Review 15/2563
เรื่อง : ข้าจะเป็นเซียน (3 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง (Yue Xia Die Ying)
ผู้แปล : หยกน้ำแข็ง
สำนักพิมพ์ :
อรุณ
พิมพ์ครั้งที่ 1 : ตุลาคม 2562
โปรยปกหลัง :
"คงโหว" องค์หญิงสิ้นบัลลังก์ผู้เติบโตในตำหนักลึกของวังหลวงโดยไม่มีใครดูดำดูดี
โชคชะตานำพาให้นางเข้าสู่แดนพ้นโศกดินแดนแห่งการบำเพ็ญเพียร
เพื่อมุ่งสู่วิถีแห่งเซียนเมื่ออายุเกือบสิบขวบ
ชีวิตใหม่มีผู้คนที่รักใคร่เอ็นดูนางมากมาย
มีเรื่องราวสนุกสนานหลากหลายจากองค์หญิงผู้แสนอาภัพในแดนมนุษย์สู่ผู้บำเพ็ญเพียรหญิงผู้มีพรสวรรค์
น่ารักน่าเอ็นดู และมาพร้อมกับความดวงดี อุปสรรคนานาที่ต้องเผชิญ ทั้งปีศาจ
มารร้าย ดินแดนลี้ลับน่ะหรือ แค่นี้ไม่ระย่อ!
เล่ม 1 :
ฤดูหนาวปีที่สามแห่งรัชศกจิ่งหง คงโหว
องค์หญิงผิงหนิงเพิ่งจะเคยออกจากวังหลวงเป็นครั้งที่สาม
ตอนนี้ต้องการซื้อภาพวากน้ำตาลปั้น นางเลือกภาพเซียนหญิงเบิกดาราเหยียบจันทรา
คงโหวชื่นชอบอย่างมากทั้งที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
เดือนสามประจำปีปฏิทินจันทรคติ มีงานฉลองประจำปี
คงโหวได้ไปร่วมงานในฐานะองค์หญิงราชวงศ์ก่อน
ที่จักรพรรดิไม่ทำอะไรคงโหวเพราะถือเป็นตัวนำโชค ระหว่างงานเลี้ยงมีเซียนเหยียบเมฆลงมาและมารับตัวคงโหวไป
คงโหวชอบอ่านนิทานเกี่ยวกับการบำเพ็ญเพียรเป็นเซียนอย่างมากแอบมีเก็บไว้สองเล่ม
และแอบภาวนาตลอดว่าวันหนึ่งท่านเซียนจะมารับนาง
ตอนนี้มีท่านเซียนมารับคงโหวบอกว่าตอบแทนบุญคุณ
ติดค้างนางเรื่องเหตุปัจจัย เมื่อวั่งทงฟังคำพูดของคงโหวก็ได้แต่โกหก
ว่าเพราะคำวิงวอนของคงโหวจึงมารับนาง วั่งทงพาคงโหวผ่านประตูแดนพ้นโศก เมืองยงเฉิง
ในที่สุดศิษย์ทั้งสองของวั่งทงก็มารับเฉิงอี้และถานเฟิง เมื่อมาถึงก็ได้รู้ว่าอาจารย์จะรับคงโหวเป็นศิษย์คนสุดท้าย
วั่งทงติดอยู่ที่ขั้นเปลี่ยนรูปมาสี่ร้อยกว่าปีแล้วจนใกล้หมดอายุไข
ถ้าไม่ใช่เพราะคงโหวคงไม่สามารถผ่านด่านเคราะห์ครั้งนี้ไปได้ ตอนนี้ผ่านขั้นปล่อยวางไปสู่ขั้นรู้แจ้งแล้ว
คงโหวมีโชคดีอย่างมากได้รับถุงนำโชคของสำนักแดนสวรรค์มากมายต่างกับวั่งทงที่ไม่มีโชคเอาเสียเลย
ในเมืองยงเฉิงสำนักที่มีอำนาจคือสำนักเมฆาเรือง
เมืองนี้เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์จนคนไม่ค่อยกระตือรือร้น ขนาดคนในสำนักก็เช่นกัน
นิสัยเรื่อยเฉื่อยชอบชมเรื่องสนุกเป็นนิสัย
ในที่สุดคงโหวก็มาถึงสำนักเมฆาเรืองและได้รับความรัก
และเอ็นดูจากผู้อาวุโส ท่านลุงเจ้าสำนัก และเจ้าเขาทุกคน พอไปที่เรือนห้าธาตุเพื่อทำนายคุณสมบัติ
คงโหวก็มีคุณสมบัติห้ารากจิต เป็นอัจฉริยบุคคลในการบำเพ็ญเพียร คงโหวตั้งใจเรียนอย่างมาก
และมีความสามารถในการบำเพ็ญที่รวดเร็วยิ่งกว่าศิษย์พี่ทั้งสองของตนเสียอีก
คงโหวกับถานเฟิงลงเขาเข้าเมืองไปแลกหินวิเศษ
คงโหวชอบอ่านนิยายนางเข้าร้านหนังสือและหนังสือที่ขายถูกเมื่อเปิดดูเนื้อเรื่องถูกใจนางยิ่งนัก
เป็นหนังสือของเมี่ยวปี่เค่อ คงโหวจึงซื้อมาทั้งหมด
ศิษย์พี่รองบอกว่าอย่าอ่านนิยายให้มาก แต่คงโหวชอบอ่านมาก และชอบเอาชีวิตจริงไปอ้างอิงกับนิยายเป็นประจำจนศิษย์พี่ใหญ่ก็จับได้
หนังสือของคงโหวถูกยึดอยู่เรื่อยแต่นางก็ยังมีฉบับสำรองอ่านเสมอ
ในวันสิ้นปีปีที่สี่คงโหวก็เข้าฌานผ่านด่านเคราะห์ขั้นพื้นฐานและในที่สุดนางก็ผ่านด่านเคราะห์สำเร็จ
ข่าวนี้ล่วงรู้ไปทั่วว่าสำนักเมฆาเรืองมีศิษย์อัจฉริยะอยู่คนหนึ่งอายุแค่สิบสี่ปีก็เข้าสู่ขั้นพื้นฐาน
วั่งทงนั้นเรื่องอะไรก็ดวงไม่ดีแต่ดวงในการรับศิษย์นั้นดีมากจนทำให้คนอิจฉากันเลยทีเดียว
ศิษย์พี่ศิษย์น้องไปร่วมฉลองกันนอกสำนัก
ทำให้พบกับผู้บำเพ็ญเพียรขั้นปล่อยวางที่รังแกชาวบ้าน คงโหวส่งยันต์สื่อสารถึงอาจารย์
ศิษย์พี่หลินฮุ่ยยังสงสัยเลยว่าท่านเจ้าเขาวั่งทงมีของดีแบบนี้ให้ศิษย์น้องด้วยหรือ
สรุปว่าผู้บำเพ็ญเพียรขั้นปล่อยวางคนนั้นเป็นน้องชายของเจ้าสำนักแดนสวรรค์คนใหม่
เรื่องนี้ทำให้วั่งทงอยากจัดการจะแย่แล้ว
ยันต์สื่อสารจากสำนักเมฆาเรืองส่งไปถึงสำนักใหญ่ทุกสำนักรวมถึงสำนักพันแสงต้นสังกัดของสำนักแดนสวรรค์ด้วย
พอจินเย่ว์เจ้าสำนักพันแสงทราบข่าว
ตอนแรกจะส่งจ้งสี่ไปดูแลแทนแต่เพราะระยะนี้สภาพจิตไม่มั่นคง
จึงเปลี่ยนเป็นซงเหอไปแทน เมื่อจัดการเรื่องราวเรียบร้อย
ซงเหอเจ้าเขาของสำนักพันแสงยังพำนักอยู่ต่อ ได้เห็นการฝึกวิชาของศิษย์พี่ศิษย์น้องที่ฝ฿กแค่นิดเดียวก็ตามใจศิษย์น้องให้หยุดพักผ่อนซะแล้ว
พอตอนจะจากไปคงโหวยังตามมาส่งซงเหอ แถมยังโดนจับได้ว่าแอบพกนิยายเลยโดนยึดไป
ซงเหอกลับถึงสำนักพันแสง ศิษย์หลานจ้งสี่กลับเห็นนิยายของคงโหวและขอไป
จ้งสี่สำเร็จขั้นแยกกายกลับเกิดจิตมารขึ้นซะก่อน
จึงแนะนำว่าเวลาว่างให้ออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง
ส่วนคงโหวตอนนี้อาจารย์ลุงเจ้าสำนักให้อู้ชวนพาคงโหวไปเลือกของวิเศษคู่ชีพที่เรือนอัญมณี
คงโหวเลือกได้คงโหวหัวหงส์ต่อไปจะเรียกว่าเศียรหงส์แทน
พอออกมาคงโหวก็ขอเข้าฌานกักตัว สองปีต่อมาคงโหวออกจากด่านกักตัวคงโหวได้สำเร็จฌานขั้นพื้นฐานระดับห้า
แต่คงโหวรู้สึกว่าช่วงหลังตัวเองไม่ก้าวหน้าจึงคิดออกไปหาประสบการณ์
อาจารย์ไม่ขัดขวางทั้งยังไปไถหินวิเศษ ของวิเศษจำนวนมากมาให้ศิษย์รักป้องกันตัว
คงโหวออกเดินทาง
ที่แรกที่ไปคือร้านหนังสือฝากบอกหลงจู๊ให้เก็บหนังสือของเมี่ยวปี่เค่อให้ตน
ก็พอดีกับได้พบบุรุษรูปงามที่สนใจงานเขียนของเมี่ยวปี่เค่อเหมือนกัน
เมื่อออกจากเมืองคงโหวยังคงเจอบุรุษชุดขาวที่ดูเจ็บป่วยอีกครั้ง
เมื่อพูดคุยกันจึงรู้ชื่อว่าหวนจงและกำลังเดินทางไปขอยาที่สำนักธารจันทรา
เมื่อแยกกันแล้วคงโหวเดินทางเข้าเมืองชิวเฉิง
พอหาโรงเตี๊ยมพักได้แล้วยังพบเจอกับเหตุฆาตกรรมของสาวใช้ของหลิงปัวแห่งสำนักรุ่งอรุณ
พอเกิดเหตุหลิงปัวไม่ยอมให้คนเดินทางออกจากโรงเตี๊ยม
จากนั้นคงโหวก็ได้เจอหวนจงอีกครั้งโดยที่องครักษ์ของเขาเป็นถึงผู้มีฌานที่คงโหวมองระดับขั้นไม่ออก
จึงขอร้องให้ช่วย หวนจงบอกว่าเขาชื่อหลินหูและบอกว่าได้ ทั้งสองคุยกันถูกคอและหวนจงก็ชวนคงโหวเดินทางไปด้วยกัน
คงโหวบอกว่าตัวเองออกมาหาประสบการณ์ตกลงไปด้วยกัน คงโหวบอกว่า หลิงปัวไม่ให้คนออกจากโรงเตี๊ยมแต่พอหลินหูพูดขึ้นว่าตามกฎจะมากักตัวคนไม่ได้
ก็เริ่มมีคนเห็นด้วยเพราะมีธุระอื่น จะมาติดอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
แล้วคงโหวกับหวนจงก็ส่งกระดาษเขียนข้อความกันไปมาว่าคิดว่าใครเป็นคนร้ายควักหัวใจ
หวนจงบอกว่าชายชุดเทา พอคงโหวสังเกตเห็นก็คิดว่าใช่สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นรู้แจ้ง
หวนจงอยากรู้มากว่าคงโหวคิดอะไร ส่วนคงโหวก็คิดว่าหวนจงฉลาดมาก สองคนนี้นั่งเขียนข้อความส่งไปมาไม่สนใจใครเลย
ทำเอาคนอื่นพูดไม่ออกจริงๆ น่ารักมาก ฮามากๆๆๆ
ต่อมาฉางเต๋อศิษย์พี่ใหญ่ของสำนักรุ่งอรุณก็มาแก้ไขสถานการณ์
และจับมารร้ายที่เป็นคนร้ายได้เพราะคงโหว หวนจงช่วยปกป้องคงโหว
จนตัวเองไอไม่หยุดกลับถูกคงโหวบอกว่าให้รักษาสุขภาพตัวเอง หวนจงที่ไม่ชอบพูดกับคนนอกกับสามารถสนิทกับคงโหวได้ขนาดนี้
เพราะคงโหวน่ารักน่ะสินะ
คงโหวถามหวนจงว่าทำไมถึงรู้ว่าชายชุดเทาเป็นคนร้าย
หวนจงบอกว่าในหนังสือของเมี่ยวปี่เค่อมีบอกไว้ คงโหวรีบถามว่าเล่มไหน
หวนจงบอกว่าเล่มบันทึกการบำเพ็ญวิเวกในหุบเขาร้าง คงโหวบอกว่าจริงๆตัวเองก็มีเล่มนั้น
วันนั้นไปซื้อมาแต่โดนเจ้าเขาซงเหอริบไปเลยขาดเล่มนั้นในชุด
สะสมเป็นชุดด้วยนะเนี่ย
หวนจงให้หลินหูเอาหนังสือนิยายเล่มที่คงโหวไม่มีมาให้ คงโหวดีใจมาก
คงโหวถามหวนจงว่าเป็นศิษย์สำนักไหน พอหวนจงบอกว่าเป็นศิษย์สำนักพันแสง
คงโหวเลยถามถึงจงสี่เจินเหรินว่าสูงเก้าฉื่อ สองเนตรดุจเพลิงจริงหรือ หวนจงงงไปเลย
หวนจงถามว่าได้ยินจากไหน คงโหวบอกว่าข้างนอกพูดกัน หนังสือก็เขียนแบบนั้น
คงโหวยังบอกว่าสวรรค์ยุติธรรม
พูดถึงตัวเองที่พรบิดาทอดทิ้งแต่ได้อาจารย์พามาแดนบำเพ็ญไม่มีความคับแค้นในโชคชะตาตัวเอง
หวนจงบอกว่าการรู้จักพอเป็นสิ่งสำคัญ สามารถปล่อยวางย่อมทำให้ตนมีความสุข
หวนจงจะสอนอะไรให้คงโหวเสมอ และบอกคงโหวว่าจ้งสี่เจินเหรินเป็นบุรุษ
มีฌานขั้นแยกกายเท่านั้น คงโหวบอกอย่างนั้นอย่างอื่นหนังสือโกหกน่ะสิ
ฉางเต๋อจัดงานเลี้ยงรับรอง คงโหวเห็นว่าคนที่ไม่ชอบใจหลิงปัวตอนนี้ก็เปลี่ยนไปอีกแล้ว
โลกภายนอกช่างซับซ้อน หวนจงปลอบคนไม่เป็นยังพยายามจะปลอบ
คงโหวซื้อของพื้นเมืองฝากคนที่สำนัก หวนจงเลยซื้อฝากบ้าง
สำนักพันแสงแตกตื่นกันหมดที่หวนจงซื้อของพื้นเมืองส่งกลับมาให้
เลยใช้ศิษย์ไปสืบข่าวดู ส่วนสำนักเมฆาเรืองกุยหลินศิษย์นอกที่รับเข้ามาใหม่มีความคิดแปลกประหลาด
บอกว่าท่านเจ้าเขายอดเขาแสงทองกับท่านเจ้าเขายอดเขาพักจันทร์ไม่ถูกกันจะเอาของมาฝากกันได้หรือไม่กลัวอาจารย์โกรธหรือ
คงโหวกับหวนจงออกเดินทางจากเมืองชิวเฉิงมุ่งหน้าไปทางตะวันออก
ครั้งนี้หยุดพักในป่าคงโหวบอกว่าจะพักบนต้นไม้หวนจงก็เอาบ้านต้นไม้ออกมา
คงโหวชอบมาก
แล้วคงโหวเตะกองหิมะส่งเดชยังเจอสมุนไพรล้ำค่าหายากที่สำนักพันแสงหามานาน นั้นคือ
ต้นหญ้าสีชาด คงโหวเอามาให้หวนจงบอกว่าหวนจงต้องใช้เก็บรักษาให้ดี คนอื่นหาแทบตายไม่ได้มา
คงโหวเตะหิมะส่งเดชก็ได้ของล้ำค่าหายากโชคคนเราช่างแตกต่างกันจริงๆ
คงโหวบอกให้หวนจงนอนในบ้านต้นไม้ด้วยกัน
แล้วตอนนั้นก็มีผู้บำเพ็ญสำนักพยัคฆ์มังกรผ่านมาจะไปร่วมงานฉลองขั้นปล่อยวางของท่านเจ้าเขาสำนักจิตมงคล
และขอพักอาศัยชั่วคราวจึงไม่เป็นปัญหา ตอนเช้าได้อำลาไปอย่างดี
แต่กลับมีผู้บำเพ็ญกลุ่มหนึ่งที่อายุน้อยถือตนเป็นใหญ่ของสำนักจิตมงคลเสียมารยาทกับเหาะขึ้นไปดูบ้านต้นไม้
ยังไม่ทันที่หลินหู หรือหวนจงจะทำอะไร
ผู้บำเพ็ญเพียรหญิงชุดดำก็ทำการสั่งสอนจนอับอายขายหน้า หวนจงบอกว่านางนามว่าเส่ว์อวี้
นางไม่ชอบสตรีเยาว์วัยหน้าตางดงามที่สุด
หวนจงเห็นคงโหวแอบดูทางช่องหน้าต่างเลยเปิดหน้าต่างให้ดู
เส่ว์อวี้จะจัดการคงโหวแต่เห็นหวนจงอยู่ด้านหลังเลยเปลี่ยนใจ
คงโหวยังไม่รู้เรื่องอีก บอกว่าข้าน่ากลัวมากหรือ นางน่ารักจริงๆ
หวนจงก็ไม่บอกความจริงอีก
หวนจงให้คงโหวมานั่งรถม้าด้วยกัน ทั้งสองคุยกัน คงโหวบอกว่าตัวเองฌานหยุดนิ่ง
ไม่มีความก้าวหน้า หวนจงยังช่วยแนะนำให้คงโหวว่าอาจเกี่ยวกับจิตใจ คงโหวก็รับฟัง
เมื่อไปถึงเมืองซานซู่ ยังได้เจอสตรีชุดดำอีก
หวนจงเล่าเรื่องราวของเส่ว์อวี้ให้คงโหวฟัง คงโหวยังไม่เข้าใจเรื่องทางโลกมากนัก
ตอนนี้คงโหวถามหวนจงว่าอายุเท่าไหร่ หวนจงบอกแค่ว่าอายุมากกว่าเจ้าหลายปี
คงโหวรังเกียจหรือ คงโหวไม่รังเกียจแน่นอนบอกว่าทั้งอาจารย์
ทั้งศิษย์พี่ก็อายุมากกว่าข้าเป็นร้อยปียังเล่นสนุกกันเลย
ไปถึงโรงเตี๊ยมคงโหวสังเกตสภาพความเป็นอยู่ การแต่งกายของลูกจ้าง
และความรักของบิดาที่ถึงยากลำบากแต่ก็ดูแลถนอมบุตร ทำให้คงโหวเข้าฌาน
หวนจงรู้ได้ทันทีและรอให้คงโหวออกจากฌาน
ระหว่างนั้นได้เห็นลูกจ้างถูกผู้บำเพ็ญรังแกก็เข้าช่วยเพราะจำคำพูดของคงโหวได้
ทั้งยังเดินสำรวจเมืองซื้อซาลาเปา
เมื่อนึกได้ว่าคงโหวยังไม่ออกจากฌานก็ส่งให้หลินหู ยังใช้ยันต์รวมพลังแปะที่หน้าประตูห้องของคงโหวอีกด้วย
กลับมาถึงห้องหวนจงหยิบกระบี่คู่ชีพออกมาเห็นบนตัวกระบี่สะท้อนภาพนัยน์ตาเลื่อนลอยของเขา
จึงใช้นิ้วโป้งจี้ลงบนตัวกระบี่ทำให้หยุดเสียงหึ่งๆ และหลินหูเข้ามาเห็นก็บอกว่า สภาพร่างกายแบบนี้ยังไม่ควรใช้กระบี่
และตอนนั้นเองคงโหวก็ตื่นแล้ว
นอกประตูเมืองซานซู่ศิษย์สำนักสายลมถูกพวกมาร
ผู้บำเพ็ญเพียรอวี้โซ่วตามฆ่าจะดูดเอาฌาน ได้เข้ามาขอความช่วยเหลือ
หวนจงเลยสอนคงโหวว่าให้ระวังตัวเผื่อว่าจะเป็นมารปลอมตัวมา
แต่พอรู้ว่าเกิดเรื่องกับสำนักสายลมทั้งที่ทั้งสองสำนักเมื่อสองร้อยปีก่อนต่างแนวคิดกัน
หวนจงยังไปช่วยเหลือ และถามคงโหวว่าเคยสู้กับมารหรือไม่ คงโหวบอกว่ายังไม่เคย
หวนจงเลยให้คงโหวเป็นคนจัดการ คงโหวสามารถต่อสู้ได้ และมีอาวุธคุ้มกายมากมาย
ทั้งเศียรหงส์และกระบี่เกร็ดธาราที่ผู้อาวุโสชิวซวงมอบให้ พอคงโหวสู้เสร็จหวนจงก็ดูแลคงโหวอย่างดี
ทั้งสองส่งยันต์สื่อสารถึงสำนักของตน
เรื่องที่หลินหูรู้จากปากคำที่ได้จากมารที่จับได้ว่าพวกมารเที่ยวไล่เก็บพลังปราณจากฐานจิตผู้บำเพ็ญเพียรเพื่อนำไปหลอมยาลูกกลอน
และพวกมารได้คนมีฌานขั้นแยกกายเพิ่มมาอีกหนึ่ง
พอเจ้าสำนักสายลมมารับพวกศิษย์และรู้ว่าคงโหวกับหวนจงเป็นคนช่วยเหลือยิ่งประโคมข่าวจนคงโหวไม่รู้เรื่องว่าตอนนี้ตัวเองดังแล้ว
เจ้าสำนักพันแสงก็รู้ว่าคงโหวอยู่กับหวนจง รีบส่งของกำนัลไปให้ที่สำนักเมฆาเรือง
เจ้าตัวนี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ออกไปข้างนอกสร้างวีรกรรมอะไรบ้าง ก่อนจากกัน
เย่เฟยจากสำนักเมฆาเรืองที่ชอบคงโหวมากบอกว่าหวังว่าจะพบกันอีกที่งานกระชับมิตร
วันที่จะออกจากเมืองซานซู่ คงโหวได้เจอศิษย์ของสำนักพันแสง
ที่มารับตัวสองมารร้าย และหลินหูแนะนำว่าคงโหวคืออาจารย์อาจากสำนักเมฆาเรือง
คงโหวต้องหาของรับขวัญให้ หวนจงบอกว่าวันหลังไม่ต้องให้ของรับขวัญ
คงโหวถามว่าศิษย์สำนักพันแสงเป็นอย่างนี้หมดหรือ เข้มงวดจริงจัง หวนจงบอกคงโหวว่าแต่ละสำนักล้วนมีความคิดเป็นของตนเองไม่มีผู้ใดถูกหรือผิด
คงโหวบอกว่าท่านคิดอย่างนี้ดีมาก
หวนจงไม่ได้บอกคงโหวว่าเขาเพิ่งเข้าใจเมื่อเร็วๆนี้ว่า
การผ่อนคลายจิตใจไม่ควรถือโทษโกรธเคือง
ไม่งั้นทำไมคงโหวถึงน่ารักน่าเอ็นดูถึงเพียงนี้
ต่อไปคือเมืองอี้เฉิง มีงานปักขึ้นชื่อคงโหวคิดไว้แล้วว่าจะซื้อของฝากให้ใครอย่างไร
ก่อนออกจากเมืองลูกจ้างยังเอาเห็ดป่าสดใหม่มามอบให้
ทุกครั้งหวนจงจะไม่รับแต่ครั้งนี้กลับยอมรับ ออกมานอกเมืองทั้งสามหยุดพักในหุบเขาแห่งหนึ่ง
ยังดีที่ทั้งสองรู้ว่านี่คือการเล่นย่างเห็ด
เอาของดีอย่างเหล็กเสวียนจินที่ใช้หลอมอาวุธล้ำค่ามาเป็นไม้เสียบ
ตอนอยู่กันสองคนหวนจงบอกกับหลินหูว่าตัวเองน่าจะเป็นอาจารย์ของคงโหว
หลินหูบอกว่าแม่นางคงโหวไม่เหมาะจะอยู่สำนักพันแสง หวนจงยอมรับ ตอนนั้นเองที่คงโหวมาเรียกหวนจงไปดูอะไรๆ
คงโหวเจอดอกฟ้าเงิน ที่อายุขัยสั้นกว่าดอกถาน นางเจอของดีอีกแล้ว
ในที่สุดนั่งรถมากันสามวันก็ถึงประตูเมืองอี้เฉิง
หวนจงบอกว่าจะไปคาราวะท่านอู๋หมิงเจินเหริน
คงโหวบอกว่านางจะเป็นคนเคาะประตูเพราะหวนจงหน้าตาดีเกินไป เพราะปกติคนนามอู๋หมิงจะนิสัยแปลกประหลาด
แล้วก็จริงตามนั้นท่านอู๋หมิงไม่ยอมรับช่วยบุรุษหน้าตาดี
คงโหวจะบอกอะไรแม่นป่านนั้นเนี่ย ฮ่าๆๆๆ
คงโหวขอร้องให้ท่านอู๋หมิงรักษาหวนจง
ท่านอู๋หมิงบอกว่าถ้าคงโหวยอมมาเป็นคนงานในร้านสิบปีจะยอมช่วยเหลือ
คงโหวคิดว่าไม่เป็นไร แต่หวนจงไม่ยอม
สุดท้ายท่านอู๋หมิงยอมช่วยเพราะบอกว่าถ้าหวนจงยอมให้คงโหวทำแบบนั้นก็ไม่ยอมรักษาแน่นอน
แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนให้คงโหวเอาดอกฟ้าเงินมาให้ คงโหวก็เอาออกมาทีห่อใหญ่มาก
ของหายากแบบนี้แต่แม่นางน้อยกลับเอาออกมาง่ายๆปานนี้ ทำเอาคนตกใจจริงๆ เมื่อท่านอู๋หมิงตรวจดูก็พบว่าหวนจงจิตมารไม่นิ่งแม้จะไม่ถึงขั้นไร้ทางรักษาแต่ก็ยกยิ่ง
ตอนนี้จะปรุงยาตัวหนึ่งให้อีกเจ็ดวันค่อยมารับ
ทั้งสามออกมาก็มีหลงจู๊ของร้านแดนสวรรค์บอกว่าท่านเจ้าสำนักให้มาเตรียมมอบของให้
พอถึงที่พักตรวจดูถึงเห็นว่าเป็นของใช้ของสตรี
หวนจงที่ไม่เคยใส่ใจอะไรถึงขั้นกวาดตามองโดยไม่ยอมถอนจิตออกมาทีเดียว
หวนจงกับคงโหวไปซื้อของพื้นเมืองกลับสำนักอีกครั้งครั้งนี้ส่งให้ศิษย์พี่หญิงและผู้อาวุโสชิวซวง
หวนจงก็ซื้อเหมือนกันพวกผู้อาวุโสหญิงและนายหญิงใหญ่ในสำนักถูกใจกับของขวัญมาก
คิดว่าในที่สุดหวนจงก็รู้จักใส่ใจคนอื่นบ้างแล้ว
ในโรงเตี๊ยมคงโหวชอบฟังเรื่องราวที่คนพูดคุยกัน
และรู้สึกว่ามีตาเฒ่าที่ยุยงให้สำนักแตกคอกันจึงเข้าไปขัดขวาง
และเรื่องราวก็มารู้ภายหลังว่าเป็นแผนยุยงของพวกพรรคมาร
คงโหวที่เข้าฌานอยู่สามวันออกมาก็มีทูตกระบี่เหินหาวมาส่งของ
คงโหวนึกว่าหวนจงไม่มีเงินตัวเองได้หินวิเศษมาจากผู้อาวุโสชิวซวงห้าหมื่นก้อนคิดว่าตัวเองรวยมากกะว่าจะเอาให้หวนจง
หวนจงที่เข้าแดนลี้ลับสังหารมารมากมายไม่เคยนับว่าตัวเองมีสมบัติเท่าไหร่บอกว่ารับน้ำใจของคงโหวไว้แล้ว
คงโหวนี่น่ารักจริงๆอะไรๆก็คิดถึงหวนจงตลอด
ในห้องโถงเกิดเรื่องระหว่างผู้บำเพ็ญสำนักหยกเขียวกับศิษย์สายตรงสำนักหลิววจีที่ปฏิเสธการแต่งงานในวันแต่งงาน
คงโหวสังเกตเห็นลวี่เยาที่ทำให้เกิดเรื่องก็รู้ว่าแสร้งทำเพราะเห็นคนในวังหลังล้วนเป็นแบบนี้ก็รู้ว่ามีปัญหาจึงนำเรื่องที่พบไปเล่าให้หวนจงฟัง
พอหวนจงฟังจึงสั่งให้ทำการสืบอย่างละเอียดและไม่เห็นด้วยที่สำนักหลิววจีจะขอเข้าเป็นส่วนหนึ่งในสังกัดของสำนักพันแสง
เมื่อเรื่องนี้ไปถึงสำนักพันแสง ทำให้ผู้อาวุโสตัดสินใจเลื่อนเรื่องนี้ออกไปก่อน
พอทางสำนักหลิววจีรู้ก็ทำการสั่งปลดเปี้ยนหงจากการเป็นศิษย์คนโตของสำนัก
เรื่องราวทะเลาะเบาะแว้งที่น่าจะเกิดในแดนบำเพ็ญจึงจบลง เรื่องเหล่านี้ทำให้หลินหูสนใจการฟังเรื่องราวต่างๆของคงโหวมากขึ้นจริงๆ
คงโหวบอกว่าจะช่วยหวนจงหายารักษาและลองถามไปที่สำนัก
อาจารย์ลุงเจ้าสำนักส่งเกล็ดมนุษย์มัจฉามาให้จริงๆ ทั้งที่สำนักพันแสงเคยถามก่อนหน้านี้ก็ได้รับการปฏิเสธแต่ตอนนี้กลับได้มา
คืนนั้นคงโหวต้องฝ่าด่านเคราะห์แห่งจิตนิมิต
หวนจงคอยเฝ้าดูแลความปลอดภัยจนเลยเวลาไปรับยาตามนัดกับท่านอู๋หมิง
คงโหวฝ่าด่านเคราะห์ได้ตอนนี้อยู่ในขั้นจิตหวั่น
เมื่อไปรับยากับท่านอู๋หมิง ที่ให้ใช้ยาเฉพาะเวลาอับจนหนทาง และบอกว่ามีตำรับยาตั้งแต่บรรพกาลที่สามารถสร้างฐานจิตได้ใหม่
หวนจงจึงมอบให้ท่านอู๋หมิงเพราะตัวเองก็มีอยู่
ท่านอู๋หมิงจึงให้เนื้อมัจฉาเหิงกงกับหวนจง
ต่อไปทั้งสามจะเดินทางไปเมืองเยี่ยนเฉิง ต้องข้ามแม่น้ำสายยาว
จริงๆไม่ต้องนั่งเรืองแต่คงโหวกับหวนจงอยากลองดู ซึ่งก็ไม่ได้น่าสบายซักนิด
และยังได้ช่วยเด็กตกน้ำอีกด้วย เข้าเมืองเยี่ยนเฉิงที่มีการตรวจตราอย่างเข้มงวด
ก็ยังเจอพวกมารปลอมตัวมาก่อกวน คงโหวกลัวว่าพวกชาวบ้านจะเดือดร้อนจึงเข้าช่วยเหลือ
จนกระทั่งคุณชายอานเหอเจ้าสำนักวายุคนปัจจุบันมาถึง เป็นคนหน้าตาดีที่ดูหลงตัวเอง
พอเห็นคงโหวที่มีภูมิคุ้มกันบุรุษหน้าตาดีจากหวนจงไม่สนใจก็ถึงกับงง
คงโหวได้เปิดหูเปิดตาในเมืองมาก
ถึงกับคิดว่าพวกนี้ก็สามารถเก็บเงินได้ด้วยหรือ
หวนจงเคยช่วยเจ้าสำนักวายุคนก่อนเลยมีเรือนพักอยู่ในจุดที่ดีที่สุดเพราะทนการเซ้าซี้อยากตอบแทนไม่ไหว
พอเข้าพักมีบ่อนำพุร้อนคงโหวอยากลองแช่มากเพราะเมื่อก่อนนางอยากลองแต่ไม่มีโอกาส
พอแช่น้ำพุร้อนเสร็จ คงโหวก็สังเกตว่าบ่าวรับใช้มีปัญหาจึงร้องขอความช่วยเหลือ
หวนจงใช้กระบี่สังหารมารขั้นปล่อยวางที่ปลอมเป็นบ่าวรับใช้ทันที
และได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ยอมบอกคงโหวทำให้คงโหวโกรธบอกว่าจะไม่พูดด้วยสิบชั่วยามและไปเข้าฌาน
หวนจงทำอะไรไม่ถูกเพราะโดนคงโหวโกรธ
กว่าจะคืนดีได้หวนจงที่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ยังอ้อนเป็นเลย
อานเหอแต่งองค์ทรงเครื่องมาขอเข้าพบผู้มีพระคุณพอเห็นหวนจงหน้าตาดีขนาดนั้นก็คิดอีกว่าในโลกนี้มีคนหน้าตาดีขนาดนี้ด้วยหรือ
เป็นคนที่หลงตัวเองจริงๆ หวนจงบอกว่าจะอยู่ร่วมงานระบำร้อยบุปผา
ในงานมีศิษย์หลานของหวนจงศิษย์สายตรงของเจ้าเขาซงเหอก็มาในงาน หวนจงจำไม่ได้ด้วยซ้ำ
หลินหูต้องคอยบอก และพอทุกคนรู้ว่าเป็นใครก็พากันยกย่อง แต่คนที่คงโหวสนใจคือเจ้าสำนักหมู่บ้านเบญจรส
เพราะตั้งแต่ท่านอาจารย์ลุงเจ้าสำนักรวมถึงทุกคนในสำนักรู้ดีว่าการบำเพ็ญมีหลายรูปแบบ
การบำเพ็ญโดยใช้อาหารก็มี
อาจารย์ลุงพยายามมาโดยตลอดก็ยังไม่สามารถช่วยมาร่วมสังกัดได้เลย ฮาสำนักนี้จริงๆ
หลังอ่านเล่ม 1 :
คงโหวเป็นอัจฉริยะที่เหมาะกับการบำเพ็ญเพียรมาก พอมาเจอกับหวนจงที่เป็นอัจฉริยะเหมือนกัน
ช่างทำให้คนธรรมดาปวดหัวว่าการฝึกของพวกเขาไม่ก้าวหน้า คงโหวเรียนรู้โลกภายนอก
พร้อมกับนำพาความสดใสเข้ามาในชีวิตของหวนจง ทำให้หวนจงเริ่มเปลี่ยนไป
ตามอ่านการตามหายารักษาโรคของหวนจง และการเดินทางหาประสบการณ์ของคงโหวกันต่อในเล่ม
2 เลยค่ะ
มีอะไรน่ารักๆและฮาๆอีกมากในการฝึกบำเพ็ญเพียร
และการเดินทางหาประสบการณ์ของทั้งสองคนที่นิสัยแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงแต่เข้ากันได้ดีที่สุดจริงๆ
เล่ม 2 :
อานเหอเชิญทุกคนไปกินเลี้ยงต่อ
โดยตั้งใจเอาปลามัจฉาเมฆสมปรารถนาออกมาทำอาหาร พอคงโหวชิมแล้วรู้สึกว่าดีต่อการบำรุงฐานจิตก็เอามาให้หวนจง
ทำให้หวนจงซาบซึ้งใจมาก เพราะไม่เคยมีใครเคยทำแบบนี้ให้เขามาก่อน
เอาของดีที่สุดมาให้ตัวเอง
หวนจงเลยคิดถึงสมัยนานมาแล้วตอนเป็นเด็กที่พระมารดาบอกว่าให้จำเอาไว้ว่าถ้ามีคนดีต่อเจ้าถึงขนาดเพียรหาสิ่งที่ดีที่สุดมามอบให้คนผู้นั้นแหละคือชอบเจ้าจากใจจริง
หวนจงไม่เคยเรียนรู้ที่จะรักผู้อื่น
เขาแค่ลองจินตนาการท่าทางของเด็กหนุ่มไร้เดียงสาที่ควรจะมีปฏิสัมพันธ์กับคนธรรมดา
และเขียนเป็นนิยาย พอรู้ว่ามีคนชอบนิยายของเขา เขาดีใจมาก
ก็แค่อยากรู้ว่าเป็นคนแบบไหน กลับพบกับแม่นางน้อยที่สดใสร่าเริง
สรุปว่าหวนจงคือเมี่ยวปี่เค่อที่คงโหวชอบอ่านสินะ แล้วไม่ยอมบอกความจริงคงโหวอีก
เมื่อไหร่คงโหวจะรู้เนี่ย
แต่ตอนนี้ที่คนภายนอกเห็นคือศิษย์หลาน เซี่ยวต้ง ตกใจกับอาจารย์อา
ที่กินน้ำแกงปลาของแม่นางน้อยขนาดนี้ยังกับไม่เคยกินมาก่อน ฮาอีกแล้ว
คงโหวอยากเดินทางไปดูที่หอเป็นสุขเพราะเป็นสำนักในสังกัดของสำนักเมฆาเรือง
หวนจงบอกว่าเดินทางไม่นานก็ถึงระหว่างที่ทั้งสองพูดกัน
ก็พบพวกศิษย์ของหอเป็นสุขที่ทุกอย่างต้องทำนายตลอดกำลังอยากจะขอความช่วยเหลือ
ขอความคุ้มครองจากอานเหอพอดี
คงโหวกับหวนจง เดินเที่ยวดูของฝากในเมืองเยี่ยนเฉิง
จนมาพบกับแผงปลาเค็มที่ไม่มีคนซื้อแต่คงโหวเข้าไปซื้อ ปลาหนึ่งร้อยตัว
ปลาตัวละหินวิเศษครึ่งก้อน ยังต้องซื้อถุงวิเศษแบบใช้ครั้งเดียว ห้ามต่อราคาอีก
คงโหวคิดว่าซื้อเผื่อให้หวนจงเอาไปฝากที่สำนักพันแสงด้วยดีกว่า
พอปลาส่งถึงสำนักคงโหวที่ไม่รู้ว่าเป็นปลาอะไรแต่คนอื่นรู้ว่าคือปลามัจฉาปีกคู่
ปลาที่ท่านลุงพ่อค้าแถมคือมัจฉามังกร ปลาของดีขนาดนี้เอามาขายเป็นปลาเค็ม
คงโหวโชคดีจริงๆ
ตอนนี้ทั้งสองเที่ยวดูโคมไฟในเมือง หวนจงก็ส่งโคมกระจกให้คงโหวถือเล่น
พอกลับถึงที่พักหลินหูเห็นเท่านั้น ถึงกับคิดว่าคุณชายเอาโคมแสงฉานที่มีอานุภาพสยบมารร้ายมาให้ถือเหมือนถือตะเกียงธรรมดาดวงหนึ่ง
ช่างพูดไม่ออกจริงๆ
วันรุ่งขึ้นทั้งหมดก็ออกเดินทางไปหอเป็นสุข ที่อยู่ในเมืองเฟิงเฉิง
ระหว่างทางที่อยู่บนตำหนักลอยฟ้าที่ใกล้จะถึงเขตเมืองเฟิงเฉิงก็มีมารสูงวัย
ผู้อาวุโสโฉดขาวดำ อู๋ขู่เจินเหรินมาล้างแค้นแทนศิษย์ขั้นปล่อยวาง
ผู้เฒ่าอู๋ขู่มีฌานขั้นแยกกายแล้ว มารระดับสูงทีเดียว
คงโหวเอาเศียรหงส์มาสู้
และยังใช้ยันต์คุ้มกายมากมายเหมือนเศรษฐีใหม่อวดรวย ต้านรับได้สองฝ่ามือก็โดนซัดไป
ส่วนหวนจงโดนกักอยู่ในโยงจิตเมามาย หวนจงใช้กระบี่มังกรกัมปนาทสำแดงพลัง
หวนจงบอกว่าหนึ่งร้อยปีก่อนคนของฝ่ายอธรรมที่ชื่ออู๋สี่ก็ตายด้วยกระบี่เล่มนี้
ทำให้อู๋ขู่รู้ว่าหวนจงคือ จ้ง...จ้ง... (จ้งสี่สินะแหงอยู่แล้ว
ตั้งแต่แรกก็บอกอยู่) ระหว่างที่สู้หวนจงสังเกตว่าคงโหวหายไป
ตอนนั้นอู๋ขู่บาดเจ็บแล้ว เก๋อจินบอกว่าคงโหวถูกทำร้ายบาดเจ็บ
หวนจงเลยยังไม่ได้จัดการอู๋ขู่ก็รีบร้อนไปตามหาคงโหว
พอเจอคงโหว คงโหวก็ถามหวนจงว่าจัดการกับอู๋ขู่แล้วใช่ไหม
ในนิยายถ้าทิ้งไว้จะมีเพทภัยตามมา
หวนจงเลยต้องกลับไปจัดการให้สิ้นซากจะได้ไม่ผิดคำพูดของคงโหว
แต่เดี๋ยวนี้ชอบโกหกเรื่อยมาพูดกับหลินหูว่าจัดการตั้งแต่ตอนต่อสู้กันแล้ว
แหมๆโกหกหน้านิ่งมากๆ
ถึงเมืองเฟิงเฉิง
คงโหวได้เจอศิษย์พี่ใหญ่เฉิงอี้ที่ถูกส่งมาดูหอเป็นสุขด้วย
ทั้งหมดไปพักที่พอเป็นสุข ประมุขหอเป็นสุขชอบปลูกต้นไม้ คงโหวชอบฟัง
คงโหวไปเดินเล่นในเมืองก็ยังไปตามหานิยายของเมี่ยวปี่เค่อพอเห็นว่ายังไม่มีเล่มใหม่ออกมาก็คิดว่าจะให้ศิษย์หอเป็นสุขทำนายให้
หวนจงรีบบอกปฏิเสธว่าไม่ควรทันที
เจ้าสำนักหน้าเหลี่ยมอยากแทนที่สำนักเมฆาเรืองวางแผนส่งข่าวบอกสำนักพันแสงเรื่องเกล็ดมนุษย์มัจฉา
แต่เจ้าสำนักพันแสงรู้ว่าเป็นแผนยุยง ฝ่ายนั้นคอยมานานยังไงก็ไม่มีความคืบหน้าของแผนการตัวเอง
ประมุขซุนปลูกต้นไม้กับคงโหวแล้วให้ผลไม้ที่ห้าร้อยปีมีผลหนึ่งครั้ง
คือผลเสาะเมฆา คงโหวรีบถามว่ามีกิ่งหรือไม่
ประมุขซุนบอกว่าแดนลี้ลับกำลังจะเปิดที่เมืองคุยเฉิงเขตพื้นที่ของสำนักจิตมงคล
ที่ประมุขซุนบอกเรื่องพวกนี้เพราะคิดจะประจบคงโหว
แต่ความจริงแล้วประมุขซุนชอบคงโหว ทำนายชะตาคงโหวได้คร่าวๆ
ก้าวขึ้นเหยียบเมฆและมหาลาภ แต่ทำไมถึงมีบาปติดตัว
มีแต่ต้องให้เจ้าสำนักเดือนดาราถึงจะทำนายได้แล้ว
คงโหวรีบไปบอกหวนจง หวนจงบอกให้คงโหวอยู่กับเฉิงอี้อีกนิดค่อยเดินทาง
และระหว่างนั้น ลูกหลานของหวนจงก็มาขอพบประมุขซุน สรุปว่าหวนจงเป็นเชื้อสายราชวงศ์
องค์ชายห้าราชวงศ์ฉู่ ตอนนี้ฉู่จี้เซวียนมีสามรากจิตอยากเข้าสำนัก
บอกว่าชอบทำอาหาร คงโหวเลยบอกว่าให้เดินทางไปด้วยกันพาไปที่หมู่บ้านเบญจรสได้
คงโหวโดนเรียกว่าท่านย่าเทียด ฮามาก ท่านปู่เทียดต่างหาก หวนจงให้เรียกว่าท่านเทียดน้อย
เพราะฉู่จี้เซวียนเป็นลูกหลานของพี่สาม ฉู่จี้เซวียนลำดับญาติผิดคนแล้ว
ถึงหมู่บ้านเบญจรส ท่านประมุขหมู่บ้านเบญจรสไป๋อานเจินเหรินจดจำคงโหวและหวนจงได้
ไป๋อานรับฉู่จี้เซวียนไว้ ถึงตอนอาหารคงโหวกำลังรอกินอยู่
ฉางเต๋อสำนักรุ่งอรุณก็มาอีก คงโหวกินอย่างมีความสุข
กินหมดทุกอย่างทำให้ไป๋อานมาความสุข เอาของดีออกมาให้คงโหวโดยเฉพาะ
ฉางเต๋อเห็นแบบนั้นก็พูดทำนองอยากชวนเข้าสังกัด
คงโหวไม่ยอมทันทีบอกว่าท่านเจ้าสำนักเชิญมาหลายปียังไม่ได้เลย
จากนั้นก็ตามตื้อไป๋อาน จนไป๋อานตอบตกลง
ที่สำนักเมฆาเรืองพอได้รับข่าวก็ดีใจ อาจารย์อาแต่ละคนอยากจะมอบรางวัลพิเศษให้คงโหวทุกคน
และรีบมาหมู่บ้านเบญจรสทันที
คงโหวกับหวนจงเดินทางมาถึงเมืองคุยเฉิง
พบเจ้าสำนักจิตมงคลที่หน้าเหลี่ยมที่สุด เจ้าสำนักซวงชิงเจินเหริน
และตอนนี้ก็ไปเจอกับพวกฉางเต๋อแล้วก็ไปเข้าคารวะที่สำนักจิตมงคลที่แบบมันจะรวยอะไรขนาดนั้น
แต่แปลกที่ในสำนักมีศิษย์ที่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งชื่อสวีเฟิงดูไม่ค่อยปกติ
แต่คงโหวสังเกตแล้วได้รับการดูแลอย่างดี
หวนจงบอกว่าซวงชิงอยากให้สำนักจิตมงคลอยู่ในสิบอันดับแรก
คงโหวบอกว่าคงไม่ได้หมายตาสำนักเมฆาเรืองของนางหรอกนะ
ต้องส่งสารไปเตือนอาจารย์ลุงเจ้าสำนักซะแล้ว
ทั้งหมดรอประตูแดนลี้ลับเปิดระหว่างนั้นพอบุรุษคนไหนมาใกล้มาสนใจคงโหว
หวนจงจะแสดงความไม่พอใจ ตัวเองก็บอกว่าดูแลแบบบิดา
คนอื่นน่ะมองออกตั้งนานแล้วยังไม่รู้ตัว
พอแดนลี้ลับเปิดเข้าไปแล้วแต่ละคนต่างแยกย้ายกันไป
หวนจงอยู่กับคงโหวเพื่อให้คงโหวได้ฝึกประสบการณ์ในการต่อสู้หวนจงจะคอยดูอยู่ข้างๆ
และยังมีโอกาสได้ร่วมบำเพ็ญคู่ฟ้าดิน
ที่มีแต่ผู้มีวาสนาเท่านั้นจะได้พบเจอกันพลังการบำเพ็ญฌานจะก้าวหน้ารวดเร็วขึ้นมาก
ตอนที่ทั้งคู่แยกกัน หวนจงก็เล่นแต่งชุดแดงอลังการเพื่อให้คงโหวเห็นตัวเองได้งานแล้วบอกคนอื่นกับหลินหูว่าหยิบมาส่งๆ
อารมณ์ดีเลยใส่ ตลกซะไม่มี
คงโหวได้คัมภีร์กระบี่ฟ้าดินในตำนานก็เอามาให้หวนจงแล้วบอกว่าเอาไว้เอาไปให้ศิษย์พี่ฝึกด้วย
ส่วนหวนจงทั้งทำลายฟ้าผ่า ทำลายเขตอาคมแต่ไม่เป็นอะไร ในที่สุดก็รู้จากคงโหวว่าบำเพ็ญคู่
คงโหวพูดไม่ละเอียดคนก็เข้าใจผิด มันใช่ที่ไหนบำเพ็ญฟ้าดินต่างหาก
บททดสอบของแดนลี้ลับมีมาให้พวกหวนจง คงโหวและหลิงปัวกับศิษย์สำนักรุ่งอรุณ
จนคงโหวถามถึงเรื่องต้นเสาะเมฆาจนรู้ว่าพอออกผลก็จะเหี่ยวเฉาไป คงโหวเสียใจมาก
แต่มีหวนจงคงโหวบอกว่าตัวเองดวงดีคงได้เจออีก
ถึงตำหนักใหญ่ก็มีจิตวิญญาณแดนลี้ลับออกมาทดสอบ
คงโหวบอกว่าพวกนี้มันใช้ไม่ได้ผลแล้วและแนะนำวิธีการใหม่ๆให้มากมาย
สุดท้ายจิตวิญญาณแดนลี้ลับก็เอาไปทดสอบกับหวนจง
หวนจงที่อยู่อีกห้องเห็นภาพจนคิดว่าเป็นเรื่องจริงเป็นเรื่องของคงโหวจนกระทั่งคงโหวมีข่าวจะแต่งงานหวนจงถึงกับกระอักโลหิต
เขาเพิ่งคิดได้ว่าไม่เคยคิดถึงเรื่องที่คงโหวจะแต่งงาน
ในที่สุดหวนจงเริ่มรู้ตัวแล้ว เหลือแต่คงโหวสินะ
จิตวิญญาณแดนลี้ลับบอกคงโหวกับหวนจงว่าอีกห้าร้อยปีไม่ต้องมาอีก
เพราะเก่งเกินไป คงโหวถามถึงสถานที่ที่เคยมีตัวยารักษาฐานจิตแตกร้าวที่กำลังตามหา
จิตวิญญาณแดนลี้ลับบอกได้สามที่คือทิศทักษิณของทะเลไร้นิวรณ์ ใต้หุบเขาสดับวายุ
และแดนมนุษย์ อยู่ที่แดนมนุษย์เมื่อหนึ่งพันแปดร้อยปีก่อน
และทั้งสองก็ออกมาจากแดนลี้ลับ เมื่อออกมาก็เจอเซี่ยวต้ง หวนจงเลยให้กลับสำนัก
เซี่ยวต้นตกใจขนาดหนักรีบกลับไปรายงานอาจารย์ของตัวเองชางไห่บอกว่าอาจารย์อาจูงมือกับท่านเซียนคงโหวแถมยิ้มให้กันอีก
แตกตื่นขนาดนี้เลย แล้วก็ไปรายงานเจ้าสำนักจินเย่ว์ซึ่งก็ได้รับยันต์สื่อสารจากหวนจงแล้วว่าคงโหวเป็นคู่บำเพ็ญฟ้าดิน
ถึงเทศกาลส่งของขวัญ และอยากฝากตัวเป็นเขยเต็มแก่แล้วเนี่ย อ่านแล้วฮามาก
คงโหวยังไม่รู้เรื่องเลย
คงโหว หวนจงและหลินหูเดินทางไปที่หุบเขาสดับวายุเป็นอันดับแรก
ต้นหญ้าที่คงโหวเก็บมาจากแดนลี้ลับก็เปลี่ยนไปอีกด้วยเพราะทั้งสองใช้น้ำทิพย์รดกันซะขนาดหนัก
คงโหวได้ยินเสียงวิงวอนของชาวบ้านและหวงโฮ่วในแดนมนุษย์ ที่แท้แดนมนุษย์เกิดโลกระบาด
ประมุขซุนบอกว่าคงโหวมีบาปกรรมติดตัว
ตอนนี้คงโหวจึงต้องมาใช้กรรมให้กับชาวประชาในแดนมนุษย์ ผู้ก่อก็คือพระบิดาของนาง
ทรราชจี พวกคงโหวมาถึงก็รู้ว่าโรคระบาดครั้งนี้เกิดจากอาคมของมารร้าย
เป็นเขตอาคมบวงสรวงวิญญาณได้ชื่อว่าสลายหมื่นกระดูก สร้างโดยปรมาจารย์เขตอาคมชั่วแดนอธรรม
เมื่อไปถึงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่เกิดโรคระบาด
คงโหวเห็นแหล่งน้ำถูกไอแค้นไอดำเลยใช้ยาวิเศษของอาจารย์อาชิงหยวนแต่ไม่ได้ผล
หวนจงเลยโยนตราภูสมุทรออกไป คงโหวคิดตั้งนานและบอกว่าเป็นของท่านจ้งสี่นี่
แปลว่าหวนจงเป็นสหายสนิทกับจ้งสี่เลยไม่ยอมเล่าเรื่องให้ฟังใช่ไหม
หลินหูยังงงกับความคิดของคงโหว แค่นี้คิดไม่ออก แม่หนูน้อยนี่
ไปถึงคงโหวไปที่ใจกลางเขตอาคม หวนจงไปด้วยและใช้กระบี่มังกรกัมปนาทสกัดไว้จนต้องทิ้งกระบี่
คงโหวไม่ยอมตามกระบี่ไปและสามารถใช้กระบี่ของหวนจงได้ด้วย
พอกลับขึ้นมาคงโหวก็บอกว่าเห็นใจกลางเขตอาคมมีอีกเขตอาคมเล็ก อีกอันซ้อนอยู่ข้างในหนึ่งพอวาดให้ดูหวนจงก็รู้ว่าเป็นเขตอาคมดูดวิญญาณ
ถ้ามนุษย์ตายวิญญาณถูกช่วงชิงไม่ได้ไปผุดไปเกิดเอามาหลอมอาวุธทำลายล้าง
แดนพ้นโศกต้องเดือดร้อนวุ่นวายเป็นแน่
หวนจงจึงจะใช้พระพุทธรูปทองคำที่ไต้ซือฝ่าถาน แห่งอารามพิสุทธิ์มาโปรดสัตว์
แต่ไต้ซือรูปเดียวน่าจะไม่ไหวเลยนิมนต์มามากหน่อย ไต้ซือฝ่าถานเดินทางมาจากแดนพ้นโศก
ซ้ำยังจะชวนหวนจงกับคงโหวเข้าสำนักอีก
ไต้ซือฝ่าถานและศิษย์สวดมนต์บนก้อนเมฆสามวันสามคืน
เขตอาคมสลายหมื่นกระดูกสลายไปกว่าครึ่ง เขตอาคมดูดวิญญาณยังต้องมีคนไปช่วยปลดปล่อย
คงโหวเป็นคนลงไปช่วยจนตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส พลังปราณหมดสิ้น
เลือดออกทั้งตัวไม่เหลือดี หวนจงตกใจแทบตายจนไต้ซือฝ่าถานบอกว่ารักษาได้
คงโหวสลบไปห้าวัน ยังโดนหวงโฮ่วชิงหลัวดึงวิญญาณออกมา
เมื่อแก้ไขเรื่องราวได้แล้วหวงโฮ่วชิงหลัวได้มอบกรรณหยกให้คงโหว ตอนที่วิญญาณออกจากร่างหวนจงเป็นห่วงคงโหวมาก
และสามารถพาคงโหวกลับมาได้
ระหว่างนั้นปรมาจารย์อาคมชั่วจะใช้วิธีชั่วร้ายทำร้ายคงโหวก็ทำไม่สำเร็จ ตอนที่คงโหวสลบอยู่ศิษย์พี่ใหญ่ของคงโหวยังสำเร็จฌานขั้นปล่อยวางแล้วด้วย
ถึงเวลาต้องกลับแดนพ้นโศกซะที
หวนจงกลับสำนักเมฆาเรืองกับคงโหวด้วย
ในที่สุดคงโหวก็รู้ซะทีว่าหวนจงคือจ้งสี่เจินเหริน
แต่หวนจงน่ะอยากจะอยู่กับคงโหวไม่แยกจากอยู่แล้ว
ตอนนี้คงโหวคุยกับอาจารย์บอกว่าให้หวนจงเข้าฌานกับคงโหวซักครึ่งปี
สำนักพันแสงยึดคนได้ เขาก็ยึดได้เหมือนกัน ศิษย์อาจารย์สองคนนี้นี่
คิดแต่เรื่องอะไรเนี่ย
หลังอ่านเล่ม 2 :
คงโหวก้าวหน้าขึ้นมาก และได้หวนจงดูแลทุกอย่าง
ส่วนหวนจงตอนแรกดูแลไปมา เกิดหวงไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้
แล้วก็มารู้ตัวจนได้ว่าตัวเองรักคงโหว ผู้บำเพียรกระบี่ที่จิตใจนิ่งมั่นคง
มีความรักจนได้ คงโหวทำให้หวนจงดีขึ้น และยังเป็นที่รักของทุกคนอีกด้วย
ใครเห็นก็อดรักอดเอ็นดูคงโหวไม่ได้ มาดูเส้นทางการบำเพ็ญเพียรของคงโหว
และการตามหาตัวยารักษาโรคให้หวนจงกันต่อในเล่มจบกัน
เล่ม 3 :
หวนจงจะอยู่ที่สำนักเมฆาเรืองกับคงโหว
ก่อนหน้านี้สำนักนพหงสาใช้โลหิตหงสามาเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่จะเกี่ยวดองกับสำนักพันแสง
หวนจงตอบปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดเลยทีเดียว ตอนนี้ในสำนักรู้กันหมดแล้วว่าจ้งสี่ไม่เห็นเหมือนที่ลือกันเลย
เพราะว่าหวนจงจะเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนเมื่ออยู่กับคงโหวน่ะสิ
คนที่ไม่เคยเห็ยย่อมไม่รู้ว่าเมื่อก่อนเป็นยังไง
หลังจากคัดเลือกศิษย์ใหม่เข้าสังกัดเจ้าเขาเรียบร้อย
ก็ถึงเวลาที่คงโหวกับหวนจงจะปิดประตูฝึกบำเพ็ญกัน หังเยี่ยนท่านอาจารย์ลุงเจ้าสำนักเอาให้กระถางศักดิ์สิทธิ์มังกรหงส์ในตำนาน
ทั้งสองบำเพ็ญอยู่ด้วยกันทุกวัน สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ คงโหวอยู่กับหวนจงมากๆ
ก็ยิ่งเห็นว่าหวนจงรูปงาม น่าลูบไล้ เลยคิดว่าตัวเองเป็นสตรีมากราคะ ฮามาก ส่วนหวนจงน่ะอายุมากกว่าหักห้ามความต้องการได้มากกว่าเลยไม่ค่อยแสดงออก
คงโหวพอใจเต้นแรงก็นึกว่าลมปราณตัวเองมีปัญหา ยังไม่รู้เรื่องเลยซักนิด
ระหว่างที่ทั้งสองคนปิดถ้ำร่วมบำเพ็ญฟ้าดิน
ภายนอกถ้ำอู้ชวนก็จับได้ว่ามีพวกมารแอบเข้ามาสอดแนมในสำนักโดยปลอมเป็นหลิงฮุ่ย มารร้ายคนนี้เลยโดนสอบสวนมากมายจนทำให้รู้ความเคลื่อนไหวที่รู้ทั้งหมดของฝ่ายมาร
ว่าที่มาเพราะต้องการจะขโมยกระถางศักดิ์สิทธิ์มังกรหงส์เพราะประมุขมารกำลังจะแต่งงานกับหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งแดนอธรรม
เพราะเรื่องนี้อู้ชวนไปค้นบันทึกดูทำให้รู้ว่ากระถางบำเพ็ญยังทำให้ใจสื่อถึงกันใช้กับคู่รัก
พอได้ฟังก็กลัวว่าพอคงโหวออกมาวั่งทงจะอาละวาดขนาดไหน ฮาเข้าไปอีก
พอคงโหวกับหวนจงออกมาจากการบำเพ็ญฟ้าดินทุกคนรออยู่นอกถ้ำเห็นกันหมดว่าทั้งสองจูงมือกัน
ทำเอาวั่งทงต้องส่งกระแสจิตถามศิษย์คนดี พอรู้ก็ไปลองหยั่งเชิงหวนจง
หวนจงก็เป็นสุภาพบุรุษจัดเลยบอกว่าเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้อง
ท่านอาจารย์กลัวคงโหวเสียใจเลยบอกว่าให้ตัดใจแต่ในใจคิดว่าศิษย์ข้าดีขนาดนี้ทำไมไม่สนใจ
ภายนอกเลยปากอย่างใจอย่างบอกว่าไม่ถูกชะตากับจ้งสี่ซะเลย เรื่องเลยวุ่นกันไปหมด
เพราะคงโหวก็ไม่ยอมตัดใจหรอกนะ ไปสารภาพว่าชอบกับหวนจงเองซะเลย
บอกวาเรามาคบกันก่อน หญิงยุคใหม่ไม่ยอมให้ใครแย่งบุรุษหน้าตาที่สุดไปหรอก แล้วหลังงานกระชับมิตรค่อยประกาศ
ตอนนี้หวนจงเลยทวงอยู่เรื่อยว่าจะไม่มอบสถานภาพให้หรือ เมื่อไหร่จะมอบสถานภาพให้
คงโหวเหมือนพวกเจ้าชู้หลอกล่อนางเอกในนิยายชั้นสาม กลับตาละปัดมาก ฮาสุดๆ คงโหวติดนิยายมาก
อะไรก็จะเปรียบกับนิยายตลอดว่าถ้าแบบนี้ในนิยายจะเป็นยังไง นางน่ารักสุดๆ
ระหว่างเดินทางไปงานกระชับมิตรที่สำนักพันแสงพวกมารที่นำโดยนางจิ้งจอกหงเหมียนก็มาโจมตี
แต่สำนักเมฆาเรืองเตรียมการไว้อย่างดี จัดการได้อย่างง่ายดายทั้งยังจับหงเหมียนที่เป็นคู่หมั้นของประมุขมารได้อีกด้วย
ในงานกระชับมิตรหงเหยียนเจ้าสำนักเดือนดาราที่ไม่ค่อยปรากฏตัวได้มาร่วมงานด้วย
ตอนแรกมาเพื่อบอกว่าชะตาของจ้งสี่เจินเหรินที่เป็นความหวังหนึ่งเดียวของแดนบำเพ็ญมีทางแก้
คือต้องรับศิษย์ที่มีชะตาเสริมกัน จินเย่ว์เจ้าสำนักพันแสงกับหวนจงไม่เห็นด้วยตอบปฏิเสธไปทันที
และเพราะในงานตอนที่ร่วมเสวนาสองวันแรกพอคงโหวเข้าร่วมกับใครก็มีคนสำเร็จฌานทั้งสองวัน
ส่วนวันที่สามเป็นฉือซือที่เป็นผู้บำเพ็ญอิสระ
แต่ความจริงแล้วเป็นประมุขมารจิ่วซู่ที่ใช้สถานะฉือซือมาร่วมงาน
สำนักใหญ่ร่วมมือกันใช้หงเหมียนเป็นเหยื่อล่อประมุขมารให้มาติดกับ
โดยหงเหยียนใช้จานดาราส่องหล้าอาวุธเทพของสำนักเดือนดารากักตัวทุกคนไว้ในเขตอาคมเพื่อจะจัดการกับจิ่วซู่ประมุขมาร
และยังเปิดประตูสถิตดาราเพื่อให้คงโหวเข้าไปฝึกฌานด้านในและดูดซับพลังวิเศษที่ผู้อาวุโสรุ่นก่อนๆของสำนักเดือนดาราทิ้งไว้
เป็นสิ่งเดียวที่เป็นความหวังของแดนพ้นโศก เพราะสุดท้ายแล้วคงโหวคือผู้ที่ชะตากำหนดไว้แล้ว
หลังจากออกมาหงเหยียนใช้จานดารากักจิ่วซู่ส่วนจ้งสี่เป็นคนแทงจิ่วซู่บาดเจ็บแต่สุดท้ายก็หนีรอดไปได้
หงเหยียนบาดเจ็บสาหัสจนเสียชีวิต
ส่วยคงโหวสำเร็จฌานแบบก้าวกระโดดสองขั้นจากขั้นจิตหวั่นไปผ่านขั้นเปลี่ยนรูปไปที่ขั้นปล่อยวางทันที
เพราะการฝึกในเจดีย์ฝึกจิตของสำนักเดือนดารา
จินเย่ว์พูดกับผู้อาวุโสชิวซวงเรื่องการแต่งงานของเด็กทั้งสองคน
ผู้อาวุโสบอกว่ารอให้กลับไปพูดกับวั่งทงก่อน ตัวปัญหาอยู่ที่วั่งทงสินะ
หลังกลับสำนักคงโหวทนไม่ไหวเลยบอกอาจารย์ไปเลย
ว่าคบกับหวนจงเห็นอาจารย์เงียบไปนึกว่าอาจารย์โกรธแต่จริงๆอาจารย์พูดไม่ออกต่างหาก
ว่าศิษย์รักเก่งขนาดบุรุษอันดับหนึ่งจ้งสี่เจินเหรินยินดีติดตามโดยไม่มีสถานภาพ แปลว่าแต่ละคนเข้าใจอะไรผิดกันไหมเนี่ย
ฮาๆ
คงโหวตั้งใจไปเยียนสำนักเดือนดาราและไปหุบเขาสดับวายุเพื่อหาตัวยาให้หวนจง
พอไปถึงสำนักเดือนดาราที่ไม่รับแขกหนึ่งร้อยปีแต่เปิดรับคงโหว เมื่อคงโหวหวนจงและหลินหูเข้าไปในสำนัก
วั่งซู่เจ้าสำนักเดือนดาราก็บอกว่าคงโหวต้องเข้าไปฝึกในห้วงมิติขนาดเล็กที่เข้าไปสิบปีเท่ากับข้างในหนึ่งร้อยปีเพื่อฝึกบำเพ็ญตน
ตอนนี้ประมุขมารบาดเจ็บแต่จะต้องกลับมาอีกแน่นอน สุดท้ายคงโหวก็ต้องยอมเข้าไปในห้วงมิติกักตนสิบปี
ระหว่างที่คงโหวกักตนสิบปีหวนจงเฝ้าอยู่ภายนอก
สำนักเมฆาเรืองและสำนักพันแสงร่วมมือกันหาตัวยาที่ต้องการให้หวนจง
จากหุบเข้าสดับวายุเหลือเพียงกิ่งต้นเสาะเมฆาและโลหิตมังกรสองอย่างสุดท้าย
คงโหวก็ออกมาก่อนกำหนด จึงทำการเดินทางไปทะเลไร้นิวรณ์เพื่อหาโลหิตมังกร
และได้พบกับท่านลุงขายปลาเค็ม คงโหวขอให้ท่านลุงช่วยพาออกทะเล ในทะเลเจอสัตว์ประหลาด
และหลงวนอยู่แต่คงโหวก็สามารถพาไปถึงเกาะประหลาดได้
และสุดท้ายยังได้เจอโลหิตมังกรเพราะท่านลุงขายปลาเค็มด้วย ท่านลุงขายปลาเค็มบอกว่าอยากได้บ้านกับร้านค้าที่เมืองยงเฉิงคงโหวตกลงทันที
ทั้งหมดรีบกลับและระหว่างทางก็พูดกันถึงเรื่องต้นเสาะเมฆา
ท่านลุงขายปลาเค็มบอกว่าในรถม้ามีสองต้นนี่นา อ้าวสรุปว่าคงโหวเลี้ยงไว้นานแล้ว
ท่านลุงบอกเป็นกิ่งอ่อนที่แตกออกมาตอนนี้ไม่มีแล้ว แต่คงโหวบอกว่าตอนนั้นเก็บไว้อย่างดีในกล่องหยก
สรุปว่าตัวยาครบโดยไม่รู้ตัว ถ้าเป็นไปตามนิยายตามที่คงโหวชอบอ่าน
จะมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นเพราะฉะนั้นรีบกลับไปหลอมยาก่อนดีกว่า
ระหว่างที่หลอมยา ประมุขสักนักพันแสง ประมุขสำนักเมฆาเรือง
และเหล่าผู้อาวุโสก็ร่วมมือกันวางแผนเตรียมพร้อมงานแต่งงานของคงโหวและรอเวลาจัดการประมุขมารที่คิดว่าต้องมาป่วนในวันงานแน่นอน
ในที่สุดยาวิเศษก็หลอมได้สำเร็จ หวนจงสำเร็จฌานอีกขั้น
มารที่แอบเข้ามาในเมืองยงเฉิงก็ถูกชาวเมืองจับได้
วันงานแต่งงานของคงโหวและหวนจงยิ่งใหญ่อลังการ
ทุกสำนักมาร่วมเป็นแขกในงาน หลังกราบไหว้ฟ้าดินเสร็จ
ด้านนอกพวกพรรคมารก็เข้าโจมตีแต่ก็พลาดเพราะการเตรียมพร้อมของทุกคนในแดนพ้นโศก
เมื่อจิ่วซู่บุกขึ้นเขาเมฆาเรือง ไม่มีทางคิดว่าคงโหวเป็นคนที่สวรรค์ลิขิต
ทั้งหมดต่อสู้กันโดยคงโหวกับหวนจงเป็นกำลังสำคัญ
และพอถึงตอนสำคัญท่านลุงขายปลาเค็มก็ยังมาช่วยเหลือ ในที่สุดก็จัดการประมุขพรรคมารได้
ในที่สุดแดนพ้นโสกก็ปลอดภัย
ท่านลุงขายปลาเค็มต้องเป็นผู้อาวุโสที่เร้นกายในอดีตคุยหลัวเจินเหริน
ที่ตอนนี้สนิทกับคงโหวเลยเล่าให้คงโหวกับฟังว่าเพราะคู่หมั้นของคุยหลัวเจินเหรินคืออวิ๋นเหมยพบว่าคุยหลัวเจินเหรินไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นมังกร
เลยขอแยกทาง ในอดีตผู้บำเพ็ญเพียรไม่ได้ใจกว้างกับผู้บำเพ็ญเพียรเชื้อสายปีศาจอย่างตอนนี้
คงโหวก็ถามว่าแล้วทำไมคุยหลัวเจินเหรินไม่สำเร็จเป็นเซียน
ท่านลุงก็บอกว่าเพราะแดนเซียนไม่มีของอร่อย ไม่มีญาติมิตรแล้วจะเป็นเซียนทำไม
คงโหวบอกว่าท่านลุงแต่งเรื่องแย่มาก เมี่ยวปี่เค่อสนุกกว่าเยอะ แล้วคงโหวกับหวนจงก็มาเยี่ยมท่านลุงทุกปี
เรื่องราวภายหลังมีแต่คำเล่าลือว่าท่านเซียนคงโหวเจินเหรินกับท่านจ้งสี่เจินเหรินบีรรลุฌานขั้นมหายาน
ทั้งสองรวบรวมวิธีการบำเพ็ญ และเข้าไปในแดนลี้ลับและไม่มีใครเห็นอีกเลย
หลังอ่านเล่ม3 :
เรื่องราวจบลงด้วยดี
ความสวีทหวานระหว่างคงโหวและหวนจงมีเต็มพิกัดจนคนอื่นไม่กล้าคิดว่านี่คือท่านจ้งสี่เจินเหริน
กระบี่ที่เฉียบคมในตำนาน คงโหวยังคงความดวงดี
โชคดีจนถึงที่สุดท่านลุงขายปลาเค็มยังคิดเลยว่าหรือจะเป็นโชคดีของคนโง่ เพราะเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
ก็เป็นไปได้ คนอื่นหมดหวังไปแล้วแต่คงโหวก็ยังดวงดีอยู่ต่อไป
เพราะคงโหวทำให้หวนจงรู้ว่าความรักและการปกป้องคืออะไร
ไม่ใช่แค่การฝึกกระบี่อย่างเดียวเท่านั้น
มุมมองการใช้ชีวิตของคงโหวที่ได้จากสำนักเมฆาเรืองทำให้หวนจงเป็นอีกคนหนึ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ทั้งคู่คือคู่สวรรค์สรรสร้างอย่างแท้จริง
เนื้อเรื่อง :
ฤดูหนาวปีที่สามแห่งรัชศกจิ่งหง คงโหว
องค์หญิงผิงหนิงเพิ่งจะเคยออกจากวังหลวงเป็นครั้งที่สาม
ตอนนี้ต้องการซื้อภาพวากน้ำตาลปั้น นางเลือกภาพเซียนหญิงเบิกดาราเหยียบจันทรา
คงโหวชื่นชอบอย่างมากทั้งที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก
เดือนสามประจำปีปฏิทินจันทรคติ
มีงานฉลองประจำปี คงโหวได้ไปร่วมงานในฐานะองค์หญิงราชวงศ์ก่อน
ที่จักรพรรดิไม่ทำอะไรคงโหวเพราะถือเป็นตัวนำโชค
ระหว่างงานเลี้ยงมีเซียนเหยียบเมฆลงมาและมารับตัวคงโหวไป
คงโหวชอบอ่านนิทานเกี่ยวกับการบำเพ็ญเพียรเป็นเซียนอย่างมากแอบมีเก็บไว้สองเล่ม
และแอบภาวนาตลอดว่าวันหนึ่งท่านเซียนจะมารับนาง
ตอนนี้มีท่านเซียนมารับคงโหวบอกว่าตอบแทนบุญคุณ
ติดค้างนางเรื่องเหตุปัจจัย เมื่อวั่งทงฟังคำพูดของคงโหวก็ได้แต่โกหก
ว่าเพราะคำวิงวอนของคงโหวจึงมารับนาง วั่งทงพาคงโหวผ่านประตูแดนพ้นโศก เมืองยงเฉิง
ในที่สุดศิษย์ทั้งสองของวั่งทงก็มารับเฉิงอี้และถานเฟิง
เมื่อมาถึงก็ได้รู้ว่าอาจารย์จะรับคงโหวเป็นศิษย์คนสุดท้าย
วั่งทงติดอยู่ที่ขั้นเปลี่ยนรูปมาสี่ร้อยกว่าปีแล้วจนใกล้หมดอายุไข
ถ้าไม่ใช่เพราะคงโหวคงไม่สามารถผ่านด่านเคราะห์ครั้งนี้ไปได้
ตอนนี้ผ่านขั้นปล่อยวางไปสู่ขั้นรู้แจ้งแล้ว
สำนักเมฆาเรืองเป็นหนึ่งในสิบสำนักใหญ่ในแดนพ้นโศกสำนักอันดับที่เก้า
สำนักนี้ชื่นชอบเรื่องกินเป็นที่สุด ทั้งยังรักพวกพ้อง ชมชอบเรื่องสนุก
คงโหวมาที่สำนักเป็นที่รักใคร่ของทุกคน
เพราะมีห้ารากจิตเหมือนอัจฉริยะแดนพ้นโศกจ้งสี่เจินเหริน
คงโหวไม่ทำให้ผิดหวังเพราะสี่ปีก็สำเร็จขั้นหลอมปราณ สองปีสำเร็จขั้นพื้นฐาน
ระหว่างฝึกบำเพ็ญแนวทางของสำนักจะไม่เร่งรีบ มีพักผ่อน กินอาหารอร่อย
อีกอย่างคือคงโหวชอบอ่านนิยายของเมี่ยวปี่เค่อมาก ต้องออกไปซื้อเล่มใหม่มีโดยตลอด
จนเจ้าเขาซงเหอของสำนักพันแสงมาเยี่ยมและจับได้ว่าคงโหวอ่านนิยายที่เป็นสิ่งไร้สาระแล้วริบนิยายไปเรื่องราวเริ่มต้นขึ้น
เมื่อจ้งสี่ศิษย์คนเดียวของเจ้าสำนักพันแสง
ที่ทั้งชีวิตฝึกแต่กระบี่จนจิตมารเข้าแทรกฐานจิตแตกร้าว
ออกเดินทางพักผ่อนเพื่อหาตัวยารักษาฐานจิตจากตำรายาเมื่อพันปีก่อน
คนชายชุดขาวเดินทางมาเมืองยงเฉิงเพียงเพื่ออยากพบว่าใครที่อ่านนิยายของเมี่ยวปี่เค่อและได้พบว่าเป็นแม่นางน้อยสดใสร่าเริง
ที่กำลังออกเดินทางหาประสบการณ์ครั้งแรก คงโหวและหวนจงจึงเดินทางร่วมกันโดยมีผู้อาวุโสหลินเป็นคนดูแลคุณชาย
เรื่องราวการเดินทางตามหาตัวยาเริ่มขึ้น
ทำให้หวนจงเปลี่ยนจากคุณชายเงียบขรึมเป็นยิ้มได้
เพราะมีคงโหวที่สดใสร่างเริงอยู่ด้วย
ความเปลี่ยนแปลงค่อยๆเริ่มขึ้น ความดวงดี
โชคดีของคงโหวทำให้หวนจงหาตัวยาล้ำค่าพบได้เหมือนของหาง่าย และระหว่างทางความที่มีนิสัยชมชอบเรื่องสนุกของสำนักเมฆาเรืองทำให้ขัดขวางการยุยงให้แตกแยกของพวกมารฝ่ายอธรรมได้บ่อยครั้ง
มาติดตามการตามหาตัวยารักษาหวนจง
การกำจัดเหล่ามารที่คิดแผนการร้ายให้แดนพ้นโศก
และความรักที่ไม่รู้ว่าเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ของกระบี่เย็นเฉียบ
กับแม่นางน้อยสดใสร่างเริง และการบำเพ็ญว่าจะสำเร็จเป็นเซียนกันได้หรือไม่ในเรื่อง
หลังอ่าน :
ในดินแดนพ้นโศก ระหว่างสำนักพันแสงสำนักอันดับหนึ่งที่กฎระเบียบเข้มงวด
ทำอะไรยึดติดแบบแผนกับสำนักเมฆาเรืองที่เอาแต่กิน เที่ยว เอื่อยเฉื่อย
ชมชอบเรื่องสนุก แต่ในความเหลวไหลทั้งหมด
ตลอดพันปีไม่เคยหลุดจากสิบอันดับสำนักใหญ่เก็บงำประกาย
และเพราะคงโหวเป็นศิษย์สำนักนี้ ทำให้นิสัยร่างเริงใครเห็นใครก็รัก
กับหวนจงที่ออกมาท่องเที่ยวหลังจากบาดเจ็บ เดินทางมาหาตัวยาล้ำค่าเพื่อรักษาฐานจิตได้มาพบกัน
ความแตกต่างสุดขั้ว แต่พอมาอยู่ด้วยกันกับลงตัวที่สุด
คงโหวทำให้หวนจงรู้จักความรักและการปกป้อง
หวนจงสามารถทำทุกสิ่งเพื่อคงโหว
ใครจะเชื่อว่าจ้งสี่เจินเหรินอัจฉริยบุคคลจะเป็นอย่างที่เห็น
แต่จริงๆแล้วเป็นเพราะคงโหวถึงได้เป็นแบบนี้
มาดูความรักของทั้งสอง
และเรื่องฮาๆในแต่ละสำนักกับการเดินทางเพื่อตามหายา และการบำเพ็ญเพียรที่ใครต่อใครก็ฝากความหวังเอาไว้กัน
เรื่องราวแนวfeel
good สไตล์นักเขียน
นางเอกเก่งสวย มีความคิดเป็นของตนเอง พระเอกหล่อ รวยที่สุด รักนางเอกที่สุด
และยังมีเรื่องฮาๆระหว่างตัวละครแต่ละตัว
ความคิดที่ไม่เหมือนใครนี่ทำให้นางเอกเป็นนางเอกจริงๆ