Sunday, June 16, 2019

#ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม #7เล่มจบ #สนพ.แจ่มใส(มากกว่ารัก)


Review 13/2562
เรื่อง : ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม (7 เล่มจบ)
ผู้แต่ง : อวี่จิ่วฮวา
ผู้แปล : เบบี้นาคราช
เล่ม1 พิมพ์ครั้งที่1 : ตุลาคม 2561
สนพ. แจ่มใส (มากกว่ารัก)




โปรยปกเล่ม 1:
เป็นเพราะสวรรค์เมตตา หลังจากตายอย่างมีมลทินในชาติแรก
นางก็ได้กลับมาหายใจอีกครั้งในช่วงก่อนจะถูกขายเป็นนางคณิกา

เมืองต้าเยี่ย’ คือฝันร้ายที่ ‘มู่หวั่นชิว’ อยากกลบฝัง
แม้ในชาตินี้นางจะเหลือเพียงตัวคนเดียว เงินทองติดกายรึก็ไม่มี
ต่อให้ต้องใช้ชีวิตเป็นเด็กสาวบ้านป่า
นางก็จะขอมุ่งหน้าไป ‘เมืองซั่วหยาง’ เมืองวัตถุดิบเครื่องหอมที่อยู่ห่างไกล
ไม่ขอกลับไปตายในหอคณิกาเหมือนเมื่อชาติก่อนอีก!

ในชาตินี้นางจึงตั้งใจที่จะเดินไปบนเส้นทางนักปรุงเครื่องหอม
ในเมื่อนางมี ‘วิชาปรุงเครื่องหอมตระกูลเว่ย’ ที่มารดาให้ไว้อยู่แล้ว
ทว่าสำหรับนางที่แยกกลิ่นไม่ออกเลยสักกลิ่นนั้น
ตำรานี้ก็ไม่ต่างจากตำราสวรรค์ที่อ่านอย่างไรก็ไม่เข้าใจ!
คำนำสำนักพิพมพ์ :
'มู่หวั่นชิว' นางเอกของเรื่องไม่ได้เป็นสาวหลงยุคทะลุมิติมา แต่นางกลับเป็นหญิงสองชาติ ชีวิตของนางจบสิ้นไปในชาติก่อนด้วยชื่อเสียงมัวหมองของหญิงคณิกา ในชาตินี้เมื่อตื่นมาในช่วงก่อนถูกขายเข้าหอคณิกา นางก็มุ่งหวังที่จะหลีกหนีชะตากรรมเก่าก่อน บางเรื่องเขามีแต่การแก้แค้น แต่เรื่องนี้แตกต่างค่ะ มู่หวั่นชิว หวังเพียงหลีกหนีจากกลุ่มคนในอดีต และสร้างชีวิตที่ดีให้กับตนเองสิ่งมีค่าเดียวที่นางมีติดกายก็คือ 'วิชาปรุงเครื่องหอมตระกูลเว่ย' ที่เขียนขึ้นโดยปรมาจารย์แห่งยุค นางที่ไม่มีทักษะความสามารถใดเกี่ยวกับเครื่องหอมมาก่อนตำรานี้จึงไม่ต่างจากตำราสวรรค์ที่อ่านอย่างไรก็อ่านไม่เข้าใจ

สำนักพิมพ์แจ่มใส

เล่ม1 :
มู่หวั่นชิว บุตรสาวอัครเสนาบดีต้องโทษ ถูกขายมาในหอคณิกา หลงรักบุรุษผู้หนึ่งแต่ทั้งชีวิตมีแต่การหลอกใช้ ในที่สุดนางก็เข้าใจ ว่าที่แท้ซานหลางที่นางเรียก ที่นางรักไม่เคยรักนางเลย สุดท้ายก็บีบให้นางตาย ก่อนจะฆ่าตัวตาย มู่หวั่นชิวได้สาบานว่า ชาตินี้ รักนี้ อาชิวรักจนมิอาจรักได้แล้วหากมีชาติหน้า อาชิวจะไม่ขอรักใครอีก
พอตื่นขึ้นมากลับพบว่าเป็นฝันร้าย ที่ฝันติดต่อกันมาหลายคืนจากการเดินทางหลบหนีในป่ากับมู่จง ที่พาหลบหนี แต่มู่หวั่นชิวจำได้ว่าชาติก่อนเมื่อไปถึงเมืองต้าเยี่ยมู่จงจะชิงสมบัตินางไปและขายนางไปที่หอคณิกา ชาตินี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ มู่หวั่นชิวเลยต้องหลบหนีจากมู่จงเพราะสู้ไม่ได้ ต้าเยี่ยคือเมืองที่เกิดเรื่องราวต่างๆมากมาย คราวนี้นางต้องหนีให้พ้นจากชะตากรรมในชาติก่อน สิ่งสำคัญที่สุดคือ วิชาปรุงเครื่องหอมตระกูลเว่ย ที่มารดามอบให้ในห่อผ้าแม้ทรัพย์สินมากมายมีค่าแต่ไม่อาจเทียบได้กับตำราเล่มนี้ที่ชาติก่อนนางไม่เห็นค่าหยิบยื่นไปให้ซานหลางอย่างเต็มใจด้วยความโง่งม สุดท้ายมู่หวั่นชิวก็หนีพ้นมู่จง ตัดสินใจมุ่งหน้าไปซั่วหยาง ต้องผ่านผิงเฉิงอยู่ในป่าได้เจอกับหม่าหย่ง จึงพากลับบ้าน มู่หวั่นชิวปิดบังชื่อแซ่เปลี่ยนเป็นไป๋ชิว ครอบครัวนายพรานหม่าหย่ง เป็นครอบครัวที่อบอุ่นแม้จะไม่มีเงินแต่ก็มีน้ำใจ อยู่ได้ไม่นานก็ต้องหนีอีกเพราะมีคนของทางการมาตามจับ ในที่สุดมู่หวั่นชิวก็เดินทางถึงผิงเฉิงในสภาพคล้ายขอทาน เป็นเวลาที่เซียนพนันทิพย์กุมาร แคว้นต้าโจวมาเปิดโต๊ะที่ร้านป๋ออี้ เรื่องนี้ในชาติก่อนมู่หวั่นชิวเคยช่วยสืบข่าวให้ซานหลางจึงรู้เรื่องราวที่ชนะพนันต่ำสิบแปดตานางจึงคิดไปเดิมพัน ด้วยเงินทั้งหมดที่มีคือหนึ่งตำลึงจะนำไปเปิดโรงเครื่องหอมที่ซั่วหยาง หลังจากตาที่สิบเอ็ดมู่หวั่นชิวก็ชนะมาตลอดแปดตารวด ได้เงินเป็นล้านตำลึงครึ่งหนึ่งคืนให้บ่อนไป ทำให้เป็นที่สนใจของคุณชายชุดขาวท่าทางราวเทพเซียน แต่ที่มู่หวั่นชิวสนใจคือ คุณชายรองเจิงฝานซิวที่เป็นเจ้าของบ่อนป๋ออี้ และเป็นผู้ที่บิดามู่หวั่นชิวนัดให้มู่จงพามาพึ่งพาที่ชาติก่อนไม่ได้เจอ กับเหลิ่งกัง เซียนพนันทิพย์กุมารที่อยากพบ ทำให้มู่หวั่นชิวผิดหวัง จึงจากไปทั้งอย่างนั้น
อยู่ในผิงเฉิงเกิดภัยแร้ง พบเห็นเจ้าเมืองสวีใช้เด็กบูชายันขอฝนจากเทพมังกร มู่หวั่นชิวจึงไปขัดขวาง และช่วยเหลือเด็กแฝดชายหญิงเอาไว้ เจ้าเมืองสวีรู้เรื่องที่มู่หวั่นชิวชนะพนันเป็นเงินล้านตำลึงก็เกิดละโมบอยากได้ จะกักตัวไว้เป็นอนุ และให้ขอฝนแทน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ในชาติก่อนจึงมีบันทึกวันที่ฝนตกเอาไว้มู่หวั่นชิวจึงบอกได้ว่าฝนจะตกในวันไหน เป็นเวลากี่วัน ระหว่างนั้นในจวนเจ้าเมืองมู่หวั่นชิวได้เจอคุณชายชุดขาวอีกครั้งจึงได้รู้ว่านั่นคือคุณชายใหญ่หลีจวิน บุตรชายคนโตของตระกูลหลีแห่งต้าเยี่ย แต่ชาติก่อนมู่หวั่นชิวรู้ว่าหนึ่งปีให้หลังเขาก็ตายอยู่ที่ตำบลจื่อถง มู่หวั่นชิวชาติก่อนเป็นคุณหนูเอาแต่ใจ ถูกขายไปหอคณิกาได้ถูกแม่เล้าฝึกการพูด การเดิน ศิลปะทั้งสี่ ตอนนี้ก็ดีดพิณด้วยความเชี่ยวชาญให้หลีจวิน และใต้เท้าสวีได้ฟัง
ในที่สุดมู่หวั่นชิวก็สามารถหนีพ้นใต้เท้าสวีไปได้ด้วยการช่วยเหลือของหลีจวิน ก่อนแยกจากได้ให้ป้ายหยกรูปปลาบอกว่าสามารถไปขอความช่วยเหลือที่ร้านเหยาจี้แห่งซั่วหยางได้หรือถ้ามาต้าเยี่ยสามารถเอาป้ายหยกมาที่ร้านหลีจี้ขอพบเขาได้ และเด็กฝาแฝดโม่อวี่ โม่เสวี่ย ที่มู่หวั่นชิวได้ช่วยไว้ก็ติดตามไปเมืองซั่วหยางด้วย แต่ระหว่างทางกลับโดนโจรปล้นเงินล้านตำลึงที่ได้จากการพนันไป และมู่หวั่นชิวก็จำได้ว่าตระกูลเจิงจะเกิดเรื่องล้างตระกูลขึ้น จึงให้โม่อวี่ โม่เสวี่ยย้อนกลับไปเมืองผิงเฉิงช่วยตระกูลเจิงโดยใช้ป้ายหยกของหลีจวิน ส่วนตัวเองเดินทางไปซั่วหยางเพียงลำพังและสัญญาว่าอีกหนึ่งปีจะไปรับโม่อวี่ โม่เสวี่ยกลับมา เมื่อถึงเมืองซั่วหยางมู่หวั่นชิวก็เริ่มหางานที่ร้านเหยาจี้ มู่หวั่นชิวได้เจอกับซานนีเอ๋อร์ที่มาสมัครเช่นกัน มู่หวั่นชิวที่ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเครื่องหอม กลิ่น และสิ่งต่างๆเลยจึงได้รับการปฎิเสธและทำให้คนทั้งเมืองรู้ว่านางเป็นหญิงโง่ที่ไม่รู้เรื่องการดมกลิ่นเลย มู่หวั่นชิวอ่านหนังสือออกเลยคิดจะเริ่มจากการอ่านตำราก่อนเลยไปที่ร้านหนังสือได้พบกับ ตำรารวมวัตถุดิบเครื่องหอมตระกูลเว่ย แปลว่าต้องมีตำราเล่มนี้ถึงอ่านเล่มที่อยู่ในมือนางเข้าใจ หลงจู๊ขายในราคาสิบห้าตำลึงมู่หวั่นชิวทั้งเนื้อทั้งตัวยังมีแค่สิบสี่ตำลึงสองร้องอีแปะ จึงขอร้องให้ได้มา กลับไปที่โรงเตี๊ยม ซานขุยก็แนะนำให้มู่หวั่นชิวไปสมัครงานที่โรงธูปหลินจี้ นักปรุงเครื่องหอมที่นั้นเป็นคนอารมณ์ร้อน เห็นแก่ตัว อาจารย์ระดับสามหลิว ทำให้คนงานเปลี่ยนบ่อยอยู่ไม่ทน ซานขุยพามู่หวั่นชิวไปสมัครงาน ได้งานแต่ค่าแรงหนึ่งร้อยห้าสิบอีแปะทำสัญญาสองปี มู่หวั่นชิวยังไม่รู้เรื่องเลยว่าโดนคนกดขี่ ให้ค่าแรงต่ำ ใช้งานมาก ไม่สอนอะไร ไม่ก้าวหน้า ดีที่ได้รู้จักซานนีเอ๋อร์ และท่านลุงหลี่เหล่าฮั่น พ่อสั่วจื่อที่อยู่ร้านเครื่องหอมหลี่จี้ดูแล  มู่หวั่นชิวไม่มีใครสอนดมกลิ่น ได้แต่ศึกษาจากตำราตระกูลเว่ย คอยเก็บดอกไม้ และอื่นๆกลับมาแอบฝึกดม และลองทำใบสนตามตำรา ในวันที่มีตลาดครั้งสุดท้าย มู่หวั่นชิวขอร้องให้ท่านลุงหลี่นำไปขายให้ด้วย แต่คนอื่นเห็นเป็นใบไม้เน่าๆ มีคนเก็บได้และทำหล่นในกองไฟ กลิ่นหอมสดชื่นของใบสนจึงเกิดขึ้นเป็นเวลาเดียวกับที่หลีจวินมาซั่วหยางพอดี ก็มาตามหาแต่ไม่พบคน ไปที่ตระกูลเหยาก็สอบถามไม่ได้ความ ลองตามหาก็ไม่พบ ที่แท้แค่คลาดกันนิดเดียวเท่านั้น มู่หวั่นชิวสมัครสอบนักปรุงเครื่องหอมระดับสามแต่ระหว่างนี้กลับโดนอาจารย์หลิวกลั่นแกล้งให้เป็นหวัด วันสอบนางจึงไปสอบทั้งที่เป็นหวัด กฎของสมาคมห้ามคนเป็นหวัดมาสอบ พอมู่หวั่นชิวกลับมาจึงคิดได้แล้วโกรธจนหมดสติ มีคนแค้นอาจารย์หลิวและร้านหลินจี้มากมายจึงไปแจ้งสมาคมให้มาตรวจสอบ เถ้าแก่เนี้ยและอาจารย์หลิวจึงต้องทำดีด้วย ช่วงนี้มู่หวั่นชิวรับงานหั่นจากร้านหลี่จี้ที่ซุนมือไวหยุดงานไปเยี่ยมบ้านช่วงทดสอบ มู่หวั่นชิวหั่นได้บางตามตำราตระกูลเว่ยแม้จะช้า แต่ก็ไม่มีใครทำได้ ตอนพักรักษาอาการหวัดจึงฝึกซ้อมหั่น นางไม่รู้เลยว่าตอนนี้ความเร็วของนางยังเร็วกว่าซุนมือไว ทุกอย่างที่เรียนจากตำราตะกูลเว่ยเรียนจากพื้นฐานทำให้รู้ทุกอย่างไม่เหมือนคนอื่นที่ได้อาจารย์ถ่ายทอดให้ การเรียนของมู่หวั่นชิวแม้จะช้าแต่เป็นการเรียนที่เข้าใจธรรมชาติของทุกสิ่ง ช่วงสิ้นปีอาจารย์หลิวกลับบ้านพร้อมคนทางบ้าน ก็อยากให้มู่หวั่นชิวทำธูปพังจะได้โดนไล่ออก แต่นางที่แสร้งโง่ท่องจำตามคำบอกแท้จริงแล้วรู้วิธีการแต่ไม่เคยลงมือปฏิบัติจริง พอได้โอกาสลองดมกลิ่นก็คิดว่าดมได้ถูก ส่วนผงธูปบังเอิญที่ไม่ระวังทำให้จามใส่ ไม่สามารถหาทดแทนได้ เลยใช้สูตรของตระกูลเว่ยดัดแปลงใส่ใบสนลงไป และไม่ได้ทำตามวิธีที่อาจารย์หลิวบอก ปรากฏว่าออกมาธูปมีสีออกเขียว และอาจารย์หลิวก็กลับมาพอดี มู่หวั่นชิวคิดว่าตีให้ตายก็ไม่บอกว่าใส่อะไรเพิ่ม จะยืนยันว่าทำตามที่บอกอย่างเดียว
หลังอ่าน :
ในเล่มหนึ่ง มู่หวั่นชิวหลังจากได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งก็พยายามหนีจากเรื่องที่เกิดขึ้นในชาติก่อน ไม่ใช่เพราะไม่อยากแก้แค้น แต่เพราะตัวเองไม่มีกำลังพอ ในเล่มนี้ได้เริ่มต้นเส้นทางของการเป็นนักปรุงเครื่องหอม เส้นทางยังอีกยาวไกล นี่แค่เริ่มต้นก็มีแต่คนคอยเอาเปรียบ กลั่นแกล้ง แต่ก็มีคนที่มีน้ำใจแม้จะเป็นชาวบ้านธรรมดา แต่เรื่องพวกนี้ล้วนอยู่ในใจของมู่หวั่นชิว เล่มนี้ตัวหลักอยู่ที่นางเอก พระเอกออกนิดเดียว ซานหลางเป็นใครยังไม่ปรากฎ เป็นคนที่นางต้องเกลียดในชาตินี้แน่นอนเพราะทำให้นางตาย คอยอ่านเล่มต่อไป




โปรยปกเล่ม2 :
ความสามารถในฐานะของนักปรุงเครื่องหอมเพิ่งเริ่มไปได้ไม่เท่าไหร่
อุปสรรคใหญ่จากคนตระกูลเหยาก็ถาโถมใส่นางอีกครา...

‘เหยาจิ่น’ ที่มีบิดาทรงอำนาจ เพียงกระทืบเท้าเมืองซั่วหยางก็กระเทือน
เกิดจงเกลียดจงชังมู่หวั่นชิวอย่างมาก ถึงขั้นใส่ร้ายและกดดันนางอย่างหนัก
กระทั่งนางมิอาจมีที่ยืนอยู่ในเมืองซั่วหยางได้ ผู้ใดยื่นมือเข้าช่วยเหลือต้องติดร่างแหเดือดร้อน
และหากคิดหลีกหนีจากเมืองก็เตรียมตัวตายได้เลย!

มีเพียงการประชันธูปที่กำลังจะเกิดขึ้นเท่านั้น
ขอเพียงติดอันดับดีๆ แล้วเดินทางไปต้าเยี่ยพร้อมคณะ นางก็จะมีชีวิตรอด
หรือแท้จริงแล้วชะตาจะกำหนดให้นางต้องกลับสู่วังวนเดิม
หวนคืนสู่ต้าเยี่ย...และเจอกับ ‘เขา’ผู้นั้นอีกครั้ง

คำนำสำนักพิมพ์ :
ด้วยเรื่องราวของ "มู่หวั่นชิว" ที่ไม่ได้เป็นนักปรุงเครื่องหอมมาแต่เริ่มนั้นทำให้เราได้เห็นการเติบโตของมู่หวั่นชิวบนเส้นทางเครื่องหอมนี้ไปทีละขั้นทีละตอนเหมือนว่าได้ศึกษาตำราของวิชาตระกูลเว่ยไปพร้อมๆ กับมู่หวั่นชิวด้วย จนแทบจะมีกลิ่นหอมๆ ลอยออกมาจากหน้ากระดาษเลยทีเดียว

มาถึงเล่ม 2 นี้มู่หวั่นชิวจะมีโอกาสได้เขยิบเข้าใกล้ความเป็นนักปรุงเครื่องหอมไปอีกขั้นหนึ่ง ถึงแม้โอกาสในการสอบเป็นนักปรุงเครื่องหอมระดับสามจะถูก "อาจารย์หลิว" ก่อกวนจนต้องพลาดสอบไป แต่นางก็ไม่ย่อท้อ ยังคงมุ่งมั่นที่จะศึกษาตำรา เก็บสะสมวัตถุดิบ ฝึกปรือทักษะต่างๆ อยู่เช่นเดิม กระทั่งวันหนึ่งที่นางถูก "เหยาจิ่น" คุณหนูแห่งร้านเหยาจี้หมายหัวเขา ชีวิตที่เคยสงบเงียบของนางก็ถึงคราวพลิกผันอีกครั้ง

เมื่อชีวิตในเมืองซั่วหยางของมู่หวั่นชิวถึงคราวลำบาก จะออกไปจากเมืองก็เสี่ยงสิ้นชีพ คล้ายโชคชะตาจะชักนำให้นางต้องกลับไปที่เมืองต้าเยี่ย สถานที่ที่นางตายเมื่อชาติก่อนเสมอ มาร่วมลุ้นกันค่ะว่ามู่หวั่นชิวจะรับมือกับเรื่องราวในครั้งนี้อย่างไร และมีอุปสรรคใดเข้ามาในชีวิตของนางบ้าง เชิญคุณผู้อ่านติดตามได้เลยค่ะ

สำนักพิมพ์แจ่มใส

เล่ม 2 :
อาจารย์หลิวกลับมาพร้อมกลับพบว่าธูปที่ให้อาชิวทำนั้นมีสีเขียวตีให้ตายนางก็ไม่ยอมรับว่าเปลี่ยนวิธีและเปลี่ยนสูตร ยังยืนยันคำพูดเดิม จนเถ้าแก่หลินและเถ้าแก่เนี้ยหลินพา หลงจู๊ฉีที่เปิดโรงธูปเทียนเฟิงมาซื้อธูปมาดูธูป ตอนแรกเห็นก็จะเอาไปทำลาย แต่หลงจู๊ฉีกลับขอลองเอามาจุดเนื้อธูปทั้งเหนียวกว่า ดีกว่า ความยืดหยุ่นดีกว่า ไม่หักง่าย ทั้งกลิ่นก็ดีกว่ามากและก็เป็นรูปแบบของธูปตระกูลเว่ย มู่หวั่นชิวดีใจมากที่นางทำธูปครั้งแรกก็สำเร็จ หลงจู๊ฉีคิดจะซื้อตัวอาชิวไปแต่พอได้ยินว่านางทำสัญญาสองปี นี่ทำงานไปได้เพียงครึ่งปีต้องจ่ายเงินชดเชยมากก็เปลี่ยนใจ ซื้อธูปเขียวไปทั้งหมด ห้าพันดอก อาจารย์หลิวอยากไล่มู่หวั่นชิวไปเพราะรู้ว่านางมีฝีมือดีกว่าตนหลอกถามวิธีทำธูป สูตรลับยังไงก็ไม่บอก มู่หวั่นชิวรู้ว่าทั้งอาจารย์หลิวและเถ้าแก่เนี้ยหลินอยากได้สูตรลับของนางแต่จะหลอกถาม นางก็แกล้งโง่ไป อาจารย์หลิวโกรธมากจึงคิดแผนกลับไปดูแลแม่ที่ป่วยหนักไม่ยอมกลับ และอ้างว่าต้องไว้ทุกข์ให้มารดา จนทำให้โรงธูปหลินจี้ไม่มีของขาย มู่หวั่นชิวเลยเสนอจะลองทำธูปให้ ผลออกมาคือธูปของมู่หวั่นชิวคุณภาพดีกว่าของอาจารย์หลิวซะอีก โรงธูปหลินจี้เลยทำเรื่องไล่อาจารย์หลิวเพราะทนความใจร้ายใจดำ ปากร้ายมานานเป็นสิบปี ขึ้นค่าแรงให้มู่หวั่นชิวเป็นสามตำลึง และจ้างคนงานมาช่วยเพิ่ม ช่วงนี้มู่หวั่นชิวฝึกดมกลิ่นไปได้มากแล้ว ไปฝึกดมในทุ่ง เหยาจิ่นมาพบเข้าแล้วไม่ถูกชะตาที่มู่หวั่นชิวไม่เคารพตน คิดกลั่นแกล้ง และเห็นถึงความสง่างามของมู่หวั่นชิวก็หวั่นใจคิดถึงคนที่หลีจวินเคยให้ตามหาว่าเป็นสหายได้ นางจึงสร้างเรื่องให้เหยาอู่ พี่สามของตนกับเฉียนป๋อที่ชอบตนมานานไปจัดการมู่หวั่นชิว โดยให้อาจารย์หลิวมาท้าประลองทำธูปหอม เดิมพันคือแพ้ออกจากเมือง ตอนแรกอาจารย์หลิวกลัวเปลี่ยนใจทำแค่ให้เงินเดือน แต่เหยาจิ่นไม่พอใจ เหยาอู่กับเฉียนป๋อเห็นมู่หวั่นชิวก็อยากได้เป็นอนุเลยกลั่นแกล้ง มู่หวั่นชิวเห็นเบื้องหลังเช่นนี้ก็ต้องยอมสละสิทธิ์แข่ง ยอมแพ้ไปก่อนเพราะไม่อยากแข่งให้เหยาจิ่นรู้ว่าตนมีสูตรธูปเขียวอยู่กับตัว ที่ไหนได้ เหยาอู่ เฉียนป๋อกลับประกาศห้ามทุกโรงธูปในเมืองรับมู่หวั่นชิวทำงาน ต้องการบีบให้ออกจากเมืองไป มู่หวั่นชิวตัดสินใจออกจากเมือง แต่ซานนีเอ๋อร์ได้ข่าวมาว่าเหยาจิ่นจ้างนักเลงมาลอบฆ่ามู่หวั่นชิวที่นอกเมือง เลยให้อดทนรอจนถึงงานประชันเครื่องหอมอีกครึ่งเดือน ถ้าชนะสามารถติดตามสมาคมไปต้าเยี่ยได้ มู่หวั่นชิวเลยต้องไปหลบในโรงเตี๊ยมของหัวหน้าสมาคมอิน รอจนวันสมัครมู่หวั่นชิวก็มีเงินเหลือแค่เก้าร้อยอีแปะ ค่าสมัครสอบคือหนึ่งตำลึง ตอนนั้นเอง ที่หลีจวินกับฉินเจี้ยนเด็กรับใช้ข้างกายก็ได้ลงจากรถม้าที่แถวหน้าสนามสอบเพราะไปต่อไม่ได้ และเห็นมู่หวั่นชิวเข้า หลีจวินเลยสั่งให้ฉินเจี้ยนไปหาวิธีทำให้มู่หวั่นชิวไปต้าเยี่ยอยู่กับร้านหลีจี้ให้ได้ ตอนนั้นมู่หวั่นชิวขาดหนึ่งร้องอีแปะก็ไม่ยอมให้สมัคร ขณะกำลังคิดว่าจะหาเงินจากไหนก็โดนเรียกกลับไปบอกว่าให้ทำสัญญาแล้วจะได้สมัคร แต่มู่หวั่นชิวอ่านละเอียดไม่รู้ใครเป็นคนต้องการตัว คนรอบข้างก็บอกว่าไม่มีเรื่องดีแบบนี้ต้องถูกหลอกแล้วแน่นอนต้องโดนขายไปหอคณิกาพอได้ยินคำพูดนี้นางก็กลัว มู่หวั่นชิวเลยบอกว่าขอทำสัญญาเพิ่มเติมสองข้อ จากที่ในสัญญาระบุว่าต้องทำสัญญาห้าปี สอบได้อันดับสองร้อยขึ้นไป มู่หวั่นชิวบอกว่าเพิ่มสัญญาว่ายกเลิกสัญญาได้ถ้ารู้ภายหลังว่าเถ้าแก่ไม่ได้ทำกิจการเกี่ยวกับเครื่องหอมและนางไม่ต้องชดเชยเงินใดๆ คนสมัครสอบขอเข้าไปถามและออกมาบอกว่าถ้าอยากกำหนดค่าจ้างเองต้องสอบได้ห้าสิบอันดับแรก พอลงชื่อในสัญญาเรียบร้อยมู่หวั่นชิวก็เดินใจลอยเพราะคิดว่าต้องทำสัญญาขายตัวห้าปีเพราะไม่มีเงินหนึ่งร้อยอีแปะ ไม่ทันระวังจึงชนเข้ากับหลีจวิน โดนประชดไปอีกว่ามีเงินก้อนใหญ่ติดตัวยังทำให้ตัวเองเป็นสภาพนี้ได้ มู่หวั่นชิวดีใจมากที่เจอหลีจวิน
หลีจวินสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะมองมู่หวั่นชิวกิน ถึงได้รู้ว่านางทำเงินล้านกว่าตำลึงหายไปตั้งแต่ปีก่อนแล้ว แต่ไม่ไปแจ้งความเพราะกลัวยุ่งยาก แล้วมู่หวั่นชิวก็ถามหลีจวินถึงโม่อวี่โม่เสวี่ย บอกว่าส่งให้ไปหาเมื่อหนึ่งปีก่อน พอรู้ว่าไม่ได้อยู่ด้วย นางก็บอกว่าให้ไปหาตระกูลเจิงแล้ววานให้ส่งไปหาหลีจวิน มู่หวั่นชิวไม่วางใจเพราะกลัวว่าตระกูลเจิงฆ่าคนปิดปากเพราะรู้ความลับไปแล้ว หลีจวินจึงบอกให้ฉินเจี้ยนไปถามที่ตระกูลเจิงเมืองผิงเฉิง ฉินเจี้ยนไม่ยินยอมแต่หลีจวินบอกว่าเด็กสองคนรู้จักเจ้า มู่หวั่นชิวจำได้ที่หลีจวินบอกว่าจะไปทำธุระรับคนแทนคนรู้จัก นั่นทำให้ตายในชาติก่อนเพราะคนใกล้ตัวหักหลังจึงวางใจ แต่ก็เอาถุงหอมให้หลีจวินโดยบอกว่าขายให้หนึ่งตำลึงให้เก็บติดตัวเอาไว้จะปลอดภัย หลีจวินจะบอกปัดแต่ก็รับเอาไว้ ขณะนั้นเหยาอู่ เฉียนป๋อพาคนบุกเข้ามาจะทำร้ายมู่หวั่นชิว หลีจวินเลยจัดการและเปิดเผยตัว ทั้งเหยาอู่และเฉียนป๋อคุกเข่าขอโทษมู่หวั่นชิว หลีจวินรู้เรื่องทั้งหมดก็ไม่วางใจ สั่งคนให้บอกว่ามู่หวั่นชิวเป็นสหายของตนใครกล้าหาเรื่องเท่ากับหาเรื่องตนด้วย ทั้งยังไม่วางใจเอาป้ายหยกส่วนตัวให้มู่หวั่นชิวเก็บเอาไว้ พอจากไปมู่หวั่นชิวถึงเห็นฉินจง และคิดถึงข่าวลับในชาติก่อนได้ ได้แต่กังวลแต่ช่วยอะไรไม่ได้นอกจากภาวนาให้ปลอดภัยเพราะถุงหอมนั้นคือยาแก้ผงกระดูกอ่อนที่หลีจวินต้องเจอ
กลับมาที่บ้านสั่วจื่อ เหยาซื่อซิงมาขอโทษด้วยตนเองหลังรู้ข่าวที่เหยาอู่ไปหาเรื่องมู่หวั่นชิวและแอบร่วมมือลับๆกับตระกูลหลิ่วที่คิดจะเปิดกิจการเครื่องหอมเช่นกัน พอได้เงินจากที่หลีจวินทิ้งไว้ และของเหยาซื่อซิงมู่หวั่นชิวเลยคิดจะเปิดร้านเครื่องหอมเอง และได้ปลอมตัวเป็นบุรุษชื่อเฮยมู่ไปเจรจาซื้อขายร้านหานจี้ที่โดนร้านเหยาจี้เล่นงานจนดำเนินกิจการต่อไปไม่ได้ โดยไม่ขอป้ายชื่อร้าน ได้ราคาลดมาห้าร้อยตำลึงเหลือเจ็ดร้อยตำลึง ตอนไปทำป้ายชื่อร้าน มู่หวั่นชิว เขียนชื่อ ไป่เยี่ย ตอนที่ได้ฟังคำพูดของท่านข่งทำให้มู่หวั่นชิวคิดได้ถึงการรังสรรค์กลิ่นที่ก่อนหน้านี้ได้แต่อ่านแต่ไม่เข้าใจ ราวกับเป็นตำราสวรรค์ แต่ตอนนี้เมื่อเข้าใจแล้วแต่ก็ยังไม่มีความสามารถถึงขั้นนั้นได้แต่เก็บไว้ในใจ และได้ประทับตราหลีของหลีจวินลงไปที่ป้ายชื่อร้านด้วย ทำให้คนนึกว่าตระกูลหลีมาเปิดกิจการเครื่องหอมที่เมืองซั่วหยางแล้ว หลังจากส่งมอบร้าน มู่หวั่นชิวก็เริ่มทำธูปเขียว และใบสนหอมเอาไว้ กำหนดเปิดร้านคือหลังงานประชันเครื่องหอม
ที่งานประชันเครื่องหอม มู่หวั่นชิวได้เจอกู่ฉินศัตรูเก่าในชาติก่อนทำให้คิดถึงความแค้นครั้งเก่าพลาดการดมกลิ่นไป เขียนออกมาได้เพียงสองกลิ่น แต่ตอนประกาศผลเข้ารอบที่ต้องได้สองร้อยอันดับแรกกลับติดอันดับเพราะนางเขียนคำตอบสองกลิ่น แต่ใบประกาศกลับประกาศว่านางเขียนสิบสองกลิ่น แต่ทำให้พลาดร้อยอันดับแรกเข้าไปแข่งต่อไม่ได้ แต่ครั้งนี้เพราะหลีจวินต้องการตามหากลิ่นสนที่ได้พบตอนเดือนสิบสองจึงเพิ่มเงื่อนไขใครสามารถทำกลิ่นสนได้จะได้เข้าสอบต่อ มู่หวั่นชิวจึงมีโอกาส นางเลือกทำเครื่องหอมตอนแรกจะทำธูปเขียวออกมาเพื่อสร้างชื่อให้โรงธูปไป่เยี่ยแต่ได้ฟังเรื่องการแข่งขันที่เกิดขึ้นจึงเปลี่ยนใจ และได้ชนะหนึ่งร้อยคะแนนเต็มด้วยการทำธูปพระพยักหน้า มู่หวั่นชิวประกาศว่าจะขายที่โรงธูปไป่เยี่ยแห่งเดียวตัดหน้าสมาคมเครื่องหอมและกู่ฉิน มีคนคัดค้านเพราะมู่หวั่นชิวสอบรอบแรกไม่เข้าเกณฑ์ให้รอใบสนหอมที่นางทำ กู่ฉินคิดแผนร้ายอยากได้สูตรลับที่คิดว่าเป็นของตระกูลเว่ยแน่นอน แต่ตัวมู่หวั่นชิวต้องตาย ทั้งวิธีหลอกล่อ และวิธีต่างๆนานา แต่มู่หวั่นชิวไหวตัวทัน กันไว้ทุกทาง สุดท้ายกู่ฉินจะเปลี่ยนในสนหอมจากของจริงเป็นของปลอมทำให้มู่หวั่นชิวแพ้หรือไม่ต้องตามอ่านในเล่มสามต่อ

หลังอ่านเล่มสอง :
ในเล่มนี้นางเอกของเรามู่หวั่นชิวเริ่มแสดงความสามารถออกมาจากการดมกลิ่นส่วนผสมธูปหอมของอาจารย์หลิวออก แต่เพราะมันเป็นผงทำให้จามออกมา ทำให้ต้องใช้สูตรตระกูลเว่ย ทำให้เครื่องหอมตระกูลเว่ยปรากฏออกมาอีกครั้ง ยังมีทั้งคนที่อิจฉาพยายามฆ่านางตั้งแต่แรกอย่างเหยาจิ่น และสุดท้ายยังเจอศัตรูคู่แค้นจากชาติก่อนกู่ฉิน กับต้องลุ้นว่าหลีจวินจะผ่านด่านเคราะห์ที่จะทำให้ตายในชาติที่แล้วได้หรือไม่ ต้องตามอ่านเล่มสามต่อทันที



โปรยปกหลังเล่ม3 :
ในวันที่ชีวิตของมู่หวั่นชิวเริ่มดีขึ้นโชคชะตาก็ดึงให้นางต้องกลับไปในที่ที่นางตายเมื่อชาติก่อน...เพราะสัญญาห้าปีกับตระกูลหลี นางจึงต้องย้ายไปอยู่ที่เมืองต้าเยี่ย ทว่ายังไม่ทันถึงที่นั่นนางก็ถูก ‘กู่ฉิน’ หมายหัวพยายามกดนางไม่ให้มีที่ยืนในร้านหลีจี้ ทั้งยังมีเหยาจิ่นที่จงเกลียดนางมาตั้งแต่เมืองซั่วหยาง แต่สองคนนั้นก็ไม่ร้ายเท่ากับการพบ ‘มู่จง’ บ่าวชั่วที่ขายนางให้กับหอคณิกาเมื่อชาติก่อน เขาเป็นคนเดียวที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของนาง!

เมื่อเขาเริ่มไล่ล่า และบีบคั้นให้นางก้าวสู่ทางตาย...นางก็จะให้พวกเขาได้รู้ว่าคนอย่างนางนั้นมีแค้นต้องชำระ มาดูกันให้ดีเถิดว่า... ใครจะพินาศก่อนใคร!

คำนำสำนักพิมพ์เล่ม3 :
ยอดหญิงเซียนเครื่องหอมในมือของท่านนักอ่านตอนนี้ก็ดำเนินมาถึงเล่มสามกันแล้วนะคะ เชื่อว่าหลังจากที่ท่านนักอ่านได้อ่านเล่ม 1-2 จบไป ต้องรู้สึกสนุกตื่นเต้นมากขึ้นตามลำดับเลขเล่มกันเลยใช่ไหมค่ะ อาจมีการถามหาว่า คุณชายใหญ่ ที่มีค่าตัวแพงผู้นั้นเป็นอย่างไร แอบกระซิบว่าเล่มนี้คุณชายใหญ่ค่าตัวไม่แพงแล้วค่ะ

ในเล่มสามนี้ หลังจากที่มู่หวั่นชิวตัดสินใจเปิดโรงธูปไป่เยี่ยขึ้นมาในนามของ เฮยมู่ นางก็มีเหตุให้ต้องเดินทางไปเมืองต้าเยี่ยตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับตระกูลหลี นางต้องหวนคืนสู่เมืองที่นางอยากหลบลี้หนีมาตลอด แต่ก็เหมือนยิ่งหนียิ่งต้องพบเจอ เมื่อนางได้พบกับ มู่จง บ่าวชั่วที่รู้ว่านางเป็นใคร คนที่ในชาติก่อนเอานางไปขายที่หอคณิกา และการมารับตำแหน่งของ เขา ผู้นั้นบุรุษที่นางเกลียดเขาเข้ากระดูกหรือสุดท้ายโชคชะตายังคงชักนำให้ต้องกลับไปบนเส้นทางเดิมที่นางไม่อาจหนีได้พ้น

เมื่อต้องกลับมาสู่บ้านเมืองที่มู่หวั่นชิวคุ้นชินอย่างกับเส้นลายมือตนเองแล้วนางจะเอาตัวรอดจากผู้คนที่นางเกลียดฝังใจเหล่านี้อย่างไร จะมีเครื่องหอมอะไรใหม่ๆ ออกมา และนางจะผลักดันโรงธูปไป่เยี่ยอย่างไรอีก เชิญท่านผู้อ่านพลิกหน้าต่อไปได้เลยค่ะ

สำนักพิมพ์แจ่มใส

เล่ม3 :
สุดท้ายระหว่างที่กู่ฉินกำลังแสดงศิลปะการจุดเครื่องหอม พร้อมทั้งคิดหาวิธีเปลี่ยนใบสนหอมของมู่หวั่นชิว อยู่ๆก็ได้กลิ่นหอมสดชื่นเป็นธรรมชาติ เพราะว่ามู่หวั่นชิวได้จุดใบสนหอมทั้งถาดด้วยตัวเองกลิ่นหอมกระจายไปไกลทุกคนได้กลิ่น ก็รู้ว่าเป็นกลิ่นที่ได้เมื่อเดือนสิบสอง
กลับถึงโรงธูปไป่เยี่ยพบว่าห้องพักของนางถูกโจรรื้อค้นจนทั่วคิดดูแล้วไม่คนนอกไม่มีใครรู้ว่ามู่หวั่นชิวพักห้องไหน ลองตรวจสอบดูสุดท้ายก็แน่ใจว่าต้องเป็นกู่ฉินที่แอบมาขโมยสูตรลับ เพราะทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ค้นทุกอย่างไม่มีอะไรหายไป มู่หวั่นชิวถึงแม้จะเสียใจ เสียดายแต่ก็ตัดสินใจเผาตำราลับตระกูลเว่ยทิ้งไป เพราะตัวเองจำได้หมดแล้ว ถึงการแข่งขันชิงอันดับหนึ่งมู่หวั่นชิวก็ได้อันดับหนึ่งไป กู่ฉินประกาศรับมู่หวั่นชิวเป็นศิษย์รักและจะพาไปที่ร้านหลีจี้เมืองต้าเยี่ย มู่หวั่นชิวไม่อยากไป เลยต้องหาทางออกโดยการบอกว่าสูตรลับไม่ใช่ของตน ทุกคนอยากได้ตัวมู่หวั่นชิวและสูตรลับใบสนหอม ทั้งทางตรงทางอ้อมล้วนมาหมด มู่หวั่นชิวใช้วิธีเอาเฮยมู่ออกหน้า สำหรับกู่ฉิน เฮยมู่ได้พูดกุมความลับเรื่องที่กู่ฉินขายสูตรลับเม็ดหอมบุปผาสวรรค์ให้ตระกูลหลิ่วไปแล้วทั้งที่ไม่มีคนรู้ โดยตกลงให้มู่หวั่นชิวเขียนหนังสือรับรองว่าสูตรลับเป็นของเฮยมู่ กู่ฉินใช้เรื่องนี้ในการสร้างเรื่องเท็จบอกคนอื่นว่ามู่หวั่นชิวเป็นพวกแอบขโมยสูตรลับของคนอื่น พูดให้ร้ายมู่หวั่นชิว  
หลีจวินที่ไปอำเภอจื่อถงความจริงโดนบ่าวรับใช้วางยาพิษผงกระดูกอ่อนในน้ำชา แต่เพราะมีถุงหอมของมู่หวั่นชิว และจำคำพูดของนางได้ จากการถูกพิษทำให้สามารถทะลวงฝ่าด่านกำลังภายในไปอีกขั้นได้ และเอาชนะศัตรูได้ ตอนนี้ก็ยิ่งคิดว่าพอมีเรื่องอะไรก็จะต้องตอบแทนผู้มีคุณที่ช่วยชีวิต ทั้งๆที่จริงๆแล้วตัวเองเริ่มมีใจ สนใจนางเอกขึ้นเรื่อยๆ คอยดูแล ใส่ใจอยู่ห่างๆ
มาถึงเมืองต้าเยี่ยที่มู่หวั่นชิวไม่อยากมา ในที่สุดก็ได้เจอกับศัตรูเก่าคนแรกมู่จง และใต้เท้าหร่วนอวี้ หร่วนซานหลาง ที่นางเคยรักในชาติก่อน มู่หวั่นชิวเลยต้องกำจัดมู่จงโดยใช้กำยานพิษที่มีในสูตรลับตระกูลเว่ยจัดการ และได้รู้ว่าที่แท้หร่วนอี้ก็แค้นตระกูลมู่ แค้นท่านพ่อของนางมาตลอดเพราะว่าเป็นคนทำให้ทั้งบ้านต้องตาย
หลีจวินกลับถึงเมืองต้าเยี่ยที่ไปหาคนแรกก็คือมู่หวั่นชิว และเห็นความผิดปกติของนางที่แอบซ่อนชุดดำกับเตากำยาน  จากนั้นได้ข่าวเรื่องหร่วนจงไปดูที่เกิดเหตุก็รู้ว่าเป็นมู่หวั่นชิวในใจสงสัย แต่ก็ช่วยปิดบัง และเก็บหลักฐานให้
การทำงานในร้านหลีจี้มู่หวั่นชิวไม่อยากทำงานกับกู่ฉิน และไม่อยากอยู่ใกล้เลยประกาศตัดขาดอาจารย์ ขอไปทำงานที่ฝ่ายวัตถุดิบ ที่นั้นนางได้วัตถุดิบเครื่องหอมแปลกใหม่มากมาย และยังซื้อของที่ฝ่ายรังสรรค์คัดทิ้งกลับมาที่ขนาดกู่ฉินใช้ไม่เป็นนางกลับใช้เป็น เพราะทุกอย่างเป็นของที่มีในตำราตระกูลเว่ย
ในที่สุดก็ได้เจอโม่อวี่ โม่เสวี่ย ที่มาพร้อมกับเจิงฝานซิว พอมาเห็นห้องเก่าและที่อัดแน่นไปด้วยของก็คิดว่าตระกูลหลีดูแลนางไม่ดี เจิงฝานซิวเลยไปซื้อเรือนข้างนอกให้มู่หวั่นชิว ทุกอย่างหลีจวินก็คิดจะย้ายที่อยู่ให้มู่หวั่นชิวอยู่แล้วแต่ยังช้าไปก้าวหนึ่ง ทุกคนล้วนดูออกว่าหลีจวินปฏิบัติกับมู่หวั่นชิวแตกต่างจากคนทั่วไป
หร่วนอวี้มาหามู่หวั่นชิวและใช้กำลังภายในทดสอบ ทำให้มู่หวั่นชิวภายในบาดเจ็บ ก็ยังตรวจสอบไม่ได้ว่านางเป็นคนฆ่ามู่จง
ตระกูลหลิ่วอยากแย่งชิงตลาดการค้าของตระกูลหลี เพราะอิงอ๋องใช้จุดนี้เพื่อจะได้มามีอำนาจจากการที่รัชทายาทถูกกักบริเวณ
มู่หวั่นชิวที่ย้ายออกไปอยู่เรือนข้างนอกหลีจวินจะคอยดูเสมอ เพราะรู้ว่านางชอบมาดูวัตถุดิบใหม่ๆที่ส่งมา พอรู้ว่าไม่สบายก็ไปดู ทั้งสองได้พูดคุยกัน หลีจวินยังทำตัวเป็นคนธรรมดาที่ไปนั่งจุดไฟต้มน้ำขิงให้นาง มู่หวั่นชิวยังให้ดูดอกกุ้ยหมักที่ทำเป็นเครื่องหอมอย่างแรก ทั้งกลิ่นหอม สาวงาม หลีจวินเกิดความคิดในใจ คือนางที่ข้าตามหามานาน อารมณ์ซาบซึ้งมาก มาโดนขัดจังหวะเพราะโม่เสวี่ย โม่อวี่กลับมา พอเห็นก็จะบังคับให้หลีจวินแต่งงานกับมู่หวั่นชิว หลีจวินรู้สึกว่าถูกหลอก เป็นแผนการบีบบังคับให้แต่งงาน ในใจไม่ยินยอม บอกว่าจะรับเป็นอนุ เจิงฝานซิวที่ตามมาภายหลังก็คิดว่านี่เป็นจุดต่ำสุดแล้ว แต่มู่หวั่นชิวกลับไม่ตกลงสาบานว่าจะไม่แต่งเข้าตระกูลหลี หลีจวินจากที่รู้สึกว่าถูกหลอกคราวนี้มาเสียใจอีกที่ถูกปฏิเสธ ไม่เข้าใจอารมณ์ตัวเองเลย แต่นางเอกน่ะไม่อยากรักใครอีกแล้วในชาตินี้ เลยบอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำ   
หลังจากการตรวจสอบอีกครั้ง มู่หวั่นชิวก็ถูกหร่วนอวี้จับมาที่จวนบัญชาการ เพราะคิดว่าเป็นคนที่ฆ่าหร่วนจง หลังจากที่ปฏิเสธข้อกล่าวหา พยานยังถูกฆ่าตาย หร่วนอวี้ก็ยังปักใจเชื่อ และคิดว่าไป๋ชิวคือมู่หวั่นชิว บุตรสาวอัครเสนาบดีที่หลบหนีไป กำลังคิดจะฆ่าคนปิดปากเพราะความแค้นล้างตระกูล ใต้เท้าฉินเจ้าเมืองก็มาห้าม ยังมีหวงผู่อวี้ที่มู่หวั่นชิวเคยช่วยให้ได้สิทธิ์ในการขายใบสนหอม ก็ช่วยพูด และยอมตกลงลองเดินหมากพิสูจน์ เพราะว่ามู่หวั่นชิวที่ทุกคนได้ยินชื่อเสียงเป็นบุตรสาวที่ดุร้าย พิณ หมาก วาดภาพ อักษรล้วนทำไม่เป็น ชอบฝึกวรยุทธ์อย่างเดียว ต่างจากมู่หวั่นชิวตรงหน้าที่สุด ผลสุดท้าย มู่หวั่นชิวก็ชนะการเดินหมากกับหร่วนอวี้ ได้รับการปล่อยตัวออกมา
แต่เพราะเรื่องนี้ หร่วนอวี้ได้ตามราวีมาเดินหมากด้วยอยู่เรื่อย มู่หวั่นชิวไม่ชอบก็คอยหลบหน้า จนครั้งนี้รู้ว่าหลีจวินกลับมาจากการไปเปิดตลาดที่อันซุ่นเลยไปหา ได้เห็นวัตถุดิบเครื่องหอมใหม่ นางก็บอกได้หมด แล้วก็โดนหลีจวินหลอกถามล้วงความลับ มู่หวั่นชิวโกหกไว้เยอะ จะแก้ก็ไม่ง่ายก็ต้องโกหกต่อไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นนางหมั้นหมายกับเฮยมู่แต่เด็ก แค่นี้หลีจวินก็โกรธ งอนไม่พูดด้วย นางยังนึกว่าเพราะเรื่องคราวก่อน แค่นิดเดียวก็โกรธ พระเอกก็ขี้งอน ฉลาดมากเลยนึกไปเองมากมาย ส่วนนางเอก นางก็แต่งเรื่องมาก เรื่องนางกับเฮยมู่เป็นคนเดียวกัน คนอื่นไม่รู้หาตัวให้ทั่ว นางก็พูดออกมาอย่างง่ายดาย ราวกับรู้จักคุ้นเคยดี ใครก็คิดว่าทั้งคู่รักกันลึกซึ้ง จะเห็นพระเอกเดี๋ยวอารมณ์ดี เดี๋ยวอารมณ์เสียเลยทีเดียว บทเริ่มเยอะ จะชวนกินข้าวก็ไม่พูด นางเอกยังพูดเองเป็นอะไรของเค้า แค่ข้าวมื้อเดียวก็ขี้เหนียว คือนางยังคิดไม่ออกอีกนะ
ส่วนหร่วนอวี้ยังไม่ละความพยายามคราวนี้คิดจะแต่งนางเป็นอนุเลยทีเดียว เพราะเดินหมากแพ้เนี่ย มู่หวั่นชิวก็เริ่มคิดได้ว่าชาติก่อนชอบคนแบบนี้ได้ไง ไม่เหมือนหลีจวินเลย นางเอกก็ยังไม่รู้ตัวอีก ว่านางเริ่มชอบพระเอกแล้ว จะเอาหร่วนอวี้เปรียบเทียบกับหลีจวินประจำ
มู่หวั่นชิวแอบให้สั่วจื่อซื้อเม็ดหอมบุปผาสวรรค์ของร้านอี้เหอกลับมาในราคาต่ำ เพราะขายไม่ออกจากที่ถูกหลีจวินตัดทิ้งประกาศว่ากลิ่นไม่คงที่ กำลังคิดว่าจะแก้สูตรยังไง นางก็ใช้หม้อสกัดหัวเชื้อน้ำหอม ที่เป็นแก้ว แต่ความจริงหม้อกลั่นหัวเชื้อสุราต้องใช้เหล็ก นางกำลังทดลองก็รู้ว่ามีความผิดปกติเพราะหม้อระเบิด

หลังอ่านเล่มสาม :
กู่ฉินวางแผนร้ายมากมายเพื่อตำราลับตระกูลเว่ย มาที่เมืองต้าเยี่ยในที่สุดก็ได้เจอกับศัตรูคู่แค้น และได้รู้ว่าความแค้นในชาติที่แล้วเกิดจากอะไร ทุกอย่างล้วนเป็นการหลอกใช้ ส่วนหลีจวินก็เริ่มสังเกตเห็นความสามารถ พรสวรรค์ของมู่หวั่นชิวขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกก็ลึกล้ำขึ้น แต่เจ้าตัวยังไม่รู้เลยนะ เอาใจช่วยทั้งเรื่องรัก และเรื่องปรุงเครื่องหอมต่อไป



โปรยปกเล่ม4 :
นางสาบานว่าชาตินี้จะไม่แต่งกับบุรุษใด
จะไม่ยอมก้าวลงไปในกงล้อแห่งความรักเหมือนชาติก่อน ที่ต้องถูกความรักแผดเผาจนตาย!

กลหมื่นเคราะห์กระดานเดียวถึงกับทำให้ ‘หร่วนอวี้’ ติดใจในตัว ‘มู่หวั่นชิว’
ทำให้ชื่อเสียงของมู่หวั่นชิวต้องมัวหมองจนมิอาจแต่งให้ชายใดได้อีก
ทว่า... กลับมีบุรุษผู้หนึ่งที่ไม่เคยหนีห่างจากนาง
ผู้ที่ชะตาในชาตินี้ได้เกี่ยวพันกับนางอย่างแยกไม่ออก
ในชาตินี้หากเขารอด... นางก็รอด หากเขาตาย... นางก็คงมีจุดจบไม่ต่างจากชาติก่อน

เมื่อชีวิตของ ‘หลีจวิน’ และตระกูลหลีมีภัย
นางพร้อมทุ่มเททั้งชีวิตจิตใจช่วยเหลือพวกเขา
แต่เมื่อเขาเอื้อนเอ่ยขอนางแต่งงาน... ภาพอันโหดร้ายในชาติก่อนก็หวนคืน
กระนั้นท่าทีอันอ่อนโยน ใส่ใจ และพร้อมเคียงข้างของเขาก็เริ่มสั่นคลอนจิตใจดุจน้ำแข็งของนางเข้าแล้ว!

คำนำสำนักพิมพ์ เล่ม4 :
เมื่อหร่วนอวี้มิอาจครอบครอง มู่หวั่นชิว เขาจึงทำให้ชื่อเสียงของนางต้องมัวหมองจนไม่อาจแต่งให้ใครได้อีก ทว่าถึงนางจะสาบานไม่แต่งให้ใคร ด้วยเข็ดขยาดกับชีวิตรักในชาติก่อน ก็ยังมีบุรุษผู้หนึ่งที่ไม่สนใจชื่อเสียงไม่ดีของนาง ก้าวเข้ามาช่วยเหลือและเคียงข้างนางไม่ว่าเรื่องใด เป็นสหายคนพิเศษที่มีไว้ให้นางพึ่งพิง

เมื่อปลายหอกของอิงอ๋องพุุ่งมาทางตระกูลหลีที่เปรียบดังต้นไม้ใหญ่ของมู่หวั่นชิว ตระกูลหลิ่วหวังชิงสิทธิ์การเป็นวาณิชหลวงไปจากตระกูลหลี สุดท้ายแล้วมู่หวั่นชิวจะช่วยเหลือพวกเขาได้อย่างไร หร่วนอวี้จะวางแผนร้ายอะไรอีก และนางจะรักษาหัวใจตนเองไม่ให้หวั่นไหวไปกับท่าทีอ่อนโยนของหลีจวินได้หรือไม่ เชิญท่านนักอ่านพลิกหน้าต่อไปได้เลยค่ะ

สำนักพิมพ์แจ่มใส

เล่ม4 :
เพราะใช้หม้อกลั่นผิดประเภททำให้การกลั่นสุราหม้อระเบิด แต่ดีที่โม่เสวี่ยช่วยออกมาได้ทันทำให้ได้รับบาดเจ็บที่แขน มู่หวั่นชิวก็ถามหลีจวินว่าจะมีที่ไหนสามารถทำหม้อกลั่นแบบนี้ได้ หลีจวินก็บอกว่าหอเสวียนจี มู่หวั่นชิวก็ยังรู้อีกว่าเป็นหน่วยข่าวลับ นางจะมีหลุดเรื่องที่ไม่น่าจะรู้ออกมาอยู่เรื่อยแล้วจะโกหกโดยใช้ชื่อเฮยมู่จนติดเป็นนิสัย พอได้ยินว่าเฮยมู่บอก หลีจวินก็โกรธอีก อารมณ์ไม่คงที่ อีกคนก็ไม่รู้เรื่อง ออกมาเจอหร่วนอวี้ หลีจวินก็โกรธอีก จนฉินเจี้ยนต้องบอกว่ามู่หวั่นชิวไม่ชอบหร่วนอวี้หรอก คือคนฉลาดมาก แต่เรื่องของตัวเองนี่มองไม่ออก คนอื่นอยากจะขำก็ต้องกลั้นเอาไว้ มู่หวั่นชิวปฏิเสธหร่วนอวี้ บอกว่ามีคนที่ชอบแล้วคือหลีจวิน แต่หลีจวินที่แอบฟังอยู่กลับรู้ว่านี่คือการเอาสองคนมาชนให้ทะเลาะกัน หลีจวินเศร้าใจแต่ยอม
หลังจากหายมู่หวั่นชิวมีเวลาว่างได้ออกมาดูที่หออีผิ่นอีกครั้งได้ถูกคนเชิญไปเล่นพนันที่บ่อนฝั่งตรงข้าม ที่แท้ก็คือเหลิ่งกัง ที่เคยแพ้พนันมู่หวั่นชิวหนึ่งล้านตำลึงเมื่อสองปีก่อน และเมื่อหลายเดือนก่อนแพ้พนันทายว่าสัตว์มงคลบนหลังคาหออีผิ่นจะตกลงมา ในที่สุดมู่หวั่นชิวก็รู้ว่าเงินหนึ่งล้านตำลึงใครขโมยไป และได้ตกลงกันได้ว่าจะเอาหออีผิ่นไว้ ส่วนบ่อนพนันให้แบ่งหุ้นกัน หลีจวินที่มาถึงภายหลังพอรู้เรื่องก็สนับสนุนให้ทำสัญญาอย่างดี แต่ต้องกลับก่อนเพราะนายท่านหลีตามตัว เรื่องที่ตามตัวไปคือเรื่องเปิดฝ่ายรังสรรค์กลิ่นสอง และให้รับเหยาจิ่นเป็นอนุภรรยา ตอนแรกหลีจวินไม่ยอม แต่นายท่านหลียอมอ่อนข้อให้ต่อไปรับมู่หวั่นชิวได้ หลีจวินเลยยอมตกลง
ตอนกลับจวนมู่หวั่นชิวโดนหร่วนอวี้จับตัวไป ทำยังไงมู่หวั่นชิวก็ไม่ยอมถึงขนาดขู่ฆ่าตัวตาย หร่วนอวี้เลยยอมตกลง และพอได้พบหงซิ่วที่ในชาติก่อนเคยเป็นสาวใช้ ยิ่งทำให้รู้ว่าเมื่อชาติก่อนนางโดนหลอกมาตั้งแต่แรกเริ่ม โดนเหยียดหยามเป็นหญิงนางโลม ทำให้เป็นหญิงโง่บ้ารัก และนี่ก็เป็นแผนการของหร่วนอวี้ที่จะให้คนเข้าใจผิด เป็นหญิงปล่อยตัวใจง่าย ยังไงมู่หวั่นชิวก็ไม่ยอมแต่งกับหร่วนอวี้
วันชิงหมิงมู่หวั่นชิวพาโม่เสวี่ยขึ้นเขาอวิ๋นไป่ ไปเซ่นไหว้ท่านพ่อท่านแม่ ทำให้ได้เจอ หลิ่วเฟิ่งศัตรูในอดีตอีกครั้ง แล้วก็ทำให้ได้รู้ว่าที่แท้พ่อบุญธรรมของหร่วนอวี้คือหลิ่วอู่เต๋อ ทุกเรื่องในชาติก่อนนางล้วนโดนหลอกทั้งสิ้น จากนั้นยังได้เจอเหยาจิ่นที่มาพร้อมกับหลีฮูหยินท่านแม่ของหลีจวิน และญาติพี่น้องของหลีจวิน กำลังจะหาทางหลบเลี่ยงก็มีคนมาแจ้งว่าเฮยมู่มา ทำให้มู่หวั่นชิวกลัวว่าเป็นใครมาแอบอ้างเพราะนางคือเฮยมู่ สุดท้ายไปดูโดยมีหวงผู่อวี้ตามไปด้วย มู่หวั่นชิวก็พบกับหลีจวินอยู่ในรถม้า มู่หวั่นชิวเลยใช้ตัวบัง แล้วพูดออกมา หวงผู่อวี้เข้าใจว่าเป็นเสียงเฮยมู่ที่เคยได้ยิน แต่หลีจวินกลับแปลกใจ และพานางไปเที่ยวชมธรรมชาติ
ถึงวันเปิดหออีผิ่นเทียนซย่าเป็นวันเดียวกับที่หลีจวินแต่งเหยาจิ่นเป็นอนุ วันนั้นนางนั่งคิดถึงเรื่องชาติก่อนที่เหยาจิ่นช่างเหมือนกับกู่ฉินที่ทำให้ตระกูลหลียิ่งล้มเร็วขึ้นก็เศร้าใจ เมื่อได้พบหลีจวิน ก่อนหน้านี้เพราะนางรู้แล้วว่าศัตรูที่แท้จริงที่ทำให้นางบ้านแตกจากการช่วงชิงอำนาจคืออิงอ๋อง นางจึงบอกความลับที่สืบได้ในชาติก่อนเรื่องฉางหมิ่นคนของอิงอ๋องซ่องสุมกำลังอยู่ และซ่งเสียงมีหลักฐานเอาผิดตอนนี้กำลังหลบหนีอยู่ ให้หลีหวินลองสืบดู พอหลีจวินถามว่ารู้ได้อย่างไร มู่หวั่นชิวก็บอกไปว่าเฮยมู่บอก คือมีอะไรก็โยนให้เฮยมู่ จนดูเป็นคนลึกลับ ความเป็นมายิ่งใหญ่ วันนี้หลีจวินมาบอกว่าจะออกเดินทาง มู่หวั่นชิวก็รู้ได้ทันที ตอนแรกก็ตกใจ แต่ไม่ห้าม เพียงบอกให้ระวังตัว หลีจวินก็คิดได้ว่าหญิงผู้นี้เป็นคนรู้ใจของข้าในชาตินี้จริงๆ
มู่หวั่นชิวมีเวลาว่างช่วงนี้ทำขี้ผึ้งเหลวแต่ทำยังไงก็มีกลิ่นสุราอยู่ไม่สามารถเอากลิ่นสุราออกไปได้ ก็โดนกู่ฉินมาจัดการกับมู่หวั่นชิวโดยมีนายท่านหลีอยู่ด้วยโดยใช้ข้ออ้างว่าบัญชีที่ใช้กับเม็ดกระวานหอมบุปผาสวรรค์ไม่ตรงกัน บอกว่ามู่หวั่นชิวยักยอกส่วนผสม นายท่านหลีเห็นมู่หวั่นชิวในตอนแรกเห็นบุคลิก ท่าทางก็ชื่นชมแต่รู้สึกเสียดายที่เป็นคนปล่อยตัวชื่อเสียงเสีย ต้องกำจัดไม่ให้หลีจวินหลงเสน่ห์ สุดท้ายกู่ฉินหาข้ออ้างไม่ได้ นายท่านหลีเลยให้กักตัวเอาไว้
กู่ฉินส่งข่าวให้ตระกูลหลิ่วมาเก็บมู่หวั่นชิว ตัวเองระหว่างนั้นส่งเหยาอี๋เหนียงไปคฤหาสน์ตระกูลไป๋หาว่ามู่หวั่นชิวใช้อะไรทำให้เม็ดกระวานหอมบุปผาสวรรค์กลิ่นคงที่ สุดท้ายไม่ได้ผล เหยาอี๋เหนียงโดนโม่เสวี่ยจัดการ บุกเข้าไปไม่ได้ไม่รู้เคล็ดลับที่ใช้
มู่หวั่นชิวได้พูดคุยกับนายท่านหลี บอกว่าใช้หัวเชื้อสุราในการปรับแก้สูตร และบอกว่าปรับแก้ทั้งหมดหกแสนเม็ดไม่ใช่สองแสนเม็ด คืนนั้นมีคนตระกูลหลิ่วมาลอบฆ่ามู่หวั่นชิวแต่ได้หน่วยเงาหวังชีที่หลีจวินส่งมาดูแล และองครักษ์ลับในจวนป้องกันได้
เหยาจิ่นจะเอาเรื่องโม่เสวี่ย มู่หวั่นชิวเลยคิดแผนว่าให้เฮยมู่เขียนสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมคัดเลือกเครื่องหอมในงานอภิเษก องค์หญิงหมิงอวี้
มู่หวั่นชิวพบว่าหร่วนอวี้กลับมาแล้วแต่หลีจวินยังไม่กลับมาเลยรีบไปดูก็พบว่ากลับมาแล้วแต่ถูกพิษเจ็ดวิญญาณ ต้องได้ยาแก้มาภายในเจ็ดวัน หร่วนอวี้ก็รีบมาดูหลีจวิน ว่าใช่คนที่ช่วยซ่งเสียงหรือไม่ มู่หวั่นชิวจึงใช้ตัวเองเพื่อปกปิดว่าหลีจวินบาดเจ็บ เมื่อได้ยามาก็เป็นยาปลอม มู่หวั่นชิวจึงต้องเข้าใกล้หร่วนอวี้เพื่อขโมยยา ทั้งยังโดนหลิ่วเฟิ่งตบ โดนคนดูถูก หลีจวินก็ยังเข้าใจผิดทำให้มู่หวั่นชิวสติแตกคิดถึงคำพูดในชาติก่อน หลีจวินรู้ได้ทันทีว่าถ้าปล่อยไปจะไม่ได้นางกลับมาอีกเลย จึงยอมให้นางระบายความโกรธแค้นออกมาจนได้สติ ส่วนตัวเองก็โดนกัด โดนเตะจนเลือดอาบ
มู่หวั่นชิวคอยดูแลหลีจวินอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลไป๋ หลีจวินเห็นความสามรถของมู่หวั่นชิวทุกอย่าง จนเกิดเหตุกับฝ่ายรังสรรค์กลิ่น เหมือนกับมู่หวั่นชิวในตอนนั้นแต่กูฉินไม่โชคดีเหมือนมู่หวั่นชิว กู่ฉินบาดเจ็บถูกไฟคลอกจมูกใช้การไม่ได้ มู่หวั่นชิวเสนอตัวแต่หลีหวินกลับปฏิเสธอย่างแล้งน้ำใจ ยังไงชะตาของนางกับตระกูลหลีก็เชื่อมกัน ตระกูลหลีจะล้มไม่ได้
มู่หวั่นชิวจึงตัดสินใจที่จะทำเองโดยอาศัยชื่อโรงธูปไป่เยี่ย กลับมาถึงจวนได้พบหลีจวิน หลีจวินจึงบอกว่าเพราะกลัวนางจะเป็นกู่ฉินคนที่สอง เลยต้องป้องกันไว้ก่อน และขอร้องให้มู่หวั่นชิวช่วยตระกูลหลีด้วย

หลังอ่านเล่มสี่ :
เล่มนี้มู่หวั่นชิวได้รู้เรื่องราวที่ชาติก่อนไม่รู้อีกหลายเรื่อง เข้าใจได้ทั้งหมดว่าควรจะแก้แค้นใคร และถูกหลอกใช้เป็นคนโง่ยังไง และเข้าใจว่าในชาตินี้ตระกูลหลีอยู่นางอยู่ ถ้าตระกูลหลีล้มนางก็แก้แค้นไม่ได้ ยังไงก็ให้ตระกูลหลีล้มไม่ได้เด็ดขาด ความรักก็ชัดเจนขึ้นทั้งหลีจวินทั้งหร่วนอวี้ต่างชอบมู่หวั่นชิวจริงๆ แต่นางกลับสาบานว่าชาตินี้จะไม่รักใครอีก หลีจวินจะทำยังไงดีให้มู่หวั่นชิวสนใจได้



โปรยปกเล่ม5 :
ในชาตินี้นางหวังเพียงเป็นดอกทู่ซือที่พึ่งพิงต้นไม้ใหญ่อย่างตระกูลหลี
ตราบใดที่พวกเขายังยืนหยัดอยู่ได้ ชีวิตของนางก็จะอยู่รอดปลอดภัย

แม้หลีจวินจะไม่ตายเหมือนในชาติก่อน
แต่เค้าลางการล่มสลายของตระกูลหลียังคงปรากฏขึ้นให้เห็น
เพียงไม่กี่วันก่อนที่ตระกูลหลีจะส่งเครื่องหอมเข้าคัดเลือกในงานพระราชพิธีอภิเษกขององค์หญิงหมิงอวี้
กู่ฉินก็คิดคดด้วยการขายสูตรลับ ‘เม็ดหอมเศร้าอาดูร’ ให้กับตระกูลหลิ่ว
แม้มู่หวั่นชิวจะปรับแก้สูตรของกู่ฉินได้สำเร็จ
หร่วนอวี้ที่ได้รับคำสั่งลับมาจากอิงอ๋อง...
ก็ไม่มีทางปล่อยให้เครื่องหอมของตระกูลหลีไปโผล่ในงานคัดเลือกได้แม้แต่ชิ้นเดียว!

ครั้งนี้หากตระกูลหลีเสียสิทธิ์การเป็นวาณิชหลวงไป
ความเป็นผู้นำในวงการปรุงเครื่องหอมของพวกเขาจะต้องสั่นคลอนอย่างแน่นอน!

คำนำสำนักพิมพ์เล่ม5 :
ตระกูลหลีต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่จะเสียสิทธิ์การเป็นวาณิชหลวง เมื่อตระกูลหลิ่วร่วมมือกับกู่ฉิน ใช้สูตรเม็ดหอมเศร้าอาดูรของตระกูลหลีเข้าร่วมการคัดเลือกเครื่องหอม คนเดียวที่หลีจวินมองเห็นเป็นความหวังย่อมหนีไม่พ้น มู่หวั่นชิว ยอดดวงใจของเขา แต่ถึงนางจะคิดค้นสูตรเครื่องหอมออกมาได้เส้นทางในการขนไปยังเมืองอันคังนั้นก็ยังถือเป็นปัญหา เมื่ออิงอ๋องมีคำสั่งลับมายังหร่วนอวี้ ไม่ว่าเครื่องหอมใดที่ตระกูลหลีส่งออกมาจะต้องถูกยึดเอาไว้ทั้งหมด ไม่อาจปล่อยให้ไปโผล่ในงานพระราชพิธีอภิเษกขององค์หญิงอวี้ได้

หลีจวินที่ขึ้นชื่อว่าอัจฉริยบุรุษจะใช้วิธีการใดมารับมือเพื่อความอยู่รอดของตระกูล มู่หวั่นชิวออกจากช่วยเหลือตระกูลหลีอย่างสุดชีวิตแล้ว ฐานะของ เฮยมู่ ก็ยังถูกผู้คนจากทุกทางบีบคั้นให้เปิดเผยตัว มาร่วมลุ้นกันค่ะว่ามู่หวั่นชิว จะเอาตัวรอดจากปัญหาทั้งหลายนี้ไปได้อย่างไร

สำนักพิมพ์แจ่มใส

เนื้อหาเล็กน้อย :
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ สีหน้ามู่หวั่นชิวก็เปลี่ยนเป็นจริงจังมาก "ข้าใช้ประโยชน์พี่จริงๆ" นางใช้ประโยชน์เขาแก้แค้นบัญชีเลือดของตระกูล ท่าทางแข็งกระด้างค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเศร้าสลด หลีจวินพูดทอดถอนใจอย่างหงอยเหงา "อาชิวไม่ยอมพูดแม้กระทั่งคำโกหกกับข้าแล้ว" รู้แต่แรกว่านางใช้ประโยชน์เขาอยู่ แต่ว่าพอได้ฟังมู่หวั่นชิวพูดตามตรงเช่นนั้น มุมหนึ่งในหัวใจหลีจวินก็อดรู้สึกว่างเปล่าไม่ได้

อากาศภายในห้องอึดอัดจนทำให้คนหายใจแทบไม่ออก ในตอนที่มู่หวั่นชิวตัดสินใจว่าจะหนีออกไปก่อนเพื่อความปลอดภัย นางกลับเห็นหลีจวินยิ้มเจ้าเล่ห์ "อาชิวใช้ประโยชน์ข้าได้ แสดงว่าข้ายังมีประโยชน์อยู่" เขาเดินขึ้นหน้าหนึ่งก้าว โน้มตัวลงมองดูมู่หวั่นชิวที่อ้าปากกว้างด้วยความตกใจ "แต่อาชิวอย่าลืมนะ คิดจะใช้ประโยชน์ใครก็ต้องลงทุนก่อน" มองดูประกายที่วาดผ่านในดวงตาเขาแล้ว มู่หวั่นชิวก็ตัวสั่น

เล่ม5 :
มู่หวั่นชิวคิดได้แล้วว่าจะทำอะไร สำหรับเม็ดหอมเศร้าอาดูรคงจะปรับแก้ไม่ได้ ส่วนหลีจวินก็หลอกถามถึงว่าไปหาเฮยมู่ มู่หวั่นชิวก็โกหกทันทีเพราะคิดว่านางคือเฮยมู่ เฮยมู่คือนาง หลีจวินคิดไว้ว่าเสร็จจากเรื่องงานอภิเษกขององค์หญิงหมิงอวี้ปล่อยเฮยมู่ไว้ไม่ได้แล้ว ข้าหึงจนทนไม่ไหวแล้วนะ มู่หวั่นชิวคิดถึงกลิ่น สังสารวัฏ ในตำราวิชาปรุงเครื่องหอมตระกูลเว่ย และคิดว่าทำได้ เพียงแต่นางมีหม้อกลั่นใบเดียวเสียเวลา หลีจวินจึงพาไปข้างบ้าน ที่ปรับเป็นห้องรังสรรค์กลิ่น และมีหม้อกลั่นกับของต่างๆของตระกูลเว่ยหลายอย่างเพราะคิดว่ามู่หวั่นชิวต้องใช้เป็น แต่ยังไงก็ไม่ยอมบอกมู่หวั่นชิวว่าที่ทำเพียงเอาใจนาง เพียงบอกว่ากันไว้ก่อน ปากแข็งสุดๆ
มู่หวั่นชิว มีพรสวรรค์มาก ผ่านเรื่องราวต่างๆมากมาย ทั้งยังดีดพิณได้อย่างสุดยอด สิ่งเหล่านี้ทำให้นางก้าวเข้าสู่เส้นทางเครื่องหอม มีจินตนาการเกินกว่าใครทั้งหมด เพียงวันเดียวก็สามารถทำน้ำหอมออกมาได้ แต่พอให้หลีจวินลอง หลีจวินไม่ได้บอกอะไร บอกแค่เพียงให้ลองปรับแก้สูตรเม็ดหอมเศร้าอาดูรดู มู่หวั่นชิวก็คิดว่าชาติก่อน เม็ดหอมเศร้าอาดูรก็เป็นเครื่องหอมที่ได้รับเลือก เหมือนกับธูปพระพยักหน้า หรือหออีผิ่นเทียนซย่า นางไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ แม้จะเศร้าใจแต่ก็ยอมทำ
หร่วนอวี้ขัดขวางทุกทางเพราะได้คำสั่งลับจากอิงอ๋อง ดักจับการส่งเครื่องหอมของตระกูลหลีทุกอย่างไม่ให้ตระกูลหลีส่งเครื่องหอมได้ทันเวลา และคิดว่าหลีจวินที่เจ้าเล่ห์จะใช้วิธีไหนในการส่งเครื่องหอมกันแน่ ทั้งปล้นเครื่องหอม กักเครื่องหอม สุดท้ายยังรู้ว่ายังมีเหลือรอดไปสองหมื่นเก้าพันเม็ดต้องให้อิงอ๋องช่วย เม็ดหอมทั้งห้าหมื่นเม็ดจึงถูกชิงไปทั้งหมด ทุกคนได้รู้ความสามารถของมู่หวั่นชิวว่าเป็นอัจฉริยะจริงๆ อิงอ๋องต้องการใช้งานบอกว่าต้องเอาตัวมาให้ได้ถ้าไม่ได้ต้องกำจัดทิ้ง
เรื่องที่เม็ดหอมเศร้าอาดูรถูกชิงไปทำให้มู่หวั่นชิวเสียใจมาก ความจริงแล้วหลีจวินได้บอกว่าได้ส่งเม็ดหอมออกไปสามทางแต่สุดท้ายยังโดนดักไปทั้งหมด และหร่วนอวี้ก็คิดจะมาจับตัวมู่หวั่นชิวแต่หลีจวินรู้ตัว จึงกันไว้ก่อนบอกว่านางเป็นคนหัวแข็งดื้อรั้น ถ้านางไม่ยอมก็คือทางตายหร่วนอวี้ก็คิดถึงครั้งก่อนที่ตนจับตัวมู่หวั่นชิวไป นางไม่ยินยอมถึงกับจะฆ่าตัวตาย และหลีจวินก็ยอมรับกับหร่วนอวี้ว่าชอบมู่หวั่นชิว
การคัดเลือกเครื่องหอมขององค์หญิงหมิงอวี้มาถึง อิงอ๋องพยายามทำให้องค์หญิงหมิงอวี้สนใจเม็ดหอมเศร้าอาดูรที่หลิ่วเฟิ่งขโมยสูตรมา ซึ่งองค์หญิงก็ชอบ แต่สุดท้ายเครื่องหอมของตระกูลหลีก็มาถึง น้ำหอมสังสารวัฏ ทำให้คนที่ได้ดมต่างชื่นชม สุดท้ายคนที่ได้ที่หนึ่งจึงเป็นมู่หวั่นชิว สิทธิ์ในการเป็นวาณิชหลวงของตระกูลหลียังคงอยู่
เมื่อมู่หวั่นชิวรู้เรื่องนางก็โกรธที่หลีจวินโกหกนางมาตลอด ไม่บอกความจริง นางคิดว่านางเชื่อใจหลีจวินที่สุดแต่ก็ยังโกหกนาง หลีจวินมาอธิบายว่าทำเพื่อหลอกหร่วนอวี้ เพราะในดวงตาของมู่หวั่นชิวปกปิดอารมณ์ไม่เป็น หลีจวินขอมู่หวั่นชิวแต่งงานอีกครั้ง แต่ดันพูดว่ากอดก็กอดแล้ว จูบก็จูบแล้ว ทำให้นางไม่สนอะไรคิดแต่ว่าการทำเช่นนี้เป็นเหมือนนางโลมในชาติก่อน ที่นางต้องการหลีกหนีชะตานี้ให้ไกลที่สุด นางจึงยิ่งโกรธ ที่จริงมู่หวั่นชิวยังไม่รู้ใจตัวเองนั่นเอง ว่าตอนนี้ในใจมีหลีจวินแต่นึกว่าเห็นเป็นเหมือนพี่ชายที่ไว้ใจที่สุด
หร่วนอวี้ตัดสินใจไปซั่วหยางเพื่อตรวจสอบ เฮยมู่และโรงธูปไป่เยี่ย ตอนนี้โรงธูปไป่เยี่ยกำลังมีภัยเพราะอิงอ๋องหมายตาเฮยมู่ เอาไว้
หลีจวินตัดสินใจคัดคนงาน อาจารย์ออก หลังจากเกิดเรื่องกู่ฉิน คนที่เชื่อใจไม่ได้เอาไว้ไม่ได้ พวกพ่อบ้านล้วนคัดค้านมีเพียงมู่หวั่นชิว พอบอกก็บอกว่าไม่สมควรใช้ก็ไม่ควรใช้ ไม่มีการโวยวาย พูดเหมือนธรรมดา ตรงใจหลีจวินที่สุด และยังบอกว่าคนไหนควรอยู่คนไหนสมควรไปได้อีกด้วย ไม่มีตกใจแม้แต่น้อย ทำให้หลีจวินคิดช่างโชดดีที่นางมีใจให้ตระกูลหลี เพราะนางฉลาดช่างสังเกตมาก และนางก็ชอบปรุงแต่เครื่องหอม ถ้าคิดวางแผนก็สู้ด้วยลำบากแล้ว และหลีจวินก็บอกว่าให้มู่หวั่นชิวกลับมาทำงานที่ร้านหลีจี้ มู่หวั่นชิวคิดว่าวันดีๆที่อยู่สบายได้หมดไปแล้ว หลีจวินให้มู่หวั่นชิวคุมฝ่ายรังสรรค์แทนที่กู่ฉิน รับทุกอย่างไปดูแล ถ้าเป็นคนอื่นคงดีใจแทบตาย แต่มู่หวั่นชิวกลับคิดว่าข้าจะเอาเวลาที่ไหนมาทำ ไม่ชอบนางจะไม่รับ หลีจวินจึงบอกว่ายังไงฝ่ายรังสรรค์ก็ต้องแขวนชื่อนางไว้ หลีจวินขอมู่หวั่นชิวแต่งงานเป็นภรรยา ไม่ใช่อนุภรรยา มู่หวั่นชิวก็ไม่ตกลง นางคิดว่าเพราะตระกูลหลีกำลังย่ำแย่ จะหลอกใช้นางหรือไม่ นางไม่เชื่อในความรักอีกแล้ว และถ้าหลีจวินรู้ความจริงว่านางเป็นบุตรสาวของขุนนางต้องโทษจะผลักนางออกไปหรือไม่ นางรับไม่ได้แน่นอน นางจึงบอกหลีจวินว่านางหลอกใช้เพราะอยากแก้แค้นหร่วนอวี้ ส่วนหลิ่วเฟิ่ง อิงอ๋อง นางคิดในใจ และบอกว่ายังไงนางก็ไม่ทรยศตระกูลหลีแน่นอน หลีจวินรู้สึกเศร้าใจมากๆ ที่นางไม่ตกลง  
กู่ฉินกำลังดิ้นรนเพราะรู้ว่าตระกูลหลีจะตัดนางทิ้ง กำลังลองทุกวิธีแต่ไม่สามารถทำได้เพราะอาจารย์ที่เป็นศิษย์ก็ถูกไล่ออกไปแล้ว สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ตัวเองก็ถูกกักตัวคิดหาทางหนีไม่อยากจะถูกขังที่นี่มีเงินแต่ไม่ได้ใช้
มู่หวั่นชิวรู้ข่าวเรื่องโรงธูปไป่เยี่ยโดนบีบจากหลายทางทั้งจากทางการที่หร่วนอวี้ต้องการตรวจสอบทะเบียนเรือนของเฮยมู่ และตั๋วเงินที่ขึ้นไม่ได้เพราะร้านเต๋อเซิ่งชางที่เป็นร้านกิจการตระกูลหลี มู่หวั่นชิวมาขอร้องหลีจวิน แต่ยังไงหลีจวินก็ปฏิเสธบอกแต่ว่าอยากพบเฮยมู่ซักครั้งแล้วทุกอย่างก็จะพูดกันง่าย เรื่องนี้ลามมาถึงเมืองต้าเยี่ยที่มู่หวั่นชิวใช้ชื่อเฮยมู่มามีหุ้นในบ่อนอีผิ่น เหลิ่งกังก็บอกว่าให้เอาทะเบียนเรือนของเฮยมู่มาแสดง มู่หวั่นชิวจนหนทางเลยต้องไปขอร้องหร่วนอวี้แต่ หร่วนอวี้ไม่อยู่ เลยไปขอความช่วยเหลือหวงผู่อวี้ ทุกอย่างอยู่ในสายตาของหลีจวิน ทั้งมู่หวั่นชิวก็ยังให้โม่เสวี่ยส่งจดหมายขอความช่วยเหลือเจิงฝานซิวแต่ก็ไม่ได้เพราะเจิงฝานซิวไม่ว่างและนึกว่าเรื่องนี้ให้หลีจวินช่วยได้ เมื่อจนหนทางนางจึงคิดไปสารภาพกับหลีจวิน กำลังจะบอกหลีจวินก็หนีไปอีกเพราะไม่อยากฟังว่านางจะบอกว่าให้ปล่อยไปเพราะช่วยชีวิตหลายครั้ง เรื่องยุ่งเข้าไปอีก โดนบีบขนาดนี้ ในที่สุดก็เลยตัดสินใจว่าเฮยมู่จะมาพบ พอจะแปลงเป็นเฮยมู่ไม่ถนัดอีก เลยไปทั้งอย่างนั้น พูดทำนองว่าข้ากับเฮยมู่เป็นคนเดียวกัน คนอื่นฟังก็เข้าใจว่ารักกันมากจะได้ไง หลีจวินอยากพบเฮยมู่เพราะอยากจะบอกว่าจะแต่งงานกับนางก็ต้องพูดกับเจ้าตัวจะให้พูดแทนได้ไง เรื่องยุ่งไปกันใหญ่ สุดท้ายมู่หวั่นชิวต้องรับปาก วันรุ่งขึ้นมาในมาดเฮยมู่ ต้องแสดงการหั่นให้ดูอีก พอพูดเท่านั้นหลีจวินก็จำเสียงได้ มู่หวั่นชิวกลัวจะไม่ได้บอกเลยรีบบอกว่าไม่มีเฮยมู่มีแต่นางมาตลอด และบอกความจริงทั้งหมด ยกเว้นเรื่องที่นางเป็นบุตรสาวอัครเสนาบดีมู่กับเรื่องที่ตำราปรุงเครื่องหอมสกุลเว่ยอยู่ที่นางได้ยังไง หลีจวินโกรธที่มู่หวั่นชิวเอาแต่หลอกมาตลอด แต่โม่เสวี่ยรีบตามไปบอกว่ามู่หวั่นชิวคิดจะสละโรงธูปไป่เยี่ยเพื่อช่วยตระกูลหลี ขนาดนี้ยังไม่ยอมอภัยให้อีกหรือ
หลีจวินได้ข่าวว่ากู่ฉินหนีออกไปได้โดยคนงานในบ้านขุดทางใต้ดินเข้ามาช่วยออกไป จึงหาทางวางแผนป้องกันกับนายท่านหลี ถึงสถานการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด ให้ปล่อยข่าวออกไปว่ากู่ฉินอยู่ที่ตระกูลหวงผู่ให้สองตระกูลบาดหมางกัน นายท่านหลีถามถึงมู่หวั่นชิว ถ้าเป็นก่อนหน้านี้หลีจวินคงรับปากตามกลับมาทันใด แต่พอรู้เหตุผลทั้งหมดว่านางช่วยตระกูลหลีมาตลอด และตนยังโกรธที่พอรู้ความจริงว่าที่ไม่ยอมแต่งงานเพราะต้องการตามอย่างปรมาจารย์เว่ย ก็บังคับจูบ เพื่อจะได้เอามาอยู่ข้างกายตนได้ ตอนนี้ความคิดเปลี่ยนไปนางอยากจะทำอะไร จะสนับสนุนทุกอย่างจนนางยอมแต่งงานกับตนเอง นายท่านหลียังถามถึงเฮยมู่ หลีจวินไม่บอกใครปิดบังตัวตนแท้จริงเอาไว้ให้ และก็พูดเรื่องแคว้นเฉินที่เกิดเรื่องการเมืองภายใน ตอนนั้นเองคนสนิทรัชทายาทแคว้นเฉินก็มาขอร้องให้ตระกูลหลีส่งคนไปช่วยรัชทายาทจ้าวจงที่โดนกบฏให้ได้อำนาจคืน สัญญาว่าจะสาบานเป็นพี่น้องต่างแซ่ และตั้งให้มีฐานะเทียบเท่าอ๋อง หลีจวินจึงตัดสินใจไปช่วยด้วยตนเอง เพื่อความปลอดภัยของมู่หวั่นชิวจึงไม่ได้บอกนาง เพราะกลัวว่าอิงอ๋องจะหมายตา สั่งให้มีหน่วยเงาคอยคุ้มกันเพิ่มขึ้น ส่วนตนเองออกเดินทางไปโดยไม่บอกใคร
มู่หวั่นชิวก็นึกว่ายังทะเลาะโกรธกันอยู่กว่าจะรู้ว่าหลีจวินไม่อยู่ก็หลายวันผ่านไป ทั้งเพิ่งรู้ข่าวกู่ฉินขอไปพึ่งพิงตระกูลหวงผู่ จึงส่งโม่เสวี่ยไปบอกหวงผู่อวี้ว่าเฮยมู่ยินดีร่วมกับหวงผู่อวี้ต่อเมื่อกู่ฉินอยู่ด้วย เป็นแผนให้ตระกูลหลิ่วกับตระกูลหวงผู่แตกกัน แบ่งเป็นสามฝ่ายหลี หลิ่ว หวงผู่ ไม่คิดว่านี่จะทำให้เป็นเหตุให้ตระกูลหวงผู่คิดแยกจากอิงอ๋องจริงๆ เพราะอิงอ๋องมาสั่งให้หวงผู่อวี้คืนกู่ฉินให้ตระกูลหลิ่ว หวงผู่อวี้ก็เกิดความไม่ยินยอมในใจ แต่ต้องยอมทำตาม
กู่ฉินนึกว่าจะหนีรอดแต่จริงๆถูกตระกูลหลิ่วจัดฉากว่าตายโดนไฟคลอกตาย หลอกแสร้งทำดีต่อหน้า ในใจไม่ยินยอมก็ต้องยินยอมให้ตระกูลหลิ่วใช้งาน จากนั้นร้านอี้เหอก็ออกเครื่องหอมมากมายที่ดีกว่าของตระกูลหลี ตระกูลหลีเริ่มอยู่ในภาวะวิกฤติเพราะการคืนสินค้า สินค้าล้นคลัง หน้าฝนเม็ดหอมขึ้นราง่ายเพราะความชื้น และการบอกเลิกสัญญาจากราชสำนักไม่ใช้เม็ดหอม บอกคืนหนึ่งล้านเม็ด พอมู่หวั่นชิวรู้ข่าวเห็นหน้าร้านหลีจี้มีคนมาคืนสินค้าจำนวนมาก เลยไปที่คฤหาสน์ตระกูลหลีเพื่อพบนายท่านหลี กลับถูกเหยาจิ่นขวางไว้แถมพูดจาเสียหาย กลับไปจึงไปทำเม็ดกันชื้น ใช้ชื่อเฮยมู่มาขายที่หน้าร้านหลีจี้จนกระทั่งทั้งหร่วนอวี้ หวงผู่อวี้ นายท่านหลีมา ระหว่างที่เผชิญหน้าระหว่างหร่วนอวี้กับหวงผู่อวี้ก็เกิดความคิดที่ไม่ยินยอมให้ตระกูลหลีใช้เม็ดกันชื้นง่ายไปเพราะเหยาจิ่น ที่เหมือนกู่ฉินอันตรายเอาไว้ไม่ได้ ตอนที่ปฏิเสธหร่วนอวี้ หวงผู่อวี้ไป ทำให้นางเกิดความคิดขึ้น จึงยื่นข้อเสนอให้หย่าเหยาจิ่น ตอนแรกนายท่านหลีไม่ยินยอม สุดท้ายต้องกลับมาอีกครั้งพร้อมข้อตกลงว่าให้กลับไปทำงานที่ร้านหลีจี้ และขอสูตรลับการปรุงน้ำหอมสังสารวัฏ มู่หวั่นชิวที่ไม่อยากกลับไปจึงปฏิเสธ บอกว่าจะช่วยเหลือ ไม่มีทางเข้ากับตระกูลหลิ่ว ตระกูลหวงผู่เด็ดขาด และทำการตกลงให้ร้านไป่เยี่ยเป็นผู้ผลิตและขายให้ร้านหลีจี้ กับขายขี้ผึ้งเหลวทำสัญญาพร้อมกัน ตอนแรกนายท่านหลีไม่ตกลงให้รอหลีจวิน แต่มู่หวั่นชิวก็พูดจนนายท่านหลียอมเขียนสัญญา ถ้าไม่ทำสัญญาตอนนี้ก็ไม่ได้ทำแล้วสิเพราะนายท่านหลีไม่รู้ว่ามู่หวั่นชิวคือเฮยมู่ กลับมาต้องโดนหลีจวินจัดการแน่นอน นายท่านหลีขอร้องให้มู่หวั่นชิวไปงานเลี้ยงชมดอกกุ้ยที่ใต้เท้าฉินจัดขึ้น มู่หวั่นชิวตอบตกลง
ในงานเลี้ยงที่มู่หวั่นชิวปฏิเสธการมาโดยตลอด หลิ่วเฟิ่งนึกว่าตัวเองเด่นที่สุด จึงไม่ยินยอม หาทางกลั่นแกล้งมู่หวั่นชิวด้วยการให้เอาเครื่องหอมออกมาให้ดู มู่หวั่นชิวจึงเสนอการดมดอกกุ้ยหมัก ทั้งยังมีการเรียกร้องให้มู่หวั่นชิวเล่นพิณประกอบ เมื่อขัดไม่ได้จึงต้องแสดงฝีมือทำให้ทุกคนตกตะลึง พร้อมทั้งดอกกุ้ยหมักที่หอมเป็นธรรมชาติอีกด้วย

หลัวอ่านเล่มห้า :
เนื้อเรื่องเข้มข้นมากทั้งการแย่งสิทธิ์การเป็นวาณิชหลวง และการบีบบังคับจากหลายทางให้เฮยมู่แสดงตัว ทั้งยังวิกฤติที่จะทำให้ตระกูลหลีล้มได้เลยทีเดียว ทุกอย่างยังต้องใช้ไหวพริบ ความสามารถของมู่หวั่นชิวในการช่วยเหลือตระกูลหลีในครั้งนี้ว่าจะผ่านไปได้หรือไม่ เป็นเล่มที่แสดงถึงความสามารถของหลีจวิน มู่หวั่นชิว ความฉลาดเจ้าเล่ห์ของแต่ละคนไม่ธรรมดาจริงๆ   



โปรยปกหลังเล่ม6 :
เพื่อความปลอดภัยของ ‘มู่หวั่นชิว’ แล้ว
‘หลีจวิน’ ยินดีแลกกับทุกอย่าง แม้แต่ชีวิตของตนเอง!

ด้วยรากฐานของตระกูลหลีในต้าเยี่ยเริ่มไม่ปลอดภัย
หลีจวินจึงมองหากำลังหนุนทางอื่น ด้วยการบุกตะลุยไปช่วยรัชทายาทแคว้นเฉินให้ได้ขึ้นครองราชย์
กระทั่งได้รับความชอบจนทำให้ ‘เฮยมู่’ กลายเป็นจวิ้นอ๋องแห่งแคว้นเฉิน
แม้แต่อิงอ๋องหรือใครก็ไม่อาจแตะต้อง ‘โรงธูปไป่เยี่ย’ ของมู่หวั่นชิวได้อีก

แต่อิงอ๋องยังคงไม่รามือ เขาส่ง ‘จั่วเฟิง’ ให้มาเป็นเจ้าเมืองต้าเยี่ยคนใหม่
ทำให้เครื่องหอมของร้านหลีจี้ไม่อาจขายออกไป
ทางเดียวที่จะระบายของเหล่านี้ออกไปได้คือเขาต้องชิงกิจการนำเข้าเครื่องหอมของแคว้นเฉินมาให้ได้

ทว่าองค์หญิงชิงหวั่นที่เป็นทูตของแคว้นเฉินกลับยื่นข้อเสนอมาว่า...
เขาจะได้หน้าที่นี้ไปก็ต่อเมื่อแต่งงานกับนางเท่านั้น!

คำนำสำนักพิมพ์เล่ม6 :
อีกไม่กี่อึดใจยอดหญิงเซียนเครื่องหอมก็ใกล้จะมาถึงเล่มสุดท้ายแล้วนะคะ สำหรับตอนนี้ท่านนักอ่านน่าจะกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับบุรุษที่มีนามว่า "หลีจวิน" กันอยู่แน่ๆ เลยใช่ไหมคะ และคงตั้งเขาขึ้นทำเนียบพระเอกในดวงใจกันแน่ๆ สำหรับเล่มนี้ท่านนักอ่านต้องมาเอาใจช่วยพี่หลีกันต่อนะคะว่าเมื่อไรสาวเจ้าจะยอมใจอ่อนรับปากแต่งงานเสียที

โดยในเล่มนี้จะเป็นการต่อสู้สุดเข้มข้น เมื่ออิงอ๋องกับตระกูลหลิ่่วหวังล้มตระกูลหลีให้ได้ในม้วนเดียวจบ ถึงกับส่งเจ้าเมืองต้าเยี่ยคนใหม่มาร่วมมือวางแผนร่วมกับหร่วนอวี้เล่นงานตระกูลหลี รวมถึงสาวงามคนใหม่ผู้สูงศักดิ์ที่หมายปองหลีจวินและการต่อสู้เพื่อครองความเป็นหนึ่งในกิจการเครื่องหอมนี้ที่ไม่ว่าใครพลาดพลั้งไปสักก้าวหนึ่ง จุดจบคงหนีไม่พ้นความตาย

สำนักพิมพ์แจ่มใส

เนื้อเรื่องบางส่วน :
ใช่แล้วบุรุษอาศัยไม่ได้ ลูกชายต่างหากจึงจะเป็นที่พึ่งตลอดชีวิตของสตรี หากนางมีลูกชายสักคนครึ่งชีวิตหลังมีลูกหลาน หลังจากนางตายไปแล้วก็สามารถรับช่วงกิจการงานใหญ่ที่นางสร้างขึ้นมาได้ เลี้ยงดูนางจนแก่ทำศพให้ เช่นนั้นจะดีเพียงใด แต่ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่แต่งงานไปชั่วชีวิต นางจะไปเอาลูกมาจากที่ใด ไม่เช่นนั้นนางก็คลอดลูกสักคนดีหรือไม่ ไม่แต่งงาน...ขอแค่ลูกสักคน

ความคิดนี้ไร้สาระเกินไป หากเป็นเวลาปกติ มู่หวั่นชิวคงไม่กล้าแม้แต่จะคิด แต่ว่าเพิ่งถูกความไร้สาระและความกล้าหาญขององค์หญิงชิงหวั่นกระตุ้นมา มีอยู่ชั่วขณะหนึ่งที่นางคิดว่าความคิดนี้ไม่เลวเลย นางจึงขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดขึ้นมา ถ้าได้เด็กสักคนมาดูแลตอนแก่ มาจากพี่หลีย่อมดีที่สุด เขาทั้งฉลาดเจ้าเล่ห์ เป็นอัจฉริยะ หากลูกได้ติดตามเขาต้องทำให้กิจการที่ข้าสร้างมากับมือเจริญรุ่งเรืองขึ้นแน่นอน

เล่ม6 :
หลังจากเห็นฝีมือของมู่หวั่นชิวแล้วทุกคนก็ลืมไปเลยว่าชื่อเสียงที่บอกว่าขโมยอาจารย์มาอะไรพวกนั้น ต่างหันมายกย่อง ทั้งมู่หวั่นชิวบอกว่าวันนี้เอาขี้ผึ้งเหลวมาให้ลองกันถ้าสนใจสั่งซื้อที่ร้านหลีจี้ได้ แล้วก็มีคนถามถึงน้ำหอมสังสารวัฏมู่หวั่นชิวจึงบอกว่ากระบวนการผลิตยากมากต้นทุนสูง ถ้าสั่งจองจนได้ปริมาณก็จะผลิตขึ้น ก็มีการสั่งจองตอนนั้นเลย เหตุการณ์เหล่านี้ยิ่งทำให้นายที่หลีคิดในใจว่าจะปล่อยอัจฉริยะแบบนี้ไปไม่ได้ ดีใจมากที่ตระกูลหลีรอดแล้ว
เลิกงานกลับคฤหาสน์มู่หวั่นชิวกลับโดนลอบสังหาร ดีที่มีหน่วยเงาของหลีจวินยันไว้แต่ก็ไม่อาจเอาชนะได้ และหร่วนอวี้ก็มาช่วยทำให้มู่หวั่นชิวรอดพ้นไปได้ หร่วนอวี้ขอร้องให้พูดปล่อยมู่หวั่นชิวไปเพราะตนกำลังพยายามเอานางมาเป็นพวกอยู่
เจิงฝานซิวเดินทางมาต้าเยี่ยแต่ไม่ถึงซะทีทำให้มู่หวั่นชิวนึกถึงเหตุการณ์เมื่อชาติก่อนได้ พยายามตามหาหน่วยเงาที่คุ้มครองตนก็ไม่ได้ผล เลยออกไปตามหาและช่วยได้ทัน พันแผลยังไม่เสร็จก็พบหลีจวินตามมา มู่หวั่นชิวโดนสั่งให้รออยู่ปากถ้ำ พอเจอหวังชีที่เรียกตั้งนานเพิ่งเจอพูดกันก็บอกว่ามีหน้าที่คุ้มครองอย่างเดียว มู่หวั่นชิวขี้เกียจพูดด้วยเลยคิดจะลงเขาไปเอง เดินเข้าไปในป่าแล้วก็ตกลงไปในบ่อน้ำในถ้ำหาทางออกไม่ได้ หลีจวินมาตามหาพอดี และได้เจอนักฆ่าที่ตามหาเจิงฝานซิว ทั้งสองโดนขังในถ้ำ หลีจวินเห็นหน้าตาแท้จริงของมู่หวั่นชิวว่างามมาก นางก็บอกว่าทาหน้าดำปิดไว้เพราะกลัวอันตราย ตอนอยู่ในถ้ำได้เจอป้ายเป็นของอาจารย์เว่ย สุดท้ายได้กราบอาจารย์และรู้เรื่องราวของอาจารย์เว่ยว่าเป็นจิตวิญญาณมาจากอนาคตพันปีข้างหน้า ตอนนี้ได้ย้อนกลับไปในยุคสมัยตนเองได้แล้ว และได้เจอไข่มุกราตรีจันทร์จรัสที่มีชื่อเสียงเม็ดนั้นที่ฮ่องเต้ตามหา ได้รู้ความลับเบื้องหลังมากมายของปรมาจารย์เว่ยว่าเป็นอย่างไร มู่หวั่นชิวยิ่งมีความคิดหนึ่งหญิงหนึ่งชายครองคู่กันตลอดไปก็ยิ่งดี หลีจวินก็ถามว่าอาชิวมีความคิดเช่นนี้หรือ เรื่องนี้ทำให้หลีจวินไม่ยอมแต่งงานรับอนุอีก ตัวเองรักมู่หวั่นชิวก็จะอยู่กับนางตลอดไปทำความฝันของนางให้เป็นจริง นี่คิดในใจขนาดนี้แล้วนะ
เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ตระกูลไป๋มู่หวั่นชิวหลับไปเต็มๆหนึ่งวัน พอตื่นมาก็โดนทวงทะเบียนเรือนของเฮยมู่ เลยคิดว่าไปขอให้หลีจวินช่วยดีกว่า ด้านหลีจวินหลังจากกลับมารู้สถานการณ์ทั้งหมดของตระกูลหลีและรู้ว่ามู่หวั่นชิวหลอกให้ท่านพ่อทำสัญญาไม่เป็นธรรมก็ไม่รู้จะทำยังไง ทางหนึ่งก็บิดา ทางหนึ่งก็นางในดวงใจ พอเจอมู่หวั่นชิวมาบอกให้ช่วยซื้อทะเบียนเรือนให้เฮยมู่ หลีจวินก็คิดจัดการโดยการสั่งสอนมู่หวั่นชิว ด้วยความเจ้าเล่ห์ขอหุ้นลมสามในสิบส่วนของโรงธูปไป่เยี่ยตอนแรกมู่หวั่นชิวไม่ยอม ต่อรองจนได้สองส่วนครึ่งในสิบส่วน นางปวดใจแทบตาย หลีจวินถามว่าจะย้ายโรงธูปไป่เยี่ยไปอันซุ่นหรือบอกว่าไม่ง่ายอย่างที่คิด มู่หวั่นชิวจึงรู้ว่าที่หลีจวินระงับเงินเพราะกลัวนางจะบุ่มบ่ามทำไปกลัวนางขาดทุน และบอกว่าจะให้โรงธูปไป่เยี่ยส่งวัตถุดิบ มู่หวั่นชิวดีใจมากจะแจ้งให้ซุนมือไวกับซานนีเอ๋อร์รู้ หลีจวินบอกว่าตระกูลเหยาไปอยู่ข้างอิงอ๋องต้องทำลายการผูกขาดตลาดของร้านเหยาจี้ในซั่วหยาง และตอนนี้ได้ซื้อร้านหลี่จี้แล้วจะให้หลีเฮ่อไปดูแล มู่หวั่นชิวจำได้ว่าเมื่อชาติก่อนหลีเฮ่อกับเหยาจิ่นแต่งงานกัน เหยาจิ่นให้แยกตระกูลนำสูตรลับไปมากมายเป็นเรื่องทำให้ตระกูลหลีล่มสลาย คิดจะบอกก็ไม่รู้จะบอกจะห้ามยังไง สุดท้ายถามว่าหลีจวินจะเอาทะเบียนเรือนเฮยมู่มาให้ได้เมื่อไหร่ หลีจวินบอกว่าเป็นอ๋องแคว้นเฉินดีหรือไม่ แล้วเอาราชโองการแต่งตั้งกับทะเบียนเรือนที่ได้จากการช่วยฮ่องเต้จ้าวหงขึ้นครองราชย์มาให้มู่หวั่นชิว เป็นเหลียนจวิ้นอ๋อง มีที่ดินอ๋องที่แคว้นเฉินด้วย หลีจวินบอกว่าถ้าไม่เอา เอาไว้ไปขอมาใหม่ มู่หวั่นชิวบอกจะเอาอันนี้ โดนความเจ้าเล่ห์เข้ายังไม่รู้ ยังพูดว่าอย่างนั้นตอนนี้พี่หลีก็เป็นเฮยมู่สินะ แล้วหลีจวินก็คิดถึงที่นางชอบป่าวประกาศว่าหมั้นหมายกับเฮยมู่แล้วก็แอบยิ้มในใจ
หลีจวินและเจิงฝานซิว วางแผนให้มู่หรงแอบดูมู่หวั่นชิว แต่มู่หรงกลับจำมู่หวั่นชิวไม่ได้บอกว่าไม่ใช่พี่สาวตน จากนั้นมาคุยกัน ภายนอกหลีจวินพูดกับเจิงฝานซิวว่าไม่ใช่มู่หวั่นชิวจริงๆ แต่ในใจตัวเองคิดถึงเรื่องต่างๆ และหน้าตาที่แท้จริงที่ได้เห็นก็มั่นใจว่านางคือมู่หวั่นชิวแน่นอน และคุยถึงหลักฐานต่างๆในการล้มอิงอ๋องทั้งจดหมายลับที่ยักยอกเงิน และซ่งเสียงพยานในคดีจวนหม่าหนิง ทั้งยังบอกว่ายังส่งคนออกไปไม่ได้กำลังหาวิธีอยู่
อิงอ๋องให้ใต้เท้าฉินเลื่อนตำแหน่ง ส่วนเจ้าเมืองต้าเยี่ยคนใหม่ให้จั่วเฟิงมาแทน จั่วเฟิงเคยเป็นศิษย์ของอัครเสนาบดีมู่ มู่หวั่นชิวคิดว่าต้องจำหน้ามารดาตนได้แน่จึงไม่ไปงานเลี้ยงรับตำแหน่งเจ้าเมืองคนใหม่ จั่วเฟิงคิดแผนเล่นงานตระกูลหลีบอกจะสร้างศาลเจ้าแม่กวนอินให้พวกพ่อค้าจ่ายอากรคุณูปการเพิ่มตามส่วน ราคาสินค้า เพื่อให้ตระกูลหลีหยุดผลิต จะได้ล้มตระกูลหลี
แคว้นเฉินส่งทูตมาที่ต้าโจว ที่มาคือเอินชินอ๋อง และองค์หญิงชิงหวั่น ข่าวภายนอกคือเจริญความสัมพันธ์แต่จั่วเฟิงได้ข่าวลับว่าแคว้นเฉินกำลังคัดเลือกกิจการนำเข้าเครื่องหอมของแคว้นเฉินใหม่อิงอ๋องให้ชิงมาจากตระกูลหลีให้ได้ ส่วนเอินชินอ๋องแกล้งทำตัวบ้ากามบ้าตัณหา ให้จั่วเฟิงที่คิดประจบ แตกคอกับหร่วนอวี้ ที่จะส่งหลิ่วเฟิ่งมารับใช้เอินชินอ๋อง ทุกอย่างเป็นแผนของหลีจวินเพื่อให้สองคนแตกคอกัน หลีจวินรู้จักเอินชินอ๋องและขอร้องให้ช่วย โดยแลกกับตำราพิณโบราณอีกอย่างหนึ่งฝากคนไปกับขบวนของเอินชินอ๋องที่จะเดินทางไปอันคัง เอินชินอ๋องชอบอย่างเดียวคือพิณ อยากพบกับมู่หวั่นชิวเพราะตลอดทางได้ข่าวว่าเก่งดีดพิณล้ำเลิศแถมเป็นอัจฉริยะ หลีจวินรีบกันว่าวันหน้าจะพาไปพบที่แคว้นเฉิน คือกลัวไว้ก่อนว่าคนรักตัวเองจะโดนเอาตัวไป พูดกันหมดแลกขอหมั้นกันแล้วนู้นนี่นั้น คนมันเจ้าเล่ห์
องค์หญิงชิงหวั่นไม่ยอมไปอันคังแอบไปหลบอยู่บ้านหลิ่วเฟิ่ง หลิ่วเฟิ่งนึกว่าผูกใจองค์หญิงได้ จะได้สิทธิ์กิจการนำเข้าเครื่องหอมของแคว้นเฉิน หารู้ไม่ว่าที่องค์หญิงชิงหวั่นอยากอยู่ต่อเพราะอยากอยู่ใกล้หลีจวิน อยากแต่งงานกับหลีจวิน แอบหนีองครักษ์ลับมาหา และขอพักที่คฤหาสน์ตระกูลหลี สุดท้ายองค์หญิงชิงหวั่นสนิทกับมู่หวั่นชิวมาก มู่หวั่นชิวเห็นว่าต้องให้องค์หญิงปลอดภัย นางทำน้ำหอมกระชากวิญญาณเป็นยาสลบเอาไว้ป้องกันคนร้ายหลังจากที่โดนลอบฆ่านางก็ทำเพื่อป้องกันตัว องค์หญิงอยากได้ก็ให้กำไลที่หลีจวินสั่งทำจากหอเสวียนจีนางมีหนึ่งคู่ก็ให้องค์หญิงไปหนึ่งวงเพื่อป้องกันตัว ตัวกำไลมีช่องบรรจุอาวุธลับ ทั้งสอนอย่างดี ใครจะรู้ว่าที่แท้จะเอาไปใช้กับหลีจวินให้ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกจะได้บังคับให้แต่งงาน แต่คนที่โดนกลับเป็นองค์หญิงเอง ตอนแรกมู่หวั่นชิวตกใจพอรู้เรื่องคิดว่าองค์หญิงชิงหวั่นเกือบทำร้ายหลีจวินก็ตกใจแทบตาย ยังไม่รู้ตัวเองว่าทำไมปวดใจ คิดแต่พี่ชายที่รักยังไม่ได้แก้แค้นให้ข้าเลย ดีที่หลีจวินรู้กลไกในกำไลทำให้หลบได้ ให้องค์หญิงชิงหวั่นสารภาพว่าใครสั่งมา โดยวางยาพิษผงกระดูกอ่อนให้องค์หญิงชิงหวั่นกลัว ในที่สุดองค์หญิงก็บอกว่าแอบชอบ อยากจับแต่งงานด้วย มู่หวั่นชิวโดนความคิดขององค์หญิงชิงหวั่น ตอนออกจากห้องยังพบเรื่องที่ทำให้รู้สึกว่าการมีลูกเป็นของตัวเองดีอีก ทำให้เกิดความคิดอยากมีลูก แต่ไม่อยากแต่งงานจะทำยังไง ยิ่งถ้าได้ลูกจากหลีจวินยิ่งดีเพราะเก่งเจ้าเล่ห์ เป็นอัจริยะต้องดูแลกิจการของนางได้แน่ พอความคิดหยั่งราก สลัดยังไงก็ไม่หลุดล่ะ
มู่หวั่นชิวรู้จากองค์หญิงชิงหวั่นว่าหลีจวินได้รับบาดเจ็บก็เป็นห่วงแต่ในใจก็มีข้อแก้ตัวให้กับตนเอง องค์หญิงขอร้องให้มู่หวั่นชิวช่วยเหลือ และก็คิดได้ว่าหลีจวินต้องชอบมู่หวั่นชิวแน่นอน จึงบอกว่ายอมรับเป็นอนุอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ส่วนมู่หวั่นชิวได้ฟังว่าหลีจวินจะแต่งงานถึงแม้เป็นเรื่องดีแต่ในใจก็ไม่ชอบ ทั้งยังปฏิเสธองค์หญิงว่านางฐานะต่ำต้อยไม่คู่ควร หาวิธีให้กับองค์หญิงจากไปอย่างเจ้าแผนการ แต่องค์หญิงกลับคิดแผนการได้ โดยการไปขอให้หลีฮูหยินมาวางสินสอด เพราะรู้ว่าไทเฮาแคว้นเฉินไม่ยินยอมแน่นอน
หลังจากรู้ว่าหลีจวินบาดเจ็บมู่หวั่นชิวก็รีบไปหาทันที พอหลีจวินรู้เรื่องก็ดีใจมาก ที่โกรธเรื่องกำไลเพราะนึกว่านางร่วมมือกับองค์หญิงก็หายโกรธเพราะนางมาขอโทษว่าไม่รู้ กลัวองค์หญิงเกิดเรื่องเลยให้ไว้ป้องกันตัว หลีจวินดีใจแต่ภายนอกยังบอกว่าห้ามเอาของข้าไปมอบต่อให้คนอื่นเด็ดขาด มู่หวั่นชิวบอกว่าขี้งก ทุกทีจะว่าในใจคราวนี้พูดออกมาตรงๆ หลีจวินไม่โกรธแถมดีใจอีกที่นางมีความรู้สึกกับเค้า อาชิวของข้าเริ่มมองเห็นข้าแล้ว พี่หลีคิดไปไกลเลย จริงๆอาชิวมองเห็นนานแล้วแต่นางไม่รู้ใจตัวเองต่างหาก คนอื่นอยู่ต่อหน้าหลีจวินยังต้องคิดแล้วคิดอีกเลย นี่แบบสนิทกันมากกล้าต่อว่ากันแล้วนะ นางเอกแบบไม่รู้ตัวเลยจริงๆ
หร่วนอวี้กับจั่วเฟิงโกรธกันเรื่องหลิ่วเฟิ่ง พอหร่วนอวี้มาบอกว่าองค์หญิงชิงหวั่นอยากแต่งงานกับหลีจวินก็คิดถึงผลดีที่ตระกูลหลีจะได้มากมาย จากที่ทะเลาะกันเลยวางแผนกันใหม่ให้ลอบสังหารองค์หญิงที่อยู่ในความคุ้มครองตระกูลหลี ทั้งสองตัดสินใจร่วมมือกันอีกครั้ง
หลีจวินพอรู้ว่า หลีฮูหยินจะให้ไปวางสินสอดองค์หญิงชิงหวั่นก็ปฏิเสธเด็ดขาดบอกว่าเห็นองค์หญิงเป็นน้องสาว องค์หญิงชิงหวั่นทะเลาะกับหลีจวินเสียใจมาก เลยวิ่งหนีออกไป แต่ยังคิดแผนการเดิมคือจะใช้น้ำหอมกระชากวิญญาณกับหลีจวินเหมือนเดิม ที่ไหนได้กลับเป็นนักฆ่า เรื่องราวที่องค์หญิงหายไปรู้กับไปทั่ว ทุกคนส่งคนออกตามหาทั้งตระกูลหลี ทั้งหร่วนอวี้ จั่วเฟิงจับหลีจวินไปขังคุกโทษฐานดูแลองค์หญิงไม่ดี ก่อนถูกจับหลีจวินเขียนจดหมายต่างๆมอบให้ไปจัดการเรื่องราวที่จะเกิดขึ้น ตระกูลหลีถึงคราวคับขันอีกครั้งมีคนมาทวงเงินมากมายที่ร้านหลีจี้ ทุกอย่างอยู่ในขั้นวิกฤติ มู่หวั่นชิวไปขอความช่วยเหลือจากหวงผู่อวี้ หวงผู่อวี้แนะวิธีการให้ ไม่ให้จั่วเฟิงกับหร่วนอวี้ทำอะไรบุ่มบ่ามไป และมู่หวั่นชิวก็ไปหาจั่วเฟิงใช้คำพูดของหวงผู่อวี้พูดทำให้จั่วเฟิงกลัวว่าตัวเองจะเดือดร้อน ตอนนี้เรื่องยิ่งยุ่งเพราะมีประกาศค่าหัวองค์หญิงชิงหวั่นถึงหนึ่งล้านตำลึง จั่วเฟิงเลยไปที่ตระกูลหลิ่วจับตัวหลิ่วเฟิ่งที่กำลังจะแต่งงานกับหร่วนอวี้ในวันรุ่งขึ้นมาต่อรองกับหร่วนอวี้ ทั้งสองต้องทะเลาะบาดหมางกันอีก หลิ่วเฟิ่งมีโทษที่เคยแอบซ่อนองค์หญิงชิงหวั่น จั่วเฟิงให้หร่วนอวี้คืนองค์หญิงออกมา เรื่องราววุ่นวายบานปลาย สุดท้าย หลิ่วอู่เต๋อต้องให้คนไปฉีกประกาศค่าหัวองค์หญิงชิงหวั่นและยกเลิกงานแต่งงาน ทำให้เรื่องนี้เป็นที่ขบขันไปทั่ว ส่วนร้านหลีจี้ หลีจวินมาจดหมายออกมาให้ไปหามู่หวั่นชิวให้เฮยมู่ออกหน้า แค่นี้มู่หวั่นชิวก็เข้าใจ แต่นายท่านหลียังขายหุ้นร้านรับแลกเงินเต๋อเซิ่งชางในราคาทุนให้อีก ตอนแรกมู่หวั่นชิวจะไปเอาก็กลัวหลีจวินออกมาจะมาโกรธนางที่เอาเปรียบตระกูลหลีอีก พอเฮยมู่ออกหน้าทุกอย่างก็คลี่คลาย คนสลายตัว เหยาจิ่นผิดหวังอย่างมากเพราะนางก็อยากเห็นตระกูลหลีล่มสลาย จึงร่วมมือกับหลิ่วเฟิ่ง สุดท้ายไม่ได้อะไรเลย
หนิงอ๋องเดินทางผ่านเมืองต้าเยี่ย จั่วเฟิงและหร่วนอวี้ไปรอรับ ที่แท้คนที่ช่วยองค์หญิงชิงหวั่นคือหนิงอ๋องที่พอได้ข่าวจากหลีจวินก็เร่งเดินทางมาและเจอองค์หญิงชิงหวั่นที่เข้าใจผิดว่านางถูกนักล่าค่าหัวไล่ฆ่า ในตอนแรกเป็นคนของหร่วนอวี้จริงๆ แต่องค์หญิงชิงหวั่นใช้น้ำหอมกระชากวิญญาณทำให้หนีไปได้ พอออกนอกเมืองก็ได้ข่าวเงินรางวัลค่าหัวจึงไม่กล้ากลับมาและได้เจอหนิงอ๋องเข้า เมื่อหนิงอ๋องมาถึงก็ดึงคดีของหลีจวินขึ้นมาก่อน หลิ่วเฟิ่งทำผิดจริงให้จ่ายค่าปรับเป็นเงิน หลีจวินหนิงอ๋องก็จะตัดสินเหมือนกัน แต่องค์หญิงชิงหวั่นไม่ยอมบอกว่าให้ขังคุกต่อไปหรือไม่ก็บอกให้ยอมแต่งงานกับนาง หนิงอ๋องคิดถึงผลได้ผลเสีย เพราะไทเฮาก็อยากให้อิงอ๋องแต่งงานกับองค์หญิงชิงหวั่น ถ้าหลีจวินได้แต่งงานกับองค์หญิงรัชทายาทก็จะมีกำลังกล้าแข็งขึ้น แต่ยังไงหลีจวินก็ไม่ยอม ไม่ว่าจะเป็นใครมาขอร้อง รวมถึงมู่หวั่นชิวด้วย หลีจวินให้เหตุผลว่าก็เหมือนกับที่อาชิวไม่ยอมแต่งงานกับข้า มู่หวั่นชิวพูดในใจว่าไม่เหมือนกัน นางไม่รู้ว่าไม่เหมือนกันตรงไหน แต่ไม่เหมือนกัน องค์หญิงโกรธมาก บอกจะไปฆ่ามู่หวั่นชิว แล้วนางก็ทำจริงๆ โดยการเอาสุราพิษมาให้มู่หวั่นชิวดื่ม ถ้ายอมดื่มก็จะเขียนสัญญาปล่อยตัวหลีจวินไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยอีก มู่หวั่นชิวดมกลิ่นดูแล้วก็ดื่มลงไป ผลคือไม่เป็นไร เพราะองค์หญิงไม่ได้ใช้พิษจริง และมู่หวั่นชิวก็ดมกลิ่นแยกออกแล้ว พอหลีจวินออกมาจากคุกรู้เรื่องก็ต่อว่า ว่ามีพิษบางอย่างที่ไม่มีสีไม่มีกลิ่น เอาตัวเองไปเสี่ยงไม่ได้
เอินชินอ๋องกับมาจากอันคัง หลีจวินบอกว่าให้เลื่อนการเลือกสิทธิ์กิจการนำเข้าเครื่องหอมของแคว้นเฉินออกไปก่อน เรื่องแต่งงานขององค์หญิงชิงหวั่นด้วย หลิ่วเฟิ่งรู้ข่าวว่าตระกูลหลีสามารถระบายเม็ดหอมในคลังไปได้แล้ว เพราะมู่หวั่นชิวที่ไปร่วมงานเลี้ยงส่งเอินชินอ๋อง เอินชินอ๋องชอบการดีดพิณของมู่หวั่นชิวสาบานรับเป็นน้องบุญธรรมมีศักดิ์เป็นท่านหญิง เอินชินอ๋องถามว่าอยากได้อะไรเป็นของขวัญมู่หวั่นชิวขอสิทธิ์กิจการนำเข้าเครื่องหอมของแคว้นเฉิน แต่โดนขัดขวางจากหลายคน หลีจวินเลยให้ประลองแข่งกันตอนแรกจะให้มู่หวั่นชิวกับหลิ่วเฟิ่งประลองกับทันที แต่หลีจวินขอเลื่อนไปอีกสี่เดือน เรื่องนี้คนภายนอกไม่รู้นึกว่าหลีจวินใจดี แต่จริงๆคือไม่อยากให้อิงอ๋องเห็นความสามารถของมู่หวั่นชิวมากเกินไป และคิดกันไว้ทุกทางทั้งให้เอินชินอ๋องรับมู่หวั่นชิวเป็นน้องบุญธรรมด้วย
หลิ่วเฟิ่งพอรู้เรื่องราวของมู่หวั่นชิวทั้งหมดก็แค้นมาก ยังคิดถึงแผนการของนางที่จะยึดร้านไป๋จี้เอาไว้ นางอาฆาตมู่หวั่นชิวสุดๆ
มีข่าวลือเกี่ยวกับสงครามทางเหนือออกมา ของทุกอย่างไม่ขึ้นราคามีเพื่อผ้าเท่านั้นที่ขึ้นราคา พอมู่หวั่นชิวรู้ก็รู้ว่าเป็นแผนของตระกูลหลิ่วทันที นางจึงสามารถขัดขวางแผนการของหลิ่วเฟิ่ง หลิ่วอู่เต๋อไป สามารถซื้อร้านไป๋จี้โดยให้ไป๋ก่วงเซิงยังมีหุ้นและดูแลกิจการได้ต่อ ตอนนั้นนางเงินไม่พอกับการซื้อกิจการเลยไปขอยืมเงินกับหลีจวิน หลีจวินฟังแผนของนางแล้วบอกว่าแผนการดี ผูกใจไป๋ก่วงเซิงได้ ถ้าช่วยแล้วอาชิวจะให้อะไรตอบแทน ความจริงหลีจวินอยากรู้ว่านางจะมีความคิดแยบคายในการค้ายังไง ที่ไหนได้ บอกว่า ข้า ตอนแรกหลีจวินฟังไม่เข้าใจ พอเข้าใจก็บอกว่าอาชิวยอมแต่งงานกับข้าแล้วใช่หรือไม่ มู่หวั่นชิวกับปฏิเสธ บอกแค่ว่า ข้า แต่ไม่แต่งงาน หลีจวินโกรธมาก คิดว่านางจะทำทุกอย่างเพื่อให้แผนการสำเร็จ เอาตัวเข้าแลกก็ยอม แต่ที่มู่หวั่นชิวคิดคือกลัวว่าหลีจวินจะคิดว่านางจะเป็นศัตรูกับตระกูลหลีเลยยอม และที่สำคัญอยากจะมีลูกกับหลีจวิน แต่ตัวเองไม่ยอมแต่งงาน ความคิดเรื่องมีลูกนี่ฝันใจสุดๆ คิดหาวิธียังไงพี่หลียังไม่ยอมเลย ฮาสองคน คิดไปคนละทาง
มู่หวั่นชิวไปสอบเป็นนักปรุงเครื่องหอมระดับเลิศ มีข่าวว่าแคว้นซีอวี้อยากได้ธูปสำหรับงานทำบุญที่มีสิบปีครั้ง จึงมีการประกาศให้ส่งธูปตัวอย่างทุกร้าน ตอนแรกหลีจวินจะถอนตัวไม่ทำเพราะกลัวว่าส่งในชื่อมู่หวั่นชิวจะดึงดูดความสนใจของอิงอ๋องเกินไป แต่มู่หวั่นชิวไม่เห็นด้วยร้านหลีจี้จะเสียสิทธิ์การเป็นวาณิชหลวงไม่ได้ สุดท้ายหลีจวินตกลงและส่งข่าวให้หลีเฮ่อที่อยู่ซั่วหยางเร่งกักตุนจันทร์หอมที่ใช่ในการทำธูป ที่ไหนได้หลีเฮ่อที่มีใจอคติกับหลีจวินไม่เชื่อฟังนำเงินไปซื้อที่ดินที่ตระกูลเหยาปล่อยออกมา ตอนนี้มีข่าวว่าจันทร์หอมขาดตลาด ตระกูลหลีและตระกูลเหยาแย่งกันตัดราคาสินค้า ตระกูลหลีก็ยังซื้อจันทร์หอมไม่ได้ มู่หวั่นชิวรู้ข่าวจากซุนมือไวก็สั่งให้ตุนจันทน์หอมไว้ส่วนหนึ่งแล้ว อีกด้านนางก็ปรับแก้ธูปหอมของตระกูลหลีและเอาไปให้หลีจวินลงดมดู พบว่าไม่มีความผิดปกติ แถมยังมีความเหนียว คุณภาพดีกว่าธูปทั่วไป หลีจวินอยากจะบอกมู่หวั่นชิวถึงสภาพการเงินในร้านหลีจี้ให้มู๋หวั่นชิวรู้ จะได้ไม่ต้องทำธูปที่ดีขนาดนั้นแต่ก็ไม่กล้าบอก จนถึงตอนที่ข่าวราชโองการลงมาว่าฑูตซีอวี้เลือกธูปหอมของตระกูลหลีที่เดียวสิบล้านดอก ทุกคนในร้านหลีจี้ตกใจกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่มู่หวั่นชิวกลับดีใจ ไม่รู้เรื่องสุดท้ายนางก็บอกว่า พี่หลี นายท่านหลีดมไม่ออกจริงหรือ แล้วนางก็เฉลยว่านางเลียนกลิ่นจันทน์หอมตั้งแต่รู้ว่าจันทน์หอมขึ้นราคาก็คิดค้น นึกว่ากลิ่นยังมีความแตกต่างแต่ทุกคนก็ดมไม่ออก แสดงว่านางทำสำเร็จแล้วจริงๆ และมู่หวั่นชิวก็บอกว่าหายกันกับตอนที่หลีจวินหลอกนางเมื่อครั้งน้ำหอมสังสารวัฏห้ามแก้แค้นคืน ยังรู้อีกว่าหลีจวินขี้ใจน้อย จริงๆรู้ใจกันดีแต่เรื่องของหัวใจนี้รู้ใจกันแต่คิดกันคนละอย่างจริงๆ แล้วมู่หวั่นชิวก็บอกว่าตอนนี้ผลสอบประกาศแล้วนางได้เป็นนักปรุงเครื่องหอมระดับเลิศแล้ว หลีจวินดีใจมาก อุ้มนางหมุนตัวแล้วเผลอจูบกันอีก ทั้งคู่ตกใจ หลีจวินอยากจะกินมู่หวั่นชิวลงท้องแต่ฝืนใจไว้ ส่วนมู่หวั่นชิวหนีออกไปจากห้องแต่พอคิดดูก็แอบคิดว่าน่าจะขโมยลูกได้ พอแอบฟังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรในห้องอีกจิตใจก็ห่อเหี่ยว ดูทั้งสองคนใจตรงกัน แต่ดันคิดกันคนละอย่างไม่สารภาพกันซะที
หลีจวินเดินทางไปซั่วหยาง วางแผนจัดการให้ตระกูลเหยาล้มในที่เดียว โดยการทำทีไปขอซื้อจันทน์หอมจากโรงธูปไป่เยี่ยแบบร้อนรน ตอนแรกเหยาซื่อซิงยังไม่มีความมั่นใจกลัวว่าจะถูกความเจ้าเล่ห์ของหลีจวินหลอก แต่ได้จดหมายลับจากอิงอ๋องที่หลีจวินแอบเขียนขอเลื่อนเวลาการส่งมอบธูปและเรื่องของเหยาจิ่นที่นิสัยแค้นฝังใจทำให้คิดจะแก้แค้นแทนเหยาจิ่น อย่างนี้ก็ตกลงในกับดักของหลีจวินเต็มๆ น่ะสิ
หลังอ่านเล่มหก :
ในที่สุดก็รู้ว่าปรมาจารย์เว่ยเป็นใครมู่หวั่นชิวยิ่งอยากเป็นเหมือนปรมาจารย์เว่ยเข้าไปใหญ่รักเดียวตลอดชีวิตนางจะทำสำเร็จหรือไม่ อิงอ๋องจะจัดการตระกูลหลีให้ได้ ส่งจั่วเฟิงมาช่วยหร่วนอวี้ แล้วที่นี้หลีจวินและมู่หวั่นชิวจะทำยังไง ยังมีองค์หญิงชิงหวั่นที่เข้ามาป่วนจนทำให้ตระกูลหลีเกือบล่มอีกต่างหาก ตอนนี้ต้องอาศัยมู่หวั่นชิวอีกแล้ว นางลงมือครั้งใดก็สำเร็จตลอด ดูการชิงไหวชิงพริบระหว่างแต่ละตระกูลกับความสามารถที่ไม่มีใครเหมือนของมู่หวั่นชิวว่าจะช่วยตัวเองและตระกูลหลีผ่านมรสุมครั้งนี้ไปได้หรือไม่



โปรยปกเล่ม7 :
อิงอ๋องสูญสิ้นอำนาจ รัชทายาทกำลังฟื้นคืน
กระนั้นฟ้าหลังฝนก็ยังไม่สดใส เมื่อความลับในอดีตกำลังจะถูกเปิดเผย

เห็นนางอันเป็นที่รักถูกจับคุมขังข้อหาลูกสาวขุนนางต้องโทษแล้ว
หัวใจหลีจวินก็ไม่เคยสงบเลยแม้แต่ชั่วขณะเดียว
เขายินดีทุ่มเททุกอย่างไม่ว่าจะติดสินบนเจ้าเมือง หรือยกหน่วยเงาทั้งหมดมาคุ้มครองมู่หวั่นชิวที่อยู่ในคุก
ด้วยเขารู้... อิงอ๋องไม่มีทางปล่อยมู่หวั่นชิวที่เป็นหนามยอกอกให้มีชีวิตรอดไปแน่

แต่ตราบใดที่นางยังยืนกรานปฏิเสธก็ไม่มีใครทำอะไรนางได้
เว้นเสียแต่ว่าในอดีตจะเคยมีภาพวาดของนางเก็บเอาไว้ในวัง
ถ้ารูปนั้นถูกเปิดเผยเมื่อใด ชีวิตของมู่หวั่นชิวก็จะต้องถูกขายเป็นนางโลมขุนนางทันที!

คำนำสำนักพิมพ์เล่ม7 :
ในที่สุด “ยอดหญิงเซียนเครื่องหอม” ก็ดําเนินมาถึงเล่ม 7 ซึ่งเป็นเล่มจบ ในเล่มนี้ท่านนักอ่านจะได้พบกับบทสรุปของเรื่องราวไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้า การเมือง หรือกระทั่งความรักที่คาราคาซังมาจากเล่มก่อนๆ กันแล้ว ซึ่งรับประกันความเข้มข้น จนถึงอักษรตัวสุดท้ายจริงๆ ในเล่มจบนี้อาชิวก็ยังคงต้องเหนื่อยยากเช่นเดิม ชีวิตที่เกือบจะได้สดใสอย่างคนอื่นๆ บ้างหลังเอาชนะการค้าตระกูลหลิ่วกับตระกูลเหยามาได้ก็มีอันสะดุดเพราะ ความลับในอดีตที่นางเป็นลูกสาวอดีตอัครเสนาบดีที่ต้องโทษทั้งตระกูลกําลังจะเปิดเผย นอกจากนั้นแล้วยังมีเรื่องของความรักที่ทําให้นางต้องว้าวุ่นใจ จะเป็นอย่างไรเมื่ออาชิวอยากได้ "ลูก" จากหลีจวิน แต่ไม่อยากได้ "พ่อ" ของลูก รวมถึงหร่วนอวี้ ที่ยังไม่คิดปล่อยมือจากนาง เรื่องราวสุดเข้มข้นหลายเล่มจบนี้จะลงเอยไปทางไหน ความรักความแค้นสองชาติภพจะจบลงและเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร อาชิวจะต้องจบชีวิตในแบบชาติก่อนอีกหรือไม่ ไปติดตามกันเลย

สํานักพิมพ์แจ่มใส

เล่ม7 :
หลีจวินวางแผนไว้อย่างดีจนทำให้เหยาซื่อซิงตกหลุมพรางได้ ระหว่าที่อยู่ซั่วหยางหลีจวินได้พักในห้องเก่าของมู่หวั่นชิว ได้ฟังเรื่องราวต่างๆที่นางได้พบเจอในช่วงที่อยู่เมืองซั่วหยางยิ่งฟังก็ยิ่งคิดว่าช่วงเวลาที่นางลำบากข้าไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือ
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนเป็นเพราะเหยาซื่อซิงไม่เหลือทางรอดให้ตระกูลหลีก็เท่ากับไม่เหลือทางรอดให้ตนเอง ในที่สุดก็รู้ว่าจันทน์หอมที่ตุนไว้นั้นขาดทุนย่อยยับ ในที่สุดตระกูลเหยาก็ล่มสลาย หลีจวินมาเมืองซั่วหยางเพื่อช่วยคนของโรงธูปไป่เยี่ยจัดการซื้อร้านเหยาจี้ในราคาต่ำ หลีจวินคิดไว้แล้วว่าจะให้ร้านไป่เยี่ยขอมู่หวั่นชิวก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่กลับมาที่เมืองต้าเยี่ยนั้นทั้งหลีจวินและมู่หวั่นชิวก็คิดถึงกันมาก แต่ยังทำเป็นท่านมากทั้งคู่ พอนั่งคุยกันก็ไม่อยากจากกัน เลยพูดกันทุกเรื่องรวมถึงรายละเอียดทั้งหมดของตระกูลเหยา หลีจวินยังบอกมู่หวั่นชิวเรื่องเหยาจิ่นเป็นบ้า เลยซื้อเรือนให้อยู่แล้วแต่พวกนางสองแม่ลูกว่าจะมีวาสนาอยู่ต่อไปอย่างไร หลีจวินกลัวว่ามู่หวั่นชิวจะโกรธ นางไม่โกรธทั้งยังคิดในใจว่าพี่หลีแบบนี้น่ารักดี เหมือนเด็กทำผิดกลัวถูกลงโทษ และยังคิดว่าทุกคนบอกว่าหลีจวินร้ายกาจแต่จริงๆแล้ว ช่างเป็นคนที่มีน้ำใจ หลีจวินเห็นมู่หวั่นชิวไม่โกรธก็บอกว่าเดี๋ยวนางนางรังแกตนใหญ่แล้ว พูดกันไปมาทั้งสองก็เกิดอารมณ์อยากจูบกัน จนเกือบจบลงที่เตียงแต่หลีจวินดันห้ามตัวเองได้คิดในใจว่าต้องรอคืนวันแต่งงาน ส่าวนมู่หวั่นชิวคิดในใจว่าข้ายังยั่วยวนไม่พอ ขโมยลูกจากพี่หลีไม่ได้อีกแล้ว เป็นฉากแสดงความรักที่จบลงด้วยคิดกันคนละอย่างจริงๆ
หลิ่วอู่เต๋อคิดจะลงเรือลำรัชทายาทแทนอิงอ๋อง ใช้ลูกบุญธรรมคนที่สองหลิงเทาที่อยู่ฝ่ายรัชทายาท ส่วนหร่วนอวี้พอรู้ว่าอิงอ๋องกำลังจะมีภัยก็สั่งหร่วนซีให้นำทหารลับ และทรัพย์สินเงินทองหลบหนีไปก่อน ตนคิดว่าจะได้มีที่ให้พ่อบุญธรรมกับหลิ่วเฟิ่ง ตอนที่กำลังจะไปทำลายจดหมายลับที่ติดต่อกับอิงอ๋องในห้องลับก็ได้พบว่าหงซิ่วได้มาขโมยจดหมายลับ เลยรู้ความจริงว่าหลิ่วอู่เต๋อคิดจะใช้ตนเป็นบันไดไปหารัชทายาท ทั้งๆที่ไม่แน่ใจ แต่ก็ไปแอบฟังที่ตระกูลหลิ่ว และได้พบความจริงว่า ที่แท้คนร้ายที่ฆ่าพ่อ แม่ ทำให้ตระกูลหร่วนตายทั้งตระกูลก็คือหลิ่วอู่เต๋อ ที่ใส่ร้ายอัครเสนาบดีมู่ซีให้กำจัดท่านพ่อของตน หลิ่วอู่เต๋อยังคิดให้หลิ่วเฟิ่งไปแต่งงานกับหลิงเทาแทนตนอีกด้วย และบอกว่าหร่วนอวี้ต้องตายเพราะถ้ารัชทายาทฟื้นคืนอำนางคดีแรกที่จะแก้ไขก็คือคดีของอัครเสนาบดีมู่ หร่วนอวี้เป็นคนของอิงอ๋องที่จัดการตระกูลมู่จึงต้องตาย เพื่อเราจะได้รอด หร่วนอวี้ตกใจมากที่ได้รู้ความจริง คืนนั้นฝันเห็นตัวเองในชาติก่อนปฏิบัติกับมู่หวั่นชิวยังไงจนนางฆ่าตัวตายก็ตื่นขึ้นมา พอตื่นขึ้นมาหลิ่วเฟิ่งยังมาหาและบอกว่าไป๋ชิวก็คือมู่หวั่นชิว ลูกสาวอัครเสนาบดีมู่ ตำราลับตระกูลเว่ยอยู่ที่นางและบอกการคาดเดาของกู่ฉินออกมา หร่วนอวี้ฟังแล้วก็คิดว่าในฝันตนก็เรียกมู่หวั่นชิวแบบนั้น มิน่านางจึงเกลียดตน แต่ต่อหน้ากลับทำดีกับหลิ่วเฟิ่งและหลอกล่อจนได้ตัวของหลิ่วเฟิ่ง หลิ่วเฟิ่งกลับบอกว่าขอยาระงับเด็กทำให้หร่วนอวี้รู้ว่าหลิ่วเฟิ่งใจร้ายแค่ไหน
มู่หวั่นชิวถูกจั่วเฟิงจับตัวไปขัง หลอกถามยังไงมู่หวั่นชิวก็บอกว่าเข้าใจผิด จั่วเฟิงคิดจะทำให้นางเหมือนกู่ฉินเก็บไว้ที่เรือนหลัง เป็นต้นไม้เงินต้นไม้ทอง พอหร่วนอวี้รู้เรื่องก็นำทหารมาจะปล้นคุกแต่ช้ากว่าเลยวางแผนให้ถวายฎีกาฝ่าบาท หลีจวินให้สินบนจั่วเฟิงห้าแสนตำลึงเพื่ออำนวยความสะดวก นำของทุกอย่างไปให้มู่หวั่นชิวในคุก
มู่หวั่นชิวที่อยู่ในคุกตัดสินใจว่าถ้าเรื่องราวเปิดเผยตนจะฆ่าตัวตายทันทีไม่ยอมไปเป็นนางโลมราชสำนักเด็ดขาด หลีจวินมาเยี่ยมแอบส่งสัญญาณบอกว่าถ้ามีอะไรให้ใช้ของในกำไลจะมีคนมาช่วย เท่ากับเตรียมปล้นคุก ที่มีโทษประหารทั้งตระกูล มู่หวั่นชิวไม่ยอม ตอนที่หลีจวินจะจากไปนางตัดใจไม่ได้เลยบอกความคิดสุดท้ายไม่อยากให้ตายไปกับตัวบอกว่าตอนที่ไปยืมเงินนั้นเป็นข้ออ้าง อยากได้ลูกที่เหมือนกับพี่หลีจริงๆ ตอนที่จูบกันหลีจวินรู้สึกถึงความสิ้นหวังที่พร้อมยอมตาย ทำให้หลีจวินไม่ยอมบอกว่าจะหาวิธีช่วยให้ได้ตอนนี้จั่วเฟิงกับหร่วนอวี้ยื่นถวายฎีกาไปแล้ว มีรัชทายาทอยู่ต้องช่วยได้แน่ สุดท้ายมู่หวั่นชิวคิดได้ เลยยอมบอกเรื่องภาพเหมือนของตนเองที่มีอยู่ในวัง เท่ากับเป็นการยอมรับกับตนจริงๆว่าคือมู่หวั่นชิวไม่ใช่การคาดเดาไปเอง
หร่วนอวี้มาบอกมู่หวั่นชิวว่ารู้ทุกอย่างแล้ว มู่หวั่นชิวไม่รู้ว่าที่พูดหมายความว่าอะไร แต่มีช่วงหนึ่งที่หร่วนอวี้มีจิตใจชั่วร้ายคิดทำไม่ดีกับมู่หวั่นชิว นางรับรู้ได้ เตรียมพร้อมยอมตาย สุดท้ายหร่วนอวี้กฌได้สติขึ้นมาก่อน
พอออกมาหลีจวินรู้ว่าหร่วนอวี้แอบอยู่ข้างในจึงไม่กล้าพูดอะไรมาก คอยจนหร่วนอวี้ออกมา ก็คิดในใจว่าจะต้องจัดการตระกูลหลิ่ว และหลิ่วเฟิ่งตามความต้องการของมู่หวั่นชิวให้ได้ เพราะนางเคยหลุดพูดออกมาครั้งหนึ่งว่านางต้องแก้แค้นหลิ่วเฟิ่งให้ได้
เวลาผ่านไป รัชทายาทคืนตำแหน่ง เมืองต้าเยี่ยยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนวันนึงมีคนไปตีกลองร้องทุกข์ที่จวนเจ้าเมือง ที่แท้คือกู่ฉินที่อ้างว่าตายไปแล้ว มาร้องทุกข์ว่าถูกขโมยสูตรลับและโดนกักขัง ขื่อเสียงหลิ่วเฟิงเสียหายไม่มีชิ้นดี สุดท้ายหลิ่วอู่เต๋อและหลิ่วเฟิ่งหนีออกจากเมืองต้าเยี่ยไปได้ หลีจวินกลัวว่าระหว่างเวลาที่สองพ่อลูกตระกูลหลิ่วหนีไปจะเกิดความเปลี่ยนแปลงภายในคุกที่ขังมู่หวั่นชิว จึงไม่อาจให้คนเพิ่มกับหลีชังได้ และก็เป็นจริงตามนั้น อิงอ๋องใช้ช่วงเวลานี้ส่งจูชุนมาลอบสังหารมู่หวั่นชิว คิวว่าการคุ้มกันของตระกูลหลีจะหละหลวมที่ไหนได้ ไม่เพียงไม่หละหลวมกลับเตรียมพร้อมยิ่งขึ้น จูชุนเห็นว่าหลีจวินขอร้องยังไงมู่หวั่นชิวก็ไม่ยอมหนีออกจากคุกไป ทำให้หลีจวินตัดสินใจคุ้มครองคุกอย่างแน่หนา สุดท้ายก็พลาดโอกาสสังหารมู่หวั่นชิวไป และยังใส่ร้ายตระกูลหลีที่จะให้ชิงคนออกจากคุกก็ไม่ได้
ขบวนคุ้มกันที่นำภาพวาดมาถูกดักชิงระหว่างทาง หร่วนอวี้เป็นคนคุ้มครองขบวน เห็นชายปิดหน้าที่บุกมาก็จำได้ว่าเป็นคนที่ช่วยซ่งเสียงไป โดยไม่สนใจกับภาพวาดหร่วนอวี้ก็เปิดผ้าปิดหน้าที่แท้ก็คือหลีจวินจริงๆ หร่วนอวี้ก็รู้ในทันทีว่ามู่หวั่นชิวคือบุตรสาวอัครเสนาบดีมู่ซี ส่วนหลีจวินก็หลอกล่อองค์รักษ์ติดตามไปสับเปลี่ยนภาพวาดที่แท้จริงไปได้
วันตัดสินคดีของมู่หวั่นชิวมาถึง นางเห็นคนตระกูลหลีมากมายก็คิดว่าหลีจวินทำงานไม่สำเร็จต้องปล้นคนแน่ สุดท้ายมีโทษประหารทั้งตระกูลก็ตกใจ บอกว่าจะยอมมีชีวิตอยู่แต่จริงๆคิดในใจว่าถ้าความจริงเปิดเผยนางต้องฆ่าตัวตายแน่นอน ส่วนหลีจวินตอนนั้นก็กลัวนางจะตายไปจริงๆจนลืมคิดว่าไปว่าตนเองได้เปลี่ยนภาพวาดไปแล้ว ตกใจจนลืมว่างั้นเถอะ นึกว่านางเอกจะฆ่าตัวตายจริงๆก็กลัวสุดๆ
สุดท้ายภาพวาดที่เปิดเผยออกมาไม่ใช่ภาพเหมือนของมู่หวั่นชิวจึงให้มู่หวั่นชิวพ้นผิด หลัวกลับมาถึงจวน มู่หวั่นชิวถึงรู้ว่าสายลับที่หลีจวินวางไว้ข้างกายอิงอ๋องซึ่งเป็นหมากลับเป็นคนเข้าถึงตราของอิงอ๋อง ตอนนี้ให้ถอนตัวออกมาแล้ว คำสั่งเดียวที่มีคือติดตามอิงอ๋องเมื่ออิงอ๋องล้มให้หาทางกำจัดหมากนี้ก็ใช้ไม่ได้อีก หลีจวินได้พูดถึงเรื่องที่รู้ว่ามู่หวั่นชิวเป็นบุตรสาวอัครเสนาบดีมู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ และบอกเรื่องมู่หรงให้ฟังด้วย ช่วงนี้ทั้งสองคนสนิทกันมากขึ้น ต่างห่วงใยกัน แต่มู่หวั่นชิวก็ยังคิดว่าเห็นหลีจวินเป็นพี่ชายอยู่นั้นเอง แต่พอเห็นเหนื่อย หรืออะไรก็จะพึ่งพาตลอด
มีราชโองการลับมาจากฮองเฮาเป็นการลับให้เข้าวัง เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องไปตามรับสั่ง เวลาออกเดินทางไปลาไม่เจอหลีจวินก็เสียใจ แต่จริงๆแล้วหลีจวินตัดสินใจตามไปด้วย ทั้งสองอยู่ในรถม้าคันเดียวกันตลอดเวลา ช่วงนี้มู่หวั่นชิวชอบใกล้ชิดหลีจวินมาก หลีจวินขอแต่งงานนางก็ไม่ยอมแต่ง หลีจวินก็บอกว่าถ้าอยากมีลูกต้องแต่งงาน และคิดว่าต้องรักษาความบริสุทธ์เอาไว้ซะแล้ว กลายเป็นผู้ชายคิดแบบนี้ได้ไงเนี่ย
ที่ศาลาสิบลี้หร่วนอวี้มาส่งแต่มู่หวั่นชิวไม่ยกโทษให้ ตอนนี้ทุกคนเดาฐานะของมู่หวั่นชิวได้แล้ว แต่ไม่พูดออกมา หร่วนอวี้ก็รู้แล้วว่าเพราะอะไรมู่หวั่นชิวถึงโกรธแค้นตนเอง ส่วนมู่หวั่นชิวถึงแม้จะไม่มีความโกรธในใจแล้ว แต่ก็ยังให้อภัยไม่ได้ กงกงที่มาเร่งรีบเดินทางมาก ในที่สุดก็รู้ว่าเป็นเพราะอิงอ๋องอยากรับมู่หวั่นชิวเป็นพระสนมจะได้เอาไว้ทรมาน หลีจวินหาวิธีถ่วงเวลาการเดินทางด้วยการให้มู่หวั่นชิววางยาที่เหมือนเป็นโรคลมแดด ทำให้ต้องหยุดพักและเขียนจดหมายขอเวลาเดินทางเพิ่มพอได้จดหมายตอบกลับจากฝ่าบาทก็ค่อยๆเดินทางกันไปเรื่อยๆ จนกงกงได้รับจดหมายเร่งมาอีกครั้ง พอมู่หวั่นชิวถามหลีจวินจึงบอกว่าอิงอ๋องหนีออกจากอันคังไปแล้วจึงเร่งเดินทาง
เมื่อได้พบฮองเฮาก็ได้เพียงคทาหยกสมปรารถนามาเพื่อเป็นการแสดงความชอบต่อน้ำหอมสังสารวัฏ แต่พอออกจากตำหนักของฮองเฮากลับไม่ได้ออกจากวัง ยังมีกงกงใหญ่ข้างกายฮ่องเต้เรียกไปพบอีก ฮ่องเต้อยากรู้ว่ามู่หวั่นชิวเป็นศิษย์ของอาจารย์เว่ยหรือไม่ ตอนนี้อาจารย์เว่ยอยู่ที่ไหน เมื่อมู่หวั่นชิวตอบไปทั้งหมด ฮ่องเต้ถามว่าอาจารย์เว่ยได้ทิ้งอะไรไว้ให้หรือไม่ สุดท้ายมูหวั่นชิวเอาไข่มุกราตรีออกมาให้ฝ่าบาท ฝ่าบาทให้ขออะไรก็ได้ มู่หวั่นชิวเลยบอกความจริงที่ตนเป็นบุตรสาวอัครเสนาบดี ขอฮ่องเต้ล้างมลทินให้ท่านพ่อด้วย มู่หวั่นชิวเกือบตายแล้วแต่ดีที่ยังมี่คำสัญญาของฮ่องเต้อยู่
พอออกมาจากวังหลวงได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้หลีจวินฟัง ครั้งนี้นางก่อเรื่องใหญ่แล้ว ต้องให้รัชทายาทผู้มีส่วนเกี่ยวข้องลบล้างข้อฝันใจของฝ่าบาทให้ได้ สุดท้ายด้วยแผนของหลีจวินทำให้ทุกอย่างคลี่คลาย มู่หวั่นชิวได้ล้างมลทินให้อัครเสนาบดีมู่ ฮ่องเต่รับเป็นน้องสาวเพราะมีศักดิ์เป็นศิษย์น้องแต่เรื่องนี้บอกใครไม่ได้ เลยตั้งมู่หวั่นชิวเป็นองค์หญิงเฮ่าเยวี่ย
เรื่องนี้รู้ไปถึงเมืองชายแดนที่หลิ่วอู่เต๋อ หลิ่วเฟิ่งหลบหนีอยู่ทำให้หลิ่งเฟิ่งแค้นมู่หวั่นชิวยิ่งนัก ขอร้องให้หลิ่วอู่เต๋อวางแผนเล่นงานมู่หวั่นชิว
มู่หวั่นชิวจะไปเซ่นไหว้ท่านพ่อ ท่านแม่ที่เขาลั่วรื่อ หลีจวินก็กลัวเหตุร้ายเกิดขึ้นกับมู่หวั่นชิว เพราะว่าอิงอ๋องกับหลิ่วอู่เต๋อล้วนหลบหนีอยู่ภายนอก ระหว่างทางได้รับข่าวแจ้งจากองค์รัชทายาทว่าพบอิงอ๋องแถวตำบลฉี่หลิง หลีจวินจึงแยกตัวไปวางแผนรับมือกับรัชทายาท มู่หวั่นชิวไปเซ่นไหว้คนเดียวพร้อมองครักษ์คุ้มกัน แต่ยังถูกจับตัวไปเพราะคนร้ายหลบซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน ปรากฏว่าพวกที่จับตัวไปคือนินจาตงอิ๋งที่ได้รับการไหว้วานจากหลิ่วอู่เต๋อ หลีจวินตามหาตัวมู่หวั่นชิวอย่างเร่งด่วน ให้องค์รัชทายาทบอกฝ่าบาทให้ตั้งรางวัล ปิดด่าน แต่ยังใช้เวลานานถึงครึ่งเดือน ระหว่างนั้นมู่หวั่นชิวถูกวางยาตลอดทำให้มีสภาพครึ่งหลับครึงตื่นพอจะรู้สึกตัวก็แอบโปรยเม็ดถั่วแดงออกมา นั่นคือเบาะแสที่หลีจวินเจอ จากการที่สืบหาอย่างหนักทำให้หลีจวินรู้ว่าคนร้ายคือหลิ่วอู่เต๋อ หลังจากจับพ่อบ้านหรงซินได้แล้วถามได้ความลับที่รู้ทั้งหมด หลีจวินก็ทำลายกิจการลับของหลิ่วอู่เต๋อสามสิบกว่าแห่งในคืนเดียว แต่หลิ่วอู่เต๋อก็ยังรู้ตัวหนีรอดไปได้ก่อนคนของหลีจวินจะมาถึงตัว ส่วนมู่หวั่นชิวก็โดนส่งมอบให้หลิ่วเฟิ่งที่ออกมารับพร้อมบอกว่ามู่หวั่นชิวไม่สามารถดมกลิ่นได้แล้ว และกำลังจะให้นางตายทั้งเป็น หลีจวินก็มาช่วยได้พอดี และจัดการหลิ่วเฟิ่งอย่างโหดเหี้ยมแทนเพื่อระบายความโกรธ
พอมู่หวั่นชิวฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองไม่สามารถดมกลิ่นได้ และยังไม่รู้รสชาติอีกด้วย หมอเทวดาก็รักษาไม่หายบอกว่าถูกพิษของตงอิ๋ง ตอนนี้นางจึงอยู่อย่างไม่มีชีวิตจิตใจ หลีจวินทำยังไงก็ทำให้เบิกบานใจเหมือนเก่าไม่ได้ จนวันหนึ่งนางเดินออกไปจากบ้านไปจนเห็นขบวนนักโทษที่มีหลิ่วอู่เต๋อ หลิ่วเฟิ่ง และยังมีจั่วเฟิง ก็ไม่ทำให้นางรู้สึกอะไรได้ จนเดินไปถึงทุ่งนอกเมืองมีดอกไม้มากมาย ตอนแรกจะฆ่าตัวตายแต่เปลี่ยนใจเพราะยังคิดถึงหลีจวินจะรอจนหลีจวินเบื่อแล้วค่อยตายก็ได้ พอนอนในทุ่งดอกไม้นางก็ได้กลิ่นดอกไม้ในความทรงจำ เกิดเป็นแรงบันดาลใจอีกครั้งจึงวิ่งกลับคฤหาสน์มาลองปรุงเครื่องหอมตามกลิ่นที่จำได้ ใช้ความรู้สึกปรุงออกมา ในที่สุดนางก็ทำได้สำเร็จนี่ก็คือการเป็นปรมาจารย์อย่างแท้จริงตามคำของปรมาจารย์เว่ย ในที่สุดนางก็ได้มาในขณะที่สูญเสียทุกอย่างไป กำลังดีใจจะไปบอกหลีจวินก็ถูกจูชุนคนของอิงอ๋องมาบังคับจับตัวไปโดยแลกเปลี่ยนกับชีวิตคนในคฤหาสน์ตระกูลไป๋ทั้งหมด
อิงอ๋องจับมู่หวั่นชิวมาเพราะอยากให้มู่หวั่นชิวพาไปหาที่ซ่อนของวิเศษที่ปรมาจารย์เว่ยเก็บไว้โดยไม่รู้ว่ามู่หวั่นชิวได้คือให้ฮ่องเต้ไปแล้ว อิงอ๋องกำลังหลบหนีได้พาซื่อจื่อมาด้วยแอบอยู่ในรถม้าตลอดไม่เคยออกมาที่แท้คือหร่วนอวี้ที่หายไปปลอมตัวแปลงโฉมนั่นเอง คนจำหร่วนอวี้ได้มากเกินไปจึงต้องหลบซ่อนตัวในรถม้าตลอดเวลา ตอนนี้ออกมาเสนออิงอ๋องว่าจะเป็นคนล่อคนไปทางถนนใหญ่แต่อิงอ๋องไม่ไว้ใจเพราะหร่วนอวี้เคยมีเรื่องกับหลีจวินเพราะมู่หวั่นชิวจึง เอาตัวหร่วนอวี้ไปด้วย เข้าไปทางสายเล็กขึ้นเขาไปถึงทุ่งดอกไม้ก็รู้ว่ามาถึงทางตัน พอรู้ตัวจะหันหลังกลับก็พบว่าหลีจวินนำองครักษ์จำนวนมากมาปิดล้อมทางหนีแล้ว อิงอ๋องตอนแรกคิดจะใช้มู่หวั่นชิวต่อรองแต่คิดได้ว่านางเป็นคนไร้ประโยชน์ และหลีจวินก็ทำเป็นไม่สนใจก็เลยจะไม่สนใจมู่หวั่นชิว แต่คนข้างกายอิงอ๋องกลับไม่หลงกลหลีจวินใช้มู่หวั่นชิวเป็นเหยื่อบังคับให้หลีจวินเปิดทาง อิงอ๋องให้หลีจวินทำลายวรยุทธ์ หร่วนอวี้เป็นคนเสนอตัว สุดท้ายหลีจวินถูกซัดตกหน้าผา เวลานั้นมู่หวั่นชิวเสียใจจนจะตามไปด้วย อิงอ๋องก็ลอบปามีดสั้นมาสังหารหร่วนอวี้เห็นอย่างนั้นเลยใช้ตัวบังไว้แล้วปามีดสั้นออกไปสังหารอิงอ๋อง หร่วนอวี้พูดเป็นครั้งสุดท้ายขอให้มู่หวั่นชิวอภัยให้ตน
มู่หวั่นชิวเสียใจที่หลีจวินตายแต่กลับไม่มีน้ำตาวันนี้แต่งชุดแดงและเตรียมของเซ่นไหว้ไปที่เขาฉี่หลิง มู่หวั่นชิวในที่สุดก็รู้ตัวว่าโลกนี้ไร้กลิ่นและไร้รสได้ แต่ถ้าขาดหลีจวินนางก็ไม่ขออยู่ในโลกนี้อีกแล้ว คิดว่าไปเซ่นไหว้แล้วจะฆ่าตัวตายตาม สุดท้ายตอนจะฆ่าตัวตายก็พบว่าคนที่ตนคุยด้วยคือหลีจวิน นางดีใจมาก แต่ยังไม่คลายใจมีเพียงการได้ร่วมรักกันเท่านั้นที่จะทำให้รู้ถึงการมีอยู่จริง หลีจวินพยายามบอกว่ารอเข้าหอก่อน แต่มู่หวั่นชิวก็ใจร้อนในที่สุดหลีจวินก็ทนไม่ไหว จากนั้นพอพูดคุยกันถึงรู้ว่าวันนั้นเป็นหร่วนอวี้ส่งข่าวประสานในนอกจึงมาดักอิงอ๋องได้อย่างรวดเร็ว และหร่วนอวี้ช่วยตนไว้ ไม่ได้ถูกทำลายวรยุทธ์ไปจริงๆ คิดถึงเรื่องเหล่านี้ก็ต้องรอให้ความแค้นของมู่หวั่นชิวค่อยๆสลายไปเอง และยังบอกว่าเจ้ากินเสร็จเช็ดสะอาดแล้วจะไม่ยอมรับไม่ได้ คือกลัวนางจะไม่แต่งงานสุดๆ และบอกว่าพิษของนางมีทางรักษาหายส่งคนไปหายาแก้พิษอยู่ แต่นางก็คิดได้แล้วว่าถ้าถอนพิษไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ไม่มีท่านอยู่ไม่ได้ ในชาตินี้มีท่านอยู่ช่างดีเหลือเกิน  ตอนพิเศษก็น่ารักมากแสดงออกถึงความรักของมู่หวั่นชิวที่มีต่อเครื่องหอม และหลีจวินที่รักนางมาก ขนาดมีลูกแล้วก็ยังแย่งมู่หวั่นชิวกับลูกชายอีก มันเป็นอย่างนี้แหละนะ เด็กๆต้องโดนท่านพ่อรังแก น่ารักจริงๆ

หลังอ่านเล่มเจ็ด :
เรื่องราวทุกอย่างมาถึงบทสรุปสุดท้าย มู่หวั่นชิวจะสามารถล้างมลทินให้อัครเสนาบดีมู่ได้หรือไม่ และคนที่แค้นมู่หวั่นชิวที่ทำลายแผนการทั้งหลายจะเป็นยังไงในบทสรุป ทั้งอิงอ๋องที่แค้นมู่หวั่นชิว ทั้งหลิ่วเฟิ่ง หลิ่วอู่เต๋อ แล้วยังเรื่องความรักของมู่หวั่นชิวกับหลีจวินจะเป็นยังไงได้แต่งงานกันอย่างที่หลีจวินตั้งใจ หรือไม่ต้องอ่านถึงหน้าสุดท้ายจะได้รู้บทสรุปเรื่องราวของปรมาจารย์นักปรุงเครื่องหอมคนนี้จริงๆ



หลังอ่าน :
มีสปอยล์เนื้อเรื่อง
.
.
.
#มูหวั่นชิว นางเอกของเรื่อง ชาติก่อนนางถูกขายไปเป็นนางโลมในหอนางโลม แต่รักชายคนหนึ่งอย่างแท้จริง สุดท้ายกลับต้องตายเพราะทุกอย่างเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งสิ้น ชาตินี้ฟื้ขึ้นมาสิ่งแรกที่คิดได้คือนางต้องหนีชะตากรรมการถูกขายเป็นหญิงคณิกาให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก
#หลีจวิน คุณชายใหญ่ตระกูลหลี เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของแคว้นต้าโจว บุคลิกสง่าราวเทพเซียน เจ้าเล่ห์ เจ้าแผนการ วรยุทธ์สูงส่ง
#หร่วนอวี้ ผู้บัญชาการกองม้าศึก เป็นคนที่มู่หวั่นชิวรักมากในชาติก่อน ชาตินี้จึงเกลียดมาก ทำทุกอย่างเพื่อทำลายแผนการของหร่วนอวี้ เพื่อแก้แค้นที่ชาติก่อนกระทำเรื่องเลวร้ายกับนางไว้มากมาย
#หลิ่วเฟิ่ง คุณหนูใหญ่ตระกูลหลิ่ว ตระกูลหลิ่วเป็นตระกูลค้าผ้า แต่อยากมาชิงตลาดเครื่องหอมจากตระกูลหลี เป็นคนที่มีความแค้นกับมู่หวั่นชิวในชาติก่อนเหมือนกัน

ทำความเข้าใจเรื่องราวก่อน แคว้นต้าโจวเป็นเมืองแห่งเครื่องหอม ตระกูลใหญ่สี่ตระกูลคือตระกูลหลี ตระกูลเจิง ตระกูลหลิ่ว และตระกูลหวงผู่ ตระกูลหลี ตระกูลเจิงอยู่ฝ่ายองค์รัชทายาทส่วนตระกูลหลิ่วและตระกูลหวงผู่ไปเข้ากับอิงอ๋อง เริ่มเรื่องนางเอกถูกให้ต้องฆ่าตัวตายจากความอัปยศ พอฟื้นขึ้นมานางก็ย้อนเวลากลับมาตอนที่ยังหนีอยู่ในป่า เพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจึงหนีจากบ่าวทรยศ เพื่อหนีจากชะตาชีวิตที่นางไม่อยากเจอที่สุดคือการโดนไปขายที่หอนางโลม ตอนนี้นางยังไม่คิดว่าที่บ่าวทรยศเป็นเพราะความโลภ หรือเพราะวางแผนมา ชาตินี้นางจึงรู้ว่าทุกเรื่องราวที่ท่านพ่อ ท่านแม่เตรียมไว้ให้เป็นเพราะความรักที่มีต่อนาง และสิ่งสำคัญที่สุดคือตำราวิชาปรุงเครื่องหอมตระกูลเว่ยที่อยู่ในห่อผ้า ทุกอย่างละทิ้งได้แต่สิ่งนี้ทิ้งไม่ได้เด็ดขาด นางจึงตั้งใจเป็นนักปรุงเครื่องหอมหลีกหนีจากชะตาในชาติก่อนที่เป็นหญิงคณิกา ตอนที่หนีในป่าได้เจอครอบครัวพรานป่าช่วยเหลือได้รับน้ำใจมา และก็ต้องหนีทหารที่ตามมาอีกครั้งไปเมืองผิงเฉิง ที่นี่นางเข้าเมืองมาอย่างขอทานแต่กลับสามารถเข้าบ่อนพนันและชนะพนันได้เงินจำนวนมาก เพราะนางมีความฉลาดและยอมคืนเงินส่วนหนึ่งให้บ่อนสิ่งเหล่านี้เรียกความสนใจให้กับหลีจวินได้ แต่มู่หว่นชิวกับต้องการพบเจิงฝานซิวที่เป็นสหายของท่านพ่อกลับไม่ได้พบ มู่หวั่นชิวยังได้รับความช่วยเหลือจากหลีจวินอีกจากการบังคับของเจ้าเมืองผิงเฉิงหลีจวินเริ่มสนใจความสามารถ ความฉลาดของมู่หวั่นชิวก่อนแยกจากนางยังบอกว่านางจะเป็นนักปรุงเครื่องหอมอันดับหนึ่ง ระหว่างทางกลับถูกคนปล้นเงินไป จากที่นางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทำให้รู้ว่าตระกูลเจิงจะมีภัยเลยทำการช่วยเหลือเพราะเป็นเรื่องแรกที่นางได้ขัดขวางการทำความชอบของหร่วนอวี้ ไปถึงซั่วหยางมู่หวั่นชิวที่ไม่มีความรู้ด้านการดมกลิ่นก็ต้องถูกคนทั้งเมืองดูถูกนางก็ยังได้พบคนที่ให้การช่วยเหลือในยามที่ลำบาก ฝึกหัดดมกลิ่น ฝึกจากไม่มีอะไรเลย ช่วงชีวิตที่เมืองซั่วหยางเป็นช่วงชีวิตที่ลำบากที่สุด ต้องฝ่าฟันไปที่ละขั้นด้วยตนเอง จนตอนที่ได้มาเมืองต้าเยี่ยเมืองที่มีความเกี่ยวข้องกับนางใจชาติก่อนที่สุด มาอยู่ที่ตระกูลหลีนางก็ทำเป็นคนโง่ไม่สนใจคอยอยู่แต่ฝ่ายวัตถุดิบแต่ก็ทำให้นางได้เรียนรู้มากขึ้นกว่าเดิม หลีจวินค่อยๆเห็นความสามารถด้านการปรุงเครื่องหอมของมู่หวั่นชิว จะคอยสังเกต ตอนแรกคิดว่านางจะจับตนพอนางสาบานว่าจะไม่แต่งงานก็รู้สึกผิดหวัง คือพระเอกสนใจนางเอกแต่ยังไม่เข้าใจตัวเอง 
หร่วนอวี้พอมู่หวั่นชิวเจอครั้งแรกก็ได้รับรังสีความแค้นล้นฟ้า แถมมู่จงที่เป็นคนสนิทก็มาหายตัวไปที่แท้ก็ถูกมู่หวั่นชิวจัดการและรู้ว่าที่แท้หร่วนอวี้มีความแค้นต่อตระกูลมู่ แต่นางก็ยังแค้นที่เขาฆ่าล้างตระกูลแล้วยังส่งนางไปเป็นหญิงคณิกา และหลอกใช้นางเหมือนหญิงโง่ ร่วมมือกับหลิ่วเฟิ่งอีก แต่หร่วนอวี้ตอนแรกมีความสงสัยต่อการตายของมู่จงแต่เพราะพิสูจน์แล้ว และเห็นว่ามู่หวั่นชิวเดินหมากเก่งก็ติดใจการเดินหมากของนาง จะพยายามมาพัวพันเสมอ ตอนแรกคิดว่าตนติดใจการเดินหมากแต่ไปๆมาๆมันไม่ใช่กลับหลงรักนางจริงๆ ตอนนี้เลยมีเรื่องกับหลีจวินเพราะมู่หวั่นชิวตลอด และหร่วนอวี้ก็แพ้ความฉลาดเจ้าแผนการของหลีจวินจัดการตระกูลหลีไม่เคยสำเร็จเพราะมีมู่หวั่นชิวคอยช่วยอยู่ข้างๆ การแก้แค้น การวางแผนชิงอำนาจดำเนินไปพร้อมกัน มาดูความสามารถของหลีจวินและมู่หวั่นชิวว่าจะสามารถผ่านด่านตระกูลล่มสลายหลายครั้งได้ยังไง และที่สำคัญนักเขียนยังมีการเฉลยที่มาของปรมาจารย์เว่ยทำให้มู่หวั่นชิวกับหลีจวินรู้ว่าเป็นใครมาจากไหนและวิธีการทำเครื่องหอมมากมายที่ต่างจากคนอื่นมีที่มายังไง คือยังไม่ทิ้งสไตล์ทะลุมิติทำให้ตัวละครในเรื่องมีเทคนิคล้ำหน้ากว่าสมัยโบราณอีกเหมือนเดิม และสุดท้ายยังได้เฉลยปมของหร่วนอวี้ว่าที่จริงแล้วก็เป็นคนดีเหมือนกัน เหมือนในชาตินี้มีชดใช้ให้นางเอกโดยเฉพาะจากที่ทำเลวร้ายไว้มากมายในชาติก่อน สรุปเนื้อเนื้อนางเอกที่เดิมไม่มีความสามารถในการปรุงเครื่องหอมเลยต้องเริ่มต้นตั้งแต่หนึ่ง ใช้ความสามารถและพรสวรรค์ของตัวเอง บวกกับความทรงจำในชาติก่อนทำให้ขัดขวางแผนการต่างๆ และช่วยเหลือพระเอกได้หลายครั้ง จากที่คิดว่าจะไม่มีความรักในชาตินี้ก็ต้องแพ้กับความรักของพระเอกที่ทุ่มเทให้ทุกอย่าง จบเรื่องได้ดี มีความขำกับความคิดของพระเอกที่จะต้องรักษาตัวเพราะนางเอกเข้ามาพัวพันเรื่อยๆเพราะอยากได้ลูก แต่ไม่ยอมแต่งงาน สุดท้ายเรื่องราวจะจบยังไงต้องตามอ่านการชิงไหวชิงพริบทางการค้า และกลการเมือง กับการเป็นสุดยอดนักปรุงเครื่องหอม ที่เอามาผนวกกันได้อย่างสนุกทีเดียว ทั้งเจ็ดเล่มมีหลายอารมณ์มากทั้งมีความสุข ความรัก เศร้า ต่อสู้ดิ้นรน การพลัดพราก การชิงไหวชิงพริบ ที่สำคัญความรักที่พระเอกมีให้นางเอกนี่สุดๆไปเลย