Monday, March 29, 2021

#ซูเปอร์สตาร์ชิงบัลลังก์ #6เล่มจบ #1เล่มพิเศษ #นิยายแปลจีนวาย #กลับชาติมาเกิดใหม่ #ดารานักแสดง #วงการแสดง #ซูเปอร์สตาร์

 Review 9/2564

เรื่อง : ซูเปอร์สตาร์ชิงบัลลังก์ (6เล่มจบ + 1เล่มพิเศษ) #นิยายแปลจีนวาย #กลับชาติมาเกิดใหม่ #ดารานักแสดง #วงการแสดง #ซูเปอร์สตาร์

ผู้แต่ง : มั่วเฉินฮวน (Mo Chen Huan)

ผู้แปล : ซิ่งหลั่น

ภาพประกอบปก : ENO

สำนักพิมพ์ : นาฬิกาทราย

พิมพ์ครั้งที่ 1 : พ.ศ.2563

จำนวนหน้า : 338 + 347 +381 + 355 +342+ 361+137 หน้า



โปรยปกหลังเล่ม 1 :

ชาติที่แล้วหรงสวี่เป็นซูเปอร์สตาร์โด่งดังระดับโลก

แต่ชาตินี้เขากลับเป็นคุณชายตกอับจอมเกเร รู้จักแต่

สำมะเลเทเมาไปวันๆ แถมยังต้องเผชิญกับอาและอาสะใภ้

ที่คอยจะจ้องฮุบสมบัติอีกด้วย หากเขายังขืนทำตัว

ไร้ประโยชน์แบบนี้ต่อไป ชีวิตเขาคงจบสิ้นแน่!

เขาจึงเริ่มต้นด้วยการเป็นดาราตัวประกอบ พยายาม

ยืนด้วยลำแข้งตัวเอง และทวงบัลลังก์ความเป็นซูเปอร์สตาร์

กลับคืนมาอีกครั้ง!

เล่ม 1 :

หรงสวี่ออกจากโรงพยาบาลพร้อมกับเปลี่ยนเป็นคนใหม่ ซึ่งก็คือหรงสวี่จากอีกโลกหนึ่งจริงๆ ที่เป็นดาราดังมีทุกอย่างพร้อมแล้วแต่มาตายเพราะเครื่องบินตก ตอนนี้มีความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม ที่พ่อแม่ตายหมด อยู่บ้านตระกูลหรงกับอาและอาสะใภ้ ก็ถูกรังเกียจ ตอนนี้ยังโดนตัดบัตรเครดิต หรงสวี่เลยคิดจะแสดงละครและได้ไปหาหลัวเจิ้นเทาเพื่อขอบท ที่ตัวเองเคยหาไว้ให้จงอี้ และก็ได้บทโม่ฉีเหยามา จากละครเรื่องศึกชิงบัลลังก์ แสดงได้ดีจนผู้กำกับกัวเพิ่มบทให้โดยเฉพาะ ที่กองถ่ายหรงสวี่เข้ากับทุกคนได้ดีทั้งนางเอกของเรื่องถังเมิ่งหลัน พระเอกต่งเจิน พระรองเยี่ยเฉียว

กลับถึงบ้านอีกครั้งได้พบกับคุณน้าฉินเพื่อนสนิทของแม่ที่มาพร้อมกับฉินเฉิง ดาราชายอันดับหนึ่ง ฉินเฉิงเสนอให้ไปอยู่ที่คอนโดของตัวเอง และให้เซ็นสัญญาของบริษัท เป็นการช่วยหรงสวี่ คุณน้าฉินจัดการเรื่องมรดกของหรงสวี่โดยช่วยเหลือให้สามารถย้ายออกได้ และสามารถดูแลมรดกของตัวเองเมื่อบรรลุนิติภาวะ  

หรงสวี่ย้ายมาอยู่คอนโดของฉินเฉิง เพราะอยากออกจากบ้านตระกูลหรงอยู่แล้ว และคิดจะเซ็นสัญญากับบริษัทหวาเซี่ย เอนเตอร์เทนเมนต์ที่หลัวเจิ้นเทาเป็นผู้จัดการอยู่ ไม่คิดจะเซ็นสัญญาเข้าสังกัดของฉินเฉิงเพราะไม่อยากติดค้างน้ำใจ และวันนั้นหรงสวี่ย้ายมาอยู่ที่คอนโดได้สามวันก็มาเจอเจ้าของบ้านที่ทำเป็นตกใจ แต่จริงๆคืออยากหาเวลามาโดยเฉพาะ ตอนนี้หรงสวี่ยังไม่รู้ว่าฉินเฉินชอบตัวเองมาก ขนาดแม่ยังไม่เคยได้กุญแจคอนโด นี่เอาให้หรงสวี่อย่างง่ายดาย แล้วตอนนี้หรงสวี่กำลังดูหน้าเวยป๋อของฉินเฉิงดูว่ายอดคนติดตามเท่าไหร่ สามร้อยล้านคนแสดงว่านี่คือคู่แข่งสำคัญของตัวเอง ฉินเฉิงก็ดันเห็นอีก พยายามจะเปิดหน้าจอโทรศัพท์เพื่อดูให้แน่ใจ

หรงสวี่บอกฉินเฉิงว่าต้องไปถ่ายละครขอทิ้งของใช้ไว้ก่อน กลับมาจะมาขนย้ายออก ฉินเฉิงคิดหาวิธีที่จะให้หรงสวี่อยู่ต่อ ตอนนี้ปัญหาสำคัญคือเรื่องเวยป๋อของตัวเอง เลยบอกผู้จัดการส่วนตัวสวีจิ้นให้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ทุกวัน เขียนแคปชั่นทุกวัน ทำเอาแฟนคลับเป็นงงว่าช่วงนี้ฉินเฉิงเป็นอะไร แต่เป็นเรื่องดี

หรงสวี่มากองถ่ายอำพราง แสดงบทจอมพลน้อยฮั่วซี เป็นละครรายสัปดาห์ พระเอกของเรื่องหานหยางเฮ่าเป็นคนที่มีปัญหามากที่สุด แต่เพราะมีคนสนับสนุนการลงทุนให้ทำให้ทีมงานทำอะไรไม่ได้ เป็นคนที่ทำตัวเลวร้าย ปรับบทของหรงสวี่ให้น้อยลง ทั้งกองถ่ายไม่มีใครชอบ จนถึงขนาดคิดจะเอาหรงสวี่ออก หรงสวี่ก็ไม่ใช่คนที่ใครจะรังแกง่ายๆ สามารถทำให้ผู้ช่วยผู้กำกับระดมทุนได้ และในเวลานี้ฉินเฉิงที่ถ่ายละครเสร็จปิดกล้องก็หาเรื่องมาเยี่ยมกอง โดยอ้างว่าแม่ฝากมา ทำให้รู้เรื่องและจะให้หวาเซี่ย เอนเตอร์เทนเมนต์ลงทุน พอรู้ว่าระดมทุนเรียบร้อย ทั้งจงอี้ที่มาเยี่ยมกองบอกว่ามาเยี่ยมหรงสวี่ก็จะแย่งบทของหรงสวี่ ทำเอาฉินเฉิงหมายหัวจัดการ พร้อมกับหานหยางเฮ่า ที่จะเปลี่ยนออกแต่หรงสวี่พูดไว้ จากนั้นการถ่ายทำก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ฉินเฉิงยังได้พักอยู่กับหรงสวี่หนึ่งคืน แถมยังหน้านิ่งถามว่ามาเวยป๋อไหม จะกดติดตาม หวงสวี่เลยได้กดติดตามด้วย เป็นที่ดีใจของแฟนคลับฉินจริงๆ

ปิดกล้องละครแฟนคลับฉินก็แอบสมัครเวบป๋อเอาไว้เพื่อโพสต์เป็นแฟนคลับหรงสวี่โดยเฉพาะใช้ชื่อขนมไหว้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวรสส้ม ทั้งหลงรักฮั่วซี รักโม่ฉีเหยา แล้วก็จะดูละครของหรงสวี่ตามเวลา ดูย้อนหลายรอบทุกวันอย่างมีความสุข

หรงสวี่ได้ไปรายการวาไรตี้เพื่อแนะนำละครศึกชิงบัลลังก์ แต่เพราะเป็นดาราหน้าใหม่ทำให้ได้สคริปที่บอกว่าต้องทำอะไร เขียนว่าต้องเหม่อลอย ถังเมิ่งหลันนอกบทโดยการให้หรงสวี่ร้องเพลงประกอบด้วยกัน ทำเอาดังไปอีก และภาพยนตร์เรื่องเมฆาพยับก็ให้มาเทสต์หน้ากล้อง หรงสวี่แสดงเป็นหลิงเซียว และเพราะหรงสวี่แสดงเรื่องนี้ฉินเฉิงที่บอกว่าตัวเองไม่ว่างก็ว่างขึ้นมาทันทีจะแสดงเรื่องนี้เหมือนกัน

ศึกชิงบัลลังก์ยิ่งทำให้หรงสวี่เป็นที่รู้จักมากขึ้นกว่า อำพรางซะอีก ตอนนี้เปิดกล้องเมฆาพยับหรงสวี่ก็คิดว่าฉินเฉิงจะมาแสดงเป็นตัวเองในเรื่องเหมือนนักแสดงดังๆคนอื่น

หลังอ่านเล่ม 1 :

หรงสวี่กำลังใช้ความสามารถของตัวเองสร้างชื่อเสียงขึ้นมา ภายในครึ่งปีจากคนที่ไม่มีใครรู้จักก็มีผู้ติดตามหลายล้านคน ส่วนฉินเฉินก็มาเป็นแฟนคลับผู้คลั่งไคล้ ทั้งส่งมีด ส่งระเบิดให้คนเขียนบทที่ทำให้หรงสวี่ตายทำเอาฮา เมื่อไหร่จะรู้นะว่ามีแฟนคลับรักจริงหน้านิ่งอยู่อีกคนที่ดูแลเอาใจใส่ เรื่องราวสนุก นายเอกเก่ง พระเอกเก่ง เมื่อไหร่จะรู้ใจกันน้า

โปรยปกหลังเล่ม 2 :

‘ครอบรองโม่ฉี ครอบครองใต้หล้า’

คำกล่าวนี้ไม่เกินจริงสักนิด จากกระแสตอบรับ

ที่ดีเกินคาด ทำให้หรงสวี่กลายเป็นที่รู้จัก และขึ้นแท่นค้นหา

ติดอันดับจากเว็บยอดฮิต!

จากบท ‘จอมพลน้อยฮั่ว’ ที่ทำให้คนดูทั้งเกลียด

ทั้งรักและสงสารในเวลาเดียวกัน สู่การทดสอบครั้งใหม่

บนเส้นทางของการเป็นซูเปอร์สตาร์ ในบทบาทของนักแสดง

นำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ‘เมฆาพยับ’

เล่ม 2 :

หรงสวี่ไม่รู้เลยว่ามีแฟนคลับผู้คลั่งไคล้ดูละครศึกชิงบัลลังก์ตรงเวลาอยู่ห้องข้างๆ แถมยังดูซ้ำไม่ได้เหมือนที่บ้านอีก แย่เกินไปแล้ว พอไปที่กองถ่ายถึงรู้ว่าฉินเฉิงมารับบทตัวประกอบเป็นเพื่อนสนิทนักแต่งเพลง กู้หมิงซิว เป็นคนเขียนเนื้อเพลง ส่วนหลิงเซียวแต่งทำนอง จนโด่งดังเป็นราชาเพลงผู้ประสบความสำเร็จ

ดาราดังต่างเริ่มมาเข้าฉากมีเซี่ยมู่เหยียน เวินเสวียนฉินเฉิงไม่ยอมให้เวินเสวียนมองหรงสวี่บอกว่าเวินเสวียนชอบคนอายุน้อย ฮามากมีหึงด้วยนะ

ผู้กำกับเหลียงให้ หรงสวี่ร้องเพลงสูญเสียปีก เพลงสุดท้ายของหลิงเซียวแต่งเนื้อร้องและทำนองที่ไม่มีใครเคยได้ยิน ก่อนอาการป่วยจะทรุดลง

วันที่ละครเมฆาพยับฉายตอนจบ ก่อนหน้านั้นหานหยางเฮ่าผู้แค้นเคืองหรงสวี่ตลอดกาลกับหลิงเจิน ที่แสดงละครเรื่องความจริงของฤดูร้อน แต่โดนกระแสเรื่องอำพรางทำเอาเรตติ้งตกฮวบโดนวิจารณ์อย่างหนัก ทั้งยังเข้ามาแคสเป็นหลิงเซียวแต่ไม่ได้รับเลือกเพราะเหอซินโหรวเลือกหรงสวี่เท่านั้น เป็นคนบอกข่าววงในนี้ ทั้งๆที่ผู้กำกับเหลียงปิดข่าวทุกอย่างเอาไว้เป็นอย่างดี ไม่มีนักข่าวที่ไหนรู้เลยว่าเรื่องนี้ใครแสดง ใครได้รับเชิญบ้าง ข่าวก็หลุดออกไป ทำให้หรงสวี่และภาพยนตร์เมฆาพยับเสียชื่อเสียง

หรงสวี่ไม่ได้ทำอะไร แต่เฟนคลับมีพลังมาก สามารถหาหลักฐานบัญชีปลอมได้ และแฟนคลับตัวยงอย่างฉินเฉิงก็ไม่ยอมซื้อบัญชีปลอมมาด่ากลับ สวีจิ้นถึงกับงงว่าทำไมต้องทำเรื่องพวกนี้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของคุณชายฉินช่างลำบากจริงๆ

หรงสวี่มองออกจากการที่แฟนคลับเปิดเผยบัญชีปลอมว่า คนที่อยู่เบื้องหลังต้องเป็นหานหยางเฮ่า เพราะเอาแต่พูดถึงละครเรื่องอำพราง หรงสวี่บอกหลัวเจิ้นเทา แต่ก็บอกว่ายังทำอะไรไม่ได้ คนที่ทำได้คือฉินเฉิงที่ไม่ยอมให้หรงสวี่โดนใส่ร้าย หรงสวี่คิดว่าตอนกินข้าวฉินเฉินจะไม่พูดตอนกิน ก็เลยกินเงียบๆแต่คุณชายฉินกลับคิดว่านี่คือการโดนรังแกไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องจัดการหาตัวคนผิดและให้ไม่มีที่ยืนให้ได้ และฉินเฉินก็ให้สวี่จิ้นเป็นคนไปจัดการ

ฉินเฉินสืบได้แล้วว่าเป็นหานหยางเฮ่า หรงสวี่ก็เลยคิดว่าคุณน้าฉินให้ฉินเฉิงคอยดูแล ตัวเองชอบเอาแม่มาอ้างจนคนเข้าใจผิดเลย น่าสงสาร

กองถ่ายเมฆาพยับก็ต้องลงมาเล่นเรื่องนี้ ปล่อยคลิปออกมาก่อนล่วงหน้า ทำให้ชาวเน็ตรู้ว่าหรงสวี่เป็นพระเอกจริง และก็เรียกกระแสคนดูได้มาก เพราะการโปรโมตที่ยอดเยี่ยม

การถ่ายฉากปิดของฉินเฉิงเริ่มขึ้น ทุกคนอินกับการแสดงของหรงสวี่ มีเพียงฉินเฉิงที่ไม่ได้เห็น ทำไมไม่ได้เห็นไม่ยุติธรรมเลย น่าสงสารฉินเฉิง

หรงสวี่ถูกพวกบัญชีปลอมชาวเน็ตรุม แต่ก็ไม่คิดจะทำอะไร มีแฟนคลับคนหนึ่งที่เดือดร้อน หาวิธีซื้อบัญชีปลอมจากสวีจิ้นแล้วแก้แค้นแทน ฮามากๆๆ

ในที่สุดการถ่ายเมฆาพยับก็เสร็จสิ้น หรงสวี่ยังต้องมาอัดเพลงที่บริษัทหวาเซี่ย สาขาเมือง S และฉินเฉิงก็ตามมาดูอีกทุกคนไม่คิดว่าหรงสวี่จะสนิทกับฉินเฉิงขนาดนี้ หรงสวี่ได้รับคำชมจากจ้าวคุนโปรดิวเซอร์เพลงชื่อดัง บอกว่าเพลงสูญเสียปีกเป็นเพลงที่ดีที่สุดในรอบสองปีที่ได้ฟังมา คนที่ไม่รู้ก็นึกว่าชมธรรมดา แต่ถ้าในวงการคือสามารถออกอัลบั้มเปิดคอนเสิร์ตได้เลยทีเดียว นักร้องตอนนี้ยังไม่มีใครได้รับคำชมจากจ้าวคุนเลย

หรงสวี่กลับเมืองBพร้อมกับฉินเฉิง แล้วสวีจิ้นก็เพิ่งรู้ว่าหรงสวี่เช่าห้องของฉินเฉิงอยู่ ทั้งสองกลับคอนโดด้วยกัน แล้วก็พูดเรื่องค่าเช่าห้อง ฉินเฉิงไม่อยากได้ แต่ปากกลับแข็งบอกไปว่าอีกสองเดือนที่ไหนได้ คุณน้าฉินที่มารออยู่หน้าห้องคอนโดได้ยินพอดี ยังไงก็ไม่ให้เก็บเงินค่าเช่าหรงหรง วันนี้ทำให้ทั้งสองต้องนอนห้องเดียวกันอีก ฉินเฉิงดีใจมากแต่ภายนอกหน้างี้นิ่งสนิท ทั้งยังเข้าเวยป๋อสำรองของตัวเองที่แอ๊บเป็นผู้หญิงแฟนคลับหรงสวี่ประกาศรักบ้าคลั่งเข้าไปอีก ขนมไหว้พระจันทน์ไส้เม็ดบัวเนื้อส้ม ใกล้จะเป็นที่จดจำของหรงหรงแล้วนะ ฮ่าๆๆๆ

ต่อจากนี้ทั้งสองจะมีงานเยอะมาก ฉินเฉิงต้องไปร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์ที่ฝรั่งเศส หรงสวี่ต้องยุ่งกับการโปรโมตภาพยนตร์เมฆาพยับ

ตอนนี้หรงสวี่เข้าครัวทำเอาหารเอง ฉินเฉิงเป็นปลื้ม ถึงจะแค่รสชาติพอกินได้แต่ต้องกวาดให้เกลี้ยง ไม่ให้เหลือ

ฉินเฉิงชวนหรงสวี่ดูหนังในห้องโฮมเธียเตอร์ หรงสวี่อยากดูหนังของเซี่ยมู่เหยียน ฉินเฉิงบอกว่ามีเรื่องเดียวเป็นเรื่องที่ตัวเองแสดงเป็นพระเอกฌ้อปาอ๋อง ศึกแผ่นดินไม่สิ้นแค้น ดูเสร็จอยากรู้ว่าหรงสวี่รู้สึกยังไงกับตัวเอง แต่หรงสวี่วิจารณ์คนอื่นได้หมด แต่ไม่มีคำวิจารณ์สำหรับฉินเฉิง แล้วก็คิดว่าฉินเฉิงน่าจะกลับมาแสดงหนังให้เยอะขึ้น เพราะขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้วทำให้ดูเหมือนเกษียณตัวเองไปเพราะๆไม่มีแรงบันดาลใจ ไม่มีคู่แข่งพอนั่นเอง

หรงสวี่ต้องไปที่บริษัท เพราะว่าจ้าวฉู่อวิ๋นผู้จัดการส่วนตัวของหลิงเซียวอยากให้หรงสวี่ทำซีดีเพลงสูญเสียปีก ข้อแม้เดียวคือรายได้ทั้งหมดจะเข้ามูลนิธิหรงอวิ๋นที่หลิงเซียวก่อตั้งขึ้น หรงสวี่ก็ตกลง

ส่วนฉินเฉิงที่อยากรู้ว่าหรงสวี่ไปบริษัททำไมก็โทรถามสวีจิ้น และยังโดนสวีจิ้นพูดกระตุ้นเรื่องที่ภรรยาตัวเองได้เลื่อนตำแหน่งหาเงินได้เยอะกว่าตัวเองต้องขยันขึ้น ฉินเฉิงได้ฟังเลยถามหาบทที่สวีจิ้นเคยเอามาให้ดู ขยันขึ้นมาเชียว

ทางด้านกองถ่ายเมฆาพยับก็ทำการโปรโมตภาพยนตร์ผ่านเวยป๋อโดยการแท็กชื่อดารามากมาย และคลิปตัดต่อที่น่าสนใจ จนแฟนคลับของเหล่าดาราอยากไปดู นี่เป็นเพียงสัปดาห์แรกเท่านั้น

หรงสวี่กลับถึงบ้านไม่เจอฉินเฉิง เลยเข้าห้องดูหนังแล้วก็พบกับหนังของเซี่ยมู่เหยียนหลายเรื่อง แต่ที่ฉินเฉิงเอามาให้ดูคือเรื่องเดียวที่มีตัวเองแสดง หรงสวี่เลยจัดการเอาทั้งหมดมารวมกัน คนหน้านิ่งหน้าตายที่ไม่ยอมบอกความจริง โดนจับได้แล้ว

หรงสวี่ไปสุสานเพราะเป็นวันครบรอบวันตายของคุณปู่ต้องเจออากับอาสะใภ้ อาสะใภ้ที่ปากมาก จนคนอื่นเห็นการกระทำ ที่หรงสวี่ไปด้วยเพราะไม่มีในความทรงจำว่าสถานที่ตั้งสุสานอยู่ที่ไหน ปีหน้าก็จะมาคนเดียวแล้ว

หรงสวี่มาถ่ายเอ็มวีเพลงสูญเสียปีก ได้ผู้กำกับโฆษณา หยางจี้เหยาเป็นผู้กำกับ หยางจี้เหยาเป็นเพื่อนสนิทกับถังเมิ่งหลันพอดี และก็ชอบหรงสวี่มากเหมือนคนอื่นๆ

การโปรโมตภาพยนตร์เมฆาพยับเริ่มต้น หรงสวี่ต้องเดินทางไปกับทีมงานเพื่อร่วมรายการทอล์กโชว์ รายการวาไรตี้

สองสัปดาห์ผ่านไป วันรุ่งขึ้นเป็นรอบปฐมทัศน์ ทีมกองเมฆาพยับปล่อยคลิปสุดท้าย ที่มีฉินเฉิงร่วมแสดงด้วยทำเอาฮือฮาทั่วเน็ต

รอบปฐมทัศน์ ทั้งหรงสวี่และฉินเฉิงคนหนึ่งลือคลิปหนีบเน็ทไท คนหนึ่งลืมนาฬิกาต้องกลับไปเอาด้วยกัน มาปรากฏตัวพร้อมกันในงานพรมแดงรอบปฐมทัศน์ จนกลายเป็นปรากฏการณ์คู่จิ้นเฉิงหรง  

พิธีกรให้หรงสวี่ร้องไห้ ฉินเฉิงก็อยากดู พอหรงสวี่ร้องไห้ ฉินเฉิงก็กอดอีก ยิ่งเป็นคู่จิ้นเข้าไปใหญ่ ภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์เข้าฉาย ได้เสียงตอบรับดีมาก แต่ก็มีพวกแอนตี้แฟน บัญชีปลอมที่อิจฉา จนในที่สุดก็มีคนสนใจเพลงปิดภาพยนตร์ และในที่สุดก็รู้ว่าชื่อเพลงสูญเสียปีก และรู้ว่าคำร้องทำนองโดยหลิงเซียว และเสียงร้องของหรงสวี่ก็ดีมาก ได้รับเสียงชื่นชมมาก

ช่วงนี้หรงสวี่จะรับงานใหม่บอกว่าขอเป็นหนังเชิงพาณิชย์ ไม่เอาหนังอาร์ตที่แสดงแล้วการันตีรางวัล เพราะอยากพิสูจน์ตัวเองว่าถ่ายหนังเรื่องอื่นก็สามารถทำรายได้ได้

ส่วนฉินเฉิงที่ชอบทำตัวเป็นแฟนคลับแอ๊บแบ๊วแฝงตัวในแฟนคลับของหรงสวี่ก็ตอบโต้กับแฟนคลับคนอื่น แล้วโพสต์สุดท้ายคือ หรงหรงตะมุตะมิ รูป จริงตัวเองจะโพสต์รูปตั๋วหนังร้อบใบเป็นรูปหัวใจดันส่งผิดเป็นรูปแอบถ่ายตอนหรงสวี่หลับในกองเมฆาพยับที่เอาไว้ดูคนเดียว แล้วตอนนั้นหรงสวี่ก็กลับมาบ้าน ตัวเองก็เลิกสนใจโทรศัพท์ที่ซื้อมาอีกเครื่องเพื่อใช้เปิดเวยป๋อบัญชีสำรอง หรงสวี่กลับมา ฉินเฉิงบอกว่ายังไม่กินข้าว หรงสวี่เลยทำบะหมี่ให้ แล้วตัวเองยังบอกอีกว่าชอบกินน้ำส้ม พอบะหมี่เสร็จก็ไม่ยอมกินกลัวหมด จนหรงสวี่กินเสร็จแล้วเอาไปชิมคำหนึ่ง แล้วบอกว่าพรุ่งนี้ทำให้กินอีก เท่านั้นแหละความเร็วในการกินเพิ่มอย่างรวดเร็ว แล้วก็ไปดูหนังด้วยกัน หรงสวี่อินกับหนังเพราะเนื้อเรื่องใกล้เคียงกับบทที่ตัวเองจะเล่น ส่วนฉินเฉิงก็เอาแต่แอบมองคนข้างตัวไม่ได้สนใจหนังเลย แล้วตอนนี้คุณชายบางคนก็กำลังคิดว่าถ้าหนังทุกเรื่องในห้องนี้เป็นเรื่องที่ตัวเองแสดงจะดีแค่ไหน ต้องขยันต้องเปลี่ยนให้ได้

พอบอกราตรีสวัสดิ์กับต่างเข้าห้องตัวเอง คราวนี้ฉินเฉิงถึงรู้ว่ามือถือของตัวเองเครื่องค้างไปแล้ว ลบโพสต์ไป แต่หลัวเจิ้นเทาก็ส่งรูปที่คนแชร์กันมาให้หรงสวี่ได้แล้ว ทำให้หรงสวี่คิดถึงคนในกองเมฆาพยับ และเริ่มสนใจแฟนคลับขนมไส้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวเนื้อส้ม อ่านโพสต์ทั้งหมด เริ่มคิดว่าเป็นใคร เป็นดาราหญิงคนไหน แต่ก็ยังหาเบาะแสไม่ได้

จ้าวคุนเริ่มโปรโมตเพลงสูญเสียปีกและก็เป็นที่สนใจของทั้งแฟนเพลงหลิงเซียว และแฟนหนัง แฟนคลับหรงสวี่ ด้วยกลยุทธ์ที่ดียอดจำหน่ายก็พุ่งทะลุล้าน

หรงสวี่ถ่ายโฆษณามันฝรั่งเล่อเค่อ ร่วมกับดาราคนอื่น หนึ่งในนั้นคือเติ้งอีเหวิน หลังถ่ายทำเสร็จยังโดนเติ้งอี้เหวินดึงไปอวยตัวเอง เติ้งอี้เหวินเป็นดาราสังกัดเดียวกับต่งเจิง แย่งชิงอันดับหนึ่งกันมาตลอด แต่เพราะเรื่องอวยตัวเอง ทำเอาแฟนคลับอย่างขนมไหว้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวทนไม่ไหว ต้องจัดการให้รู้สำนึก ไม่รู้ซะแล้วว่าเล่นกับใคร หรงสวี่เจ้าตัวไม่ได้สนใจแต่มีคนเดือดร้อนแทนสุดๆ

จ้าวฉู่อวิ๋นออกมาประกาศเรื่องรายได้ทั้งหมดมอบให้มูลนิธิหรงอวิ๋น กระแสเติ้งคนหล่อหายไป คนดังจริง และทำความดีอย่างหรงสวี่แฟนคลับต่างรัก และยิ่งมีคนติดตามมากขึ้น ตอนนี้แฟนคลับได้ทำการเปิดบริจาคเพื่อพื้นที่ห่างไกล และก็มีแฟนคลับคนหนึ่งที่รู้เรื่องหลังกลับจากถ่ายหนังหลังพูดคุยกับหรงสวี่ แล้วก็กดบริจาคอย่างรวดเร็ว พอเปิดอีกทีโทรศัพท์ค้างอีกแล้ว กลายเป็นที่รู้จักเพราะนึกว่าโดน BUG ที่ไหนได้มีคนบริจาคหนึ่งล้านหนึ่งหมื่นจริง และก็คือแฟนคลับขนมไหว้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวเนื้อส้ม ตอนนี้หรงสวี่สนใจสุดๆแล้วน้า

หลังอ่านเล่ม 2 :

การแสดงความรักของฉินเฉิงชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ มีโมเมนต์ขำๆ น่ารักๆ ฮาๆ ของขนมไหว้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวเนื้อส้มเยอะไปหมด แฟนคลับก็เก่ง เส้นเรื่องชัดเจนว่าหรงสวี่จะต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ส่วนความรักนั้นมาลุ้นกันว่าฉินเฉิงที่หน้านิ่ง บอกว่าเพราะแม่ เอาแม่มาอ้างตลอดจะยอมพูดความจริงเมื่อไหร่ เป็นเรื่องที่น่ารัก และฮามาก ตอนอยู่ด้วยกัน

ฝีมือการแสดง และความสามารถของหรงสวี่และฉินเฉิงก็กินกันไม่ลงจริงๆค่ะ อ่านต่อเล่ม 3 เลย สนุกมากๆ

โปรยปกหลังเล่ม 3 :

เสียงที่ขับร้องเพลง สูญเสียปีกยิ่งทำให้การรับบท

หลิงเซียว ของหรงสวี่สมบูรณ์แบบ การันตีด้วยยอดขาบ

มากกว่าหนึ่งล้านแผ่น!

ความท้าทายครั้งใหม่ในเส้นทางซูเปอร์สตาร์ของ

หรงสวี่ได้เริ่มต้นอีกครั้งใน ผ้าแพรจวงฮวากับบทบาท

ของรัชทายาท และการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งกับ

ฉินเฉิง ในบทบาทขององครักษ์เสื้อแพร

“รัชทายาททรงดีกับกระหม่อมมาก ตอนดื่มสุรา

เคล้าแสงจันทร์ในค่ำคืนนั้น...”

เล่ม 3 :

หรงสวี่สนใจแฟนคลับขนมไหว้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวเนื้อส้มทันที แล้วก็คิดว่าเป็นคนในวงการบันเทิงแต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าคือใคร

เพราะการบริจาคเงินหนึ่งล้านหนึ่งหมื่น ทำให้หรงสวี่อยากมอบซีดีสูญเสียปีกพร้อมลายเซ็นให้เป็นที่ระลึก พอหลัวซีผู้ช่วยคนใหม่ติดต่อขนมไหว้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวเนื้อส้มไป ฉินเฉิงก็ไม่ตอบกลับ เลยขอให้หรงสวี่ส่งข้อความหา แต่คำพูดของขนมไหว้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวเนื้อส้มช่างตรงทื่อ คุ้นมากแต่ยังนึกไม่ออก

อีกด้านหนึ่งฉินเฉิงก็โทรไปเอาชื่อที่อยู่ของภรรยาสวีจิ้นมาให้ เพราะว่าต้องการชื่อที่อยู่ผู้หญิงเท่านั้น สวีจิ้นให้ด้วยความไม่เต็มใจ โดนบีบบังคับสุดๆ

หรงสวี่เห็นชื่อที่อยู่ก็ไม่รู้จักว่าเป็นใคร ไม่มีเงื่อนงำอะไรเลย ส่วนชีวิตประจำวัน หรงสวี่อยู่กับฉินเฉินอย่างดี ทำกับข้าวกินกันเอง หรงสวี่กับฉินเฉิงช่วยกันศึกษาบทภาพยนตร์ที่จะเล่น จนถึงคืนที่ฉินเฉิงต้องไปงานประกาศรางวัลฟินิกซ์ทองคำ เกมคน เหนือคม ฉินเฉิงโดดเด่นแต่ครั้งนี้พลาดรางวัลไป

สองวันต่อมาหรงสวี่ออกจากเมืองB มุ่งตรงไปโรงถ่ายเซี่ยงซาน เพื่อเตรียมตัวถ่ายภาพยนตร์ Wild City ที่เป็นภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวน ในเรื่องมีนักแสดงนำชายสองคน แต่เพราะบทดี ยังไงหรงสวี่ก็เลือกที่จะแสดง ทั้งผู้กำกับยังส่งบทเซวียเจียเจ๋อมาให้โดยเฉพาะ เป็นบทของศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัย พระเอกถานหยางเซวียนเป็นตำรวจหัวหน้าทีมของคดีนี้ มาขอร้องให้เพื่อนสนิทสมัยเรียนช่วยไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง โดยตอนจบมีอะไรที่พลิกผันอีกด้วย เป็นบทที่น่าสนใจจริงๆ บทตัวร้ายที่มีไอคิวสูงจนพระเอกไม่รู้ ทุกคนไม่รู้นอกจากคนดู

ไป่ซีเหวินที่รับบทถานหยางเซวียนภายนอกเป็นคนขี้อายมาก แต่ตอนแสดงสามารถเข้าถึงบทบาทที่แสดงได้เป็นอย่างดี นางเอกเหรินซูจื่อเป็นนักร้องเซ็กซี่สตาร์ มาถึงกองในวันเปิดกล้องพอดี แถมยังเป็นพวกชอบแสดงออก ชอบนอนกับดาราชายในกอง คนที่เหรินซูจื่อหมายตาคือหรงสวี่ หรงสวี่หลบเลี่ยง แต่ยังไงก็โดนเหรินซูจื่อตามตื้อ

ฉินเฉิงไปถ่ายหนังที่อเมริกา พอรู้เรื่องของเหรินซูจื่อก็เป็นห่วงหรงสวี่มาก ทั้งส่งข้อความมา ทั้งวีดีโอคอลมา และบอกว่าจะรีบปิดกล้องจะได้มาเยี่ยมกอง แต่ยังไงก็ไม่ยอมบอกความจริงเรื่องที่รู้ว่าเหรินซูจื่อเป็นคนยังไง

รางวัลใหญ่ทางด้านละครโทรทัศน์ของประเทศหวาเซี่ยสามงานใหญ่ Peony Awards ,Flying Apsaras Awards ,Golden Bell Awards  ประกาศชื่อผู้เข้าชิงออกมา ทั้งสามงานหรงสวี่ได้รับการเสนอชื่อจากทั้งเรื่องอำพรางและศึกชิงบัลลังก์ ทั้งนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม นักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม

หรงสวี่ไม่ให้ความสนใจเหรินซูจื่อ เหรินซูจื่อก็ไปเข้าใกล้หม่าฉี แต่เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่สองคนที่จะตัดสินใจ

มีการเข้าฉากรวมครั้งแรกผู้กำกับหยวนที่ชอบถ่ายฉากยาว ให้ทุกคนผ่านยกเว้นเหรินซูจื่อที่ต้องถ่ายซ่อมเรื่องการร้องไห้ พอตอนเย็นก็ขอเลี้ยงข้าวคนในกอง พอกลับที่พัก หรงสวี่ก็เห็นว่าฉินเฉิงมารออยู่ที่หน้าห้อง และได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูง และเหรินซูจื่อก็มาเคาะประตูเรียกหน้าห้องบอกว่าหรงสวี่ลืมโทรศัพท์มือถือ หรงสวี่อยากไล่เหรินซูจื่อไป แต่ฉินเฉิงเปิดประตูออกไปเผชิญหน้า ทำเอาเหริซูจื่อตกใจ อยากตีสนิทฉินเฉิง ฉินเฉิงก็ไม่เปิดโอกาส

ฉินเฉิงพักอยู่ที่ห้องของหรงสวี่ และครั้งนี้ฉินเฉิงไม่บอกว่ามาเพราะแม่แล้ว บอกว่าอยากมาเอง ทำเอาหรงสวี่อายไปเลย ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนไปทันที

หรงสวี่หนีเข้าห้องน้ำ ส่วนฉินเฉิงก็เปลี่ยนเป็นขนมไหว้พระจันไส้เม็ดบัวเนื้อส้มเข้าไประบายความในใจทันที แล้วยังส่งคลิปตัดต่อที่ไม่มีดาราคนอื่นนอกจากหรงสวี่ที่สั่งให้สวีจิ้นทำให้ไปหลายโพสต์ ความคลั่งรักกำเริบอีกแล้ว

คราวนี้หรงสวี่ออกมาจากห้องน้ำ เป็นตาฉินเฉิงเขินมั้ง แล้วหรงสวี่ที่แอบกดติดตามขนมไหว้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวเนื้อส้มก็เห็นโพสต์สารภาพรัก สารพัดรูปแบบตามเคย

หรงสวี่ไปถ่ายหนังแต่เช้าและไม่คิดว่าฉินเฉิงจะตามมาเยี่ยมกอง และบอกว่ามาเลือกโลเคชั่นน้ำตกให้หนังเรื่องใหม่ของเหล่าหลิว ผู้กำกับหยวนเลยให้หรงสวี่พาฉินเฉิงไป

และที่จุดชมวิวน้ำตก ในที่สุดฉินเฉิงก็สารภาพรักกับรักแรกพบของตัวเองได้สำเร็จ ตอนกลับมาเพราะเสี่ยวซีโทรตามก็ยังมาช้า ทั้งสองเดินด้านหลังแต่ก็ยังสวีทแอบจับมือกันได้

ตอนกินข้าวฉินเฉิงก็ยังทั้งแกะกุ้ง พอแกะเยอะก็บอกว่าแกะเพลินเลยยกให้หรงสวี่ ต่อมาก็แกะปูแล้วก็เหมือนเดิมอีก

สวีจิ้นในที่สุดก็ตามมาพาตัวฉินเฉิงกลับไปได้ ไม่งั้นฉินเฉินก็ยังป้วนเปี้ยนอยู่ที่กองถ่ายของหรงสวี่อีกหลายวัน

สองวันต่อมาหรงสวี่ก็ต้องลาหยุดกลับเมืองB เพราะการประกาศรางวัลของ Peony Awards หรงสวี่ได้รางวัลทั้งจากเรื่องอำพรางและศึกชิงบัลลังก์ รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ทางทีมงานให้เยี่ยเฉียวเป็นผู้เชิญรางวัลทำเอากระแสคู้จิ้นหลันเหยากลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่มีแฟนคลับคนหนึ่งที่ไม่ยอมหาวิธี บีบบังคับให้ผู้จัดการส่วนตัวของตัวเองหาทางให้ตัวเองไปอยู่ในงาน  Flying Apsaras Awards ให้ได้ จนหรงสวี่กลับมาก็ยังคุยโทรศัพท์ไม่เสร็จ แล้วก็เอาถ้วยรางวัลของหรงสวี่ไปวางรวมกับรางวัลระดับโลกของตัวเอง แล้วหรงสวี่ก็สารภาพว่า ฉินเฉิงผมก็ชอบคุณ

หลังได้รับรางวัลมีผู้กับกับมากมายส่งบทมาให้หรงสวี่ ผู้กำกับกัวก็ส่งบทละครมาให้แต่หรงสวี่อยากแสดงภาพยนตร์มากกว่าเลยเลือกบทของผู้กำกับสวี่ ที่จะเปิดกล้องปลายเดือนหน้า หรงสวี่บอกว่าบทดีไม่รอคนหรอกนะ

มาถึงงานประกาศรางวัล Flying Apsaras Awards หรงสวี่กลับมาบ้านไม่เจอฉินเฉิงและรู้ว่าหนังเรื่องผ้าแพรจวงฮวาจะเปิดกล้องในสองวันนี้ แต่ความจริงคือฉินเฉิงเดินทางมาแต่เที่ยวบินดีเลย์ไปหกชั่วโมงตัวเองกลัวไปร่วมงานประกาศรางวัลไม่ทัน แถมยังรถติดอีก

ด้านหรงสวี่ที่อยู่ในงาน คนส่วนมากรู้สึกได้แล้วว่าพิธีกรพูดถ่วงเวลา จนกระทั่งในที่สุดก็ถึงผู้เชิญรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ชายยอดเยี่ยม ฉินเฉิงที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับวงการละครโทรทัศน์ถึงปรากฏตัว ทั้งยังพูดยืดยาวไร้สาระเพื่อจะได้ชมละครอำพราง และประกาศว่าหรงสวี่คือผู้ได้รับรางวัล เหล่าแฟนคลับคู่จิ้นเฉิงหรงกระแสมาแรงกว่าหลันเหยาแล้ว เรตติ้งพุ่งสูงตั้งแต่ฉินเฉิงปรากฏตัว

หรงสวี่ไม่อยู่ร่วมงานเลี้ยงฉลองแต่ฉินเฉินโดนบังคับให้อยู่ กว่าจะกลับหรงสวี่ก็คอยจนดึก และก็เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองจูบกัน จูบกันยาวนาน ดูดดื่ม และหรงสวี่ก็ถามว่าคราวที่แล้วก็จะจูบใช่ไหม ฉินเฉิงก็ยังหน้าตายไม่ยอมรับอีก

ตอนเช้าหรงสวี่ต้องกลับไปถ่ายหนัง จะบอกลาฉินเฉิงลังเลอยู่ฉินเฉิงก็เปิดประตูมาจูบอีก ครั้งนี้ตอนออกจากบ้านเลยต้องใส่ผ้าปิดปากคนไม่รู้ก็นึกว่าหรงสวี่เป็นหวัด พูดได้นิ่งสนิทสุดๆ

อีกสองสัปดาห์ Wild City เข้าสู่ช่วงท้าย แล้วหรงสวี่ก็ต้องเดินทางมางานประกาศรางวัล Golden Bell Awards ครั้งนี้เป็นพระเอกอาวุโสมอบรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ให้หรงสวี่และยังพูดชื่นชมให้กำลังใจอีกด้วย

วันถัดมา Wild City ก็ถ่ายทำฉากสุดท้าย หลังจากถ่ายเสร็จปิดกล้อง หรงสวี่คิดว่าจะได้กลับบ้าน ฉินเฉิงที่โทรมาหลายรอบในที่สุดก็เจอตัว ให้หรงสวี่มาเทสต์หน้ากล้องรับบทในภาพยนตร์ผ้าแพรจวงฮวา จะส่งผู้ช่วยไปรับ

พอมาถึงเหล่าหลิวผู้กำกับที่ฉินเฉิงเสนอให้หรงสวี่มารับบท ก็รีบบอกให้ไปแต่งหน้าทดสอบบท ทำเอาฉินเฉิงต้องคุยถ่วงเวลาให้หรงสวี่ได้พักก่อน ฉินเฉิงรับบทข่งเฉาผู้บัญชาการกององครักษ์เสื้อแพร ส่วนบทที่หรงสวี่จะรับคือจูม่อหลางรัชทายาทที่สวยงามล้ำเลิศ เป็นตัวละครที่สุดท้ายแล้วไม่ใช่คนดี เหมือนในประวัติศาตร์

หรงสวี่ผ่านการทดสอบ ต้องถ่ยทำให้เสร็จภายในสองสัปดาห์จะได้ไปทันเปิดกล้องของผู้กำกับสวี่ ตอนอยู่ในกอง หรงสวี่ถ่ายได้ดีแต่ไม่มีเวลาอยู่กับฉินเฉิงเลย มีแค่ตอนพักกินข้าว หรงสวี่ไม่ชอบกินหัวไช้เท้าก็เอามาให้ฉินเฉิง ฉินเฉิงก็ยอมกิน เหล่าหลิวบอกคนอื่นว่ารู้จักฉินเฉิงมานานทั้งสองคนโตมาด้วยกันดูแลกัน กลายเป็นแบบนี้ไปได้ ในกองเลยไม่คิดอะไร

ฉินเฉิงค้นหาในเน็ตถึงอายุว่าเท่าไหร่ควรมีเซ็กซ์ แล้วก็ถามเพื่อนสนิท บทตอนฉินเฉิงนี่นิ่งๆแต่คำพูดฮาสุดๆ

ต้องอดใจรอไปก่อนสองปี ทำใจไม่ได้ ไปคร่ำครวญในเวยป๋ออีกนะ ขนมไหว้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวเนื้อส้ม

อยู่ในกองฉินเฉิงมาฉากเข้ากับหรงสวี่น้อยจนมีความคิดว่าให้คนเขียนบทเพิ่มบทดีไหมเนี่ย ไม่ได้เจอกันเลย

กองถ่าย Wild City เริ่มโปรโมตภาพยนตร์แล้ว คนดู แฟนคลับก็แห่กับกรี๊ดลุคของหรงสวี่

ในที่สุดก็ถึงฉากสุดท้ายของหรงสวี่ ฉากเปิดเผยความจริง เรื่องราวทั้งหมด ว่ารัชทายาทเป็นตัวปลอม อยู่เบื้องหลังการตายขององครักษ์เสื้อแพรและเสนาบดีผู้ภักดี ฉากปิดกล้องฉากสุดท้าย จูม่อหลางทั้งโดนยิงธนู โดนฟันไหล่ โดนแทงทะลุหัวใจด้วยคนเดียวกันคือข่งเฉา ปิดกล้องฉินเฉิงเข้ามากอด ส่วนหลงสวี่ก็บอกว่าเจ็บมากทั้งโดนธนู โดนฟันไหล่ โดนแทง สองคนช่างล้อกันเล่นจริงๆ

เหล่าหลิวเห็นบทพูดฉากสุดท้ายแล้วเลยคิดว่าจะเพิ่มฉากระหว่าง จูม่อหลางและข่งเฉา ซึ่งทั้งสองคนก็แสดงได้ดี

หรงสวี่กลับเมืองB ที่เซอร์ไพรสคือฉินเฉิงบอกว่ามีประชุมด่วนต้องกลับไปด้วย บนเครื่องแอร์โฮสเตสต่างก็เป็นปลื้มที่ได้ลายเซ็น และยังเจอฉินเฉิงแต่ฉินเฉิงไม่มีคนกล้าเข้าใกล้เหมือนหรงสวี่ แล้วพวกแอร์ต่างก็เชียร์คู่จิ้นเฉิงหรงกันใหญ่

เครื่องลง เดินผ่านช่องทางวีไอพี หรงสวี่พูดเล่าเรื่องราวตลอดทาง ว่าจะทำอะไร ยังไง แล้วก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อบ้านต้วน

หรงสวี่กับฉินเฉิงไปที่บ้านตระกูลหรง อารองหรงเหิงพยายามหลอกล่อให้หรงสวี่เซ็นรวมหุ้นของตัวเองสามสิบเปอร์เซ็นต์กับของอารองยี่สิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ ความจริงทั้งหุ้น ทั้งคฤหาสน์ตระกูลหรงต้องเป็นของหรงสวี่ตอนอายุยี่สิบห้าปีอยู่แล้วตามพินัยกรรมของผู้เฒ่าหรง ที่อารองทำแบบนี้เพราะอยากยึดหุ้นในบริษัท แล้วหรงสวี่ก็รู้ดี และยังเปิดเผยกับอาสะใภ้รองที่ปากมาก อ้วน นิสัยไม่ดี ว่าที่อารองทำแบบนี้คงเพราะอยากให้ลูกชายของตัวเอง เมื่ออาทิตย์ก่อนเห็นอารองเดินกับผู้หญิงที่มีไผคนหนึ่ง เท่านั้นแหละ ก็เกิดศึกตบตีเลือดสาดระหว่างอารองอาสะใภ้รอง ฉินเฉิงพาหรงสวี่ออกไป และถามว่ารู้เรื่องได้ยังไง หรงสวี่บอกว่าจ้างนักสืบ ถ่ายรูปได้ครั้งเดียว ส่วนเรื่องลูกแค่เดาเอา

ตอนกินข้าวหรงสวี่อยากพูดแต่นึกว่าฉินเฉิงมาวัฒนธรรมกินข้าวไม่พูด ทีนี้ตัวฉินเฉิงอยากพูดก็พูดไม่ออกแล้ว เมื่อไหร่จะรู้ความจริงกันเนี่ย ว่าเข้าใจผิดไปเอง ก็คนมันหน้านิ่งเกินไปนี่นะ ฮ่าๆๆ

หรงสวี่ชวนฉินเฉิงเล่นไพ่ คนแพ้ถอดเสื้อ เพื่อจะพิสูนจ์บางอย่างพอถึงที่สุดแล้วฉินเฉิงก็อดทนได้ หรงสวี่ต้องเข้าเน็ตเพื่ออ่านข้อมูล ทุกอย่างมารวมที่อาจมีปัญหาตรงนั้น เลยมีลิสต์ว่าต้องพาฉินเฉิงไปโรงพยายาลรักษา ทั้งๆที่คนห้องข้างๆต้องอาบน้ำเย็น แถมยังค้นหาเหมือนกัน ทุกคำตอบบอกว่าเด็กเกินไป ตัวเองก็คร่ำครวญโดยใช้เวยป๋อขนมไหว้พระจัทร์ไส้เม็ดบัวเนื้อส้ม ว่าทำไงดีเค้าเพิ่งอายุสิบเก้าเอง ที่นี้ไฮโซเนื้อส้มก็มีคนมาคอมเมนต์มากมายว่าอย่ายอมผู้ชายทุเรศ ยังเด็กเกินไป ต้องรออีกหน่อยสารพัดแบบ สุดท้ายฉินเฉิงจดบัญชีแค้นไว้หมดเลย ฮามาก

หรงสวี่รู้จากหลัวซีว่าขนมไหว้พระจันทร์เนื้อส้มอายุสิบเก้าเท่าตัวเอง แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าเป็นใคร

ฉินเฉิงไปถ่ายหนังต่อ อีกสี่วันหรงสวี่ก็ออกจากเมืองB ไปมณฑลJ เพื่อเข้ากองถ่ายภาพยนตร์เรื่องเงียบ ของผู้กำกับสวี่เซิง ภาพยนตร์เรื่องเงียบ ได้รับอิทธิพลมาจากภาพยนตร์เรื่องเสียงสุดท้าย ตัวร้ายของเรื่องรับบทโดยหลูเสียงป๋อ หลัวซีไม่ชอบเลย หรงสวี่ถามว่าทำไม ก็บอกว่าเสี่ยวสวี่ไม่รู้หรือว่าหลูเสียงป๋อเข้าวงการมาก็ถูกเรียกว่าฉินเฉิงน้อย

หลังอ่านเล่ม 3 :

เล่มนี้ในที่สุดฉินเฉิงก็เปิดเผยความรู้สึกของตัวเองกับหรงสวี่ การแสดงของหรงสวี่ก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้นเรื่อยๆ แฟนคลับมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังสนใจแฟนคลับไฮโซคนหนึ่งมากถึงขนาดติดตามนั่นก็คือ ขนมไหว้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวเนื้อส้ม เมื่อไหร่จะรู้ความจริงเนี่ย คงฮาน่าดู เพราะสารภาพรักวันละสามเวลาทีเดียว   

โปรยปกหลังเล่ม 4 :

เพราะการตกลงคบกับฉินเฉิงของหรงสวี่ ทำให้

การหาบ้านใหม่เป็นเรื่องต้องตัดไป และ เงียบคือ

ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของหรงสวี่ ที่ได้สร้างปรากฏการณ์

ขึ้นอีกครั้ง ทำให้มีแฟนคลับและผู้ติดตามมากขึ้น แต่มี

แฟนคลับเพียงคนเดียวที่หรงสวี่ให้ความสนใจ เพราะ

พฤติกรรมที่แปลกประหลาด ไม่เหมือนแฟนคลับคนอื่นๆ

ของเขาที่ใช้ชื่อว่า ขนมไหว้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวเนื้อส้ม

หรือที่แฟนคลับคนอื่นเรียกกัน คือ ไฮโซเนื้อส้ม

หรงสวี่เริ่มสงสัยถึงตัวตนที่แท้จริงของไฮโซเนื้อส้ม

คนนี้ ฉินเฉิงจะสามารถปกปิดความคลั่งรักนี้ในนามของ

ไฮโซเนื้อส้ม ได้นานแค่ไหน

เล่ม 4 :

หรงสวี่ไม่ชอบวิธีเบิกทางแบบนี้ โดยเฉพาะเอาชื่อของฉินเฉิงมาใช้ แต่หน้าตาก็มาส่วนคล้ายฉินเฉิงอยู่บ้าง ทำเอาหรงสวี่ต้องอยู่ห่างเพราะไม่อยากหัวเราะที่ฉินเฉิงที่มาทำตัวประจบ และยังเตี้ยกว่าฉินเฉิงตั้งเยอะ หลูเสียงป๋อภายนอกสุภาพนอบน้อม แต่ความจริงอารมณ์รุนแรง อิจฉาริษยามาก เกลียดทุกคนที่ดูถูกตัวเอง ทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีความสามารถมากมายอะไร

วันเปิดกล้องก็จะใช้ชื่อเสียงของหรงสวี่และฉินเฉิงมาเปรียบเทียบตัวเอง ทำเอาหรงสวี่โกรธมาก หลังจากเปิดกล้อง มีพวกแฟนคลับที่รู้ว่าภาพยนตร์เรื่องเงียบมาถ่ายที่มหาวิทยาลัยเมือง Y เรื่องเงียบนี้หรงสวี่แสดงเป็นวิญญาณตู้หรานที่ไม่มีบทพูดทั้งเรื่อง ต้องแสดงทางสีหน้า อารมณ์ออกมาให้คนดูรู้ นางเอกคือจ้าวเล่อหลิงแสดงโดยเซียวจื่อถง

นักเรียนที่รู้ทางลับก็พากันบุกมากที่กองถ่าย แต่โดนยามสกัดเอาไว้จนร้องไห้ หรงสวี่มาพบพอดี หลังจากเทศนาไปเรื่องความปลอดภัยของตัวเองเป็นหลักก็แจกลายเซ็นและให้หลัวซีส่งออกไป เป็นที่ประทับใจของเหล่าสาวน้อยมาก พวกเธอพากับโพสต์ลงเวยป๋อ แล้วทางแฟนคลับของหรงสวี่เลยคิดถึงกิจกรรมซับพอร์ตได้ ร่วมมือกันบริจาคเงินเพื่อซื้อของให้ทีมงานในกองถ่านเงียบ ให้หลัวซีประสานงาน ผู้กำกับสวี่รับปาก ทั้งหมดเริ่มระดมเงิน และก็คิดถึงขนมไหว้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวเนื้อส้ม ที่ตอบช้าจริงๆเพราะมีงานถ่ายมากน่ะสิ พอส่งข้อความส่วนตัวมาทีก็บอกว่าเดี๋ยวจะบริจาคเงินให้ ที่เดียวก็ห้าแสนเลย ช่างเป็นไฮโซจริงๆ สรุปแล้วแฟนคลับของหรงสวี่จัดของได้ดีมาก ใส่ใจเหมาะกับทุกคนในกองถ่าย เพราะไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน ไฮโซเนื้อส้มเห็นว่าของยังไม่ดีพอ ยังให้มาอีกสองแสนหยวน

ในกองถ่ายผู้กำกับสวี่เร่งถ่ายทำเพราะต้องการให้ภาพยนตร์เข้าฉายเดือนพฤศจิกายน จะได้เข้าชิงรางวัลฟินิกซ์ทองคำได้ เพราะรู้มาว่าเหล่าหลิวจะเอาผ้าแพรจวงฮวาเข้าฉายเดือนธันวาคม ไม่อยากให้ชนกัน

วันที่เหล่าแฟนคลับมา สิ่งของใส่ใจ และเหมาะสม หลังจากเรียบร้อย หลูเสียงป๋อก็ยังอิจฉา ริษยาทั้งหรงสวี่และแฟนคลับ แต่ภายนอกทำนอบน้อม เรียบร้อย ช่างเป็นคนที่เก็บกดจริงๆ และมีใจอาฆาตแค้นสุดๆ

หรงสวี่ได้รับคำชม หลูเสียงป๋อมีแต่คำดุว่าจากผู้กำกับสวี่ พอถ่ายฉากด้วยกันกับหรงสวี่ก็ NG เยอะมากเพราะเจอพลังกดดันที่มองไม่เห็น หรงสวี่สังเกตเห็นตัวตนของหลูเสียงป๋อได้นานแล้ว ระหว่างถ่ายทำยังขว้างลูกบาสใส่ หรงสวี่หลบได้แต่คนที่โดนคือเซียวจื่อถง หน้าช้ำเลือกำเดาไหล แขนขาถลอก แต่พอตรวจสอบกล้องที่หลังก็หาความผิดปกติไม่ได้ และตอนนั้นนางเอกไม่ร้องไห้ คนที่ร้องไห้น้ำตาไหลพรากคือหลูเสียงป๋อ

หรงสวี่ก็ยิ่งระวังตัวมากขึ้น ฉินเฉิงอยากมาเยี่ยมกองถ่าย ก่อนหน้านี้มีงานประมูลของบริษัทหวาเซี่ย ฉินเฉิงก็ประมูล กีตาร์ของหลิงเซียว ภาพเขียนลายพู่กัน แล้วยังให้เวินเสวียนช่วยประมูลชุดนักแสดงละครเรื่องอำพรางให้ ตัวเองเอาไว้แค่ชุดของฮั่วซี ชุดอื่นๆให้สวีจิ้นหมดเลย ฮามาก ตอนนี้ก็โทรคุยกันบอกว่าจะมาเยี่ยมกอง

เพราะต้องเอาฉากที่ไม่มีเซียวจื่อถงมาถ่ายก่อน ทำให้ทีมงานต้องเซ็ตฉากห้องเรียน ฉากนี้หรงสวี่ต้องถ่ายกับหลูเสียงป๋อ หรงสวี่สังเกตว่าหลูเสียงป๋ออารมณ์ดีมาก ระหว่างถ่ายทำ ฉากก็ถล่มลงมา หลูเสียงป๋อบาดเจ็บที่ขา ตอนนี้เองที่ฉินเฉิงมาที่กองถ่าย และเข้าไปรื้อเศษซากหาหรงสวี่อย่างรวดเร็ว และก็ได้ยินเสียง รีบพาไปห้องพยาบาล แต่หรงสวี่บอกว่าไม่ได้รับบาดเจ็บ เพราะตอนเดินออกจากฉากได้ยินเสียงแก้งแตก และมองรอบตัวเห็นโพเดียมเลยใช้ความไวในการปฏิบัติตอนแผ่นดินไหวมาหลบได้ทันเวลา เรื่องนี้เพราะหรงสวี่ระวังหลูเสียงป๋อตั้งแต่ตอนโยนลูกบาสครั้งก่อนแล้ว

หรงสวี่หาเศษแก้วได้เป็นจำนวนมาก ส่วนหลูเสียงป๋อที่บาดเจ็บแต่ไม่เป็นอะไรก็โพสต์เวยป๋อทั้งยังแท็กชื่อหรงสวี่ทำเอาแฟนคลับหรงสวี่ออกมาอวยพรมากมาย ตัวเองก็ดีใจที่กระแสดัง

แต่ความเป็นจริง ทางทีมงานเห็นเศษแก้วเยอะขนาดนี้ มาดูกล้องวงจรปิด และเห็นว่าสกูรคลายตัว ก็รู้แล้วกว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ ผู้กำกับสวี่มาเล่นงานหลูเสียงป๋อตอนแรกยังไม่ยอมรับ พอบอกว่ามีกล้องวงจรปิด ผู้ช่วยก็แฉอย่างหมดเปลือกว่าใส่โฮโมนในอาหารของหลิวฮุ่ยเจินที่ตัวเองเกลียด ด่าว่าผู้กำกับสวี่ และหรงสวี่สาดเสียเทเสียทุกวัน พฤติกรรมเลวร้ายอะไรก็แฉออกมาหมด ผู้กำกับสวี่ออกโรงที่เวยป๋อบอกความจริง ก็ยังมีคนไม่เชื่อ เท่าไหร่แต่ซักพักคนดังมากมากมายก็มาช่วยกันแชร์ประณามการกระทำของหลูเสียงป๋อ ผู้กำกับสวี่ยังงงเพราะยังโทรไปได้ไม่กี่คน เหล่าหลิวเป็นคนบอกว่าบริษัท หวาเซี่ยทำเพื่อหรงสวี่ แต่ความจริงเหล่าหลิวก็รู้ว่าคนที่มีสายสัมพันธ์กับดาราดังทั้งหลายคือใคร หลังจากนี้หลูเสียงป๋อคงไม่มีที่ยืนในวงการไปอีกหนึ่งคนแล้ว เล่นกับใครไม่เล่นจริงๆ

หรงสวี่ไม่ได้เจอฉินเฉิงเลยจนกลับห้องพักไปอาบน้ำ ถึงได้ยินเสียงเคาะประตูและก็เป็นฉินเฉิง ที่สารภาพว่ากลัวมาก เสียใจมาก แล้วก็โกรธมากด้วย หรงสวี่เข้าใจความหมายของฉินเฉิง หลังจากจูบปลอบใจกัน อารมณ์พาไป ยังไงก็ไม่ถึงขั้นสุดท้ายก็จะโดนปฏิเสธ สุดท้ายหรงสวี่เลยถามปัญหาคาใจ ฉินเฉิงบอกว่าเด็กเกินไป ต้องรออีกปี หรงสวี่บอกว่าไม่เด็กแล้ว และบอกว่าฉินเฉิงมีปัญหาตรงนั้น สรุปสุดท้ายคืนนี้ก็เป็นครั้งแรกของกันและกัน หรงสวี่หมดแรง ส่วนคุณชายใหญ่ฉินต้องมานั่งซักผ้าปูที่นอนทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อนดูแลอย่างดีที่สุด

ฉินเฉิงบอกหลัวซีว่าหรงสวี่ไม่สบาย ตัวเองเลยถูกผู้กำกับสวี่ให้ไปช่วยเลือกตัวร้ายคนใหม่ แต่เลือกยังไงก็ไม่ถูกใจ คนมากมายอยากมาแต่เวลาไม่ได้ หรงสวี่ในที่สุดก็ออกจากห้อง และก็พบทีมคัดเลือกนักแสดง ผู้กำกับสวี่เลยบอกให้ฉินเฉิงเล่นบทนี้แต่ฉินเฉิงบอกว่าไม่เหมาะสม ทั้งตัวเองยังต้องไปมิลาน และไม่เหมาะเล่นบทนักเรียน ทุกคนก็คิดได้ ทุกเรื่องตั้งแต่เข้าวงการฉินเฉิงไม่เคยรับบทนักเรียนเลย ตอนนี้ยิ่งไม่เหมาะ ฉินเฉิงเสนอให้ตัดบททิ้งหรือเอานักร้องมารับบทแทน คนนั้นก็คือหลินเซวียนที่เป็นคนร้องเพลงธีมเงียบ ปัญหาก็แก้ไขได้

หลินเซวียนเข้ากองถ่าย ตอนนี้อายุยี่สิบหกแต่หน้าตาเด็ก เหมือนเด็กเกเรเป็นราชาเพลงรัก แล้วหลินเซวียนก็มาตีสนิทหรงสวี่เพราะอยากชวนหรงสวี่เข้ากลุ่มจุดอ่อนของฉิน ที่มีสมาชิกเจ็ดคนคือเวินเสวียน ,ฉู่ฉี ,เจมส์ ทรานส์ ,เซี่ยมู่เหยียน ,เจนนิเฟอร์ สตรอว์น ,ฮิวส์ เลสลี่ และหลินเซวียน แต่หลินเซวียนแก้เป็นฉินบ้าบอ จะคอยทำให้หาจุดอ่อนของฉินเฉิง ทำให้พูดชนะฉินเฉิงบ้าง หรงสวี่ฟังแล้วก็รู้สึกว่าฉินเฉิงที่เพื่อนสนิทพวกนี้พูดถึง กับฉินเฉิงที่ตัวเองรู้จักไม่เหมือนกันเลย หลังจากนั้นเลยส่งแชตส่วนตัวคุยกับฉินเฉิงว่าคุณรักแรกพบผมใช่ไหม แล้วก็มั่นใจสุดๆ ในที่สุดฉินเฉิงก็ยอมรับ ทั้งที่หรงสวี่ไม่ได้พูดถึงหลินเซวียนแต่ฉินเฉิงก็ยังส่งข้อความไปหาหลินเซวียนได้ ว่านายพูดถึงฉันไม่ดีกับหรงสวี่ หลินเซวียนปฏิเสธ ฉินเฉิงดันมีเซ็นส์สุด แสดงว่ามี ฮ่าๆๆ

การถ่ายทำเป็นไปอย่างราบรื่น หลินเซวียนมีฝีมือมากกว่าหลูเสียงป๋อมาก หรงสวี่ปิดกล้องไปก่อน หลินเซวียน กลับมาก็ได้มาเข้ากลุ่มฉินบ้าบอ เวินเสวียนมารับไปที่คลับส่วนตัว ได้เล่นไพ่นกกระจอกกัน กินข้าวกัน เวินเสวียนดึงหรงสวี่เข้ากลุ่มแชตส่วนตัวด้วยเพราะชอบหรงสวี่น่ารัก เสร็จแน่เดี๋ยวโดนฉินเฉิงเล่นงานแน่นอน

สามวันต่อมาหรงสวี่ก็ไปเมือง S เพื่อโปรโมตภาพยนตร์ Wild City กับผู้กำกับหยวนเค่อ ไป่ซีเหวิน ตอนนี้เหรินซูจื่อรู้แล้วว่าไม่ควรยุ่งกับหรงสวี่

รอบปฐมทัศน์ ภาพยนตร์ Wild City เป็นที่ฮือฮาเพราะหรงสวี่แสดงได้ดีมาก จนทำเอาคนดู อิน อึ้ง กันไปเลย กว่านักวิจารณ์จะออกมาวิจารณ์ต้องดูถึงสองรอบเพื่อหาปมในเนื้อเรื่อง สรุปว่าหรงสวี่สอบผ่าน แสดงเป็นใครก็เข้าถึงบทบาทจนคนดูไม่คิดว่าเป็นตัวหรงสวี่เอง

ภาพยนตร์เริ่มฉายแล้วกิจกรรมโปรโมตยังไม่จบ และผู้กำกับหยวนยังชวนหรงสวี่แสดงภาพยนตร์เรื่องต่อไปของตัวเองเกี่ยวกับองครักษเสื้อแพร หรงสวี่ปฏิเสธว่าในเวลาอันใกล้ยังไม่คิดรับงานที่มีบทเกี่ยวกับองครักษเสื้อแพร

ฉินเฉิงที่โดนกระแสคู่จิ้นถานเซวีย หึงอีกแล้วบอกว่าใกล้ถึงวันเกิดตัวเอง และโชว์ตั๋วหนังให้ดู แต่พอวางสาย โพสต์ของขนมไหว้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวเนื้อส้ม คนคลั่งรักก็จัดหนักโชว์ตั๋วเหมาทั้งโรง แล้วก็มีคนที่ติดตามบางส่วนบอกว่าไฮโซเนื้อส้มอยู่เมือง B ด้วย ไฮโซเนื้อส้มโปรโมตให้หรงสวี่โดยการบอกว่าถ้าแชร์โพสต์นี้และอยู่เมืองB จะได้ตั๋วฟรีหนึ่งใบ ถ้าสวีจิ้นรู้จะเป็นยังไงเนี่ย งานของคนรักทุ่มสุดตัว หนังของตัวเองไม่เคยสนใจเลย

หรงสวี่กำลังจะสมัครบัญชีย่อยเพื่อติดตามไฮโซเนื้อส้มแล้ว แต่ยุ่งซะก่อนเลยลืมไปเลย

แล้วกองภาพยนตร์ของเหล่าหลิวก็โปรโมตภาพยนตร์เรื่อง ผ้าแพรจวงฮวา เข้าฉายวันที่ 18 ธันวาคม ทำให้ผู้กำกับหยวนเข้าใจ

พอมีการโปรโมต ด้อมคู่จิ้นเฉิงหรงก็ยิ่งดีใจ ดับกระแสถานเซวียไปเลย

สิ้นสุดการโรดโชว์ ภาพยนตร์เงียบก็ยืมกระแส Wild City และผ้าแพรจวงฮวา โปรโมตภาพยนตร์เงียบ เข้าฉาย 30 พฤศจิกายน เพราะบุคลิกที่แตกต่างในแต่ละเรื่องทำให้คนดูเริ่มสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ

หรงสวี่กลับมาถึงบ้าน ฉินเฉิงยังโปรโมตหนังทูตพายุอยู่ที่ต่างประเทศ แต่บอกว่าจะกลับมาก่อนวันเกิดวันที่ 26

วันที่ 26 ฉินเฉิงบอกว่านิวยอร์กมีหมอกมากมาไม่ได้ ทำให้หรงสวี่ผิดหวังทั้งที่สั่งซื้อเค้กเอาไว้แล้ว แต่แล้วฉินเฉิงก็กลับมา บอกว่าใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของที่บ้าน ตอนที่ทั้งสองกินเค้กอย่างเร้าร้อน และตามด้วยฉินเฉิงพาหรงสวี่ไปห้องแต่งตัวเพื่อให้เห็นชุดนายพลน้อยฮั่วซี กำลังจะเล่นคอสเพลย์กัน คุณน้าฉินก็กลับมาเพื่อฉลองวันเกิดให้ฉินเฉิง

ทั้งสองนอนห้องเดียวกัน แล้วก็ยังฉลองวันเกิดในชุดคอสเพลย์นายพลน้อย โดยที่คุณน้าฉินสุดที่รักอยู่ห้องข้างๆ ทำเอายิ่งเกิดอารมณ์ ตอนเช้าคุณน้าฉินกลับไป ทั้งสองก็ยังอยู่บนเตียงต่ออีก หนึ่งวันหนึ่งคืน จนฉินเฉิงต้องไปแล้ว ในที่สุดหรงสวี่ก็ให้ของขวัญฉินเฉิงเป็นนาฬิกา แบรนด์ In-your-heart รักแท้ของฉัน ที่ตอนนี้มีเพียงสองเรือนในโลก หรงสวี่บอกว่าได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนหวาเซี่ย ฉินเฉิงไม่ให้สวีจิ้นซื้อรุ่นนี้ตาม

ทางบริษัทหวาเซี่ย แย่งชิงงานแบรนด์แอมบาสเดอร์มาให้หรงสวี่แต่สุดท้ายแล้วผู้ที่เลือกก็คือตัวแบรนด์เอง ซึ่งหรงสวี่ได้รับเลือก In-your-heart เป็นบลูชิปแบรนด์คือแบรนด์ชื่อดังหรูหราระดับสูงสุด ที่ในโลกมีเพียงแปดแบรนด์

แผนกประชาสัมพันธ์เริ่มโปรโมต แต่ยังไม่มีใครเชื่อว่าจะเป็นหรงสวี่ จนทางเว็บไซด์ของแบรนด์ประกาศอย่างเป็นทางการทำให้ปิดปากคนอิจฉาทั้งหมดได้

และเวยป๋อทางการก็ส่งรูปถ่ายโฆษณามาเผยแพร่ทำให้เพื่อที่สนิทกับหรงสวี่แชร์โพสต์และแสดงความยินดีด้วย

หรงสวี่มาโปรโมตภาพยนตร์เงียบที่เมืองS เจอผู้กำกับสวี่ก็โดนแซวให้เลี้ยงข้าวทันที ในตอนอัดรายการทอล์กโชว์วาไรตี้ ผู้กำกับสวี่ได้พูดถึงหลูเสียงป๋อ ว่าทำอะไรบ้าง ก่อนจบรายการ พิธีกรรายการได้ข่าวว่ามีเพจปาปารัซซี่เผยแพร่ภาพหลุดในกอง Wild City ว่าเป็นภาพหรงสวี่กับเหรินซูจื่อจูบกันแล้วพากันเข้าห้อง ทั้งที่ความจริงนั่นคือหม่าฉี

หรงสวี่ปฏิเสธเด็ดขาด ว่าไม่ใช่ตัวเอง ตัวเองไม่มีแฟนสาว (เพราะมีแต่แฟนหนุ่ม) และบอกว่าในกองเหรินซูจื่อสนิทกับหม่าฉี

สวีจิ้นที่อยู่กับฉินเฉิงเห็นข่าวนี้ ฉินเฉิงให้จัดการแก้ข่าวทันที และบอกว่าไม่ใช่หรงสวี่เพราะวันนั้นหรงสวี่อยู่กับตัวเอง

สวีจิ้นไปเล่นงานเหรินซูจื่อที่คิดเกาะกระแส เหรินซูจื่อที่เพิ่งรู้ข่าวโดนแฉมากมายว่าในกองถ่ายเคยนอนกับใครบ้าง จนในที่สุดสวีจิ้นบอกว่าเล่นงานผิดคน ที่เป็นคนทำจริงคือหลิวเหวินชิง สรุปเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับหรงสวี่โดยสิ้นเชิง หลินเซวียนมาถึงที่หลังยังไม่ได้อัพเดทข่าว และก็เผลอบอกเรื่องที่ผู้กำกับสวี่อยากให้หรงสวี่ร่วมงานทัวร์คอนเสริต์กับตัวเองเพื่อโปรโมตภาพยนตร์เงียบ หรงสวี่คิดว่าเป็นโอกาสดี ผู้กำกับสวี่บอกว่ายังไม่ได้ใช้วิธีทรมานตัวเองเลย แต่สุดท้ายหรงสวี่ก็ตกลงเพราะมันดีจริงๆ

หรงสวี่ต้องไปโปรโมตภาพยนตร์เงียบถึงประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา แล้วก็มาทดสอบหน้ากล้องบท 3200 ไมล์ ของผู้กำกับครีแมน เฮาลต์ ที่เหล่าหลิวแนะนำให้เพราะเคยทำงานเป็นผู้ช่วยของเหล่าหลิวมาก่อน

การทดสอบหน้ากล้องทำกันในฉากที่สร้างที่ดูเหมือนสลัมเลย

หลังอ่านเล่ม 4 :

หรงสวี่ก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น ฉินเฉิงจากที่มีเวลาพักผ่อนมากปีนี้ก็เริ่มขยันผิดปกติ คู่รักทั้งสองกว่าจะได้อยู่ด้วยกันนี่ คิดถึงกันสุดๆ แล้วคนคลั่งรัก ไฮโซเนื้อส้มก็ยังเสมอต้นเสมอปลาย ประกาศสารภาพรักวันละสามเวลา หรงสวี่ใกล้จะรู้ความจริงแล้วแน่ๆเลย

เรื่องงานก็ก้าวหน้าขึ้นมาก ตอนนี้จะมีงานระดับฮอลลีวูดเข้ามาแล้วสินะ

โปรยปกเล่ม 5 :

การได้รับบทนำในเรื่อง 3200 ไมล์ของผู้กำกับ

ระดับโลกอย่าง ครีแมน เฮาลต์ทำให้หรงสวี่

ได้เป็นที่รู้จักในฮอลลีวูดมากขึ้น ความแปลกใหม่และ

ความท้าทายในบทบาทของ รอยได้ผลักดันให้

หรงสวี่ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองในฐานะนักแสดง

แต่บททดสอบบทใหม่ของการเป็นซูเปอร์สตาร์

ของหรงสวี่ ได้เริ่มต้นอีกครั้ง บนเส้นทางที่ต้องใช้

เสียงสวรรค์เป็นเดิมพัน หรงสวี่จะสามารถรับมือกับ

การเป็น นักร้องเดี่ยวอย่างเต็มตัวได้หรือไม่

เล่ม 5 :

ครีแมนให้หรงสวี่ทดสอบบททันทีที่เจอหน้า ทั้งยังสั่งให้ทีมงานที่ไปรับหรงสวี่แสดงเป็นโอลลิกก้า สั่งให้รอยไปซื้อเบียร์ หรงสวี่แนะนำธอร์ทีมงานคนนั้น แล้วก็แสดงทันที พอแสดงจบครีแมนบอกธอร์ว่าจะให้แสดงด้วยหนึ่งบทและแลกเปลี่ยนวิธีติดต่อกับหรงสวี่

ตอนกลางคืนที่โรงแรม หรงสวี่คุยกับฉินเฉิงทางแชต บอกว่าเค้าแทะโลมผม ฉินเฉิงโกรธมาบอกว่าจะบินมาอัดทันที สรุปแล้วฉินเฉิงไม่มาแต่ส่งข้อความหาเฮาลต์คนพ่อให้จัดการให้ บอกเค้าจะไม่ทำอะไรนาย พอวางสาย ฉินเฉิงระบายความโกรธ ด้วยการเข้าเวยป๋อไฮโซเนื้อส้ม บอกว่าโกรธ โกรธมาก แต่ไม่มีคนมาแชร์ มากดไลต์ทำให้งง หลังจากเข้าหน้าหลักของหรงสวี่ถึงเห็นว่ามีกิจกรรมแชร์รูปถ่ายมือ พร้อมติดแท็ก ฉินเฉิงเลยไปถ่ายรูปริมหน้าต่าง ภาพเหมือนเบลอแต่ยังมีคนสังเกตว่าเป็นผู้ชาย สุดท้ายบอกว่าคล้ายเทพบุตรฉิน คราวนี้ไฮโซเนื้อส้มเลยลบโพสต์ลงรูปใหม่เป็นรูปโมเสกมือ คนก็มาคอมเมนต์และแชร์ไปมากมาย ตอนเช้าหลัวซีก็มาเห็นและให้หรงสวี่ดู หรงสวี่รู้สึกคุ้นมากๆ

ต่อจากนี้หรงสวี่จะสนใจมือของฉินเฉิงเป็นพิเศษ สนใจจนเจ้าตัวแปลกใจเลยล่ะ ท่านเทพฉินที่ลงเครื่องมาก่อนเห็นเหตุการณ์ในเวยป๋อว่ามีคนเก็บรูปของตัวเองจากโพสต์ไฮโซเนื้อส้มได้ ก็รีบติดต่อให้ลบทันทีไม่ให้คนทำโฟโต้ช็อป ตัวเองคิดว่ารอดแล้ว แต่หรงสวี่ก็ยังสงสัยไฮโซเนื้อส้มอยู่นะ แต่เพราะงานมาก ก็จะลืมเป็นระยะ

ทั้งสองกลับมาเจอกัน ก็ต้องมีเรื่องอย่างว่าแล้วยังต้องระวังคุณน้าฉินอีกด้วย ทั้งสองอยู่ด้วยกันหรงสวี่ก็มีความคิดเอาแปรงสีฟันมาไว้ที่ห้องฉินเฉิงจะได้ไม่ต้องเดินไปมา

ตอนทั้งสองจูบลากัน ฉินเฉิงยังบอกว่างานคอนเสิร์ตต้องประสบความสำเร็จแน่นอน

ตอนที่หลินเซวียนและหรงสวี่มาซ้อมที่สเตเดียวเมืองS หลินเซวียนที่มั่นใจในตัวเองก็เริ่มโอดครวญในกลุ่มฉินบ้าบอว่าหรงสวี่ไม่ผิดพลาดเลย แต่ทุกคนไม่สนใจหลินเซวียนกันเลย

หรงสวี่คุยกับเจนนิเฟอร์แล้วก็ได้รู้ว่าจะได้ร่วมงานกันในเรื่อง 3200 ไมล์ของครีแมน หลังจากนั้นก็คุยกับฉินเฉิง ฉินเฉิงย้ำกับเสี่ยวสวี่ตลอดว่าจำเอาไว้ว่าฉันรักนาย แล้วตัวเองก็แอบออกเดินทางเที่ยวบินกลางดึกไปเซอร์ไพรส์คนรักตามลำพัง ที่งานคอนเสิร์ตมีมาสคอตหมีแพนด้าตัวหนึ่งมาร่วมงาน ทั้งงานไม่สนใจฟังเพลงของหลินเซวียนเลย แต่พอหรงสวี่ออกมาก็ลุกขึ้นเปิดป้ายไฟฉันรักนายอยู่ที่ทางเดิน จนกระทั่งหรงสวี่ร้องเพลงสูญเสียปีกเสร็จ และมองเห็นจากนั้นก็คิดถึงคำสารภาพที่เน้นย้ำนั้นได้ มีช่วงที่ให้แฟนเพลงถามคำถามทั้งสองคนถามคำถามหรงสวี่ หลินเซวียนเลยเลือกอีกคนก็คือแฟนคลับใส่ชุดแพนด้า แต่แพนด้าก็แอ๊บแบ๊วดัดเสียง พร้อมทั้งถามหรงหรง ชอบฉันไหม ชอบแพนด้า ตะมุตะมิ หรงสวี่ก็ต้องตอบการผมรักคุณเพราะรู้ว่าคือฉินเฉิงแล้วสิ จากนั้นก็เข้าสู่เพลงสุดท้ายเพลงเงียบ เพลงเงียบที่ร้องคู่กัน หลินเซวียนร้องคือน้ำตาสำหรับรักแรกในวัยรุ่น ส่วนหรงสวี่ร้องคือน้ำตาสำหรับความรักและจิตวิญญาณที่สิ้นหวัง

การโปรโมตจบลง หรงสวี่คุยกับฉินเฉิง หลินเซวียนไม่รู้ก็อยากรู้ จนได้มาเจอกับตัวต้นเหตุ

งานปฐมทัศน์เริ่มขึ้น ผู้กำกับสวี่ไม่อยากให้ชื่อหนังของตัวเองไปโยงกับข่าวฉาวของหลูเสียงป๋อและหลิวฮุ่ยเจิน ผู้กำกับสวี่บอกว่ายอดรายได้ของเงียบต้องได้สามพันล้าน ภาพยนตร์อาร์ตส่วนใหญ่ไม่ได้ยอดขายตั๋วมากขนาดนั้น ทำเอาเรียกเสียงหัวเราะได้ หรงสวี่อยู่ที่โรงละครเมืองS แต่ฉินเฉิงก็อยากดูรอบแรก และใกล้โรงละคร หรงสวี่เป็นห่วง ฉินเฉิงบอกว่าระดับนี้แล้วไม่โดนจับได้แน่นอน แล้วทั้งเรื่องฉินเฉิงก็ไม่โดนจับได้ จนภาพยนตร์จบก็ออกมาก่อน ขณะที่คนในโรงยังน้ำตาไหลพรากกันอยู่เลย

ฉินเฉิงไปหาหรงสวี่ หรงสวี่จะแยกตัวก็โดนทุกคนดึงตัวเอาไว้สุดท้ายคือต้องรับฉินเฉิงขึ้นรถมาไปกินมื้อดึกด้วยกัน วันนี้หลินเซวียนเมามาก จนหรงสวี่ต้องช่วยพามาถึงห้องระหว่างทางก็คุยกันเรื่องสุดท้ายคือแพนด้า แล้วก็คำว่าตะมุตะมิที่ทำให้หรงสวี่คิดได้

ตอนนี้หรงสวี่เริ่มมาดูไฮโซเนื้อส้มแล้ว และทุกเวลาก็ตรงกับเวลาที่ฉินเฉิงอยู่อีกประเทศ

สุดท้ายเมื่อมั่นใจ หรงสวี่ก็สร้างแอ๊คหลุม กินส้มลูกหนึ่งอย่างไรให้ดีเลิศ เริ่มต้นสร้างบันทึก เอาไว้แขวะเนื้อส้มโดยเฉพาะ ฮ่าๆๆๆ

เพราะกระแสของภาพยนตร์เงียบ ภาพยนตร์ผ้าแพรจวงฮวาก็อาศัยกระแส รอบปฐมทัศน์ 18 ธันวาคม ผู้กำกับสวี่โกรธจนโทรหาเหล่าหลิว แล้วก็คิดได้ว่าวันฉายรอบปฐมทัศน์คือวันอะไร หรงสวี่ก็เพิ่งเข้าใจว่าคือวันเกิดของตัวเอง

ฉินเฉิงที่ไม่เข้าใจศัพท์ของชาวเน็ตกำลังสาดความหวานเฉิงหรง พอมีชาวเน็ตบอกว่าเศษกระจก พอตัวเองรู้ก็หน้าเครียดยิ่งกว่าถูกคนติดหนี้ คิดหาทางแก้ ส่วนหรงสวี่ที่อาบน้ำออกมาได้แต่งง พอเห็นในโทรศัพท์ถึงรู้ว่าคุณฉินเครียดเรื่องนี้มาก แล้วหลินเซวียนยังมาเคาะประตูห้องชวนเล่มไพ่อีก บอกว่าเดี๋ยวไปตามฉินเฉิงที่ไหนได้ฉินเฉิงอยู่ในห้องแล้ว ตอนจบทีมของหรงสวี่กับหลินเซวียนชนะฉินเฉิง เซียวจื่อถง หลินเซวียนอยากถ่ายรูปตอนแรกฉินเฉิงไม่อยากถ่าย แต่หรงสวี่รู้ว่าฉินเฉิงคิดอะไร ก็ดึงมาถ่ายรูปด้วยกัน โปรโมตภาพยนตร์เงียบ

ถึงวันกลับฉินเฉิงนั่งหน้าเครียดความจริงกำลังโชว์หวานเฉิงหรงในด้อม หน้าตาไม่ให้เลย หรงสวี่ที่ลองทักไปแล้วไม่ได้ตอบกลับก็สงสัย แต่คนที่เสียใจต้องคือเนื้อส้มแน่เพราะหยิ่งเกินไปเลยไม่รู้ว่านี่คือเม็ดบัวของตัวเอง

หลังจากภาพยนตร์เงียบ คืองานปฐมทัศน์ผ้าแพรจวงฮวา เพราะมีฉินเฉิง ภายนอกหน้านิ่งแต่ยังสาดน้ำตาลให้คู่จิ้นเฉิงหรงอย่างไม่ลดละ พอภาพยนตร์จบคนที่ถูกด่าคือข่งเฉาที่ฆ่ารัชทายาทจูม่อหลาง แต่พอเหล่าหลิวให้เพื่อนในวงการช่วยวิจารณ์ภาพยนตร์ก็ทำให้คนดูเข้าใจปมต่างๆที่ซ่อนอยู่มากขึ้น

หลัวเจิ้นเทาติดต่อหรงสวี่มาก่อนที่การประกาศรายชื่อคนได้รับรางวัลฟีนิกซ์ทองคำ แต่ไม่ใช้เพราะเรื่องนี้ เป็นเพราะ หยางฉางเจิง นักแต่งเพลงระดับท็อป เป็นอาจารย์ของหลิงเซียวอยากแต่งเพลงร่วมงานกับหรงสวี่

พอพบกันหยางฉางเจิงกับหรงสวี่ก็ตัดสินใจร่วมงานกัน หยางฉางเจิงจะแต่งเพลงให้หรงสวี่ หลังจากนั้นหรงสวี่ก็ไปโรดโชว์เรื่องผ้าแพรจวงฮวา พอมาถึงอังกฤษ เหล่าหลิวก็ขอให้หรงสวี่กับฉินเฉิงกินเต้าหู้ ฉินเฉิงก็ต้องยอมอยู่แล้วสิ ชอบมาก

หรงสวี่แยกตัวไปวอชิงตัน เพื่อถ่าย 3200 ไมล์ ได้เจอเจนนิเฟอร์ งานแถลงข่าวเปิดกล้องผ่านไป ครีแมนถนัดฉากแอคชั่น หรงสวี่เจ็บตัวที่สุดเพราะออกคิวบู๊มาที่สุด แต่ไม่นานพัฒนาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ

คนที่ปวดใจที่สุดคือฉินเฉิง ถึงกับมาเยี่ยมกองถ่ายแล้วยังหลอกครีแมนว่าจะร่วมลงทุนอีกด้วย พอฉินเฉิงกลับไปถึงรู้ว่าตัวเองถูกหลอก

หรงสวี่ได้รับเสนอชื่อชิงฟินิกซ์ทองคำจากเมฆาพยับ และก็เงียบ แต่ครีแมนมาแสดงความยินดีเรื่องรายได้ของผ้าแพรจวงฮวา ทำให้ตอนแรกหรงสวี่เข้าใจผิดนิดหน่อย แล้วนี่ก็คือตอนเหตุการณ์ที่ฉินเฉิงมาเจนนิเฟอร์กำลังพูดถึงฉินบ้าบอ หรงสวี่ห้ามไม่ทัน ตอนจะกลับเจอนนิเฟอร์ที่ภาษาจีนไม่ดีก็ฟังคำว่าฉินลมลมไม่เข้าใจ ฉินเฉิงก็มาถามหรงสวี่ทีละคำ จนมาหยุดที่คำว่าฉินบ้าบอ

หรงสวี่ไม่หลงกลฉินเฉิงที่บอกว่ามาทายา พอเผลอหน่อยเดียว คุณฉินก็กลายร่างเป็นไฮโซเนื้อส้มพร่ำบ่นในเวยป๋อว่าที่รักน้อยใจ ก้มหน้ามอง ที่รักน้อยใจ เงยหน้ามอง หล่อเหลาสง่างาม หรงสวี่คิดว่าน่ารักดี

หรงสวี่ปิดกล้องก่อนเจนนิเฟอร์ ครีแมนเลี้ยงส่งแต่เพราะความขี้งกก็เลี้ยงของถูก หลินเซวียนมาหาหรงสวี่แต่พอรู้ว่าอยู่กับทีมงานก็กลับก่อน

แล้วก็กลับหวาเซี่ยด้วยกัน กับหรงสวี่ หยางฉางเจิงที่บอกว่าจะเขียนเพลงให้หรงสวี่เจ็ดเพลงตอนนี้พอได้ดูผ้าแพรจวงฮวาก็มีแรงบันดาลใจเขียนเพลงอีกสองเพลงให้หรงสวี่เป็นเก้าเพลง สามารถใส่เป็นหนึ่งอัลบั้มได้แล้ว

หรงสวี่ยุ่งกับการอัดอัลบั้ม Rong’s Words ส่วนคุณฉินอยู่บ้านอย่างว่างจัด

คุณน้าฉินจะเอาขนมที่คุณยายทำมาให้ ตอนแรกว่าจะฝากผู้ช่วยสุดท้ายตัวเองเข้ามาเอง แล้วก็ได้เห็นความแปลกประหลาด เซ็นเลยทำงาน อยู่รอทั้งสองคน ตอนที่ฉินเฉิงออกไปรับหรงสวี่ที่บริษัท แล้วก็จับสังเกต ตอนจะกลับก็ให้ฉินเฉิงไปส่ง แล้วก็ถามฉินเฉิงก็ยอมรับตามตรง ทำเอาคุณน้าฉินคิดว่าหรงสวี่โดนล่อลวง ฟาดฉินเฉิงทันที ฮ่าๆๆ

หรงสวี่มาอัดเพลงสุดท้าย ที่เป็นเพลงธีมของอัลบั้มแต่ยังไม่เข้าถึงความหมาย เหล่าหยางบอกกับหลัวเจิ้นเทาว่าตัวเองฟังเพลงเงียบแล้วอยากร่วมงานกับหรงสวี่ ในที่สุดเพลง ผิดทางก็อัดเสียงสำเร็จ

พิธีประกาศรางวัลฟินิกซ์ทองคำเริ่มต้น ทั้งเวินเสวียนและหรงสวี่ไม่ได้รับรางวัล แต่หรงสวี่ที่หวังก็เตรียมใจไว้แล้วตั้งแต่ผู้กำกับสวี่วิเคราะห์การให้รางวัลในครั้งนี้ และยังได้รับกำลังใจจากทีมภาพยนตร์เงียบที่เข้าร่วมงาน ทั้งผู้กำกับสวี่ที่ได้รับรางวัล เซียวจื่อถง หลินเซวียน ทำให้แฟนเน็ตเห็นถึงความมิตรภาพที่มีให้กัน

หลังเรื่องนี้ก็มีพวกแอนตี้แฟนออกมาใส่ร้ายหรงสวี่มามาได้แค่นี้ ตอนนั้นหรงสวี่กำลังสังสรรค์กับกลุ่มฉินบ้าบอ พอทุกคนเห็นก็ใช้ภาพแทนคำพูด ว่าพวกเขาสนับสนุกหรงสวี่ ต่อมาหยางฉางเจิงยังโปรโมต Rong’s Words ทำเอาฉินเฉิงที่กำลังเลือกคำพูด เลือกภาพช้ากว่าเหล่าหยางหนึ่งก้าวทีเดียว

หรงสวี่ถ่ายทำ MV และก็ให้สัมภาษณ์นิตยสาร และบินไปวอชิงตันเพื่อร่วมตัวกับครีแมนอีกครั้ง ระหว่างนั้นนิตยสารก็ออก คำพูดของหรง

หลังอ่านเล่ม 5 :

เล่มนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนนอกจากการจับได้แล้วว่าไฮโซเนื้อส้มเป็นใคร แล้วพอสังเกตดีๆ หรงสวี่ก็คิดว่าน่ารักมาก มองหน้าคือหน้านิ่ง ก้มมองโทรศัพท์คือตะมุตะมิที่สุด ส่วนไฮโซเนื้อส้มจะทำยังไงต้องดูต่อไป

ด้านงานถึงแม่ได้เสนอชื่อชิงรางวัล แต่ก็ยังคงพลาดโอกาส เส้นทางอีกยาวไกล ยังไม่ต้องรีบร้อนเสียใจขนาดนั้น มาดูผลงานถัดไปของหรงสวี่กันเลยค่ะ

โปรยปกหลังเล่ม 6 :

...ความรักที่ผมมีต่อคุณเขียนอยู่ในส่วนลึกที่สุด

ของไมโครชิป มันคือกฎข้อศูนย์ของผม...

การมาร่วมงานกันอีกครั้งของคู่รักคู่ลับ

ของวงการอย่าง ฉินเฉิงและหรงสวี่ ในภาพยนตร์เรื่อง

‘The Zeroth Law’ ของผู้กำกับมากฝีมือและนักสร้าง

มือทองของฮอลลีวูด ‘แรนด์ เฮาลต์’ ใช่แล้ว เขาคือ

พ่อของ ‘ครีแมน เฮาลต์’ ไงล่ะ

เส้นทางที่มุ่งมั่นสู่บัลลังก์ซูเปอร์สตาร์ของหรงสวี่

จะเป็นอย่างไร เมื่อสิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่เรื่องการแสดง

แต่เป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง ‘ความรัก’ และ

ความฝัน’

เล่ม 6 :

นิตยสาร มิวส์ ที่หรงสวี่ขึ้นหน้าปกขายดีทั้งออนไลน์และออฟไลน์ จากนั้นช่วงเวลาที่อัลบั้ม Rong’s Words จะวาง พวกแฟนเพลงก็อยากซื้อมากขึ้น เพราะรอมานานจากซิงเกิ้ลแรก สูญเสียปีก ยอดขายออนไลน์ 300,000 แผ่น หมดภายในหนึ่งนาที หลังจากเช็คแล้วก็เป็นแบบนั้นจริง เพราะมีพวกบิ๊กแฟนอย่างไฮโซเนื้อส้มโพสต์ว่าซื้อ 10,000 แผ่น ภายในเวลา 3 วินาที ความสามารถจะสุดยอดไปไหน แต่เรื่องนี้หรงสวี่เห็นแล้วคิดว่าไฮโซเนื้อส้มออกจะใช้เงินเปลืองไปหน่อย หลังจากนั้นเลยถามฉินเฉิงว่ารายได้ถ่ายหนังเรื่องที่กำลังถ่ายอยู่เท่าไหร่ ฉินเฉิงบอกมา สามสิบกว่าล้านยังมีร่วมลงทุนอีก พอหรงสวี่คิดดูก็เหมือนคนมีเงินเดือนหมื่น อยากใช้เงินสามสี่ร้อย ไม่มีผลกระทบอะไร เลยบอกแต่ว่ามาร่วมกันก่อตั้งมูลนิธิกัน

มูลนิธิหรงเหยียน (Rong’s Words คำพูดของหรง) ถูกก่อตั้งขึ้น โดยเงินรายได้ของฉินเฉิงกับหรงสวี่จะถูกหักเข้ามูลนิธิทันที เรียกเสียงฮือฮาที่เป็นดาราเพื่อนสนิทในวงการกันเข้าไปอีก และยังมีเงินจากเงินปันผลตระกลูหรงทุกปีหรงสวี่ก็เอามาบริจาคเข้ามูลนิธิทั้งหมด จนตอนหลังมีการสร้างโรงเรียน โรงพยาบาลส่งต่อความหวังให้เด็กๆ

ทีม 3200 ไมล์ เริ่มโรดโชว์ แล้วหรงสวี่กับฉินเฉิงก็มาเจอกันที่เยอรมัน เรื่องราวการโรดโชว์การโปรโมตเป็นไปตามคาดของครีแมน แต่เรื่องที่ชวนให้คุณฉินอึ้งคือถูกคนรักจับได้ว่าตัวเองใช้เวยป๋อไฮโซเนื้อส้มซื้อของมากมาย สุดท้ายหรงสวี่ก็บอกว่าถ้าชอบก็ไม่เป็นไร แต่คุณฉินถามยังไงก็ไม่สามารถถามแอ๊คหลุมของเม็ดบัวได้เลย ฮ่าๆ คนเค้าเคยทักแล้วไม่ตอบเอง หาเองแล้วกัน

งานเลี้ยงฉลองทางหนึ่งฉินเฉิงคุยงานก็ผู้กำกับนักลงทุนมากมาย อีกมือยังสามารถซื้ออัลบั้มได้อีก 500 แผ่น ทำเอาหรงสวี่โกรธบอกว่าคุยอยู่ชัดๆเอาเวลาที่ไหนไปซื้อ

แรนด์ เฮาลต์ อยากร่วมงานกับฉินเฉิง และฉินเฉิงก็เสนอหรงสวี่เพราะถ้าคนอื่นตัวเองก็ไม่แสดง มันคือหนังชายรักชาย แต่เป็นมนุษย์รักกับหุ่นยนต์ ช่วงครึ่งปีหลัง แต่ไปๆมาๆ แผนงานกลับต้นเลื่อนออกไป เพราะเตรียมความพร้อมด้านเทคนิคล้ำสมัยยังไม่ทัน

งานประกาศรางวัลหมีทองคำ เวินเสวียนได้รับรางวัล หรงสวี่ก็เตรียมใจแล้วว่าตัวเองจะไม่ได้ ฉินเฉิงที่เป็นคนมอบรางวัลก็ไม่อยากประกาศ สุดท้ายเปิดซองออกมาคือ หรงสวี่ เรื่องที่แสดงก็บเซี่ยมู่เหยียน หลังงานประกาศ ทั้งสองยังเที่ยวแถบยุโรปด้วยกันแบบไม่มีหลบ คนส่วนใหญ่ก็คิดว่าเพื่อนสนิทเที่ยวด้วยกัน อะไรแบบนี้ก็สาดน้ำตาลในด้อมต่อไป

ทางด้านตระกูลหรง หรงสวี่สามารถหาผู้บริหารของตระกูลฉินมาทำงานให้ได้ และในที่สุดก็สามารถเปลี่ยนตำแหน่งประธานได้สำเร็จ หรงเหิงยิ่งแค้น เพราะตัวเองมีลูกชายตอนแก่จริงๆอยากเอาทุกอย่างให้ลูกชาย ทั้งอยากกำจัดอาสะใภ้รอง

ภาพยนตร์ของ แรนด์ เฮาลต์ เปิดกล้อง The Zeroth Law คุณฉินที่หน้านิ่งชอบที่สุดตอนNC ให้ถ่ายฉากจูบใหม่ ฉากบนเตียงก็ชอบแต่โดนหรงสวี่ปรามเลยแสดงมากไม่ได้ สงสารคุณฉิน จริงๆ เรื่องนี้มนุษย์กลายเป็นคนที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึก แต่หุ่นยนต์กลับแสดงความรู้สึกบนสีหน้าออกมาได้ดีกว่า ระหว่างถ่ายทำคุณอาฉินยังตั้งใจมายี่ยมหรงสวี่ พอฉินเฉิงรู้เรื่องก็รีบใส่ไฟว่าอย่างไว้ใจจิ้งจอกเฒ่า แต่จริงๆแล้วคุณน้าฉินก็อยู่ด้วย แล้วหรงสวี่ก็รู้ว่าเวลาปกติฉินเฉิงนิสัยเหมือนคุณอาฉิน เวลาเป็นไฮโซเนื้อส้มคือนิสัยคุณน้าฉินชัดๆ

หลังจากอัลบั้มที่แล้วที่โดดเด่นยอดขายถล่มทลาย ครั้งนี้เหล่าหยางก็แต่งเพลงให้หรงสวี่ได้อีกสามเพลง สองเพลงเป็นเพลงเดี่ยว อีกเพลงเป็นเพลงคู่ ได้บอกหลินเซวียนเอาไว้แล้ว หรงสวี่ก็ได้มาอัดแผ่น EP นี้ด้วยตัวเอง

The Zeroth Law ปิดกล้อง คนตั้งตารอ หรงสวี่มีงานมากมาย ตอนนี้ยังมีงานคอนเสิร์ตอีก แล้วก็มีคลิปหลุดที่สืบต่อมาว่าเป็นคนในกองแอบถ่าย หรงสวี่จูบกับฉินเฉิง แต่ตอนนี้ต้นเรื่องกำลังเดินทางมาถ่ายฉากซ้อม เวลาสิบสองชั่วโมง ทางกองร่วมมือกับบริษัทหวาเซี่ย จนกลบข่าวได้ พอทั้งสองคนมาก็บอกว่ายังไม่เปิดเผย

รอบปฐมทัศน์คนดูประทับใจชีที่หรงสวี่แสดงมาก เป็นหุ่นยนต์ที่ใสซื่อ ทุกเรื่องที่หรงสวี่แสดงเป็นต้องเรียกน้ำตาจากคนดูได้เป็นกองจริงๆ

และแล้วการประกาศรางวัลออสการ์ก็มาถึง รางวัลนักแสดงนำชายคือหรงสวี่จากเรื่อง The Zeroth Law และยังมีอีกคนที่ได้คือฉินเฉิง เป็นครั้งแรกที่ได้รางวัลคู่ ต่อมาก็รางวัลหมีทองคำ รางวัลฟินิกซ์ทองคำ ฉินเฉิงบอกว่าถ้าได้สามรางวัลขอให้หรงสวี่ประกาศความสัมพันธ์กัน แต่หรงสวี่บอกว่าไม่ได้เตรียมตัว

หลังจากทัวร์คอนเสิร์ตถึงเวทีสุดท้ายที่หวาเซี่ย หรงสวี่เขียนจดหมายถึงแฟนเพลงทุกที่นั่งให้ช่วยเหลือด้วยตัวเอง และครั้งนี้เลือกแสดงในวันเกิดฉินเฉิง และก็สารภาพกับฉินเฉิงแล้วขอแต่งงาน จบแฮปปี้มากกกกกกกก

 หลังอ่านเล่ม 6 :

ในที่สุดความพยายามทั้งหมดของหรงสวี่ของเป็นจริง จากการร่วมงานกันอีกครั้งของ ฉินเฉิง และหรงสวี่ กับผู้กำกับแรนด์ เฮาลต์ ในเรื่อง The Zeroth Law ได้ทั้งสามรางวัลทองคำในโลก มากกว่าฉินเฉิงซะอีก ฉินเฉิงบอกว่าถึงเวลาประกาศกับทั่วโลกแล้ว จากที่ทั้งสองแสดงออกว่าเป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายปี แต่หรงสวี่ก็ไม่ได้ทำ บอกว่าไม่ได้เตรียมตัว ที่จริงแล้วตัวเองเตรียมมาหนึ่งปีเพื่อเรื่องนี้ เพราะจะบอกในงานแสดงคอนเสิร์ตที่จบลงในวันเกิดฉินเฉิงนี่เอง happy มากๆๆๆ

ระหว่างทางก็มีเรื่องราวขำขัน เฮฮาของกลุ่มเพื่อนฉินบ้าบอให้ได้หัวเราะกัน อ่านเครียดๆมาเจอกลุ่มนี้คือฮามากจริงๆค่ะ

เล่มพิเศษ :

สองตอนแรกคือตอนของหรงสวี่และฉินเฉิง เป็นตอนไลฟ์สดที่ทำเอายอดคนดูทั่วโลกทะลุร้อยล้าน ตอนที่สอง ฉินเฉิงเพราะว่างมากเลยโดนสวีจิ้นบ่นตลอดว่าอีกหน่อยจะไม่เป็นที่นิยมจนเอาไปฝันร้าย ตื่นขึ้นมาเลยขยัน แต่มีเรื่องหนึ่งคือทำไมต้องมีเวินเสวียนด้วย ทำเอาคนหึงเลย

ตอนสุดท้าย บอกเรื่องราวของหลินเซวียนและครีแมนออกจะดราม่าแต่สุดท้ายก็รู้ว่า ทุกเรื่องมีที่มาที่ไป และใช่เลย ทั้งสองเป็นรักแรกของกันและกัน

เนื้อเรื่อง :

คือเรื่องราวของหรงสวี่ ทายาทตระกูลหรงแห่งเมืองB ที่ก่อนหน้านี้เกเรเหลวแหลก พอออกจากโรงพยาบาลก็เปลี่ยนเป็นคนละคน เพราะนี่คือหรงสวี่ที่เป็นดาราดังจากอีกโลกหนึ่งที่เครื่องบินตกเสียชีวิตแล้วมาเข้าร่าง

หรงสวี่ออกจากโรงพยาบาลก็มาขอบทจากหลัวเจิ้นเทา ที่ตอนนั้นร่างเดิมเคยใช้เส้นเพื่อให้ได้บทมาเพื่อดาราระดับรอง ตอนนี้จะเอามาแสดงเอง หรงสวี่เริ่มก้าวเข้าสู่วงการนักแสดง โดยแสดงละครก่อน ละครเรื่องแรกที่ถ่ายออกอากาศเป็นเรื่องที่สอง แต่ตั้งแต่เรื่องแรกที่ออกอากาศกระแสก็ดีมาก จนเริ่มมีแฟนคลับจากน้อย เริ่มขึ้นเรื่อยๆ และในตอนนั้นคนที่คืออันดับหนึ่งคือฉินเฉิง หรงสวี่ถือว่าเป็นเป้าหมาย

ที่น่าสนใจคือฉินเฉิงเจอหน้าหรงสวี่ครั้งแรกพร้อมคุณน้าฉินที่เป็นเพื่อนสนิทของแม่หรงสวี่ก็ยอมมอบกุญแจคอนโดที่แม้แต่คุณน้าฉินไม่เคยได้ นี่เพราะว่าฉินเฉิงเกิดรักแรกพบเข้าแล้ว ดาราหน้านิ่งเย็นชา ไม่มีใครโค่นล้มได้ ทำอะไรหน้านิ่ง ฝีมือการแสดงเยี่ยมจนคนจับไม่ได้ ช่วงแรกจะเอาแต่อ้างว่าทำตามที่แม่สั่ง จนตอนหลังสารภาพว่าอยากมาเอง

และหลังจากเจอหรงสวี่ตัวเองก็เริ่มกดติดตาม สร้างแอคหลุมเอาไว้เป็นบิ๊กแฟนในกลุ่ม ชื่อ ขนมไหว้พระจันทร์ไส้เม็ดบัวเนื้อส้ม โพสต์แต่ละอย่างตะมุตะมิ น่าเอ็นดู แอ๊บแบ๊วสุดๆ ที่สำคัญคือจ่ายเงินเยอะมากโดยไม่รู้สึกอะไร เพราะรวยมากกกก จนแฟนคลับเรียกไฮโซเนื้อส้ม

ส่วนหรงสวี่ก็ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ เนื้อเรื่องแนวละครซ้อนละคร เพราะต้องถ่ายภาพยนตร์อยู่ตลอดในแต่ละเรื่องก็จะมีเล่าเนื้อเรื่องของเรื่องนั้นๆ พอเข้าฉายก็มีนักจิจารณ์อธิบายตีความอีกที เรียกน้ำตาได้ตามบทบาทตัวละคร ทั้งยังเก่งสารพัดแบบ ร้องเพลงประกอบก็ดัง ทำอัลบั้มก็ขายดีกว่านักร้องมืออาชีพ ถ้ามีคนให้ร้าย จะมีฉินเฉิงคอยช่วยเหลือ กำจัดข่าวลืออย่างรวดเร็วยิ่งกว่าตัวเองอีก จะเป็นมุกในเรื่องว่าตัวพระเอกไม่ขยัน แต่คนรักทำงานเยอะ ฉินเฉิงก็จะเริ่มรับงาน ทำเอาสวีจิ้นผู้จัดการส่วนตัวดีใจ แต่ก็โคตรเหนื่อยเพราะเรื่องของหรงสวี่ก็ต้องให้ตัวเองจัดการด้วย

เรื่องราวจะเป็นยังไง เมื่อไหร่ทั้งสองคนจะเปิดเผยความสัมพันธ์ จะมีโมเมนต์ฮาเยอะมากระหว่างกลุ่มเพื่อนสนิท ฉินบ้าบอ อ่านแล้วสนุก และได้รู้เรื่องวงการบันเทิงเยอะทีเดียวค่ะ

หลังอ่าน :

หรงสวี่และฉินเฉิงเป็นคู่จิ้นที่ไฮโซเนื้อส้มเชียร์ที่สุด กว่าเรื่องราวจะเปิดเผย ระหว่างเรื่องราวคือความฮาความตะมุตะมิ

ความสามารถของฉินเฉิงและหรงสวี่ ที่ต้องทำให้แฟนคู่จิ้นกินอาหารหมาตลอด เรื่องราววงการบันเทิงที่น่าสนใจ ทั้งด้านนักแสดง ผู้กำกับ ตลอดจนทีมงานและแฟนคลับ ถ้าแฟนคลับดีก็เรียกได้ว่านักแสดงคนนั้นโชคดี แต่นักแสดงเองก็ต้องทำตัวดีให้แฟนคลับรักด้วยนะ   

 

28/3/64