Saturday, April 27, 2019

#ชมรมคนมีสัมผัสพิเศษ5 #ตอนพลั้งพลาด #อลินา #สนพ.ลูกองุ่น


Review 10/2562
เรื่อง : ชมรมคนมีสัมผัสพิเศษ 5 ตอนพลั้งพลาด
ผู้เขียน : อลินา
พิมพ์ครั้งที่1 : มีนาคม 2562
สนพ. ลูกองุ่น
โปรยปกหลัง :
ปัญหากระเป๋าที่แห้งกรอบและบัญชีตัวแดงโร่ทำให้นิทธันต์ต้องจำใจรับงานเจรจาเชิญผีฝรั่งออกจากที่ดินให้นายใหม่ งานนี้จริงๆควรจะหวานหมู แต่ทำไมกลายเป็นหมูเขี้ยวตัน ผีเยอรมันตัวนี้ดื้อดึงไม่ยอมไปไหน แถมคุยด้วยไม่รู้เรื่องเอาแต่อาละวาดท่าเดียว
ที่สำคัญตำรวจลงบันทึกประจำวันว่านายอันเดรเชฟขนมอบรายนี้เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ แต่ทำไมคุยไปบ่นมาเรื่องกลับโอละพ่อกลายเป็นเหตุฆาตกรรมไปได้เสียนี่

เนื้อเรื่อง :
นิทธันต์รับงานจากนายใหม่ หนึ่งในสมาชิกชมรมที่จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง เพราะนายใหม่อยากได้ที่ดินติดทะเลไปพัฒนา ค่าเจรจาคือหนึ่งเปอร์เซ็นต์เชียวนะ ลูกอินวิญญาณเพื่อนเรียนมหาวิทยาลัยที่ติดตามนิทธันต์มาหลายปีก็อยากได้กระเป๋าใบใหม่ด้วย ฉะนั้นสองคนหนึ่งวิญญาณจึงมีการเดินทางมาเจรจากับผีชาวเยอรมันที่ไม่ยอมไปเกิดจากอุบัติเหตุ แต่เรื่องไม่งานอย่างที่คิด เพราะลูกอินเป็นวิญญาณที่กลัวผีไม่ช่วยอะไรเลย ผีอันเดรก็เอาแต่พูดไม่รู้เรื่อง ไฟลุกโวยวายภาษาที่ไม่เข้าใจ โอ๊ยอ่านแล้วมันฮามาก ต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้เลยนะ หนังสือเล่มเล็กแต่มีอะไรสอดแทรกมากมาย การเจรจาดำเนินไปหลายครั้ง แต่ทำไมมันไม่ได้ผลล่ะ มันผิดพลาดที่ตรงไหน จากอุบัติเหตุธรรมดามันจะกลายเป็นคดีฆาตกรรมไปแล้วสิเนี่ย ต้องสืบใหม่แล้วสินะ แถมมาพัทยาคราวนี้นิทธันต์ ลูกอินยังเจอคนรู้จักเดิมอีก อเนกพงษ์รุ่นพี่ที่ลูกอินเคยคบสมัยเรียนอยู่และตายโดยยังไม่รู้ว่าใครฆ่า ไม่รู้ว่าตายได้ยังไง คราวนี้นิทธันต์ไม่ปล่อยล่ะ จะต้องแอบสืบซะหน่อย มีทิ้งไว้ตอนจบเล็กน้อยให้คอยตามต่อในเล่มหน้า
หลังอ่าน :
การที่จะดูบุคลิกภายนอกนั้นไม่มีทางที่จะดูออกแน่นอน ถ้าไม่รู้จักคบหามานาน ก็ไม่มีทางรู้เบื้องลึก เบื้องหลังของคนๆนั้นได้ อย่ารีบกล่าวหาใครก่อนล่วงหน้า อย่ามองแต่ภาพภายนอก นี่คือเรื่องแรกที่ได้จากการอ่านตอนนี้ เรื่องโดยสรุป การที่พลั้งพลาดไปแล้วแก้ไขให้ถูกต้องเป็นเรื่องที่ดี ไม่ใช่จะอ้างว่าเพราะเค้าเป็นคนดี คนนั้นสมควรโดนเพราะเป็นคนไม่ดี เราไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินใครด้วยชีวิตแทน ถ้าพลาดแล้วสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง ไม่ใช่ยิ่งปกปิดความผิดด้วยการถลำลึกลงไปยิ่งขึ้น เหมือนกับตัวละครในเรื่อง อ่านไปมีความขำ ความฮาของสองเพื่อนหนึ่งคน หนึ่งวิญญาณที่ทะเลาะกันได้ทุกเรื่องแต่ก็เข้าขากันที่สุด กับนายใหม่ที่มีรัศมีที่ผีและวิญญาณไม่กล้าเข้าใกล้หนึ่งในสมาชิกชมรมฯ ซึ่งครั้งนี้ออกมาแค่สามคนเท่านั้น สมาชิกคนอื่นไม่ได้มาด้วยให้หายคิดถึง แต่ก็มีครบทุกรส ทั้งขำ ฮา ซึ้งตอนจบอีกตามเคย เล่มเล็กๆที่อ่านได้อ่านรวดเร็ว สนุกเหมือนเคย อย่าลืมนายธันต์มือปราบผีบอก ลูกอิน และนายใหม่ จะกลับมาเจอใหม่แน่นอนในตอนหน้า

Friday, April 26, 2019

#ปรปักษ์จำนน #4เล่มจบ #สนพ.แจ่มใส #มากกว่ารัก


Review 9/2562
เรื่อง : ปรปักษ์จำนน (4 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : เผิงไหลเค่อ
ผู้แปล : ถังเจวียน
สนพ. แจ่มใส (มากกว่ารัก)
พิมพ์ครั้งที่1 : มีนาคม 2562



ปกหลัง :
ในภาพนิมิตของ ‘เสี่ยวเฉียว’ ...

สกุลเฉียวจะล่มสลาย สกุลเว่ยรวมแผ่นดินเป็นหนึ่ง พี่สาวถูกบีบให้ต้องฆ่าตัวตาย นางต้องตายอย่างไร้แผ่นดินกลบฝัง!

เสี่ยวเฉียวเพียงมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงการล่มสลายของสกุลเฉียว
แม้แต่ตนเองต้องแต่งเข้าสกุลเว่ยที่จงเกลียดสกุลเฉียวแทนพี่สาวนางก็ไม่หวาดหวั่นแต่อย่างใด
ยังโชคดีที่นอกจากความเหินห่างเย็นชาที่เว่ยเซ่าแสดงออกแล้ว ยามอยู่บนเตียงก็เป็นเช่นน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง
แม้มารดาเขาจะเกลียดหน้านางเพียงใดก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยในจวนสกุลเว่ยนางก็ยังได้รับเมตตาจากท่านย่าของเขา

แต่เหตุใดเมื่อวันเวลาผ่านพ้นไป ท่าทีโอนอ่อนผ่อนตามของนางกลับไปขัดลูกกะตาท่านโหวเสียได้
แม้แต่ยามที่เขาเอ่ยปากว่าจะรับอนุตามบัญชาท่านแม่ เพียงแค่นางเห็นดีเห็นงามกับเขาเท่านั้น
ไยเขาต้องโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ และหาเรื่องกลั่นแกล้งนางไม่ให้เป็นสุขด้วย!
เล่ม1:
เนื้อเรื่องเริ่มต้นช่วงเวลาเดียวกับยุคสามก๊ก เป็นช่วงกลียุค แบ่งฝักแบ่งฝ่าย พระเอก เว่ยเซ่า เยียนโหวกำลังรวบรวมแดนเหนือเป็นเจ้าแดนเหนือเพื่อสุดท้ายเป้าหมายคือครองใต้หล้า ส่วนนางเอก เสี่ยวเฉียน ท่านปู่ของตนเคยทำให้ตระกูลเว่ยเกลียดชังที่ผิดคำสัญญาในการรบ ทำให้ท่านพ่อและพี่ชายของเว่ยเซ่าต้องตายในการศึก นางเอกเป็นคนที่ย้อนมิติมาและยังมีการฝันเห็นนิมิตในชาติก่อนที่ตนต้องตาย ครอบครัวตายอนาถ พี่สาวที่แต่งให้เว่ยเซ่าก็ต้องฆ่าตัวตาย เรื่องทั้งหมดเป็นฝันร้ายซ้ำซากยาวนานตลอดเวลาที่นางเอกมาอยู่ในร่างนี้ จึงพยายามเปลี่ยนแปลงเรื่องราว คิดหาทางเปลี่ยนอดีต เริ่มที่การแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์สองสกุลเว่ยและเฉียว ที่ต้าเฉียวต้องไปเป็นเจ้าสาว แต่เสี่ยวเฉียวก็แอบรู้มาว่าต้าเฉียวชอบหนุ่มเลี้ยงม้านัยต์ตาเขียว ปี่จื้อ จึงช่วยให้หนีไปด้วยกัน สุดท้ายตนต้องแต่งงานแทนต้าเฉียว นับเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่เสี่ยวเฉียว หรือหมานหมานได้เจอ การเดินทางไปแต่งงานเว่ยเซ่าก็ไม่ปฏิเสธเพราะเป็นการตอบรับของท่านย่า สวีฮูหยิน ที่ช่วงเวลาตระกูลเว่ยยากลำบากก็ได้สวีฮูหยินประคับประคองให้ผ่านพ้นมาได้ พอเข้าพิธีแต่งงานกัน คืนเข้าหอ ครั้งแรกเว่ยเซ่าก็เอากระบี่มาจอคอเป็นการทักทายเสี่ยวเฉียวซะแล้ว นับแต่นั้นเสี่ยวเฉียวก็คิดว่าคงเป็นน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลองเพราะเพียงวันรุ่งขึ้น เว่ยเซ่าก็ส่งเสี่ยวเฉียวกลับอวี๋หยาง แต่ระหว่างทางกลับโดนชิงตัวไป พอช่วยกลับมาได้เสี่ยวเฉียวได้ใช้ความสามารถของตัวเองหนีออกมาด้วย ทำให้เว่ยเซ่าเริ่มมองนางเอกใหม่ขึ้นเล็กน้อย และให้รอเดินทางกลับพร้อมกัน เมื่อกลับถึงตระกูลเว่ยที่เมืองอวี๋หยางได้เจอจูซื่อ แม่สามีทีไม่ชอบนางแม้แต่น้อย เสี่ยวเฉียวก็ทำใจยอมรับ รู้ตัวว่าสองตระกูลมีความแค้นต่อกัน ยากจะสลายความแค้นง่ายๆ พอเจอ ท่านย่าของพระเอก สวีฮูหยิน เสี่ยวเฉียวเริ่มมีความหวังว่าจะสามารถอยู่ในตระกูลเว่ยได้อย่างดี เพราะท่านย่าผู้เป็นใหญ่ดูแล้วน่าจะชอบนางอยู่เหมือนกัน พอกลับมาถึงตระกูลเว่ย เว่ยเซ่าก็เปลี่ยนมานอนที่ห้องกับเสี่ยวเฉียวเพราะ นางจูซื่ออยากจะให้เว่ยเซ่ารับญาติผู้น้องเป็นอนุ แต่เว่ยเซ่าไม่รับปาก ที่ตลกคือพออยู่ในห้องตามธรรมเนียมฝ่ายชายจะนอนด้านใน สตรีนอนด้านนอก แต่คืนแรกพระเอกก็นอนด้านนอก แกล้งนางเอกให้ปีนเข้าไปข้างใน นางเอกก็งงว่าเอาจริงเหรอ ระวังตัวลีกพระเอกยังแกล้งขัดขาให้ล้มคะมำลงมาทับอีก เป็นฉากในห้องนอนที่ตลกมาก พออยู่ไปเรื่อยๆ พระเอกก็เริ่มมองนางเอกว่าน่าตาดีเหมือนกัน มีแต่คนชม พี่แกก็เริ่มหึงไปทั่ว พอกลับมาห้องเห็นนางเอกนอนไปก่อนก็คิดในใจอีกว่าไม่ยอมรอ ก็หงุดหงิดอีก แถมว่านางเอกว่านั่งเหยียดแข้งเหยียดขา ก็คนมันมาจากอนาคตนะ จะมานั่งพับขาก็เมื่อยนึกว่าไม่มีคนมองนี่นา ตลกมากๆ พระเอกเลยแกล้งเอ่ยปากเรื่องจะรับอนุ นางเอกเลยบอกจะเตรียมห้องให้ พระเอกก็อารมณ์เสียอีก เพราะนึกจะแกล้งซะหน่อย นางเอกก็เอายังไงกันแน่ ตอนนี้ยังจับอารมณ์ไม่ได้ ยังไม่รู้ใจกัน จนถึงตอนที่แม่พระเอกวางแผนให้พระเอกกินยาปลุกกำหนัดเพื่อให้ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกกับญาติผู้น้อง แต่เว่ยเซ่าไม่ยอมรีบกลับไปเรือนตัวเอง ให้เสี่ยวเฉียวเอาน้ำแข็งมาแช่ สุดท้ายทนไม่ไหวก็ให้เสี่ยวเฉียวใช้มือช่วย โอ้ววว ... มือเสียความบริสุทธิ์ก่อนเป็นอันดับแรกเลย คนภายนอกนึกว่าเจอศึกหนักกันสินะ ขำมากๆๆๆ
ช่วงที่กลับมาสกุลเว่ยที่อวี๋หยางก็เจอญาติผู้พี่ของเว่ยเซ่านามเว่ยหยาง เป็นลูกอาหญิงชาติกำเนิดลึกลับ ก็มาแอบชอบเสี่ยวเฉียวตั้งแต่แรกเห็น เสี่ยวเฉียวก็รู้สึกว่าไม่ชอบหน้าคนผู้นี้ เรื่องนี้ยังมีเรื่องต่อไปอีก เพราะความแอบชอบของเว่ยหยางนี่แหละ
ต่อมายังมีเหตุการณ์ที่เหยียนโจวของนางเอกจะถูกบุกยึด พระเอกมีวิธีช่วยเหลือแต่ยังสองจิตสองใจ พอนางเอกได้ข่าวก็คิดว่าตอนนี้ต้องมีกำลังคนเป็นของตัวเอง จะรอขอร้องให้คนอื่นมาช่วยทุกครั้งคงไม่ได้แล้ว นี่เป็นความคิดที่เกิดขึ้นเพราะยังไม่สามารถเชื่อใจพระเอกได้ ด้วยรู้ว่าพระเอกมีความแค้นอยู่กับตระกูลไม่รู้เมื่อไหร่จะสลายความแค้นได้ แต่ก็มาหาเพื่อขอร้องเว่ยเซ่า และบอกว่ามีวิธีที่ไม่ต้องใช้ทหารของตัวเองเลย พอพระเอกฟังจบท่าทางก็ตกใจในความคิดของนางเอกเพราะมันตรงกับที่คิดเอาไว้เลยทีเดียว พระเอกเริ่มมองนางเอกมากขึ้น แถมนางเอกยังเป็นฝ่ายเสนอก่อนว่า หมานหมานจะซาบซึ้งใจยิ่งนัก ในที่สุดเว่ยเซ่าก็ตัดสินใจช่วยเหลือ ก่อนจากไปสนามรบคืนนั้นได้มาหาเสี่ยวเฉียวคราวนี้ได้ร่วมหอกัน หลังจากก่อนหน้านี้เสี่ยวเฉียวทนไม่ไหวเตะหน้าเว่ยเซ่าไป ครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่ในที่สุดก็เป็นสามีภรรยากันจริงๆแล้ว
การศึกเป็นไปตามแผน ส่วนท่านย่าได้พาเสี่ยวเฉียวไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่แคว้นจงซาน และได้พบซูเอ๋อหวงที่เคยมีความหลังกับเว่ยเซ่าครั้งอดีตด้วย
เว่ยเซ่าชนะศึกกับเฉินเสียง ได้ชัยชนะกลับมาตามคาด เสี่ยวเฉียวและท่านย่าเดินทางกลับสกุลเว่ยที่อวี๋หยาง
หลังอ่านเล่มแรก :
ความสัมพันธ์ของพระเอก นางเอกยังไม่ชัดเจน นางเอกถือคติน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง ทำตามหน้าที่ รู้ว่าเกลียดตระกูลตัวเองอยู่ก็ไม่ไปเสนอหน้ามาก ทำตามหน้าที่เท่านั้น ส่วนพระเอก ตอนแรกคิดว่าแต่งมาเฉยๆจะไม่สนใจ แต่ความคิดเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เริ่มจากท่านย่าชอบ เห็นความเก่งของนางเอก ความคิดที่ฉลาดหลักแหลม และความงามที่ทุกคนชื่นชม จากที่ไม่สนใจก็เริ่มมอง เริ่มสนใจ เริ่มหึง เริ่มขัดใจที่ไม่ทำหน้าที่สารพัดล่ะ



ปกหลังเล่ม2:
ยามอยู่นอกห้อง ‘เว่ยเซ่า’ จะกลายเป็นท่านโหวผู้วางตัวดี
ไปที่ใดผู้คนล้วนกลัวเกรงนับถือ มีความปรารถนาอันยิ่งใหญ่เหนือใคร
ทว่ายามที่เขากลับมาอยู่ในห้องหอนั้น...ราวกับเปลี่ยนคนละคน
ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็กระโจนเข้าหา ‘เสี่ยวเฉียว’ ราวสัตว์ป่าที่โหยหิว

สำหรับเว่ยเซ่าแล้วการพิชิตนางไม่ต่างอะไรกับการช่วงชิงเมืองมาได้เมืองหนึ่ง
ปรารถนาที่จะได้มีเวลาอยู่ร่วมราตรีกับนางนานขึ้นสักหน่อย
บุรุษใดก็ห้ามใกล้ชิด หรือส่งสายตาหวานให้แก่นาง
เป็นบุรุษอื่นก็แล้วไปเถอะ แต่คนที่มีใจคิดซ่อนเร้นกับนางเป็นถึงพี่ชายของเขา ‘เว่ยเหยี่ยน’
แม้เขาไม่อยากสูญเสียสายสัมพันธ์กับพี่ชายไปเพราะสตรีแค่คนเดียวเพียงใด
แต่เมื่อความลับสำคัญของเว่ยเหยี่ยนถูกเปิดเผย สายใยพี่น้องก็ถึงคราวต้องขาดสะบั้น!
เล่ม2:
เสี่ยวเฉียวได้รับข่าวดีจากท่านย่าสวีฮูหยินเรื่องเว่ยเซ่าชนะศึก และอีกเรื่องคือจวนสกุลเฉียวและน้องชาย เฉียวฉือจะมาเยี่ยมนางที่อวี๋หยาง ครึ่งเดือนต่อมาเว่ยเซ่ากลับมาถึงโยวโจวก่อน พอกลับมาถึงก็สลัดคราบท่านโหวออกทันที เพราะคิดถึงเสี่ยวเฉียวยิ่งนัก แต่ยังไงพอออกนอกห้องนอนก็สวมหน้าตาท่านโหวอีกครั้งถือว่าบุรุษเป็นใหญ่ เยียนโหวช่างเป็นคนที่ต่างกันจริงๆระหว่างนอกห้องกับในห้อง ข่าวทางเมืองหลวงลั่วหยางก็ออกมาว่าฮ่องเต้น้อยสวรรคต ซิ่งซวิ่นยกบุตรชายของเหวินสี่อ๋องเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ ประกาศเปลี่ยนรัชศกติ้งคังเป็นไท่อัน และเรียกเจ้าศักดินาจากทั่วหล้าเดินทางไปถวายบังคมต่อฮ่องเต้องค์ใหม่ กงซุนหยางแนะนำว่าให้เว่ยเซ่าอ้างว่าป่วยเพื่อบอกปัดคำสั่ง พักฟื้นซักระยะ เว่ยเซ่าเลยได้เวลาที่จะไปจัดการกับเสี่ยวเฉียวเสียที เสี่ยวเฉียวในที่สุดก็รู้ว่าเว่ยเซ่าเป็นสุนัขป่าที่ดุร้ายต่างหาก แถมยังคิดท่าทางได้อีกมากมาย แล้วขนาดเท้าของนางก็ยังจะเสียความบริสุทธิ์ไปอีกคืนนี้แค่ลูบคลำ แต่คืนต่อไปไม่แน่นอน เพราะพอคิดถึงคำพูดของเฉินรุ่ยก็ทนไม่ไหวแล้วเท้าของเสี่ยวเฉียวก็เป็นที่หวงแหนเหมือนกันนะ เพราะฉะนั้นก็เสียความบริสุทธิ์ให้ท่านพี่ไปแล้วกัน(555 อันนี้เป็นเรื่องอนาคตอีกไม่ไกลในคืนต่อไปนี่เอง)  เสี่ยวเฉียวช่วงนี้คัดลอกคัมภีร์ให้ท่านย่าด้วยตัวอักษรที่ใหญ่ขึ้น เนื่องจากช่วงนี้สนิทสนมกับเว่ยเซ่าตอนที่ต้องการหยิบพู่กันจึงเข้าห้องหนังสือไปหยิบทันที พอบอกก็ไม่มีปัญหา แต่พอพูดถึงเรื่องที่น้องชายจะมาและท่านย่าให้พักที่จวนเว่ยเซ่ากลับเงียบไปกว่าจะตอบทำให้รู้ว่าคนสกุลเฉียวคนอื่นๆยังไม่สามารถเข้ามาอยู่ในใจของเว่ยเซ่าได้ นี่คือความคิดของเสี่ยวเฉียวที่จะทำอะไรก็ยังต้องคอยดูสีหน้าของสามี เพราะรู้ว่าในใจของเขายังมีความแค้นต่อสกุลเฉียวอยู่ ก่อนที่เฉียวฉือจะมาเว่ยเซ่าก็พอดีต้องเดินทางกะทันหัน เรื่องนี้เว่ยเซ่าก็รู้สึกว่าเสี่ยวเฉียวน้อยใจ แต่ตัวเองก็ปากหนักไม่อธิบายอีกและก็ไม่คิดอยากเสวนากับคนสกุลเฉียวด้วยส่วนหนึ่งเพราะใจยังไม่ยอมรับ ตอนที่เฉียวฉือมาถึงสวีฮูหยินจึงให้เว่ยเหยี่ยนพาเสี่ยงเฉียวออกไปรับ ทำให้เฉียวฉือคุ้นกับเว่ยเหยี่ยนเรียกซะสนิทสนม แต่เสี่ยวเฉียวที่มีอคติกับเว่ยเหยี่ยนก็ไม่ชอบให้น้องชายไปสนิทสนมกับเว่ยเหยี่ยนแต่ห้ามปรามไม่ได้เพราะจะเป็นการเสียมารยาทไป เฉียวฉือได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นก็ถามถึงพี่เขยว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ พอเสี่ยวเฉียวคิดถึงเว่ยเซ่าก่อนจากไปก็ให้ไม่พอใจ น้อยใจ เลยเตือนเฉียวฉือว่าพี่เขยเงียบขรึมอย่าไปตีสนิท ให้ทำตัวเรียบร้อย พอเว่ยเซ่าเจอเฉียวฉือที่มาพร้อมกัยเว่ยเหยี่ยนที่ออกไปล่าสัตว์ด้วยกัน ก็เลยไม่แสดงท่าทีสนิทสนมเหมือนเว่ยเหยี่ยน เว่ยเซ่าก็เก็บมาคิดในใจแต่ไม่แสดงออก กลับมาถามเสี่ยวเฉียว เสี่ยวเฉียวเลยบอกว่ากลัวน้องชายแสดงกิริยาไม่ดีเลยกำชับให้ทำตัวเรียบร้อย ที่ไหนได้กลับไม่เป็นธรรมชาติเหมือนอยู่กับเว่ยเหยี่ยน หลังจากทั้งสองสนิทสนมกันไปแล้วคุยเล่นไปมาก็มาถึงเรื่องรูปวาด เว่ยเซ่าอารมณ์ดีมีอารมณ์อยากอวด เลยจะไปเอาภาพวาดที่เก็บไว้มาให้เสี่ยวเฉียวดู ที่ไหนได้กลับเกิดเรื่องขึ้นเพราะกล่องเจ้าปัญหาที่เป็นกล่องกลตารางเก้าช่อง ที่เคยห้ามเสี่ยวเฉียวหยิบตอนนี้มีรอยขูดขีดแบบเปิดไม่ได้ก็จะงัดแงะ เสี่ยวเฉียวปฏิเสธไม่รับผิดด้วยสีหน้าจริงจัง เว่ยเซ่าโกรธออกไปข้างนอกพอย้อนคิดดูก็รู้ว่าเสี่ยวเฉียวไม่ได้ทำ จึงคิดไปสืบดูที่เรือนของจูซื่อและก็เป็นจริงตามคาดที่มารดาเป็นคนทำเพราะได้เผยพิรุจจริงๆ ตอนที่กลับไปเว่ยเซ่านึกว่าเสี่ยวเฉียวจะเสียใจอยู่ในห้องกลับกลายเป็น เสี่ยวเฉียวรออยู่พร้อมกล่องเจ้าปัญหาทั้งยังเปิดให้ดูต่อหน้าบอกว่ากล่องนี้เคยเปิดเป็นครั้งแรกต่อหน้าท่าน ของข้างในเป็นอะไรก็ไม่รู้คิดว่าเป็นจดหมาย หลังจากกลับจากแคว้นจงซานได้เจออวี้โหลวฮูหยินเลยอยากรู้ ที่เปิดให้ดูเพราะจะแสดงให้เห็นว่าตนสามารถเปิดได้ ไม่ต้องทำลายกล่อง เว่ยเซ่าผิดคาดที่สุดที่เสี่ยวเฉียวเก่งขนาดนี้สามารถคำนวณได้ คือไม่คิดว่าเมียตัวเองจะเก่ง แถมตอนนี้ยังไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด ทั้งๆที่กล่องของตัวเองถูกแอบเปิดทำไมถึงเป็นคนผิดไปได้ ท่านโหวไม่เข้าใจ ตอนแรกจะมาแสดงความใจกว้างว่าข้าเข้าใจว่าเจ้าไม่ได้ทำและหาหลักฐานแก้ต่างให้แล้วที่ไหนได้กลับมาเจอเมียเก่งแถมลบล้างข้อกล่าวหาเองอีก ขำมากๆๆๆ ต้องง้อเมียอีกแล้ว เฉียวฉืออยากจะลงประชันเชิงยุทธ์ในงานประลองลู่หลี เสี่ยวเฉียวจึงตอบตกลง เพื่อการประลองเลยต้องฝึกซ้อมทุกวัน มาวันนี้เว่ยเหยี่ยนกลับพาเฉียวฉือไปผ่อนคลายเส้นที่สำนักหลัวจง เสี่ยวเฉียวไม่ยอมจึงไปตามด้วยตัวเอง เว่ยเหยี่ยนออกมากล่าวขอโทษ เสี่ยวเฉียวก็ยังระบายโทสะไปหลายคำ เว่ยเหยี่ยนเลยยิ่งเก็บมาคิดถึง ขนาดว่าปิดห้องวาดภาพแล้วก็จัดการตนเองทีเดียวเพราะยิ่งเห็นก็ยิ่งชอบ เหมือนของต้องห้าม เรื่องนี้นางบำเรอในจวนแอบรู้จนได้ภายหลังไปบอกเว่ยเซ่าทำให้เว่ยเซ่าเข้าใจเสี่ยวเฉียวผิดไป จนเสี่ยวเฉียวบันดาลโทสะตบหน้าเว่ยเซ่าซะเลย เว่ยเซ่าเลยต้องจัดการแก้ปัญหาด้วยตนเอง ระหว่างนั้นงานประลองลู่หลีท่านย่าได้เป็นคนให้เสี่ยวเฉียวลั่นกลองเปิดงานทำให้ทุกคนเห็นความสำคัญของเสี่ยวเฉียวในใจของสวีฮูหยิน และเสี่ยวเฉียวก็ทำได้ดีผ่านการทดสอบ ผ่านภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เฉียวฉือชนะในการประลองขี่ม้ายิงธนูและได้แสดงความโดดเด่นโดยการไม่ทำร้ายคนโดยไร้เหตุผล เป็นที่ชื่นชมของคนทั่วไป หลังจบงานในที่สุดเว่ยเซ่าก็จัดการจบปัญหากับเว่ยเหยี่ยนพอกลับถึงจวนเสี่ยวเฉียวดูแลเป็นอย่างดี จูซื่อกลับร้อนใจจนมาหาถึงเรือน ในที่สุดก็หลุดปากเรื่องชาติกำเนิดลึกลับของเว่ยเหยี่ยนทำให้เว่ยเซ่าตกใจมาก พอเช้าท่านย่าก็สอบถามจนได้ข้อมูลที่เพียงพอจะรู้ว่าสองพี่น้องหาไปไหน จึงตามไปพูดคุยรับผิด เว่ยเหยี่ยนขอจากไปเองโดยตัดนิ้วก้อยสาบานว่าจะไม่ทำร้ายชาวฮั่น ท่านย่ากลับมาก็บอกเล่าเรื่องความลับชาติกำเนิดของเว่ยเหยี่ยนให้เสี่ยวเฉียวรู้ด้วยตนเอง และบอกให้ดูแลเว่ยเซ่าให้ดี พอกลับมาท่านย่าก็เริ่มล้มป่วย เสี่ยวเฉียวก็เริ่มเป็นกังวลเพราะตรงกับเหตุการณ์ในชาติก่อนที่เกิดขึ้น จะให้เกิดเหมือนเดิมไม่ได้ เสี่ยวเฉียวพยายามดูแลท่านย่าทุกทางทั้งจับตาดูยาต้ม และดูแลไม่ยอมห่าง เว่ยเซ่ากลับมาจากการส่งเว่ยเหยี่ยนก็ไม่พูดจา เสี่ยวเฉียวดูแลอย่างดี แถมยังต้องเป็นที่ระบายความคับข้องใจด้วย (ข้าไม่ได้คิดเลยนะ สถานที่มันใช่ที่ไหน) พอเว่ยเซ่าบอกว่าจะต้องเดินทางไปทำศึกอีก เสี่ยวเฉียวตกใจมากขอร้องให้อยู่ที่จวนเพราะเหตุการณ์มันตรงกันเกินไป สุดท้ายก็เว่ยเซ่าก็ยังจากไปอยู่ดี เสี่ยวเฉียวดูแลท่านย่าทุกอย่าง แต่ความระแวงของตัวเองก็ไม่สามารถบอกใครได้จึงจับตาดูความเคลื่อนไหวของเรือนบูรพา ในที่สุดเจียงเอ่าก็แอบลักลอบออกไป เสี่ยวเฉียวจับตาดูจนในที่สุดคาดเดาจุดเชื่อมโยงของเรื่องราวได้และมาทันเวลาช่วยชีวิตท่านย่าจากน้ำมือของเจียงเอ่า ที่หลอกใช้จูซื่อทัน โดยคนบงการก็คือซูเอ๋อหวงนั่นเอง จากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ท่านย่าพูดกับจงเอ่าคนสนิทว่าเมื่อเสียไปก็มีได้มา สวรรค์ยุติธรรมเสมอ หลังจากสูญเสียลูกชายและหลานชายคนโตที่ได้มีก็คือสะไภ้ที่ดีเช่นนี้ หลังจากท่านย่าหายดี เสี่ยวเฉียวก็ขอกลับไปเยี่ยมท่านป้าที่บ้านเดิม ท่านย่าอนุญาต เมื่อได้พบกับท่านป้าก็ได้บอกเรื่องราวของต้าเฉียวและปี่จื้อ ส่วนท่านพ่อเสี่ยวเฉียวก็บอกว่าจะต้องเตรียมการให้พร้อมในช่วงกลียุคตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้น จากนั้นก็ไปเยี่ยมต้าเฉียวที่ตั้งครรภ์ ระหว่างนี้เว่ยเซ่าได้กลับมาก่อนกำหนด พอมาถึงก็รู้ว่าเมียไม่อยู่บ้านแล้ว พอคิดถึงเมียในใจเดือดดาลคิดว่าไม่อยู่ไม่กลัวจะไปหาหญิงอื่นหรือไง แต่ก็ไปหาเอี๊ยมตัวโปรดของเมียมาซะ (ท่านโหวรักเมียแต่ปากแข็งมาจ้ะ) และรู้ข่าวเรื่องท่านย่าจึงจัดการสะสางเรื่องและท่านย่าก็รับปากว่าจะสืบหาความจริงให้ได้ไม่ต้องเป็นห่วงเรือนหลัง คนปากแข็งท่านย่ามองก็รู้ใจ เลยบอกว่าให้ไปรับเมียกลับมาแทนย่าที นี่ก็ทำฟอร์มเมื่อท่านย่ามีคำสั่งข้าไปก็ได้ ใจจริงอยากไปจะแย่แล้วล่ะ เลยรีบออกเดินทางลงใต้ทันที ไปถึงเมืองตงก็คลาดกับเสี่ยวเฉียวที่ออกเดินทางไปหาต้าเฉียวแล้ว ท่านโหวคิดถึงเมียมากแล้วนะ รออ่านเล่มสามต่อ

เล่มสองนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเว่ยเซ่าและเสี่ยวเฉียวชัดเจนขึ้นมาก ท่านโหวติดเมียแต่ไม่บอกหรอกนะ ทำผิดต้องคอยง้อตลอด ยังมีเหตุการณ์ของเว่ยเหยี่ยนมาให้ปวดหัวกัน และเรื่องท่านย่าที่เจ็บป่วยอีกด้วย เสี่ยวเฉียวทำสุดความสามารถจนทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ก็ขอกลับบ้านไปเยี่ยมท่านป้าบ้าง เพื่อจะได้จัดการเรื่องราวในครอบครัวสกุลเฉียวให้เรียบร้อย หลังจากที่ภัยมืดในสกุลเว่ยถูกกำจัดไปให้ได้สบายใจไปได้อีกครั้ง



ปกหลังเล่ม3:

เว่ยเซ่าอนุญาตให้นางตบหน้าเขาได้ยามขุ่นเคือง
อนุญาตให้นางปั้นปึ่งโกรธเคืองเขาได้ โดยที่เขาจะแค่หันหลังเดินหนีไป
แต่เขากลับไม่อนุญาตให้นางติดต่อ ‘สกุลเฉียว’ ทั้งอยากให้นางตัดขาดจากสกุลเดิม

แม้ความรักจะผลิบานในจิตใจเว่ยเซ่าเพียงใด
เงาความแค้นอันลึกล้ำในอดีตของเว่ยเซ่ากลับยังไม่เลือนหาย
ยามที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ‘สงครามเย็น’ ระหว่างทั้งสองจะบังเกิดขึ้นเสมอ
เมื่อ ‘ผู้นำทัพคนเร่ร่อน’ ที่เสี่ยวเฉียวเรียกเป็นพี่เขยเริ่มมีชื่อเสียงในบริเวณนั้น
ทว่าสำหรับเว่ยเซ่าแล้วเขากลับมองเป็นศัตรูที่จำต้องกำจัด
กระนั้นเขาก็ได้แต่บัญชาการรบอย่างลับๆ ให้คนไปจัดการ โดยปิดบังไม่ให้เสี่ยวเฉียวระแคะระคาย

เขาหวั่นใจว่าถ้าหากหมานหมานของเขาทราบเรื่องนี้เข้า ตนเองคงต้องสูญเสียนางไปแน่
และวันใดที่นางทอดทิ้งเขาไป เขานี่แหละที่จะไปถล่มสกุลเฉียวไม่ให้เหลือรอดเลยสักคนเดียว!
เล่ม3:
ท่านโหว เว่ยเซ่าตามหาเมียยังไม่เจอว่าจะไปดักหน้าระหว่างทางก็มาเจอกับศัตรูจะทำให้เขื่อนกักน้ำรั่วให้น้ำท่วมหมู่บ้านท้ายเขื่อน ก็ไปช่วยอีก กับท่านสนิทแค่สิบกว่านายก็สามารถช่วยได้ และได้เจออาจารย์ของท่านกงซุนที่เดินทางผ่านมา ซึ่งมองจากปรากฏการณ์บนท้องฟ้าเว่ยเซ่าน่าจะช่วยกลียุคนี้เป็นชะตาดาวจักรพรรดิ ชะตาฟ้าลิขิต  ขอให้เป็นคนดีช่วยชาวบ้านเช่นตอนนี้ต่อไป กับสามารถคลี่คลายสถานการณ์ของหยางซิ่น หยางซิ่นจึงขอยอมรับใช้ด้วยความเต็มใจ เมื่อไปถึงอำเภอหลิงปี้เสี่ยวเฉี่ยวได้ออกเดินทางมาก่อนล่วงหน้าแล้วเพราะปี่จื้อได้ข่าวว่าเซวียไท่จะบุกมาโจมตีจึงส่งเสี่ยวเฉียวออกมาก่อน ท่านโหวคลาดกับเมียตัวเองอีกแล้ว แถมได้เจอปี่จื้อครั้งแรกก็ได้ปะทะกัน แต่เฉียวฉือมาห้ามไว้ได้ทันเลยได้แผลไปคนละเล็กน้อยเท่านั้น เว่ยเซ่ารีบไล่ตามเสี่ยวเฉียวไปอีกคิดว่าเสี่ยวเฉียวจะข้ามแม่น้ำไปก่อนสุดท้ายเสี่ยวเฉียวมาถึงช้ากว่าในที่สุดก็เจอกับได้ซะที ตามจนเหนื่อยเลยทีเดียวท่านโหวดีใจสุดๆล่ะ เสี่ยวเฉียวยังรู้สึกโกรธอยู่ที่ก่อนหน้านี้ขอร้องให้อยู่จวนไม่ไปรบเว่ยเซ่ากลับรับปากแล้วโกหกนาง ตอนนี้เจอกันตอนแรกยังไม่ยอมพูดจาเลยโดนตีก้นเลย แต่เสี่ยวเฉียวก็ทุบคืน และในที่สุดเว่ยเซ่าก็ยอมรับว่าคิดถึงเลยรีบตามมาแต่ไม่เจอซักทีนึกว่าข้ามแม่น้ำไปแล้ว ทั้งสองปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด และติดอยู่ทางฝั่งนี้เพราะน้ำเป็นน้ำแข็งแล่นเรือข้ามไม่ได้ชั่วคราว เสี่ยวเฉียวได้เรียนรู้ว่าเว่ยเซ่ายามอยู่บนเตียงเป็นสัตว์ป่าใจแคบเจ้าคิดเจ้าแค้น พอลงจากเตียงสวมเสื้อผ้าเสร็จก็จะแปรเปลี่ยนเป็นคนเคร่งขรึม ยึดถือกฎเกณฑ์เป็นท่านโหวทันที พักอยู่หลายวันการข่าวส่งมาว่าปี่จื้อจัดการเซวียไท่ได้ เว่ยเซ่าเลยให้หยางซิ่นเฝ้าดูสถานการณ์ให้ดี แล้วจึงบอกเสี่ยวเฉียวและถามเรื่องเฉียวผิงที่ออกประกาศตามหาผู้มีความสามารถ เว่ยเซ่าก็ยังระแวงสกุลเฉียว เสี่ยวเฉียวก็ไม่บอกเหตุผลแท้จริงเช่นกันเพราะกลัวว่าจะถูกโจมตีเข้าสักวัน เลยหากำลังป้องกันตัวเอาไว้เอง ต่างเก็บซ่อนความลับในใจตนเอง
ในที่สุดทั้งสองก็ได้เดินทางกลับเมืองอวี๋หยาง เทศกาลเจิ้งตั้น เว่ยเซ่าพาเสี่ยวเฉียวเซ่นไหว้ที่ศาลบรรพชนเป็นครั้งแรก ทั้งวันเว่ยเซ่าต้องไปรับการคารวะจากแม่ทัพนายกอง ส่วนเสี่ยวเฉียวก็ต้องรับแขกแทนจูซื่อ พบกันอีกทีก็กลางคืนเว่ยเซ่าคุ้นเคยกับร่างกายเสี่ยวเฉียวแล้ว พอเสร็จก็พูดเรื่องไม่ให้เสี่ยวเฉียวติดต่อกับครอบครัวที่มณฑลเหยี่ยนโจวอีกเพราะเป็นคนของสกุลเว่ยแล้ว และจะปกป้องคุ้มครองตลอดไป เสี่ยวเฉียวปฏิเสธเพราะนั้นคือครอบครัวของนาง และยอมรับว่าท่านปู่ของนางผิดต่อสกุลเว่ยจริง พอแต่งมาก็พยายามทำตัวให้ดีทุกอย่าง หวังว่าสักวันเว่ยเซ่าจะละวางความแค้นได้ นี่เป็นการเปิดใจครั้งแรกของนางเอกเลย พระเอกก็คิดว่าสตรีจะตามใจจนเกินไปไม่ได้แล้ว พอแบบนี้ก็โกรธเค้าอีกนะ คุ้มดีคุ้มร้ายมากล่ะ แต่ก็เข้าใจได้ ท่านพ่อกับพี่ชายตายเพราะสกุลเฉียวจะให้ละวางความแค้นตอนนี้ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เมียตัวเองก็รัก เลยไม่รู้จะทำไง ที่สุดงอนหลบหน้าซะเลย แค่นี้ท่านย่าก็รู้แล้วว่าสองคนมีปัญหากันอีกแล้วขำสุดๆ
พอเสร็จแล้วเลยบอกว่าจะเดินทางไปจิ้นหยางเร็วขึ้นทันทีเชียว ท่านย่ารู้เรื่องก็คิดว่าลาดื้อฉุดยังไงก็ไม่อยู่เลยวางแผนไปพักที่เมืองอู๋จงกับจูซื่อ ให้เสี่ยวเฉียวเฝ้าจวนพอเว่ยเซ่ารู้เรื่องก็บอกให้พาเสี่ยวเฉียวไปด้วย เสี่ยวเฉียวบอกจะอยู่ที่จวนเอง เพราะสวีฮูหยินมอบหมายให้เสี่ยวเฉียวไปบวงสรวงไท่เซ่อแทนแม่ของเว่ยเซ่า พอเว่ยเซ่ารู้เรื่องก็บอกให้ท่านย่าพาเสี่ยวเฉียวไปด้วย แล้วก็บอกให้เสี่ยวเฉียวบอกท่านย่าว่าจะไปด้วย แต่เสี่ยวเฉียวจะอยู่ที่จวน เว่ยเซ่าไปส่งท่านย่า ท่านแม่ที่อู๋จงแล้วกลับมา ถึงงานบวงสรวงไท่เซ่อเสี่ยวเฉียวไปทำพิธีและมีการประกวดเหล้าของแต่ละหมู่บ้านเสี่ยวเฉียวก็ตั้งใจชิม จนตัวเองเมา เว่ยเซามารับและพากลับห้องพอเห็นเมียตัวเองก็อดใจไม่อยู่อีกนะ แล้วก็กำชับไม่ให้บอกว่าตัวเองพามาส่ง ในที่สุดเรื่องเร่งด่วนก็มาต้องไปจัดการที่เมืองจิ้นหยาง พอออกเดินทางไปได้สามวันที่จุดพักม้าเกิดไฟไหม้ เหตุเพราะเมียเล่นชู้อยู่บ้านคนเดียว ชู้หนีไปได้พอเว่ยเซ่ารู้เรื่องก็รีบกลับไปรับเสี่ยวเฉียวทันที คงหวงเมียล่ะสิ แต่ปากแข็งสุดๆ ในที่สุดก็บังคับพาเสี่ยวเฉียวไปด้วย
พอถึงจิ้นหยาง เสี่ยวเฉียวได้ช่วยเหลือทาสชาวเชียงที่ปรากฏว่าเป็นหลานชายของหัวหน้าเผ่าเปยเหอ จากนั้นเสี่ยวเฉียวก็ได้ข่าวจากกงซุนหยางว่าเว่ยเซ่าได้รับบาดเจ็บที่แขนอาวุธมีพิษตอนนี้พักฟื้นยังมาไม่ได้ เสี่ยวเฉียวจึงรีบไปดูแลอาการทันที ทันทีที่ถึงค่ายทหารเว่ยเซ่าที่เป็นแม่ทัพความจริงหายเกือบเป็นปกติแล้วแต่พอเห็นเมียมาก็ห้ามตัวเองไม่อยู่อีก เพราะตัวเองจะกลับไปหาสามรอบก็โดนทัดทานไว้ทั้งสามรอบ เลยได้แต่ส่งเสียงใหญ่โตเสี่ยวเฉียวปิดปากทัน แต่กระโจมมันเงียบคนอื่นก็ได้ยินนี่นะ พอหายดีก็กลับจิ้นหยางไปก่อน มีเรื่องเตียวโม่มารับตัวหยวนไป แต่ผิดคำพูดไม่พาไปส่งปู่คิดจะเอาไปต่อรอง เสี่ยวเฉียวรู้เรื่องส่งคนไปช่วยเหลือ ระหว่างนั้น เฉินรุ่ย แอบกลับเข้ามาจะจับตัวเสี่ยวเฉียวไป เสี่ยวเฉียวเอาตัวรอดมาได้ ทุกคนปิดเรื่องนี้กับเว่ยเซ่ากว่าจะรู้เรื่องก็หนึ่งเดือนให้หลังเหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลายหมดแล้ว เว่ยเซ่าตกใจมากรีบกลับมาหาเมียตัวเองและบอกว่าห้ามทำแบบนี้อีก
จากนั้นยังมีซูเอ๋อหวงมาเยือน ในที่สุดเว่ยเซ่าก็รู้ความจริงเรื่องที่ท่านย่าถูกปองร้าย เพราะเสี่ยวเฉียวติดต่อกับท่านย่าและท่านย่าส่งสารกลับมาให้พอดี เมื่อรู้ความจริงซูเอ๋อหวงยังไม่รับผิดคิดจะใส่ร้ายเสี่ยวเฉียวทำให้เว่ยเซ่าโกรธจัด สั่งลงโทษตามกฎทหารเฉือนจมูก พอเสี่ยวเฉียวรู้ก็คิดว่าวันใดถ้าเว่ยเซ่าหมดรักในตัวเองจะเป็นแบบซูเอ๋อหวงหรือไม่ พอจัดการศึกแถวจิ้นหยางเรียบร้อยก็เดินทางกลับระหว่างทางผ่านเมืองซิ่นตูที่ทั้งสองแต่งงานกัน พักอยู่หลายวันจนจะออกเดินทางต่อกลับมีเหตุทางทหารอีกเพราะเว่ยเซ่าสั่งให้หยางซิ่นไปกำหราบปี่จื้อ และไม่ฟังความเห็นของกงซุนหยาง ทั้งยังปิดเสี่ยวเฉียวเป็นความลับ สุดท้ายเสี่ยวเฉียวรู้เรื่องทั้งสองทะเลาะกันอีก เสี่ยวเฉียวหาสารที่ปี่จื้อเขียนมีได้และไปพบกงซุนหยางขอให้ช่วยพูดแทน ทั้งบอกว่าตนล่วงเกินท่านโหวไปแล้ว ในที่สุดเว่ยเซ่ายอมฟังท่านกงซุน ตอนท่านกงซุนพูดบอกเพราะนายหญิง เว่ยเซ่าจะขัดว่าเรื่องทางทหารเกี่ยวกับสตรีที่ใด พอบอกให้ถอนทัพเสร็จออกมาก็เจอการแจ้งว่านายหญิงไปแล้ว ตอนแรกเว่ยเซ่าคิดว่าเสี่ยวเฉียวกลับเหยี่ยนโจว ที่แท้เสี่ยวฉียวกลับอวี๋หยางไปก่อน ตกกลางคืนฝนตกฟ้าร้อง เว่ยเซ่านอนไม่หลับ รู้ว่าเสี่ยวเฉียวขี้กลัวที่สุด เลยขี่ม้าฝ่าสายฝนไปหา บอกว่าให้ถอนทัพไปแล้วตัวเองนึกว่าเสี่ยวเฉียวทิ้งตนไปแล้วจึงให้สัญญาว่าจะไม่จัดการสกุลเฉียวถ้าสกุลเฉียวไม่เริ่มก่อน และให้เสี่ยวเฉียวชอบตนเหมือนที่ตนชอบเสี่ยวเฉียว เสี่ยวเฉียวตกลง เมื่อปรับความเข้าใจกันได้ ก็กลับไปซิ่นตูเพราะยังไม่เสร็จเรื่องยังจะมีทูตของกัวเฉวียนมาหาเพื่อสวามิภักดิ์ เช่นเดียวกับหยางซิ่น คืนนั้นจัดเลี้ยงมีการมอบสาวงามและจะให้บุตรสาวแต่งเชื่อมสัมพันธ์ กลับถูกเว่ยเซ่าปฏิเสธ พอคนของตนเห็นว่าดีพยายามโน้มน้าวเว่ยเซ่าเลยบอกว่าข้ากลัวเมีย พอถึงห้องเห็นเสี่ยวเฉียวอ้วกอีกเลยให้ตามหมอ สรุปคือเสี่ยวเฉียวท้องแล้ว ส่วนอีกด้านซูเอ๋อหวงเดินทางไปลั่วหยางไปอยู่กับซิ่งซวิ่นและยังแสดงละครฝันว่าเห็นมังกรอะไรอีก ทำให้ซิ่งซวิ่นอยากตั้งตนเป็นฮ่องเต้ เสี่ยวเฉียวท้องทำให้เดินทางไม่ได้ต้องพักอยู่ที่ซิ่นตู จนกระทั่งเว่ยเซ่าบอกว่าคงจะไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนไปอีกพักหนึ่งเพราะจะเปิดศึกกับซิ่งซวิ่นแล้ว

เล่มสามนี้ความรักของทั้งคู่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็มีส่วนที่เป็นความแค้นที่ยังไม่อาจปล่อยวาง กับเสี่ยวเฉียวที่รู้อนาคตกังวลว่าจะโดนจัดการเหมือนที่เคยฝันเห็น ทั้งยังมีซูเอ๋อหวงเข้ามาวุ่ยวายเล็กน้อย แต่ที่แน่ๆคือความรักของพระเอกนางเอก และใต้หล้าจะช่วงชิงมาได้หรือไม่ต้องตามอ่านเล่มสี่ต่อ



โปรยปกเล่ม4 :
ศึกใหญ่ศึกสุดท้ายใกล้ปะทุ ณ เมืองลั่วหยาง
ผู้ชนะเป็นฮ่องเต้... ผู้แพ้เป็นกบฏ

เว่ยเซ่าตั้งทัพอยู่ที่แม่น้ำหวงเหอ ประจันหน้ากับกองทัพของซิ่งซวิ่นที่มีจำนวนทหารมากกว่าหลายแสน
แต่ละวันก็เฝ้าหวังว่าจะได้นำชัยชนะกลับไปฝากภรรยาและลูกน้อย
ยามนี้เขาปล่อยวางเรื่องความแค้นแต่หนหลังได้แล้ว
ทว่าเขากลับรู้มาว่า... มณฑลเหยี่ยนโจว แผ่นดินของสกุลเฉียวเข้าสวามิภักดิ์กับหลิวเหยี่ยน!
นอกจากหลิวเหยี่ยนจะเป็นอดีตคู่หมั้นของภรรยาเขาแล้ว
ความจริงอีกข้อที่ทำให้เว่ยเซ่ารู้สึกคล้ายถูกหักหลังก็คือ... นางแอบเสริมสร้างกองทัพเหยี่ยนโจวเพื่อเตรียมป้องกันเขา!

ในเมื่อสกุลเฉียวเป็นดั่งชีวิตของนางซึ่งไม่อาจทอดทิ้งได้
แล้วเขาเล่า... เป็นบุรุษที่นางไม่คิดจะเหลียวแลหรือจริงใจด้วยอย่างนั้นหรือ!

เล่ม4 :
การเตรียมทัพใช้เมืองซิ่นตูเป็นกองบัญชาการชั่วคราว ท่านย่าส่งจดหมายมาเพียงว่า ส่งจ้งหลินไปศึกแทนย่าด้วย เสี่ยวเฉียวได้รับจดหมายจากต้าเฉียวจึงรู้ว่าหลิวเหยี่ยนได้ไปขอพบปี่จื้อสามครั้งแต่ถูกปฏิเสธ ข่าวนี้เว่ยเซ่ารู้อยู่แล้วแต่ไม่ได้บอกเสี่ยวเฉียว แต่เสี่ยวเฉียวก็บอกอยู่ดีทั้งบอกให้สบายใจว่าปี่จื้อไม่มีวันช่วยหลิวเหยี่ยนเด็ดขาด แต่เว่ยเซ่ากลับพูดอีกทางเรื่องที่ไม่ชอบหลิวเหยี่ยนที่เคยเป็นอดีตคู่หมั้นของเสี่ยวเฉียว ซึ่งเป็นเรื่องนานจนเสี่ยวเฉียวจำไม่ได้แล้ว แถมไม่มีความทรงจำดีๆกับหลิวเหยี่ยนนอกจากในฝันที่ถูกหลิวเหยี่ยนใช้กระบี่แทงตาย ในที่สุดทั้งสองก็ปรับความเข้าใจกันได้อีกครั้งก่อนที่เว่ยเซ่าจะออกศึกใหญ่ในวันต่อมา
ทัพใหญ่ของซิ่งซวิ่นปะทะกับทัพของเว่ยเซ่า ทั้งที่จำนวนคนมากกว่าแต่ก็ยังพ่ายแพ้ ทำให้ต้องส่งสารขอกองหนุนจากเยวี่ยเจิ้งกง ตอนแรกมีที่ปรึกษาให้คำแนะนำว่าควรบุกไปยึดลั่วหยาง แต่จู๋เจิงแนะให้ยกไปช่วยซิ่งซวิ่นเพื่อช่วยกำจัดเว่ยเซ่าที่เป็นภัยใหญ่กว่า ทำให้เยวี่ยเจิ้งกงตัดสินใจไปช่วยซิ่งซวิ่นแต่ก็มีรั้วกันทหารสองทัพไม่ได้ร่วมแรงกันเป็นหนึ่งเดียว ทัพฝ่ายเว่ยเซ่าและซิ่งซวิ่นกับเยวี่ยเจิ้งกงตรึงกำลังกันอยู่ที่ทุ่งมู่เหยี่ยอากาศเลวร้ายขึ้นทุกที ด้วยความหนาวเย็น
ทางด้านเมืองลั่วหยาง ฮ่องเต้น้อยหลิงทงได้รับการช่วยเหลือจาก หวังป้าและต่งเฉิงหนีออกมาได้ ระหว่างทางได้รับการช่วยเหลือจากหลิวเหยี่ยน แต่ทั้งหมดล้วนเป็นแผนการของหลิวเหยี่ยนและต่งเฉิง ในการเดินทางไปหนีภัยหลิวทงที่ป่วยหนักอยู่ก่อนแล้วได้สวรรคตไป หลิวเหยี่ยนจึงได้รับการสนับสนุนเป็นฮ่องเต้ใช้หลางหยาเป็นราชสำนักย่อม ต่อมาหยวนเจ่อแห่งมณฑลชิงโจวมาสวามิภักดิ์ ทั้งสองหลอกใช้ซึ่งกันเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ใครจะได้ครองใต้หล้าในท้ายสุดก็ต้องดูกันไป
ทัพของเว่ยเซ่ากับซิ่งซวิ่นรอเวลาหิมะละลายถึงจะเปิดศึกใหม่ใครก็คิดว่า เว่ยเซ่าจะต้องแพ้แน่เพราะมีกำลังทหารน้อยกว่ามาก แต่เว่ยเซ่าก็สามารถทำให้สองทัพแตกคอกันได้ และสามารถตีซิ่งซวิ่นได้ในที่สุด เพราะเยวี่ยเจิ้งกงหลงกลหนีกลับไปรักษาเมืองตนเองเพราะแผนลวงของเว่ยเซ่า ตอนที่ทัพของซิ่งซวิ่นอยู่ที่นี่ มณฑลเหยี่ยนโจวก็ถูกโจวฉวินรุกรานแต่เฉียวผิง เฉียวฉือนำทัพต้านศึกได้ทั้งยังมีปี่จื้อคอยช่วย ทำให้เว่ยเซ่าไม่ต้องไปกังวลใจด้านนั้น
มณฑลเหยี่ยนโจวถูกรุกรานสองครั้ง เฉียวเยวี่ยเป็นผู้ไร้สามารถ หลงเชื่อแต่คำประจบของที่ปรึกษาทั้งมีใจริษยาต่อเฉียวผิง ทำให้เมื่อได้ฟังคำยุแยงของที่ปรึกษาก็หลงเชื่อว่าตอนนี้อำนาจสั่งการทั้งหมดถูกเฉียวผิงยึดไปทั้งที่ตนเป็นผู้นำตระกลู เมื่อเฉียวผิง เฉียวฉือกลับมาพร้อมชัยชนะ และได้บอกว่าแม่ทัพนัยน์ตาสีมรกตคือปี่จื้อก็ถูกจางผู่พูดจนไม่ยอมรับปี่จื้อเข้าเมือง และให้หาทางกำจัดเฉียวผิงโดยยึดอำนาจคืนซะ คืนนั้นในงานเลี้ยงจางผู่จึงวางยาเฉียวผิงโดยได้ความร่วมมือจากเฉียวเยวี่ย จนทำให้ตาบอดแล้วไปเข้ากับหลิวเหยี่ยนให้ละทิ้งเว่ยเซ่าที่คิดว่าต้องแพ้ที่ทุ่งมู่เหยี่ย ทั้งหมดนี้เป้นแผนของหลิวเหยี่ยนที่ส่งคนมาร่วมมือกับจางผู่เพื่อให้เว่ยกับเฉียวผิดใจกัน แต่เฉียวเยี่ยนโง่เง่าไม่ฟังคำน้องชายแถมยังทำร้ายจนนัยน์ตาบอดและจับขังจากนั้นทุกอย่างก็ออกคำสั่งในนามเฉียวเยวี่ย เฉียวผิง ส่วนเฉียวฉือรู้ตัวภายหลังได้ติงฮูหยินช่วยส่งออกนอกเมืองได้ทันก่อนที่จะถูกกักตัว
เสี่ยวเฉียวให้กำเนิดบุตรสาวนามว่าเฝยเฝย หลังเว่ยเซ่าชนะศึกก็ต้องตามไปบุกลั่วหยาง ที่ลั่วหยาง ซิ่งซวิ่นกลับมาจะฆ่าซูเอ๋อหวงกลับเป็นถูกนางแทงตาย ซูเอ๋อหวงได้ขอให้ติงชวีช่วยพาตนออกนอกเมืองแต่พอหน้ากากหลุด ติงชวีก็เปลี่ยนใจ ซูเอ๋อหวงได้แต่บอกว่ารู้ที่ซ่อนสมบัติของซิ่งซวิ่นทำให้ติงชวีพาไปด้วย แต่สุดท้ายโดนหลอกพามาหาหลิวเหยี่ยนทำให้ต้องยอมรับเป็นนายอีกครั้ง
เว่ยเซ่าจะกลับไปเยี่ยมเสี่ยวเฉียวและลูก อีกด้านก็ให้เว่ยเหลียงเดินทางไปมอบของขวัญวันเกิดเฉียวผิงในนามเสี่ยวเฉียวแทน ระหว่างทางได้รับข่าวว่าเว่ยเหลียงได้รับบาดเจ็บจากการโดนล้อมที่หน้าประตูเมืองโดยเฉียวเยวี่ย ตอนนี้ทำให้เฉียวเยวี่ยรู้แล้วว่าตนโดนหลอกให้เป็นศัตรูกับเว่ยเซ่าทั้งการข่าวก็โดนสกัดไว้ พอเว่ยเซ่ารู้ข่าวก็จะมาบุกเมืองติงทันที ส่วนหลิวเหยี่ยนได้หนีออกจากเมืองไปก่อนหน้านั้นแล้ว พร้อมทิ้งความวุ่นวายเอาไว้
เสี่ยวเฉียวรู้ข่าวจาก เฉียวฉือที่มาแจ้งข่าวโดยกงซุนหยางให้มาส่งข่าว เสี่ยวเฉียวจึงไปขอร้องท่านย่าขอไปห้ามเว่ยเซ่า เมื่อไปถึงเว่ยเซ่ายังไม่บุกเมืองเพราะในเมืองเฉียวผิงได้ออกมาหลังได้รับการช่วยเหลือจากแม่ทัพสกุลเฉียวที่ภักดี และได้วางแผนกำจัดติงชวีไปแล้ว หลังจากของเจรจาสงบศึกทั้งส่งศีรษะของติงชวีไปให้ เว่ยเซ่าก็ไม่รับ ระหว่างนั้นจางผู่กลัวตายได้สังหารเฉียวเยวี่ยแล้วนำศีรษะไปหาเว่ยเซ่ายอมสวามมิภักดิ์ เสี่ยวเฉียวมาถึงพอดี เสี่ยวเฉียวบอกขอพูดอะไรบางอย่างแล้วจะกลับทันที เสี่ยวเฉียวยอมรับผิดทั้งหมดทั้งเรื่องที่หลายปีนี้คนสกุลเฉียวขาดคุณธรรมและด้อยสามารถ ก่อความยุ่งยากซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะให้ท่านพ่อส่งเหยี่ยนโจวแก่เว่ยเซ่า แต่เว่ยเซ่ายังไม่สนใจและนำตัวจางผู่มาตัวหัวต่อหน้าเสี่ยวเฉียวแล้วบอกให้นางกลับไป เสี่ยวเฉียวคิดว่าจางผู่จะบอกอะไรกับเว่ยเซ่าได้บ้าง เลยนึกถึงเรื่องที่ตนเคยให้ท่านพ่อสร้างเสริมกำลังของตนเองเพราะกลัวเว่ยเซ่า ตอนนี้เสี่ยวเฉียวบอกเรื่องที่อยู่ในใจบอกว่าตอนนั้นยังไม่มีความมั่นใจไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร ระวังป้องกัน แต่ไม่คิดถึงภัยแฝงของสกุลเฉียว ผิดต่อคำมั่นสัญญาที่เว่ยเซ่ามอบให้ เว่ยเซ่าก็จากไปทั้งอย่างนั้น
เสี่ยวเฉียวไปดูแลเฉียวผิงเล่าเหตุการณ์ให้ฟังและไปลั่วหยางกับเฉียวฉือเพื่อขอโทษเว่ยเหลียง เว่ยเหลียงรับการขอโทษผู้ที่ช่วยชีวิตของเขาคือผู้เฒ่าไป๋สือ อาจารย์ของกงซุนหยาง เสี่ยวเฉียวให้เว่ยเหลียงรับเฉียวฉือไว้ใช้สอยในกองทัพให้ติดตามไปฝึกฝนด้วยที่เหลียงโจว
เสี่ยวเฉียวไปหาเว่ยเซ่า และบอกเรื่องฝากเฉียวฉือไว้กับเว่ยเหลียงและมีเรื่องจะพูด พูดเสร็จก็จะกลับอวี๋หยางทันที เสี่ยวเฉียวเล่าเรื่องที่ตนฝันร้าย ในฝันคนสกุลเฉียวล้นตายด้วยน้ำมือเว่ยเซ่า สารภาพว่าตอนแต่งงานมาต้องระวังตัว ไม่กล้าเดินผิด จนความสัมพันธ์ทลายน้ำแข็งลงได้แต่ก็ยังรู้สึกกดดัน กลัวว่าคนในครอบครัวจะตายเพราะอารมณ์ของเว่ยเซ่า จึงได้หวังว่าถ้าวันหนึ่งความผูกพันระหว่างสามีภรรยาไม่อาจประคับประครองได้ คนในครอบครัวก็สามารถปกป้องตัวเองได้ เสี่ยวเฉียวเลยมาเปิดใจบอกว่าเมื่อก่อนเป็นนางเองที่เรียกร้องความจริงใจต่อเว่ยเซ่า เป็นนางเองที่ไม่ได้ทุ่มเทให้อย่างเท่าเทียม แล้วก็บอกว่าจะกลับไปดูลูกแล้วก็จากไป
เสี่ยวเฉียวกลับถึงอวี๋หยางได้ก็ไป หาสวีฮูหยินบอกเล่าเรื่องราว และไม่ร็ว่าเว่ยเซ่าจะกลับมาเมื่อไหร่ จากนั้นก็ไปปลอบขวัญญาติทหาร และมารดากับภรรยาของเว่ยเหลียงที่ได้รับบาดเจ็บพอกลับจวนก็ได้รู้ว่าเว่ยเซ่ากลับมาแล้ว  เว่ยเซ่าไปคารวะท่านย่าและบอกว่าอีกไม่กี่วันจะไปบุกหลางหยา ตกกลางคืนยามป้อนนมให้เฝยเฝยเสร็จเสี่ยวเฉียวจึงถามเว่ยเซ่าว่าท่านพี่ท่านไม่รักข้าแล้วหรือ เห็นกลับมานางดีใจยิ่งนัก และข้าเองก็รักท่านเช่นกัน จริงๆแล้วเว่ยเซ่าก็รักเสี่ยวเฉียวมาก ขนาดตอนอยู่เมืองตงจะไล่ให้กลับสกุลเฉียวยังไม่กล้าเอ่ยปาก กลัวว่าเสี่ยวเฉียวจะจากไปจริงๆ จะจากไปไม่กลับมาอีก
เสี่ยวเฉียวตื่นมาไม่พบเว่ยเซ่าอยู่ข้างกาย เลยไปดูพบว่าอยู่ที่ห้องหนังสือดูธงผืนหนึ่งอยู่ เรื่องที่ควรพูดก็ได้พูดไปแล้ว สิ่งที่ควรกระทำก็กระทำต่อไป  ทุกอย่างต้องรอเวลา
วันเกิดจูซื่อมีการจัดงานต่างจากทุกปี วันนี้เหนื่อยจึงพักผ่อนเร็ว แต่ตกดึกก็มีคนเรียกว่าฮูหยินหายไปสุดท้ายไปเจอที่ศาลบรรพชน พอกลับมานอนครึ่งคืนหลับเสี่ยวเฉียวหลับฝันถึงอดีตที่จะถูกกระบี่แทงตายอีกครั้ง กลับถูกเว่ยเซ่าพบเห็นและปลุกตื่น
เว่ยเซ่ายกเลิกกำหนดการเดินทางในวันนี้ไป เว่ยเซ่าบอกว่าขอเวลาให้ข้าอีกนิดได้หรือไม่ จากนั้นก็พาเสี่ยวเฉียวไปที่ห้องหนังสือ สิ่งที่อยู่ในกล่องคือธงคำสั่งของพ่อเขาในตอนนั้น เพราะตอนนั้นปู่ของเสี่ยวเฉียวผิดคำมั่น ถ้าตอนนั้นได้รับการแจ้งเตือนก็ไม่พ่ายอนาถขนาดนั้น เว่ยเซ่ารู้ว่าตราบใดที่ตนไม่อาจปล่อยวางความแค้น เจ้าก็ไม่อาจมอบใจให้ข้าอย่างแท้จริงได้ ให้เวลาให้ข้าค่อยๆคิดให้กระจ่างอีกสักพักเถิดนะ
วันถัดมาเว่ยเซ่าก็อำลาจากเมืองอวี๋หยางไป ข่าวมาเป็นระยะ เว่ยเซ่าหันคมกระบี่ไปที่ราชสำนักหลางหยา ศึกสุดท้ายใกล้จะปะทุทุกเมื่อ เวลาอันสั้นเพียงเดือนเดียวผู้ปกครองพื้นที่แดนใต้ทยอยตั้งตนเป็นฮ่องเต้ตามอย่างสกุลเยวี่ยเจิ้งแห่งฮั่นจง เนื่องจากโรคระบาดแดนใต้ยังไม่หมด เฉินอิงอ้างลิขิตฟ้ารวบรวมผู้คนพลัดที่อยู่ เรียกตนว่าเฉินเทียนหวังกำลังรุกข้ามแม่น้ำฉางเจียงคุกคามไปยังมณฑลหยางโจวอันอุดมสมบูรณ์
ขณะแดนใต้กำลังโกลาหล ทุกสิ่งที่อวี๋หยางไม่ต่างไปจากวันปกติ วันที่สิบห้าเดือนเก้าตรงกับงานบุญประจำปีของวัดจินหลง เนื่องจากมีสมณะเฉียถานขึ้นนั่งบนอาสนะแสดงธรรม งานปีนี้จึงยิ่งใหญ่ สวีฮูหยินพาจูซื่อไปด้วย เสี่ยวอยู่ในเรือนดูแลเฝยเฝยจึงไม่ได้ไปด้วย คืนนั้นเว่ยเหยี่ยนที่ไม่ได้พบมานานลอบมาพบเพื่อบอกข่าวว่าฉานอวี๋ประมุขชาวซยงหนูแอบร่วมมือกับหลิวเหยี่ยน โดยหลิวเหยี่ยนสัญญาว่าจะส่งมอบดินแดนเหอเถ้าแลกกับทหารม้าเกราะเหล็กที่จะโจมตีลงใต้บรรเทาภาวะคับขันของหลางหยา ไม่ช้าจะฉวยโอกาสนำทัพสามแสนมาจู่โจมเมืองอวิ๋นจง เมืองไป๋เติง และเมืองซั่งกู่ มาแจ้งข่าวเพราะท่านยายมีบุญคุณชุบเลี้ยงมา เพื่อให้บุญคุณสกุลเว่ยเป็นอันสิ้นสุด นับแต่นี้จะมิใช่ชาวฮั่นอีก คือฮูถูคุนชาวซยงหนู
เสี่ยวเฉียวแจ้งข่าวกับสวีฮูหยิน สวีฮูหยินบัญชาให้แม่ทัพโยกย้ายกำลังพลเสร็จสิ้น เสี่ยวเฉียวก็ถามว่าเว่ยเซ่าใช้เวลากลับมากี่วัน สวีฮูหยินบอกว่าน่าจะราวๆครึ่งเดือน เสี่ยวเฉียวจึงเสนอให้ขอกำลังช่วยเหลือจากทหารชาวเชียง เพราะต้องใช้หนึ่งแสนต้านสามแสน สวีฮูหยินตกลงบอกว่าวิธีนี้ใช้ได้ สุดท้ายให้จูซื่อและเสี่ยวเฉียวพาเฝยเฝยไปฟั่นหยางที่ปลอดภัยกว่า เสี่ยวเฉียวไม่ตกลงแต่ขัดไม่ได้ยอมเดินทางไป เมื่อเดินทางมาถึงฟั่นหยางเสี่ยวเฉียวก็ให้จูซื่อดูแลเฝยเฝยส่วนตัวเองย้อนกลับไปหาสวีฮูหยิน ที่เวลานั้นเนื่องจากตรากตรำกับความชราทำให้ล้มลงในที่สุดขณะที่รักษาเมืองซั่งกู่ เสี่ยวเฉียวจึงขึ้นไปลั่นกลองรบพร้อมนำธงของท่านปู่ของเว่ยเซ่าท่านโหวผู้เฒ่ามาด้วยทำให้ขวัญกำลังใจของทหารดีขึ้นทันตา แนวป้องกันสามารถกันข้าศึกได้ระลอกแล้วระลอกเล่า เมื่อหลายวันก่อนเฉียวฉือนำทัพทหารเชียงห้าหมื่นนายมาช่วย ศึกครั้งนี้อูเหวยบุตรของฉานอวี๋เป็นคนนำทัพมาเริ่มรู้สึกกระวนกระวายต่อสถานการณ์ศึก ตั้งรางวัลมากมาย การศึกอันดุเดือดดำเนินมาเช้าจรดเย็นในที่สุด ตรงมุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือก็ได้ยินเสียงโห่ร้องยินดี ทุกคนนึกว่าเมืองแตกแล้ว สุดท้ายในวันที่ยี่สิบสองของศึกพิทักษ์เมืองซั่งกู่เยียนโหวเว่ยเซ่าได้ยกทัพใหญ่กลับมาถึงแล้ว
วิกฤติล้อมเมืองซั่งกู่ผ่านพ้นเสี่ยวเฉียวผ่อนคลายจนในที่สุดก็หมดสติไปเพราะความเหนื่อยอ่อน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็ได้รับข่าวว่าที่จวนเมืองอวี๋หยางเกิดเรื่อง ที่แท้เพราะจูซื่อผู้มีตามืดบอดทั้งชีวิตคิดว่าตนจะเป็นผู้ปกป้องศาลบรรพชนให้จารึกไปทั่ว พอยิ่งนานก็ยิ่งเครียดจนถึงขั้นไปจุดไฟเผาศาลบรรพชนสกุลเว่ยเอง เมื่อช่วยออกมาอาการก็สาหัสมากแล้ว เสี่ยวเฉียวเดินทางจากซั่งกู่มาดูแล พอเว่ยเซ่าไล่ล่าซยงหนูถอยทัพไปไกลแล้วกลับมา ก็พบจูซื่อเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นใจเพราะพิษบาดแผล สวีฮูหยินรู้ข่าวได้แต่กล่าวว่าคนเลอะเลือนก็เป็นคนที่น่าสงสารเช่นกัน
สวีฮูหยินบอกว่าที่รักษาซั่งกู่ไว้ได้ความชอบใหญ่อยู่ที่เสี่ยวเฉียว เสี่ยวเฉียวเลยขออนุญาตสวีฮูหยินกลับไปเยี่ยมบิดาที่เหยี่ยนโจว เว่ยเซ่าไม่อยากให้ไปแต่ขัดท่านย่าไม่ได้ จึงเป็นผู้ไปส่งด้วยตนเอง ในที่สุดถึงเมืองตง เฉียวผิงดีใจมาก เว่ยเซ่าที่ไม่คิดจะเข้าเมืองก็เข้ามาส่งถึงจวนทั้งยังพักหนึ่งคืน และเรียกเฉียวผิงว่าท่านพ่อตา เฉียวผิงดีใจมาก วันรุ่งขึ้นจึงไปส่งเว่ยเซ่าด้วยตนเองและได้ทำการคุกเข่าขอโทษต่อความผิดของสกุลเฉียวที่มีต่อสกุลเว่ย และบอกว่าตอนแรกไม่คิดจะให้เสี่ยวเฉียวแต่งงานแต่ขัดเฉียวเยวี่ยไม่ได้ ทั้งตัวเองเลี้ยงดูเสี่ยวเฉียวอย่างดี กลัวว่าออกเรือนไปจะไม่เป็นที่รักโชคดีที่สวีฮูหยินเอ็นดู เว่ยเซ่าไม่ทอดทิ้ง จึงบอกว่าความหวาดระแวงในตอนแรกล้วนเป็นเพราะใช้ความคิดตนไปวัดจิตใจผู้อื่นนั้นเอง ขอใช้โอกาสนี้ฝากชีวิตที่เหลือของบุตรสาวแก่ท่านอย่างเป็นทางการ รู้ว่าท่านโหวมิใช่มัจฉาที่จะกบดานอยู่ในหนองบึง หากสักวันมัจฉาเกล็ดทองกลายร่างเป็นมังกรแล้ว หวังว่าท่านโหวจะเห็นแก่ความผูกพันที่ร่วมผูกเงื่อนผม ปกป้องคุ้มครองหมานหมานแทน ให้นางมีความสุขไปจนชั่วชีวิต ขอลาตรงนี้พร้อมทั้งขอให้ท่านโหวนำความสงบมาสู่ใต้หล้า คืนยุคสมัยอันรุ่งเรืองร่มเย็นแก่เหล่าราษฎรได้ในเร็ววัน
เว่ยเซ่าเดินทางไปคิดไปตลอดเวลาจนถึงจุดพักม้าถึงได้ย้อนกลับไปเมืองตงเพื่อพูดจากับเสี่ยวเฉียวอีกครั้ง เว่ยเซ่าบอกกับเสี่ยวเฉียวว่าตนมีคุณธรรม ความสามารถอันใดถึงได้แต่งเจ้าเป็นภรรยา ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้จากเจ้า ในที่สุดเว่ยเซ่าก็คิดได้ว่าตนเองอาศัยความเคยชินทุกเรื่องราวเสี่ยวเฉียวต้องยอมถอยให้ตนเพราะสกุลเฉียวติดค้างสกุลเว่ยจนเป็นความเคยชิน และคิดว่าตัวเองทำดีที่สุดต่อเสี่ยวเฉียวแล้ว หลังศึกซั่งกู่ ท่านแม่มาด่วนจากไปนางและตัวเองคล้ายกันอย่างยิ่งตาไม่มืดบอดแต่ใจกลับถูกความแค้นและความเห็นแก่ตัวยึดครองไปสิ้น เสี่ยวเฉียวต้องรับแรงกดดันทุกด้านแต่ตัวเองกับจมอยู่กับความทุกข์ของตัวเอง จนถึงวันที่เสี่ยวเฉียวขอท่านย่ากลับจวนสกุลเฉียว ตอนนั้นจึงรู้สึกว่าเสี่ยวเฉียวกำลังหมางเมิน คิดว่าจะจากไปไม่กลับทั้งที่รู้ว่าต้องกลับมา จนมาถึงสกุลเฉียว เสี่ยวเฉียวยิ้มได้อย่างสบายใจไม่เหมือนอยู่ที่สกุลเว่ย ความจริงวันนี้ไม่อยากจากไป แต่เสี่ยวเฉียวไม่เอ่ยปากรั้งไว้ก็ไม่รู้จะอยู่ต่อได้ยังไง และท่านพ่อของเสี่ยวเฉียวก็มาพูดจาฝากฝัง ทำให้คิดว่าถ้าวันนั้น เมืองซั่งกู่แตก เมืองอวี๋หยางแตก ไม่เหลือท่านย่าและเสี่ยวเฉียว ต่อให้กำจัดศัตรูจนหมด ได้ครองใต้หล้า แต่ใต้หล้าไม่มีเจ้าคนที่สอง ชีวิตที่เหลือยังจะมีความสุขอะไรให้เอ่ยถึง และบอกว่าเมื่อก่อนเป็นเพราะเสี่ยวเฉียวเลยยอมถอยให้ แต่มาถึงตอนนี้เจ้าไม่ติดค้างอันใดอีกแล้ว ในเมื่อข้าทำร้ายจิตใจเจ้า เจ้าก็ตบตีข้าเลย แต่อย่าได้ถอดใจจากข้า ในที่สุดท่านโหวแกก็ยอมวางความแค้น เพราะเสี่ยวเฉียวและความดีที่เสี่ยวเฉียวกระทำจริงๆ กลัวโดนทิ้งด้วยนะ เว่ยเซ่า ในที่สุดก็เปิดใจกันได้แล้ว
กล่าวถึงด้านซยงหนูเมื่อแพ้ศึกกลับไป อูเหวยก็รู้ว่าเป็นเพราะเว่ยเหยี่ยนจึงคิดจะไปล้างแค้นที่ไหนได้กลับถูกเว่ยเหยี่ยนจัดการ พอฉานอวี๋รู้เรื่องเว่ยเหยี่ยนไม่ปฏิเสธพร้อมยอมตาย แต่พ่อแท้ๆของเว่ยเหยี่ยนที่เป็นน้องชายฉานอวี๋มาขอร้องไว้ ที่จริงคือมีกำลังคนคอยสนับสนุนเลยกำจัดฉานอวี๋เฒ่า และได้รับการแต่งตั้งเป็นฉานอวี๋คนใหม่ เว่ยเหยี่ยนก็จากไปเพราะไม่รู้ว่าตนเองเป็นคนของที่ใดกันแน่ เขาเป็นเพียงคนที่ถูกทอดทิ้ง เขารู้แก่ใจดี
กงซุนหยางส่งคนมาตามเว่ยเซ่าแล้ว ก่อนออกเดินทางคืนนั้นเว่ยเซ่าอยากรู้เรื่องที่เสี่ยวเฉียวฝันร้ายให้นางบอกมาทั้งหมด เสี่ยวเฉียวจึงเล่าให้ฟัง เว่ยเซ่าพอได้ยินก็รับไม่ได้และขยะแขยงเรื่องที่ตัวเองแต่งตั้งซูเอ๋อหวงเป็นฮองเฮา ถามถึงเสี่ยวเฉียว เสี่ยวเฉียวเลยบอกว่าตัวเองถูกหลิวเหยี่ยนฆ่าตาย จากนั้นก็ไม่รู้ เว่ยเซ่าบอกว่าอย่างนี้เจ้าเลยกลัวข้า เสี่ยวเฉียวบอกไม่เคยเจอเว่ยเซ่าในฝัน ไม่เคยรู้จักมาก่อน เว่ยเซ่านอนไม่หลับ รับไม่ได้ที่ไม่เคยเจอเสี่ยวเฉียวแถมโดนหลอกเรื่องท่านย่า เสี่ยวเฉียวเลยปลอบว่ามันคือความฝัน ล่วงเลยไปแล้ว ปัจจุบันนี้ต่างหากที่เป็นความจริง
เดือนสองของปีถัดไปในที่สุด พวกหลิวเหยี่ยนก็หนีมาถึงหมู่บ้านชาวประมง บังคับชาวประมงออกเรือไปยังเกาะเพื่อหนีจากกองทัพของเว่ยเซ่า เพียงคืนเดียวในสภาพหนีตาย หลิวเหยี่ยนได้สังหารเหลียงฮองเฮาที่ตนแต่งตั้งโดนในใจยังคิวว่าเป็นเสี่ยวเฉียว จากนั้นเว่ยเซ่าก็บุกมาถึงเกาะพร้อมทหารมากมาย หลิวเหยี่ยนขอท้าสู้ตัวต่อตัวสุดท้ายก็แพ้ ซูเอ๋อหวงร้องขอชีวิต เว่ยเซ่าถอดหน้ากากทองคำและทำลายทิ้งให้นางอยู่กับหน้าที่เสียโฉมของตน ตอนนั่งเรือกลับเว่ยเซ่าได้ฝันถึงเรื่องราวตอนที่กำจัดหลิวเหยี่ยนและเหตุการณ์หลังจากนั้น ทุกอย่างมีแต่ความว่างเปล่าไม่อาจเติมเต็มจิตใจได้ จนถึงฉากสุดท้ายที่ตนถูกธนูยิงตาย กงซุนหยางก็เข้ามาปลุก พอรู้ว่าเป็นฝันก็ดีใจที่สุด เว่ยเซ่ามอบหมายงานทั้งหมดให้กงซุนหยางส่วนตนเองไปรับเสี่ยวเฉียวและเฝยเฝย กลับลั่วหยาง ใต้หล้ารวมเป็นหนึ่งในที่สุด
ตอนพิเศษ
เล่าถึงเรื่องราวตอนเว่ยเซ่าขึ้นเป็นฮ่องเต้และการใช้ชีวิตหลังจากนั้น ที่ทั้งทำประโยชน์ให้บ้านเมือง และรักเมีย กลัวเมีย ขี้หึงอีกต่างหาก เป็นอะไรที่ผ่อนคลายจากทั้งเรื่องที่มีศึกสงครามมาเกี่ยวข้องและเป็นบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดอย่างแน่นอน

เล่มสี่ หลังจากที่ได้ผ่านอุปสรรคมามากมาย เหตุการณ์ที่ชวนให้สกุลเว่ย และเฉียวอาจจะต้องเป็นศัตรูกันอีกครั้งเพราะภัยทั้งจากภายในและภายนอก ในที่สุดก็สามารถคลี่คลายได้ด้วยความรัก และความเข้าใจกันในที่สุดของเว่ยเซ่าและเสี่ยวเฉียว การรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งจะสำเร็จได้ดังใจหรือไม่ก็ต้องตามอ่านจนถึงหน้าสุดท้าย ที่มีเรื่องราวน่ารักของเว่ยเซ่าและเสี่ยวเฉียวมีให้ได้ตามจนจบเรื่อง สนุกครบทุกรสจริงๆ



หลังอ่าน
-เว่ยเซ่า ท่านโหวที่เก่งกล้าสามารถ โดนท่านย่าบังคับให้แต่งงานกับหญิงสกุลเฉียวที่เป็นศัตรูทำให้ท่านพ่อและพี่ชายต้องตายไปเพราะผิดสัญญาในการทำศึก เริ่มแรกแต่งอย่างจำใจ ไม่สนใจ ตอนที่ยังไม่กลับสกุลก็นอนแยกห้อง พอกลับสกุล เจอแม่อยากหาเรื่องให้รับญาติผู้น้องเป็นอนุเลยต้องนอนกับเมียตัวเอง ครั้งแรกยังไม่เท่าไหร่ แม่วางแผนได้ดีเกินให้ลูกชายกินยาปลุกกำหนัดอีก เมียผู้บริสุทธิ์เริ่มต้นเลยต้องเสียความบริสุทธิ์ที่มือก่อน พอได้ร่วมเตียงกันครั้งแรกท่านโหวก็เปลี่ยนจากท่านโหวเป็นสัตว์ป่าทันที จากนั้นความบริสุทธิ์ของเท้า ชุดชั้นใน อะไรๆก็ตามมา ในเตียงคือสัตว์ป่า นอกเตียงคือท่านโหวผู้เคร่งขรึม จำเอาไว้ กว่าจะปรับความเข้าใจกัน เรียวรู้กันและกันจนไม่มีสิ่งใดแทรกกลางได้ก็เล่มสี่ แต่ระหว่างทางจะเห็นพัฒนาการของตัวละครขึ้นเรื่อยๆ
-เสี่ยวเฉียว จับพลัดจับผลูต้องแต่งกับเว่ยเซ่าแทนต้าเฉียว นึกว่าจะเปลี่ยนสิ่งที่ตนฝันเห็นบ่อยครั้งได้ แต่เรื่องราวก็ยังดำเนินไปคล้ายคลึงกัน ตอนแรกที่แต่งมาสกุลเว่ย เสี่ยวเฉียวรู้ว่าตนไม่เป็นที่ชื่นชอบของแม่สามีและสามี จึงทำตามระเบียบทุกอย่าง สามีเห็นนางอย่างอย่างนี้ก็ยังหาที่ติ คิดว่าไม่รอนอนก่อน แถมนั่งไม่เรียบร้อย ก็เป็นคนย้อนมิติมาให้นั่งพับขาตลอดมันก็เมื่อย เลยมีครั้งนึงเว่ยเซ่ากลับมาเห็นว่านั่งเหยียดขาชัดๆเต็มตา แต่เสี่ยวเฉียวก็ฉลาดและรับมือกับสถานการณ์ได้ดี เป็นที่รักและเอ็นดูของสวีฮูหยิน

-สวีฮูหยิน ท่านย่าของเว่ยเซ่า ฉลาดมองคนเป็น มองการณ์ไกล ทันเล่ห์เหลี่ยม และเอ็นดูเสี่ยวเฉียวมาก ถึงกับกล่าวว่าสวรรค์ยุติธรรมพอ เสียคนไปก็ได้คนกลับมาแทน สวรรค์ไม่เคยลำเอียง

-จูซื่อ ดวงตามืดบอดทั้งชีวิตจริงๆ มีอคติ ถูกคนหลอกใช้ง่าย จิตใจมีแต่ความเคียดแค้นชิงชัง ไม่ยอมรับความจริง มีแต่ถูกคนหลอกใช้ตลอดเวลา ทั้งหลานสาว และคนสนิทข้างกาย

-ซูเอ๋อหวง หญิงที่มีอดีตช่วงหนึ่งร่วมกับเว่ยเซ่า เป็นหญิงที่ขี้มโนตัวแม่ คิดว่าตัวเองสวยที่สุด งามที่สุด เกิดมาพร้อมคำทำนายอันยิ่งใหญ่ หลงตัวเองสุดๆ ร้ายสุดๆด้วยเหมือนกัน

เนื้อเรื่องจะดำเนินควบคู่ไประหว่างการทำศึกรวบรวมใต้หล้า ช่วงเวลาเดียวกับสามก๊ก ที่เจ้าศักดินาตั้งตนเป็นใหญ่ บ้านเมืองอยู่ในช่วงกลียุค กับความรักระหว่างความแค้นของตัวพระเอกเว่ยเซ่า กับนางเอก เสี่ยวเฉียวที่ต้องมาแต่งงานเพื่อสลายความแค้นของสองตระกูล ให้ติดตามว่าทั้งสองจะฝ่าฟันด่านใส่ร้าย ด่านเข้าใจผิดกันไปได้ทุกครั้งหรือไม่ จากเล่มหนึ่งถึงเล่มสี่ ตัวละครมีพัฒนาการอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่ตอนแรกที่แต่งงานเพราะถูกท่านย่าตัดสินใจแทน จนต้องมาอยู่ร่วมกัน เกิดความรักความหวงแหนขึ้นโดยไม่รู้ตัว ในส่วนของนางเอกก็ระมัดระวังตัวในการกระทำ ทำดีทุกอย่างเพื่อให้ไม่เป็นที่รังเกียจในตระกูลสามี ดีที่มีท่านย่าที่มีความเมตตา มองการณ์ไกลอยู่ในจวน เว่ยเซ่าภายนอกดูเย็นชา แต่เมื่ออยู่กับเสี่ยวเฉียวจะคอยเอาใจ จนกระทั่งตอนท้ายที่สุด ที่สามารถเข้าใจทุกสิ่งก็ยังบอกว่าข้าโชคดียิ่งนักที่แต่งเจ้าเป็นภรรยาได้ ข้ามันเห็นแก่ตัวที่เอาแต่ใช้เรือนร่างเจ้าหาความสุข เป็นความเคยชิน พอสุดท้ายจริงๆก็สามารถรู้ข้อผิดพลาดของตนได้ในที่สุด เนื้อเรื่องปูมาพระเอกมองบุรุษเป็นใหญ่กว่าสตรี สตรีไม่อาจก้าวก่ายงานของบุรุษได้ แต่หลายครั้งจะทำตามความเห็นของนางเอก พออยู่ต่อหน้าคนอื่นจะบอกว่าเรื่องของบุรุษสตรีไม่อาจก้าวก่าย พออยู่ด้วยกันจะต้องมาเอาหน้าว่าข้าทำตามที่เจ้าบอกแล้วนะ แบบมีทวงบุญคุณ มีอวดตัวด้วย ตอนท้ายสุดของเรื่องเป็นตอนพิเศษที่นักเขียนได้สรุปเรื่องราวได้ดีทีเดียว ว่าระหว่างเว่ยเซ่าคนปัจจุบันที่ใจสลายความแค้นได้มีชีวิตอย่างไร กับเว่ยเซ่าที่ไม่ได้สลายความแค้น ในใจมีแต่ความมืดบอดแม้ได้เป็นฮ่องเต้เหมือนกัน แต่ก็ต่างกัน ทั้งความเป็นอยู่ คนรอบตัวที่สามรถพูดคุยได้ รวมถึงการมีบุคคลที่รักและเข้าใจอยู่เคียงข้าง ยิ่งทำให้เห็นถึงจุดสำคัญของเรื่องที่ให้ละความแค้นในใจ ก็จะทำให้ตัวเองและคนรอบข้างมีความสุข บ้านเมืองร่มเย็น ไม่มีศึก สงครามอีกต่อไปและตัวหลักที่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในใจของเว่ยเซ่าก็คือความดีของเสี่ยวเฉียวที่สามารถทำให้ในที่สุดเว่ยเซ่าก็ตระหนักรู้คิดได้ในที่สุดที่ทำให้เกิดผลแตกต่างจากอดีตกับปัจจุบัน ใครที่ชอบแนวนี้อ่านแล้วจะสนุก เป็นรักระหว่างรบ ฉากทำศึกมีไม่มาก แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความฉลาดของพระเอกในการใช้คน และความเก่งของนางเอกในการมีส่วนช่วยเหลือ การบรรยายฉากสงครามไม่มากอย่างที่คิด เน้นเรื่องความรัก ความสามารถของพระเอกและนางเอกเป็นหลักไม่เสียดายเวลาอ่านแน่นอน ตัวละครทุกตัวมีเหตุผลเป็นของตัวเอง จะเฉลยบทสรุปออกมาในรูปแบบต่างๆในท้ายที่สุดอย่างแน่นอน