Review
9/2562
เรื่อง : ปรปักษ์จำนน (4 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : เผิงไหลเค่อ
ผู้แปล : ถังเจวียน
สนพ. แจ่มใส
(มากกว่ารัก)
พิมพ์ครั้งที่1
: มีนาคม 2562
ปกหลัง :
ในภาพนิมิตของ ‘เสี่ยวเฉียว’ ...
สกุลเฉียวจะล่มสลาย
สกุลเว่ยรวมแผ่นดินเป็นหนึ่ง พี่สาวถูกบีบให้ต้องฆ่าตัวตาย
นางต้องตายอย่างไร้แผ่นดินกลบฝัง!
เสี่ยวเฉียวเพียงมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงการล่มสลายของสกุลเฉียว
แม้แต่ตนเองต้องแต่งเข้าสกุลเว่ยที่จงเกลียดสกุลเฉียวแทนพี่สาวนางก็ไม่หวาดหวั่นแต่อย่างใด
ยังโชคดีที่นอกจากความเหินห่างเย็นชาที่เว่ยเซ่าแสดงออกแล้ว
ยามอยู่บนเตียงก็เป็นเช่นน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง
แม้มารดาเขาจะเกลียดหน้านางเพียงใดก็ไม่เป็นไร
อย่างน้อยในจวนสกุลเว่ยนางก็ยังได้รับเมตตาจากท่านย่าของเขา
แต่เหตุใดเมื่อวันเวลาผ่านพ้นไป
ท่าทีโอนอ่อนผ่อนตามของนางกลับไปขัดลูกกะตาท่านโหวเสียได้
แม้แต่ยามที่เขาเอ่ยปากว่าจะรับอนุตามบัญชาท่านแม่
เพียงแค่นางเห็นดีเห็นงามกับเขาเท่านั้น
ไยเขาต้องโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ
และหาเรื่องกลั่นแกล้งนางไม่ให้เป็นสุขด้วย!
เล่ม1:
เนื้อเรื่องเริ่มต้นช่วงเวลาเดียวกับยุคสามก๊ก เป็นช่วงกลียุค
แบ่งฝักแบ่งฝ่าย พระเอก เว่ยเซ่า
เยียนโหวกำลังรวบรวมแดนเหนือเป็นเจ้าแดนเหนือเพื่อสุดท้ายเป้าหมายคือครองใต้หล้า
ส่วนนางเอก เสี่ยวเฉียน
ท่านปู่ของตนเคยทำให้ตระกูลเว่ยเกลียดชังที่ผิดคำสัญญาในการรบ
ทำให้ท่านพ่อและพี่ชายของเว่ยเซ่าต้องตายในการศึก
นางเอกเป็นคนที่ย้อนมิติมาและยังมีการฝันเห็นนิมิตในชาติก่อนที่ตนต้องตาย
ครอบครัวตายอนาถ พี่สาวที่แต่งให้เว่ยเซ่าก็ต้องฆ่าตัวตาย เรื่องทั้งหมดเป็นฝันร้ายซ้ำซากยาวนานตลอดเวลาที่นางเอกมาอยู่ในร่างนี้
จึงพยายามเปลี่ยนแปลงเรื่องราว คิดหาทางเปลี่ยนอดีต
เริ่มที่การแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์สองสกุลเว่ยและเฉียว ที่ต้าเฉียวต้องไปเป็นเจ้าสาว
แต่เสี่ยวเฉียวก็แอบรู้มาว่าต้าเฉียวชอบหนุ่มเลี้ยงม้านัยต์ตาเขียว ปี่จื้อ
จึงช่วยให้หนีไปด้วยกัน สุดท้ายตนต้องแต่งงานแทนต้าเฉียว
นับเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่เสี่ยวเฉียว หรือหมานหมานได้เจอ
การเดินทางไปแต่งงานเว่ยเซ่าก็ไม่ปฏิเสธเพราะเป็นการตอบรับของท่านย่า สวีฮูหยิน
ที่ช่วงเวลาตระกูลเว่ยยากลำบากก็ได้สวีฮูหยินประคับประคองให้ผ่านพ้นมาได้
พอเข้าพิธีแต่งงานกัน คืนเข้าหอ
ครั้งแรกเว่ยเซ่าก็เอากระบี่มาจอคอเป็นการทักทายเสี่ยวเฉียวซะแล้ว
นับแต่นั้นเสี่ยวเฉียวก็คิดว่าคงเป็นน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลองเพราะเพียงวันรุ่งขึ้น
เว่ยเซ่าก็ส่งเสี่ยวเฉียวกลับอวี๋หยาง แต่ระหว่างทางกลับโดนชิงตัวไป
พอช่วยกลับมาได้เสี่ยวเฉียวได้ใช้ความสามารถของตัวเองหนีออกมาด้วย ทำให้เว่ยเซ่าเริ่มมองนางเอกใหม่ขึ้นเล็กน้อย
และให้รอเดินทางกลับพร้อมกัน เมื่อกลับถึงตระกูลเว่ยที่เมืองอวี๋หยางได้เจอจูซื่อ
แม่สามีทีไม่ชอบนางแม้แต่น้อย เสี่ยวเฉียวก็ทำใจยอมรับ
รู้ตัวว่าสองตระกูลมีความแค้นต่อกัน ยากจะสลายความแค้นง่ายๆ พอเจอ
ท่านย่าของพระเอก สวีฮูหยิน
เสี่ยวเฉียวเริ่มมีความหวังว่าจะสามารถอยู่ในตระกูลเว่ยได้อย่างดี
เพราะท่านย่าผู้เป็นใหญ่ดูแล้วน่าจะชอบนางอยู่เหมือนกัน พอกลับมาถึงตระกูลเว่ย
เว่ยเซ่าก็เปลี่ยนมานอนที่ห้องกับเสี่ยวเฉียวเพราะ
นางจูซื่ออยากจะให้เว่ยเซ่ารับญาติผู้น้องเป็นอนุ แต่เว่ยเซ่าไม่รับปาก ที่ตลกคือพออยู่ในห้องตามธรรมเนียมฝ่ายชายจะนอนด้านใน
สตรีนอนด้านนอก แต่คืนแรกพระเอกก็นอนด้านนอก แกล้งนางเอกให้ปีนเข้าไปข้างใน
นางเอกก็งงว่าเอาจริงเหรอ ระวังตัวลีกพระเอกยังแกล้งขัดขาให้ล้มคะมำลงมาทับอีก
เป็นฉากในห้องนอนที่ตลกมาก พออยู่ไปเรื่อยๆ
พระเอกก็เริ่มมองนางเอกว่าน่าตาดีเหมือนกัน มีแต่คนชม พี่แกก็เริ่มหึงไปทั่ว
พอกลับมาห้องเห็นนางเอกนอนไปก่อนก็คิดในใจอีกว่าไม่ยอมรอ ก็หงุดหงิดอีก
แถมว่านางเอกว่านั่งเหยียดแข้งเหยียดขา ก็คนมันมาจากอนาคตนะ
จะมานั่งพับขาก็เมื่อยนึกว่าไม่มีคนมองนี่นา ตลกมากๆ
พระเอกเลยแกล้งเอ่ยปากเรื่องจะรับอนุ นางเอกเลยบอกจะเตรียมห้องให้
พระเอกก็อารมณ์เสียอีก เพราะนึกจะแกล้งซะหน่อย นางเอกก็เอายังไงกันแน่
ตอนนี้ยังจับอารมณ์ไม่ได้ ยังไม่รู้ใจกัน
จนถึงตอนที่แม่พระเอกวางแผนให้พระเอกกินยาปลุกกำหนัดเพื่อให้ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกกับญาติผู้น้อง
แต่เว่ยเซ่าไม่ยอมรีบกลับไปเรือนตัวเอง ให้เสี่ยวเฉียวเอาน้ำแข็งมาแช่
สุดท้ายทนไม่ไหวก็ให้เสี่ยวเฉียวใช้มือช่วย โอ้ววว ...
มือเสียความบริสุทธิ์ก่อนเป็นอันดับแรกเลย คนภายนอกนึกว่าเจอศึกหนักกันสินะ
ขำมากๆๆๆ
ช่วงที่กลับมาสกุลเว่ยที่อวี๋หยางก็เจอญาติผู้พี่ของเว่ยเซ่านามเว่ยหยาง
เป็นลูกอาหญิงชาติกำเนิดลึกลับ ก็มาแอบชอบเสี่ยวเฉียวตั้งแต่แรกเห็น
เสี่ยวเฉียวก็รู้สึกว่าไม่ชอบหน้าคนผู้นี้ เรื่องนี้ยังมีเรื่องต่อไปอีก
เพราะความแอบชอบของเว่ยหยางนี่แหละ
ต่อมายังมีเหตุการณ์ที่เหยียนโจวของนางเอกจะถูกบุกยึด
พระเอกมีวิธีช่วยเหลือแต่ยังสองจิตสองใจ พอนางเอกได้ข่าวก็คิดว่าตอนนี้ต้องมีกำลังคนเป็นของตัวเอง
จะรอขอร้องให้คนอื่นมาช่วยทุกครั้งคงไม่ได้แล้ว
นี่เป็นความคิดที่เกิดขึ้นเพราะยังไม่สามารถเชื่อใจพระเอกได้
ด้วยรู้ว่าพระเอกมีความแค้นอยู่กับตระกูลไม่รู้เมื่อไหร่จะสลายความแค้นได้ แต่ก็มาหาเพื่อขอร้องเว่ยเซ่า
และบอกว่ามีวิธีที่ไม่ต้องใช้ทหารของตัวเองเลย
พอพระเอกฟังจบท่าทางก็ตกใจในความคิดของนางเอกเพราะมันตรงกับที่คิดเอาไว้เลยทีเดียว
พระเอกเริ่มมองนางเอกมากขึ้น แถมนางเอกยังเป็นฝ่ายเสนอก่อนว่า
หมานหมานจะซาบซึ้งใจยิ่งนัก ในที่สุดเว่ยเซ่าก็ตัดสินใจช่วยเหลือ
ก่อนจากไปสนามรบคืนนั้นได้มาหาเสี่ยวเฉียวคราวนี้ได้ร่วมหอกัน
หลังจากก่อนหน้านี้เสี่ยวเฉียวทนไม่ไหวเตะหน้าเว่ยเซ่าไป ครั้งนี้ก็เช่นกัน
แต่ในที่สุดก็เป็นสามีภรรยากันจริงๆแล้ว
การศึกเป็นไปตามแผน
ส่วนท่านย่าได้พาเสี่ยวเฉียวไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่แคว้นจงซาน
และได้พบซูเอ๋อหวงที่เคยมีความหลังกับเว่ยเซ่าครั้งอดีตด้วย
เว่ยเซ่าชนะศึกกับเฉินเสียง ได้ชัยชนะกลับมาตามคาด
เสี่ยวเฉียวและท่านย่าเดินทางกลับสกุลเว่ยที่อวี๋หยาง
หลังอ่านเล่มแรก :
ความสัมพันธ์ของพระเอก นางเอกยังไม่ชัดเจน
นางเอกถือคติน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง ทำตามหน้าที่ รู้ว่าเกลียดตระกูลตัวเองอยู่ก็ไม่ไปเสนอหน้ามาก
ทำตามหน้าที่เท่านั้น ส่วนพระเอก ตอนแรกคิดว่าแต่งมาเฉยๆจะไม่สนใจ
แต่ความคิดเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เริ่มจากท่านย่าชอบ เห็นความเก่งของนางเอก
ความคิดที่ฉลาดหลักแหลม และความงามที่ทุกคนชื่นชม จากที่ไม่สนใจก็เริ่มมอง
เริ่มสนใจ เริ่มหึง เริ่มขัดใจที่ไม่ทำหน้าที่สารพัดล่ะ
ปกหลังเล่ม2:
ยามอยู่นอกห้อง ‘เว่ยเซ่า’
จะกลายเป็นท่านโหวผู้วางตัวดี
ไปที่ใดผู้คนล้วนกลัวเกรงนับถือ
มีความปรารถนาอันยิ่งใหญ่เหนือใคร
ทว่ายามที่เขากลับมาอยู่ในห้องหอนั้น...ราวกับเปลี่ยนคนละคน
ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็กระโจนเข้าหา ‘เสี่ยวเฉียว’
ราวสัตว์ป่าที่โหยหิว
สำหรับเว่ยเซ่าแล้วการพิชิตนางไม่ต่างอะไรกับการช่วงชิงเมืองมาได้เมืองหนึ่ง
ปรารถนาที่จะได้มีเวลาอยู่ร่วมราตรีกับนางนานขึ้นสักหน่อย
บุรุษใดก็ห้ามใกล้ชิด
หรือส่งสายตาหวานให้แก่นาง
เป็นบุรุษอื่นก็แล้วไปเถอะ
แต่คนที่มีใจคิดซ่อนเร้นกับนางเป็นถึงพี่ชายของเขา ‘เว่ยเหยี่ยน’
แม้เขาไม่อยากสูญเสียสายสัมพันธ์กับพี่ชายไปเพราะสตรีแค่คนเดียวเพียงใด
แต่เมื่อความลับสำคัญของเว่ยเหยี่ยนถูกเปิดเผย
สายใยพี่น้องก็ถึงคราวต้องขาดสะบั้น!
เล่ม2:
เสี่ยวเฉียวได้รับข่าวดีจากท่านย่าสวีฮูหยินเรื่องเว่ยเซ่าชนะศึก
และอีกเรื่องคือจวนสกุลเฉียวและน้องชาย เฉียวฉือจะมาเยี่ยมนางที่อวี๋หยาง
ครึ่งเดือนต่อมาเว่ยเซ่ากลับมาถึงโยวโจวก่อน พอกลับมาถึงก็สลัดคราบท่านโหวออกทันที
เพราะคิดถึงเสี่ยวเฉียวยิ่งนัก แต่ยังไงพอออกนอกห้องนอนก็สวมหน้าตาท่านโหวอีกครั้งถือว่าบุรุษเป็นใหญ่
เยียนโหวช่างเป็นคนที่ต่างกันจริงๆระหว่างนอกห้องกับในห้อง ข่าวทางเมืองหลวงลั่วหยางก็ออกมาว่าฮ่องเต้น้อยสวรรคต
ซิ่งซวิ่นยกบุตรชายของเหวินสี่อ๋องเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่
ประกาศเปลี่ยนรัชศกติ้งคังเป็นไท่อัน และเรียกเจ้าศักดินาจากทั่วหล้าเดินทางไปถวายบังคมต่อฮ่องเต้องค์ใหม่
กงซุนหยางแนะนำว่าให้เว่ยเซ่าอ้างว่าป่วยเพื่อบอกปัดคำสั่ง พักฟื้นซักระยะ
เว่ยเซ่าเลยได้เวลาที่จะไปจัดการกับเสี่ยวเฉียวเสียที
เสี่ยวเฉียวในที่สุดก็รู้ว่าเว่ยเซ่าเป็นสุนัขป่าที่ดุร้ายต่างหาก แถมยังคิดท่าทางได้อีกมากมาย
แล้วขนาดเท้าของนางก็ยังจะเสียความบริสุทธิ์ไปอีกคืนนี้แค่ลูบคลำ
แต่คืนต่อไปไม่แน่นอน เพราะพอคิดถึงคำพูดของเฉินรุ่ยก็ทนไม่ไหวแล้วเท้าของเสี่ยวเฉียวก็เป็นที่หวงแหนเหมือนกันนะ
เพราะฉะนั้นก็เสียความบริสุทธิ์ให้ท่านพี่ไปแล้วกัน(555 อันนี้เป็นเรื่องอนาคตอีกไม่ไกลในคืนต่อไปนี่เอง)
เสี่ยวเฉียวช่วงนี้คัดลอกคัมภีร์ให้ท่านย่าด้วยตัวอักษรที่ใหญ่ขึ้น
เนื่องจากช่วงนี้สนิทสนมกับเว่ยเซ่าตอนที่ต้องการหยิบพู่กันจึงเข้าห้องหนังสือไปหยิบทันที
พอบอกก็ไม่มีปัญหา แต่พอพูดถึงเรื่องที่น้องชายจะมาและท่านย่าให้พักที่จวนเว่ยเซ่ากลับเงียบไปกว่าจะตอบทำให้รู้ว่าคนสกุลเฉียวคนอื่นๆยังไม่สามารถเข้ามาอยู่ในใจของเว่ยเซ่าได้
นี่คือความคิดของเสี่ยวเฉียวที่จะทำอะไรก็ยังต้องคอยดูสีหน้าของสามี เพราะรู้ว่าในใจของเขายังมีความแค้นต่อสกุลเฉียวอยู่
ก่อนที่เฉียวฉือจะมาเว่ยเซ่าก็พอดีต้องเดินทางกะทันหัน
เรื่องนี้เว่ยเซ่าก็รู้สึกว่าเสี่ยวเฉียวน้อยใจ
แต่ตัวเองก็ปากหนักไม่อธิบายอีกและก็ไม่คิดอยากเสวนากับคนสกุลเฉียวด้วยส่วนหนึ่งเพราะใจยังไม่ยอมรับ
ตอนที่เฉียวฉือมาถึงสวีฮูหยินจึงให้เว่ยเหยี่ยนพาเสี่ยงเฉียวออกไปรับ
ทำให้เฉียวฉือคุ้นกับเว่ยเหยี่ยนเรียกซะสนิทสนม
แต่เสี่ยวเฉียวที่มีอคติกับเว่ยเหยี่ยนก็ไม่ชอบให้น้องชายไปสนิทสนมกับเว่ยเหยี่ยนแต่ห้ามปรามไม่ได้เพราะจะเป็นการเสียมารยาทไป
เฉียวฉือได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นก็ถามถึงพี่เขยว่าจะกลับมาเมื่อไหร่
พอเสี่ยวเฉียวคิดถึงเว่ยเซ่าก่อนจากไปก็ให้ไม่พอใจ น้อยใจ
เลยเตือนเฉียวฉือว่าพี่เขยเงียบขรึมอย่าไปตีสนิท ให้ทำตัวเรียบร้อย
พอเว่ยเซ่าเจอเฉียวฉือที่มาพร้อมกัยเว่ยเหยี่ยนที่ออกไปล่าสัตว์ด้วยกัน
ก็เลยไม่แสดงท่าทีสนิทสนมเหมือนเว่ยเหยี่ยน เว่ยเซ่าก็เก็บมาคิดในใจแต่ไม่แสดงออก
กลับมาถามเสี่ยวเฉียว เสี่ยวเฉียวเลยบอกว่ากลัวน้องชายแสดงกิริยาไม่ดีเลยกำชับให้ทำตัวเรียบร้อย
ที่ไหนได้กลับไม่เป็นธรรมชาติเหมือนอยู่กับเว่ยเหยี่ยน หลังจากทั้งสองสนิทสนมกันไปแล้วคุยเล่นไปมาก็มาถึงเรื่องรูปวาด
เว่ยเซ่าอารมณ์ดีมีอารมณ์อยากอวด เลยจะไปเอาภาพวาดที่เก็บไว้มาให้เสี่ยวเฉียวดู
ที่ไหนได้กลับเกิดเรื่องขึ้นเพราะกล่องเจ้าปัญหาที่เป็นกล่องกลตารางเก้าช่อง
ที่เคยห้ามเสี่ยวเฉียวหยิบตอนนี้มีรอยขูดขีดแบบเปิดไม่ได้ก็จะงัดแงะ
เสี่ยวเฉียวปฏิเสธไม่รับผิดด้วยสีหน้าจริงจัง
เว่ยเซ่าโกรธออกไปข้างนอกพอย้อนคิดดูก็รู้ว่าเสี่ยวเฉียวไม่ได้ทำ
จึงคิดไปสืบดูที่เรือนของจูซื่อและก็เป็นจริงตามคาดที่มารดาเป็นคนทำเพราะได้เผยพิรุจจริงๆ
ตอนที่กลับไปเว่ยเซ่านึกว่าเสี่ยวเฉียวจะเสียใจอยู่ในห้องกลับกลายเป็น
เสี่ยวเฉียวรออยู่พร้อมกล่องเจ้าปัญหาทั้งยังเปิดให้ดูต่อหน้าบอกว่ากล่องนี้เคยเปิดเป็นครั้งแรกต่อหน้าท่าน
ของข้างในเป็นอะไรก็ไม่รู้คิดว่าเป็นจดหมาย
หลังจากกลับจากแคว้นจงซานได้เจออวี้โหลวฮูหยินเลยอยากรู้
ที่เปิดให้ดูเพราะจะแสดงให้เห็นว่าตนสามารถเปิดได้ ไม่ต้องทำลายกล่อง
เว่ยเซ่าผิดคาดที่สุดที่เสี่ยวเฉียวเก่งขนาดนี้สามารถคำนวณได้
คือไม่คิดว่าเมียตัวเองจะเก่ง แถมตอนนี้ยังไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด ทั้งๆที่กล่องของตัวเองถูกแอบเปิดทำไมถึงเป็นคนผิดไปได้
ท่านโหวไม่เข้าใจ
ตอนแรกจะมาแสดงความใจกว้างว่าข้าเข้าใจว่าเจ้าไม่ได้ทำและหาหลักฐานแก้ต่างให้แล้วที่ไหนได้กลับมาเจอเมียเก่งแถมลบล้างข้อกล่าวหาเองอีก
ขำมากๆๆๆ ต้องง้อเมียอีกแล้ว เฉียวฉืออยากจะลงประชันเชิงยุทธ์ในงานประลองลู่หลี
เสี่ยวเฉียวจึงตอบตกลง เพื่อการประลองเลยต้องฝึกซ้อมทุกวัน
มาวันนี้เว่ยเหยี่ยนกลับพาเฉียวฉือไปผ่อนคลายเส้นที่สำนักหลัวจง
เสี่ยวเฉียวไม่ยอมจึงไปตามด้วยตัวเอง เว่ยเหยี่ยนออกมากล่าวขอโทษ เสี่ยวเฉียวก็ยังระบายโทสะไปหลายคำ
เว่ยเหยี่ยนเลยยิ่งเก็บมาคิดถึง
ขนาดว่าปิดห้องวาดภาพแล้วก็จัดการตนเองทีเดียวเพราะยิ่งเห็นก็ยิ่งชอบ
เหมือนของต้องห้าม
เรื่องนี้นางบำเรอในจวนแอบรู้จนได้ภายหลังไปบอกเว่ยเซ่าทำให้เว่ยเซ่าเข้าใจเสี่ยวเฉียวผิดไป
จนเสี่ยวเฉียวบันดาลโทสะตบหน้าเว่ยเซ่าซะเลย
เว่ยเซ่าเลยต้องจัดการแก้ปัญหาด้วยตนเอง
ระหว่างนั้นงานประลองลู่หลีท่านย่าได้เป็นคนให้เสี่ยวเฉียวลั่นกลองเปิดงานทำให้ทุกคนเห็นความสำคัญของเสี่ยวเฉียวในใจของสวีฮูหยิน
และเสี่ยวเฉียวก็ทำได้ดีผ่านการทดสอบ ผ่านภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เฉียวฉือชนะในการประลองขี่ม้ายิงธนูและได้แสดงความโดดเด่นโดยการไม่ทำร้ายคนโดยไร้เหตุผล
เป็นที่ชื่นชมของคนทั่วไป หลังจบงานในที่สุดเว่ยเซ่าก็จัดการจบปัญหากับเว่ยเหยี่ยนพอกลับถึงจวนเสี่ยวเฉียวดูแลเป็นอย่างดี
จูซื่อกลับร้อนใจจนมาหาถึงเรือน ในที่สุดก็หลุดปากเรื่องชาติกำเนิดลึกลับของเว่ยเหยี่ยนทำให้เว่ยเซ่าตกใจมาก
พอเช้าท่านย่าก็สอบถามจนได้ข้อมูลที่เพียงพอจะรู้ว่าสองพี่น้องหาไปไหน
จึงตามไปพูดคุยรับผิด
เว่ยเหยี่ยนขอจากไปเองโดยตัดนิ้วก้อยสาบานว่าจะไม่ทำร้ายชาวฮั่น ท่านย่ากลับมาก็บอกเล่าเรื่องความลับชาติกำเนิดของเว่ยเหยี่ยนให้เสี่ยวเฉียวรู้ด้วยตนเอง
และบอกให้ดูแลเว่ยเซ่าให้ดี พอกลับมาท่านย่าก็เริ่มล้มป่วย
เสี่ยวเฉียวก็เริ่มเป็นกังวลเพราะตรงกับเหตุการณ์ในชาติก่อนที่เกิดขึ้น
จะให้เกิดเหมือนเดิมไม่ได้ เสี่ยวเฉียวพยายามดูแลท่านย่าทุกทางทั้งจับตาดูยาต้ม
และดูแลไม่ยอมห่าง เว่ยเซ่ากลับมาจากการส่งเว่ยเหยี่ยนก็ไม่พูดจา
เสี่ยวเฉียวดูแลอย่างดี แถมยังต้องเป็นที่ระบายความคับข้องใจด้วย
(ข้าไม่ได้คิดเลยนะ สถานที่มันใช่ที่ไหน) พอเว่ยเซ่าบอกว่าจะต้องเดินทางไปทำศึกอีก
เสี่ยวเฉียวตกใจมากขอร้องให้อยู่ที่จวนเพราะเหตุการณ์มันตรงกันเกินไป สุดท้ายก็เว่ยเซ่าก็ยังจากไปอยู่ดี
เสี่ยวเฉียวดูแลท่านย่าทุกอย่าง
แต่ความระแวงของตัวเองก็ไม่สามารถบอกใครได้จึงจับตาดูความเคลื่อนไหวของเรือนบูรพา
ในที่สุดเจียงเอ่าก็แอบลักลอบออกไป
เสี่ยวเฉียวจับตาดูจนในที่สุดคาดเดาจุดเชื่อมโยงของเรื่องราวได้และมาทันเวลาช่วยชีวิตท่านย่าจากน้ำมือของเจียงเอ่า
ที่หลอกใช้จูซื่อทัน โดยคนบงการก็คือซูเอ๋อหวงนั่นเอง
จากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ท่านย่าพูดกับจงเอ่าคนสนิทว่าเมื่อเสียไปก็มีได้มา
สวรรค์ยุติธรรมเสมอ
หลังจากสูญเสียลูกชายและหลานชายคนโตที่ได้มีก็คือสะไภ้ที่ดีเช่นนี้
หลังจากท่านย่าหายดี เสี่ยวเฉียวก็ขอกลับไปเยี่ยมท่านป้าที่บ้านเดิม ท่านย่าอนุญาต
เมื่อได้พบกับท่านป้าก็ได้บอกเรื่องราวของต้าเฉียวและปี่จื้อ
ส่วนท่านพ่อเสี่ยวเฉียวก็บอกว่าจะต้องเตรียมการให้พร้อมในช่วงกลียุคตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้น
จากนั้นก็ไปเยี่ยมต้าเฉียวที่ตั้งครรภ์ ระหว่างนี้เว่ยเซ่าได้กลับมาก่อนกำหนด
พอมาถึงก็รู้ว่าเมียไม่อยู่บ้านแล้ว
พอคิดถึงเมียในใจเดือดดาลคิดว่าไม่อยู่ไม่กลัวจะไปหาหญิงอื่นหรือไง
แต่ก็ไปหาเอี๊ยมตัวโปรดของเมียมาซะ (ท่านโหวรักเมียแต่ปากแข็งมาจ้ะ)
และรู้ข่าวเรื่องท่านย่าจึงจัดการสะสางเรื่องและท่านย่าก็รับปากว่าจะสืบหาความจริงให้ได้ไม่ต้องเป็นห่วงเรือนหลัง
คนปากแข็งท่านย่ามองก็รู้ใจ เลยบอกว่าให้ไปรับเมียกลับมาแทนย่าที
นี่ก็ทำฟอร์มเมื่อท่านย่ามีคำสั่งข้าไปก็ได้ ใจจริงอยากไปจะแย่แล้วล่ะ
เลยรีบออกเดินทางลงใต้ทันที
ไปถึงเมืองตงก็คลาดกับเสี่ยวเฉียวที่ออกเดินทางไปหาต้าเฉียวแล้ว
ท่านโหวคิดถึงเมียมากแล้วนะ รออ่านเล่มสามต่อ
เล่มสองนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเว่ยเซ่าและเสี่ยวเฉียวชัดเจนขึ้นมาก
ท่านโหวติดเมียแต่ไม่บอกหรอกนะ ทำผิดต้องคอยง้อตลอด
ยังมีเหตุการณ์ของเว่ยเหยี่ยนมาให้ปวดหัวกัน และเรื่องท่านย่าที่เจ็บป่วยอีกด้วย
เสี่ยวเฉียวทำสุดความสามารถจนทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ก็ขอกลับบ้านไปเยี่ยมท่านป้าบ้าง
เพื่อจะได้จัดการเรื่องราวในครอบครัวสกุลเฉียวให้เรียบร้อย
หลังจากที่ภัยมืดในสกุลเว่ยถูกกำจัดไปให้ได้สบายใจไปได้อีกครั้ง
ปกหลังเล่ม3:
เว่ยเซ่าอนุญาตให้นางตบหน้าเขาได้ยามขุ่นเคือง
อนุญาตให้นางปั้นปึ่งโกรธเคืองเขาได้
โดยที่เขาจะแค่หันหลังเดินหนีไป
แต่เขากลับไม่อนุญาตให้นางติดต่อ ‘สกุลเฉียว’
ทั้งอยากให้นางตัดขาดจากสกุลเดิม
แม้ความรักจะผลิบานในจิตใจเว่ยเซ่าเพียงใด
เงาความแค้นอันลึกล้ำในอดีตของเว่ยเซ่ากลับยังไม่เลือนหาย
ยามที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ‘สงครามเย็น’
ระหว่างทั้งสองจะบังเกิดขึ้นเสมอ
เมื่อ ‘ผู้นำทัพคนเร่ร่อน’
ที่เสี่ยวเฉียวเรียกเป็นพี่เขยเริ่มมีชื่อเสียงในบริเวณนั้น
ทว่าสำหรับเว่ยเซ่าแล้วเขากลับมองเป็นศัตรูที่จำต้องกำจัด
กระนั้นเขาก็ได้แต่บัญชาการรบอย่างลับๆ ให้คนไปจัดการ
โดยปิดบังไม่ให้เสี่ยวเฉียวระแคะระคาย
เขาหวั่นใจว่าถ้าหากหมานหมานของเขาทราบเรื่องนี้เข้า
ตนเองคงต้องสูญเสียนางไปแน่
และวันใดที่นางทอดทิ้งเขาไป
เขานี่แหละที่จะไปถล่มสกุลเฉียวไม่ให้เหลือรอดเลยสักคนเดียว!
เล่ม3:
ท่านโหว เว่ยเซ่าตามหาเมียยังไม่เจอว่าจะไปดักหน้าระหว่างทางก็มาเจอกับศัตรูจะทำให้เขื่อนกักน้ำรั่วให้น้ำท่วมหมู่บ้านท้ายเขื่อน
ก็ไปช่วยอีก กับท่านสนิทแค่สิบกว่านายก็สามารถช่วยได้
และได้เจออาจารย์ของท่านกงซุนที่เดินทางผ่านมา ซึ่งมองจากปรากฏการณ์บนท้องฟ้าเว่ยเซ่าน่าจะช่วยกลียุคนี้เป็นชะตาดาวจักรพรรดิ
ชะตาฟ้าลิขิต ขอให้เป็นคนดีช่วยชาวบ้านเช่นตอนนี้ต่อไป
กับสามารถคลี่คลายสถานการณ์ของหยางซิ่น หยางซิ่นจึงขอยอมรับใช้ด้วยความเต็มใจ
เมื่อไปถึงอำเภอหลิงปี้เสี่ยวเฉี่ยวได้ออกเดินทางมาก่อนล่วงหน้าแล้วเพราะปี่จื้อได้ข่าวว่าเซวียไท่จะบุกมาโจมตีจึงส่งเสี่ยวเฉียวออกมาก่อน
ท่านโหวคลาดกับเมียตัวเองอีกแล้ว แถมได้เจอปี่จื้อครั้งแรกก็ได้ปะทะกัน
แต่เฉียวฉือมาห้ามไว้ได้ทันเลยได้แผลไปคนละเล็กน้อยเท่านั้น
เว่ยเซ่ารีบไล่ตามเสี่ยวเฉียวไปอีกคิดว่าเสี่ยวเฉียวจะข้ามแม่น้ำไปก่อนสุดท้ายเสี่ยวเฉียวมาถึงช้ากว่าในที่สุดก็เจอกับได้ซะที
ตามจนเหนื่อยเลยทีเดียวท่านโหวดีใจสุดๆล่ะ เสี่ยวเฉียวยังรู้สึกโกรธอยู่ที่ก่อนหน้านี้ขอร้องให้อยู่จวนไม่ไปรบเว่ยเซ่ากลับรับปากแล้วโกหกนาง
ตอนนี้เจอกันตอนแรกยังไม่ยอมพูดจาเลยโดนตีก้นเลย แต่เสี่ยวเฉียวก็ทุบคืน
และในที่สุดเว่ยเซ่าก็ยอมรับว่าคิดถึงเลยรีบตามมาแต่ไม่เจอซักทีนึกว่าข้ามแม่น้ำไปแล้ว
ทั้งสองปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด
และติดอยู่ทางฝั่งนี้เพราะน้ำเป็นน้ำแข็งแล่นเรือข้ามไม่ได้ชั่วคราว
เสี่ยวเฉียวได้เรียนรู้ว่าเว่ยเซ่ายามอยู่บนเตียงเป็นสัตว์ป่าใจแคบเจ้าคิดเจ้าแค้น
พอลงจากเตียงสวมเสื้อผ้าเสร็จก็จะแปรเปลี่ยนเป็นคนเคร่งขรึม ยึดถือกฎเกณฑ์เป็นท่านโหวทันที
พักอยู่หลายวันการข่าวส่งมาว่าปี่จื้อจัดการเซวียไท่ได้
เว่ยเซ่าเลยให้หยางซิ่นเฝ้าดูสถานการณ์ให้ดี
แล้วจึงบอกเสี่ยวเฉียวและถามเรื่องเฉียวผิงที่ออกประกาศตามหาผู้มีความสามารถ
เว่ยเซ่าก็ยังระแวงสกุลเฉียว เสี่ยวเฉียวก็ไม่บอกเหตุผลแท้จริงเช่นกันเพราะกลัวว่าจะถูกโจมตีเข้าสักวัน
เลยหากำลังป้องกันตัวเอาไว้เอง ต่างเก็บซ่อนความลับในใจตนเอง
ในที่สุดทั้งสองก็ได้เดินทางกลับเมืองอวี๋หยาง เทศกาลเจิ้งตั้น
เว่ยเซ่าพาเสี่ยวเฉียวเซ่นไหว้ที่ศาลบรรพชนเป็นครั้งแรก ทั้งวันเว่ยเซ่าต้องไปรับการคารวะจากแม่ทัพนายกอง
ส่วนเสี่ยวเฉียวก็ต้องรับแขกแทนจูซื่อ
พบกันอีกทีก็กลางคืนเว่ยเซ่าคุ้นเคยกับร่างกายเสี่ยวเฉียวแล้ว
พอเสร็จก็พูดเรื่องไม่ให้เสี่ยวเฉียวติดต่อกับครอบครัวที่มณฑลเหยี่ยนโจวอีกเพราะเป็นคนของสกุลเว่ยแล้ว
และจะปกป้องคุ้มครองตลอดไป เสี่ยวเฉียวปฏิเสธเพราะนั้นคือครอบครัวของนาง
และยอมรับว่าท่านปู่ของนางผิดต่อสกุลเว่ยจริง พอแต่งมาก็พยายามทำตัวให้ดีทุกอย่าง
หวังว่าสักวันเว่ยเซ่าจะละวางความแค้นได้ นี่เป็นการเปิดใจครั้งแรกของนางเอกเลย
พระเอกก็คิดว่าสตรีจะตามใจจนเกินไปไม่ได้แล้ว พอแบบนี้ก็โกรธเค้าอีกนะ
คุ้มดีคุ้มร้ายมากล่ะ แต่ก็เข้าใจได้
ท่านพ่อกับพี่ชายตายเพราะสกุลเฉียวจะให้ละวางความแค้นตอนนี้ก็ไม่มีทางเป็นไปได้
แต่เมียตัวเองก็รัก เลยไม่รู้จะทำไง ที่สุดงอนหลบหน้าซะเลย
แค่นี้ท่านย่าก็รู้แล้วว่าสองคนมีปัญหากันอีกแล้วขำสุดๆ
พอเสร็จแล้วเลยบอกว่าจะเดินทางไปจิ้นหยางเร็วขึ้นทันทีเชียว
ท่านย่ารู้เรื่องก็คิดว่าลาดื้อฉุดยังไงก็ไม่อยู่เลยวางแผนไปพักที่เมืองอู๋จงกับจูซื่อ
ให้เสี่ยวเฉียวเฝ้าจวนพอเว่ยเซ่ารู้เรื่องก็บอกให้พาเสี่ยวเฉียวไปด้วย
เสี่ยวเฉียวบอกจะอยู่ที่จวนเอง เพราะสวีฮูหยินมอบหมายให้เสี่ยวเฉียวไปบวงสรวงไท่เซ่อแทนแม่ของเว่ยเซ่า
พอเว่ยเซ่ารู้เรื่องก็บอกให้ท่านย่าพาเสี่ยวเฉียวไปด้วย
แล้วก็บอกให้เสี่ยวเฉียวบอกท่านย่าว่าจะไปด้วย แต่เสี่ยวเฉียวจะอยู่ที่จวน
เว่ยเซ่าไปส่งท่านย่า ท่านแม่ที่อู๋จงแล้วกลับมา
ถึงงานบวงสรวงไท่เซ่อเสี่ยวเฉียวไปทำพิธีและมีการประกวดเหล้าของแต่ละหมู่บ้านเสี่ยวเฉียวก็ตั้งใจชิม
จนตัวเองเมา เว่ยเซามารับและพากลับห้องพอเห็นเมียตัวเองก็อดใจไม่อยู่อีกนะ
แล้วก็กำชับไม่ให้บอกว่าตัวเองพามาส่ง ในที่สุดเรื่องเร่งด่วนก็มาต้องไปจัดการที่เมืองจิ้นหยาง
พอออกเดินทางไปได้สามวันที่จุดพักม้าเกิดไฟไหม้
เหตุเพราะเมียเล่นชู้อยู่บ้านคนเดียว
ชู้หนีไปได้พอเว่ยเซ่ารู้เรื่องก็รีบกลับไปรับเสี่ยวเฉียวทันที คงหวงเมียล่ะสิ
แต่ปากแข็งสุดๆ ในที่สุดก็บังคับพาเสี่ยวเฉียวไปด้วย
พอถึงจิ้นหยาง
เสี่ยวเฉียวได้ช่วยเหลือทาสชาวเชียงที่ปรากฏว่าเป็นหลานชายของหัวหน้าเผ่าเปยเหอ
จากนั้นเสี่ยวเฉียวก็ได้ข่าวจากกงซุนหยางว่าเว่ยเซ่าได้รับบาดเจ็บที่แขนอาวุธมีพิษตอนนี้พักฟื้นยังมาไม่ได้
เสี่ยวเฉียวจึงรีบไปดูแลอาการทันที
ทันทีที่ถึงค่ายทหารเว่ยเซ่าที่เป็นแม่ทัพความจริงหายเกือบเป็นปกติแล้วแต่พอเห็นเมียมาก็ห้ามตัวเองไม่อยู่อีก
เพราะตัวเองจะกลับไปหาสามรอบก็โดนทัดทานไว้ทั้งสามรอบ
เลยได้แต่ส่งเสียงใหญ่โตเสี่ยวเฉียวปิดปากทัน
แต่กระโจมมันเงียบคนอื่นก็ได้ยินนี่นะ พอหายดีก็กลับจิ้นหยางไปก่อน มีเรื่องเตียวโม่มารับตัวหยวนไป
แต่ผิดคำพูดไม่พาไปส่งปู่คิดจะเอาไปต่อรอง เสี่ยวเฉียวรู้เรื่องส่งคนไปช่วยเหลือ
ระหว่างนั้น เฉินรุ่ย แอบกลับเข้ามาจะจับตัวเสี่ยวเฉียวไป
เสี่ยวเฉียวเอาตัวรอดมาได้
ทุกคนปิดเรื่องนี้กับเว่ยเซ่ากว่าจะรู้เรื่องก็หนึ่งเดือนให้หลังเหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลายหมดแล้ว
เว่ยเซ่าตกใจมากรีบกลับมาหาเมียตัวเองและบอกว่าห้ามทำแบบนี้อีก
จากนั้นยังมีซูเอ๋อหวงมาเยือน
ในที่สุดเว่ยเซ่าก็รู้ความจริงเรื่องที่ท่านย่าถูกปองร้าย
เพราะเสี่ยวเฉียวติดต่อกับท่านย่าและท่านย่าส่งสารกลับมาให้พอดี
เมื่อรู้ความจริงซูเอ๋อหวงยังไม่รับผิดคิดจะใส่ร้ายเสี่ยวเฉียวทำให้เว่ยเซ่าโกรธจัด
สั่งลงโทษตามกฎทหารเฉือนจมูก พอเสี่ยวเฉียวรู้ก็คิดว่าวันใดถ้าเว่ยเซ่าหมดรักในตัวเองจะเป็นแบบซูเอ๋อหวงหรือไม่
พอจัดการศึกแถวจิ้นหยางเรียบร้อยก็เดินทางกลับระหว่างทางผ่านเมืองซิ่นตูที่ทั้งสองแต่งงานกัน
พักอยู่หลายวันจนจะออกเดินทางต่อกลับมีเหตุทางทหารอีกเพราะเว่ยเซ่าสั่งให้หยางซิ่นไปกำหราบปี่จื้อ
และไม่ฟังความเห็นของกงซุนหยาง ทั้งยังปิดเสี่ยวเฉียวเป็นความลับ
สุดท้ายเสี่ยวเฉียวรู้เรื่องทั้งสองทะเลาะกันอีก
เสี่ยวเฉียวหาสารที่ปี่จื้อเขียนมีได้และไปพบกงซุนหยางขอให้ช่วยพูดแทน
ทั้งบอกว่าตนล่วงเกินท่านโหวไปแล้ว ในที่สุดเว่ยเซ่ายอมฟังท่านกงซุน ตอนท่านกงซุนพูดบอกเพราะนายหญิง
เว่ยเซ่าจะขัดว่าเรื่องทางทหารเกี่ยวกับสตรีที่ใด
พอบอกให้ถอนทัพเสร็จออกมาก็เจอการแจ้งว่านายหญิงไปแล้ว
ตอนแรกเว่ยเซ่าคิดว่าเสี่ยวเฉียวกลับเหยี่ยนโจว
ที่แท้เสี่ยวฉียวกลับอวี๋หยางไปก่อน ตกกลางคืนฝนตกฟ้าร้อง เว่ยเซ่านอนไม่หลับ
รู้ว่าเสี่ยวเฉียวขี้กลัวที่สุด เลยขี่ม้าฝ่าสายฝนไปหา บอกว่าให้ถอนทัพไปแล้วตัวเองนึกว่าเสี่ยวเฉียวทิ้งตนไปแล้วจึงให้สัญญาว่าจะไม่จัดการสกุลเฉียวถ้าสกุลเฉียวไม่เริ่มก่อน
และให้เสี่ยวเฉียวชอบตนเหมือนที่ตนชอบเสี่ยวเฉียว เสี่ยวเฉียวตกลง เมื่อปรับความเข้าใจกันได้
ก็กลับไปซิ่นตูเพราะยังไม่เสร็จเรื่องยังจะมีทูตของกัวเฉวียนมาหาเพื่อสวามิภักดิ์
เช่นเดียวกับหยางซิ่น
คืนนั้นจัดเลี้ยงมีการมอบสาวงามและจะให้บุตรสาวแต่งเชื่อมสัมพันธ์
กลับถูกเว่ยเซ่าปฏิเสธ
พอคนของตนเห็นว่าดีพยายามโน้มน้าวเว่ยเซ่าเลยบอกว่าข้ากลัวเมีย
พอถึงห้องเห็นเสี่ยวเฉียวอ้วกอีกเลยให้ตามหมอ สรุปคือเสี่ยวเฉียวท้องแล้ว
ส่วนอีกด้านซูเอ๋อหวงเดินทางไปลั่วหยางไปอยู่กับซิ่งซวิ่นและยังแสดงละครฝันว่าเห็นมังกรอะไรอีก
ทำให้ซิ่งซวิ่นอยากตั้งตนเป็นฮ่องเต้
เสี่ยวเฉียวท้องทำให้เดินทางไม่ได้ต้องพักอยู่ที่ซิ่นตู จนกระทั่งเว่ยเซ่าบอกว่าคงจะไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนไปอีกพักหนึ่งเพราะจะเปิดศึกกับซิ่งซวิ่นแล้ว
เล่มสามนี้ความรักของทั้งคู่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
แต่ก็มีส่วนที่เป็นความแค้นที่ยังไม่อาจปล่อยวาง
กับเสี่ยวเฉียวที่รู้อนาคตกังวลว่าจะโดนจัดการเหมือนที่เคยฝันเห็น
ทั้งยังมีซูเอ๋อหวงเข้ามาวุ่ยวายเล็กน้อย แต่ที่แน่ๆคือความรักของพระเอกนางเอก
และใต้หล้าจะช่วงชิงมาได้หรือไม่ต้องตามอ่านเล่มสี่ต่อ
โปรยปกเล่ม4 :
ศึกใหญ่ศึกสุดท้ายใกล้ปะทุ ณ เมืองลั่วหยาง
ผู้ชนะเป็นฮ่องเต้... ผู้แพ้เป็นกบฏ
เว่ยเซ่าตั้งทัพอยู่ที่แม่น้ำหวงเหอ
ประจันหน้ากับกองทัพของซิ่งซวิ่นที่มีจำนวนทหารมากกว่าหลายแสน
แต่ละวันก็เฝ้าหวังว่าจะได้นำชัยชนะกลับไปฝากภรรยาและลูกน้อย
ยามนี้เขาปล่อยวางเรื่องความแค้นแต่หนหลังได้แล้ว
ทว่าเขากลับรู้มาว่า... มณฑลเหยี่ยนโจว
แผ่นดินของสกุลเฉียวเข้าสวามิภักดิ์กับหลิวเหยี่ยน!
นอกจากหลิวเหยี่ยนจะเป็นอดีตคู่หมั้นของภรรยาเขาแล้ว
ความจริงอีกข้อที่ทำให้เว่ยเซ่ารู้สึกคล้ายถูกหักหลังก็คือ...
นางแอบเสริมสร้างกองทัพเหยี่ยนโจวเพื่อเตรียมป้องกันเขา!
ในเมื่อสกุลเฉียวเป็นดั่งชีวิตของนางซึ่งไม่อาจทอดทิ้งได้
แล้วเขาเล่า... เป็นบุรุษที่นางไม่คิดจะเหลียวแลหรือจริงใจด้วยอย่างนั้นหรือ!
เล่ม4 :
การเตรียมทัพใช้เมืองซิ่นตูเป็นกองบัญชาการชั่วคราว
ท่านย่าส่งจดหมายมาเพียงว่า ส่งจ้งหลินไปศึกแทนย่าด้วย
เสี่ยวเฉียวได้รับจดหมายจากต้าเฉียวจึงรู้ว่าหลิวเหยี่ยนได้ไปขอพบปี่จื้อสามครั้งแต่ถูกปฏิเสธ
ข่าวนี้เว่ยเซ่ารู้อยู่แล้วแต่ไม่ได้บอกเสี่ยวเฉียว
แต่เสี่ยวเฉียวก็บอกอยู่ดีทั้งบอกให้สบายใจว่าปี่จื้อไม่มีวันช่วยหลิวเหยี่ยนเด็ดขาด
แต่เว่ยเซ่ากลับพูดอีกทางเรื่องที่ไม่ชอบหลิวเหยี่ยนที่เคยเป็นอดีตคู่หมั้นของเสี่ยวเฉียว
ซึ่งเป็นเรื่องนานจนเสี่ยวเฉียวจำไม่ได้แล้ว
แถมไม่มีความทรงจำดีๆกับหลิวเหยี่ยนนอกจากในฝันที่ถูกหลิวเหยี่ยนใช้กระบี่แทงตาย ในที่สุดทั้งสองก็ปรับความเข้าใจกันได้อีกครั้งก่อนที่เว่ยเซ่าจะออกศึกใหญ่ในวันต่อมา
ทัพใหญ่ของซิ่งซวิ่นปะทะกับทัพของเว่ยเซ่า
ทั้งที่จำนวนคนมากกว่าแต่ก็ยังพ่ายแพ้ ทำให้ต้องส่งสารขอกองหนุนจากเยวี่ยเจิ้งกง
ตอนแรกมีที่ปรึกษาให้คำแนะนำว่าควรบุกไปยึดลั่วหยาง
แต่จู๋เจิงแนะให้ยกไปช่วยซิ่งซวิ่นเพื่อช่วยกำจัดเว่ยเซ่าที่เป็นภัยใหญ่กว่า
ทำให้เยวี่ยเจิ้งกงตัดสินใจไปช่วยซิ่งซวิ่นแต่ก็มีรั้วกันทหารสองทัพไม่ได้ร่วมแรงกันเป็นหนึ่งเดียว
ทัพฝ่ายเว่ยเซ่าและซิ่งซวิ่นกับเยวี่ยเจิ้งกงตรึงกำลังกันอยู่ที่ทุ่งมู่เหยี่ยอากาศเลวร้ายขึ้นทุกที
ด้วยความหนาวเย็น
ทางด้านเมืองลั่วหยาง ฮ่องเต้น้อยหลิงทงได้รับการช่วยเหลือจาก
หวังป้าและต่งเฉิงหนีออกมาได้ ระหว่างทางได้รับการช่วยเหลือจากหลิวเหยี่ยน
แต่ทั้งหมดล้วนเป็นแผนการของหลิวเหยี่ยนและต่งเฉิง
ในการเดินทางไปหนีภัยหลิวทงที่ป่วยหนักอยู่ก่อนแล้วได้สวรรคตไป
หลิวเหยี่ยนจึงได้รับการสนับสนุนเป็นฮ่องเต้ใช้หลางหยาเป็นราชสำนักย่อม
ต่อมาหยวนเจ่อแห่งมณฑลชิงโจวมาสวามิภักดิ์ ทั้งสองหลอกใช้ซึ่งกันเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ใครจะได้ครองใต้หล้าในท้ายสุดก็ต้องดูกันไป
ทัพของเว่ยเซ่ากับซิ่งซวิ่นรอเวลาหิมะละลายถึงจะเปิดศึกใหม่ใครก็คิดว่า
เว่ยเซ่าจะต้องแพ้แน่เพราะมีกำลังทหารน้อยกว่ามาก
แต่เว่ยเซ่าก็สามารถทำให้สองทัพแตกคอกันได้ และสามารถตีซิ่งซวิ่นได้ในที่สุด
เพราะเยวี่ยเจิ้งกงหลงกลหนีกลับไปรักษาเมืองตนเองเพราะแผนลวงของเว่ยเซ่า
ตอนที่ทัพของซิ่งซวิ่นอยู่ที่นี่ มณฑลเหยี่ยนโจวก็ถูกโจวฉวินรุกรานแต่เฉียวผิง
เฉียวฉือนำทัพต้านศึกได้ทั้งยังมีปี่จื้อคอยช่วย
ทำให้เว่ยเซ่าไม่ต้องไปกังวลใจด้านนั้น
มณฑลเหยี่ยนโจวถูกรุกรานสองครั้ง เฉียวเยวี่ยเป็นผู้ไร้สามารถ
หลงเชื่อแต่คำประจบของที่ปรึกษาทั้งมีใจริษยาต่อเฉียวผิง
ทำให้เมื่อได้ฟังคำยุแยงของที่ปรึกษาก็หลงเชื่อว่าตอนนี้อำนาจสั่งการทั้งหมดถูกเฉียวผิงยึดไปทั้งที่ตนเป็นผู้นำตระกลู
เมื่อเฉียวผิง เฉียวฉือกลับมาพร้อมชัยชนะ และได้บอกว่าแม่ทัพนัยน์ตาสีมรกตคือปี่จื้อก็ถูกจางผู่พูดจนไม่ยอมรับปี่จื้อเข้าเมือง
และให้หาทางกำจัดเฉียวผิงโดยยึดอำนาจคืนซะ
คืนนั้นในงานเลี้ยงจางผู่จึงวางยาเฉียวผิงโดยได้ความร่วมมือจากเฉียวเยวี่ย
จนทำให้ตาบอดแล้วไปเข้ากับหลิวเหยี่ยนให้ละทิ้งเว่ยเซ่าที่คิดว่าต้องแพ้ที่ทุ่งมู่เหยี่ย
ทั้งหมดนี้เป้นแผนของหลิวเหยี่ยนที่ส่งคนมาร่วมมือกับจางผู่เพื่อให้เว่ยกับเฉียวผิดใจกัน
แต่เฉียวเยี่ยนโง่เง่าไม่ฟังคำน้องชายแถมยังทำร้ายจนนัยน์ตาบอดและจับขังจากนั้นทุกอย่างก็ออกคำสั่งในนามเฉียวเยวี่ย
เฉียวผิง ส่วนเฉียวฉือรู้ตัวภายหลังได้ติงฮูหยินช่วยส่งออกนอกเมืองได้ทันก่อนที่จะถูกกักตัว
เสี่ยวเฉียวให้กำเนิดบุตรสาวนามว่าเฝยเฝย
หลังเว่ยเซ่าชนะศึกก็ต้องตามไปบุกลั่วหยาง ที่ลั่วหยาง
ซิ่งซวิ่นกลับมาจะฆ่าซูเอ๋อหวงกลับเป็นถูกนางแทงตาย
ซูเอ๋อหวงได้ขอให้ติงชวีช่วยพาตนออกนอกเมืองแต่พอหน้ากากหลุด ติงชวีก็เปลี่ยนใจ
ซูเอ๋อหวงได้แต่บอกว่ารู้ที่ซ่อนสมบัติของซิ่งซวิ่นทำให้ติงชวีพาไปด้วย
แต่สุดท้ายโดนหลอกพามาหาหลิวเหยี่ยนทำให้ต้องยอมรับเป็นนายอีกครั้ง
เว่ยเซ่าจะกลับไปเยี่ยมเสี่ยวเฉียวและลูก อีกด้านก็ให้เว่ยเหลียงเดินทางไปมอบของขวัญวันเกิดเฉียวผิงในนามเสี่ยวเฉียวแทน
ระหว่างทางได้รับข่าวว่าเว่ยเหลียงได้รับบาดเจ็บจากการโดนล้อมที่หน้าประตูเมืองโดยเฉียวเยวี่ย
ตอนนี้ทำให้เฉียวเยวี่ยรู้แล้วว่าตนโดนหลอกให้เป็นศัตรูกับเว่ยเซ่าทั้งการข่าวก็โดนสกัดไว้
พอเว่ยเซ่ารู้ข่าวก็จะมาบุกเมืองติงทันที
ส่วนหลิวเหยี่ยนได้หนีออกจากเมืองไปก่อนหน้านั้นแล้ว พร้อมทิ้งความวุ่นวายเอาไว้
เสี่ยวเฉียวรู้ข่าวจาก เฉียวฉือที่มาแจ้งข่าวโดยกงซุนหยางให้มาส่งข่าว
เสี่ยวเฉียวจึงไปขอร้องท่านย่าขอไปห้ามเว่ยเซ่า
เมื่อไปถึงเว่ยเซ่ายังไม่บุกเมืองเพราะในเมืองเฉียวผิงได้ออกมาหลังได้รับการช่วยเหลือจากแม่ทัพสกุลเฉียวที่ภักดี
และได้วางแผนกำจัดติงชวีไปแล้ว หลังจากของเจรจาสงบศึกทั้งส่งศีรษะของติงชวีไปให้
เว่ยเซ่าก็ไม่รับ
ระหว่างนั้นจางผู่กลัวตายได้สังหารเฉียวเยวี่ยแล้วนำศีรษะไปหาเว่ยเซ่ายอมสวามมิภักดิ์
เสี่ยวเฉียวมาถึงพอดี เสี่ยวเฉียวบอกขอพูดอะไรบางอย่างแล้วจะกลับทันที เสี่ยวเฉียวยอมรับผิดทั้งหมดทั้งเรื่องที่หลายปีนี้คนสกุลเฉียวขาดคุณธรรมและด้อยสามารถ
ก่อความยุ่งยากซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะให้ท่านพ่อส่งเหยี่ยนโจวแก่เว่ยเซ่า แต่เว่ยเซ่ายังไม่สนใจและนำตัวจางผู่มาตัวหัวต่อหน้าเสี่ยวเฉียวแล้วบอกให้นางกลับไป เสี่ยวเฉียวคิดว่าจางผู่จะบอกอะไรกับเว่ยเซ่าได้บ้าง
เลยนึกถึงเรื่องที่ตนเคยให้ท่านพ่อสร้างเสริมกำลังของตนเองเพราะกลัวเว่ยเซ่า
ตอนนี้เสี่ยวเฉียวบอกเรื่องที่อยู่ในใจบอกว่าตอนนั้นยังไม่มีความมั่นใจไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร
ระวังป้องกัน แต่ไม่คิดถึงภัยแฝงของสกุลเฉียว ผิดต่อคำมั่นสัญญาที่เว่ยเซ่ามอบให้
เว่ยเซ่าก็จากไปทั้งอย่างนั้น
เสี่ยวเฉียวไปดูแลเฉียวผิงเล่าเหตุการณ์ให้ฟังและไปลั่วหยางกับเฉียวฉือเพื่อขอโทษเว่ยเหลียง
เว่ยเหลียงรับการขอโทษผู้ที่ช่วยชีวิตของเขาคือผู้เฒ่าไป๋สือ อาจารย์ของกงซุนหยาง
เสี่ยวเฉียวให้เว่ยเหลียงรับเฉียวฉือไว้ใช้สอยในกองทัพให้ติดตามไปฝึกฝนด้วยที่เหลียงโจว
เสี่ยวเฉียวไปหาเว่ยเซ่า
และบอกเรื่องฝากเฉียวฉือไว้กับเว่ยเหลียงและมีเรื่องจะพูด
พูดเสร็จก็จะกลับอวี๋หยางทันที เสี่ยวเฉียวเล่าเรื่องที่ตนฝันร้าย
ในฝันคนสกุลเฉียวล้นตายด้วยน้ำมือเว่ยเซ่า สารภาพว่าตอนแต่งงานมาต้องระวังตัว ไม่กล้าเดินผิด
จนความสัมพันธ์ทลายน้ำแข็งลงได้แต่ก็ยังรู้สึกกดดัน
กลัวว่าคนในครอบครัวจะตายเพราะอารมณ์ของเว่ยเซ่า
จึงได้หวังว่าถ้าวันหนึ่งความผูกพันระหว่างสามีภรรยาไม่อาจประคับประครองได้ คนในครอบครัวก็สามารถปกป้องตัวเองได้
เสี่ยวเฉียวเลยมาเปิดใจบอกว่าเมื่อก่อนเป็นนางเองที่เรียกร้องความจริงใจต่อเว่ยเซ่า
เป็นนางเองที่ไม่ได้ทุ่มเทให้อย่างเท่าเทียม แล้วก็บอกว่าจะกลับไปดูลูกแล้วก็จากไป
เสี่ยวเฉียวกลับถึงอวี๋หยางได้ก็ไป หาสวีฮูหยินบอกเล่าเรื่องราว
และไม่ร็ว่าเว่ยเซ่าจะกลับมาเมื่อไหร่ จากนั้นก็ไปปลอบขวัญญาติทหาร และมารดากับภรรยาของเว่ยเหลียงที่ได้รับบาดเจ็บพอกลับจวนก็ได้รู้ว่าเว่ยเซ่ากลับมาแล้ว
เว่ยเซ่าไปคารวะท่านย่าและบอกว่าอีกไม่กี่วันจะไปบุกหลางหยา
ตกกลางคืนยามป้อนนมให้เฝยเฝยเสร็จเสี่ยวเฉียวจึงถามเว่ยเซ่าว่าท่านพี่ท่านไม่รักข้าแล้วหรือ
เห็นกลับมานางดีใจยิ่งนัก และข้าเองก็รักท่านเช่นกัน
จริงๆแล้วเว่ยเซ่าก็รักเสี่ยวเฉียวมาก
ขนาดตอนอยู่เมืองตงจะไล่ให้กลับสกุลเฉียวยังไม่กล้าเอ่ยปาก
กลัวว่าเสี่ยวเฉียวจะจากไปจริงๆ จะจากไปไม่กลับมาอีก
เสี่ยวเฉียวตื่นมาไม่พบเว่ยเซ่าอยู่ข้างกาย
เลยไปดูพบว่าอยู่ที่ห้องหนังสือดูธงผืนหนึ่งอยู่ เรื่องที่ควรพูดก็ได้พูดไปแล้ว
สิ่งที่ควรกระทำก็กระทำต่อไป
ทุกอย่างต้องรอเวลา
วันเกิดจูซื่อมีการจัดงานต่างจากทุกปี วันนี้เหนื่อยจึงพักผ่อนเร็ว
แต่ตกดึกก็มีคนเรียกว่าฮูหยินหายไปสุดท้ายไปเจอที่ศาลบรรพชน
พอกลับมานอนครึ่งคืนหลับเสี่ยวเฉียวหลับฝันถึงอดีตที่จะถูกกระบี่แทงตายอีกครั้ง
กลับถูกเว่ยเซ่าพบเห็นและปลุกตื่น
เว่ยเซ่ายกเลิกกำหนดการเดินทางในวันนี้ไป
เว่ยเซ่าบอกว่าขอเวลาให้ข้าอีกนิดได้หรือไม่
จากนั้นก็พาเสี่ยวเฉียวไปที่ห้องหนังสือ
สิ่งที่อยู่ในกล่องคือธงคำสั่งของพ่อเขาในตอนนั้น เพราะตอนนั้นปู่ของเสี่ยวเฉียวผิดคำมั่น
ถ้าตอนนั้นได้รับการแจ้งเตือนก็ไม่พ่ายอนาถขนาดนั้น เว่ยเซ่ารู้ว่าตราบใดที่ตนไม่อาจปล่อยวางความแค้น
เจ้าก็ไม่อาจมอบใจให้ข้าอย่างแท้จริงได้
ให้เวลาให้ข้าค่อยๆคิดให้กระจ่างอีกสักพักเถิดนะ
วันถัดมาเว่ยเซ่าก็อำลาจากเมืองอวี๋หยางไป ข่าวมาเป็นระยะ เว่ยเซ่าหันคมกระบี่ไปที่ราชสำนักหลางหยา
ศึกสุดท้ายใกล้จะปะทุทุกเมื่อ เวลาอันสั้นเพียงเดือนเดียวผู้ปกครองพื้นที่แดนใต้ทยอยตั้งตนเป็นฮ่องเต้ตามอย่างสกุลเยวี่ยเจิ้งแห่งฮั่นจง
เนื่องจากโรคระบาดแดนใต้ยังไม่หมด เฉินอิงอ้างลิขิตฟ้ารวบรวมผู้คนพลัดที่อยู่
เรียกตนว่าเฉินเทียนหวังกำลังรุกข้ามแม่น้ำฉางเจียงคุกคามไปยังมณฑลหยางโจวอันอุดมสมบูรณ์
ขณะแดนใต้กำลังโกลาหล ทุกสิ่งที่อวี๋หยางไม่ต่างไปจากวันปกติ
วันที่สิบห้าเดือนเก้าตรงกับงานบุญประจำปีของวัดจินหลง
เนื่องจากมีสมณะเฉียถานขึ้นนั่งบนอาสนะแสดงธรรม งานปีนี้จึงยิ่งใหญ่ สวีฮูหยินพาจูซื่อไปด้วย
เสี่ยวอยู่ในเรือนดูแลเฝยเฝยจึงไม่ได้ไปด้วย
คืนนั้นเว่ยเหยี่ยนที่ไม่ได้พบมานานลอบมาพบเพื่อบอกข่าวว่าฉานอวี๋ประมุขชาวซยงหนูแอบร่วมมือกับหลิวเหยี่ยน
โดยหลิวเหยี่ยนสัญญาว่าจะส่งมอบดินแดนเหอเถ้าแลกกับทหารม้าเกราะเหล็กที่จะโจมตีลงใต้บรรเทาภาวะคับขันของหลางหยา
ไม่ช้าจะฉวยโอกาสนำทัพสามแสนมาจู่โจมเมืองอวิ๋นจง เมืองไป๋เติง และเมืองซั่งกู่
มาแจ้งข่าวเพราะท่านยายมีบุญคุณชุบเลี้ยงมา เพื่อให้บุญคุณสกุลเว่ยเป็นอันสิ้นสุด
นับแต่นี้จะมิใช่ชาวฮั่นอีก คือฮูถูคุนชาวซยงหนู
เสี่ยวเฉียวแจ้งข่าวกับสวีฮูหยิน
สวีฮูหยินบัญชาให้แม่ทัพโยกย้ายกำลังพลเสร็จสิ้น
เสี่ยวเฉียวก็ถามว่าเว่ยเซ่าใช้เวลากลับมากี่วัน
สวีฮูหยินบอกว่าน่าจะราวๆครึ่งเดือน
เสี่ยวเฉียวจึงเสนอให้ขอกำลังช่วยเหลือจากทหารชาวเชียง
เพราะต้องใช้หนึ่งแสนต้านสามแสน สวีฮูหยินตกลงบอกว่าวิธีนี้ใช้ได้ สุดท้ายให้จูซื่อและเสี่ยวเฉียวพาเฝยเฝยไปฟั่นหยางที่ปลอดภัยกว่า
เสี่ยวเฉียวไม่ตกลงแต่ขัดไม่ได้ยอมเดินทางไป เมื่อเดินทางมาถึงฟั่นหยางเสี่ยวเฉียวก็ให้จูซื่อดูแลเฝยเฝยส่วนตัวเองย้อนกลับไปหาสวีฮูหยิน
ที่เวลานั้นเนื่องจากตรากตรำกับความชราทำให้ล้มลงในที่สุดขณะที่รักษาเมืองซั่งกู่
เสี่ยวเฉียวจึงขึ้นไปลั่นกลองรบพร้อมนำธงของท่านปู่ของเว่ยเซ่าท่านโหวผู้เฒ่ามาด้วยทำให้ขวัญกำลังใจของทหารดีขึ้นทันตา
แนวป้องกันสามารถกันข้าศึกได้ระลอกแล้วระลอกเล่า
เมื่อหลายวันก่อนเฉียวฉือนำทัพทหารเชียงห้าหมื่นนายมาช่วย
ศึกครั้งนี้อูเหวยบุตรของฉานอวี๋เป็นคนนำทัพมาเริ่มรู้สึกกระวนกระวายต่อสถานการณ์ศึก
ตั้งรางวัลมากมาย การศึกอันดุเดือดดำเนินมาเช้าจรดเย็นในที่สุด
ตรงมุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือก็ได้ยินเสียงโห่ร้องยินดี ทุกคนนึกว่าเมืองแตกแล้ว
สุดท้ายในวันที่ยี่สิบสองของศึกพิทักษ์เมืองซั่งกู่เยียนโหวเว่ยเซ่าได้ยกทัพใหญ่กลับมาถึงแล้ว
วิกฤติล้อมเมืองซั่งกู่ผ่านพ้นเสี่ยวเฉียวผ่อนคลายจนในที่สุดก็หมดสติไปเพราะความเหนื่อยอ่อน
เมื่อฟื้นขึ้นมาก็ได้รับข่าวว่าที่จวนเมืองอวี๋หยางเกิดเรื่อง
ที่แท้เพราะจูซื่อผู้มีตามืดบอดทั้งชีวิตคิดว่าตนจะเป็นผู้ปกป้องศาลบรรพชนให้จารึกไปทั่ว
พอยิ่งนานก็ยิ่งเครียดจนถึงขั้นไปจุดไฟเผาศาลบรรพชนสกุลเว่ยเอง
เมื่อช่วยออกมาอาการก็สาหัสมากแล้ว เสี่ยวเฉียวเดินทางจากซั่งกู่มาดูแล
พอเว่ยเซ่าไล่ล่าซยงหนูถอยทัพไปไกลแล้วกลับมา
ก็พบจูซื่อเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นใจเพราะพิษบาดแผล สวีฮูหยินรู้ข่าวได้แต่กล่าวว่าคนเลอะเลือนก็เป็นคนที่น่าสงสารเช่นกัน
สวีฮูหยินบอกว่าที่รักษาซั่งกู่ไว้ได้ความชอบใหญ่อยู่ที่เสี่ยวเฉียว
เสี่ยวเฉียวเลยขออนุญาตสวีฮูหยินกลับไปเยี่ยมบิดาที่เหยี่ยนโจว
เว่ยเซ่าไม่อยากให้ไปแต่ขัดท่านย่าไม่ได้ จึงเป็นผู้ไปส่งด้วยตนเอง ในที่สุดถึงเมืองตง
เฉียวผิงดีใจมาก เว่ยเซ่าที่ไม่คิดจะเข้าเมืองก็เข้ามาส่งถึงจวนทั้งยังพักหนึ่งคืน
และเรียกเฉียวผิงว่าท่านพ่อตา เฉียวผิงดีใจมาก
วันรุ่งขึ้นจึงไปส่งเว่ยเซ่าด้วยตนเองและได้ทำการคุกเข่าขอโทษต่อความผิดของสกุลเฉียวที่มีต่อสกุลเว่ย
และบอกว่าตอนแรกไม่คิดจะให้เสี่ยวเฉียวแต่งงานแต่ขัดเฉียวเยวี่ยไม่ได้
ทั้งตัวเองเลี้ยงดูเสี่ยวเฉียวอย่างดี กลัวว่าออกเรือนไปจะไม่เป็นที่รักโชคดีที่สวีฮูหยินเอ็นดู
เว่ยเซ่าไม่ทอดทิ้ง
จึงบอกว่าความหวาดระแวงในตอนแรกล้วนเป็นเพราะใช้ความคิดตนไปวัดจิตใจผู้อื่นนั้นเอง
ขอใช้โอกาสนี้ฝากชีวิตที่เหลือของบุตรสาวแก่ท่านอย่างเป็นทางการ
รู้ว่าท่านโหวมิใช่มัจฉาที่จะกบดานอยู่ในหนองบึง
หากสักวันมัจฉาเกล็ดทองกลายร่างเป็นมังกรแล้ว หวังว่าท่านโหวจะเห็นแก่ความผูกพันที่ร่วมผูกเงื่อนผม
ปกป้องคุ้มครองหมานหมานแทน ให้นางมีความสุขไปจนชั่วชีวิต ขอลาตรงนี้พร้อมทั้งขอให้ท่านโหวนำความสงบมาสู่ใต้หล้า
คืนยุคสมัยอันรุ่งเรืองร่มเย็นแก่เหล่าราษฎรได้ในเร็ววัน
เว่ยเซ่าเดินทางไปคิดไปตลอดเวลาจนถึงจุดพักม้าถึงได้ย้อนกลับไปเมืองตงเพื่อพูดจากับเสี่ยวเฉียวอีกครั้ง
เว่ยเซ่าบอกกับเสี่ยวเฉียวว่าตนมีคุณธรรม ความสามารถอันใดถึงได้แต่งเจ้าเป็นภรรยา
ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้จากเจ้า ในที่สุดเว่ยเซ่าก็คิดได้ว่าตนเองอาศัยความเคยชินทุกเรื่องราวเสี่ยวเฉียวต้องยอมถอยให้ตนเพราะสกุลเฉียวติดค้างสกุลเว่ยจนเป็นความเคยชิน
และคิดว่าตัวเองทำดีที่สุดต่อเสี่ยวเฉียวแล้ว หลังศึกซั่งกู่ ท่านแม่มาด่วนจากไปนางและตัวเองคล้ายกันอย่างยิ่งตาไม่มืดบอดแต่ใจกลับถูกความแค้นและความเห็นแก่ตัวยึดครองไปสิ้น
เสี่ยวเฉียวต้องรับแรงกดดันทุกด้านแต่ตัวเองกับจมอยู่กับความทุกข์ของตัวเอง
จนถึงวันที่เสี่ยวเฉียวขอท่านย่ากลับจวนสกุลเฉียว
ตอนนั้นจึงรู้สึกว่าเสี่ยวเฉียวกำลังหมางเมิน
คิดว่าจะจากไปไม่กลับทั้งที่รู้ว่าต้องกลับมา จนมาถึงสกุลเฉียว
เสี่ยวเฉียวยิ้มได้อย่างสบายใจไม่เหมือนอยู่ที่สกุลเว่ย
ความจริงวันนี้ไม่อยากจากไป
แต่เสี่ยวเฉียวไม่เอ่ยปากรั้งไว้ก็ไม่รู้จะอยู่ต่อได้ยังไง
และท่านพ่อของเสี่ยวเฉียวก็มาพูดจาฝากฝัง ทำให้คิดว่าถ้าวันนั้น เมืองซั่งกู่แตก
เมืองอวี๋หยางแตก ไม่เหลือท่านย่าและเสี่ยวเฉียว ต่อให้กำจัดศัตรูจนหมด
ได้ครองใต้หล้า แต่ใต้หล้าไม่มีเจ้าคนที่สอง
ชีวิตที่เหลือยังจะมีความสุขอะไรให้เอ่ยถึง และบอกว่าเมื่อก่อนเป็นเพราะเสี่ยวเฉียวเลยยอมถอยให้
แต่มาถึงตอนนี้เจ้าไม่ติดค้างอันใดอีกแล้ว ในเมื่อข้าทำร้ายจิตใจเจ้า
เจ้าก็ตบตีข้าเลย แต่อย่าได้ถอดใจจากข้า ในที่สุดท่านโหวแกก็ยอมวางความแค้น
เพราะเสี่ยวเฉียวและความดีที่เสี่ยวเฉียวกระทำจริงๆ กลัวโดนทิ้งด้วยนะ เว่ยเซ่า
ในที่สุดก็เปิดใจกันได้แล้ว
กล่าวถึงด้านซยงหนูเมื่อแพ้ศึกกลับไป
อูเหวยก็รู้ว่าเป็นเพราะเว่ยเหยี่ยนจึงคิดจะไปล้างแค้นที่ไหนได้กลับถูกเว่ยเหยี่ยนจัดการ
พอฉานอวี๋รู้เรื่องเว่ยเหยี่ยนไม่ปฏิเสธพร้อมยอมตาย
แต่พ่อแท้ๆของเว่ยเหยี่ยนที่เป็นน้องชายฉานอวี๋มาขอร้องไว้
ที่จริงคือมีกำลังคนคอยสนับสนุนเลยกำจัดฉานอวี๋เฒ่า และได้รับการแต่งตั้งเป็นฉานอวี๋คนใหม่
เว่ยเหยี่ยนก็จากไปเพราะไม่รู้ว่าตนเองเป็นคนของที่ใดกันแน่ เขาเป็นเพียงคนที่ถูกทอดทิ้ง
เขารู้แก่ใจดี
กงซุนหยางส่งคนมาตามเว่ยเซ่าแล้ว ก่อนออกเดินทางคืนนั้นเว่ยเซ่าอยากรู้เรื่องที่เสี่ยวเฉียวฝันร้ายให้นางบอกมาทั้งหมด
เสี่ยวเฉียวจึงเล่าให้ฟัง เว่ยเซ่าพอได้ยินก็รับไม่ได้และขยะแขยงเรื่องที่ตัวเองแต่งตั้งซูเอ๋อหวงเป็นฮองเฮา
ถามถึงเสี่ยวเฉียว เสี่ยวเฉียวเลยบอกว่าตัวเองถูกหลิวเหยี่ยนฆ่าตาย
จากนั้นก็ไม่รู้ เว่ยเซ่าบอกว่าอย่างนี้เจ้าเลยกลัวข้า
เสี่ยวเฉียวบอกไม่เคยเจอเว่ยเซ่าในฝัน ไม่เคยรู้จักมาก่อน เว่ยเซ่านอนไม่หลับ
รับไม่ได้ที่ไม่เคยเจอเสี่ยวเฉียวแถมโดนหลอกเรื่องท่านย่า
เสี่ยวเฉียวเลยปลอบว่ามันคือความฝัน ล่วงเลยไปแล้ว
ปัจจุบันนี้ต่างหากที่เป็นความจริง
เดือนสองของปีถัดไปในที่สุด พวกหลิวเหยี่ยนก็หนีมาถึงหมู่บ้านชาวประมง
บังคับชาวประมงออกเรือไปยังเกาะเพื่อหนีจากกองทัพของเว่ยเซ่า
เพียงคืนเดียวในสภาพหนีตาย
หลิวเหยี่ยนได้สังหารเหลียงฮองเฮาที่ตนแต่งตั้งโดนในใจยังคิวว่าเป็นเสี่ยวเฉียว
จากนั้นเว่ยเซ่าก็บุกมาถึงเกาะพร้อมทหารมากมาย
หลิวเหยี่ยนขอท้าสู้ตัวต่อตัวสุดท้ายก็แพ้ ซูเอ๋อหวงร้องขอชีวิต
เว่ยเซ่าถอดหน้ากากทองคำและทำลายทิ้งให้นางอยู่กับหน้าที่เสียโฉมของตน
ตอนนั่งเรือกลับเว่ยเซ่าได้ฝันถึงเรื่องราวตอนที่กำจัดหลิวเหยี่ยนและเหตุการณ์หลังจากนั้น
ทุกอย่างมีแต่ความว่างเปล่าไม่อาจเติมเต็มจิตใจได้
จนถึงฉากสุดท้ายที่ตนถูกธนูยิงตาย กงซุนหยางก็เข้ามาปลุก
พอรู้ว่าเป็นฝันก็ดีใจที่สุด เว่ยเซ่ามอบหมายงานทั้งหมดให้กงซุนหยางส่วนตนเองไปรับเสี่ยวเฉียวและเฝยเฝย
กลับลั่วหยาง ใต้หล้ารวมเป็นหนึ่งในที่สุด
ตอนพิเศษ
เล่าถึงเรื่องราวตอนเว่ยเซ่าขึ้นเป็นฮ่องเต้และการใช้ชีวิตหลังจากนั้น
ที่ทั้งทำประโยชน์ให้บ้านเมือง และรักเมีย กลัวเมีย ขี้หึงอีกต่างหาก
เป็นอะไรที่ผ่อนคลายจากทั้งเรื่องที่มีศึกสงครามมาเกี่ยวข้องและเป็นบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดอย่างแน่นอน
เล่มสี่ หลังจากที่ได้ผ่านอุปสรรคมามากมาย เหตุการณ์ที่ชวนให้สกุลเว่ย
และเฉียวอาจจะต้องเป็นศัตรูกันอีกครั้งเพราะภัยทั้งจากภายในและภายนอก
ในที่สุดก็สามารถคลี่คลายได้ด้วยความรัก
และความเข้าใจกันในที่สุดของเว่ยเซ่าและเสี่ยวเฉียว
การรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งจะสำเร็จได้ดังใจหรือไม่ก็ต้องตามอ่านจนถึงหน้าสุดท้าย
ที่มีเรื่องราวน่ารักของเว่ยเซ่าและเสี่ยวเฉียวมีให้ได้ตามจนจบเรื่อง
สนุกครบทุกรสจริงๆ
หลังอ่าน
-เว่ยเซ่า ท่านโหวที่เก่งกล้าสามารถ
โดนท่านย่าบังคับให้แต่งงานกับหญิงสกุลเฉียวที่เป็นศัตรูทำให้ท่านพ่อและพี่ชายต้องตายไปเพราะผิดสัญญาในการทำศึก
เริ่มแรกแต่งอย่างจำใจ ไม่สนใจ ตอนที่ยังไม่กลับสกุลก็นอนแยกห้อง พอกลับสกุล
เจอแม่อยากหาเรื่องให้รับญาติผู้น้องเป็นอนุเลยต้องนอนกับเมียตัวเอง
ครั้งแรกยังไม่เท่าไหร่ แม่วางแผนได้ดีเกินให้ลูกชายกินยาปลุกกำหนัดอีก
เมียผู้บริสุทธิ์เริ่มต้นเลยต้องเสียความบริสุทธิ์ที่มือก่อน
พอได้ร่วมเตียงกันครั้งแรกท่านโหวก็เปลี่ยนจากท่านโหวเป็นสัตว์ป่าทันที
จากนั้นความบริสุทธิ์ของเท้า ชุดชั้นใน อะไรๆก็ตามมา ในเตียงคือสัตว์ป่า
นอกเตียงคือท่านโหวผู้เคร่งขรึม จำเอาไว้ กว่าจะปรับความเข้าใจกัน
เรียวรู้กันและกันจนไม่มีสิ่งใดแทรกกลางได้ก็เล่มสี่
แต่ระหว่างทางจะเห็นพัฒนาการของตัวละครขึ้นเรื่อยๆ
-เสี่ยวเฉียว จับพลัดจับผลูต้องแต่งกับเว่ยเซ่าแทนต้าเฉียว
นึกว่าจะเปลี่ยนสิ่งที่ตนฝันเห็นบ่อยครั้งได้
แต่เรื่องราวก็ยังดำเนินไปคล้ายคลึงกัน ตอนแรกที่แต่งมาสกุลเว่ย เสี่ยวเฉียวรู้ว่าตนไม่เป็นที่ชื่นชอบของแม่สามีและสามี
จึงทำตามระเบียบทุกอย่าง สามีเห็นนางอย่างอย่างนี้ก็ยังหาที่ติ คิดว่าไม่รอนอนก่อน
แถมนั่งไม่เรียบร้อย ก็เป็นคนย้อนมิติมาให้นั่งพับขาตลอดมันก็เมื่อย
เลยมีครั้งนึงเว่ยเซ่ากลับมาเห็นว่านั่งเหยียดขาชัดๆเต็มตา แต่เสี่ยวเฉียวก็ฉลาดและรับมือกับสถานการณ์ได้ดี
เป็นที่รักและเอ็นดูของสวีฮูหยิน
-สวีฮูหยิน ท่านย่าของเว่ยเซ่า ฉลาดมองคนเป็น มองการณ์ไกล ทันเล่ห์เหลี่ยม
และเอ็นดูเสี่ยวเฉียวมาก ถึงกับกล่าวว่าสวรรค์ยุติธรรมพอ เสียคนไปก็ได้คนกลับมาแทน
สวรรค์ไม่เคยลำเอียง
-จูซื่อ ดวงตามืดบอดทั้งชีวิตจริงๆ มีอคติ ถูกคนหลอกใช้ง่าย
จิตใจมีแต่ความเคียดแค้นชิงชัง ไม่ยอมรับความจริง มีแต่ถูกคนหลอกใช้ตลอดเวลา
ทั้งหลานสาว และคนสนิทข้างกาย
-ซูเอ๋อหวง หญิงที่มีอดีตช่วงหนึ่งร่วมกับเว่ยเซ่า
เป็นหญิงที่ขี้มโนตัวแม่ คิดว่าตัวเองสวยที่สุด งามที่สุด เกิดมาพร้อมคำทำนายอันยิ่งใหญ่
หลงตัวเองสุดๆ ร้ายสุดๆด้วยเหมือนกัน
เนื้อเรื่องจะดำเนินควบคู่ไประหว่างการทำศึกรวบรวมใต้หล้า ช่วงเวลาเดียวกับสามก๊ก
ที่เจ้าศักดินาตั้งตนเป็นใหญ่ บ้านเมืองอยู่ในช่วงกลียุค กับความรักระหว่างความแค้นของตัวพระเอกเว่ยเซ่า
กับนางเอก เสี่ยวเฉียวที่ต้องมาแต่งงานเพื่อสลายความแค้นของสองตระกูล
ให้ติดตามว่าทั้งสองจะฝ่าฟันด่านใส่ร้าย ด่านเข้าใจผิดกันไปได้ทุกครั้งหรือไม่
จากเล่มหนึ่งถึงเล่มสี่ ตัวละครมีพัฒนาการอย่างเห็นได้ชัด
ตั้งแต่ตอนแรกที่แต่งงานเพราะถูกท่านย่าตัดสินใจแทน จนต้องมาอยู่ร่วมกัน
เกิดความรักความหวงแหนขึ้นโดยไม่รู้ตัว ในส่วนของนางเอกก็ระมัดระวังตัวในการกระทำ
ทำดีทุกอย่างเพื่อให้ไม่เป็นที่รังเกียจในตระกูลสามี ดีที่มีท่านย่าที่มีความเมตตา
มองการณ์ไกลอยู่ในจวน เว่ยเซ่าภายนอกดูเย็นชา
แต่เมื่ออยู่กับเสี่ยวเฉียวจะคอยเอาใจ จนกระทั่งตอนท้ายที่สุด
ที่สามารถเข้าใจทุกสิ่งก็ยังบอกว่าข้าโชคดียิ่งนักที่แต่งเจ้าเป็นภรรยาได้
ข้ามันเห็นแก่ตัวที่เอาแต่ใช้เรือนร่างเจ้าหาความสุข เป็นความเคยชิน
พอสุดท้ายจริงๆก็สามารถรู้ข้อผิดพลาดของตนได้ในที่สุด เนื้อเรื่องปูมาพระเอกมองบุรุษเป็นใหญ่กว่าสตรี
สตรีไม่อาจก้าวก่ายงานของบุรุษได้ แต่หลายครั้งจะทำตามความเห็นของนางเอก
พออยู่ต่อหน้าคนอื่นจะบอกว่าเรื่องของบุรุษสตรีไม่อาจก้าวก่าย
พออยู่ด้วยกันจะต้องมาเอาหน้าว่าข้าทำตามที่เจ้าบอกแล้วนะ แบบมีทวงบุญคุณ
มีอวดตัวด้วย ตอนท้ายสุดของเรื่องเป็นตอนพิเศษที่นักเขียนได้สรุปเรื่องราวได้ดีทีเดียว
ว่าระหว่างเว่ยเซ่าคนปัจจุบันที่ใจสลายความแค้นได้มีชีวิตอย่างไร
กับเว่ยเซ่าที่ไม่ได้สลายความแค้น ในใจมีแต่ความมืดบอดแม้ได้เป็นฮ่องเต้เหมือนกัน
แต่ก็ต่างกัน ทั้งความเป็นอยู่ คนรอบตัวที่สามรถพูดคุยได้
รวมถึงการมีบุคคลที่รักและเข้าใจอยู่เคียงข้าง
ยิ่งทำให้เห็นถึงจุดสำคัญของเรื่องที่ให้ละความแค้นในใจ
ก็จะทำให้ตัวเองและคนรอบข้างมีความสุข บ้านเมืองร่มเย็น ไม่มีศึก สงครามอีกต่อไปและตัวหลักที่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในใจของเว่ยเซ่าก็คือความดีของเสี่ยวเฉียวที่สามารถทำให้ในที่สุดเว่ยเซ่าก็ตระหนักรู้คิดได้ในที่สุดที่ทำให้เกิดผลแตกต่างจากอดีตกับปัจจุบัน
ใครที่ชอบแนวนี้อ่านแล้วจะสนุก เป็นรักระหว่างรบ ฉากทำศึกมีไม่มาก
แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความฉลาดของพระเอกในการใช้คน
และความเก่งของนางเอกในการมีส่วนช่วยเหลือ การบรรยายฉากสงครามไม่มากอย่างที่คิด เน้นเรื่องความรัก
ความสามารถของพระเอกและนางเอกเป็นหลักไม่เสียดายเวลาอ่านแน่นอน
ตัวละครทุกตัวมีเหตุผลเป็นของตัวเอง จะเฉลยบทสรุปออกมาในรูปแบบต่างๆในท้ายที่สุดอย่างแน่นอน