Friday, December 31, 2021

#คุณทนายของผมคือเครื่องปั๊มเงินครับ #5 เล่มจบ #นิยายแปลจีนแนวปัจจุบัน #ทนายความ #นักเขียน #เทพทั้งคู่

 Review 31/2564



เรื่อง : คุณทนายของผมคือเครื่องปั๊มเงินครับ (5 เล่มจบ) #นิยายแปลจีนแนวปัจจุบัน #ทนายความ #นักเขียน #เทพทั้งคู่

ผู้แต่ง : Shi Jing

ผู้แปล : CocoaCola

ออกแบบปกและภาพประกอบ : Dreamworm

สำนักพิมพ์ : Clover Book

จำนวนหน้า : 399 + 416 + 400 + 384 + 341 หน้า



เล่ม 1 พิมพ์ครั้งที่ 1 : ตุลาคม 2563

คำนำสำนักพิมพ์ :

เมื่อโชคชะตานำพานักเขียนใหญ่อย่าง เปียนเสีย ผู้มีฉายา "เทพเปียน" ให้ต้องโคจรมาพบกับทนายใหญ่เฉิงไป๋ผู้มีฉายา "เครื่องปั๊มเงิน" คนสองคนที่มีความเป็นตัวเองสูงและเชื่อมั่นในความคิดหลักการของตัวเอง และต่างเดินไปบนเส้นทางสายอาชีพอย่างมุ่งมั่น จนกระทั่งขึ้นมาอยู่บนยอดพีระมิดสูงสุดของอาชีพนักเขียน และทนายความอย่างเต็มภาคภูมิ แถมยังมีปูมหลังอันน่าสนใจที่ไม่ด้อยไปกว่ากันเลยสักนิด

 

สำนักพิมพ์ Clover Book

โปรยปกหลังเล่ม 1 :

"คิดว่าให้ข้าวห้าถังแล้วฉันเปียนเสียคนนี้จะยอมก้มหัวละทิ้งหลักการของตัวเองได้งั้นเหรอ" เปียนเสียหรือ 'เทพเปียน' นักเขียนใหญ่ผู้อยู่บนจุดสูงสุดแห่งวงการกล่าวถึง 'เฉิงไป๋' ทนายเพื่อเศษสวะโดยเฉพาะหญิงสาวผู้มีอีกฉายาว่าเครื่องปั๊มเงิน

 

สองเดือนก่อนเปียนเสียทิ้งคำพูดไว้ว่า "ให้ตายยังไงฉันก็ไม่มีวันจ้างให้เธอเป็นที่ปรึกษาเด็ดขาด" สองเดือนต่อมาเพื่อเก็บข้อมูลเขียนนิยายเขาก็ต้องมาร้องไห้อ้อนวอนเธอ "ได้โปรดแนะนำผมด้วยเถอะครับ!" "ข้าวห้าถังทำให้ฉันทิ้งหลักการไม่ได้แต่ถ้าหกถังละก็โอเคนะ!"

เล่ม 1 :

เฉิงไป๋ทนายความชื่อดัง ที่มีเรื่องราวต้องย้ายจากปักกิ่งกลับมาเซี่ยงไฮ้ วันนี้อยู่ดีๆก็โดยเซี่ยหลี่ขอเลิก เฉิงไป๋ผู้เป็นทนายใหญ่ไม่ชอบแสดงอารมณ์ ไม่ได้ทำอะไรผิด ขอเลิกก็เลิก

เปียนเสียนักเขียนชื่อดัง ระดับเบสเซลเลอร์ เปิดสตูดิโอใหม่ โจวอี้เพื่อน และเป็นผู้จัดการส่วนตัวพาไปเจอกับทนายที่ปรึกษา ที่เปียนเสียไม่รู้ว่าคือใคร และเปียนเสียมีนิสัยช่างเลือก เลือกกิน อาหารอะไรก็ไม่อร่อย แต่ชอบกินของหวานมาก ก่อนหน้านี้ตอนเปิดตัวหนังสือดันไปให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงเฉิงไป๋ ตอนนี้ต้องไปเจอเฉิงไป๋แบบไม่ทันตั้งตัว แต่เจ้าตัวเป็นคนช่างสังเกต และฉลาดมาก พอไปถึงก็สามารถเข้าไปในห้องทำงานของเฉิงไป๋ ไปดูรูปแบบการตกแต่งห้อง หนังสือที่อ่าน แต่ก็ยังไม่เจอเบาะแส โจวอี้ที่มาพร้อมกับเฉิงไป๋รู้นิสัยดี รู้ว่าเดี๋ยวต้องพูดจาแย่ๆไม่ไว้หน้า แต่ไม่มีเหตุการณ์แบบนั้น เพราะเปียนเสียดันไปเห็นตั๋วละครที่ตัวเองพยายามแย่งชิงในเน็ตยังไม่ได้ แต่เฉิงไป๋กลับทิ้งลงถงขยะทั้งสองใบ เพื่อตั๋วละครสืบสวนของอกาธา คริสตี้ ให้ทำอะไรเปียนเสียก็ยอม

และด้วยความที่มองเฉิงไป๋ไม่ออกทำให้อยากรู้จักมากขึ้น เป็นนิสัยขี้สงสัย อยากรู้อยากเห็นของนักเขียน เลยหาเรื่องเข้าทางเฟนจิ้งที่เป็นแฟนคลับหนังสือของตัวเอง ให้รับตัวเองเป็นผู้ช่วยเฉิงไป๋

เฉิงไป๋ถูกมัดมือชก แล้วก็ยอมให้ผู้ช่วยกิตติมศักดิ์ติดสอยห้อยตามไปทุกที่ เฉิงไป๋รับว่าความคดีของเปียนเสีย ที่โดยเพื่อนสนิทรวมหัวกันบีบเอาหุ้นของตัวเองไป หลังจากนัดเจอ และพูดคุย เปียนเสียก็รู้แล้วว่าเพื่อนคนนี้ไม่ใช่คนเดิมที่เคยรู้จัก

แล้วคดีแรกของเฉิงไป๋ที่บริษัทเทียนจื้อก็คือช่วยเจิงเนี่ยนผิงทำคดี ตอนที่ตัวเองยังทำคดีเพื่อสาธารณะ เรียกร้องเงินประกันให้กับลูกความ ที่ตอนนี้เป็นเรื่องดังว่าหวังเอาเงินประกันจากอุบัติเหตุรถเครน

เฉิงไป๋ชนะคดีนี้ แต่ก็ทำให้เสียเพื่อนสนิทไป เปียนเสียเข้าใจเพราะเพิ่งจะเข้าใจเรื่องเพื่อนที่ตัวเองจะฟ้องเช่นกัน

แล้วเปียนเสียก็ยังสมัครเว่ยป๋อให้เฉิงไป๋ ขอแอดวีแชต กดติดตามกันและกัน ทำให้ขึ้นฮอตเสิร์ชทีเดียว เปียนเสียทำเอาเหล่าแฟนคลับงง คนหนึ่งไม่มีเวลาว่างมาเล่นเว่ยป๋อ อีกคนก็ชอบพวกโซเชียล และอีกคนที่มีบทบาทคือฟางปู้รั่ง พี่ชายฟางรั่งหุ้นส่วนที่เลิกบริษัทเฉิงฟางไป ที่ดูเป็นตัวร้ายของแท้ ว่าความให้พวกเศษสวะ ส่วนเฉิงไป๋เพราะคดี 28 มีนาคม ทำให้ได้ชื่อว่าทนายเศษสวะ มันคนละเรื่องกันเลย

จบคดีของเจิงเนี่ยนผิง ก็ได้เจอจานเผยเหิงที่เป็นทนายที่ทำหน้าที่ทวงคืนสมบัติของชาติ ตอนนี้อยากกลับมาที่จีน เป็นเพื่อนกับเฉิงไป๋เลยติดต่อมา ตอนนี้นัดกินข้าวกัน เฉิงไป๋พาเปียนเสียไปด้วยแล้วก็มองทั้งสองกินเหล้าปรับทุกข์จนเมา

หลังอ่านเล่ม 1 :

แค่เปิดเรื่องมาคาแรกเตอร์ตัวละครของทั้งเฉิงไป๋ และเปียนเสียก็สุดยอดแล้วค่ะ สนุกมาก ทั้งเรื่องราวชีวิตประจำวัน และคดีที่เฉิงไป๋เลือกที่จะว่าความ ถือว่าเด็ดทีเดียว ได้เห็นถึงจิตใจมนุษย์ และได้รู้ข้อกฎหมายของจีนประกอบแบบอ่านแล้วไม่มีหยุดเลย ต้องเปิดหน้าถัดไป อยากรู้ว่าสองคนนี้จะเข้ากันได้ยังไง ดูคนละแนวขนาดนี้น่ะ

เล่ม 2 พิมพ์ครั้งที่ 1 : มีนาคม 2564

โปรยปกหลังเล่ม 2 :

"เมื่อคืนผมดื่มหนักไปหน่อย ผมไม่ได้...ไม่ได้ทำเรื่องอะไรแปลกๆ ลงไปใช่ไหมครับ?" "คุณลองเดาดูสิ" เปียนเสีย หรือ "เทพเปียน" นักเขียนใหญ่ผู้อยู่บนจุดสูงสุดแห่งวงการ ถูกทนายสาว "เฉินไป๋" พูดแบบนี้ใส่หลังจากผ่านคืนที่เขาเมามายจนภาพตัด หน็อย ยัยผู้หญิงร้ายกาจ!

 

ตอนนี้เขากลายมาเป็นผู้ช่วยเฉพาะกิจของเธอเต็มตัวแล้ว และพบว่าคดีใหญ่วิ่งเข้ามาหาเธออีกจนได้ "คดีภาพวาดที่หายไปจากพิพิธภัณฑ์ประเทศอังกฤษ" ไอ้คนที่มาว่าจ้างเป็นสวะแท้ 100% แถมยังเป็นแฟนคลับเก๊ของเขาอีก ทนายเฉิงไม่มีวัน...อะไรนะ...รับทำงั้นเรอะ!?

เล่ม 2 :

เปียนเสียช่วยดื่มเหล้าเป็นเพื่อนจานเผยเหิง จนเมา ตอนแรกดูเหมือนไม่เมา แต่ความจริงคือเมาแล้วจำไม่ได้ ทั้งกัดคอเฉิงไป๋ ทั้งบอกเลขรหัสบัตรเอทีเอ็ม ถามอะไรเป็นบอกหมด แล้ววันรุ่งขึ้นยังมีหน้าไปถามเฉิงไป๋ เฉิงไป๋ก็ไม่ยอมบอกด้วยนะ เพราะจริงๆแล้วเฉิงไป๋ก็รู้สึกว่าเปียนเสียเหมาะกับตัวเอง แต่อยู่คนละสายงานตอนแรกก็ตัดใจไปแล้ว ไม่คิดว่ายังจะได้มาเจอกัน แถมเปียนเสียยังมาเป็นผู้ช่วยอีก เรื่องที่เฉิงไป๋เคร่งครัดคือ เปียนเสียต้องช่างน้ำหนักทุกวันเพราะโจวอี้รุ่นน้องฝากฝังให้ช่วยดูแลการกิน เฉิงไป๋ถือเป็นหน้าที่ต้องคอยดูว่าเปียนเสียจะน้ำหนักลดลงหรือไม่ แล้ววันนี้คือเมาค้าง ยังให้ไปนอนในห้องทำงาน

แล้วก็มีแขกไม่ได้รับเชิญมา เป็นลูกความที่ไม่ได้นัดเอาไว้ เจินฟู่กั๋ว นักค้าของเก่า ที่เป็นเศษสวะของแท้ แถมยังบอกว่าเป็นแฟนคลับหนังสือเปียนเสีย แต่เปียนเสียอยู่ตรงหน้ายังไม่รู้จักอีก

คดีที่จะให้รับคือคดีที่เป็นข่าวดังตอนนี้ พิพิธภัณฑ์อังกฤษทวงคืนภาพเขียนที่ตอนนี้มาอยู่ที่จีน และต้นเรื่องก็มาหาถึงที่ ตอนแรกเฉิงไป๋จะไม่รับ แต่คดีน่าสนใจมาก สุดท้ายเลยรับทำคดีโดยมีจานเผยเหิงร่วมด้วย เจินฟู่กั๋วไม่พูดความจริงทั้งหมด เฉิงไป๋ก็รู้ และให้เซ็นสัญญาตามผลของคดี ระหว่างนั้นเจินฟู๋กั๋วได้เอาหนังสือพร้อมลายเซ็นของเปียนเสียมาให้เปียนเสีย เปียนเสียสงสัยเพราะตัวเองไม่เคยแจกลายเซ็น เลยสั่งให้ตรวจสอบ ทั้งเรื่องคดี และเปียนเสียเฉิงไป๋ก็รู้ เปียนเสียก็จะงอนที่ไม่ยอมตอบแชต สุดท้ายคดีนี้เฉิงไป๋ก็ยังชนะคดีได้ เพราะมีความนิ่งมากกว่าทนายฝ่ายตรงข้าม จบคดี เผยเหิงก็ตัดสินใจกลับไปทำงานเดิม คือทวงคืนสมบัติชาติเหมือนเดิม ระหว่างนั้นเพื่อนของเฉิงไป๋ ซ่างเฟยที่เป็นผู้พิพากษาก็ตัดสินคดีหย่าร้าง มาเจอกับเฉิงไป๋ และโดนสามีที่ถูกฟ้องทำร้าย เป็นเฉิงไป๋ที่ช่วย และยังทำเอาอีกฝ่ายพิการ อาการหนักกว่าซ่างเฟยเพราะรู้กฎหมายว่าทำร้ายได้ถึงขนาดไหน แล้วก็มีกล้องวงจรปิด เรื่องนี้ทำให้เฉิงไป๋โด่งดังอีกครั้ง

เฉิงไป๋กลับมาบ้านเก่าของตัวเอง ก็เจอเพื่อนบ้านเศรษฐี ที่แถวบ้านเก่า ที่ไม่น่าจะมีคนซื้อ เปิดไฟสว่างตลอดเวลา ทำเอานอนไม่หลับ ต้องเขียนจดหมายบอก โดยไม่รู้ซักนิดว่าคือเปียนเสีย แล้วครั้งนี้ก็ได้ยินเสียงเพลงจนนอนไม่หลับอีกครั้ง ต้องเขียนจดหมายบอก

ทั้งสองคนเจอปัญหาเพื่อนบ้านโดยที่ไม่รู้เลยว่าอยู่ใกล้กันขนาดนี้ สวนกันไปมาตลอด

คืนสิ้นปีทางเทียนจื้อกับหมิงเทียนเฉิงจัดงานปีใหม่ เปียนเสียก็ได้ไปด้วย และก็นึกว่าผู้บริหารทำอะไรกัน แต่จริงๆคือปิดห้องเล่นไพ่นกกระจอก พอเฉิงไป๋มา ก็ชนะตลอด จนมีธุระ ให้เปียนเสียเล่นแทน นึกว่าจะชนะบ้าง แต่ยิ่งแพ้หนักกว่าเดิม เลยวางแผนแก้เผ็ดเปียนเสีย

ให้เปียนเสียร้องเพลงเลียนเสียงแมว เปียนเสียไหนเลยจะยอม โทรหาดาราดังที่รู้จัก แต่ก็ยังไม่หลุดพ้น พอร้องแล้วเลยเหมือนรู้สึกว่าเป็นเพลงสารภาพรักเฉยเลย ฮามาก

ตอนเลิกงาน เปียนเสียให้ร่มกับเฉิงไป๋ และยังเกือบได้สารภาพรักแล้ว แต่ยังนะ ส่วนฟางปู้รั่งก็คอยสังเกตอยู่ เปียนเสียเวลาไม่ได้อยู่กับเฉิงไป๋ เหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคน ฉลาดเจ้าเล่ห์ แล้วก็สามารถพูดกับฟางปู้รั่งแบบแทงใจอีกฝ่ายได้แบบเต็มๆ บอกว่าแต่งงานและยังไม่หย่า ยังไงก็ไม่มีสิทธิ์ เหมือนฟางปู้รั่งจะสนใจเฉิงไป๋นะ เปียนเสียดูออก เพราะช่างสังเกต

หลังอ่านเล่ม 2 :

คดีที่ 2 ก็น่าลุ้น และตัวละครก็เปิดเผยเรื่องราวมากขึ้นเรื่อยๆ เฉิงไป๋กับเปียนเสียคือมีเคมีเข้ากันมากๆ ลุ้นทั้งคดี ลุ้นทั้งความรักของทั้งคู่ อีกเรื่องคือเมื่อไหร่จะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเพื่อนบ้านเจ้าปัญหาเนี่ย ฮามากๆๆๆ

เล่ม 3 พิมพ์ครั้งที่ 1 : มีนาคม 2564

โปรยปกหลังเล่ม 3 :

"เจียงหมิงไหวเป็นนักเขียนบท เรื่อง 'มือสังหาร'ค่ะ พอดีละครซีรีส์เรื่องถัดไปจะเป็นเรื่องแนวกฎหมาย...ตอนนี้เขาเลยขอมาเก็บข้อมูลอยู่ที่บริษัทเรา" จู่ๆ เฉิงไป๋ก็มีผู้ช่วยกิตติมศักดิ์เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแถม "เจียงหมิงไหว" ยังเป็นคนที่ท่านนักเขียนใหญ่ไม่ชอบหน้าเล่าเอาเปียนเสียหัวเสียเลยทีเดียว

 

ขณะเดียวกันการรื้อคดี "คดีคนกินคน" ได้เริ่มร้อนระอุขึ้นกระแสมหาชนหลากหลายความคิดคำก่นด่า สาปแช่ง แท้จริงแล้วใครคือผู้ผิด ผู้พิพากษา...? อัยการ...? จำเลย...? หรือแท้จริงแล้วเป็นมติมหาชนที่ทำลายชีวิตคน?

เล่ม 3 :

คดีของจานเจินฟู่กั๋วเฉิงไปชนะคดี แต่หลังจากนั้นเจินฟู่กั๋วดันถูกจับเพราะเปียนเสียร้องเรียนเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ และยังพบของผิดกฎหมายมากมาย  

เฉิงไป๋จะเลี้ยงข้าวเปียนเสีย เล่มถามตอบ จนได้รู้ว่าตอนตัวเองเมาได้บอกอะไรเฉิงไป๋ไปบ้าง ขนาดรหัสบัตรเอทีเอ็มยังบอกเลย สรุปว่าวันนั้นเฉิงไป๋เมา เปียนเสียไม่รู้ว่าบ้านของเฉิงไป๋อยู่ไหนเลยพาไปพักที่โรงแรม

ซีรีส์เรื่องมือสังหารกำลังดัง นักเขียนบทเจียงหมิงไหวอยากมาเก็บข้อมูลที่บริษัท โดยเฉพาะมาเก็บข้อมูลกับเฉิงไป๋ ตอนแรกเฉิงไป๋ไม่ยอม แต่พออ่านพล็อตเรื่อง ก็เปลี่ยนใจ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับทนายเพื่อสาธารณะ เหมือนทนายอาสา อยากให้คนรู้จักมากขึ้น เลยเปิดทางให้ และรู้ว่าเปียนเสียไม่ชอบหน้าเจียงหมิงไหว พอทั้งสองเจอกัน ก็ไม่เหมือนที่คิด เลยรู้ว่าพวกนักเขียนนี่อะไรก็พูดได้

และก็มีงานที่วิทยาลัย และตอนนี้ก็มีเรื่องของคดีคนกินคนที่ถูกรื้อขึ้นมาใหม่ ที่อาจารย์ของเฉิงไป๋เป็นเป้าโจมตีของทุกคน เพราะเป็นผู้พิพากษาในคดีตอนนั้น

แล้วก็ได้รู้แล้วว่านักเขียนใหญ่กับทนายใหญ่เป็นเพื่อนบ้านกัน เพราะกลับบ้านทางเดียวกัน มาด้วยกันตลอดทางเลยทีเดียว

เล่มนี้มีเรื่องราวของคดีคนกินคนในตอนนั้น กับ เฉิงไป๋เริ่มอ่านงานของเปียนเสียที่เจ้าตัวเองมาไว้ให้ ทำให้รู้เรื่องราว และพล็อตเรื่องจนอยากจะอ่านเล่มต่อไปเหมือนกันนักอ่านคนอื่นๆ และเฉิงไป๋ก็รับผู้ช่วยคนใหม่ มีคนสมัครที่ถูกปัดตกไป แต่ก็ยังเข้าไปพูดคุยกับเฉิงไป๋ แต่เพราะเรื่องราวคดี 28 มีนาคม ทำให้เฉิงไป๋สนใจในตัวถังป๋อ เลยให้มาเริ่มงาน และแข่งกับซูหว่านถิง ตอนนี้คือวันก่อนวันตรุษจีน จะหยุด เปียนเสียนึกว่าตัวเองได้การ์ดคนเดียว แต่จริงๆแล้วข้อความที่ได้ก็ไม่เหมือนคนอื่นทำเอามีความสุขจนตัวลอยทีเดียว

หลังอ่านเล่ม 3 :

คดีจบไปอีกหนึ่งคดี และก็มีคดีใหม่ แต่เล่มนี้ความสัมพันธ์ของพระเอกนางเอกดูคืบหน้าขึ้นเยอะเลย น่ารักมาก และลุ้นคดีต่อไปว่าจะเป็นยังไง กระแสสังคมทำเอาอึดอัดได้จริงค่ะ เปียนเสียเริ่มเขียนงานใหม่เพราะดูมีคู่แข่งแล้วนะขอบอก ฮ่าๆๆๆๆ ทั้งเฉิงไป๋ ทั้งเปียนเสียเริ่มศึกษาข้อมูล เรียนรู้เรื่องราวของกันและกันแล้ว

เล่ม 4 พิมพ์ครั้งที่ 1 : เมษายน 2564

โปรยปกหลังเล่ม 4 :

"ไซเบอร์บุลลี่เรอะ? ตอนแกทำให้ครอบครัวเหยื่อต้องโดนคนรุมจวกค่า ทำไมไม่คิดล่ะว่าตัวเองจะมีวันนี้บ้าง? ถุย!" ความเห็นในโลกออนไลน์เรื่องคดีคนกินคนร้อนระอุขึ้นทุกขณะ จ้าวผิงจางต้องรับศึกหนักจนบ่าแก่ชรางองุ้น พร้อมกันนั้นทางเฉิงไป๋เองก็กำลังโต้คืน "เหล่าอัศวินแห่งคุณธรรม" อย่างเงียบเชียบภายใต้เงามืด

 

หากกล้าที่จะพูดว่าร้ายในสิ่งที่ตนเองไม่รู้จริงและอยากโหนกระแสเพื่อเป็น "อัศวินแห่งความยุติธรรมบนโลกโซเชียล" ก็ต้องกล้าพอที่จะรับผลที่ตามมา เพราะเฉิงไป๋ไม่มีวันยอมอีกแล้ว... "ความยุติธรรมอาจมาช้า แต่ต้องมาแน่นอน" ทว่าบางครั้งเฉิงไป๋ก็คิดว่าความยุติธรรมที่มาช้ายังจะเรียกว่าความยุติธรรมอยู่อีกหรือ?

เล่ม 4 :

วันหยุดตรุษจีนมาถึง บริษัทหยุดเจ็ดวัน เฉิงไป๋ชินแล้วที่อยู่คนเดียว เปียนเสียยังต้องกลับบ้านที่นานกิง ตอนกล่าวลายังรู้สึกใจหาย เฉิงไป๋อยู่บ้านคนเดียว แต่ความจริงแล้วจะไปฉลองตรุษจีนที่บ้านซ่างเฟย

ส่วนเปียนเสียที่กลับบ้านนี่ไม่ธรรมดา ครอบครัวเป็นข้าราชการใหญ่โต เพื่อนที่โตมาด้วยกันอย่างฉู่เสียนเหวินที่เป็นหมอคอยดูแลเปียนเสียยังโดนเปรียบเทียบว่าเปียนเสียเป็นเด็กบ้านอื่นจนกระทั่งรู้ความจริงว่า ที่โรงเรียนเรียนเก่งแต่ก็ยังมีอีกบุคลิกที่ทุกคนไม่รู้ ทั้งเล่นเกมออนไลน์ สูบบุหรี่ ทำเอาคนอึ้งกันไป เป็นคนหัวขบถคนหนึ่งทีเดียว แต่เรื่องที่เปียนเสียตามจีบเฉิงไป๋ขนาดพ่อของเปียนเสีย เปียนหยวนยังรู้ เพราะติดตามโซเซียล และบอกว่ารู้จักเฉิงไป๋เป็นทนายที่ดี และเก่งทำเอาลูกน้องตอนนั้นโดนลดตำแหน่งทีเดียวเลยจำแม่น เรื่องนี้ทำให้เปียนเสียมีความคิดอยากรู้จักเฉิงไป๋มากขึ้นไปอีก เพราะตอนตรุษจีนโทรหาเฉิงไป๋ แล้วก็อยากรู้เรื่องราว เลยดูคลิปและเจอคลิปสัมภาษณ์ฟางรั่งกับเฉิงไป๋ แล้วเปียนเสียก็เริ่มเขียนต้นฉบับเรื่องใหม่ตั้งแต่เจอเจียงหมิงไหวแล้ว เลยต้องหาข้อมูลมากหน่อย

ทางด้านเฉิงไป๋กับซ่างเฟยหลังวันตรุษจีนกลับได้ข่าวจากเว่ยเหลียวเหลี่ยวที่ย้ายสายอาชีพมาทำงานนักข่าว แล้วชอบตกเหยื่อหนุ่มน้อย แต่พอตื่นมากับเป็นโจวอี้ คู่ปรับรุ่นน้องที่เว่ยเหลียวเหลี่ยวแพ้ทางอยู่บนเตียง ทางเดียวคือหนีออกจากบ้านตัวเอง ไปร้องทุกข์กับพื่อนสนิททั้งสองคน

หมดวันตรุษจีนทุกคนมาทำงาน แต่เปียนเสียยังไม่มาเพราะเที่ยวบินดีเลย์ เฉิงไป๋เช็คแล้วก็ไม่รู้ว่าเปียนเสียไปไหน เพราะที่นานกิงไม่มีเที่ยวบินดีเลย์ นี่คือความใส่ใจ

ในเน็ตมีกระแสจากฮู่ซ่างพูดตรง ที่เป็นนักข่าวเปิดเว่ยป๋อเป็นบัญชีเอาไว้แฉข่าว ตอนนี้กำลังเล่นเรื่องของอาจารย์จ้าวผิงจาง ที่บอกว่าตัวเองจะโดนฟ้อง ทำให้เกิดกระแสไซเบอร์บูลลี่ในเน็ต ทุกคนต่างด่าว่า วิจารณ์หยาบคาย ตอนที่เปียนเสียกลับมาก็ได้ข่าวแล้ว เฉิงไป๋ถามว่าอ่านแล้วเป็นยังไง เปียนเสียบอกว่าฝีมือการเขียนกระจอกมาก เป็นการปลุกกระแส

จ้าวผิงจางนัดพบเฉิงไป๋ที่โรงพยาบาลเพราะภรรยาอ่านข่าวจนล้มป่วย ตัวเองก็ดูแก่ชราลง เฉิงไป๋เป็นคนช่วยเหลือให้ข้อมูล เพราะตอนนั้นคดีของตัวเองต้องทำยังไงก็คอยช่วยเหลืออาจารย์ เฉิงไป๋ได้เจอหมอ เพื่อนของเปียนเสีย

และเพราะเฉิงไปมีทั้งนักเขียนใหญ่ และนักเขียนบทที่สนใจเรื่องราวกระแสข่าวตอนนี้ เลยถามความเห็น ทั้งสองบอกพล็อตเรื่องที่ตัวเองคิดได้ ที่มีสองแนวทาง เฉิงไป๋ฟังแล้วก็เกิความคิด ให้อาจารย์ลองดู

เนื่องจากกระแสวิจารณ์มาก ทำให้จ้าวผิงจางกินยาฆ่าตัวตาย แต่ทั้งหมดคือเป็นไปตามพล็อตที่เฉิงไป๋วางไว้ จากไอเดียของเปียนเสีย และยังให้เปียนเสียเขียนบทความให้ ตัวเองอ่านไม่เข้าใจ แต่เว่ยเหลียวเหลี่ยวทึ่งสุดๆว่าหานักข่าวที่ไหนเขียนให้ แล้วก็รู้ว่าเป็นผลงานของนักเขียนใหญ่ ที่ใช้นามปากกาว่านักเขียนราคาถูก เหมือนล้อตัวเอง เพราะงอนที่เฉิงไป๋ไม่เข้าใจงานเขียน แล้วเฉิงไป๋ก็ง้อนักเขียนใหญ่ได้ด้วยขนมโก๋ถั่วเขียวของชอบของเปียนเสีย

พอกระแสพลิกกลับ คราวนี้คนที่โดนโจมที่คือนักข่าวที่ออกมาเล่นงานจ้าวผิงจาง และช่วงนี้ถังป๋อยังเสนอให้เฉิงไป๋ฟ้องร้องคนที่ทำให้เสียชื่อ ตัวเองจะได้สร้างชื่อ โอกาสอยู่ตรงหน้าแต่ไม่มีคนคว้า มีเพียงถังป๋อที่มองเห็น และเปียนเสียก็ยังสังเกตเรื่องคะแนนสอบของถังป๋อที่คนอื่นไม่สังเกตเห็น นับว่านักเขียนใหญ่ฉลาด ช่างสังเกตในจุดที่คนอื่นมองข้ามตลอด

วันพิจารณาคดีใหม่ เป็นช่วงที่เปียนเสียเริ่มปิดห้องเขียนหนังสือ พวกผู้ช่วยต่างรู้ว่าอยู่ได้แค่ชั้นล่างรบกวนไม่ได้ แต่เฉิงไป๋สามารถลากเปียนเสียออกจากห้อง ออกจากบ้านไปทำผม ออกไปฟังคดีด้วยกันเพราะทั้งสองสนิทกันอีกขั้นแล้วนี่สิ

ที่ศาล คำตัดสินเป็นไปตามที่เฉิงไป๋คาด จ้าวผิงจางกล่าวขอโทษ ส่วนผู้ถูกกล่าวหากลับขอบคุณ ทำเอาคนงง เจียงหมิงไหว ได้อ่านเรื่องของเปียนเสียทำให้ตัวเองรู้ว่าด้อยกว่าเลยไม่อยากเขียนบทต่อ ตอนนี้เก็บข้อมูลเสร็จแล้ว เปียนเสียเลยให้โจวอี้ดึงตัวมาเขียนบทให้ซะเลย

ตอนนี้ที่บริษัทอยากทำคดีจัดการสินทรัพย์ เฟ่ยจิ้งเลยให้เฉิงไป๋ร่วม ลูกค้าเลือกทั้งเทียนจื้อและหมิงเทียนเฉิงให้ทำงานร่วมกัน แล้วฟางปู้รั่งยังบอกว่ามีคดีให้ช่วย คือคดีของตังเอง อยากได้รับสิทธิ์เลี้ยงดูลูกชาย ทำเอาเฉิงไป๋ตกใจ ที่ฟางปู้รั่งแต่งงานและมีลูกแล้ว เฉิงไป๋ปฏิเสธ แต่ฟางปู้รั่งรู้อยู่แล้ว เฉิงไป๋เรียกเงินเป็นสองเท่าก็อยู่ในการคิดไว้ล่วงหน้า

ตอนเลี้ยงอาหารสองบริษัท เฉิงไป๋เจอคนขอดื่ม เปียนเสียเลยจะดื่มแทน แล้วเฉิงไป๋ก็บอกว่าเป็นแฟน พอบอกแบบนี้เปียนเสียก็อึ้งขนาด ตอนไปเขียนงานลงเน็ต หลุมดำยังเบลอปล่อยไก่ โป๊ะแตก สารภาพกลางอากาศ ทุกคนเลยรู้หมด ว่าเฉิงไป๋เป็นแฟน แล้วหลังจากนั้นเปียนเสียยังโชว์สวีท ให้อาหารหมา แล้วก็ยืนยันสถานะกับเฉิงไป๋แบบหน้าไม่อาย

เรื่องที่ฟางปู้รั่งแต่งงานยังไม่ได้หย่า กลับไม่เป็นที่แปลกใจของเปียนเสีย เพราะตัวเองเคยหลอกถามได้แล้ว เฉิงไป๋ถึงเพิ่งรู้ เพราะคนในวงการไม่มีใครรู้เลย เปียนเสียเป็นคนความคิดแปลกกว่าคนอื่น ถามว่าวันเกิดอยากได้อะไร เฉิงไป๋บอกว่าไม่ฉลองวันเกิด ดีนะที่ถาม ฮ่าๆๆๆ

หลังอ่านเล่ม 4 :

ยิ่งอ่านยิ่งหยุดไม่ได้ สนุกมากค่ะ คดีคนกินคนที่รื้อขึ้นมาใหม่ กระแสไซเบอร์บูลลี่ ยังไงก็ไม่พ้นการแก้มือของเฉิงไป๋ และเพราะความคิดของนักเขียนใหญ่เปียนเสีย สรุปว่าสองคนนี้ความคิด ความเข้าใจเข้ากันได้

แล้วตอนนี้ได้โป๊ะแตกแบบฮาๆ ได้เป็นแฟนกันแล้ว มาดูคดีของเล่มจบ ว่าฟางปู้รั่งเป็นคนแบบไหนกันแน่ แล้วเฉิงไป๋กับเปียนเสียจะเป็นยังไงต่อไปนะ เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ ลุ้น ขำ ทุกเล่มจริงๆ นักเขียนเก่งมากเลยค่ะ

เล่ม 5 พิมพ์ครั้งที่ 1 : กรกฎาคม 2564

โปรยปกหลังเล่ม 5 :

'ไม่ใช่ทุกคนที่จะแต่งงานมีลูก

ด้วยอารมณ์ความรู้สึก

กับความรักนั้นยิ่งแล้วใหญ่'

 

เฉิงไป๋เป็นคนมีเหตุผลมารองรับ

การกระทำของตนเองเสมอ

อย่างน้อยเธอก็เชื่อว่าตนเองเป็นเช่นนั้น

 

กำแพงแห่งเหตุผลอันสูงใหญ่

ปิดกั้นอารมณ์ความรู้สึกของเธอ

ไม่ให้เหนือกว่าเหตุผล

 

มันแข็งแกร่งและไม่มีวันพังทลาย

 

'ศีลธรรมนั้นไม่เคยมีมาตรฐานเด็ดขาดชัดเจน'

'แต่กฎหมาย' เธอเชื่อเสมอว่าหากมองโลก

ด้วยเหตุผลเธอก็จะไม่ต้องเจ็บปวดอีก

จนวันหนึ่งมีชายคนหนึ่งทำลายมันเข้ามาและ

โอบกอดตัวตนของเธอที่อ่อนแอและแตกสลายเอาไว้

เล่ม 5 :

เฉิงไป๋ต้องมาซื้อหนังสือกฎหมายครอบครัวที่ไม่ชำนาญมาอ่าน มีเล่มหนึ่งเขียนโดยทนายจู แล้วในทีมของฟางปู้รั่งก็ได้พบตัวจริง ช่างแตกต่างเชื่อถือไม่ได้ ฟางปู้รั่งทำให้ทุกคนเป็นศัตรูได้จริงๆ แม้แต่ในบริษัท แถมยังไม่ให้ความร่วมมือ ทุกอย่างต้องให้เฉิงไป๋และจูโส่วชิ่งไปหาหลักฐานเอง เป็นลูกความที่ไม่ให้ความร่วมมือกับทนายของตัวเองเลย

อินเสี่ยวหยวน ภรรยาที่จดทะเบียนกับฟางปู้รั่งติดต่อเฉิงไป๋ ทำให้เฉิงไป๋รู้สึกว่าขนมเปี๊ยะหล่นจากฟ้าไม่ใช่ง่ายๆ คดีนี้มีอะไรมากกว่านั้น ถ้าเป็นทนายให้ฝ่ายหญิงน่าจะชนะคดีได้มากกว่า แต่ตอนนี้เซ็นสัญญาไปแล้วเลยต้องปฏิเสธไป

แล้วอินเสี่ยวหยวนยังมาพบเฉิงไป๋ที่บริษัทอีก ได้ฟังเรื่องราว และก็คิดว่ามีอะไรมากกว่านั้น ทั้งยังอยากจัดการฟางปู้รั่งถึงขั้นส่งเรื่องร้องเรียนสภาทนายความ เฉิงไป๋ที่เป็นทนายความของฟางปู้รั่งที่ตอนแรกว่าจะทำตัวเป็นแจกันดอกไม้ก็ต้องยื่นมือ ฟางปู้รั่งก็ไม่ให้ความร่วมมือเลย ทางด้านอินเสี่ยวหยวนก็หาคู่ขา ที่เรียกได้ว่าเป็นเมียน้อยของฟางปู้รั่งมาเป็นพยาน เรื่องราววุ่นวาย แต่ฟางปู้รั่งก็ดูมั่นใจในตัวเองมาก

ระหว่างนั้นเปียนเสียจะคอยส่งข้อความรายงานตัวเอง ทั้งเรื่องไม่สบาย เรื่องเล็กน้อยประจำวัน จนเฉิงไป๋รู้สึกว่าน่ารักดี และติดเป็นนิสัยที่ต้องอ่านข้อความ พอรู้ว่าไม่สบายก็ไปดูแล

จนกระทั่งวันที่เรื่องฟางปู้รั่งถูกร้องเรียน ฟางปู้รั่งพูดว่าไม่ถามถึงคดีนั้นเหรอ คดีที่ฟางปู้รั่งชนะในชั้นอุทธรณ์ ทำให้เฉิงไป๋แพ้คดี และพ่อของเฉิงไป๋ต่อมาก็ล้มป่วยเสียชีวิตไป วันนั้นเฉิงไป๋ดื่มมาก กว่าจะกลับบ้าน เปียนเสียเป็นห่วงก็ออกตามหา ในที่สุดก็เจอหน้าบ้าน และเพราะเปียนเสียมีเรื่องจะบอกเตรียมทั้งอาหารและแหวนเอาไว้แล้ว แต่เฉิงไป๋กลับเมา และต้องการเปียนเสีย พอเช้าก็ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เปียนเสียก็ไม่พูดถึงเรื่องแหวนที่เตรียมไว้

คดีความยังไม่คืบหน้า หลักฐานได้มาก็ไม่เป็นประโยชน์ เฉิงไป๋ได้ความคิดจากเปียนเสียเรื่องแฟนของอินเสี่ยวหยวน และต่อมาก็หาหลักฐานได้ โดยที่เรื่องนี้ไม่ได้บอกฟางปู้รั่ง เพราะฟางปู้รั่งไม่ยอมบอกว่าตัวเองกำความลับอะไรไว้

เปียนเสียให้เฉิงไป๋อ่านหนังสือเล่มใหม่ ที่มีตัวเอกคือทนายความ ตอนแรกเฉิงไป๋คิดว่าเอาคาแรกเตอร์มาจากฟางรั่ง แต่พออ่านไป เรื่องราวคือเรื่องของตัวเอง ยิ่งลงลึกในรายละเอียด จนเฉิงไป๋รู้ตัวเองแต่ไม่ยอมรับ เปียนเสียที่รู้ว่าเฉิงไป๋ปิดบังความรู้สึกก็รู้ว่าเฉิงไป๋อยากบอกเลิกกับตัวเองเพื่อปิดกั้น หลีกหนี ช่วงนี้ทั้งสองคนเลยทำสงครามเย็นกัน

เฉิงไป๋ได้รับฟังแนวคิดจากฟางปู้รั่ง ส่วนเปียนเสียก็ได้ฟังคำพูดจากโจวอี้ ในที่สุดเปียนเสียก็เป็นฝ่ายเอ่ยปาก ขอโทษ งอนง้อก่อน อารมณ์ของเฉิงไป๋ตอนตื่นขึ้นมา มีคนอยู่เคียงข้าง ไม่เหมือนหลายคืนที่ผ่านมาที่นอนไม่หลับ ทั้งยังรู้สึกดีที่มีเปียนเสียอยู่เคียงข้าง เลยบอกว่าไปจดทะเบียนสมรสกัน เป็นอารมณ์ชั่ววูบที่เกิดขึ้น เปียนเสียรีบคว้าไว้ กว่าด้านเหตุผลจะกลับมาเปียนเสียก็จดทะเบียนสมรสกับเฉิงไป๋เรียบร้อยแล้ว

เปียนเสียอวดในเว่ยป๋อ แต่บอกกับเฉิงไป๋ก่อน เมื่อได้รับการอนุมัติก็รีบทำ พอเฉิงไป๋ถูกถาม และเข้าไปดู ก็แชร์โพสต์ ทั้งยังกดอันฟอลโล่ฟางปู้รั่ง ทำเอาเปียนเสียดีใจจนปลดบล็อกพวกคู่อริ แถมแจกอั่งเปากระหน่ำ

เรื่องราวของฟางปู้รั่งเมื่อมีหลักฐาน แถมเฉิงไป๋ยังเป็นทนายขึ้นว่าความ ก็ต้องชนะคดี หลังจบเรื่องราวยังมีคดีเก่า 28 มีนา ที่จะตัดสินใหม่ อยากจะหาทนายอาสา เฉิงไป๋ตัดสินใจอยู่นาน จนในที่สุดก็โทรไปที่ศูนย์ช่วยเหลือ แต่พอรู้ว่ามีคนรับไปแล้ว และคนนั้นคือเพื่อนเก่า ที่มีอุดมการณ์ร่วมกันก็ดีใจมาก

ฟางปู้รั่งต้องชดใช้เงินแทนหุ้นของหมิงเทียนเฉิง เฉิงไป๋เห็นหนังสือพิมพ์บนโต๊ะ เลยสงสัย และไปหาข้อมูล จนได้รู้ว่าในนั้นมีเรื่องเกี่ยวกับหมู่บ้านที่เกิดโรคภัย เลยทำการสืบ เพราะมีโรงพยาบาลเฉิงคัง ที่พ่อของเฉิงไป๋ถูกยึดไปตั้งอยู่ด้วย แล้วก็ได้รู้ว่าโรงพยาบาลจัดการน้ำเสียไม่ดี ทำให้คนในหมู่บ้านเกิดโรคระบาดหลายอย่าง เลยทำการยื่นฟ้อง เพื่อร้องเรียนโรงพยาบาล แต่สุดท้าย ก็ได้แค่ค่าชดเชยให้ชาวบ้าน

จากนั้นก็ฟ้องร้องโรงพยาบาลเรื่องสิ่งแวดล้อม และได้กลับบ้านกับเปียนเสียจนรู้ว่า พ่อของเปียนเสียเป็นใคร และใครๆบอกว่าเปียนเสียเป็นทาสเมีย แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหา ถ้าคนสองคนเข้าใจกัน

หลังอ่านเล่ม 5 :

เรื่องราวทุกอย่างคลี่คลาย ปมในใจได้รับการเยียวยา และแก้ไข เปียนเสียที่ร้ายกับคนอื่นแต่พออยู่กับเฉิงไป๋กับทำตัวน่าแกล้งได้ขนาดนั้น คู่นี้เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากๆ เรื่องราวลงตัว และทุกอย่างก็เคลียร์ทั้งหมด ไม่ทิ้งปมเอาไว้ให้คนอ่านสงสัย

เส้นเรื่องสนุกมากทั้งคดี และความรัก คาแรกเตอร์ตัวละครก็ดีมากค่ะ เป็นอีกเรื่องที่แนะนำให้อ่าน เพราะสนุกน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ อ่านไปหัวเราะไป และลุ้นไปกับแต่ละคดีจริงๆค่ะ

เนื้อเรื่อง :

เปียนเสียนักเขียนใหญ่ เบสต์เซลเลอร์ ที่ทำเงินหนังสือต่อเล่มได้มากมาย ตอนนี้กำลังเปิดสตูดิโอ และต้องการทนายที่ปรึกษา ตอนงานสัมภาษณ์ ดันพูดถึงเฉิงไป๋แบบย่ำแย่ ตอนนี้โจวอี้ผู้จัดการส่วนตัว กำลังจะพาไปพบกับทนายคนใหม่ เลยต้องออกหน้าให้ขอโทษเธอ เปียนเสียมีหรือจะยอม และนิสัยเสียมีเยอะมาก ทั้งเลือกกิน ชอบกินแต่ขนม อยากได้อะไรต้องหาวิธีเอามาให้ได้ เพราะตัวเองเป็นคนช่างสังเกต มองคนออก เรียกได้ว่าอัจฉริยะ

เฉิงไป๋เพิ่งถูกแฟนบอกเลิก ทั้งที่ไม่ได้ ทำอะไร แต่เพราะไม่ได้ทำอะไร เลยถูกขอเลิกนี่แหละ เปียนเสียนมาพบเฉิงไป๋ตอนแรกก็มองเฉิงไป๋ไม่ออก เพราะเป็นพวกเก็บอารมณ์ มีเหตุผลนำหน้าตลอดเวลา หน้านิ่ง เปียนเสียเริ่มสนใจเฉิงไป๋ แล้วก็เห็นตั๋วละครที่ตัวเองหาไม่ได้ถูกทิ้งในถังขยะ เพราะตั๋วสองใบเลยทำให้เปียนเสียทำอะไรก็ได้

แล้วก็เริ่มติดตามเฉิงไป๋ สังเกตคดีที่เฉิงไป๋ทำ และก็เริ่มอยากรู้จักเฉิงไป๋มากขึ้น จนพาตัวเข้ามาเป็นผู้ช่วยเพื่อเก็บข้อมูลเขียนหนังสือเรื่องต่อไป เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น เปียนเสียที่ชาวเน็ตเรียกหมาเปียน เทพเปียน ปีศาจเปียน หลากหลายสมญา แต่ความอัจฉริยะไม่เคยลดน้อยลง แม้จะสังเกตเห็นก็รู้ว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด รู้จักวางตัว

เปียนเสียเริ่มตามติดเฉิงไป๋ และเฉิงไป๋ก็คอยดูแลการกินอาหาร เปียนเสียเก็บข้อมูล ได้รู้เรื่องราวความเป็นไป ของคดีต่างๆ ได้รู้จักผู้คน มาดูความรักของนักเขียนใหญ่ กับทนายใหญ่กันว่าจะลงเอยกันยังไง คนหนึ่งใช้เหตุผลนำ อีกคนให้อารมณ์นำจะเข้ากันได้แค่ไหน อย่างไร

หลังอ่าน :

เส้นเรื่องสนุกมากค่ะ ตัวละครมีคาแรกเตอร์ชัดเจน ทำให้เห็นพัฒนาการของตัวละคร และเรื่องราวในแต่ละคดีก็คอยลุ้น เพราะแต่ละคดีน่าสนใจมาก เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่แนะนำให้อ่านเลยค่ะ เพราะสนุกมาก น่าสนใจมากจริงๆ ถือเป็นอีกเรื่องที่ดีในปี 2564 นี้เลยค่ะ


31/12/64