Review 30/2562-1/2563
เรื่อง : ตัดสินคนจากหน้าตาก็ต้องเจอแบบนี้ (3 เล่มจบ) (นิยายวาย ช/ช)
ผู้แต่ง : เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง
ผู้แปล : คีตกาล
สำนักพิมพ์โรส
เล่ม 1 พิมพ์ครั้งที่ 2 : พฤษภาคม 2562
โปรยปกหลังเล่ม 1 :
นับตั้งแต่จำความได้ ฉีเยี่ยน
ก็มีเรื่องที่ไม่พอใจในตัวเองอยู่สองอย่าง หนึ่งคือชื่อไม่น่าเกรงขามพอ
สองคือหน้าตาดูไม่น่าเกรงขามยิ่งกว่าชื่อเสียอีก
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ไม่ได้กระทบกับเส้นทางสู่อนาคตอันสดใสของกระต่ายน้อยฝีปากกล้าคนนี้หรอก
ยิ่งมีคู่หูกู้โลกเป็นนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพล ที่มีไอสีม่วงล้ำค่าอย่าง เฉินไป่เฮ่อ
อยู่ใกล้ๆ เขายิ่งไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใด
"เวลาคุณไม่มีธุระอะไรก็ไปกอบกู้โลกด้วยกันกับผมแล้วกันครับ"
"ได้ครับ ถึงเวลาก็อย่าลืมเรียกผมนะ"
คำนำสนพ. เล่ม 1 :
เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่งมีผลงานมาแล้วหลายเรื่อง
ทั้งแนววายและชายหญิงเป็นนักเขียนที่ขึ้นชื่อเรื่องการเขียนเรื่องธรรมดาให้น่าสนใจและชวนติดตามได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ตัดสินคนจากหน้าตาก็ต้องเจอแบบนี้ เป็นเรื่องที่การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างเนิบช้า
แต่ว่าคนอ่านจะไม่มีทางเบื่อ
เพราะมีจังหวะซิตคอมที่ทำให้หลุดหัวเราะออกมาอย่างไม่รู้ตัวแทรกอยู่เป็นระยะ
อ่านไปอมยิ้มไปตลอดเวลา ทั้งยังสอดแทรกประเด็นความรู้ต่างๆ
เกี่ยวกับสังคมอย่างแนบเนียนด้วย
Rose PUBLISHING
เล่ม 1 :
ฉีเยี่ยนนักศึกษาจบใหม่
เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงมาโดยหมอดูฮวงจุ้ย (นักพรตเต๋า? ตาแก่ที่เป็นอาจารย์เก็บมาเลี้ยง) เรียนจบก็สืบทอดวิชาประกอบอาชีพเป็นหมอดูดวงชะตากับดูฮวงจุ้ย
โดยมีกฎในหนึ่งเดือนต้องดูดวงชะตาให้ห้าดวง รับค่าดูดวงห้าร้อยหยวน แต่ห้าร้อยหยวนก็เอาไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศลที่เชื่อถือได้
รับมา ต้องแบ่งปัน ด้วยความที่หน้าเด็ก อายุยังน้อย หน้าตาดี น่ารัก มีลักยิ้มสองข้าง
จึงไม่ค่อยได้รับความเชื่อถือจากคนที่มาดูดวง ต้องผ่านการพิสูจน์ฝีมือ
ได้รู้จักกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักธุรกิจที่มีฐานะดี ได้พบว่าเฉินไป่เฮ่อ
คุณชายห้าแห่งบ้านตระกูลเฉินผู้ทรงอิทธิพล ผู้มีดวงมังกร แต่ร่างกายอ่อนแอ
เพราะสูงค่าจึงหักโค่น มีคนทักว่าจะอยู่ไม่ถึงอายุสามสิบห้าปี
ทุกคนพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยยืดชีวิตเขา แล้วฉีเยี่ยนก็พบหนทางหนึ่ง
พาเขาออกไปช่วยโลก...เรื่องของหมอดูฮวงจุ้ยกับนักธุรกิจใหญ่บ้างาน ที่จริงจังสุดๆ
ท่านห้าเฉินก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงตัวเองจากที่ไม่ค่อยกินอะไร เป็นกินได้ นอนหลับ
ที่บ้านดีใจกันสุดๆ เพราะว่าฉีเยี่ยนพบคนทำพิธียืมชะตาคนอื่น
และได้เฉินไป่เฮ่อที่มีไอสีม่วงมากมายช่วยเอาไว้
จึงรู้ว่ามีวิธีที่สามารถช่วยเฉินไป่เฮ่อได้ เพราะก็มีเพื่อนเป็นฉีเยี่ยนที่ทำอะไรตามสบาย
ชอบกินที่สุด เฉินไป่เฮ่อ ท่านห้าเฉินผู้ทรงอิทธิพลและดวงดีในทุกสถานการณ์จะพาฉีเยี่ยน
เฉียนเฉียนไปกินข้าวอยู่เรื่อย จนตัวเองก็เจริญอาหารไปด้วย
และฉีเยี่ยนก็จะคอยช่วยไป่เฮ่อเช่นกันทั้งคู่ส่งเสริมซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี
เหตุการณ์ที่ฉี่เยี่ยนสามารถแก้ไขที่ทำให้ทุกคนจับตามองก็คือ
เรื่องของเขาหงเหลียงที่เฉียนเฉียนสามารถต่อรองกับเทพแห่เพื่อขออภัยด้วยความจริงใจและสัญญาว่าจะสร้างศาลบูชาเทพแห่งขุนเขา
ซึ่งเฉินไป่เฮ่อก็ได้รับไอชะตาชีวิตสีเขียวเป็นการตอบแทน
และยังมีเหตุการณ์เขตที่อยู่อาศัยลวี่เมิ่งที่มีไอวิญญาณรุนแรง
ถึงแม้จะไม่ชอบเจ้าของแต่ผู้คนที่อยู่อาศัยไม่สมควรได้รับเคราะห์จากที่ดินนี้
ทั้งสองเรื่องนี้ทำให้คนตระกูลใหญ่ต่างตามหาตัวฉีเยี่ยนกันให้ทั่ว
และยังพบว่าได้รับความสนิทสนมกับท่านห้าเฉิน อยู่ติดกันตลอดเวลา
เฉียนเฉียนได้ช่วยพี่ชายสามเฉินเอาไว้
ทำให้คนตระกูลเฉินยิ่งซาบซึ้งบุญคุณเข้าไปใหญ่ ตอนนี้มีเรื่องที่อำเภอหวางเซียง
พี่ชายสามเฉินจึงเตือนฉีเยี่ยน
แต่สุดท้ายแล้วคนของทีมพิเศษที่รับรองโดยอาจารย์เฉียนก่อนหน้านี้ก็มาพบเพื่อขอร้องให้ไป
เมื่อเฉียนเฉียนอ่านรายงานจบรู้ว่ามีคนใช้คนในอำเภอหวางเซียงเป็นเครื่องบูชาก็ตัดสินใจไปช่วยทันที
ทั้งยังเอาอาวุธอาคม และชุดปากว้าที่ตาแก่ อาจารย์ของตัวเองให้ไว้ไปด้วย
เฉินไป่เฮ่อพอติดต่อเฉียนเฉียนไม่ได้ก็รู้ทันทีว่าเฉียนเฉียนต้องไปที่ที่อันตรายอย่าง
อำเภอหวางเซียงแน่นอน
และที่อำเภอหวางเซียงอาจารย์ทั้งหลายก็มองออกแล้วว่าพิธีที่เจอคือพิธีสะกดพยัคฆ์หรือพิธีสะกดชีวิต
ยังเป็นพิธีล้อมพิธี พิธีบูชาสวรรค์อีกด้วย รอให้อีกสามวันถึงวันไหว้พระจันทร์หยิบยืมพลังจากดวงจันทร์คนทั้งอำเภอกว่าห้าแสนคนต้องเสียชีวิตอย่างแน่นอน
ตอนนี้ต้องหาทางทำลายพิธีนี้ให้ได้
หลังอ่านเล่ม 1 :
จากตอนแรก
ฉีเยี่ยนที่เพิ่งเรียนจบก็เริ่มอาชีพดูดวง ดูฮวงจุ้ยอย่างเป็นทางการ แต่ไม่ง่ายขนาดนั้นถ้าจะขอให้ดูฮวงจุ้ยให้เพราะกฎสำนักมีว่าไว้ถ้าชะตาไม่ต้องกันยังไงก็ไม่ทำ
และถ้าเป็นคนไม่มีคุณธรรมแค่จะมองยังไม่อยากจะเสียสายตา
แต่จากการที่ช่วยดูฮวงจุ้ย
ปรับแก้จนบรรดานักธุรกิจเริ่มได้ยินชื่อเสียง
ตระกูลเฉินก็ถือโอกาสเชิญอาจารย์ชื่อดังหลายท่านเพื่อมาดูฮวงจุ้ยสาเหตุเพื่อลูกหลง
ท่านห้าเฉิน เฉินไป่เฮ่อที่ชะตาสูงค่าจนต้องหักโค่น
และเพราะคำพูดและการกระทำทำให้เฉินไป่เฮ่อสนใจฉีเยี่ยน
และยังได้ช่วยชีวิตฉีเยี่ยนโดยไม่ตั้งใจเพราะไอสีม่วงแห่งความโชคดีที่ใครก็ไม่กล้าทำร้าย
ฉีเยี่ยนก็เห็นวิธีในการช่วยเฉินไป่เฮ่อจนทั้งสองสนิทกัน เป็นเพื่อนกัน
ท่านห้าเฉินที่ไม่เคยมีเพื่อนรู้สึกสนิทกับเฉียนเฉียนมาก
จนอยากจะผูกเฉียนเฉียนเอาไว้กับตัวตลอด เอ๊ะ
ความรู้สึกนี้มันเป็นความรู้สึกของเพื่อนสนิทจริงเหรอ
แถมเฉียนเฉียนยังเป็นคนเดียวที่ทำให้ไป่เฮ่อยิ้มได้ หัวเราะได้ คุยโทรศัพท์นาน
ทั้งๆที่จริงๆแล้วเฉินไป่เฮ่อเป็นคนหน้านิ่งหน้าตาไร้ความรู้สึกอีกต่างหาก
รอดูความสัมพันธ์ระหว่างเฉียนเฉียน และไป่เฮ่อ
กับการไปช่วยกันกอบกู้โลกกันต่อไปค่ะ อ่านไปอมยิ้มไปกับความน่ารักของทั้งสองจริงๆ
และได้มุมมองการใช้ชีวิตที่น่าคิดอีกด้วย
เล่ม 2 พิมพ์ครั้งที่ 1 : กุมภาพันธ์ 2562
โปรยปกหลังเล่ม 2 :
นับตั้งแต่จำความได้ ฉีเยี่ยน
ก็มีเรื่องที่ไม่พอใจในตัวเองอยู่สองอย่าง
หนึ่งคือชื่อไม่น่าเกรงขามพอ
สองคือหน้าตาดูไม่น่าเกรงขามยิ่งกว่าชื่อเสียงอีก
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ไม่ได้กระทบกับเส้นทางสู่อนาคตอันสดใส
ของกระต่ายน้อยฝีปากกล้าคนนี้หรอก
ยิ่งมีคู่หูกู้โลกเป็นนักธุรกิจ
ผู้ทรงอิทธิพลที่มีไอสีม่วงล้ำค่าอย่าง เฉินไป่เฮ่อ
อยู่ใกล้ๆ
เขายิ่งไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใด
เฉียนเฉียนเอวบางชะมัด หลังก็ขาวจัง
ไม่รู้สึกมีกล้ามท้องหรือเปล่า
…
เฉียนเฉียนมีกล้ามท้องจริงๆ ด้วย
ดูไปแล้วก็...
ดูไปแล้วก็อยากจะลองจับดูจริงๆ เลย
เล่ม 2 :
อาจารย์ทั้งเก้าคนที่ทีมพิเศษเชิญมามีทั้งนักเวทธรรมดา
ทั้งสายพุทธ ทั้งสายเต๋า ฉีเยี่ยนเป็นสายเต๋า และยังอายุน้อยที่สุด
พอถึงตอนประชุมทุกคนไม่มีวิธีแก้พิธี แต่ฉีเยี่ยนมีวิธีโดยใช้ตามวิธีกระถางสามขาเก้ากระถาง
โดยตัวเองเป็นกระถางใช้ไอวิญญาณมาเติมพิธีบูชาสวรรค์ แย่งชิงชีวิตทั้งหลายกลับมา
และยังดูออกว่าคนที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้มุ่งเป้ามาที่ชาวบ้าน
แต่มุ่งเป้ามาที่นักเวท ให้ใช้ตัวเองเป็นเครื่องสังเวย ให้ตายอยู่บนแท่นบูชา ฉีเยี่ยนยังต้องให้คนคนนึงมาช่วยก็คือเฉินไป่เฮ่อ
จึงให้ทางทีมพิเศษติดต่อไปหาเฉินชิวเซิงพ่อของไป่เฮ่อ ตอนแรกโดนปฏิเสธ คราวนี้
เฉียนเฉียนต่อรองกับทางทีมว่าให้ที่ดินที่ทุกคนหมายตาเป็นสิทธิ์ของไป่เฮ่อ
และตัวเองจะเป็นคนคุยกับพ่อของไป่เฮ่อเอง ซึ่งพอเฉียนเฉียนรับรองความปลอดภัย
พ่อของไป่เฮ่อก็ตกลง
เวลานั้นไป๋เฮ่อก็กำลังพยายามมาที่อำเภอหวังเซียงอยู่แล้ว
แต่ยังไม่มีเที่ยวบิน พอเฉียนเฉียนโทรไป ไป่เฮ่อก็มาได้เลย
แต่จากคุณชายตลอดชีวิตให้มานั่งเที่ยวบินประหยัดอะไรแบบนี้ก็ไม่ชินไปบ้าง
มาถึงก็ได้รับการดูแลอย่างดี ได้อยู่ห้องเดียวกับเฉียนเฉียน
ไป่เฮ่อก็ยิ่งมีความคิดที่ไม่น่าจะมี
เวลาทำพิธีเฉียนเฉียนไม่ได้บอกคนอื่นว่าต้องใช้อะไรบ้าง
ทำให้ตัวเองเกือบเสียชีวิตบนแท่นพิธี แต่ทุกคนก็รอดตาย
ครั้งนี้ทำให้ไปเฮ่อจดจำไปนานถึงตอนที่เฉียนเฉียนนอนจมกองเลือด
และโทษตัวเองตลอดที่ไม่จับมือเฉียนเฉียนให้เร็วกว่านี้
ตอนนี้เองทำให้ไป่เฮ่อดูแลอาหารการกิน อาหารบำรุงเลือด
และรับเฉียนเฉียนไปดูแลที่บ้านตระกูลเฉิน
ตั้งแต่ตอนที่เฉียนเฉียนเข้าโรงพยายาลไป่เฮ่อก็รู้ใจตัวเองแล้วว่านี่คือความรัก
และคนที่รับรู้คนแรกของบ้านก็คือพี่สามเฉิน
เฉียนเฉียนมาพักที่บ้านไป่เฮ่อได้รับการดูแลอย่างดี
จ้าวจื้อเฉิงหัวหน้าทีมพิเศษมาเยี่ยม ฉีเยี่ยนคิดถึงเรื่องพวกค้ามนุษย์ที่ตัวเองและพี่รองไปพัวพันคราวก่อนพอมาคิดดู
และขอให้สืบวันเวลาตกฟากถึงรู้ว่ามีคนเตรียมจะทำพิธีแบบที่อำเภอหวังเซียงที่ตี้ตู
ตอนนี้มีข่าวแพร่ออกมาว่าพวกอาจารย์วิชาเวทอายุน้อยโดนลอบทำร้ายจึงมาเตือนฉีเยี่ยน
และยังบอกว่าอาจารย์เฉียนอยากจะพบ
พอไปพบอาจารย์เฉียนก็ได้อาวุธอาคมจากอาจารย์เฉียน
ก่อนที่อาจารย์เฉียนจะเสียชีวิตในไม่กี่วันต่อมา
ตอนงานศพอาจารย์เฉียน
พวกศิษย์หลายคนไม่พอใจที่อาจารย์เฉียนให้อาวุธอาคมไปกับฉีเยี่ยนตั้งใจมาหาเรื่อง
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ข่าวเรื่องอำเภอหวังเซียงทำให้หยวนฉงอันมาขอร้องฉีเยี่ยนให้ช่วยย้ายฮวงซุ้ยให้
ตอนแรกฉีเยี่ยนยังไม่รับปาก
และก็ยังมีเหตุการณ์ที่หยวนเหิงอวี่จ้างคนมาแอบอ้างเป็นเพื่อนสนิทสมัยเด็กของฉีเยี่ยนถูกเปิดโปง
เป้าหมายเพื่อเข้าใกล้ไป่เฮ่อ ทำให้เฉียนเฉียนปฏิเสธไปอย่างเด็ดขาด
เฉียนเฉียนอยูบ้านไป่เฮ่ออย่างสบายใจ
และยังเข้ากันได้ดีกับรุ่นหลาน เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆโดยเฉพาะถวนถวน
ลูกสาวคนที่สองของพี่ใหญ่เฉิน ถวนถวนใส่ใจคนในบ้านรวมไปถึงป้าจางคนในครัว
เลยมาขอร้องให้เฉียนเฉียนช่วยเหลือ เฉียนเฉียนรู้ว่าป้าจางตามหาลูกชายที่หายตัวไป
ตอนนั้นยังพูดกับไป่เฮ่อเลยว่าถ้าคนมุ่งร้ายมาที่ตระกูลเฉินน่าจะเริ่มจากคนรับใช้ที่บ้าน
และก็เป็นจริง เฉียนเฉียนสกัดป้าจางไม่ให้เข้าใกล้ถวนถวน พาไปส่งโรงเรียนเอง
ทั้งยังเจอผู้ปกครองมีพิรุธถือมีดเข้ามาในโรงเรียน
เฉียนเฉียนเป็นฮีโร่แต่ก็ได้รับบาดเจ็บ ดีที่ไป่เฮ่อตาไวทำให้คนร้ายไม่สามารถเอามีดเปื้อนเลือดเฉียนเฉียนไปได้
สรุปว่าป้าจางจะลักพาตัวถวนถวนให้คนร้ายดีที่เฉียนเฉียนช่วยเอาไว้ได้ก่อน
คนบ้านนี้ยิ่งรักเฉียนเฉียนเข้าไปใหญ่ ไป๋เฮ่อบอกกับพ่อแล้วว่ารักเฉียนเฉียน
ตอนแรกพี่สามนึกว่าพ่อจะตกใจ ที่ไหนได้พ่อรับได้อย่างดี เฉียนเฉียนผู้ไม่รู้เรื่องราวจะมองว่าคนบ้านนี้ตลกดี
(ไม่รู้เลยว่าเป็นเรื่องตัวเองทั้งนั้น)
และแล้วฉีเยี่ยนก็รู้ว่าพวกคุณป้าแถวบ้านเป็นอาจารย์เทวดากันทั้งนั้น
ทั้งป้าหวังข้างบ้านก็ยังเป็นเพื่อนกับตาแก่ อาจารย์ตัวเองเลย
ไป่เฮ่อสารภาพกับเฉียนเฉียนแบบมีความหมายแฝง
ตัวเองก็เริ่มคิดแล้วว่ากลัวไป่เฮ่อบ่นเรื่องกินของอะไร เหมือนกลัวเมีย
แต่ก็ปัดความคิดนั้นทิ้งไป คนอื่นมองออกกันตั้งนานแล้วนี่ยังไม่รู้เรื่อง
จนไป่เฮ่อมาสารภาพแต่ดันเกิดเรื่องกับพี่ใหญ่ก่อน เลยต้องไปกับพี่สาม
กว่าจักลับมาไป่เฮ่อก็ต้องไปร่วมประชุมกับทางการ ตอนขากลับก็ได้จัดการคนร้ายติดตาม
และสุดท้ายได้ตามไปถึงตัวการใหญ่ ตอนนี้คนของหน่วยพิเศษชื่นชมอาจารย์ฉีสุดๆแล้ว
ตอนจะกลับดันได้ข่าวว่าเครื่องบินของไป่เฮ่อถูกปล้น
เฉียนเฉียนเลยทำพิธีขอพรเทพเจ้า ให้ไป่เฮ่อปลอดภัย
ไป่เฮ่อที่อยู่บนเครื่องบินก็รอดมาได้จริงๆ พอกลับมาแล้วรู้ข่าวยังไงก็ต้องสารภาพความในใจให้ได้แล้ว
ในที่สุดทั้งสองคนก็สารภาพความในใจกัน
แต่กลับโดนทั้งพี่รอง และพี่สามเฉินขัดจังหวะ เฉียนเฉียนเห็นแล้วขำบ้านนี้ที่สุด
มีงานสัมมนาวิชาเวทนานาชาติ
คราวนี้จีนเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่เกาะกุหลาบ ฉีเยี่ยนพาเฉินไป่เฮ่อไปด้วย แบบสบายๆ
ไป่เฮ่อก็ออกจะดีใจที่ได้ไปเที่ยวกัน
ประเทศโลซานคอยจะทำลายประเทศจีนอยู่โดยใช้ลวี่กัง
ศิษย์คนรองของอาจารย์เฉียนที่ไม่ถูกกับฉีเยี่ยนมาเป็นเครื่องมือแต่ล้มเหลวไม่เป็นท่า
ตอนที่ประชุมกันอาจารย์ทั้งหลายพูดถึงยันต์เพื่อป้องกันประเทศโลซานที่จ้องชีพจรมังกรดวงตาพยัคฆ์
เฉียนเฉียนก็เอาออกมาเป็นปึกแบบไม่มีกั๊กทำคนตกใจแทบตายเพราะบางอย่างไม่มีให้เห็นอีกแล้วอย่าง
ยันต์เชิญเทพ
หลังอ่านเล่ม 2 :
เนื้อเรื่องแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเฉียนเฉียนว่ามีมากขนาดไหน
แต่เจ้าตัวก็ไม่ค่อยรู้หรอก เพราะฟังตาแก่โม้มาตลอดไม่คิดว่าเรื่องจริง
กับไป่เฮ่อรู้ใจตัวเองก็เริ่มดูแลเฉียนเฉียนอย่างดีไม่มีห่างกว่า
เฉียนเฉียนจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ทำเอาคนที่บ้านลุ้นกันไป
มีทั้งคนบื้อเหมือนเฉียนเฉียนกับคนที่มองออก ก็ฮากันไป
ตอนนี้เริ่มรู้แล้วว่าประเทศจีน กับนักเวทชาวจีนกำลังเผชิญกับอะไร
ก็ต้องอาศัยความสามารถของอาจารย์ฉีแล้ว
เพราะอาจารย์ฉีเป็นเจ้าสำนักหนึ่งสวรรค์รุ่นที่ยี่สิบสาม คนเก่งไม่ต้องโอ้อวดตัวเอง
ทำอะไรปิดทองหลังพระนะจะบอกให้
เล่ม 3 พิมพ์ครั้งที่ 1 : พฤษภาคม 2562
โปรยปกหลังเล่ม 3 :
นับตั้งแต่จำความได้ "ฉีเยี่ยน"
ก็มีเรื่องที่ไม่พอใจในตัวเองอยู่สองอย่าง
หนึ่งคือชื่อไม่น่าเกรงขามพอ
สองคือหน้าตาดูไม่น่าเกรงขามยิ่งกว่าชื่อเสียอีก
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ไม่ได้กระทบกับเส้นทางสู่อนาคตอันสดใส
ของกระต่ายน้อยฝีปากกล้าคนนี้หรอก
ยิ่งมีคู่หูกู้โลกเป็นนักธุรกิจ
ผู้ทรงอิทธิพลที่มีไอสีม่วงล้ำค่าอย่าง "เฉินไป่เฮ่อ"
อยู่ใกล้ๆ
เขายิ่งไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใด
"คุณไม่กลัวเหรอครับว่า
ถ้าความสัมพันธ์ของเราเปิดเผยออกไป
จะกระทบกับธุรกิจของบริษัทคุณ"
ฉีเยี่ยนหัวเราะคิก
"ไม่กลัวหรอก"
เฉินไป่เฮ่อคิดแล้วคิดอีก
"ถ้าธุรกิจไม่ดี
ผมก็ให้พี่ชายพี่สาวเลี้ยงพวกเราก็ได้
ยิ่งไปกว่านั้น
คุณดูฮวงจุ้ยดูดวงเก่งออกจะตายไป
พวกเราคงไม่อดตายหรอก"
"แล้ววันข้างหน้าเวลาพวกคุณชายในตี้ตูทั้งหลายพูดถึงคุณ
ก็จะเปลี่ยนมาเรียกคุณว่าท่านห้าเฉินผู้เกาะคนอื่นกิน"
ฉีเยี่ยนนึกถึงภาพแบบนั้นแล้วก็แปลกดีที่รู้สึกเหมือนจะไม่เลวเหมือนกัน
"ผมเกาะผู้ชายของผมกิน
มันก็ถูกต้องเหมาะสมแล้วไม่ใช่เหรอ"
เฉินไป่เฮ่อก้มลงมองฉีเยี่ยน
"คุณว่าถูกไหมล่ะ หือ"
เล่ม 3 :
อาจารย์ทั้งหลายเห็นยันต์ที่เคยเห็นแต่ในตำรา
แต่ฉีเยี่ยนหยิบออกมาและบอกว่าเป็นของนอกกายธรรมดา พวกอาจารย์จึงสงสัยว่าอาจารย์ของฉีเยี่ยนคือใคร
ในที่สุดก็รู้ว่าคืออาจารย์อู๋ฮุ่ย ที่หาชีพจรมังกรของอาคารรับรองแห่งชาติท่านนั้น
เฉียนเฉียนถึงเพิ่งรู้ว่าสิ่งที่ตาแก่พูดอย่างไม่สนใจ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นความจริง
งานสัมมนาคราวนี้ประเทศโลซานจ้องจะจัดการประเทศจีน และจะใช้ลวี่กังมาทำให้แตกคอกันแต่ก็ไม่เป็นผล
พอถึงตอนประลอง โต้วาทีทั้งคู่ปากจัดทำให้ประเทศอื่นแพ้ไปได้
พอจบการแข่งขันก็เมินหน้าใส่กันอีก การประลองเวทที่ประเทศจีนไม่เคยชนะมาเลย
คราวนี้ได้ฉีเยี่ยนทำให้ชนะได้อย่างงดงามในรอบยี่สิบแปดปี ตอนที่แข่งประลองเวททางโลซานได้ใช้เวทชั่วร้ายจะทำร้ายฉีเยี่ยนแต่ฉีเยี่ยนก็เก่งพอที่จะทำให้มันสะท้อนกลับไปหาเจ้าของได้
และตอนนี้ประเทศโลซานก็คิดหาวิธีต่างๆมาจัดการฉีเยี่ยนต่อไป
พอกลับมาถึงตี้ตูที่สนามบินฉีเยี่ยนกับเฉินไป่เฮ่อได้เจอกับกลุ่มแฟนคลับดาราที่มาต้อนรับที่สนามบิน
ดาราคนนั้นคือเถาเหยียน ที่เคยเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยกับเฉินไป่เฮ่อ
แต่ไป่เฮ่อไม่มีความทรงจำของคนคนนี้อยู่เลย
เฉียนเฉียนเคยรับปากพี่สาม
หวังหังว่าจะช่วยดูฮวงซุ้ยให้ญาติตอนนี้ก็เลยได้พบและทำการไปหาชีพจรมังกร
ซึ่งก็เจอกับหยวนฉงอันพอดีที่มาหาที่จะย้ายฮวงซุ้ย แต่สำหรับหยวนฉงอันนั้นได้เพียงชีพจรมังกรไป
และอาจารย์ที่มาดูฮวงจุ้ยให้ก็เป็นพวกทำแต่เรื่องเลวร้าย
สุดท้ายก็แพ้ภัยตัวเองเพราะจะทำลายชีพจรมังกรก็ต้องโดนฉีเยี่ยนจัดการ
ด้วยความสนุกเพราะพวกนี้ฉีเยี่ยนเล่นเต็มที่ไม่เหมือนอาจารย์ที่เจอที่มีคุณธรรม
และยังได้กล่าวกับหยวนฉงอันว่าถ้ายังไม่รีบหาอาจารย์ฮวงจุ้ยอีกตระกูลหยวนคงจบสิ้นลง
เพราะเรื่องตระกูลหยวน
เถาเหยียนที่เป็นดาราก็รับงานเกี่ยวกับตระกูลหยวนเป็นส่วนใหญ่ตอนนี้จึงตกต่ำอย่างหนัก
นึกถึงเฉินไป่เฮ่อแต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น เลยนึกถึงอาของตนเถาอี้หรู ที่ฐานะมั่งคั่ง
แต่เพราะพ่อและปู่ของเถาเหยียนได้ทำลูกชายของเถาอี้หรูหายทำให้ตัดขาดกันไปนานแล้ว
พอเถาเหยียนมาเห็นวิลล่าและสมบัติของเถาอี้หรูความคิดที่ไม่พึ่งมีก็เกิดขึ้น
ถ้าประจบอาของตนมากหน่อยก็น่าจะเป็นผู้สืบทอดได้ ทำนองนั้น
มีงานเลี้ยงคอกเทลของคนใหญ่คนโต
เชื่อมสัมพันธ์ทางธุรกิจ พี่สามเฉินบอกไป่เฮ่อให้พาเฉียนเฉียนไปร่วมงานเพื่อเปิดตัว
งานนี้สุดท้าย
ทำให้เถาอี้หรูได้เจอเฉียนเฉียนและมีความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ สุดท้าย
เห็นนิ้วเท้าที่ไม่เหมือนใครของเฉียนเฉียนก็ยืนยันว่าฉีเยี่ยนคือลูกชายของตัวเองที่หายไป
ฉีเยี่ยนตกใจแต่ก็ยอมตรวจดีเอ็นเอกับเถาอี้หรู
แต่ก็เตือนว่าให้เผื่อใจไว้
แต่สุดท้ายผลก็คือฉีเยี่ยนคือลูกชายของเถาอี้หรูที่หายไปจริงๆ
ตอนที่ดูเวลาตกฟากของเสิ่นซีลูกชายของเถาอี้หรูฉีเยี่ยนได้บอกแล้วว่าฟื้นดวงอายุสั้น
ฉีเยี่ยนก็คิดได้ว่าตาแก่ตั้งชื่อให้ใหม่ เสิ่นซีตายแล้วแต่ฉีเยี่ยนยังอยู่
เมื่อพ้นวันเกิดอายุยี่สิบสองก็จะมาความสุข ในที่สุดแม่ลูกก็ได้เจอกัน
และทำความรู้จักกันใหม่
ครอบครัวของไป่เฮ่อและเถาอี้หรูยอมรับความสัมพันธ์ของทั้งคู่
และตอนนี้เถาอี้หรูก็ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าตนได้เจอลูกชายที่หายไปแล้ว
เถาเหยียนที่คิดอยากเป็นทายาทเถาอี้หรูหมดสิทธิ์ประจบประแจง
ตอนนี้มีงานเข้าน้อย ได้บทนักแสดงเล็กไปแสดงที่ต่างประเทศก็โดนลักพาตัวไป
แลกกับให้บอกวันเวลาตกฟากของฉีเยี่ยนกับความโด่งดังในอนาคต
ที่แท้คนที่จับเถาเหยียนไปก็คือคนของประเทศโลซานที่ต้องการแก้แค้นฉีเยี่ยนนั้นเอง แต่ดันบอกว่าเวลาตกฟากเป็นดวงของคนที่ตายแล้ว
เถาเหยียนยอมบอกความจริงก็ยังไม่ใช่อยู่ดี แต่ได้โทรแจ้งสถานทูตแล้ว
ทางการเลยได้ข่าวและช่วยออกมาได้
ฉีเยี่ยนก็รู้ข่าวตอนนั้นเลย
ขณะที่จัดงานวันเกิดอยู่ แต่ดวงนั้นเป็นดวงของเสิ่นซี เสิ่นซีไม่ใช่เขา
วันเวลาตกฟากที่แท้จริงตาแก่ได้ช่วงชิงเส้นทางสายหนึ่งมาให้เขาแล้ว
ตอนนี้จึงคิดวิธีจัดการพวกชาวโลซานที่ไม่จบซักที
เข้าไปคุยกับอาจารย์ในกลุ่มโซเชียลจนแต่ละคนเหมือนคนแก่ติดเล่นโทรศัพท์กันมาก
และคุยกันถึงอาจารย์เทวดา เฉียนเฉียนก็บอกว่าตัวเองเป็นอาจารย์เทวดา
ทำเอาทุกคนตกใจ และจะพาอาจารย์เทวดามาให้รู้จัก
อาจารย์เทวดาก็คือเพื่อของตาแก่อาจารย์ตัวเองนั่นเอง
ป้าห่าวที่เป็นเพื่อนกับป้าหวังข้างบ้าน
เฉียนเฉียนบอกว่าจะใช้ชีพจรมังกรปกป้องคนจีน จากคนภายนอก
ในที่สุดป้าห่าวยอมช่วยเหลือและอาจารย์เทวดา ก็เป็นตาเฒ่า
ยายเฒ่าแถวบ้านเขาทั้งนั้น มีทั้งเปิดร้านขายผลไม้ ร้านเช่าหนังสือ นัดกันมาเล่นไพ่นกกระจอก
สรุปว่าทุกคนยอมช่วยเฉียนเฉียนแต่ออกจะผิดประเด็นไปบ้าง เพราะคุณลุงคุณป้า
อยากไปเที่ยวโดยอาศัยเงินทางการเที่ยวแล้วเอามาอวดกัน
จะผิดวัตถุประสงค์ไปไกลเกินไปหน่อยไหมเนี่ย
แต่สุดท้ายทุกคนก็ยอมตกลงช่วยเฉียนเฉียน
ทุกคนมาบูชาสวรรค์ที่เขาเวิ่นติ่ง
ดูเหมือนง่ายแต่ความจริงยากลำบากแต่สุดท้ายก็สำเร็จ
ทั้งยังได้รับความช่วยเหลือจากไอสีม่วงของไป่เฮ่ออีกด้วย
และก็รอวันปีใหม่ที่ทุกคนต่างอวยพรกันเพื่อทำพิธีในวันนั้น
พอถึงวันปีใหม่จีนซึ่งก็คือวันตรุษจีนในอีกสิบวัน
อาจารย์เทวดาทั้งห้าต่างก็แยกย้ายกันไปทำพิธีกัน
โดยฉีเยี่ยนให้อาจารย์เผยกับลวี่กังมาช่วย
ครั้งนี้ฉีเยี่ยนได้บอกถึงเหตุผลที่อาจารย์เฉียนมอบอาวุธอาคมให้ไว้
และสาเหตุที่ทำให้ทุกคนต่างทำดีต่อลวี่กัง และเพราะนี่เป็นการบูชาสวรรค์ครั้งใหญ่
คนของประเทศโลซานก็คิดใช้อาจารย์ถานที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังทำพิธีสาป
ซึ่งฉีเยี่ยนก็รอเวลาอยู่แล้วและแสดงฝีมือของอาจารย์เทวดา สะท้อนคำสาปกลับไป
อาจารย์ถานที่เป็นคนจีนแต่ไปใช้ชีวิตอยู่ประเทศโลซาน
วาระสุดท้ายของชีวิตก็ยังคิดได้ถึงช่วงวัยเด็กที่บ้านเกิด
พวกอาจารย์เทวดา สามารถทำพิธีขอพรได้สำเร็จ
ประเทศจีนจะร่มเย็นไปอีกร้อยปี แม้จะไม่มีใครรู้แต่
นี่ก็เป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้กับชาวจีน
หลังจากนั้นฉีเยี่ยนก็เปิดออฟฟิศวิจัยวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน
ในสถานที่สุดแพง ทำงานสองวันปิดสามวัน แต่ผู้จะมาดูดวงชะตาก็ต้องมีชะตาต้องกัน
ไม่ใช่ใครๆก็มาดูกันได้ และอาจารย์ฉีก็ยังคงอวดความรักในกรุ๊ปต่อไป
หลังอ่านเล่ม 3 :
เนื้อเรื่องโดยรวมมุ่งไปที่ชาวต่างชาติตั้งใจทำลาย
ชีพจรมังกรของจีน แต่ก็มีอาจารย์ฮวงจุ้ย
อาจารย์เทวดากลุ่มหนึ่งที่เร้นกายไปแล้วได้กลับมาช่วยเหลือประเทศชาติอีกครั้งเพราะการขอร้องของฉีเยี่ยน
ที่ในที่สุดก็เปิดเผยตัวว่าเป็นอาจารย์เทวดาเช่นกัน
เส้นเรื่องเฉียนเฉียนจะชี้ให้เห็นตลอดว่าให้เชื่อวิทยาศาสตร์ทั้งๆที่ตัวเองเป็นอาจารย์ฮวงจุ้ย
ต้องเชื่อในการทำความดี ติดหนี้ไว้ต้องชดใช้ไม่ว่าจะนานแค่ไหน
เจ้าหนี้ลืมไปแล้วแต่สวรรค์ยังไม่ลืม และการใช้ชีวิตที่ต้องทำความดี สะสมความดี
เอาไว้ไม่ใช่ใช้จนหมด
ความคิดและการปฏิบัติตัวของตัวเอกที่เป็นไปตามสบาย
ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะง่ายไปหมด ต้องพึ่งตัวเอง ตัวเอกจะพูดบ่อยๆว่า
ผมไม่ใช่เทพเซียน ไม่ได้รู้ทุกอย่าง แต่ก็สามารถบอกได้ส่วนหนึ่ง ที่เอามาใช้เป็นหลักอ้างอิงได้
ถ้าหาเส้นทางนั้นเจอ
เนื้อเรื่อง :
ฉีเยี่ยนนักศึกษาเพิ่งจบใหม่กำลังย้ายออกจากหอพักที่มหาวิทยาลัย
ได้อาจารย์ฮวงจุ้ยเลี้ยงดูมาแต่เด็ก มีกฎหนึ่งของสำนักคือ
ในหนึ่งเดือนต้องดูดวงห้าดวง เก็บเงินค่าดูห้าร้อยหยวน
เงินที่ได้มาไม่อาจใช้ได้ต้องบริจาคไป
ที่หอพักนั้นฉีเยี่ยนมีพี่น้องที่สนิทกันรวมตัวเองเป็นสี่คน มีพี่ใหญ่ พี่รอง
พี่สาม และเฉียนเฉียน ซึ่งหน้าตาน่ารัก หน้าเหมือนตุ๊กตามีลักยิ้ม แต่กินเก่งมาก
เมื่อแยกย้ายกันไป
อาจารย์ได้ทิ้งห้องพักให้หนึ่งห้อง และเฉียนเฉียนก็ทำตัวตามสบาย
คอยช่วยเหลือคนโดยไม่หวังผลตอบแทน
มีหลายครั้งที่ได้ทำลายพิธียืมดวงที่เป็นพิธีกรรมสกปรก
เมื่อเริ่มดูดวง และมีชื่อเสียงในหมู่นักธุรกิจ
จนได้พบกับเฉินไป่เฮ่อ ท่านห้าเฉินที่ชะตาสูงค่าจนหักโค่น
แต่เพราะฉีเยี่ยนมองเห็นไอสีม่วงมากมายรอบตัวเฉินไป่เฮ่อ และทำตัวต่างจากคนอื่นๆ
ทำให้เฉินไป่เฮ่อสนใจตั้งแต่แรก และได้ต่อชะตาชีวิตให้ไป่เฮ่อด้วย
เฉินไป่เฮ่อจึงเริ่มมองฉีเยี่ยนและคอยตามดู
จนคอยช่วยเหลือโดยไม่รู้ตัวเพราะไอสีม่วงของตัวเอง
ทำให้ฉีเยี่ยนคิดวิธีช่วยเฉินไป่เฮ่อได้ ทำให้ทั้งสองสนิทกัน
ครอบครัวตระกูลเฉินที่สูงศักดิ์ก็ดีใจที่เฉินไป่เฮ่อแข็งแรงขึ้น
และสดใสขึ้น จนรู้ว่าเพราะอาจารย์ฉีเป็นคนช่วยเหลือ เมื่อคบกันไปเรื่อยๆ
ฉีเยี่ยนที่ไม่เคยมีครอบครัวก็สนิทกับไป่เฮ่อมาก และเรียกว่าเป็นพี่น้องกัน
แต่ไป่เฮ่อกลับเริ่มคิดกับเฉียนเฉียนในแง่นั้นโดยเจ้าตัวก็ไม่รู้ จนกระทั่งเกิดเรื่องใหญ่เป็นตายขึ้นไป่เฮ่อถึงได้บอกกับพี่สาม
และบอกพ่อ ดีที่บ้านนี้รับได้อย่างดี ในขณะที่ตระกูลใหญ่อื่นๆมองดูเรื่องสนุก
แต่ไม่กล้าทำอะไร เพราะตระกูลเฉินเป็นตระกูลสูงศักดิ์มีคุณธรรม
เฉียนเฉียนเข้าไปช่วยเหลือคดีต่างๆมากมาย จนในที่สุดก็โยงได้ว่ามีคนคิดยุ่งกับชีพจรมังกรของจีน
ฉีเยี่ยนก็ตามแก้ไปเรื่อยๆ
จนในที่สุดก็เปิดเผยออกมาว่าที่แท้ฉีเยี่ยนเป็นคนของสำนักหนึ่งสวรรค์
อาจารย์คืออู๋ฮุ่ยที่หายไปนานท่านั้น
และอาจารย์เทวดาก็เป็นคนธรรมดาที่อยู่ในที่ธรรมดา ซึ่งก็คือตาแก่ของตัวเองและป้า
ลุงในเขตที่อยู่อาศัยที่เป็นเพื่อนกับอาจารย์ตัวเอง มาหาที่อยู่ใกล้ๆกัน
มาช่วยกันปกป้องชีพจรมังกรของจีนจากการทำลายของต่างชาติ
ช่วยคนจีนอีกมากมายให้อยู่อย่างสงบสุขไปอีกเป็นร้อยปี
หลังอ่าน :
เนื้อเรื่องแสดงให้เห็นถึงการใช้ชีวิตที่อิสระ
แต่คงไว้ซึ่งคุณธรรมความดี
เฉียนเฉียนพูดอยู่เรื่อยๆว่าผมไม่ใช่เทพเซียนไม่สามารถรู้ได้ทุกเรื่อง
เพราะมีหลายครั้งที่แต่ละคนจะถามว่าอาจารย์ฉีแล้วอย่างนี้จะทำยังไงกันดี
ตัวเอกแสดงให้เห็นถึงวิธีคิด
และการดำเนินชีวิตที่ดีงาม ให้คนได้เห็นผ่านการพูด และการกระทำ
การอธิบายให้เชื่อทางวิทยาศาตร์ไม่ใช่เชื่อในผีสาง
ที่ขัดกับตัวเองที่เป็นอาจารย์ฮวงจุ้ย
และยังแสดงให้เห็นถึงการกระทำต่างๆถ้าทำยังไงก็ได้ผลลัพธ์เช่นนั้น
ดังตัวละครต่างๆในเรื่องที่ไม่ทิ้งปมเอาไว้เลยทีเดียว
มีการเอ่ยถึง และผลที่ได้
เมื่อกระทำเรื่องราวต่างๆทั้งดี และร้าย ให้คนอ่านได้พิจารณา และเรียนรู้
ไม่ใช่แค่นิยายเรื่องหนึ่ง แต่ยังให้แง่คิดอีกมากมาย ทั้งเรื่องการรักษาธรรมชาติ
และการใช้ชีวิต ทั้งยังมีมุกตลก มุกฮาสอดแทรกตลอดเวลา มุกอวดความรักแบบสุดๆของตัวเอกทั้งสอง
มุกที่คนสนิทแต่ละคนกลายเป็นหมาเหงา
มุกที่อ่านแล้วฮาเป็นระยะกับเนื้อเรื่องที่สนุก
และอาหารที่อร่อยตลอดเรื่องเพราะนายเอกเป็นนักกินตัวยงทีเดียว