ์ : Mee-d (มีดี)

จำนวนหน้า : 325+317+293+333+349 หน้า

เล่ม 1 พิมพ์ครั้งที่ 1 : สิงหาคม 2564

โปรยปกหลังเล่ม 1 :

เพราะ ‘ฉางชี’ เป็นเด็กที่ไร้บิดา จึงประสบกับถ้อยคำถากถางเสียดสีของเพื่อนบ้าน และญาติพี่น้องมาตั้งแต่ยังเล็ก ทักษะต้มตุ๋นหลอกหลวงจึงกลายเป็นความสามารถ และกลายเป็นสิ่งที่เขาต้องนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้มีชีวิตรอด ฉางชีขอเพียงให้มารดาผู้เป็นเหมือน ‘เทพธิดาน้อย’ ของตน กินอิ่มนอนอุ่น อยู่อย่างสงบในแต่ละวันก็เพียงพอแล้ว

ทว่าวันหนึ่งกลับมีราชโองการสั่งให้พวกเขาสองแม่ลูกเข้าวัง!? หา? บิดาของเขาคือฮ่องเต้! ส่วนมารดาเป็นถึงพระสนมงั้นหรือ! เรื่องนี้ทำให้ท่านป้าจางข้างบ้านตกใจแทบตาย...แต่จะสนใจทำไมว่าบิดาของเขาเป็นใคร แล้วใครจะได้เป็นรัชทายาท วังหลวงที่กินอยู่อย่างสุขสบายไม่อั้น ทั้งยังมีคนรับใช้คอยปรนนิบัติพัดวี แถม ‘ไก่เทพ’ ที่เป็นเทพยดาพิทักษ์อาณาจักรนั้นก็ตลกน่าขันดีจะตาย

ดังนั้นเรื่องที่จะให้เขาเปลี่ยนแซ่น่ะ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว! แต่ว่าเขาเพิ่งมาอยู่ใหม่ จึงจำเป็นต้องหาลูกน้องไว้เสียหน่อย ไก่เทพเอ๋ย มามะ...รีบเรียกข้าว่า ‘ท่านพี่’ เร็วเข้า!

เล่ม 1 :

ณ แท่นพิธีจางหัว ราชครูไม่สามารถทำพิธีเลือกรัชทายาทได้ เพราะสายเลือดราชวงศ์ไม่ครบ ทำให้ต้องออกตามหา ความจริงเป็นเพราะ ลูกไก่ขนแดงตัวหนึ่งไม่สนใจ

อาณาจักรต้าจางตอนนี้ราชสำนักเสื่อมโทรม สำนักพรรคต่างๆในแผ่นดินยิ่งใหญ่ แบ่งเป็นสำนักพรรคกระบี่กับสำนักพรรคลมปราณ และสายเสวียนเต้า

ฉางชีที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเกษตรของสำนักจินกัง มีเพียงท่านแม่ที่ต้องดูแลเพียงคนเดียว ฉางชีเป็นเด็กหกขวบ แม้ไม่กลัวใครแต่ก็มีข้อจำกัดมากมาย เรียนรู้สิ่งต่างๆทั้งการเลี้ยงไก่ และการหลอกล่อ หลอกลวงเพื่อได้มาซึ่งเงินทอง แต่ก็มีมโนธรรม เพราะทุกอย่างที่ทำไปเพื่อเทพธิดาน้อยฉางเอ๋อ ท่านแม่ของตัวเอง และตอนนี้ศิษย์สำนักพรรคเกิดถูกตาต้องใจ ฉางชีคิดว่าจะและชีวิตด้วย ดีแต่ว่าราชสำนักส่งคนมารับตัวฉางชีและฉางเอ๋อทันเวลา

หลังจากเข้าวัง ฉางชีไม่ได้เป็นเพียงคนเดียว ยังมีเจ้าดำ และอามู่ที่ร้องหาท่านลุง หลังจากทำพิธีพิสูจน์สายเลือด ที่แท่นจางหัว ฉางชีก็ได้ชื่อว่าเฉินจื่อชี ตอนเดินกลับได้พบกับลูกไก่แดง แล้วก็พากลับมาด้วย ลูกไก่แดงคือตานอี อยู่กับเฉินจื่อชีตลอดเวลา

จนถึงตอนทำพิธี ลูกไก่แดงเลือกเฉินจื่อชี แต่ฮ่องเต้กับทำข้อตกลงกับสำนักพรรค เลือกองค์ชายใหญ่ เป็นรัชทายาท ราชครูทำอะไรไม่ได้ ราชวงศ์ไม่ฟังคำ ก็ตามใจ และส่งสัญญาณห้ามเฉินจื่อชีพูดอะไรออกมา

สำนักพรรคใหญ่มาอวยพรที่ได้รัชทายาท ตานอีมาในตำแหน่งรัฐทายาท เฟิ่งหวาง ตำหนักเมฆเหิน เป็นการปรากฏตัวครั้งแรก และตานอีก็จะอยู่กับเฉินจื่อชี เพราะจะมาร่วมเรียนด้วย จริงๆคือจะมาสอนเฉินจื่อชี ทั้งสองอยู่ด้วยกันตลอดเวลา

ช่วงแรก ตำหนักยังซ่อมไม่เสร็จ ก็พักกับเฉินจื่อชี นอนด้วยกัน กินด้วยกัน ตานอีถือเป็นอัจฉริยะ เป็นประมุขน้อย แค่อ่านหนังสือเล็กน้อยก็เข้าใจ และเห็นว่าเทพยุทธ์มังกรครวญ มังกรท่องตามจันทรากับเทพยุทธ์ตานหยางตรงข้ามกัน ต้องฝึกด้วยกัน ตานอีเป็นคนสอนเฉินจื่อชี วิชาที่ราชวงศ์ไม่มีใครฝึกได้มาหลายรุ่นก็มีเฉินจื่อชีนี่แหละที่ฝึกสำเร็จ

พอตานอีมา ไก่แดงก็หายไป ตอนไปล่าสัตว์ ตานอีกับเฉินจื่อชีถูกล่าสังหาร เพราะอยากจับตานอีไป เฉินจื่อชีไม่ยอม อยู่กับตานอีตลอดเวลา และที่จับตานอีไปเพราะอยากรู้คำถามระดับฟ้าของตำหนักเมฆเหิน

เฉินจื่อชีรู้แล้วว่าไก่แดงคือไก่เทพเพราะราชครูบอก จากหกขวบ ผ่านไปจนเฉินจื่อชีอายุสิบสี่ใกล้จะได้ออกไปอยู่นอกวังเองได้ ได้ถามฮ่องเต้เรื่องไปเยี่ยมตานอีที่ตำหนักเมฆเหิน ฮ่องเต้เห็นว่าองค์ชายเจ็ดมีความสำพันธ์ที่ดีกับตานอีขนาดนี้ก็ดีใจ

ในวังวุ่นวาย เฉินจื่อชีก็อยู่อย่างสบายมาได้ เพราะรัชทายาทและองค์ชายรองแย่งชิงอำนาจ องค์ชายรองยังให้ของอะไรบ้าง แต่รัชทายาทเป็นพวกขี้เหนียว ตานอีเคยเตือนเฉินจื่อชีเรื่องไม่ให้รับของจารัชทายาท เพราะรัชทายาทชอบแทงข้างหลัง

ฮ่องเต้สวรรคต เฉินจื่อชีต้องออกจากเมืองหลวงไปเมืองบรรดาศักดิ์ เทียนเต๋อฮ่องเต้ได้รับข่าวเรื่องตำหนักเมฆเหินเปลี่ยนประมุข ให้เฉินจื่อชีไปด้วยกัน เทียนเต๋อฮ่องเต้วางหนอนคุณไสยไว้ในตัวเฉิงจื่อชี ตอนที่ถึงเขาหยกตำหนักเมฆเหิน เพื่อให้ได้ผลประโยชน์อยากได้ราชครูกลับไป ตานอีขอตัวเฉินจื่อชีมาแลกเปลี่ยน เทียนเต๋อฮ่องเต้คิดว่า ตานอีจะเอาเฉินจื่อชีมาเป็นชายบำเรอแต่ตัวเองก็เห็นแก่ตัวส่งตัวให้ไป

หลังอ่านเล่ม 1 :

แค่เล่ม 1 เปิดตัวเฉินจื่อชีกับตานอี ก็มีสีสันสุดๆแล้ว ทั้งสองโตมาด้วยกันขนาดนี้ ดูสิว่าเฉินจื่อชีจะรู้เมื่อไหร่ว่าตานอีก็คือไก่เทพของตัวเอง ตัวติดกัน น่ารักขนาดนั้น เรื่องราวปูพื้นดีมากๆ อ่านแบบรวดเดียวจบ และต้องอ่านเล่ม 2 อย่างรวดเร็วค่ะ เพราะอยากรู้ว่าเหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไป สนุก น่ารัก ขำฮา แนะนำให้อ่านเลยค่ะ


เล่ม 2 พิมพ์ครั้งที่ 1 : ตุลาคม 2564

โปรยปกหลังเล่ม 2 :

คืนวันผันผ่าน เวลาเจ็ดปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ทว่าเป็นเพราะ ‘เรื่องนั้น’ ทำให้เฉิงจื่อชีไม่ได้พบกับตานอี

ที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เล็กถึงสองปี

และแล้ววันหนึ่ง ฮ่องเต้องค์ใหม่ก็รับสั่งให้เขาตามเสด็จไปตำหนักเมฆหินด้วยกัน

ตอนแรกเฉินจื่อชียังดีใจว่าตนจะได้พบกับสหายเก่า

แต่อึดใจต่อมากลับพบว่าตัวเองกลายเป็น ‘คนงาม’

ที่จะถูกส่งมอบให้กับเฟิ่งหวางองค์ใหม่...หรือก็คือตานอีคนนั้น!?

 

เทียนเต๋อ’ ฮ่องเต้องค์ใหม่ขายเขาหวังได้พันธมิตรยังพอทำเนา

แต่ทำไมถึงต้องใช้หนอนคุณไสยเพื่อควบคุมเขาอีก!

อีกฝ่ายมีประสงค์ชั่วร้ายอันใดกันแน่?

 

อย่างไรก็ตาม พักเรื่องของฮ่องเต้น่าเชือดองค์นั้นไว้ก่อน

เฉินจื่อชีที่ยังไม่ได้มีชีวิตดีๆ สักวันสองวันก็ได้รับข่าวร้ายข่าวหนึ่ง

เทพธิดาน้อย’ ถูกจับตัวไประหว่างเดินทางไปเมืองบรรดาศักดิ์ของเขา!

ทำไมกันนะ! เขาก็แค่อยากเป็นเศรษฐีเจ้าของลานเลี้ยงไก่

เล่นกับนก ปรนนิบัติท่านแม่ให้ดี และใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย

มันยากขนาดนี้เชียวหรือ!

เล่ม 2 :

เฉินจื่อชีโดนคนเผ่าชิงดูถูก พอบอกตานอีโดยไม่รู้เรื่องอะไร สองคนนนั้นก็ถูกลงโทษ และเพราะมีตานอีหนอนคุณไสยในตัวเลยกลัวขึ้นมา ตานอีเลยรู้และกำจัดให้เฉินจื่อชี และรู้ว่าใครเป็นคนทำร้ายเฉินจื่อชี เพราะเฉินจื่อชีได้บอกตานอี

ตานอีให้เฉินจื่อชีกินอาหารเหมือนตัวเอง วันสถาปนาอ๋อง ก็ให้เฉินจื่อชีเป็นคนสวมมงกุฎให้

ตานอีบอกเรื่องฉางเอ๋อถูกคนจับตัวไป เฉินจื่อชีเลยต้องรับไปช่วย แล้วตานอีก็ให้คนไปสองคน เฉินจื่อชีบอกว่าขอคนหน้าตาดีๆ แต่ที่ได้มาคือหน้าตาอับโชค กับอีกคนที่หัวโล้น เหมือนอีกากับนกแร้ง อูปู๋เจี้ยนจากหอขนกา กับถูปู้เสี่ยนจากหออินทรี เมื่อช่วยคนออกมาได้ก็เดินทางไปเมืองเจี้ยนหยาง

เมืองเจี้ยนหยางไม่มีอะไรเลย เฉินจื่อชีต้องหาทางเพื่อให้เมืองเจริญก่อน ก่อนหน้านี้ อามู่บอกแล้วว่าคนที่มาช่วยหน้าคุ้นๆอาจเป็นท่านลุง แล้วท่านลุงก็มาจริงๆ มือกระบี่หลี่อี๋ว์หาน สำนักกระบี่เขาหลูซาน

เฉินจื่อชีเริ่มเอะใจเรื่องวิหคเทพเพราะปฏิกิริยาของลูกน้องทั้งอูปู๋เจี้ยน ถูปู้เสี่ยน เลยเอาหนังสือมาอ่านเกี่ยวกับหงส์ วิหคเทพ และคิดถึงตอนอยู่กับตานอีที่ตำหนักเมฆเหิน เลยจะไปอวดไก่เทพกับตานอี ที่ไหนได้พอไปถึง เจอตานอีแต่ไก่เทพหายไปอีก แถมอาหารยังใกล้เคียงที่อ่านอีก

เฉินจื่อชีขอยืมเงินตานอีจะไปสร้างลานเลี้ยงไก่ และตานอีก็เอากระบี่จ้านหลูให้เฉินจื่อชีไปมอบเป็นของขวัญให้เจ้าสำนักกระบี่เขาหลูซาน 

แล้วก็มีเรื่องของคนสำนักซู่ซินแย่งเฉิงเจียเจินอีกแล้ว ตานอีให้เฉินจื่อชีฝึกวิชา เฉินจื่อชียังเล่นไม่เลิก แต่ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งสังเกตเห็นชัดๆ ลักษณะคล้ายเกินไปแล้ว

เพราะสำนักซู่ซินวุ่นวายไม่เลิก เฉินจื่อชีเลยเสนอวิธี ตานอีรับคำ และประกาศว่าจะตอบคำถามระดับฟ้า เรื่องที่ประกาศคือเจ้าสำนักซู่ซิน อู๋อินซือไท่เป็นผู้จ้างวานหอโลหิต ให้ไปลงมือสังหารประมุขตระกูลเฉิง

หลังคารวะเจ้าสำนักกระบี่เขาหลูซาน ก็ได้เป็นศิษย์ในนาม เรียกหลี่อี๋ว์หานว่าศิษย์พี่ ทั้งๆที่ๆเรียกท่านนลุงตามอามู่ และนี่คือเรื่องที่เฉิงจื่อชีต้องการ ให้สำนักใหญ่หนุนหลัง จะได้ทำอะไรในเจี้ยนหยางได้สะดวกขึ้น แล้วก็สาบานเป็นพี่น้องกับเจ้าสำนักกระบี่สั้น เจ้าสำนักกระบี่ยาวในเมืองเจี้ยนหยาง ตานอีที่กลับมาเป็นไก่เทพพร้อมขนหางที่งอกยาวเพิ่มมา ไม่พอใจที่ชีชีเอาแต่เที่ยวสาบานเป็นพี่น้องกับคนอื่นไปทั่ว แต่เรื่องนี้ทำให้สุดท้ายแล้วเฉินจื่อชีก็สร้างลานเลี้ยงไก่ได้สำเร็จ

ถึงเวลาคืนหนี้ เอาเงินไปคืนตานอี ตานอีกลัวเฉินจื่อชีคิดมาก จะเอาส่วนหนึ่งแต่เจ้าตัวไม่คิดมากเลยซักนิด ถึงเวลาหาคู่ นกยูงมาที่ลานหาคู่ แล้วก็เห็นนกยูงตัวผู้สีน้ำเงินกับนกยูงตัวผู้สีขาวจับคู่กันเอง อย่างนี้ก็ได้หรือ เปิดมิติใหม่มาก

ทั้งสองฝึกวิชาด้วยกัน ตานตีสอนให้เฉินจื่อชีดูดพลังของตัวเอง ตอนอาบน้ำก็เล่นกันจนเกิดอารมณ์ ตานอีได้โอกาส ช่วยซะเลย สองคนสนิทกันขนาดนี้ ตอนนี้ได้เริ่มใช้มือช่วยกัน ตอนเช้าเฉินจื่อชียังไปถามหลายซานอี่ว์อีก

หว่านหวางเจ้าแผนการ ส่งสตรีสองคนมาให้เฉินจื่อชี เฉินจื่อชีต้องไปจัดการ แล้วตานอีก็ได้ฟังรายงานที่ส่งมาก็เกิดหึงจนลมปราณแตกซ่าน ดีที่เฉินจื่อชีมาทัน ทำให้ช่วยตานอีเอาไว้ได้ พอตานอีฟื้นขึ้นมาดันกลับไปอยู่ร่างลูกไก่แดง เฉินจื่อชีบอกให้เล่นละครต่อ ตานอีเลยแปลงร่างต่อหน้า แล้วถามรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่บอกว่าหน้าหนาว ชีชีไม่กลัวเลยสักนิดแถมรู้สึกดีกับเสื้อผ้าอีกต่างหาก เอาตัวมาซุก

สรุปว่าสตรีสองคนนั้นเป็นศิษย์สำนักซู่ซินส่งมา จากเทียนเต๋อ ส่งให้หว่านหวาง และส่งต่อมาให้เฉินจื่อชี

กลับจวนอ๋อง ที่ลานเลี้ยงไก่ ได้รับใบมีดคมโลหิต เฉินจื่อชีจึงพาทุกคนหนี และไปติดกับดักของสำนักซู่ซินที่มาดักซุ่มชิงตัวฉางเอ๋อไปได้ ตอนนั้นอู๋อินซือไท่ถึงเพิ่งคิดได้ว่าจะเอาอะไรต่อรอง

เฉินจื่อชีบาดเจ็บ  ดีที่ตานอีมาช่วยทันเวลาก่อนที่โจรปล้นจะทำอันตรายเฉินจื่อชี พอเฉินจื่อชีฟื้น รู้ว่าฉางเอ๋อถูกพาตัวไปแต่ยังปลอดภัย และคนหอคมโลหิตฆ่าล้างจวนอ๋องแล้วใช่ไหม ปรากฏว่าฆ่าล้างลานเลี้ยงไก่

เฉินจื่อคิดดูแล้ว หลังจากที่รู้ว่าใครจ้างวาน ก็คือคู่แข่งทางการค้า เหล่าเอ้อร์ หว่านหวางมาหาตานอี เพื่อทดสอบความสำคัญในใจเฉินจื่อชีในใจตานอี บอกเรื่องหนอนคุณไสย และบอกเรื่องวิทยายุทธ์ลับเจ้าเหอเทียน

งานเลี้ยงหยางชุน เฉินจื่อชีได้พบคนของสายเสวียนเต้า ในที่สุดก็ได้รู้ว่าอู๋อินซือไท่ต้องการตัวเฉิงเจียเจินไปเพื่ออ่านทิพยดนตรีเก้าท่อน

เฉินจื่อชีกับตานอีที่แปลงเป็นลูกนกแดง ไปรวมตัวที่สำนักซู่ซิน หาทางช่วยฉางเอ๋อ พอไปถึงฉางเอ๋อถูกช่วยไปแล้ว เฉินจื่อชีถูกแม่ชีตามไล่ล่า ดีที่ได้อี้ว์หูนำทาง

ทั้งสองและคนหามเกี้ยวตกไปใต้หุบผา อี้ว์หูจับมือเฉินจื่อชี ลูกนกแดงไม่ยอม ไปจิก เฉินจื่อชีก็ไม่ยอม ทั้งสองหวงอีกฝ่ายสุดๆ

แล้วก็ได้พบนางเฒ่าที่บอกว่าเป็นอาจารย์ของอู๋อินซือไท่ คือเหลียวจี้ซือไท่ ที่ตายไปนานแล้ว ตานอีสู้คนเดียวไม่ได้ต้องให้เฉินจื่อชีช่วย

หลังอ่านเล่ม 2 :

เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้น ความสัมพันธ์ของชีชีและตานอีก็ก้าวหน้าไปอีกนิดด้วย เมื่อไหร่จะโตซักทีนะ ทั้งคู่ขี้หวงทั้งคู่ แล้วยังมีแผนการซับซ้อน กับเรื่องราวที่เริ่มเปิดเผยออกมา มาติดตามเล่ม 3 ต่อเลยค่ะ สนุกมากๆๆๆๆ ขำด้วย ฮาด้วย


เล่ม 3 พิมพ์ครั้งที่ 1 : พฤศจิกายน 2564

โปรยปกหลังเล่ม 3 :

นับตั้งแต่รอดชีวิตมาจากการต่อสู้ 'เฉินจื่อชี' ก็จำได้ชัดถึงสายตาที่ 'ตานอี'

มองเข้าในยามนั้น ยังนึกว่าต้องตามตื๊ออีกนานจึงจะหลอกลูกนกแดงมาให้

กำเนิดไข่กับเขาได้ คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเผยความในใจกับเขาเอง!

 

แต่ก่อนจะไปสนใจเรื่องความรัก ท่านอ๋องอย่างเขาต้องจัดการเรื่องเมืองบรรดาศักดิ์

เสียก่อน และการที่ไม่มีเงิน ก็นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียว! จะเลี้ยงดู 'ภรรยา'

ผู้สูงศักดิ์มีค่าอย่างตานอีได้นั้น 'กำลังทรัพย์' ของท่านอ๋องต้องมากหน่อย...

 

ในขณะเดียวกัน เหตุการณ์ใหญ่ในยุทธจักร อันที่มีมาจากตระกูลเฉิงถูกฆ่าล้างก็ยุติลง

องค์ชายรองกับฮ่องเต้เข้ามายุ่งเกี่ยวมากน้อยเพียงใด? เฉินจื่อชียิ่งคิดก็ยิ่งอดระแวงไม่ได้

อีกทั้งราชวงศ์กับสำนักต่างๆ ก็ยังพากันแย่งชิงบันทึกลับในตำนาน ปล่อยให้ราษฎรยากแค้น

ไม่สนใจ ในใจของเฉินจื่อชีจึงพลันบังเกิด ความคิดแปลกประหลาดคลุ้มคลั่งขึ้น...

เล่ม 3 :

ทั้งสองร่วมมือกันเลยหนีรอดมาได้ กลับมารักษานิ้วที่หักของเฉินจื่อชี ตานอีตามใจเฉินจื่อชี เฉินจื่อชีทำตามใจตัวเอง ตานอีก็คิดว่าอีกฝ่ายยังเด็กอยู่ ทำอะไรยังไม่รู้ใจตัวเอง ตานอีเลยต้องหักห้ามใจเอาไว้ แล้วในที่สุดทั้งสองก็เปิดใจกัน เจ้าชอบข้า ข้าก็ชอบเจ้าจะให้กำเนิดไข่นกกับเจ้าเท่านั้น เจ้านกซื่อบื้อ กลายเป็นชีชีที่เจ้าเล่ห์ แล้วก็ลืมของที่ซ่อนไว้ ขโมยมาจากนางเฒ่า เหลียวจี้ซือไท่

อี้ว์หูกลับสำนัก แต่จะถูกฆ่าอาจารย์เจ้าซูโหร่วก็แอบปล่อยตัวออกมา สุดท้ายก็กลับมาที่ตำหนักเมฆเหิน

เฉินจื่อชีให้ส่งจดหมายไปหอคมโลหิตเพื่อล้างแค้น และไปรับท่านแม่กลับมาจากสำนักกระบี่เขาหลูซาน แล้วก็พบกับอาจารย์ลั่วอวิ๋นเซิง อาจารย์ที่สอนทั้งสองตอนอยู่ในวัง ยังได้เจอเฉินจื่อเจียน พี่รอง หลานตาของประมุขสหพันธ์กระบี่คนปัจจุบันอีกด้วย เฉินจื่อเจียนอยากให้ช่วยหาทิพยดนตรีเก้าท่อน และมาตามหาลั่วอวิ๋นเซิงขอร้องให้กลับไปกับตัวเอง อาจารย์ลั่วปฏิเสธ

เฉินจื่อชีตามลั่วอวิ๋นเซิงเจอ และสามารถพูดความคิดจนทำให้อาจารย์ลั่วยอมกลับเมืองบรรดาศักดิ์ไปกับตัวเองเพื่อช่วยเลี้ยงไก่ได้

ฉางเอ๋อถามเรื่องคนรักของชีชีจากตานอี สองคนสารภาพแบบฉางเอ๋อไม่รู้เรื่องอะไรกันเลย ลั่วอวิ๋นเซิงกลับไปคิดแผนการ แล้วก็เอามาให้เฉินจื่อชีดำเนินการ ทั้งซื้อที่ดิน ร้านค้า เมื่อมีคนย่อมหาเงินได้

ร้านค้าซื้อแล้ว ยืมเงินตานอี หาทหารมาฝึก เมืองเริ่มเป็นรูปร่าง สำนักดาบทองไก่ตายหมด เพราะโดนล้างแค้น เฉินจื่อชีก็กลับตำหนักเมฆเหินกับตานอีไปแล้ว

เฉินจื่อชีไปเจรจาการค้ากับสำนักกระบี่เขาหลูซาน ให้อามู่ตามไปด้วยเพื่อจะดูว่าชอบที่จะคิดบัญชีหรือไม่ สรุปว่าอามู่ชอบด้านนี้มาก

เรื่องเมืองเจี้ยนหยางเข้าที่เข้าทางกำจัดโจรขโมยภัยร้ายได้ เทียนเต๋อฮ่องเต้ก็เรียกเข้าวัง เพราะมีทูตจากเผ่าซยงหนูมาอยากได้บรรณาการ แล้วยังหมายปองเฉินจื่อชี แต่เพราะมีตานอีอยู่จะง่ายแบบนี้ได้ยังไง กลายเป็นตัวเองโดนซะเอง แถมหน้าไม้ที่ยิงได้แรงและไกลก็ยังโดนเอาไปอีกด้วย   

วันคืนผ่านไป เวลาผ่านไปสามปี อี้ว์หูมาอำลาเฉินจื่อชีออกเดินทาง เพิ่มพูนประสบการณ์

งานชุมนุมยุทธจักรกำลังจะมาถึง ครั้งนี้สำนักลิ่วเหอเป็นผู้จัด สถานที่คือที่ราบปาฮวง

เฉินจื่อชีกับตานอีแปลงกายเดินทางไปลั่วหยาง พอถึงก็เที่ยวเล่น กินดื่ม และเจอเหตุการณ์คนที่มาจากชานแดน จากการสู้รบไม่กินเกลือ ถึงงานชุมนุมชาวยุทธ์ทุกคนรอดูตำหนักเมฆเหินปรากฏตัว

หลังอ่านเล่ม 3 :

เล่ม 3 เรื่องราวยิ่งเข้มข้น สองคนเฉินจื่อชี ตานอีเค้าเปิดเผยความในใจกันแล้ว เมื่อไหร่ชีชีจะโตซักที เล่มนี้ชีชีพัฒนาจนเมืองเจี้ยนหยางเจริญ ไม่เหมือนตอนแรก แล้วก็ถึงงานชุมนุมชาวยุทธ์ดูท่าจะมีเหตุการณ์ใหญ่รอคอยอยู่ อ่านแบบวางไม่ลง สองคนเค้ารักกันจริง แถมหวงอีกฝ่ายสุดๆด้วย น่ารัก เข้าคู่กันสุดๆ อ่านต่อเล่ม 4 เลยค่ะ ใกล้จบแล้วเรื่องราวต่างๆเริ่มเฉลยออกมาเรื่อยๆแล้ว สนุกมากๆๆๆๆๆ

เล่ม 4 พิมพ์ครั้งที่ 1 : มกราคม 2565

โปรยปกหลังเล่ม 4 :

สำนักลิ่วเหอกับสำนักหวงซานจัดงานชุมนุมยุทธจักร

ประกาศว่ายกทิพยดนตรีท่อนหนึ่งให้เป็นรางวัลแก่ผู้ชนะ

นั่นจึงทำให้ทั้งยุทธจักรทวีความร้อนแรงขึ้นในทันใด

 

ทว่าในวันที่ยอดฝีมือชุมนุมกัน

ศิษย์สำนักต่างๆ กลับทยอยกันเกิดอาการคลุ้มคลั่งเพราะหนอนคุณไสย?!

สองตาแดงก่ำ กัดคนแพร่หนอน ฝูงชนโหยหวน เลือดไหลเป็นสายน้ำ

และท่ามกลางการต่อสู้อันดุเดือดนี้

ตานอี’ ซึ่งมีกำลังภายในลึกล้ำกลับได้รับบาดเจ็บสาหัส

เฉินจื่อชี’ ได้ใช้กำลังภายในของตนจนเหือดแห้ง

ทำให้พวกเขาหนีรอดจากความตายไปได้อย่างหวุดหวิด

 

งานชุมนุมยุทธจักรกลายเป็นนรกสูบเลือดในชั่วพริบตา

ตำหนักเมฆเหินกลายเป็นแพะที่ทุกกลุ่มสำนักคิดโจมตี

คราวนี้เรื่องเลวร้ายต่างถูกสาดใส่ลูกนกแดงที่รักของเขาจนหมดสิ้น

สำนักใหญ่ฝ่ายธรรมะอะไรกัน ข้าผู้นี้เป็นท่านอ๋องขอถ่มน้ำลายใส่!

พายุร้ายภัยหนอนล่าวิญญาณครั้งนี้

เฉิยจื่อชีต้องลากตัวการใหญ่สร้างคลื่นลมรุนแรง ออกมาให้จงได้…

เล่ม 4 :

การประลองยุทธ์เริ่มขึ้น เฉินจื่อชีขึ้นประลอง แล้วก็ชนะ คนที่ประลองด้วย แพ้แล้วไม่ยอมแพ้ ผู้คนได้เห็นฝีมือของเฉินจื่อชี คนที่ประลองด้วยเกิดคลั่งขึ้นมา เหมือนที่เจอในโรงเตี๊ยมในเมือง และต่อจากนั้นก็มีอีกหลายๆคน คนที่ร้ายแรงที่สุดถึงกับระเบิดร่างแล้วหนอนภายในก็แพร่กระจายติดคนอื่นไปทั่วไม่มีทางรักษาชั่วคราว ตอนนี้แต่ละฝ่ายต่างโทษว่าเป็นความผิดของหนอนคุณไสยของฝ่ายเสวียนเต้า สำนักหมื่นคุณไสย โยนความผิดให้ตานอี ตานอีถูกสองรุมหนึ่ง ทั้งเฉินจื่อชีระเบิดพลังช่วยตานอี ทำให้คนรู้ว่าเฉินจื่อชีฝึกเทพยุทธ์มังกรครวญสำเร็จ

ตำหนักเมฆเหินหนีไปได้เพราะหลี่อี๋ว์หานเข้าช่วย หนีมารักษาตัว เพราะตานอีบาดเจ็บสาหัส เฉินจื่อชีก็ใช้กำลังภายในหมด แต่ก็ฝืนดูดกำลังภายในของตานอี ระหว่างที่ตานอีไม่รู้สึกตัว รู้สึกแต่ความสบายเพราะเฉินจื่อชี เลยจัดการซะเลย สรุปร่วมหอกันไปทั้งๆที่ธาตุไฟเข้าแทรก แต่ก็ทำให้รักษาอาการบาดเจ็บได้ทั้งสองคน

ฝ่ายเสวียนเต้าเริ่มศึกษาว่าหนอนที่ได้แพร่กระจายเป็นหนอนอะไร แก้ยังไง สุดท้ายก็เห็นว่าใช้เกลือรักษาได้ มันกลัวความเค็ม ก็หาต้นตอได้ว่าพวกคนที่ไปรบต่างไม่ชอบกินเค็ม ก็คาดการณ์ได้แล้วว่าใครเป็นผู้ปล่อยหนอน

แล้วก็ค้นคว้าหาทากำจัดหนอน โดยใช้หนอนกินหนอน  แต่ละสำนักหาทางให้ตำหนักเมฆเหินช่วยเหลือ ตำหนักเมฆเหินช่วยแต่ต้องมีของแลกเปลี่ยน

เทียนเต๋อฮ่องเต้ยังให้เฉินจื่อชีกับตานอีไปหาที่ตำหนักฤดูร้อน ทั้งสองเกือบเสียที โชคดีที่ตานซู่บิดาของตานอีมาช่วยเอาไว้ได้ทัน

หลังอ่านเล่ม 4 :

เล่ม 4 สู้กันหนัก ในที่สุดฝีมือของชีชีก็เปิดเผย เป็นตอนที่บู๊มาก และยังร่วมหอกันโดยไม่คาดฝัน หลังจากนั้นน่ะ ตานอีกลายเป็นนกบ้ากามไปแล้ว ใช่ไหมๆ ยิ่งอ่านยิ่งสนุก ตามอ่านเล่มจบกันเลยค่ะ ห้ามพลาด ขำมาก สนุกมากๆ

เล่ม 5 พิมพ์ครั้งที่ 1 : มีนาคม 2565

โปรยปกหลังเล่ม 5 :

ในที่สุด ''ตานอี'' ก็ฟักไข่สำเร็จแล้ว!

ทว่าเจ้าตัวเล็กที่ร้อง ''จิ๊...''

แถมยังมีขนสีเขียวสองเส้นบนหัวนั่นมันอะไรกัน?

ใยสีถึงได้ต่างไปจากของตานอีและตานซู่เล่า!

 

เรื่องตื่นเต้นและชวนให้ตกใจไม่ได้เพียงเท่านี้

''เฉินจื่อชี'' กับเทพธิดาน้อยของเขากำลังอกสั่นขวัญแขวน

เพราะพ่อนกกับแม่นกมาหานางได้ทุกวี่ทุกวัน

หลังจากคิดดีแล้ว ฉางเอ๋อจึงตัดสินใจเกลี้ยกล่อมพวกเขาเพื่อเจ้าลูกเต่าน้อย!

แต่วาจายังไม่ทันออกจากปาก พ่อนกแม่นกก็ได้ทำตื่นตะลึงเสียก่อน...

 

เรื่องดีที่เกิดขึ้นยังไม่ทันได้ฉลองอย่างเต็มที่

ความลับของทิพยดนตรีที่ถูกแปลความจนใกล้เสร็จสมบูรณ์

ก็ทำให้เหล่าตัวประหลาดตามสำนักต่างๆ เกิดความละโมบจนต้องเคลื่อนไหว

ส่วนเฉินจื่อชีที่ฝึกกับตามอีตามวิธีการที่ได้มากลับเกิดเรื่องขึ้น

ตานซู่บิดานกร้อนใจจำต้องออกตามหาท่านปู่ ''ตานเช่ว์'' กลับมาช่วยเหลือ

ขณะที่ความตายคืบคลานเข้าใกล้เฉินจื่อชีทุกทีกลับเกิดเรื่องประหลาดขึ้นอีก

ร่างของเขาหดเล็กลงจนมีขนาดเท่าตะเกียบ

เสียงที่เปล่งออกมาก็มีเพียงว่า ''เอ๋าอู''

เอ๊ะ...! ไหนขอลองพูดดูอีกทีซิ เอ๋าอู่ เอ๋าอู!!!

เล่ม 5 :

ตานซู่มาช่วยตานอีและเฉินจื่อชีจากสองเฒ่าที่รุมรังแกเด็ก ตอนนี้เพราะทิพยดนตรีเก้าท่อน ตานซู่บอกว่าเหมาะกับทั้งสอง ถึงแม้ที่มีในมือยังไม่ครบ หลานเจียงเส่ว์ บรรเลงพิณ ตานซู่แปลงเป็นหงส์ร้องตามทำนอง ตานอีแปลออกมาเป็นคัมภีร์ ทำให้เป็นเห็นถึงคัมภีร์ที่ซ่อนอยู่

ตานซู่บอกว่าจะหามาให้ครบ เลยประกาศตามหาก็เริ่มมีสำนักต่างๆเอามาแลก ทั้งแลกหนอนไปรักษาหนอนเค็ม ทั้งของฉบับคัดลอก จนเหลือเพียงท่อนสุดท้ายจะครบทั้งเก้าท่อน ตานอีกับเฉินจื่อชีก็พากันฝึก

ระหว่างนี้ ที่ตานซู่กลับมากับท่านแม่ ได้มีไข่มาด้วยแล้วก็ฟักออกมาเป็นเฟิ่งเอ้อร์ ทั้งสองชอบทำเรื่องเหลวใหล ตานอีต้องดูน้อง เอาไว้ในห้อง เฟิ่งเอ้อร์ก็อยู่ด้วย

ตานอีกับเฉินจื่อชีแต่งงานกัน เป็นที่รู้กันไปทั่ว ชีชีเป็นพี่สะใภ้ของเฟิ่งเอ้อร์ แล้วทั้งสองก็ฝึกดนตรีเก้าท่อน ตอนแรกฝึกแล้วกำลังภายในหายไปหมด จานตานซู่ก็คิดไม่ออก ต้องไปตามหาตานเช่ว์ ท่านปู่ของตานอีกลับมา ระหว่างนั้นทั้งสองก็ฝึกๆๆๆ ฝึกไปฝึกมาชีชีก็ย้อนกลับคืนเป็นมังกรน้อย คือเล่มนี้ฮามาก ในที่สุดก็มีมังกร

เฟิ่งเอ้อร์ยังถูกลักพาตัว ต้องไปตามหากลับมา ดีที่เฟิ่งเอ้อร์หนีออกมาได้เอง แต่ยังไงก็ต้องไปถล่มสำนัก สรุปก็ต้องพัง

แผนการต่างๆที่วางมา ทุกอย่างพอลองคิดดู ล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะเฉินจื่อชีมีตานอีคอยช่วย ใครจะไปสู้ไหว

เทียนเต๋อหนีมาที่ตำหนักฤดูร้อน เคาะระฆังได้พบอู่ตี้ฮ่องเต้ ท่านปู่ที่ตามมาคือในที่สุดก็ยังได้เจอมังกรของตัวเอง เลยยังมีโอกาสได้ฝึกวิชา ไปปิดด่านฝึกวิชากับอู่ตี้ เรื่องที่เหลือก็ไม่ต้องพูดแล้ว ยังไงบัลลังก์ก็ต้องเป็นของเฉินจื่อชี ทั้งฟื้นฟูบ้านเมือง ย้ายเมืองหลวง ทั้งสองไม่ต้องมีลูกหลานก็อยู่ได้อีกหลายร้อยปี

หลังอ่านเล่ม 5 :

เล่มนี้คือฮามากค่ะ ทั้งนกแดงน้อย มังกรน้อย สัตว์วิเศษเต็มไปหมด แต่คือจบได้ดีเลย แบบเรื่องมันต้องเป็นแบบนี้แหละ เป็นอีกเรื่องที่สนุก น่ารัก ฮา ตัวละครเยอะ ทุกตัวก็มีบทบาทของตัวเอง อ่านแล้วไม่สับสนนะคะ สนุกมากค่ะ


25/4/2565