Review 2/2562
เรื่อง : เงาเพลิงสะท้านปฐพี (8 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : เอ๋อเหมย
ผู้แปล : อวี้
สนพ. แจ่มใส(มากกว่ารัก)
เล่ม1 พิมพ์ครั้งที่1 : มิถุนายน 2561
เล่ม2 พิมพ์ครั้งที่1 : กรกฎาคม 2561
เล่ม3 พิมพ์ครั้งที่1 : กรกฎาคม 2561
เล่ม4 พิมพ์ครั้งที่1 : สิงหาคมคม 2561
เล่ม5 พิมพ์ครั้งที่1 : กันยายน 2561
เล่ม6 พิมพ์ครั้งที่1 : ตุลาคมคม 2561
เล่ม7 พิมพ์ครั้งที่1 : พฤศจิกายน 2561
เล่ม8 พิมพ์ครั้งที่1 : ธันวาคม 2561

โปรยปกเล่ม1 :
‘จูจู’ เด็กสาวชาวบ้านผู้ซึ่งห่างไกลจากคำว่า ‘หญิงงาม’ อยู่อักโข
อีกทั้งท่าทางทึ่มทื่อก็มักทำให้ถูกอันธพาลในหมู่บ้านรังแก
กระทั่งเด็กหนุ่มรูปงาม (ที่นางลอบเรียกว่า ‘เจ้าคนโฉด’) ย้ายมาอยู่บ้านข้างๆ
นับแต่นั้นนางก็เพียงถูกคนคนเดียวรังแก พ่วงด้วยงานปัดกวาดซักล้าง หุงหาอาหาร
ราวกับนางเป็นสาวใช้ประจำตัวเขาก็มิปาน!
เมื่อสำนักบำเพ็ญเซียนเซิ่งจื้อเปิดรับศิษย์ใหม่ เจ้าคนโฉดก็กำลังจะจากไปเข้าเรียน
ทว่าเขากลับไม่ยอมปล่อยนางเป็นอิสระ มัดนางเข้ากับกองสัมภาระแล้วพาไปด้วยกัน
โธ่! นางไม่อยากบำเพ็ญเซียนร่ำเรียนวิชาเสียหน่อย
แต่... ถ้าการได้เข้าเป็นศิษย์สำนักเซิ่งจื้อจะทำให้นางมีข้าวกิน มีที่ให้นอนอุ่นไปตลอดชีวิต
เช่นนั้นนางจะยอมอดทนอยู่กับเจ้าคนโฉดผู้นี้ต่อไปอีกสักระยะก็แล้วกัน!
เนื้อหาเล่ม1 :
จูจู เป็นสาวน้อยหน้าตาธรรมดามาก หน้าตาบ้านนอกสุดๆ ซื่อสุดๆ ถูกเรียกว่าหมูโง่เป็นประจำ จูจูจะเรียกพระเอก(ที่ยังไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่) ว่า เจ้าคนโฉด เพราะชอบกลั่นแกล้งใช้งานจูจูเป็นสาวใช้ ทำอาหาร ซักผ้า ทำความสะอาด ต่างๆนานา แต่เมื่ออยู่กับอิ่นจื่อจาง(พระเอก) จูจูจะไม่ฝันร้ายเลย ในฝันจูจูจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นสนมคนโปรดของรัชทายาท ที่จูจูจะเรียกว่า มารร้าย แต่พอตื่นมาก็จำเรื่องราวในฝันนั้นไม่ได้ นี่เป็นปริศนาของจูจูในอดีตเป็นแน่
จูจู ถูกอิ่นจื่อจางข่มขู่แกมบังคับให้มาที่สำนักบำเพ็ญเซียน ที่ตนต้องการเข้าเพื่อจะได้คอยรับใช้เป็นคนคอยหุงหาอาหารให้ ซึ่งจูจู ทำอาหารเก่งมาก ทำอะไรออกวมาก็อร่อย พอถึงสำนักบำเพ็ญเซียนเซิ้งจื้อ อิ่นจื่อจางได้แสดงความสามรถถึงพลังธาตุเดี่ยวสายน้ำแข็ง ทำให้ โหยวเชียนเริ่น ปรมาจารย์ขั้นกำเนิดใหม่ของสำนักรับเป็นศิษย์ทันที ส่วนจูจูนั้น เจิ้งเฉวียนก็รับเป็นศิษย์ถึงแม้จูจูจะไม่มีคุณสมบัติในการฝึกเป็นเซียนเลยเพราะมีชีพจรศิลาแข็ง แต่เจิ้งเฉวียนเหมือนจะรู้อดีตของจูจูอยู่ และจูจูยังมีพรสวรรค์ด้านการหลอมโอสถและอ่านตำราต่างๆก็เข้าใจได้แต่รู้สึกว่ามีอะไรผิดพลาดไปอยู่เรื่อย
ปริศนาของจูจูมีมากมาย ซึ่งดูเหมือนซื่อแต่ความคิดบางอย่างก็ดียิ่งกว่าคนธรรมดาทั่วไป จิตใจบริสุทธ์ ชื่นชอบลุ่มหลงเงินทองที่ไม่มีประโยชน์ต่อผู้บำเพ็ญเซียน
ในเล่มหนึ่งยังเป็นการทำความรู้จักตัวละคร แต่ระดับขั้นการฝึกวิชาต่างๆ เนื้อเรื่องดำเนินที่จูจูเป็นแกนหลัก ว่ามีใครชอบใครเกลียด ในสำนักเซียน ตอนท้ายๆได้โอกาสออกมาเที่ยวนอกสำนักครั้งแรกเพื่อขายยาลูกกลอนที่ลูกหมูที่จูจูเจอ ซึ่งจริงๆแล้วเป็นร่างแยกของจูจูเองมีแต่อาจารย์ที่รู้ จูจูไม่รู้อะไรเลยนึกว่าเก็บสมบัติล้ำค่าได้ (อันนี้ฮามาก) เป็นตัวคายออกมาไปเทขายยังนอกสำนักก็เจอเหตุการณ์ต่างๆเข้า กลับสำนักก็ได้เจอกับศิษย์พี่ใหญ่ ตี่ฉางซั่ง เชี่ยวชาญวิชายันต์ จากนั้นอีกสองเดือนก็เป็นการประลองศิษย์ชั้นนอกของสำนักเซิ่งจื้อ
โปรยเล่ม2 :
การประลองระหว่างศิษย์ชั้นนอกอันเป็นธรรมเนียมของสำนักเซิ่งจื้อ
จูจูถูกจับตามอง... หรืออาจจะบอกว่าถูกจ้องจับผิดเป็นพิเศษก็ว่าได้
เมื่อนางไม่มีตบะพลังใดๆ แล้วจะอาศัยอะไรได้อยู่ในสำนักเล่า!
การประลองรอบแรกจูจูนับว่าโชคดี
ที่วัตถุวิเศษทำงานได้ยอดเยี่ยมท่ามกลางการต่อสู้แบบตะลุมบอน
แต่รอบต่อไปเห็นทีจะไม่ง่ายเสียแล้วเพราะเป็นการจับคู่ประลองแบบตัวต่อตัว
หนำซ้ำคู่ต่อสู้คนแรกของนางดันเป็น...!?
หากนางประกาศขอยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มจะถูกเจ้าคนโฉดดึงหูด่าทอนาง
ว่าเป็นหมูโง่เง่า หมูขี้ขลาด หมูไม่เอาไหนต่อหน้าธารกำนัลหรือไม่นะ
อา! จะให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้!
นางก็มีศักดิ์ศรีทั้งของตัวเองและของอาจารย์ให้ต้องรักษาเหมือนกัน!!
เล่ม2 :
เนื้อเรื่องดำเนินถึงการประลองศิษย์ชั้นนอกของสำนัก จูจูที่ไม่มีตบะพลังจะทำอย่างไร คงต้องขอยอมแพ้ห้ารอบไปง่ายๆ ซึ่งก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันเมื่อมีผู้อาวุโสจากสำนักหลักมาดูการประลองที่จัดขึ้นสามปีหนึ่งครั้งด้วยกัน 2 คน ทำให้ใช้แผนเดิมไม่ได้ จูจู เจ้าคนโฉดอิ่นจื่อจางและเหล่าบรรดาศิษย์ในสำนักล้วนไม่มีใครอยากให้ จูจูศิษย์อาจารย์เจิ้งเฉวียนออกจากสำนักไปพากันหาวิธีรับมือแผนการครั้งนี้
การประลองผ่านไปด้วยผลการประลองที่ผิดความคาดหมายไปไกลโข และศิษย์พี่รอง จีโยวกู่ ผู้เป็นไม้เบื่อไม้เมากับศิษย์พี่ใหญ่ เชี่ยวชาญเรื่องข่ายอาคม และศิษย์พี่สาม สืออิ้งลวี่ ผู้งดงามเย้ายวนแต่ซื่อยิ่งกว่าจูจู มีพรสวรรค์ในการหลอมวัตถุวิเศษ ก็ออกมาจากการบำเพ็ญตน ได้พบกับจูจูและอิ่นจื่อจาง
ระหว่างนั้นได้มีการเปิดเผยเรื่องราวในอดีตของจูจูโดยเจิ้งเฉวียนกับตันหนีผู้ดูแลจูจู ที่ฝากฝังจูจูไว้กับเจิ้งเฉวียน
จากนั้นอาจารย์ของทั้งอิ่นจื่อจางและจูจูได้ให้ศิษย์เด่นล้ำทั้งห้าแห่งยอดเขาอิ้งปั้งไปร่วมงานชุมนุมหุบเขาต้วนเซียน ที่จัดขึ้นระหว่างสำนักเซียนทางตะวันตกเฉียงใต้ทั้งสี่ สำนักที่สิบปีมีเพียงหนึ่งครั้ง ศิษย์ทั้งห้าของยอดเขาอิ้งปั้งและศิษย์จากยอดเขาอื่นรวมสามสิบคนเข้าร่วม ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นแผนร้ายของสำนักพั่วฉานผู้จัดงานครั้งนี้แต่ก็ต้องยอมกระโจนอยู่ดี
ระหว่างอยู่ในหุบเขาก็เจอกับสัตว์ปีศาจขั้นสี่และเกินขั้นสี่ที่ไม่ควรมีในหุบเขา ทำให้ต้องใช้ความสามารถของศิษย์พี่ศิษย์น้องรวมทั้งลูกหมูหาทางออกจากหุบเขาให้ได้ ดดยสัตว์ปีศาจขั้นห้าในหุบเขาที่เจอคือปีศาจแมงมุมยักษ์อยากชิงร่างของอิ่นจื่อจาง แต่ศิษย์ทั้งห้าก็สามารถออกจากหุบเขามาได้และเป็นผู้ชนะในการแข่งขัน ยังความแค้นให้สำนักอื่นเพิ่มขึ้น
กลับถึงสำนัก ยังเจอกับเหตุการณ์สำนักหลักอยากเข้าควบคุมสำนัก ทำให้ต้องท้าประลองกับศิษย์สองคนที่สำนักหลักพามา ซึ่งสืออิ้งลวี่และจูจู(ลูกหมู) ก็ทำได้ดีไม่ทำให้ผิดหวังแม้แต่น้อย
โหยวเชียนเริ่นกับเจ้าสำนักฝูอวี้หารือกันหลายวันจนได้บอกความเป็นมาของที่ตั้งสำนักเซียนเซิ่งจื้อให้เจิ้งเฉวียนและบรรดาศิษย์ของตนฟังถึงการตามหาขุมสมบัติของ ราชาน้ำแข็งไฟ แห่งยุคโบราณ การเปิดขุมสมบัติต้องใช้ของล้ำค่าห้าชิ้น หยกขาววงเครื่องเสนาะ และ ผลึกสวรรค์ลายสมปรารถนา สำนักมีแล้ว ขาดสามชิ้น แส้ปัดฉลามเงิน เข็มทิศดวงดาวกระดูกมังกร และ แผ่นป้ายลายเมฆาม่วงแปดทรัพย์ จึงจะใช้การนี้ให้ศิษย์ทั้งห้าไปหาประสบการณ์และหาที่อยู่ของล้ำค่าทั้งสามชิ้น
ดินแดนจิ้นเฉียนมีแคว้นน้อยใหญ่ มีเพียงราชวงศ์ของแคว้นตันเป็นตระกลูบำเพ็ญเซียน ในตระกลูมีนักหลอมโอสถและผู้ฝึกตนระดับสูงจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถกุมอำนาจของแคว้นได้ทั้งหมดเพราะมีสกุลตันอยู่ด้วย รัชทายาทแคว้นตันออกจากการบำเพ็นเซียนมีความก้าวหน้าไปอีกขั้นเป็น นาคานิล ผู้ซึ่งตามหาคนงามน้อย สกุลตันอยู่นั้นเอง เรื่องราวเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆล่ะ
โปรยปกเล่ม3 :
หลายร้อยปีมาแล้วที่สำนักหลักไม่เคยแยแสสนใจในสำนักเซิ่งจื้อ
มาวันนี้จู่ๆ ก็เข้ามาคุกคามอย่างไม่ปิดบังเจตนาร้าย
ว่าต้องการควบรวมสำนักเพื่อเก็บเกี่ยวเอาผลประโยชน์ไป
หรือความลับสุดยอดของปฐมาจารย์ผู้ก่อตั้งจะถูกพบเบาะแสเข้าแล้ว?
ด้วยเหตุนี้ ว่าที่เสาหลักใหม่ของสำนักเซิ่งจื้อ ก็คือพวกอิ่นจื่อจางทั้งห้า
จึงรับคำสั่งให้สืบหาที่อยู่ของ ‘สมบัติล้ำค่า’ แล้วพาพวกมันกลับคืนสู่สำนัก
จูจูต้องลงจากเขาอิ้งปั้งที่ซึ่งนางนั่งๆ นอนๆ แสนสุขสบายในทุกๆ วัน
นางแสนจะไม่เต็มใจเลยจริงๆ
แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อเจ้าคนโฉดนั่นไม่มีทางยอมให้นางอยู่ห่างจากหูตาตนเอง!
เล่ม3 :
ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งห้าออกเดินทางลงเขามาตามหาสมบัติล้ำค่าสามชิ้น การตามหา ได้เบาะแสชิ้นแรกคือแผ่นป้ายลายเมฆาม่วงแปดทรัพย์ ซึ่งน่าจะอยู่แคว้นซีทางตะวันตกของบรรดาห้าแคว้น เป็นของรางวัลชนะเลิศสำหรับนักหลอมโอสถที่ห้าแคว้นฝั่นตะวันตกจัดขึ้นในสิบปีครั้ง การเดินทางต้องเดินทางบกผ่านข้ามเขตแดนไป ทำให้ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เพิ่มขึ้น และได้ของวิเศษ ของล้ำค่าตามทาง ถึงแคว้นฉี จูจูไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง สามารถคว้าตำแหน่งมาได้ จึงได้แผ่นป้ายลายเมฆาม่วงแปดทรัพย์ ของราชาน้ำแข็งไฟ และระหว่างยังอยู่ที่เมืองซีเฉิง แคว้นซีก็เกิดเหตุให้จูจูต้องรวมร่างกับลูกหมูเพื่อช่วยศิษย์พี่ทั้งสี่ ซึ่งเป็นบำเพ็ญตนขั้นกำเนิดใหม่ช่วงปลายธาตุไฟ ด้วยกลัวว่าคนร้ายจะทำอันตรายศิษย์พี่ทั้งสี่จึงลงมือฟาดใส่ก็เกิดไฟสวรรค์ลุกไหม้เผาเป็นจุณทันทีสองคนพี่น้องซือถู สมุนของรัชทายาทแคว้นตัน อีกหนึ่งคือนักหลอมโอสถขั้นสามเฝิงเซียนเกา ถูกเผาตายแต่ร่างไม่ได้ไหม้หมด ศิษย์พี่ใหญ่จึงเก็บสมบัติประจำตัวเอาไว้ไม่คาดคิดว่าจะเจอ แส้ปัดฉลามเงิน มาไว้ได้ในครอบครอง ทั้งหมดล้วนคิดว่าอยู่เมืองซีเฉิงไม่มีอะไรแล้ว จึงออกเดินทางจากเมืองซีเฉิง ไม่ยังแคว้นข้างเคียงเพื่อสืบเบาะแสของสมบัติล้ำค่าชิ้นสุดท้ายเข็มทิศดวงดาวกระดูกมังกร เดินทางถึงเมืองบำเพ็ญเซียนใกล้แคว้นจินก็ได้ข่าวมีการรับสมัครผู้ฝึกตนเข้าร่วมการขุดค้นหาสุสานผู้ฝึกตนโบราณทำให้ศิษย์พี่ใหญ่สนใจและชวนศิษย์น้องเข้าร่วมด้วย
โปรยปกเล่ม4 :
ด้วยเพราะความเป็นไปได้ที่ในหลุมศพผู้ฝึกตนโบราณ
จะมีเบาะแสของสมบัติล้ำค่าชิ้นสุดท้ายที่ตามหา
พวกจูจูทั้งห้าจึงติดตามคณะค้นหาคนมาด้วยกัน
ทว่าที่อยู่ในนั้นกลับเป็นสัตว์ปีศาจขั้นแปดซึ่งบำเพ็ญตบะจนกลายร่างเป็นมนุษย์ได้
ที่ร้ายคือเจ้า ‘จิ้งจอกปีศาจ’ตนนี้ถึงกับเป็นบุรุษรูปงาม
และมีท่าทีเล่นหูเล่นตา สนิทแนบชิดกับจูจู!
ก้อนน้ำแข็งเดินได้อย่างอิ่นจื่อจางถึงกับสงบใจไม่ลงโดยสิ้นเชิง
ความรู้สึกร้อนรนกระวนกระวายนี้เขาไม่คุ้นชินเอาเสียเลย...
ด้านแคว้นตันก็เริ่มมีความเคลื่อนไหว
พื้นที่แถบตะวันตกเฉียงใต้ที่อยู่ชายขอบ
บัดนี้กลับจะเริ่มมีตัวตนอยู่ในสายตารัชทายาทขึ้นมาแล้ว!!
เล่ม4 :
มาถึงเมืองข้างเคียงเห็นประกาศออกไปขุดสุสานผู้ฝึกบำเพ็ญตนโบราณก็ไปเข้าร่วมด้วย จนมาถึงด้านในถ้ำที่เป็นสถานที่ฝังสุสาน คนทั้งหมดล้วนถูกลวงตายกเว้นจูจู และได้ยินเสียงลึกลับเรียกคนงามน้อย เป็นครั้งที่สองนอกจากในฝันร้าย สุดท้ายจึงได้พบว่าเป็นปีศาจจิ้งจอกขั้นแปดที่แปลงเป็นคนได้ใช้วิชาลวงตา และบอกเล่าเรื่องราวในอดีตให้จูจูฟัง เข้าไปอ่านในความทรงจำของจูจูจนรู้ว่าจริงๆแล้วจูจูชื่อ ตันหวง ได้โดยผนึกความทรงจำและพลังตบะเอาไว้ จริงๆอยู่ในขั้นกำเนิดใหม่ช่วงปลาย และหน้าตาของจูจูยังคล้ายกับเฝินปี้ชิ่น ในตอนนั้นก็เป็นนักหลอมโอสถที่เก่งที่สุดในสกุลตันเช่นกัน ปีศาจจิ้งจอกจึงมีความรู้สึกดีให้กับจูจู และบอกเล่าเรื่องราวในอดีตให้รู้ และจะหาคนมาหลอมลูกกลอนมหาสังสารวัฏเพื่อให้เฝินปี้ชิ่นฟื้นคืนมา ด้วยเหตุนี้ทำให้ทั้งสองจูจูและปีศาจจิ้งจอกเป็นสหายกัน และปีศาจจิ้งจอกยังยั่วอิ่นจื่อจางโดยการหอมแก้มจูจู ทำให้อิ่นจื่อจางรู้ความรู้สึกตัวเองที่มีต่อจูจูอีกด้วย หลังออกจากหุบเขาทั้งหมดคิดว่าการเดินในสองปีไม่มีอะไรให้เก็บเกี่ยวในห้าแคว้นฝั่งตะวันตกอีกจึงตัดสินใจกลับสำนักเซิ่งจื้อ เมื่อถึงก็พบผู้อาวุโสจากสำนักหลักฝานเจี้ยนกับฉือชัวเย่าก็มาหาเรื่องอาจารย์ถึงสำนัก เจิ้งเฉวียนชนะการประลองหลอมโอสถ ฉือชัวเย่าใจคอคับแคบต้องการฆ่าปิดปาก ตันหนีจึงวางแผนให้จูจูเป็นผู้ลงมือจัดการทั้งสอง ซึ่งก็ทำสำเร็จเพ่อให้จูจูรอดพ้นจากการติดตามเจอของรัชทายาทแคว้นตันที่ต้องการใช้จูจูเป็นเตาหลอมพลัง จากนั้นทั้งหมดก็ต้องลงเขากันอีกโดยจูจูกับอิ่นจื่อจางแวะเขาเตี่ยนเฟิ่งเพื่อนำสมุนไพรวิเศษไปให้จิ้งจอกปีศา