Monday, January 28, 2019

#เงาเพลิงสะท้านปฐพี #8เล่มจบ #มากกว่ารัก #แจ่มใส

Review 2/2562
เรื่อง : เงาเพลิงสะท้านปฐพี (8 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : เอ๋อเหมย
ผู้แปล : อวี้
สนพ. แจ่มใส(มากกว่ารัก)
เล่ม1 พิมพ์ครั้งที่1 : มิถุนายน 2561
เล่ม2 พิมพ์ครั้งที่1 : กรกฎาคม 2561
เล่ม3 พิมพ์ครั้งที่1 : กรกฎาคม 2561
เล่ม4 พิมพ์ครั้งที่1 : สิงหาคมคม 2561
เล่ม5 พิมพ์ครั้งที่1 : กันยายน 2561
เล่ม6 พิมพ์ครั้งที่1 : ตุลาคมคม 2561
เล่ม7 พิมพ์ครั้งที่1 : พฤศจิกายน 2561
เล่ม8 พิมพ์ครั้งที่1 : ธันวาคม 2561



โปรยปกเล่ม1 :
‘จูจู’ เด็กสาวชาวบ้านผู้ซึ่งห่างไกลจากคำว่า ‘หญิงงาม’ อยู่อักโข
อีกทั้งท่าทางทึ่มทื่อก็มักทำให้ถูกอันธพาลในหมู่บ้านรังแก

กระทั่งเด็กหนุ่มรูปงาม (ที่นางลอบเรียกว่า ‘เจ้าคนโฉด’) ย้ายมาอยู่บ้านข้างๆ
นับแต่นั้นนางก็เพียงถูกคนคนเดียวรังแก พ่วงด้วยงานปัดกวาดซักล้าง หุงหาอาหาร
ราวกับนางเป็นสาวใช้ประจำตัวเขาก็มิปาน!

เมื่อสำนักบำเพ็ญเซียนเซิ่งจื้อเปิดรับศิษย์ใหม่ เจ้าคนโฉดก็กำลังจะจากไปเข้าเรียน
ทว่าเขากลับไม่ยอมปล่อยนางเป็นอิสระ มัดนางเข้ากับกองสัมภาระแล้วพาไปด้วยกัน
โธ่! นางไม่อยากบำเพ็ญเซียนร่ำเรียนวิชาเสียหน่อย

แต่... ถ้าการได้เข้าเป็นศิษย์สำนักเซิ่งจื้อจะทำให้นางมีข้าวกิน มีที่ให้นอนอุ่นไปตลอดชีวิต
เช่นนั้นนางจะยอมอดทนอยู่กับเจ้าคนโฉดผู้นี้ต่อไปอีกสักระยะก็แล้วกัน!

เนื้อหาเล่ม1 :
จูจู เป็นสาวน้อยหน้าตาธรรมดามาก หน้าตาบ้านนอกสุดๆ ซื่อสุดๆ ถูกเรียกว่าหมูโง่เป็นประจำ จูจูจะเรียกพระเอก(ที่ยังไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่) ว่า เจ้าคนโฉด เพราะชอบกลั่นแกล้งใช้งานจูจูเป็นสาวใช้ ทำอาหาร ซักผ้า ทำความสะอาด ต่างๆนานา แต่เมื่ออยู่กับอิ่นจื่อจาง(พระเอก) จูจูจะไม่ฝันร้ายเลย ในฝันจูจูจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นสนมคนโปรดของรัชทายาท ที่จูจูจะเรียกว่า มารร้าย แต่พอตื่นมาก็จำเรื่องราวในฝันนั้นไม่ได้ นี่เป็นปริศนาของจูจูในอดีตเป็นแน่

จูจู ถูกอิ่นจื่อจางข่มขู่แกมบังคับให้มาที่สำนักบำเพ็ญเซียน ที่ตนต้องการเข้าเพื่อจะได้คอยรับใช้เป็นคนคอยหุงหาอาหารให้ ซึ่งจูจู ทำอาหารเก่งมาก ทำอะไรออกวมาก็อร่อย พอถึงสำนักบำเพ็ญเซียนเซิ้งจื้อ อิ่นจื่อจางได้แสดงความสามรถถึงพลังธาตุเดี่ยวสายน้ำแข็ง ทำให้ โหยวเชียนเริ่น ปรมาจารย์ขั้นกำเนิดใหม่ของสำนักรับเป็นศิษย์ทันที ส่วนจูจูนั้น เจิ้งเฉวียนก็รับเป็นศิษย์ถึงแม้จูจูจะไม่มีคุณสมบัติในการฝึกเป็นเซียนเลยเพราะมีชีพจรศิลาแข็ง แต่เจิ้งเฉวียนเหมือนจะรู้อดีตของจูจูอยู่ และจูจูยังมีพรสวรรค์ด้านการหลอมโอสถและอ่านตำราต่างๆก็เข้าใจได้แต่รู้สึกว่ามีอะไรผิดพลาดไปอยู่เรื่อย

ปริศนาของจูจูมีมากมาย ซึ่งดูเหมือนซื่อแต่ความคิดบางอย่างก็ดียิ่งกว่าคนธรรมดาทั่วไป จิตใจบริสุทธ์ ชื่นชอบลุ่มหลงเงินทองที่ไม่มีประโยชน์ต่อผู้บำเพ็ญเซียน

ในเล่มหนึ่งยังเป็นการทำความรู้จักตัวละคร แต่ระดับขั้นการฝึกวิชาต่างๆ เนื้อเรื่องดำเนินที่จูจูเป็นแกนหลัก ว่ามีใครชอบใครเกลียด ในสำนักเซียน ตอนท้ายๆได้โอกาสออกมาเที่ยวนอกสำนักครั้งแรกเพื่อขายยาลูกกลอนที่ลูกหมูที่จูจูเจอ ซึ่งจริงๆแล้วเป็นร่างแยกของจูจูเองมีแต่อาจารย์ที่รู้ จูจูไม่รู้อะไรเลยนึกว่าเก็บสมบัติล้ำค่าได้ (อันนี้ฮามาก) เป็นตัวคายออกมาไปเทขายยังนอกสำนักก็เจอเหตุการณ์ต่างๆเข้า กลับสำนักก็ได้เจอกับศิษย์พี่ใหญ่ ตี่ฉางซั่ง เชี่ยวชาญวิชายันต์ จากนั้นอีกสองเดือนก็เป็นการประลองศิษย์ชั้นนอกของสำนักเซิ่งจื้อ

โปรยเล่ม2 :
การประลองระหว่างศิษย์ชั้นนอกอันเป็นธรรมเนียมของสำนักเซิ่งจื้อ
จูจูถูกจับตามอง... หรืออาจจะบอกว่าถูกจ้องจับผิดเป็นพิเศษก็ว่าได้
เมื่อนางไม่มีตบะพลังใดๆ แล้วจะอาศัยอะไรได้อยู่ในสำนักเล่า!
การประลองรอบแรกจูจูนับว่าโชคดี
ที่วัตถุวิเศษทำงานได้ยอดเยี่ยมท่ามกลางการต่อสู้แบบตะลุมบอน
แต่รอบต่อไปเห็นทีจะไม่ง่ายเสียแล้วเพราะเป็นการจับคู่ประลองแบบตัวต่อตัว
หนำซ้ำคู่ต่อสู้คนแรกของนางดันเป็น...!?
หากนางประกาศขอยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มจะถูกเจ้าคนโฉดดึงหูด่าทอนาง
ว่าเป็นหมูโง่เง่า หมูขี้ขลาด หมูไม่เอาไหนต่อหน้าธารกำนัลหรือไม่นะ
อา! จะให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้!
นางก็มีศักดิ์ศรีทั้งของตัวเองและของอาจารย์ให้ต้องรักษาเหมือนกัน!!

เล่ม2 :
เนื้อเรื่องดำเนินถึงการประลองศิษย์ชั้นนอกของสำนัก จูจูที่ไม่มีตบะพลังจะทำอย่างไร คงต้องขอยอมแพ้ห้ารอบไปง่ายๆ ซึ่งก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันเมื่อมีผู้อาวุโสจากสำนักหลักมาดูการประลองที่จัดขึ้นสามปีหนึ่งครั้งด้วยกัน 2 คน ทำให้ใช้แผนเดิมไม่ได้ จูจู เจ้าคนโฉดอิ่นจื่อจางและเหล่าบรรดาศิษย์ในสำนักล้วนไม่มีใครอยากให้ จูจูศิษย์อาจารย์เจิ้งเฉวียนออกจากสำนักไปพากันหาวิธีรับมือแผนการครั้งนี้

การประลองผ่านไปด้วยผลการประลองที่ผิดความคาดหมายไปไกลโข และศิษย์พี่รอง จีโยวกู่ ผู้เป็นไม้เบื่อไม้เมากับศิษย์พี่ใหญ่ เชี่ยวชาญเรื่องข่ายอาคม และศิษย์พี่สาม สืออิ้งลวี่ ผู้งดงามเย้ายวนแต่ซื่อยิ่งกว่าจูจู มีพรสวรรค์ในการหลอมวัตถุวิเศษ ก็ออกมาจากการบำเพ็ญตน ได้พบกับจูจูและอิ่นจื่อจาง

ระหว่างนั้นได้มีการเปิดเผยเรื่องราวในอดีตของจูจูโดยเจิ้งเฉวียนกับตันหนีผู้ดูแลจูจู ที่ฝากฝังจูจูไว้กับเจิ้งเฉวียน

จากนั้นอาจารย์ของทั้งอิ่นจื่อจางและจูจูได้ให้ศิษย์เด่นล้ำทั้งห้าแห่งยอดเขาอิ้งปั้งไปร่วมงานชุมนุมหุบเขาต้วนเซียน ที่จัดขึ้นระหว่างสำนักเซียนทางตะวันตกเฉียงใต้ทั้งสี่ สำนักที่สิบปีมีเพียงหนึ่งครั้ง ศิษย์ทั้งห้าของยอดเขาอิ้งปั้งและศิษย์จากยอดเขาอื่นรวมสามสิบคนเข้าร่วม ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นแผนร้ายของสำนักพั่วฉานผู้จัดงานครั้งนี้แต่ก็ต้องยอมกระโจนอยู่ดี

ระหว่างอยู่ในหุบเขาก็เจอกับสัตว์ปีศาจขั้นสี่และเกินขั้นสี่ที่ไม่ควรมีในหุบเขา ทำให้ต้องใช้ความสามารถของศิษย์พี่ศิษย์น้องรวมทั้งลูกหมูหาทางออกจากหุบเขาให้ได้ ดดยสัตว์ปีศาจขั้นห้าในหุบเขาที่เจอคือปีศาจแมงมุมยักษ์อยากชิงร่างของอิ่นจื่อจาง แต่ศิษย์ทั้งห้าก็สามารถออกจากหุบเขามาได้และเป็นผู้ชนะในการแข่งขัน ยังความแค้นให้สำนักอื่นเพิ่มขึ้น

กลับถึงสำนัก ยังเจอกับเหตุการณ์สำนักหลักอยากเข้าควบคุมสำนัก ทำให้ต้องท้าประลองกับศิษย์สองคนที่สำนักหลักพามา ซึ่งสืออิ้งลวี่และจูจู(ลูกหมู) ก็ทำได้ดีไม่ทำให้ผิดหวังแม้แต่น้อย

โหยวเชียนเริ่นกับเจ้าสำนักฝูอวี้หารือกันหลายวันจนได้บอกความเป็นมาของที่ตั้งสำนักเซียนเซิ่งจื้อให้เจิ้งเฉวียนและบรรดาศิษย์ของตนฟังถึงการตามหาขุมสมบัติของ ราชาน้ำแข็งไฟ แห่งยุคโบราณ การเปิดขุมสมบัติต้องใช้ของล้ำค่าห้าชิ้น หยกขาววงเครื่องเสนาะ และ ผลึกสวรรค์ลายสมปรารถนา สำนักมีแล้ว ขาดสามชิ้น แส้ปัดฉลามเงิน เข็มทิศดวงดาวกระดูกมังกร และ แผ่นป้ายลายเมฆาม่วงแปดทรัพย์ จึงจะใช้การนี้ให้ศิษย์ทั้งห้าไปหาประสบการณ์และหาที่อยู่ของล้ำค่าทั้งสามชิ้น

ดินแดนจิ้นเฉียนมีแคว้นน้อยใหญ่ มีเพียงราชวงศ์ของแคว้นตันเป็นตระกลูบำเพ็ญเซียน ในตระกลูมีนักหลอมโอสถและผู้ฝึกตนระดับสูงจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถกุมอำนาจของแคว้นได้ทั้งหมดเพราะมีสกุลตันอยู่ด้วย รัชทายาทแคว้นตันออกจากการบำเพ็นเซียนมีความก้าวหน้าไปอีกขั้นเป็น นาคานิล ผู้ซึ่งตามหาคนงามน้อย สกุลตันอยู่นั้นเอง เรื่องราวเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆล่ะ

โปรยปกเล่ม3 :
หลายร้อยปีมาแล้วที่สำนักหลักไม่เคยแยแสสนใจในสำนักเซิ่งจื้อ
มาวันนี้จู่ๆ ก็เข้ามาคุกคามอย่างไม่ปิดบังเจตนาร้าย
ว่าต้องการควบรวมสำนักเพื่อเก็บเกี่ยวเอาผลประโยชน์ไป
หรือความลับสุดยอดของปฐมาจารย์ผู้ก่อตั้งจะถูกพบเบาะแสเข้าแล้ว?
ด้วยเหตุนี้ ว่าที่เสาหลักใหม่ของสำนักเซิ่งจื้อ ก็คือพวกอิ่นจื่อจางทั้งห้า
จึงรับคำสั่งให้สืบหาที่อยู่ของ ‘สมบัติล้ำค่า’ แล้วพาพวกมันกลับคืนสู่สำนั
จูจูต้องลงจากเขาอิ้งปั้งที่ซึ่งนางนั่งๆ นอนๆ แสนสุขสบายในทุกๆ วัน
นางแสนจะไม่เต็มใจเลยจริงๆ
แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อเจ้าคนโฉดนั่นไม่มีทางยอมให้นางอยู่ห่างจากหูตาตนเอง!

เล่ม3 :
ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งห้าออกเดินทางลงเขามาตามหาสมบัติล้ำค่าสามชิ้น การตามหา ได้เบาะแสชิ้นแรกคือแผ่นป้ายลายเมฆาม่วงแปดทรัพย์ ซึ่งน่าจะอยู่แคว้นซีทางตะวันตกของบรรดาห้าแคว้น เป็นของรางวัลชนะเลิศสำหรับนักหลอมโอสถที่ห้าแคว้นฝั่นตะวันตกจัดขึ้นในสิบปีครั้ง การเดินทางต้องเดินทางบกผ่านข้ามเขตแดนไป ทำให้ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เพิ่มขึ้น และได้ของวิเศษ ของล้ำค่าตามทาง ถึงแคว้นฉี จูจูไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง สามารถคว้าตำแหน่งมาได้ จึงได้แผ่นป้ายลายเมฆาม่วงแปดทรัพย์ ของราชาน้ำแข็งไฟ และระหว่างยังอยู่ที่เมืองซีเฉิง แคว้นซีก็เกิดเหตุให้จูจูต้องรวมร่างกับลูกหมูเพื่อช่วยศิษย์พี่ทั้งสี่ ซึ่งเป็นบำเพ็ญตนขั้นกำเนิดใหม่ช่วงปลายธาตุไฟ ด้วยกลัวว่าคนร้ายจะทำอันตรายศิษย์พี่ทั้งสี่จึงลงมือฟาดใส่ก็เกิดไฟสวรรค์ลุกไหม้เผาเป็นจุณทันทีสองคนพี่น้องซือถู สมุนของรัชทายาทแคว้นตัน อีกหนึ่งคือนักหลอมโอสถขั้นสามเฝิงเซียนเกา ถูกเผาตายแต่ร่างไม่ได้ไหม้หมด ศิษย์พี่ใหญ่จึงเก็บสมบัติประจำตัวเอาไว้ไม่คาดคิดว่าจะเจอ แส้ปัดฉลามเงิน มาไว้ได้ในครอบครอง ทั้งหมดล้วนคิดว่าอยู่เมืองซีเฉิงไม่มีอะไรแล้ว จึงออกเดินทางจากเมืองซีเฉิง ไม่ยังแคว้นข้างเคียงเพื่อสืบเบาะแสของสมบัติล้ำค่าชิ้นสุดท้ายเข็มทิศดวงดาวกระดูกมังกร เดินทางถึงเมืองบำเพ็ญเซียนใกล้แคว้นจินก็ได้ข่าวมีการรับสมัครผู้ฝึกตนเข้าร่วมการขุดค้นหาสุสานผู้ฝึกตนโบราณทำให้ศิษย์พี่ใหญ่สนใจและชวนศิษย์น้องเข้าร่วมด้วย

โปรยปกเล่ม4 :
ด้วยเพราะความเป็นไปได้ที่ในหลุมศพผู้ฝึกตนโบราณ
จะมีเบาะแสของสมบัติล้ำค่าชิ้นสุดท้ายที่ตามหา
พวกจูจูทั้งห้าจึงติดตามคณะค้นหาคนมาด้วยกัน
ทว่าที่อยู่ในนั้นกลับเป็นสัตว์ปีศาจขั้นแปดซึ่งบำเพ็ญตบะจนกลายร่างเป็นมนุษย์ได้
ที่ร้ายคือเจ้า ‘จิ้งจอกปีศาจ’ตนนี้ถึงกับเป็นบุรุษรูปงาม
และมีท่าทีเล่นหูเล่นตา สนิทแนบชิดกับจูจู!
ก้อนน้ำแข็งเดินได้อย่างอิ่นจื่อจางถึงกับสงบใจไม่ลงโดยสิ้นเชิง
ความรู้สึกร้อนรนกระวนกระวายนี้เขาไม่คุ้นชินเอาเสียเลย...
ด้านแคว้นตันก็เริ่มมีความเคลื่อนไหว
พื้นที่แถบตะวันตกเฉียงใต้ที่อยู่ชายขอบ
บัดนี้กลับจะเริ่มมีตัวตนอยู่ในสายตารัชทายาทขึ้นมาแล้ว!!

เล่ม4 :
มาถึงเมืองข้างเคียงเห็นประกาศออกไปขุดสุสานผู้ฝึกบำเพ็ญตนโบราณก็ไปเข้าร่วมด้วย จนมาถึงด้านในถ้ำที่เป็นสถานที่ฝังสุสาน คนทั้งหมดล้วนถูกลวงตายกเว้นจูจู และได้ยินเสียงลึกลับเรียกคนงามน้อย เป็นครั้งที่สองนอกจากในฝันร้าย สุดท้ายจึงได้พบว่าเป็นปีศาจจิ้งจอกขั้นแปดที่แปลงเป็นคนได้ใช้วิชาลวงตา และบอกเล่าเรื่องราวในอดีตให้จูจูฟัง เข้าไปอ่านในความทรงจำของจูจูจนรู้ว่าจริงๆแล้วจูจูชื่อ ตันหวง ได้โดยผนึกความทรงจำและพลังตบะเอาไว้ จริงๆอยู่ในขั้นกำเนิดใหม่ช่วงปลาย และหน้าตาของจูจูยังคล้ายกับเฝินปี้ชิ่น ในตอนนั้นก็เป็นนักหลอมโอสถที่เก่งที่สุดในสกุลตันเช่นกัน ปีศาจจิ้งจอกจึงมีความรู้สึกดีให้กับจูจู และบอกเล่าเรื่องราวในอดีตให้รู้ และจะหาคนมาหลอมลูกกลอนมหาสังสารวัฏเพื่อให้เฝินปี้ชิ่นฟื้นคืนมา ด้วยเหตุนี้ทำให้ทั้งสองจูจูและปีศาจจิ้งจอกเป็นสหายกัน และปีศาจจิ้งจอกยังยั่วอิ่นจื่อจางโดยการหอมแก้มจูจู ทำให้อิ่นจื่อจางรู้ความรู้สึกตัวเองที่มีต่อจูจูอีกด้วย หลังออกจากหุบเขาทั้งหมดคิดว่าการเดินในสองปีไม่มีอะไรให้เก็บเกี่ยวในห้าแคว้นฝั่งตะวันตกอีกจึงตัดสินใจกลับสำนักเซิ่งจื้อ เมื่อถึงก็พบผู้อาวุโสจากสำนักหลักฝานเจี้ยนกับฉือชัวเย่าก็มาหาเรื่องอาจารย์ถึงสำนัก เจิ้งเฉวียนชนะการประลองหลอมโอสถ ฉือชัวเย่าใจคอคับแคบต้องการฆ่าปิดปาก ตันหนีจึงวางแผนให้จูจูเป็นผู้ลงมือจัดการทั้งสอง ซึ่งก็ทำสำเร็จเพ่อให้จูจูรอดพ้นจากการติดตามเจอของรัชทายาทแคว้นตันที่ต้องการใช้จูจูเป็นเตาหลอมพลัง จากนั้นทั้งหมดก็ต้องลงเขากันอีกโดยจูจูกับอิ่นจื่อจางแวะเขาเตี่ยนเฟิ่งเพื่อนำสมุนไพรวิเศษไปให้จิ้งจอกปีศาจ และก่อนหน้านั้นก็ได้รู้ว่าอิ่นจื่อจางคือบุตรชายของบุตรคนรองที่ประมุขสกุลหลินรักมากที่สุด และมีสิทธิ์ขึ้นเป็นประมุขคนต่อไปแต่เรื่องราวไม่ง่าย พ่อแม่ถูกคนในสกุลหลินลอบสังหารทำให้อิ่นจื่อจางต้องการแก้แค้นนั้นเอง หลังลงเขาอิ้งปั้งก็ได้ข่าวเข็มทิศดวงดาวกระดูกมังกรอยู่ที่สกุลไท่แห่งเขาฝานเจี้ยน ในที่สุดก็ได้สมบัติล้ำค่ามาครบก็กลับมาที่สำนักเซิ่งจื้อเพื่อปรึกษาและได้รู้ว่าที่ซ่อนขุมสมบัติราชาเทพไฟน้ำแข็งอยู่ที่หุบเขาต้วนเซียนที่เป็นที่อยู่ของราชาแมงมุมปีศาจขั้นห้านั่นเอง หลังจากเข้าไปในขุมสมบัติที่อยู่บนเกาะกลางน้ำได้แล้ว ก็มีคำ "ไม่สยบไฟอายุวัฒนะ ไม่ต้องถามถึงเคล็ดวิชาแก่นน้ำแข็ง" ซึ่งจูจูและลูกหมูสามารถทำได้ สุดท้ายขุมสมบัติของราชาเทพไฟน้ำแข็งก็ถูกพวกจูจูเปิดออก ได้จูจูไฟเซียนอายุวัฒนะ อิ่นจื่อจางได้เคล็ดวิชาแก่นน้ำแข็งและสำเร็จขั้นหลอมรวม หลังกลับสำนัก เจิ้งเฉวียนสำเร็จขั้นกำเนิดใหม่ ตันหนีมายินดี ทำให้รู้ว่าจิตแห่งเต๋าของจูจูมีรอยประทับต้องลบรอยประทับออกโดยการเปิดผนึกความทรงจำ จากนั้นอีกหนึ่งปีก็มีงานประลองยุทะ์ครั้งใหญ่ที่จัดทุกสามโดยมีโรงประลองยุทธ์ของสำนักจี้ลี่เป็นโต้โผ ทำให้ศิษย์พี่น้องต้องลงจากเขาอีกครั้ง

โปรยปกเล่ม5 :
งานประลองยุทธ์ที่จัดขึ้นโดยสามสำนักใหญ่แห่งดินแดนจิ้นเฉียน
สำนักชายขอบตะวันตกเฉียงใต้ได้รับเชิญให้มาร่วมงาน แสดงว่าต้องมีดี
ยิ่งเมื่ออายุเฉลี่ยทั้งกลุ่มนี้นับว่าน้อยที่สุดในบรรดาผู้เข้าร่วมทั้งหมด
ก็ให้ผู้คนพากันสงสัยระคนริษยาว่าสำนักเซิ่งจื้อไปเอาโชคมาจากไหนมากมาย
ถึงมีชนรุ่นหลังที่เก่งกาจจนเข้าขั้นวิปริตคราเดียวพร้อมกันมากเพียงนี้!
สายตาทุกคู่ล้วนพุ่งเป้ามายังพวกเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย
หากแต่สายตาคนสำนักเจาไช่ที่มีต่ออิ่นจื่อจางดูจะเร่าร้อนเป็นพิเศษ
ก็ใบหน้านั้นมันเป็นใบหน้าของคนสกุลหลินแห่งแคว้นอู่ชัดๆ!
แม้อิ่นจื่อจางยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้าคนเหล่านี้
แต่สถานการณ์ไม่อนุญาตให้เขาหลีกเร้นตัวอีกต่อไปแล้ว!!

เล่ม5 :
งานประลองยุทธ์ที่จัดขึ้นเพื่อสามสำนักใหญ่จะได้ดูความสามารถของสำนักต่างจบลง ผลจากการลงความเห็นกัน สำนักเซิ่งจื้อเป็นผู้ชนะ กลุ่มพันธมิตรห้าแคว้นฝั่งตะวันตกได้ที่สอง กลุ่มระดับหนึ่งที่เดิมทีเป็นไม้ประดับอีกสองกลุ่มก็มีกลุ่มหนึ่งได้เข้าสวมอันดับสาม จากการเป็นผู้ชนะรางวัลที่ได้สามารถมีสิทธิใช้น้ำพุจินเซินสมบัติในครอบครองของสำนักเจาไช่ ตระกลูหลินแคว้นอู่ ซึ่งทุกคนที่ได้เห็นความสามารถของอิ่นจื่อจางอยากดึงเค้ากลับสำนักเพราะเป็นนายน้อยสิบสกุลหลิน บุตรชายนายท่านรองแน่นอน ผู้สืบทอดอัจฉริยะแบบนี้จะปล่อยไว้ข้างนอกได้ยังไง จึงหาข้ออ้างมาชวนไปแคว้นอู่ ซึ่งเจิ้งเฉวียนกับตันหนีเห็นด้วยเพราะอยากใช้ความสามารถของแคว้นอู่ในการหลบซ่อนตัวจูจูเอาไว้ อิ่นจื่อจางจึงยอมไป เมื่อถึงก็เข้าพักเป็นแขกของสำนักเจาไช่ ก็โดนคนกลั่นแกล้งหาเรื่องตอนแช่น้ำพุร้อนกัน ผลคือมีการท้าประลองศิษย์พี่ทั้งห้าของจูจูได้ชัย จากนั้นก็รอวันงานขึ้นเจดีย์อู่เสิน ที่รัชทายาทแคว้นตัน เยี่ยนซื่อเทียนวางแผนจะยึดไปแต่แผนการล้มเหลวเพราะมีจูจูอยู่นางได้ใช้ไฟสวรรค์สองชนิดเข้าช่วยรักษาเจดีย์ทำให้รัชทายาทรู้ว่าจูจูอยู่ที่แคว้นอู่ จากนั้นเจิ้งเฉวียนและตันหนีได้ตามมาพบจูจู และบอกว่ารู้ที่อยู่ของ "ไฟพิสุทธิ์น้ำพุสุขาวดี" ไฟสวรรค์อีกชนิดหนึ่งแล้ว ตันหนีจึงวางแผนเบี่ยงเบนความสนใจเยี่ยนซื่อเทียนด้วยการปลอมเป็นจูจู และอีกสามเดือนให้จูจูรวมทั้งศิษย์พี่ออกเดินทางไปทะเลเหนือ ซึ่งสามสำนักใหญ่จะส่งศิษย์กลุ่มหนึ่งไปขุดค้น ผลึกวิญญาณน้ำแข็ง หาประสบการณ์ที่ทะเลเหนือ ในระหว่างสามเดือนจูจูและอิ่นจื่อจางยังได้เจอกับเพื่อนบ้านเก่าของอิ่นจื่อจางทำให้เกิดเรื่องที่ นายท่านใหญ่และนายท่านสามสกุลหลินแอบเล่นงานอิ่นจื่อจาง และอิ่นจื่อจางก็ค้นพบว่าท่านพ่อของตัวเอง นายท่านรองหลินเจิ้นจินยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งก็คือท่านพ่อไปช่วยไว้ได้ทัน อันตรายไม่ถึงชีวิต ทำให้ไปพักรักษาตัวอยู่กับพ่อระหว่างนี้ก็ปรับความเข้าใจกัน และฝึกฝนร่วมกัน ทำให้จูจูสงสัยจึงเอ่ยถามว่าการบำเพ็ญของหลินเจิ้นจินเป็นแบบใด ได้คำตอบว่าเป็นการบำเพ็ญแบบเต๋ามีใจ และได้รู้ว่าราชาเทพไฟน้ำแข็งถือกำเนิดในสายตรงสกุลหลิน นามเดิมว่าหลินเป้าสือ ในบรรดาศิษย์รุ่นอ่อนกว่ามีสาวน้อยที่มีพลังธาตุเดี๋ยวสายน้ำแข็ง และมีตบะรุดหน้าเลยแข่งกันมาตลอด การขึ้นไปที่เจดีย์อู่เสินชั้นที่เก้าจะมีกระแสความคิดและเคล็ดวิชาจำนวนมากที่ผู้ฝึกตนขั้นมหายานผู้เป็นยอดในแต่ละยุคสมัยของแคว้นอู่ทิ้งเอาไว้ ในจำนวนนั้นมี เคล็ดวิชาใจน้ำแข็ง อันเป็นเคล็ดวิชาของสกุลหลินรวมอยู่ด้วยซึ่งเป็นเคล็ดวิชาที่ปรมาจารย์หญิงท่านที่ทำให้ราชาเทพพ่ายแพ้ทิ้งเอาไว้ ถ้าได้รับการยอมรับจากดวงจิตเจดีย์อู่เสินก็จะกลายเป็นเจ้าของเจดีย์ได้อีก เจดีย์อู่เสินเป็นหนึ่งในวัตถุเทพสามชิ้นที่มีอยู่ในโลกนี้ และได้เปิดเผยว่าแหวนที่ท่านพ่อให้ไว้คือแหวนสุเมรุทั้งสองวงอยู่ที่อิ่นจื่อจาง ได้กล่าวว่าในแหวนเก็นความลับใหญ่เอาไว้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผนึกอยู่ชั้นที่เก้าเจดีย์อู่เสิน ให้เก็บรักษาไว้ให้ดี บรรพบุรุษหญิงที่ชนะราชาเทพมีแซ่ว่าเอ๋า นามว่าเจียว ขนานนามตนเองว่า ราชินีเทพหยกพิสุทธิ์ สถานที่ขึ้นสวรรค์ของนางอยู่บริเวณทะเลเหนือกล่าวกันว่านางเคยนำ บัวสมุทรอวลกลิ่นน้ำแข็ง ไปปลูกไว้ ซึ่งนั้นเป็นสมุนไพรวิเศษขั้นเก้าจูจูอยากได้มากๆ และเตือนให้อยู่ห่างจากคนของวังไท่ซวีให้มาก เพราะศิษย์ของวังไท่ซวีชอบบำเพ็ญคู่
เมื่อออกเดินทางไปจนกระทั่งถึงทะเลเหนือ จึงได้ตกลงแยกย้ายกัน จูจูและอิ่นจื่อจางตัดสินใจไปเกาะอิ๋นซาตามหาผู้อาวุโสสกุลตันแต่ก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น




โปรยปกเล่ม6 :
...ตามหาผู้อาวุโสสกุลตันที่เร้นกาย...
...ตามหาบัวสมุทรอวลกลิ่นน้ำแข็งสมุนไพรวิเศษ...
...ตามหาไฟพิสุทธิ์น้ำพุสุขาวดี...
ล้วนเป็นเป้าหมายที่พวกจูจูเดินทางมาทะเลเหนือในครั้งนี้
แต่ก่อนอื่นทุกคนต้องแวะขึ้นฝั่งที่เกาะอินหยางอันเป็นที่ตั้ง ‘วังไท่ซวี’
สำนักบำเพ็ญเซียนซึ่งโดดเด่นด้านการบำเพ็ญคู่อันสนิทแนบแน่น
ทว่ารัชทายาทแคว้นตันก็มาเยือนทะเลเหนือและเกาะอินหยางเช่นเดียวกัน
เป้าหมายของเขาใช่เหมือนกันกับพวกจูจูหรือไม่นะ
แต่ที่แน่ๆ คือสิ่งที่อยู่ในหัวจอมมารผู้นี้ไม่มีทางเป็นเรื่องดีงามอันใดไปได้
นางกับเขาเคยเกือบได้ปะทะซึ่งหน้ากันมาแล้ว
หนนี้นางยังจะอำพรางตัวเองจากเขาได้อีกครั้งไหม ก็ขึ้นอยู่กับสวรรค์แล้ว!

เล่ม6 :
มองจากที่ไกลจูจูก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติของสีน้ำทะเล ทำให้เตือนอิ่นจือจางว่ามีนักปรุงพิษ มีการใช้พิษ และได้เจอราชาฉลามเงินที่ได้รับบาดเจ็บคือซาไหวตันและน้องชายฝาแฝดซาไหวเหริน จึงได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นคือผู้อาวุโสสกุลตันถูกเยี่ยนซื่อเทียนจับตัวไปที่มาพร้อมกับนักปรุงพิษขั้นแปดชั้นยอดที่ร้ายกาจที่สุดของแคว้นตัน ซูตั้นหง เหล่าผู้อาวุโสต้องการบอกให้จูจูรู้ว่าไฟพิสุทธิ์น้ำพุสุขาวดีอยู่ลึกลงไปใต้เกาะอินหยาง แต่ที่รัชทายาทต้องการคือต้นเหอฮวนหมื่นปีบนเกาะอินหยาง ไม่รู้เรื่องไฟสวรรค์ จูจูต้องการไปช่วยเหล่าผู้อาวุโสสกุลตัน จึงแอบหนีไปแต่พวกศิษย์พี่ก็รู้และตามไปช่วยจนสำเร็จ หลังจากนั้นต้องเข้าเกาะอินหยางเพื่อไฟสวรรค์และหาทางกำจัดเยี่ยนซื่อเทียน จึงแยกกันเป็นสองทาง จูจูไปทำการดูดซับไฟสวรรค์ ศิษย์พี่ขึ้นเกาะไปบอกผู้อาวุโสของวังไท่ซวีเพื่อหาทางกำจัดเยี่ยนซื่อเทียน ซึ่งไฟพิสุทธิ์น้ำพุสุขาวดีอยู่ใต้ต้นเหอฮวนหมื่นปี จูจูทำการดูดไฟสวรรค์แต่สุดท้ายต้องเปิดผนึกวิญญาณไม้ของตนจึงทำการดูดซับไฟสวรรค์ได้สำเร็จ เป็นเหตุให้ เยี่ยนซื่อเทียนรู้ว่าจูจูอยู่ใกล้เคียงแถวนี้ แต่ก็คิดว่าเป็นอุบายของสกุลตันทำให้ตัดสินใจไม่สนใจ ส่วนพวกศิษย์พี่เมื่อปะทะกับพวกเยี่ยนซื่อเทียนทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บ พลังของต้นเหอฮวนทำให้ไม่ถึงตาย ผู้อาวุโสใหญ่เปิดผนึก ทั้งหมดถูกดึงตัวไปกักในต้นเหอฮวนทั้งหมด สามฝ่าย มีเยี่ยนซื่อเทียน ศิษย์พี่รองและฝ่ายผู้อาวุโสในวังไท่ซวี สุดท้ายศิษย์พี่รองและศิษย์พี่สามสามารถร่วมมือกันสื่อสนองกับต้นเหอฮวนให้ยอมรับได้ ขณะเดียวกันจูจูกลับไปช่วยผู้อาวุโสสกุลตันปลดตราไฟที่ประทับไว้โดยเยี่ยนซื่อเทียน และไปช่วยพวกศิษย์พี่ หลังจากทั้งหมดออกมาจากต้นเหอฮวนได้สู้กัน เป็นเยี่ยนซื่อเทียนกำลังใช้ไฟสวรรค์เปิดทางหนี แต่จูจูมาทันเวลาทำให้ เยี่ยนซื่อเทียนได้รับบาดเจ็บและผูกแค้นไปถึงสำนักเซิ่งจื้อ หลังจากนั้นทั้งหมดต้องแยกย้ายกันชั่วคราว ศิษย์พี่รองศิษย์พี่สามอยูาเกาะอินหยางคุ้มครองเกาะและรอจูจูหายาถอนพิษจากบัวสมุทรอวลกลิ่นน้ำแข็ง ศิษย์พี่ใหญ่กลับไปแจ้งเตือนอาจารย์ที่สำนัก ส่วนจูจูกับอิ่นจื่อจางถือโอกาสไปหาบัวสมุทรอวลกลิ่นน้ำแข็งที่ทะเลนอก แต่เรื่องราวไม่ง่ายดาย เพราะบัวสมุทรอวลกลิ่นน้ำแข็งถูกแรดขาวทะเลน้ำแข็งกลืนลงท้องไป หลงเซ่อหลัน ราชาเทพทะเลเหนือผู้เฝ้าคุ้มครองบัวสมุทรอวลกลิ่นน้ำแข็งอยู่จึงเสนอเงื่อนไขให้ จูจูและพวกไปเอามาจะให้เพียงดอกบัว ส่วนรากและก้านใบห้ามเสียหาย และยังจะมอกโอสถน้ำที่สกัดจากดอกบัวให้ด้วย พวกจูจูจึงตกลงทำภารกิจเข้าท้องแรดขาวทะเลน้ำแข็ง เมื่อจูจูได้สัมผัสบัวสมุทรอวลกลิ่นน้ำแข็งก็เกิดภาวะหลับลึกเช่นเดียวกับบัวสมุทรอวลกลิ่นน้ำแข็งที่มีกายบริสุทธิ์แต่ตบะมากกว่าจูจู อิ่นจื่อจางไม่รู้คิดว่าเกิดปัญหากับจูจูจึงคิดไปจับบัวสมุทรอวลกลิ่นน้ำแข็งทำให้เกิดแรงต้านทานระดับผู้ฝึกตนขั้นมหายาน ทำให้บาดเจ็บ และก็กลัวจูจูจะเป็นอันตรายจึงใช้ร่างกายบรับน้ำย่อยภายในกระเพาะของแรดขาวทะเลน้ำแข็ง แต่ยังมีโชคร้ายในโชคดี ดวงจิตและตบะของอิ่นจื่อจางก่อนสิ้นลมได้เข้าไปอยู่ในกำไลทองแดงของจูจู ทำให้สามารถฟื้นคืนชีพได้ จากนั้นจึงนำบัวสมุทรอวลกลิ่นน้ำแข็งไปให้ศิษย์พี่รอง และรีบกลับแคว้นอู่ เพื่อช่วยอิ่นจื่อจาง โดยการพาขึ้นเจดีย์อู่เสิน จูจูใช้ความพยายามจนไปถึงชั้นเก้าและได้จัดเตรียมทุกสิ่งให้เพื่อรอการบำเพ็ญตนและรับความรู้จากเจดีย์อู่เสิน ซึ่งอิ่นจื่อจางก็ทำได้สำเร็จได้เป็นเจ้าของเจดีย์อู่เสินคนใหม่และสำเร็จขั้นกำเนิดใหม่ จูจูออกเดินทางไปหาจิ้งจอกปีศาจเพื่อทำลูกกลอนมหาสังสารวัฏ โดยจูจูก็ทำสำเร็จ แต่ระหว่างปิดด่านทำลูกกลอน เยี่ยนซื่อและเยี่ยนซื่อเทียนก็ได้มาเขาเตี่ยนเฟิ่งเพื่อตามหาสายน้ำผึ้งมหาสังสารวัฏเช่นกัน ทำให้จิ้งจอกปีศาจต้องปกป้องโดยใช้วิชาลวงตา และลวงใจ จนทำให้เยี่ยนซื่อเทียนกำจัดปู่ของตนเพื่อชิงไฟสวรรค์ เฝินปี้ชิ่นฟื้นขึ้นได้ในที่สุด แต่จิ้งจองปีศาจกลับไปอยู่ขั้นสี่ทำให้ไม่มีสติปัญญาเหมือนเดิม

โปรยเล่ม7 :
เยี่ยนซื่อเทียนประกาศปิดด่านกักตน
เตรียมดูดซับไฟสวรรค์ชนิดที่สี่ ทะลวงขึ้นขั้นมหายาน
เพียงคนเดียวที่พอจะต่อกรกับเขาได้ก็คือจูจู
นางจึงต้องเร่งค้นหาและดูดซับไฟสวรรค์ชนิดต่อไปด้วยเช่นกัน
หากข้อมูลที่ได้มาบ่งชี้ว่า ‘ไฟหินเหล็กกลวง’ซึ่งยังไม่มี...
และไม่เคยมีผู้ใดได้ครอบครองมาก่อนนั้น
ถูกเก็บรักษาไว้ในแคว้นตัน ภายใต้เปลือกตาของราชวงศ์สกุลเยี่ยนนั่นเอง
แม้มีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่านี่จะเป็นกับดักล่อนางให้ไปติด
แต่นางก็ต้องเสี่ยง เพราะอนาคตคนสกุลตันทั้งตระกูล
และกลุ่มพันธมิตรแคว้นอู่ ล้วนขึ้นอยู่กับนางแล้ว!

เล่ม7 :
จูจูและเฝินปี้ชิ่นตัดสินใจกลับแคว้นอู่เพื่อบำเพ็ญตน และสร้างร่างเนื้อให้อิ่นจื่อจาง ระหว่าทางเจอศิษย์พี่ใหญ่ ทั้งหมดแลกเปลี่ยนเรื่องราวระหว่างกัน กลับถึงแคว้นอู่ จูจูก็ปิดด่านสร้างร่างเนื้อให้กับอิ่นจื่อจางกับหลินเจิ้นจิน สามปีผ่านไปร่างเนื้อพร้อม ศิษย์พี่น้องพบกันอีกครั้งทุกคนอยู่ในขั้นกำเนิดใหม่ รออิ่นจื่อจางออกด่าน เมื่อพบกันอีกครั้งทุกคนล้วนอยู่ขั้นกำเนิดใหม่ มีโชควาสนาของตนเอง จูจูและศิษย์พี่เดินทางไปแคว้นตันเพื่อชิงไฟสวรรค์ธาตุหยางชนิดสุดท้ายที่ไม่มีเจ้าของ ซึ่งได้ข่าวว่าอยู่ที่แคว้นตัน นั่นคือไฟหินเหล็กกลวง เมื่อไปถึงศิษย์พี่น้องทั้งห้าได้ทำการบุกปล้นคลังสมบัติราชวงศ์แคว้นตันเป็นผลสำเร็จ แต่ไม่มีไฟหินเหล็กกลวงซึ่งสืบแน่ชัดว่าถูกสะกดอยู่ภายในตำหนักใต้พิภพของวิหารตันเสิน และมีตันเถิงเป็นคนเฝ้าเอง โดยจูจูจะเป็นผู้ไปดูดซับไฟหินเหล็กกลวงเอง เมื่อเข้าไปในตำหนักใต้พิภพได้พบราชันไม้ และราชันไฟ ดวงจิตวัตถุเทพจึงได้ทำข้อตกลงและถามข้อตกลงของเยี่ยนซื่อเทียน ราชันไม้และราชันไฟยอมตกลง โดยการปิดบังความเคลื่อนไหวภายในตำหนักใต้พิภพ 20 วันตามเวลาที่ทำข้อตกลงกับเยี่ยนซื่อเทียน จูจูทำสำเร็จดูดซับไฟหินเหล็กกลวงได้ในวันที่ 17 ได้ทำการรวมไฟสวรรค์ชนิดที่สี่เข้าเป็นไฟปฐมบรรพ์ ทำให้หนีออกจากตำหนักใต้พิภพได้ และเยี่ยนซื่อเทียนก็รู้ตัวในที่สุดจึงออกด่านกักตัวก่อนกำหนด แต่ก็ได้ดูดซับไฟสวรรค์ชนิดที่สี่และได้เลื่อนขึ้นขั้นมหายานแล้ว แต่สุดท้ายจูจูและอิ่นจื่อจางก็หลบหนีเยี่ยนซื่อเทียนกลับแคว้นอู่รวมทั้งศิษย์พี่ทั้งหมดได้ จากนั้นก็มีข่าวว่าเยี่ยนซื่อเทียนแคว้นตันจัดงานชุมนุมนักหลอมโอสถครั้งใหญ่ ทุกคนต่างเฝ้ารอจะไปงานชุมนุมครั้งนี้แม้เป็นแผนการที่ต้องตกหลุมพลางก็ตามที

โปรยปกเล่ม8 :
เยี่ยนซื่อเทียนจัดงานชุมนุมสุดยอดนักหลอมโอสถที่แคว้นตัน
เปิดการประลองระหว่างนักหลอมโอสถสกุลตันและสกุลเยี่ยน
จูจูถูกห้ามเด็ดขาดไม่ให้ข้องเกี่ยว แต่นางก็ยังแอบมาดูสถานการณ์จนได้
กระทั่งเยี่ยนซื่อเทียนวางเหยื่อล่อตัวใหญ่
ประกาศว่าถ้าการประลองรอบสุดท้ายสกุลตันเป็นฝ่ายชนะ
เหล่าคนสกุลตันและญาติมิตรทั้งหมดที่ถูกจับเป็นตัวประกันจะได้รับอิสรภาพ
เงื่อนไขนี้จูจูไม่อาจทำนิ่งเงียบไม่เห็นไม่ได้ยินได้จริงๆ!
ความแค้นระหว่างสองตระกูล ความบาดหมางของสองแคว้น
และความเป็นไปทั้งหมดของดินแดนจิ้นเฉียน ใกล้จะได้รู้บทสรุปแล้ว!

เล่ม8 :
จูจูและศิษย์พี่แอบตามไปงานชุมนุมนักหลอมโอสถที่แคว้นตัน ในงานนักหลอมโอสถสกุลตันสามารถเอาชนะนักหลอมโอสถสกุลเยี่ยนมาได้โดยตลอด เหลือเพียงแข่งขันระหว่างนักหลอมฌอสถขั้นแปดที่ชนะไปได้ฝ่านละหนึ่งครั้ง ในผลประลองสุดท้ายเยี่ยนซื่อเทียนจึงประกาศว่าถ้าเอาชนะได้ จะปล่อยคนของสกุลตันทั้งตระกลูไปภายในเจ็ดวันจะไม่ตามจับ ในที่สุดจูจูก็ต้องปรากฎตัวแม้รู้ว่าเป็นเหยื่อล่อก็ตามที และผลสุดท้ายยังสามารถเอาชนะนักหลอมโอสถปริศนาชุดดำสกุลเยี่ยนได้ ซึ่งก็คือตันเฟิ่งพี่สาวของจูจูนั่นเอง จากนั้นจูจูและคนของสกุลตันทั้งหมดต้องรีบออกจากแคว้นตันไปแคว้นอู่ให้เร็วที่สุด เพรามีเวลาเพียงแค่เจ็ดวันเท่านั้น สุดท้ายจูจูและอาจารย์ เจิ้งเฉวียนจึงเป็นฝ่ายสกัดท้ายขบวนให้คนทั้งหมดเดินทางต่อ เพื่อล่อเยี่ยนซื่อเทียน จูจูหนีรอดได้เพราะเจิ้งเฉวียนคิดเอาตัวเข้าเสี่ยงแทน แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุจากหยดเลือดของตันหนีอุ้มท้องทายาทพญาหงส์ทำให้รอดพ้นไปได้ และเยี่ยนซื่อเทียนได้รับบาดเจ็บ ทางด้านคนสกุลตันก็ได้อิ่นจื่อจางไปขอกำลังเสริมมาช่วยเหลือ และได้สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวผิดปกติที่สู้อย่างบ้าคลั้งไม่ม่สติของผู้ฝึกตนฝ่ายแคว้นตัน ทำให้รู้ว่าถูกใช้พิษ ซึ่งเป็นแผนของเยี่ยนซื่อเทียนในการหากองทัพผู้ฝึกตนขั้นสูงมาใช้ เมื่อกลับถึงแคว้นตัน จูจูก็คิดว่าถึงเวลาที่ตนเองใกล้จะต้องทะลวงด่านเป็นผู้ฝึกตนที่แท้จริง ทั้งสองจึงออกไปท่องเทียวตามที่ต่างๆ และไปปิดด่านทะลวงตั้งแต่ขั้นสร้างฐาน หลอมรวม กำเนิดใหม่ ที่เขาอิ่งปั้งสำนักเซิ่งจื้อ การทะลวงด่านของจูจูเร็วมากเป็นอัจฉริยะอย่างไม่เคยมี ใช้เวลาแค่ไม่นานก็ทะลวงด่านทั้งหมด สุดท้ายทะลวงขึ้นขั้นมหายานได้สำเร็จอย่างรวดเร็วอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อสำเร็จก็เดินทางกลับไปกักตัวทำสภาวะให้นิ่งที่เจดีย์อู่เสิน เมืองฉงอู่แคว้นตัน พร้อมศิษย์พี่ทั้งหมด อิ่นจื่อจางก็พร้อมทะลวงขึ้นนั้นมหายานแล้วเช่นกัน สองปีผ่านไป เหลือเวลาอีกสองปีก็จะถึงเวลานัดประลองยุทธ์สาม(ู้อาวุโสใหญ่กับเยี่ยนซื่อเทียน แต่เยี่ยนซื่อเทียนก็ผิดสัญญามาก่อนเวลาเพื่อจะกำจัดอิ่นจื่อจางก่อนเพราะกลัวจะเป็นภัยในวันหน้า ระหว่างการต่อสู้เยี่ยนซื่อเทียนได้วางไส้ศึกไว้ภายใน ทำให้การวางแผนรับมือของสามผู้อาวุโสใหญ่เกิดช่องโหว่ให้ทำลายข่ายอาคมกักมังกร และบาดเจ็บสาหัส หลินซื่อกงเตรียมพร้อมแลกชีวิตไปด้วยกันกับเยี่ยนซื่อเทียนแต่จูจูออกด่านกักตัวมาช่วยเหลือได้ทัน แต่ก็เกือยบจะเสียที ในที่สุดอิ่นจื่อจางก็สำเร็จขั้นมหายานออกด่านกักตัวมาช่วยสองคนรวมพลังน้ำแข็งไฟจากเคล็ดวิชาของราชาเทพไฟน้ำแข็ง เยี่ยนซื่อเทียนคิดจะระเบิดตัวเองและไฟสวรรค์ทั้งห้าชนิดเพื่อทำลายคนทั้งหมด จูจูจึงดูดซับไฟสวรรค์ทั้งห้าชนิดนั้นไว้ทำให้ช่วยเหลือคนทั้งหมดไว้ได้ แต่ตนเองก็สลบไปหนึ่งร้อยปี จนถึงตอนสัญญากับดวงจิตเทพของวิหารใต้พิภพ อิ่นจื่อจางจึงพาจูจูไปและได้มอบเครื่องบวงสรวงไฟสวรรค์ตามสัญญาของจูจูที่เคยทำไว้ ราชาไม้ ราชาไฟทำการช่วยเหลือนำไฟสวรรค์ออกมาจากตัวจูจูทำให้ฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง หนึ่งร้อยปีผ่านไปทุกอย่างสุขสงบ และสร้างใหม่จากศึกเยี่ยนซื่อเทียนกับผู้อาวุโสใหญ่ทั้งสามแห่งสามสำนักใหญ่ สำนักเซิ่งจื้อเปิดสำนักอีกครั้งพร้อมความเด่นล้ำของศิษย์ขั้นกำเนิดใหม่และยังมีศิษย์ที่เป็นผู้ฝึกตนขั้นมหายานกลายเป็นสำนักที่เทียบเคียงสำนักใหญ่ในดินแดนจิ้นเฉียนได้เลยทีเดียว

หลังอ่าน :
เป็นแนวฝึกตน บำเพ็ญตบะ บำเพ็ญตนให้กลายเป็นเซียน ในเรื่องนางเอก พระเอกจากที่เป็นผู้ฝึกตนขั้นเล็กๆ สามารถไปถึงระดับสูงสุด ยอดบนสุดของสามเหลี่ยมได้ เพราะทั้งพรสวรรค์ และโชควาสนา ซึ่งทั้งเรื่องจะมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆว่าศิษย์พี่ศิษย์น้องห้าคนนี้โดดเด่นที่สุด เก่งและโชคช่วย มีวาสนาของตนเอง ในขณะที่คนอื่นๆบำเพ็ญตนนานเป็น สิบเป็นร้อยปี แต่ศิษย์กลุ่มนี้คนนึงเก่งกว่าอีกคนหนึ่งตลอด จูจูที่ตอนแรกไม่มีความสามารถ ไม่มีพลังฤทธิ์อะไรกลับเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติดีที่สุด เก่งที่สุดในเรื่อง ร้อยปี พันปีก็ไม่เคยมีมาเกิด การตีความการเข้าใจสิ่งต่างๆล้วนเข้าใจอย่างรวดเร็ว มีความเร็วในการบำเพ็ญตนเก่งที่สุดในเรื่อง ชวนให้ทุกคนตกใจ และสรุปอย่างชัดเจนได้อีกอย่างคือระหว่างลาสบอส เยี่ยนซื่อเทียน กับจูจูและอิ่นจื่อจาง คนหนึ่งเป็นคนที่ชั่วร้ายมาก ใช้วิธีการที่ผิดในการเพิ่มตบะและปกครองคน ส่วนอีกฝ่ายเข้าใจธรรมชาติ เข้าใจโลก และมีความรักให้กับญาติมิตร สหาย และชาวบ้านผู้ไม่รู้อะไรเลย ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เข้าใจเต๋าอย่างแท้จริง

ส่วนเนื้อเรื่องก็ดำเนินไปเรื่อยๆโดยการเน้นไปที่พระเอก อิ่นจื่อจาง และพวกศิษย์พี่ในการฝึกตนผ่านขั้นต่างๆ จูจูไม่มีอะไรให้พูดถึงเพราะเป็นยอดอัจฉริยะที่ไม่เคยมีมาในโลก ทะลวงด่านต่างๆได้เร็วจนคนตกใจยังไม่ทัน และเนื้อเรื่องก็กล่าวถึงการเดินทางไปหาสมบัติ เพิ่มตบะ หาประสบการณ์ในดินแดนต่างๆของแผ่นดินจิ้นเฉียน นิสัยใจคอของศิษย์พี่แต่ละคนที่สร้างสีสรรในเรื่อง มุกตลก มุกบ้าศิษย์น้องหญิงที่ศิษย์พี่ใหญ่ปล่อยออกมาทุกระยะในสภาพร่างกายเด็กน้อยหน้าตาเป็นเซียนเด็กที่โดนใจคนอ่าน และอีกมากมาย แนะนำให้คนที่ชอบแนวฝึกยุทธ์ เพิ่มพูนตบะ มีสัตว์วิเศษ สัตว์ปีศาจอ่าน เป็นแนวผจญภัยเทพเซียน ที่สนุกทีเดียว